[Official Thread] PSV/PC Phantasy Star Online 2
<<
<
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
>
>>
Reply
Vote
# Sat 23 Jul 2016 : 9:01PM
ยินด้วยด้วยครับ ก็ว่าอยู่ เห็นลงทุกวันๆ เดาว่าทำออฟส์เทียแหงๆ
ดันนั้นฟอสนี่จุดชี้เป็นชี้ตายเลยคือเชือดอังก้าก่อนดิโอออกมาทันมั้ย ถ้าโผล่มา 2 ตัวเมื่อไหร่ก็บ๊ายบายเลย พอดิโอมันดูดแล้วมิราจหลบไม่ได้สุดท้ายก็โดนบึ้มโกโก้ครันช์
พุธนี่ดูดู๋เฟสติวัล คงทำออฟให้พวกอาวุธ+30up จากยามาโตะไม่กี่อันพอ ศัตรูอ่อนเกินขี้เกียจเปลืองตังทำออฟแล้ว เอาไปซื้อชุด ทรงผม แล้วก็ LA ดีกว่า
ดันนั้นฟอสนี่จุดชี้เป็นชี้ตายเลยคือเชือดอังก้าก่อนดิโอออกมาทันมั้ย ถ้าโผล่มา 2 ตัวเมื่อไหร่ก็บ๊ายบายเลย พอดิโอมันดูดแล้วมิราจหลบไม่ได้สุดท้ายก็โดนบึ้มโกโก้ครันช์
พุธนี่ดูดู๋เฟสติวัล คงทำออฟให้พวกอาวุธ+30up จากยามาโตะไม่กี่อันพอ ศัตรูอ่อนเกินขี้เกียจเปลืองตังทำออฟแล้ว เอาไปซื้อชุด ทรงผม แล้วก็ LA ดีกว่า
Like : tenkawa
# Sun 24 Jul 2016 : 1:18AM
ผมสงสัย gathering เท่าที่ผมเข้าใจ เลเวลยิ่งมาก ยิ่งขุด/ตก ยิ่งมีโอกาสได้ของแรร์ใช่หรือเปล่าครับ ตอนนี้อยู่ราว ๆ ประมาณเลเวล 6 - 7 ท้อใจเหลือเกิน อยากได้แหวน
# Sun 24 Jul 2016 : 12:42PM
เลเวลอัพเพิ่มแค่ระยะเวลาฟีเวอร์ครับ โอกาสขุดได้แรร์เพิ่มได้จากฉายา จำนวณครั้งการติด one more แค่นั้น ซึ่งเพิ่มน้อยมาก ราวๆ 0.1% - 0.3% ต่อเวลเท่านั้น (มีแต่เวล 1 ที่ติด one more 5 รอบที่เพิ่ม 2%)
ถ้าจะตีแหวนต้องใช้แร่กับอัญมณี แนะนำให้ตกปลาก่อนจนครบ 10 ครั้ง หรือหากเกิดฟีเวอร์ระหว่างตกปลาให้รีบเปลี่ยนมาขุดดินเลยโอกาสได้แรร์+จำนวนที่ได้จะสูงขึ้น
และถ้าเคยเก็บเกี่ยวที่โตเกียว หรือโบราณสถานนาเบลิอุส(ด่านบอสเต่า) จะมีวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารเพิ่มอัตราการขุดได้แร่อยู่ เวลาติดฟีเวอร์ก็กดใช้ซะแล้วรีบขุด เพราะอาหารอยู่ได้แค่นาทีเดียว
お刺身 ซาซิมิ เพิ่มอัตราขุดได้แร่+30% อัตราone more+3% , ราคา 2000 สร้างได้ตั้งแต่แรก
- ใช้ 遺跡サケ จากด่านเต่า 1 ตัว (ปลาแรร์ 7 ส่วนใหญ่ถ้าตก 10 ทียังไงก็ต้องได้สักตัวขึ้นไปทุกรอบ)
東京マダイの照り焼き ปลาจานแดงเทอริยากิ เพิ่มอัตราขุดได้แร่+50% อัตราone more+5% , ราคา 2500 ตำราได้จากฉายาขุดถั่วในโตเกียวเลเวล2
- ใช้ 東京マダイ 1 ตัว (ปลาแรร์จากโตเกียว ส่วนใหญ่ก็ตกได้ทุกรอบเหมือนกัน) กับถั่ว 東京大豆 10 เม็ด
แล้วก็มีข้าวหน้าปลาไหลที่เพิ่มอัตรขุดอัญมณี 30% จากด่านเหมืองทะเลทราย(บอสม้า) แต่ไม่คุ้มค่าทำเพราะใช้วัตถุดิบเยอะ แถมของจากด่านนั้นทำได้แต่แหวน AIS ไม่คุ้มค่าสตามิน่าที่ไปตกปลา เก็บไปตกด่านที่ต้องการให้ติดฟีเวอร์ดีกว่า
ถ้าจะตีแหวนต้องใช้แร่กับอัญมณี แนะนำให้ตกปลาก่อนจนครบ 10 ครั้ง หรือหากเกิดฟีเวอร์ระหว่างตกปลาให้รีบเปลี่ยนมาขุดดินเลยโอกาสได้แรร์+จำนวนที่ได้จะสูงขึ้น
และถ้าเคยเก็บเกี่ยวที่โตเกียว หรือโบราณสถานนาเบลิอุส(ด่านบอสเต่า) จะมีวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารเพิ่มอัตราการขุดได้แร่อยู่ เวลาติดฟีเวอร์ก็กดใช้ซะแล้วรีบขุด เพราะอาหารอยู่ได้แค่นาทีเดียว
お刺身 ซาซิมิ เพิ่มอัตราขุดได้แร่+30% อัตราone more+3% , ราคา 2000 สร้างได้ตั้งแต่แรก
