Review : Aquaman

กำกับ : James Wan (Saw, The Conjuring, Furious 7)



- หนังเรื่องล่าสุดของจักรวาล DC ที่ในที่สุดก็ได้มะเขือสดสักที (ขณะนี้ 70%) แต่กระแสรีวิวในไทยนั้นดีมากๆ 9-10 คะแนนกันเป็นแถว แน่นอนว่าค่อนข้างจะเป็นไฟท์บังคับอยู่แล้วที่ผมจะต้องไปดู

- ซึ่งก็ถือเป็นเซอร์ไพรส์ท้ายปีสำหรับผมจริงๆ คือคิดว่าหนังมันน่าจะสนุกอยู่แล้วละ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ซึ่งเอาจริงๆหนังมันค่อนข้างตามสูตรมากนะครับ การดำเนินเรื่องก็แทบไม่มีชั้นเชิงอะไรเลย เมสเสจของมันก้ Cliche มาก แต่ความสนุกของมันมาจาก

1. การรวมกลิ่นของหนังหลายเรื่องหลาย Genre มาอัดแน่นอยู่ในหนังเรื่องเดียว แล้วก็ทำได้ถึงรสเกือบทุกด้านเสียด้วย มาทั้ง Star Wars, Indiana Jones, Godzilla แม้แต่หนังสยองของถนัดของเจมส์ วานก็ยังแอบมีมานิดๆ แม้กระทั่งบทซึ้งโรแมนติกก็ยังทำได้ถึงอารมณ์เลย ผมนี่แอบน้ำตาคลอกับความรักรุ่นพ่อแม่เหมือนกันนะ

2. ความ Over the Top จัดหนักจัดเต็มของมัน ตอนแรกขึ้นชื่อว่า Aquaman ก็อาจจะคิดกันว่าหนังจะเล่นสเกลไปได้ขนาดไหนกันเชียว แต่โอ้โหพี่เจมส์แกปลดลิมิตเตอร์ทุกอย่าง ฉากสู้ Martial Arts มีเยอะมากๆ 4-5 ฉากแล้วทำได้มันส์แทบทุกฉาก ฉากไล่ล่าพี่ก็จัดลองเทคเลย สัตว์ประหลาดไคจูก็ตัวใหญ่อลังการมากๆแล้วฉากรบก็สเกลใหญ่แบบแทบจะถล่มให้โลกล่มสลายกันไปตรงนั้น ยานรบมาแทบทุกขนาดทุกสเกล สัตว์ขี่ก็มาแทบทุกอย่างทั้งกุ้ง ปู ปลา ม้าน้ำ ขาดอย่างเดียว น้ำจิ้มซีฟู้ด 5555 ความไม่กั๊กนี้เองที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกและตื่นตาตื่นใจไปแทบจะตลอดความยาวของหนัง ที่ถึงจะยาวถึง 2 ชม. ครึ่งก็ไม่รู้สึกว่ายืดเยื้อเกินไปเลย

- แต่แน่นอนว่าหนังไม่ได้ไร้ที่ติ อย่างที่บอกไปว่าหนังดำเนินเรื่องค่อนข้างจะตามสูตรมาก ไม่ได้มีชั้นเชิงอะไรเลย และเมสเสจก็ค่อนข้างเบาบางมาก คนที่ดูหนังแล้วอยากจะได้อะไรขึ้นมาหน่อยมากกว่าความสนุกก็อาจจะไม่ค่อยชอบกัน อีกอย่างที่แอบคิดว่าเป็นจุดอ่อนเล็กๆของหนังคือมุกตลกครับ หนังไม่ได้แห้งแล้งมุกนะ กลับกันนี่เป็นหนังที่เล่นมุกเยอะมากๆ แต่มุกมันเวิร์คแค่ประมาณ 50/50 บางมุกก็เห็นได้ชัดเลยว่าพยายามเกินไป จนมันดู Forced นอกจากจะไม่ตลกแล้วมันยังทำให้เกิดบรรยากาศ Awkward อีกด้วย ทีมบท DC คงจะต้องไปศึกษาจากมาร์เวลหน่อยว่าตลกคาเฟ่เขาเล่นกันอย่างไร (นี่ชมนะ 55) อีกนิดหนึ่งคือเคมีของคู่พระนาง ซึ่งถึงแม้ว่าสุดท้ายมันจะลงตัวในที่สุดด้วยเสน่ห์ของนักแสดง แต่ฉากความสัมพันธ์ของทั้งคู่บางจุดก็รู้สึกว่ามัน Forced ไปนิด

- งานภาพ อันนี้ขอชมเลย นี่เป็นหนึ่งในหนังที่ภาพสวยที่สุดของปีนี้ วิสัยทัศน์ด้านภาพยอดเยี่ยมมากจริงๆ ถึงแม้จะเป็นทะเลลึกแต่ก็สามารถสร้างอาณาจักรแอตแลนติสและฉากการรบที่สีสันสดใสน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ มุมกล้องก็มีทั้งลองเทคที่น่าตื่นตา และการแพนกล้องที่อลังการ เป็นประสพการณืด้านภาพที่ยอดเยี่ยมจริงๆครับ ส่วนดนตรีประกอบ มีเพลงที่คัดเลือกมาหลากหลายแนว บางเพลงก็ขับอารมณ์ได้ดีและไพเราะใช้ได้ แต่บางเพลงก็รู้สึกประหลาดๆนะ 55

- สุดท้ายการแสดง ถึงแม้ว่าจะไม่มีการแสดงอินเนอร์ระดับรางวัลอะไรมากมาย แต่เสน่ห์ของนักแสดงก็ Shine มากๆโดยเฉพาะคู่พระนางที่ตอนนี้เป็นดารายอดนิยมคนใหม่ของโลกโซเชียลไปแล้ว ก็ถือว่าพวกเขาสวมบทเป็นตัวละครที่คนควรจะชื่นชอบได้ดีทีเดียว ที่แอบชอบอีกคือ Willem Dafoe ในบทอาจารย์ฟัลโก้ที่ผมคิดว่ามีเสน่ห์ดี และ Nicole Kidman ที่สวยไม่สร่างจริงๆ (แอบสงสัยว่าฉากบู๊ต่างๆนางเล่นเองหรือไม่เพราะดูคล่องแคล่วมากๆเลย)

- สรุป : หนังดำเนินเรื่องค่อนข้างตามสูตร แต่มีหลายรสชาติมากและทำได้ถึงเครื่องมากๆ ทุกอย่างจัดหนักจัดเต็มแสนจะอลังการซึ่งผมคิดว่าจะให้ความบันเทิงแก่ทุกท่านได้ไม่ยากครับ เป็นหนังฮีโร่ที่ผมคิดว่าดีที่สุดของปีนี้เลย

- เกรด : A