Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
ผู้สร้าง Final Fantasy บอก "ผมเกลียดเกม��าคต่อ"
pretend at 2015-03-05 16:34:14 , Reads (1690), Comments (16) , Source :


บางคนอาจสงสัยว่าทำไมเกม Final Fantasy ทุกภาค สมัยยังอยู่ภายใต้บังเหียนของคุณ Hironobu Sakaguchi นั้น จะเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องจบในตัวไม่มีเก็บเนื้อเรื่องไว้ทำภาคย่อย ภาคต่อเลย  บัดนี้ปริศนานี้ได้ไขกระจ่างแล้ว

"ผมไม่ชอบภาคต่อ ... ผมเกลียดมัน"  คุณ Sakaguchi ให้สัมภาษณ์กับ IGN ในงานรับรางวัล Lifetime Achievement Award ที่ San Francisco

สำหรับสาเหตุที่เขาเกลียดนั้นก็เพราะคุณ Sakaguchi เชื่อมั่นว่าการทำเกมขึ้นมาเกมหนึ่งนั้นควรจะให้ประสบการณ์เต็มรูปแบบแก่ผู้เล่น ดังนั้นแล้วมันจึงกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมเกม Final Fantasy ในสมัยที่เขายังคุมอยู่นั้นถึงมีเนื้อเรื่องใหม่  ตัวละครใหม่ และมีระบบการเล่นที่แตกต่างกันไปนั่นเอง   ซึ่งจนถึงบัดนี้คุณ Sakaguchi ก็ยังเชื่อเช่นนี้อยู่ และทีมงานของเขาที่บริษัท Mistwalker ก็ยังเชื่อมั่นแบบนั้นเช่นกัน

"เรายึดมั่นว่าทุกๆเกมที่เราสร้าง เราจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด และเวลาที่เราพัฒนาเกมนั้นจบแล้ว จะต้องไม่มีสิ่งใดค้างคาอยู่อีก"

อนึ่งหลังจากคุณ Sakaguchi ออกจาก Square Enix ในปี 2000  ก็มีเกม Final Fantasy ภาคต่อ ภาคแยกเกิดขึ้นออกมามากมาย  อาทิเช่น  Final Fantasy X-2, Final Fantasy XII: Revenant Wings, Final Fantasy XIII-2 และ Final Fantasy XIII-3    ซึ่งถึงแม้ว่า Final Fantasy XIII-3 จะมีเสียงวิจารณ์หลากหลาย  แต่เกมภาคนี้ก็ยังสามารถขายได้มากกว่า 1 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก



(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
4 more comments >>
XIII-3 มันไม่ใช่ FF แล้ว เดินเศวสกันเบื่อเลย -*-
สมัยก่อนน่าจะทำได้

แต่สมัยนี้กว่าจะสร้างทุกอย่างในเกมขึ้นมาได้ ทั้งฉากเอยอะไรเอย

สร้างหนึ่งครั้งจะให้ทิ้งไปเลยก็ยังไงอยู่นะ

มันคงไม่คุ้มที่จะขายครั้งเดียวรึเปล่า
เหมือนแขวะเหลี่ยมสมัยนี้เลย ทำภาคแยกย่อยเพียบไปหมด
แต่บลูดราก้อนของเฮียก็เห็นมีหลายภาคอยู่นะครับ แต่ผมไม่เคยเล่นเลยไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องมันต่อกันหรือเปล่า
มาริโอในยุคอดีต แต่ละภาคจะมีเกมเพลยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนะ Ninสร้างเกมใหม่ขึ้นมาหากินไต้ตัวละครมาริโอเท่านั้น
พอขึ้นภาคใหม่ก็ต้องฝึกพื้นฐานกันใหม่เลยทั้ง1 อะละดิน 3 world Land Yoshi 64 sunshine mantion galaxy 3d

พึ่งจะมาภาคต่อซ้ำซากเอาตอนเครื่องwiiนี่แหละ
ภาคต่อ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง 1 2 3 4 5 แต่น่าจะหมายถึง เกมมันควรจะจบเรื่องราวภายในตัวของมันโดยไม่จำเป็นต้องไปต่อในภาคอื่นๆมากกว่า