- ใช้ 遺跡サケ จากด่านเต่า 1 ตัว (ปลาแรร์ 7 ส่วนใหญ่ถ้าตก 10 ทียังไงก็ต้องได้สักตัวขึ้นไปทุกรอบ)
東京マダイの照り焼き ปลาจานแดงเทอริยากิ เพิ่มอัตราขุดได้แร่+50% อัตราone more+5% , ราคา 2500 ตำราได้จากฉายาขุดถั่วในโตเกียวเลเวล2
- ใช้ 東京マダイ 1 ตัว (ปลาแรร์จากโตเกียว ส่วนใหญ่ก็ตกได้ทุกรอบเหมือนกัน) กับถั่ว 東京大豆 10 เม็ด
แล้วก็มีข้าวหน้าปลาไหลที่เพิ่มอัตรขุดอัญมณี 30% จากด่านเหมืองทะเลทราย(บอสม้า) แต่ไม่คุ้มค่าทำเพราะใช้วัตถุดิบเยอะ แถมของจากด่านนั้นทำได้แต่แหวน AIS ไม่คุ้มค่าสตามิน่าที่ไปตกปลา เก็บไปตกด่านที่ต้องการให้ติดฟีเวอร์ดีกว่า
Like : Del_Lago
View all 1 comments >
# Sun 24 Jul 2016 : 4:41PM
หลังดูดู้เฟสนี่เตรียมส่องของชาวบ้านเลย ช่วงนี้ลงEqเจอแต่ยูนิตไม่ลงออฟ ยิ่งเมื่อวานลงEqบลีชวอ เจอคนใส่ยูนิตเซ็ตLucky Riseนี่โคตรเซ็งเลย เข้าใจว่าEQมันง่ายแต่อย่าทำให้มันยากสิฟ่ะ
ถ้าสัปดาห์ไหนSegaแม่งคึกยัดTD4มาถี่ๆไม่Rageบ้างเลยรึ ต้องมาลุ้นว่าจะเฟลรึปล่าว ดาเมจน้อยตี AISไม่ตาย แต่คิดว่าเป็นไปได้ยากทุกวันนี้ตารางEQคนเล่นแม่งต้องไปกราบไหว้Segaให้มันยัดEQดีๆเข้ามาในตารางอย่างยามิ/TD4สัปดาห์นี้หายไปเยอะเลย ระบบเกมก็ดันไปเน้นฟาร์มหิน/Collection fileก็ดันไว้ในEqพวกFixตารางโดยเฉพาะอีก ก็ไม่รู้ว่าเล่นเกมนี้ใครต้องง้อใครกันแน่
ส่วนEqบีชวอถ้าไม่มีบร้ะเจ้าไก่ความน่าลงแทบไม่มีเลย ถ้าเทียบกับEqป่าฝนรายนั้นนี่แจกหินAres/Neroรัวๆ
ถ้าสัปดาห์ไหนSegaแม่งคึกยัดTD4มาถี่ๆไม่Rageบ้างเลยรึ ต้องมาลุ้นว่าจะเฟลรึปล่าว ดาเมจน้อยตี AISไม่ตาย แต่คิดว่าเป็นไปได้ยากทุกวันนี้ตารางEQคนเล่นแม่งต้องไปกราบไหว้Segaให้มันยัดEQดีๆเข้ามาในตารางอย่างยามิ/TD4สัปดาห์นี้หายไปเยอะเลย ระบบเกมก็ดันไปเน้นฟาร์มหิน/Collection fileก็ดันไว้ในEqพวกFixตารางโดยเฉพาะอีก ก็ไม่รู้ว่าเล่นเกมนี้ใครต้องง้อใครกันแน่
ส่วนEqบีชวอถ้าไม่มีบร้ะเจ้าไก่ความน่าลงแทบไม่มีเลย ถ้าเทียบกับEqป่าฝนรายนั้นนี่แจกหินAres/Neroรัวๆ
[Edited 1 times Reversal - Last Edit 2016-07-24 17:24:15]
View all 3 comments >
Tue 26 Jul 2016 : 7:30AM
เห็นด้วยเลย เอาPDหรือกันเสามายังจะดีกว่าบิชวอร์กากๆนี่เยอะ(เพราะจะเอาอาวุธซีรี่ย์เรย์นี่แหละ)
Tue 26 Jul 2016 : 2:57PM
agree
ผมนี้ลงครั้งเดียวแล้วก็ขี้เกียจลงละ อยากสู้กับดอกไม้เยอะ ๆ อยากทำออฟเทียร์ละ ; w ;
กันเสาอีก อยากได้หินแลกของ
ผมนี้ลงครั้งเดียวแล้วก็ขี้เกียจลงละ อยากสู้กับดอกไม้เยอะ ๆ อยากทำออฟเทียร์ละ ; w ;
กันเสาอีก อยากได้หินแลกของ
Wed 27 Jul 2016 : 7:50PM
โพสผิดที่ครับ
[Edited 1 times tenkawa - Last Edit 2016-07-27 19:51:28]
# Wed 27 Jul 2016 : 7:51PM
ทำออฟหมดไป13m ของที่ดองไว้ทำคาตาลีสได้3ชิ้น อีกชิ้นดันตีพลาด ตอนนี้มีปัญญาทำแค่*6อ่ะนะ *7ที่เก็บไว้มีไม่ค่อยเยอะ
View all 1 comments >
# Fri 5 Aug 2016 : 7:11PM
ผมชักไม่แน่ใจว่า ยูนิตเซต インヴェ系 นี้ มันตกตั้งแต่ระดับ sh ขึ้นไป หรือแค่ sh อย่างเดียว
[Link]
ผมลง xh ก็ล่ามาตั้งนาน ไม่เจอซักอัน พอเพื่อนในทีมมันมาเพิ่งเล่น ลง sh ได้ละ 1 ชิ้น
[Link]
ผมลง xh ก็ล่ามาตั้งนาน ไม่เจอซักอัน พอเพื่อนในทีมมันมาเพิ่งเล่น ลง sh ได้ละ 1 ชิ้น
View all 5 comments >
Fri 5 Aug 2016 : 9:00PM
インヴェ ตกแต่SHอย่างเดียวครับ (ลุงเซกวนโครต...)
