วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องใกล้ตัวที่พวกเรามองข้ามกันมานานกับเรื่องของการแข่งขันประเภททีม

โดยปกติแล้วพวกเราชาว FGC จะคุ้นชินกับการแข่งขันแบบ 1 on 1 กันเสียมากกว่าซึ่งก็เป็นรูปแบบมาตรฐานที่เล่นกันมามากกว่า 30 ปี ซึ่งจริงๆมันก็โอเคครับ หากมองจากมาตรฐานเดิมที่เคยเป็นอยู่

แต่หากมองในแง่ของการต่อยอดทางธุรกิจผมคิดว่าการแข่งขันประเภททีมนั้นจะตอบโจทย์ได้มากกว่า ซึ่งคนที่ตื่นตัวในเรื่องนี้ก่อนใครเพือนก็คือ Capcom สังเกตุได้จากการเริ่มต้นโครงการ Street Fighter League ทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา

คือต้องกล่าวอย่างนี้ก่อนครับ ในการแข่งขันเกมต่อสู้ในปัจจุบันนั้นในมุมมองของผมๆยังถือว่าเป็นรูปแบบมือสมัครเล่นอยู่ ถึงแม้ผู้เล่นหลายๆคนนั้นจะมีทีมมีสังกัดแต่จากเท่าที่ทราบมานั้นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการประกันรายได้แต่อย่างใด บางทีมก็ไม่มีเงินเดือนให้ออกให้แต่ค่าเดินทางและค่าพักพอได้เงินรางวัลมาก็มาแบ่งกัน และหลายๆคนพอขาดสปอนเซอร์ก็ไม่สามารถเดินทางไปแข่งขันได้ทำให้อาจจต้องจบอาชีพไปโดยปริยาย ซึ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ผมมองว่าฝั่งนักกีฬานั้นค่อนข้างสุ่มเสียงในอาชีพของตัวเองเป็นอย่างมาก

สิ่งที่จะรับประกันรายได้จริงๆของตัวนักกีฬาคือระบบลีก ที่ถึงแม้จะถูก Buy out ออกจากทีมไปแล้วแต่ก็ยังต้องจ่ายเงินเดือนให้ครบตามสัญญาอยู่ดี รวมทั้งสวัสดิการต่างๆที่ทางทีมจะต้องซัพพอทให้ด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่ถึงคิวที่จะพูดเรื่องที่จะไปให้ถึงจุดๆนั้นได้อย่างไร แต่เงื่อนไขสำคัญของการจะเป็นลีกอาชีพได้ส่วนหนึ่งก็คือการแข่งขันแบบเป็นทีม

องค์กรทุกองค์กรจะอยู่รอดได้ต้องมีกำไร ลีกต้องมีรายได้ ทีมต้องมีรายได้ แล้วตัวนักกีฬาถึงจะมีรายได้ตามมา โดยเฉพาะกิจการเกมกีฬานั้นหากมีการแข่งขันในรูปแบบทีมหรือสโมสรก็ย่อมมีช่องทางธุรกิจมากกว่าการปล่อยให้นักกีฬาบินเดียวออกเก็บแต้มใน Pro Tour หรือ World Tour แน่นอน ซึ่งวิธีการจะหาเงินเข้าสู่ทีมหรือลีกนั้นก็ขึ้นอยู่กับมาเก็ตติ้งขององค์กรนั้นๆครับว่าจะเก่งแค่ไหน ตรงนี้ผมคงตอบแทนใครไม่ได้

แม้ตรงนี้ยังเป็นเรื่องของอนาคต แต่ผมมั่นใจว่าในระยะเวลา 5-10 ปีต่อจากนี้เราจะได้เห็นอะไรๆที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

แต่ปัญหาในเบื้องต้นเวลานี้คือ คนใน FGC นั้นยังไม่ให้ความสนใจกับการแข่งขันประเภททีมมากเท่าที่ควร บางคนมองว่าเป็นแค่การ Exhibition บางคนก็มองว่าการแข่งขันประเภททีมนั้นไม่สนุกเพราะตัวนักกีฬาใช้ความสามารถได้ไม่เต็มที่ ซึ่งตรงนี้เป็นทัศนคติที่ผิด เพราะการแข่งขันไม่ว่าประเภทใดๆก็ตามหากมุ่งหน้าสู่ความเป็นเลิศแล้วย่อมมีความเข้มข้นในตัวของมันเอง(3on3 tgu 2013 พิสูจณ์มาแล้ว)

ถ้าพวกเราเองยังไม่สนใจแล้วใครทึี่ไหนจะมาสนใจ ด่านแรกที่เราต้องทำเลยก็คือการปรับทัศนคติให้ FGC มีความสนใจในการแข่งขันประเภททีมมากขึ้น เพราะในเบื้อต้น FGC ก็ยังคงเป็นรากฐานที่สำคัญอยู่ดี ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องทิ้ง 1 on 1 ที่เป็นรากเดิมของเราทิ้ง เพียงแค่เราเพิ่มรูปแบบทีมเพื่อเป็นการปูทางสำหรับอนาคตปากท้องของวพกเรา หรือเพื่อนๆของพวกเราเท่านั้นเอง ซึ่งตรงนี้พวกเราต้องช่วยกันทำให้เห็นครับว่าสามารถเป็นที่นิยมได้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

สรุปได้ว่าการแข่งขันประเภททีมนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งองค์กรมีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า เมื่อมีรายได้ที่มากขึ้นการบริหารและการจัดการต่างๆก็จะโตตามครับ