Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
[ไม่ใช่การเมืองไทย] กระทู้ 'การเมือง/ความมั่นคง/เศรษฐกิจ/' ระหว่างประเทศ

Reply
Vote
# Wed 27 Feb 2019 : 3:25AM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5788 post)
ทรัมป์เดินทางถึงกรุงฮานอย เวียดนามปูพรมแดง,จัดทหารกองเกียรติยศต้อนรับ



รอยเตอร์-ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่เวียดนาม หลังเดินทางถึงกรุงฮานอยเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงค่ำวันอังคาร(26ก.พ.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังการมาถึงของ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในขณะที่ทั้งคู่เตรียมประชุมซัมมิตระหว่างกันเป็นครั้งที่ 2

ทางการเวียดนามได้ปูพรมแดงจากบันไดของเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันและทหารกองเกียรติยศตั้งแถวรอต้อนรับ ในขณะที่ ทรัมป์ เดินลงจากบันไดและจับมือกับเหล่าเจ้าหน้าที่เวียดนามที่มารอให้การต้อนรับบริเวณลานบิน

เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันที่นำพาทรัมป์มายังกรุงฮานอย ลงแตะพื้นตอนประมาณ 21.00น.ตามเวลาท้องถิ่น(เวลาเดียวกับไทย) หลังจากขบวนรถไฟกันกระสุนของ คิม มาถึงก่อนหน้านี้แล้ว หลังใช้เวลา 3 วัน ในการเดินทางเป็นระยะทาง 3,000 กิโลเมตร จากกรุงเปียงยาง ผ่านประเทศจีน ก่อนขึ้นรถยนต์ที่สถานีตามแนวชายแดนแห่งหนึ่ง สำหรับมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของเวียดนาม

ผู้นำทั้งสอง มีกำหนดสนทนากันแบบตัวต่อตัวช่วงสั้นๆในช่วงค่ำวันพุธ(27ก.พ.) จากนั้นจะตามด้วยการรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายจะมีแขกรับเชิญและล่ามเข้าร่วมด้วย จากการเปิดเผยของซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว พร้อมระบุว่าพวกเขาจะพบปะกันอีกครั้งในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.)

การพูดคุยกันในครั้งนี้ มีขึ้นตามหลังการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะดำรงตำแหน่งกับผู้นำคนหนึ่งคนใดของเกาหลีเหนือ ในสิงคโปร์ เมื่อ 8 เดือนก่อน

ในขณะที่การประชุมซัมมิตครั้งแรกเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการหันหน้าพูดคุย หลังจากเป็นปรปักษ์กันมานานหลายทศวรรษ แต่คราวนี้จะมีแรงกดดันต่อทั้งสองฝ่ายให้มีความก้าวหน้าเกินกว่าถ้อยคำอันคลุมเครือที่พวกเขาสัญญาเมื่อครั้งประชุมซัมมิตในสิงคโปร์ ว่าจะทำงานเพื่อมุ่งหน้าสู่การปลดนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างสมบูรณ์



ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ในสหรัฐฯ เตือนประธานาธิบดีรายนี้ว่าการยอมอ่อนข้อใดๆคงไม่อาจยับยั้งความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ และต้องเรียกร้องให้เกาหลีเหนือดำเนินการอย่างเฉพาะเจาะจงและตรวจสอบได้ ในการละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ที่เป็นภัยคุกคามต่ออเมริกา

เป็นที่คาดหมายว่า คิม คงคาดหวังว่าสหรัฐฯจะยอมอ่อนข้อต่างๆสำหรับเป็นข้อแลกเปลี่ยน ในนั้นรวมถึงยอมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรและคำประกาศว่าสงครามเกาหลีปี 1950-53 ได้สิ้นสุดลงอย่างเป้นทางการแล้ว



ขบวนรถไฟสีเขียวมะกอกของผู้นำคิม ที่เดินทาง 4,000 กิโลเมตรมาจากกรุงเปียงยางได้ข้ามพรมแดนจีนเข้ามาถึงสถานีด่งดัง (Dong Dang) โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเวียดนามรอให้การต้อนรับ พร้อมด้วยทหารกองเกียรติยศและประชาชนที่เข้าแถวโบกสะบัดธงชาติเกาหลีเหนือและเวียดนาม

ผู้นำเกาหลีเหนือได้โบกมือทักทายคนหนุ่มสาวที่ยืนถือธงชาติอยู่สองข้างทาง จากนั้นจึงขึ้นรถยนต์ลีมูซินออกจากสถานีด่งดังมุ่งหน้าสู่กรุงฮานอยซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 170 กิโลเมตร โดยระหว่างการเดินทางราว 2 ชั่วโมง เขาส่งยิ้มและโบกมือทักทายเด็กๆที่มายืนเรียงแถวรอต้อนรับตามเส้นทางที่ขบวนรถแล่นผ่าน



ทั้งนี้ถนนที่มุ่งหน้าสู่โรงแรมเมเลีย สถานที่พักของผู้นำเกาหลีเหนือ ถูกปิดการเข้าออกโดยกองกำลังความมั่นคงเวียดนาม ที่คอยอารักขาเส้นทางดังกล่าว

ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงฮานอยในวันอังคารเช่นกัน และได้พบปะพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามไปแล้ว

ที่มา: ผู้จัดการ ออนไลน์ [Link]

Reply
Vote




3 online users
Logged In :