พวกเกราะ11*ตกโครตยาก ผมลงXH เกราะจากบอสดัปเบิ้ลนี้นับชิ้นได้เลยฮะ นานๆจะตก
แนะนำว่าซื้อเลยดีกว่า หลังกับแขนจะแพงหน่อย10m+ ส่วนขาจะถูกสุดครับ
พวกเกราะ11*ตกโครตยาก ผมลงXH เกราะจากบอสดัปเบิ้ลนี้นับชิ้นได้เลยฮะ นานๆจะตก
แนะนำว่าซื้อเลยดีกว่า หลังกับแขนจะแพงหน่อย10m+ ส่วนขาจะถูกสุดครับ
Like : Del_Lago
[Edited 1 times tenkawa - Last Edit 2016-08-05 21:04:43]
Fri 5 Aug 2016 : 10:10PM
ยูนิตตกตั้งแต่ระดับSHขึ้นไป แต่เรทดรอปน่าจะน้อยกว่าอาวุธinvade แต่สูงกว่าออสเทีย
ผมลงตั้งแต่วันแรกที่EQมาได้ยูนิตส่วนบนมาตั้งแต่อาทิตย์แรกจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้อีกเลย
แนะนำว่าหาซื้อเอาดีกว่าครับ อัตราดรอปมันค่อนข้างRNGพอสมควร
ผมลงตั้งแต่วันแรกที่EQมาได้ยูนิตส่วนบนมาตั้งแต่อาทิตย์แรกจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้อีกเลย
แนะนำว่าหาซื้อเอาดีกว่าครับ อัตราดรอปมันค่อนข้างRNGพอสมควร
Like : Del_Lago
[Edited 1 times Reversal - Last Edit 2016-08-05 22:11:03]
Fri 5 Aug 2016 : 10:34PM
ผมอ้างอิงจากในนี้ฮะ+คอมเมนท์จากคนญี่ปุ่น ดรอปแต่ความยาก70(SH)
XHไม่รู้ครับ เพราะไม่เคยได้
[Link]
XHไม่รู้ครับ เพราะไม่เคยได้
[Link]
Like : Del_Lago
[Edited 1 times tenkawa - Last Edit 2016-08-05 22:51:03]
Fri 5 Aug 2016 : 11:21PM
^
^
ตารางดรอปในวิกิต้องไล่จากล่างขึ้นบนนะครับ
หมายความว่า XH ดรอปได้ทุกอย่างในตาราง / SH ได้ตั้งแต่ช่อง N~SH แบบนี้
-------------------------
ผมเคยได้มาจาก XH นะ แต่ดรอปยากกว่าอาวุธ 13 ดาวเยอะ
ได้มาตอนนั้นยาน 10 ราคาอันละ 7.5M เห็นไม่แพงนึกว่าดรอปง่าย (ได้มาตั้งแต่รอบแรกๆ)
พอต้นปีย้ายมายาน 8 เห็นขึ้นเป็น 9.5M เลยขายไป ไม่นึกว่าหลังจากนั้นราคาจะกระโดดพรวดพราดสุดๆ คงเพราะตอนแรกๆ คนมีอาวุธออฟส์เทียกันน้อยเลยความต้องการต่ำ นานๆ เข้าพอมีอาวุธกันเยอะความต้องการเลยเยอะตาม
ตอนเควสอัพเกรดความยากมาก็มีคนยาน 4 ได้มาจาก XH เหมือนกัน เพราะงั้นคอนเฟิร์มได้ว่าดรอปแน่นอน
^
ตารางดรอปในวิกิต้องไล่จากล่างขึ้นบนนะครับ
หมายความว่า XH ดรอปได้ทุกอย่างในตาราง / SH ได้ตั้งแต่ช่อง N~SH แบบนี้
-------------------------
ผมเคยได้มาจาก XH นะ แต่ดรอปยากกว่าอาวุธ 13 ดาวเยอะ
ได้มาตอนนั้นยาน 10 ราคาอันละ 7.5M เห็นไม่แพงนึกว่าดรอปง่าย (ได้มาตั้งแต่รอบแรกๆ)
พอต้นปีย้ายมายาน 8 เห็นขึ้นเป็น 9.5M เลยขายไป ไม่นึกว่าหลังจากนั้นราคาจะกระโดดพรวดพราดสุดๆ คงเพราะตอนแรกๆ คนมีอาวุธออฟส์เทียกันน้อยเลยความต้องการต่ำ นานๆ เข้าพอมีอาวุธกันเยอะความต้องการเลยเยอะตาม
ตอนเควสอัพเกรดความยากมาก็มีคนยาน 4 ได้มาจาก XH เหมือนกัน เพราะงั้นคอนเฟิร์มได้ว่าดรอปแน่นอน
Like : Del_Lago
[Edited 1 times CS_Wing - Last Edit 2016-08-05 23:25:54]
Sat 6 Aug 2016 : 4:15AM
ขอบคุณทุกคำตอบมากครับผม คงต้องศรัทธากับ xh ต่อไป XD
ถ้าไม่ได้จนถึง กย. เดี๋ยวยอมแพ้ เติมพรีแลกบัตรละกัน TwT
ถ้าไม่ได้จนถึง กย. เดี๋ยวยอมแพ้ เติมพรีแลกบัตรละกัน TwT
[Edited 1 times Del_Lago - Last Edit 2016-08-06 04:19:28]
# Sat 13 Aug 2016 : 2:37PM
ไลฟ์ช่วงแรกอัพเดทเดือนก.ย. มีคอนเทนต์ใหม่แค่ TA โตเกียวอย่างเดียว แถมเนื้อเรื่อง 4-4 ช่วงหลังอีกหน่อย
ขึ้น EP4 มาจะปีนึงแล้ว มี EQ ใหม่แค่ ยามาโตะ แค่นั้นเลย
ตอนนี้ก็เหลือแค่หวังอัพเดท ต.ค. ช่วงเย็นจะมีอะไรให้ร้องว้าว แต่ก็คงคาดหวังอะไรไม่ได้นักเพราะปกติดูแล้วมีแต่ร้อง ว้า แทบทุกรอบ
ขึ้น EP4 มาจะปีนึงแล้ว มี EQ ใหม่แค่ ยามาโตะ แค่นั้นเลย
ตอนนี้ก็เหลือแค่หวังอัพเดท ต.ค. ช่วงเย็นจะมีอะไรให้ร้องว้าว แต่ก็คงคาดหวังอะไรไม่ได้นักเพราะปกติดูแล้วมีแต่ร้อง ว้า แทบทุกรอบ
# Wed 17 Aug 2016 : 7:26PM
เนื้อเรื่อง 4-4 part 1
รอบนี้ยาวมาก เวิร์ด 30 หน้า ยังไม่ได้ส่วนไปลาสเวกัสเลย ปกติพาร์ทนึงแค่ราวๆ 15 หน้า
เนื่อจากค่อยๆ พิมพ์วันละนิดละหน่อยเสร็จแล้วลงเลย จึงยังไม่ได้อ่านทวนอีกรอบ ปุ่ม w กดไม่ค่อยติดด้วย ไม่รู้ "ไ" หายไปแถวไหนบ้างรึเปล่า
พี่น้องจอมเงอะงะ
หลังกลับมาจากโลกเราก็พาเอ็นกะมาหาเชียร่าเพื่อพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับเอิร์ธไกด์
เอ็นกะ : แหม่ ยอดไปเลยนะอาคส์ชิพเนี่ย เทคโนโลยีต่างกันโขอย่างที่คิดจริงๆ
มีมนุษย์อยู่เหมือนกันแบบนี้แสดงว่าโลกเองถ้าพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ก็คงได้แบบนี้บ้างสินะ
เชียร่า : เฮะๆ ไม่รู้เหมือนกันสิคะ เพราะกว่าโฟโตเนอร์หรืออาคส์จะพัฒนามาได้ขนาดนี้นั้น ชิออนเป็นตัวตนที่ขาดไม่ได้เลยหละค่ะ
ถ้ามนุษย์โลกออกสำรวจอวกาศแล้วเจอตัวตนแบบเดียวกับชิออนเข้า ก็อาจเป็นไปได้อยู่เหมือนกันนะคะ
ถ้ายังไงไว้เดี๋ยวคุยรายละเอียดกันทีหลังดีมั้ยคะ?
