Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
คุณแคร์แค่ไหนกับการอุณรักษ์สัตว์ป่า สัตว์สงวน มันมีประโยนช์ต่อมนุษย์ชาติอย่างไร?

Reply
Vote
# Wed 15 Jul 2020 : 9:12AM

100dej
member

Since 22/5/2009
(796 post)
ถ้ายึดตามนิยายวิทยาศาสตร์ ที่มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถทำให้การเดินทางไปทั่วจักรวาลเป็นเรื่องปกติ

สิ่งมีชัวิตอืน ไม่มีความจำเป็นเลยครับ

สุดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์ก็แค่ปัจจัย 4

แต่ที่ยังมีความพยายามอนุรักษ์ ก็ถ้ามีแต่มนุษย์ โลกมันก็คงน่าเบื่อ
View all 6 comments >
Wed 15 Jul 2020 : 3:28PM

Hellblueboy4
member

Since 17/6/2008
(5077 post)
รู้จัก The Great Filter มั้ยครับ

มันคือแนวความคิดที่ว่า ทำไมเราไม่เจอมนุษย์ต่างดาวสักที ไม่ใช่เพราะในจักรวาลไม่มีสิ่งมีชีวิตในดาวอื่นเลย

แต่เป็นเพราะสิ่งชีวิตที่มีสติปัญญาในดาวอื่น ทำลายตัวเองไปก่อนที่จะพัฒนาไปถึงการเดินทางด้วยความเร็วแสงได้

ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์หลายคนเริ่มเชื่อในทฤษฎี The Great Filter นี้ และมองว่า มนุษย์น่าจะทำลายตัวเองด้วยการทำลายธรรมชาติไปก่อนจะถึงขั้นที่คุณว่า

แล้วปัจจัย 4 มาจากอะไร ก็มาจากธรรมชาติทั้งนั้น เอาง่ายๆ แค่อาหาร ถ้าเกิดระบบนิเวศน์พัง สภาพภูมิอากาศเปลี่ยน เท่านี้มนุษย์ก็ผลิตอหารไม่ได้แล้ว ต่อให้มีเทคโนโลยีแค่ใหนก็ช่วยไม่ได้ หรือจะปลูกไฮโดรโพนิกเรือนกระจกให้หมด? ก็สามารถเลี้ยงประชากรโลกได้แค่เสี้ยวเดียว

เครื่องนุ่มห่มกว่าครึ่งได้มาจากสิ่งมีชีวิตอื่น ส่วนพวกวัตถุสังเคราะห์ก็ได้จากน้ำมัน ถ้าหมดโลกไปจะเอาที่ใหนมาใช้

มนุษย์ไม่ได้เก่งกาจไปกว่าธรรมชาติเท่าใดเลย คนส่วนใหญ่ชอบมองว่ามนุษย์อยู่เหนือธรรมชาติ เราไม่ได้อยู่เหนือธรรมชาติ มนุษย์คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ถ้าธรรมชาติตาย มนุษย์ก็ตาย แค่นั้น

แค่อุกาบาตใหญ่ๆ สักก้อนตกลงมา หรือซุเปอร์ภูเขาไฟสักลูกระเบิดจนเถ้าถ่านบังดวงอาทิตย์ทั้งหมด มนุษย์ก็ไม่รอดแล้ว

แค่ดูจาก Covid นี่ก็ได้ นี่ผ่านไปกี่เดือนแล้ว มนุษย์ทำอะไรได้ที่ใหน ยังมัวแต่ทะเลาะกันอยู่เลย แล้วคุณเชื่อหรือว่าถ้าเกิดวิกฤตที่ใหญ่กว่านี้แล้วมนุษยชาติจะรอด?

