Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : Hacksaw Ridge (ความเชื่อของคุณแน่วแน่ขนาดไหน)

Reply
Vote
# Fri 10 Feb 2017 : 8:05AM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review : Hacksaw Ridge (ความเชื่อของคุณแน่วแน่ขนาดไหน)

ผู้กำกับ : Mel Gibson (Braveheart, The Passion of the Christ, Apocalypto)

ผลงานการกลับมากำกับของ Mel Gibson ที่หายไป 10 ปีเลยทีเดียวตั้งแต่ Apocalypto ที่หายไปนี้ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะพายุดราม่าที่รายล้อมตัวเขาเองด้วย แต่หายไปนานแล้วก็ใช่ว่าจะฟอร์มตกครับ เขายังคงพิสูจน์ตัวเองได้ว่ายังคงเป็นผู้กำกับมากความสามารถ ไม่ว่าความเชื่อส่วนตัวจะเป็นอย่างไรก็ตาม กับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา Hacksaw Ridge ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 รางวัลครับ



Hacksaw Ridge สร้างจากเรื่องจริงของ Desmond Doss (Andrew Garfield) หนุ่มที่โตมาในครอบครัวที่เคร่งศาสนา แต่เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้น เขาก็รู้สึกว่าจะปล่อยให้ชายหนุ่มคนอื่นๆรอบตัวเขาไปสู้เสี่ยงชีวิตแล้วตัวเขาเองปลอดภัยอยู่ในแนวหลังไม่ได้ Doss จึงตัดสินใจสมัครเป็นทหาร แต่คนเคร่งศาสนาอย่างเขาก็ได้ตั้งใจไว้ว่า เขาจะทำหน้าที่เป็นแพทย์สนามเท่านั้น และปฏิเสธที่จะจับปืนหรือสังหารฆ่าศึกเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งทำให้เขาถูกเหล่าครูฝึกและเพื่อนๆทหารเกลียดขี้หน้าเป็นอย่างมาก แต่ในสนามรบ Hacksaw Ridge Doss ก็ได้พิสูจน์ให้เห็น ว่าถึงจะไม่สังหารศัตรูเลย เขาก็เป็นทหารที่ยิ่งใหญ่ได้ครับ



ผมชอบ Hacksaw Ridge มากกว่าที่คิดไว้มากเลย เพราะดูจากเทรลเลอร์แรกๆรู้สึกว่าประเด็นของหนังมันแปลกๆ และจากตัว Mel Gibson เองก็น่าจะทำหนังที่ค่อนข้าง Conservative พอสมควร แต่ป๋า Mel ก็ไม่ทิ้งลายนักทำหนังมือดีจับประเด็นประมาณนี้มาเล่าในมุมที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อนซึ่งเปิดโลกมากๆสำหรับผม หนังพูดถึงคนที่ศรัทธาในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแรงกล้า ซึ่งในสังคมยุคใหม่อาจมองคนพวกนี้ในแง่ลบ เป็นตัวประหลาดได้ แต่หากเขามีจิตใจที่ดี มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ ก็สามารถทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ หนังยังเป็นหนังสงครามที่ดูสนุกมีฉากดีๆหลายฉากอีกด้วย ฉากศาลทหารนี่ผมชอบมาก และมีฉากรบที่ขอบอกเลยว่าได้ทั้งความมันส์และสามารถแสดงความโหดร้ายของสงครามได้เป็นอย่างดี ซึ่งฉากรบนี้ผมว่าอาจทำได้เทียบเท่างานคลาสสิคอย่าง Saving Private Ryan เลยครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบของหนังคือการบิวต์อารมณ์ ที่ถึงจะไม่ใช่อารมณ์เศร้าซึ้งแต่การแสดงความมุ่งมั่นและกล้าหาญของพระเอกก็ทำออกมาได้ดีมากจนบางฉากนี่ขนลุกและน้ำตาซึมโดยไม่รู้ตัวได้เลยครับ หากจะหาข้อตินั้น คงเป็นช่วงต้นของหนังที่จะออกตามสูตรหนังชีวประวัติไปสักนิด และตัวละครหญิงที่ค่อนข้างอ่อนมากถึงมากที่สุดครับ



งานภาพนั้นช่วงแรกๆยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอฉากสงครามนี่ดีมากเลยครับ การเคลื่อนกล้องสุดยอดมากๆแสดงความโหดร้ายของสงครามได้ดีจริงๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหนังก็มี Gore และฉากความรุนแรงแบบจะๆเยอะมาก คนขวัญอ่อนและเด็กๆแนะนำให้หลีกเลี่ยงครับ มาดูการแสดงกันบ้าง Andrew Garfield เล่นดีทีเดียว สีหน้าอารมณ์ผ่านหมด สำเนียงก็ทำซะเหมือนตัวจริงเลย อีกคนที่ชอบคือ Hugo Weaving ในบทพ่อพระเอก ที่ถึงจะดูเล่นใหญ่นิดๆแต่บางซีนมันก็ควรจะต้องเบอร์นี้แหละถึงจะเอาอยู่ และสามารถถ่ายทอดปัญหาของทหารผ่านศึกได้ดีมากๆครับ (เสียดายที่แกออกน้อยหน่อย)

สรุป : เป็นหนังที่เมสเสจเปิดโลกผมมาก และงานโปรดัคชั่นหนังสงครามทำได้ดีงามมาก คอหนังสงครามและหนังรางวัลห้ามพลาดครับ

คะแนน : 8.6/10 (A+), ชอบครับ

Reply
Vote




1 online users
Logged In :