ไม่งั้น เฮีย FF 1 2 3 4 บลาๆ คือไม่มีหรอกถ้าหมายถึงภาคต่อแบบนั้น

"เรายึดมั่นว่าทุกๆเกมที่เราสร้าง เราจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด และเวลาที่เราพัฒนาเกมนั้นจบแล้ว จะต้องไม่มีสิ่งใดค้างคาอยู่อีก"
Like : npanda
ตอกหน้า 2เกลอเต็มๆ 555
ไม่อ่ะ มันอยู่ที่เนื้อเรื่องว่าจะให้เดินไปทางไหนได้บ้างมากกว่า จะมองว่าภาคต่อคือการเอาของเก่ามาหากินตลอดก็คงเป็นอะไรที่มองมุมโคตรแคบ FF13 เกมเพลย์มันสนุก เพียงแต่การดำเนินเนื้อเรื่องการนำเสนอมันไม่เป็น RPG FF13-2 ผมถือว่าเป็นการต่อยอดเอาระบบเดิมมา Adap และใส่ความเป็น RPG เข้าไปมากขึ้นในเนื้อเรื่องก็ถือว่าสอบผ่านสำหรับผม แต่ด้านเนื้อเรื่องออกก จะงง อย่างไรก็แล้วแต่จะนำเสนอ LR ก็เปลี่ยนเป็นอีกเกมไปเลย เอาระบบเดิมมาเชื่อมโยงต่อเนื้อเรื่อง สำหรับผมมันเหมือนเป็นเกมใหม่อีกเกมไปเลยมากกว่า ซึ่งต้องบอกว่าผมว่า ทั้ง 3 ภาคออกแบบระบบเกมมาได้สนุก เนื้อเรื่อง FF13 จบในตัวครับ ใครไม่อยากสานต่อก็หยุดแค่นี้ 13-2 อันนี้จบแล้วคัน คันสุดๆ LR จบแล้วก็ต้องบอกว่า อืมมมม คุณต้องคิดในแบบมุมมองที่เกมนำเสนอมันก็จบได้ดี

ส่วนเกมลุงที่ออกมา 2-3 เกมก็ขอบอกว่าระบบ อนุรักษณ์ นิยม โคตรๆ Blue Dragon Lost Odessy เลือกคำสั่งตีๆ เนื้อเรื่องเนิบๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนจะว่าเป็นผลงานที่ดีกว่า 3 เกมภาคต่อข้างบน มันก็กะไรอยู่
ด่า 13 เต็มๆ 13-2 13-3
การวางแผนเกมว่ามันควรจะจบในภาคๆ นั้น ไม่มีภาคแยกย่อย (พวกภาคหลัก 1, 2, 3... ไม่ใช่ภาค 1-2, 1-3 อะไรแบบนี้นะ)
คือการทำสเกลงานให้จบทั้งเนื้องหา เนื้อเรื่อง รายละเอียดต่างๆ และกำหนดอารมณ์คนเล่นได้ดีกว่า ไม่ปิดเหตุการณ์แบบค้างคาใจโดยไร้เหตุผล ข้อนี้เห็นด้วยกะเฮียนะ

ส่วนเฮียอ่ะ จริงๆ เก๋านะ แต่เก๋าลำพังไม่ได้ เฮียต้องคุมงานอย่างแท้จริง ทำงานกับบริษัทใหญ่ ที่มีทีมงานมีไอเดียและความสามารถเฉพาะด้าน เข้าประชุม ปรับรูปแบบทิศทางให้เกมส์ มันลึก มันถึง แบบที่เฮียดึง ไฟนอล ให้เกิดๆๆๆๆๆ มาในหลายๆ ภาค วงการเกมมันผันตัวไปกะเทคโนโลยี เฮียอาจเก่งเรื่อง concept, imagination ไปด้าน แต่ด้านอื่นๆ เฮียก็ต้องมีคนมาซัพพอร์ท

เป็นนักรบ ต้องมีไวท์เมจ เป็นโจร ก็ต้องมีแท้งก์ เป็นแท้งเป้นโจร ก็ต้องมีบัฟ

แต่นี่เฮียคุมงานเอง ลงรายละเอียดเอง ยิ่งถ้าเวลากะบัดเจ้ดจำกัด งานก็จะไม่พ้นลูปอะไรเดิมๆ เหมือนแค่เจอเพชรแล้วเอามาใส่แหวน มากกว่า ดึงเพชรมาเจียระไนให้โดดเด่น

ทำงานกะบริษัทใหญ่ก็ยาก อุดมการณ์เราแรง แต่ผู้ถือหุ้นไม่ปลื้ม ยิ่งเป้าสูง ยิ่งต้องแข่งกะเลขในบัญชี

นี่หมายถึงตา ชินจิ ด้วยนะ
View all 1 comments >
มีคนแบบนี้บ้างอะดีแล้ว คนเราควรมีหน้าที่ของตัวเอง
ถ้าไม่สนใจอะไร ก็แค่ทำเกมตามตลาด ทุนนิยมเข้าว่า

ซากากูจิ อาจจะเบื่อการทำเกมแล้วก้อได้ ทำเกมยุคก่อนกับทำยุคนี้มันสนองนี้ดส์ต่างกัน
ยุคบุกเบิกคือการท้ายทายเทคโนโลยี และจินตนาการ

ยุคนี้คือท้าทายทุนนิยม ฟีลลิ่งและวิธีการคิดไม่เหมือนกัน

ซากากูจิน่าจะหยุดตัวเองไว้ที่ยุคสมัยของเค้า ที่ทำๆเกมทุกวันนี้ก้อทำแก้เซ็งไปอย่างนั้นละมั้ง คงไม่กลับมาผงาดได้อีกแล้ว