Thu 16 Jul 2020 : 7:16AM

100dej
member

Since 22/5/2009
(796 post)
ถ้าไปถึงจุดนั้น โลกนี้หมดไป ก็ไปหาที่ดาวดวงอื่น เหมือนทฤษฎีแหล่ะครับ หาไปเรื่อย ๆ จนกว่ามนุษย์จะหาไม่ได้แล้วสูญพันธ์ุ


ปล.แต่คิดว่ามนุษย์เหลือไม่กี่คู่ ไม่กี่พันปีก็ขยายเผ่าพันธุ์ได้เหมือนเดิม เพราะมนุษย์มี sex ด้วยความสนุก ไม่จำเป็นต้องรอรอบการผสมพันธุ์

Thu 16 Jul 2020 : 8:59AM

Hellblueboy4
member

Since 17/6/2008
(5077 post)
100dej wrote:
ถ้าไปถึงจุดนั้น โลกนี้หมดไป ก็ไปหาที่ดาวดวงอื่น เหมือนทฤษฎีแหล่ะครับ หาไปเรื่อย ๆ จนกว่ามนุษย์จะหาไม่ได้แล้วสูญพันธ์ุ


ปล.แต่คิดว่ามนุษย์เหลือไม่กี่คู่ ไม่กี่พันปีก็ขยายเผ่าพันธุ์ได้เหมือนเดิม เพราะมนุษย์มี sex ด้วยความสนุก ไม่จำเป็นต้องรอรอบการผสมพันธุ์


ที่เขากลัวก็คือ ตายกันหมดก่อนที่จะได้ไปถึงดาวดวงใหม่น่ะสิครับ สภาวะโลกร้อนตอนนี้ก็เริ่มรุ้สึกกับผลกระทบแล้ว

แล้วก็เพราะคนหลายคนคิดแบบคุณนั่นแหละ ที่ว่า ธรรมชาติเสียก็เสียไปสิ มนุษย์ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ความคิดแบบนี้เนี่ยแหละถึงทำให้ธรรมชาติเสียไปเรื่อยๆ

แล้วคนที่ได้รับผลกระทบจากธรมชาติมากที่สุดคือคนยากจนน่ันแหละ

คุณอาจคิดว่า โลกร้อนขึ้น? ก็เปิดแอร์สิ ไม่เห็นจะยาก น้ำทะเลสูงขึ้น? ก็อยู่คอนโดสิ ไม่เห็นยาก แต่คนยากจนได้รับผลกระทบพวกนี้หมด

ดูกระทู้นี้แล้วผมตาสว่างเลย ว่าทำไมการเคลื่อนไหวฟื้นฟูธรรมชาติไม่เคยคืบหน้า ดูจากกระทู้นี้ว่ารู้เลยว่าคนปกติส่วนใหญ่คิดว่ามัน "ไกลตัว" หรือไม่ก็คิดว่า "ไม่เห็นเดือดร้อน ธรรมชาติเสียก็เสียไปสิ" มนุษยฺ์เรามีจุดอ่อนคือถ้าไม่เจอกับตัว ก็จะไม่รู้สึก

แล้วคิดหรือว่ามนุษย์จะได้ไปตั้งรกรากที่ดาวอื่นในหลายสิบปีนี้ ในขณะที่ผลกระทบจากโลกร้อน ก็จะเริ่มแรงขึ้นในไม่กี่สิบปีนี้แล้ว

ถึงจะไปตั้งรกรากที่ดาวอื่นได้ คนที่ไปตั้งรกรากคือคนรวยครับ ไม่ใช่คนธรรมดาแบบเราและท่านแน่นอน ต้นทุนในการนำคนหนึ่งคนไปสู่อวกาศนี่มหาศาล ถึึงแม้จะมีความพยายามพัฒนาจนต้นทุนลดแล้ว ก็ยังใช้ต้นทุนเป็นล้านอยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการไปตั้งรกรากที่อื่น

Elon Musk กับเพื่อนอาจได้ไปตั้งรกรากที่ดาวอังคาร ทิ้งคุณกับผมนั่งเผชิญกับภัยพิบัติที่แรงขึ้นทุกวัน

สรุปก็คือ ไอ้ไปตั้งรกรากที่อื่น หรือมีเทคโนโลยีขนาดไม่ต้องพึ่งธรรมชาติ ยังเป็นอนาคตอันไกลโพ้นที่ยังมองไม่เห็น แต่ภัยพิบัติธรรมชาติมันเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่กี่สิบปีนี่แล้ว แล้วคิดหรือว่ามนุษยชาติจะรอดไปจนถึงเทคโนโลยีที่ว่าได้