เอ็นกะ : ถ้าสาวสวยอย่างเธอชวนคุยกันสองต่อสองหละก็ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยินดีเสมอ
ฮิสึกิ : …......นี่พี่!
เอ็นกะ : เออๆ เข้าใจหรอกน่า.....ให้ตายเหอะ แกนี่จริงจังตลอดไม่เปลี่ยนเลยนะ
เอาหละ อาจจะช้าไปหน่อยเพราะเคยสู้ร่วมกันมาแล้ว แต่ยังไงก็ขอแนะนำตัวอีกครั้งละกัน
เอ็นกะหยิบบัตรประจำตัวแบบตำรวจขึ้นมาโชว์ให้พวกเราดู
เอ็นกะ : สมาชิกองค์กรต่อต้านมาเธอร์คลัสเตอร์ [เอิร์ธไกด์] สาขาฝั่งตะวันออกไกล (極東支部所属 Kyokutou shibu shozoku) ยาซากะ เอ็นกะ แล้วก็...........
ยังเป็นพี่ชายของยัยบ้าโคตรจริงจังคนนี้ด้วย (เอามือไปวางบนหัวฮิสึกิ) จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยแล้วกัน
เรา : อื้อ ยินดีต้อนรับ (เราพยักหน้าตอบกลับเบาๆ)
อารุ : พี่ชายของพี่?
เอ็นกะ : เอ้อ ใช่แล้ว
อารุ : งั้นก็เป็นพี่ชายของผมด้วยน่ะสิ?
เอ็นกะ : โอ้ว เชิญเรียกตามสบายเล้ย
อารุ : พี่จ๋า!
เอ็นกะ : ไอ้น้องชาย!
อารุโผเข้าไปกอดเอ็นกะ ฮิสึกิเลยทำหน้าบึ้ง
ฮิสึกิ : ….....มู่!
เอ็นกะ : อะไรฮิสึกิ อิจฉาเรอะ?
ฮิสึกิ : อิ อิจฉาที่ไหนกันเล่า! ที่สำคัญอธิบายเรื่องราวมาซะทีสิ
เอ็นกะ : ถึงจะบอกให้อธิบายก็เถอะ.........ก็แค่พวกเราเป็นศัตรูกับมาเธอร์ เป็นพันธมิตรกับอาคส์ ยังมีอะไรที่ต้องอธิบายมากกว่านี้อีกเหรอ?
ฮิสึกิ : บอกแค่นั้นจะไปรู้เรื่องได้ไงเล่า! อธิบายอย่างเช่นทำไมถึงไปเป็นศัตรูกับมาเธอร์แบบเนี๊ยะ ไม่ก็อธิบายว่าไอ้เอิร์ธไกด์นี่มันเป็นยังไงกันแน่
เอ็นกะ : …...เอเทลอินฟราน่ะถูกดูแลแล้วก็ควบคุมโดยมาเธอร์คลัสเตอร์
พวกมันน่ะควบคุมเน็ตเวิร์คซึ่งเปรียบดั่งหัวใจของยุคแห่งข้อมูลข่าวสารสมัยนี้อยู่ เพราะงั้นไม่ว่าประเทศไหนก็ยื่นมือมายุ่งไม่ได้
ถ้าหากพวกมันอยากทำลายโลกหละก็ง่ายนิดเดียว แค่สั่งยิงมิซไซล์จากทั่วโลกพร้อมๆ กัน เพียงแค่นั้นโลกก็ล่มสลายแล้ว
แล้วองค์กรที่ไม่ยอมปล่อยให้มาเธอร์ตั้งตนเป็นผู้ครอบครอง นั่นก็คือเอิร์ธไกด์
เป็นองค์กรที่คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของมาเธอร์คลัสเตอร์ หาวิธีขัดขวาง แล้วก็ติดต่ออาคส์โดยตรงยังไงล่ะ
…...เพราะแบบนั้น ปกติเลยต้องพยายามทำตัวไม่ให้สะดุดตาพวกมาเธอร์คลัสเตอร์ยังไงล่ะ
ฮิสึกิ : หมายความว่า ที่ห้องของพี่โดนระเบิดไปก็เพราะความแตกว่าเป็นเอิร์ธไกด์สินะ? …......โถ่เอ้ย ทำตัวเองชัดๆ เลยนี่
เอ็นกะ : ยัยโง่ นั่นมันเพราะแกทรยศมาเธอร์ต่างหาก พวกมันเลยเอาข้อมูลส่วนตัวของชั้นไปตรวจสอบจนความแตกไงเล่า แต่แรกเริ่มเดิมทีมันก็เกิดมาจากความผิดของแกนั่นแหละ
ฮิสึกิ : งือๆๆๆ....! (ฮิสึกิได้แต่กัดฟัน เพราะเถียงไม่ออก)
เอ็นกะ : เอาเถอะ เดิมทีชั้นก็ไม่ได้คิดจะปกปิดตัวตนอะไรด้วยสิ เพราะแบบนี้เลยทำให้ตกตัวปัญหาตัวใหญ่ได้ ถือว่าผลลัพธ์ออกมาดีก็แล้วกัน
ตอนนี้พวกมาเธอร์คลัสเตอร์ส่วนใหญ่ก็โผล่มาหน้าฉากกันแล้ว ฝั่งเอิร์ธไกด์เองก็ต้องเริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกัน
เป้าหมายหลักคือต้องการเป็นพันธมิตรร่วมต่อสู้ไปกับอาคส์
และอีกไม่นานก็ตั้งใจจะจัดประชุมร่วมกันกับอาคส์
เพื่อการนั้นก็เลยเลือกชั้นให้เป็นคนติดต่อกับอาคส์ เพราะแบบนั้น ก็ขออยู่ที่นี่ด้วยสักระยะแล้วกัน
ฮิสึกิ : เก๊ะ!!
