ไม่แนาใจว่าส่วนที่บอกว่า Mulan ได้ 256 ล้านมาจาก Yahoo Finace ลงข่าวหรือเปล่านะครับ ถ้าใช่อันนี้มีข่าวแย้งออกมาแล้วว่า Yahoo คำนวณผิด

[Link]

มันเป็นสัดส่วน คนที่สมัตร user มากขึ้นกว่าปกติครับ คนก็อยากลอง พรีเมี่ยมด้วย + อยากดู mulan ด้วย ผมเห็นข่าวนี้ผม หงุดหงิดมาก เพราะ ถ้าตามนี้ โรงหนังตายครับในอเมริกา เเละ covid น่าจะจบสิ้นปีหน้า

สัดส่วนเพิ่มขึ้นอยู่แล้วครับ แต่ถ้ามองในแง่รายได้ Mulan ทำส่วนนี้ไปแค่ราว ๆ 60 - 90 ล้าน ซึ่งก็ยังไม่คุ้มค่าที่จะมาลงทุนด้านนี้อยู่ดีครับ ในระยะยาวอาจจะได้ แต่อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ แม้ว่ารายได้ที่ว่าจะเข้ากระเป๋าดิสนี่ย์เต็ม ๆ ไม่มีตัด แต่ภาพรวมก็ยังไม่พอที่จะบอกว่า "ไม่เจ๊ง" ได้อยู่ดีครับ

ผมยังคิดว่า net flix เกิดไวเลย ของแบบนี้ตอนแรกเหมือนว่าจะเรื่อยๆ แต่พอผู้บริโภคชิน มันตูมเลยนะ

อย่างพวก internet banking mobilebanking คนบอกว่าไม่ใช้หรอก ใช้ยาก ตอนนี้แทบจะแทนที่งานพื้นฐานหมดแล้ว

ส่วนเรื่องหนังโรง เอาจริงๆที่คนไปดูที่โรงก้อเพราะ อยากดูหนังใหม่ เรื่องจอใหญ่ อาจจะมีส่วน แต่จออะ มันเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน คนที่ไปดูโรงปรกติ หรือ จอเล็กหน่อยก้อแค่เค้าอยากดูหนัง ถ้ามีที่ให้เค้าดูอยู่บ้าน ส่วนตัว กินอะไรก้อได้ ไม่เจอ เสียงถุงขนม คนคุย สปอย ตีนเหม็น ตัวเหม็น ยุกยิก แสงไฟมือถือ ไหนจะต้องไปรอรอบ รอเต็มก้อเลื่อนเวลา เดินทางฝนตก รถติด โรงเต็มนั่งแหงนคอดู

เอาจริงๆ โรงหนัง ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกะคนดูหนังเลย ทั้งเรื่อง ที่นั่งดู การต้องไปอยู่กับคนหมู่มากทั้งๆที่เป็นกิจกรรมที่ต้องการสมาธิ

ดังนั้น นอกจาก จอใหญ่ เสียงดี หนังใหม่ ผมก้อนึกไม่ออกว่ามีอะไรดีอีก

โรงหนังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ค้าหนังเสียมากกว่า

ถ้่า Mulan ยังดึงคนมาดูสตีมมิ่งได้ขนาดนี้

Starwar
Awenger

น่าจะดึงมาได้อีก

ที่คิดว่าโรงหนังถึงจุดจบ หมายถึง โรงตาม ตจว. นอกเมือง ที่ไม่ใช่ landmark ของคนชอบดูหนัง คนจะน้อยลงจนตาย

โรงหนังเลยอาจจะมีแค่ตามในเมืองใหญ่ ไว้สนองๆแฟนๆดูหนังโรงเท่านั้น คือ น่าจะมีการปิดโรงหนังกันเพิ่มเรื่อยๆ ผมเลยว่า มันก้อเหมือนตาย หรือ เรียกว่า บอนไซดี หรือ ที่เค้าว่า ไม่ตายก้อเลี้ยงไม่โต