ต้องขอโทษที่ใช้อารมณ์ ผมทำงานแล้วเห็นตัวเลขต่างๆของสถานการณ์ปัจจุบัน เลยอินเป็นพิเศษกับเรื่องนี้
เวลาไปประชุมต่างประเทศเห็นประเทศหมู่เกาะกำลังจะไม่มีที่อยู่แล้ว เพราะน้ำทะเลสูงขึ้นทุกวัน จนอีกไม่กี่สิบปีจะไม่มีที่อยู่ พยายามเรียกร้องให้ประเทศอื่นช่วยกันลดโลกร้อน แต่ประเทศอื่นทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่สนใจ เพราะมันไม่เกิดกับตัวเอง




Thu 16 Jul 2020 : 9:04AM

100dej
member

Since 22/5/2009
(796 post)
อ่านบรรทัดแรกก่อนนะครับ ความเห็นผมก็หมายถึง ณ ตอนนั้น


ถ้ายึดตามนิยายวิทยาศาสตร์ ที่มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถทำให้การเดินทางไปทั่วจักรวาลเป็นเรื่องปกติ

สิ่งมีชัวิตอืน ไม่มีความจำเป็นเลยครับ

สุดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์ก็แค่ปัจจัย 4

แต่ที่ยังมีความพยายามอนุรักษ์ ก็ถ้ามีแต่มนุษย์ โลกมันก็คงน่าเบื่อ

Thu 16 Jul 2020 : 11:29AM

MansheckSHootter
member

Since 2015-07-11 14:11:20
(1529 post)
ถ้าเราคิดแบบนั้นจริงจัง เราก็กลายเป็นเชื้อโรคน่ารังเกียจเลยนะครับ

ผมเคยคิดเรื่องนี้เล่นๆในใจอยู่ เราเก็บเกี่ยวสวาปามทรัพยากรในโลกจนหมด แล้วก็ไปหาล้างผลาญดาวดวงใหม่ๆเอาก็ได้

แว้บนั้นผมก็นึกขึ้นได้ ไอพฤติกรรมแบบนี้มันเชื้อโรคนี่หว่า แพร่พันธุ์เยอะๆกัดกินสุขภาพและร่างของเหยื่อ

หลังจากนั้นก็ขึ้นยานอวกาศ(ไอ,จาม,ติดมือแล้วเอาไปป้ายโน่นป้ายนี่)ไปหาเหยื่อรายใหม่ แล้วก็ติดลูปแบบเดิมๆซ้ำๆ


Fri 17 Jul 2020 : 9:46AM

100dej
member

Since 22/5/2009
(796 post)
MansheckSHootter wrote:
ถ้าเราคิดแบบนั้นจริงจัง เราก็กลายเป็นเชื้อโรคน่ารังเกียจเลยนะครับ

ผมเคยคิดเรื่องนี้เล่นๆในใจอยู่ เราเก็บเกี่ยวสวาปามทรัพยากรในโลกจนหมด แล้วก็ไปหาล้างผลาญดาวดวงใหม่ๆเอาก็ได้

แว้บนั้นผมก็นึกขึ้นได้ ไอพฤติกรรมแบบนี้มันเชื้อโรคนี่หว่า แพร่พันธุ์เยอะๆกัดกินสุขภาพและร่างของเหยื่อ

หลังจากนั้นก็ขึ้นยานอวกาศ(ไอ,จาม,ติดมือแล้วเอาไปป้ายโน่นป้ายนี่)ไปหาเหยื่อรายใหม่ แล้วก็ติดลูปแบบเดิมๆซ้ำๆ



คงงั้นแหล่ะ แต่ธรรมชาติ สุดท้ายชนะอยู่ดี เพราะอาวุธที่สำคัญที่สุดคือ เวลา
ดาวไหนที่มนุษย์จากไปแล้ว ไม่กี่หมืี่น กี่แสนปี ธรรมชาติก็กลับมาเหมือนเดิมได้ ถ้าแกนกลางยังไม่ตายนะ


Reply
Vote




1 online users
Logged In :