เอ็นกะ : อะไรกานฮิสึกิ ดูดีใจจังน้า
ฮิสึกิ : เห็นแบบนี้แล้วยังคิดว่าดีใจเนี่ย ตามีปัญหาแล้วหละมั้ง
เอ็นกะ : ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกน่า ยังไงก็เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวไม่ใช่รึไง มามะๆ มาให้พี่ชายกอดอย่างรักใคร่ดีกว่ามะ?
ฮิสึกิ : ….....บ้า~~~เรอะ! ชั้นจะไปเดินเล่นแล้ว ไปกันเถอะอารุ!
อารุ : อ้า รอเดี๋ยวสิพี่จ๋า!
แล้วทั้งสองคนก็ออกไปข้างนอก
เอ็นกะ : เป็นพวกไม่รับมุขเลยนะ...........เอาเถอะ ออกไปก็ดีแล้ว
….......ถ้างั้นก็ขอขอบคุณอย่างเป็นทางการอีกครั้งละกัน ขอบคุณที่ช่วยเหลือฮิสึกิมาตลอด ในฐานะพี่ชาย ผมขอขอบคุณจากใจจริงเลย
แล้วเอ็นกะก็โค้งคำนับเรา
เอ็นกะ : ถึงจะเป็นพวกวู่วามบ้าบิ่น หรือทำตัวบ้าเกินเยียวยาไปหน่อย...........แต่นั่นก็เป็นน้องสาวผมหละนะ
พวกเธอเป็นผู้มีพระคุณของน้องสาว เพราะงั้นขอขอบคุณจริงๆ
--------------------------------------------
สิ่งสำคัญคือตาที่คอยสังเกตการณ์
เรากับเอ็นกะออกจากห้องก็มาจ๊ะเอ๋กับลิซ่าที่เดินขึ้นมาพอดี (แปลกมากที่เดินขึ้นมา)
ลิซ่า : โอยะๆๆๆ? มีคนที่ให้ความรู้สึกแปลกๆ โผล่มาอีกแล้วเหรอคะนี่
ฮ้า ให้ตายสิรินซังเนี่ยหาเพื่อนแปลกๆ น่าสนใจเพิ่มได้เรื่อยๆ แบบนี้น่าอิจฉาจริงๆ
แบ่งให้ลิซ่าหน่อยได้รึเปล่าค้า? ไอ้ความรู้สึกยอดเยี่ยมปนลึกลับเนี่ย อยากจะลองยิงมากมายเลยค่า~
เอ็นกะ : โอะ โอ้ย ริน คนๆ นี้มันยังไงกันเนี่ย
เรายังไม่ทันตอบลิซ่าก็ตอบให้แทน
ลิซ่า : ลิซ่าก็คือลิซ่าไงคะ ยินดีที่ได้รู้จักน้า~
ลิซ่ายื่นมือออกมา เอ็นกะก็จับมือพร้อมแนะนำตัวแบบกล้าๆ กลัวๆ
เอ็นกะ : อะ อ้า ผมเอ็นกะ ยินดีที่ได้รู้จัก
ลิซ่า : หึ ฮึๆๆๆๆๆ ระวังตัวจังนะคะ ไม่ต้องห่วง ลิซ่าไม่ทำอะไรหรอกค่า
จะว่าไปคุณเนี่ยเป็นคนใช้ปืนสินะ? ยิ่งกว่านั้น เป็นสไนเปอร์งั้นสิ เนอะ!?
เอ็นกะ : …........ทำไม...ถึงคิดแบบนั้นล่ะ
ลิซ่า : ก็ตอนที่ระวังลิซ่าน่ะ ชั่วจังหวะหนึ่งคุณใส่แรงไว้ที่เท้ามากที่สุดใช่มั้ยล่ะ? นั่นเพื่อเตรียมจะถอยทิ้งระยะห่างสิน้า~
แต่ว่ามือเองไม่มีการขยับเป็นพิเศษ แถมยังไม่ได้พกปืนมาด้วย แสดงว่าคงใช้การสร้างปืนเอางั้นสิเน้อ?
เอ็นกะ : แค่จับมือแป๊บเดียวก็ความแตกหมดเลยเหรอเนี่ย?
ลิซ่า : ฮะๆๆ สิ่งสำคัญของสไนเปอร์คือดวงตาที่คอยสังเกตค่ะ ถ้าทำให้เกิดความรู้สึกกดดันได้ ในสนามรบนั้นจัดเป็นความสามารถที่สำคัญมากทีเดียว
อ๊า! ไม่ได้แล้วๆ! พอเจอคนที่มีกลิ่นแบบเดียวกันเลยเผลอคุยอยู่ซะนาน!
ถ้างั้นลิซ่าขอตัวก่อนนะค้า~ ต้องรีบไปที่โลกแล้วไปหาเผ่ามายาแสนลึกลับ อยากจะไปยิงๆๆๆ แล้วก็ฆ่าให้ได้เยอะเย้อ~เลยอะน้า
อ๊า ความรู้สึกที่ได้ยิงมันนุ่มนิ่มแต่กดดัน รู้สึกแย่แต่ก็รู้สึกดีมากๆ เลยหละ หึๆๆ ฮุๆๆๆๆๆ
แล้วลิซ่าก็เดินจากไป
เอ็นกะ : ….....นี่ อาคส์เนี่ย ยิ่งเป็นพวกเพี้ยนๆ ยิ่งเก่งรึเปล่านี่?
เรา : มู่........ไม่ใช่สักหน่อย
---------------------------------------------
ไม่ว่าใครเริ่มแรกก็เป็นมือสมัครเล่นทั้งนั้น
หลังแยกย้ายกับเอ็นกะเราก็มองมาเห็นฮิสึกิกำลังโดนคาโทริหลอกลวงอยู่
คาโทริ : ไม่ต้องห่วงๆ เริ่มแรกไม่ว่าใครก็เป็นมือสมัครเล่นทั้งนั้นแหละ แต่พอพรุ่งนี้ก็จะเป็นผู้มีประสบการณ์ แล้วก็เป็นผู้มากประสบการณ์ในที่สุด! ไม่ว่าอะไรก็ต้องลองหัดก่อนทั้งนั้นเจ้าค่ะ
เพราะฉะนั้นแค่ครั้งเดียว ถึงจะคิดว่าโดนหลอกก็ได้แต่ช่วยลองบาวน์เซอร์สักครั้งด้วยเถอะค่ะ!
ฮิสึกิ : ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ว่าชั้นน่ะ............
คาโทริ : นี่ค่ะๆ ตอนนี้ดิฉันมีดูอัลเบลดที่ใช้สุดแสนง่ายดายอยู่ด้วย (ควักดาบขึ้นมาโชว์ด้วย) มันสะดวกมากเลยนะค้า
ฮิสึกิ : วิธีชักชวนมันไม่พิลึกไปหน่อยรึไง! แล้วก็ชั้นไม่ได้เป็นอาคส์นะ จะไปลองคลาสนั้นก็คงไม่ได้เรื่องอะไรหรอก.........
แล้วเราก็เดินมายุ่งเรื่องชาวบ้านตามปกติ
ฮิสึกิ : อ๊ะ! ริน ชะ ช่วยทีสิ!
คาโทริ : อ๊า ท่านริน! คุณหนูคนนี้เป็นคนรู้จักของท่านสินะคะ
อ๊ะ ถ้าอย่างนั้นคุณก็น่าจะลองเป็นบาวน์เซอร์ดูหน่อยนะคะ
เพราะยังไงก็เป็นคลาสที่ท่านรินสร้างขึ้นมาเลยนะคะ
คาโทริ : เอ๊ะ! จริงเหรอ?
ซากะ : โกหกทั้งเพ!
คาโทริ : ซากะซัง! ช่วยตามน้ำหน่อยสิ!
ซากะ : ไม่ปล่อยให้โกหกหรอก
คาโทริ : อะแฮ่ม......ผู้สร้างอาจจะพูดเกินไปหน่อย แต่บาวน์เซอร์น่ะมีท่านรินสนับสนุนอยู่นะคะ นี่ไม่ได้พูดเกินเลยแล้วนะ!
ฮิสึกิ : …....จริงเร้อ?
คาโทริ : เนอะๆ ใช่สินะคะ
เรา : ผู้สนับสนุนบาวน์เซอร์มีอยู่ 2 คนน่ะ
คาโทริ : กะ ก็~ จริงอย่างที่ว่าอยู่น่ะค่ะ
แต่พอมาบอกกันตรงๆ แบบนี้ก็เขินเหมือนกันนะคะซากะซัง
ซากะ : อ้า มีฉันกันริน 2 คนน่ะ
คาโทริ : ซากะซัง!!?
แล้วคาโทริก็ทำคอตก
ซากะ : ถ้าเผยแพร่ให้อาคส์ทุกคนรู้จักบาวน์เซอร์ก็จะปลอดภัย เห็นพูดอยู่แบบนี้น่ะนะ..........
แต่เรื่องนั้นน่ะเกิดขึ้นไม่ได้จากพลังของคนๆ เดียวหรอก เพราะความร่วมมือของริน หรือผลกระทบที่เกิดมาจากคาโทริก็เป็นส่วนช่วย ตรงนี้ฉันเองก็ยอมรับเหมือนกัน
คาโทริ : ซากะซัง............(เสียงสะอื้น)
….......หือ? แค่ผลกระทบอย่างเดียว ก็หมายความว่าดิฉันแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย ประมาณนั้น?
อารุ : พี่จ๋า.......ตกลง มันหมายความว่าไงเนี่ย?
ฮิสึกิ : ก็หมายความว่าพี่สาวคนนี้พูดโกหกไม่ใช่รึไง?
คาโทริ : โหดร้าย!
ซากะปล่อยทั้ง 3 คนฟาดปากกันแล้วเดินมาคุยกับเราค่อยๆ
ซากะ : 2 คนนั้นไม่ใช่อาคส์สินะ?..............หมายความว่าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายอีกแล้วสิ
เรา : ก็นิดหน่อยแหละค่ะ
ซากะ : ก็ไม่ได้คิดจะห้ามหรอกนะ เพราะการที่เธอเป็นพวกชอบช่วยเหลือคนอื่น ก็ทำให้คาโทริตั้งใจทำงานตามอย่างบ้าง ปล่อยไว้แบบนี้ก็คงจะดีหละนะ?
เรา : ก็คงอย่างงั้นมั้ง
--------------------------------------------
อาคส์กับเอิร์ธไกด์
หลังจากนั้นเราที่เดินขึ้นมาเขตร้านค้าก็เห็นเอ็นกะเดินวนอยู่หน้าร้านประหนึ่งคนไม่มีตังค์เลยเข้าไปทัก
เอ็นกะ : อื่ม.............ได้ยินมาว่าแถวนี้นี่นะ..............
เรา : เดินทำท่าคิดมากอะไรอยู่เนี่ย?
เอ็นกะ : โอ๊ะ รินเองเรอะ เห็นแม่นั่นแถวนี้บ้างมั้ย?
เรา : แม่นั่น? ใครหละนั่น?
เอ็นกะ : แม่นั้นก็....คนนั้นไง.....เอ่ ชื่ออะไรว้า.........
ไอกะ : ไอกะไง
นางเอกปรากฏกาย~~~~! อ๊า อยากลูบหัวฟู้ฟูนั่นจัง
เอ็นกะ : ใช่ๆ ไอกะ.....โย่ว ไม่ได้เจอกันนานนะไอกะ
ไอกะ : นั่นสินะ ไม่นึกว่าจะได้มาเจอกันอีกครั้งบนยานอาคส์นี่เหมือนกัน ยาซากะ เอ็นกะ
เรา : {จำชื่อไม่ได้เนี่ยสมองปลางทองรึไงนะ หมอนี่}........ทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนเหรอ?
เอ็นกะ : ก็นะ.......เจอกันครั้งแรกประมาณ 1 ปีก่อนหละมั้ง?
ไอกะ : ก็เป็นตอนที่ฉันไปปฏิบัติภารกิจที่โลก........คำนวณเวลาดูก็คงราวๆ นั้นแหละ
เอ็นกะ : ก็เคยบอกไปใช่มะว่าโลกกับอาคส์น่ะเคยติดต่อกันมาก่อน ก็นี่ไงๆ
ไอกะ : ตอนที่ไปอาศัยอยู่ที่โลก หรือบอกว่าไปทำภารกิจที่นั่น ก็ได้เอิร์ธไกด์ช่วยอำนวยความสะดวกให้หลายเรื่องเหมือนกัน
แล้วเอิร์ธไกด์ที่คอยติดต่อประสานงานกับฉันก็คือ............
เอ็นกะ : ชั้นเองนี่แหละ เพราะว่าอยู่ติดกับโรงเรียนที่ไอกะเข้าไปอยู่พอดี
โรงเรียนที่ไอกะเข้าไปคือ โรงเรียนเซก้า ซึ่งเป็นโรงเรียนในเครือเดียวกับ โรงเรียนเท็นเซย์ ของชั้น
ไอกะ : ที่โรงเรียนเซก้าเองก็มีเรื่องหลายๆ อย่างเกิดขึ้น ภารกิจที่โลกล้วนเป็นความทรงจำที่สำคัญยิ่ง......ของฉันเลยหละ
เอ็นกะ : การที่ได้มาพบกันที่นี่ก็คงเพราะสายสัมพันธ์บางอย่างแน่ๆ แล้วการได้เจอคนคุ้นหน้าก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นด้วยหละนะ
ถ้างั้นขอฝากตัวอีกรอบละกันนะไอกะ
ไอกะ : อ้า ทางนี้เองก็ขอฝากตัวด้วยเหมือนกัน
แล้วทั้งคู่ก็จับมือกัน
--------------------------------------------------
วิธีเรียกรุ่นพี่
หลังแยกกับพวกเอ็นกะ เราก็แวะมาหาน้องโอซึ่งอยู่ใกล้ๆ โดยมีฮิสึกิยืนคุยอยู่ด้วย (ส่วนอารุยืนประกอบฉากเฉยๆ)
ฮิสึกิ : อ๊ะ ริน! ทางนี้กำลังคุยเรื่องเกี่ยวกับเธออยู่พอดีเลย มาคุยด้วยกันสิ!
เรา : เอ๋~ ให้คุยเรื่องตัวเองเนี่ยนะ........นะ น่าอายออก
อิโอ : จะคุยเรื่องรุ่นพี่ แต่ชวนรุ่นพี่มาด้วยเนี่ย.......ฮิสึกินี่ไม่รู้จักกลัวเลยนะ
ฮิสึกิ : ทำเป็นพูดไป อิโอเองก็อยากเจอรินใช่มั้ยล่า? หน้ามันฟ้องอยู่นา~
อิโอหลบหน้าแก้เขิน
อิโอ : ….....มู่
พอหาหัวข้อบ่ายเบี่ยงได้อิโอก็เริ่มถามฮิสึกิแบบติดอ่างนิดๆ ทันที
อิโอ : …......จะ จะว่าไปทำไมฮิสึกิถึงเรียกรุ่นพี่ห้วนๆ แบบนั้นล่ะ?
ฮิสึกิ : หือ.....เอ๊ะ? จะว่าไป...? ตอนที่เจอกันตอนแรก รวมถึงเชียร่าด้วย ก็เรียกต่อท้ายด้วย [ซัง] อยู่นี่นะ..........
เลิกเติมไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ.......ตอนที่ตะโกนเรียกไปแบบไม่ทันตั้งตัว รึเปล่านะ?
อิโอ : ถึงพวกเราจะเรียกรุ่นพี่แบบห้วนๆ เหมือนกันอยู่ก็เถอะ แต่ฮิสึกิน่าจะเรียกรุ่นพี่แบบให้ความเคารพสักหน่อยดีกว่ามั้ย? เป็นถึงคนที่ช่วยชีวิตเอาไว้นี่?
ฮิสึกิ : จะว่าไปก็จริงอย่างที่อิโอพูดนะ........งั้นก็มาเลือกกันเถอะ!
อิโอ : เลือกงั้นเหรอ?
ฮิสึกิ : รินอยากให้ชั้นเรียกแบบไหนล่ะ บอกมาได้เลย
แต่จะให้กลับไปเรียก ซัง มันก็ยังไงอยู่ เอาเป็น [ท่าน] (様 sama) หรือว่า [ราชา] (王 ou) หละว่าไง....?
เรา : เอ๋~~! {น่าอายทั้งคู่เลยอะ แต่อยากเห็นรีแอคชันเหมือนกัน}
อิโอ : ฮิสึกินี่เห็นรุ่นพี่เป็นตัวอะไรกันแน่หละนั่น
เรา : งั้นเอาเป็น ท่าน ละกัน
ฮิสึกิ : งี้นี่เอง ท่าน งั้นเหรอ
ฮิสึกิตั้งท่าคล้ายถอนสายบัว ส่วนอารุก็ทำตามประหนึ่งหางเครื่อง (ในภาพคนพูดต้องเปิดฮิสึกินะ ไม่ใช่อิโอ ไม่รู้จะออกแพชแก้ชื่อผิดเรึเปล่า)
ฮิสึกิ : ท่านรินเจ้าขา~
เอ๊ะ จะว่าไปเหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนเนี่ยแหละ?
อิโอ : …...คาโทริซังสินะ
ฮิสึกิ : จะว่าไปมันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดีหละน้า
เรา : (ชักสนุกแล้วสิ) งั้นลองเรียก ราชา แบบที่เสนอมาล่ะ เป็นไง?
ฮิสึกิ : เข้าใจแล้ว ราชา สินะ
ฮิสึกิตั้งท่าโค้งคำนับ ประหนึ่งพ่อบ้าน ส่วนอารุก็ทำตามประหนึ่งหางเครื่องเหมือนเดิม {ว่าแต่นั่นมันท่าคำนับพระราชาประเทศไหนน่ะ?}
ฮิสึกิ : ท่านราชารินของข้าน้อย........เป็นไงฟังดูรู้สึกดีมั้ย?
เรา : กะ.....ก็ดีมั้ง {น่าอายชะมัด}
อิโอ : ….....ไม่รู้สึกว่ามันออกจะน่าอายเกินไปหน่อยเหรอ?
เรา : ….....มู่ {ก็น่าอายอยู่หรอก แต่มาพูดตรงๆ แบบนี้มันก็........ต้องเอาคืน}
ฮิสึกิ : เหรอ? แต่สไตล์ยุคกลางแบบนี้ชั้นชอบนะ.........แต่มันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดีแหละนะ
เรา : อ๊ะ งั้นเรียก รุ่นพี่ (センパイ senpai) แทนดีมั้ย
อิโอ : งะ เดี๋ยวสิ.......?! (อิโอสะดุ้งโหยงทันควัน)
ฮิสึกิ : รินเซนปาย~~! แบบเนี้ยะเหรอ? รู้สึกมันออกแนว maniac ไปหน่อยนะ (maniac มา-นิ-แอ็ค พวกคลั่งหรือคลั่งไคล้ในบางเรื่อง คนยุ่นจะมองว่าอาการหนักกว่าโอตาคุ(แค่ระดับหลงไหล)ไปอีกขั้นนึง)
อิโอ : มะ..ไม่ ไม่ใช่สักหน่อย รุ่นพี่ก็เป็นรุ่นพี่นั่นแหละ
ฮิสึกิ : แต่เอาจริงๆ ก็รู้สึกแปลกอยู่ดีแหละ สรุปว่าเติมซังคงดีที่สุด..........รินซัง งั้นเหรอ.........
อิโอ : ….......ถึงอาจฟังดูไม่ดีถ้าบอกไปก็เถอะ แต่ดูเหมือนคงจะช้าไปที่จะเปลี่ยนแล้วหละมั้ง
เรา : ก็คงงั้นแหละ
ฮิสึกิ : เฮอะ ช่างมันแล้ว เรียกห้วนๆ แบบที่ผ่านมานั่นแหละดีสุดแล้ว
------------------------------------
คำถามตรงไปตรงมา
หลังคุยเสร็จพวกเราก็พากันกลับมาที่ห้องบังคับการ ฮิสึกิยืนโม้กับเชียร่าแบบไม่มีเสียงให้เราได้ยิน แล้วอยู่ดีๆ อารุก็ถามคำถามสุดจี๊ดขึ้นมา
อารุ : งานของเชียร่าคืออะไรเหรอ?
เชียร่า : ยะ อยู่ๆ ก็ถามแบบนี้ มีอะไรงั้นเหรอคะอารุคุง?
อารุ : อย่างงานของรินกับพี่น่ะคือไปที่โลกแล้วก็ต่อสู้ใช่มั้ยล่ะ?
ฮิสึกิ : ของชั้นก็ไม่เชิงซะทีเดียวแต่ของรินคงใช่แหละ
อารุ : เชียร่าไม่ต้องไปก็ได้เหรอ? หรือที่นั่งพูดอยู่ที่นี่ก็เป็นงานเหรอ?
เชียร่า : ฮือ~ๆ ฟังจากที่อารุคุงพูดแล้ว เหมือนว่าชั้นเอาแต่นั่งอู้อยู่ในนี้ไม่ใช่รึไงคะเนี่ย~~........!
เรา : อ้าว ไม่ใช่งั้นเหรอ?
เชียร่า : เดี๋ยวเถอะรินซัง! พูดแบบนี้เดี๋ยวอารุคุงก็เชื่อหรอก! ช่วยฟอลโลกันหน่อยสิคะ!
เรา : อะฮะฮะ ล้อเล่นหน่อยเดียวน่า........ไม่ใช่หรอกอารุ เชียร่าก็มีงานของตัวเองอยู่นะ
เชียร่า : Nice-desu รินซัง! ฟังให้ดีนะคะอารุคุง ชั้นเองก็มีงานของชั้นอยู่นะคะ
อารุ : งานของเชียร่า?
เชียร่า : ที่จริงสมญานามของชั้นคือ “ไฮแคสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานบริหารจัดการ” (演算特化管理用ハイ・キャスト Enzan toku-ka kanri-you Hai-Cast) มีหน้าที่คอยคำนวณและบริหารจัดการยานอาคส์ค่ะ
เป็นคนคอยจัดสรรและอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยบนยาน อีกทั้งเป็นคนกระจายข้อมูลข่าวสารให้กับชาวอาคส์อีกด้วยค่ะ
อารุ : เป็นแบบนี้นี่เอง............ถึงมองด้วยตาแล้วเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้นก็เถอะ
เชียร่า : ช่างเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงใจเหลือเกินค่ะ.........แต่ ถึงจะเห็นแบบนั้นแต่ชั้นเนี่ยขยันทำงานมากเลยนะคะ เอะเฮ่ม!
เชียร่าทำท่าท้าวเอวเหมือนทุกที ฮิสึกิได้ยินเรื่องงานแล้วเลยถามต่อบ้าง
ฮิสึกิ : จะว่าไปตอนนี้ก็น่าจะมีอาคส์ที่ออกปปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่ใช่เหรอ.......ไม่ซัพพอร์ตเค้าจะดีเหรอ?
เชียร่า : ฮึฮื่ม~ อย่าดูแคลนชั้นมากไปนะค้า~ ถึงจะจัดการงานพร้อมกันมากมายก็สบายหายห่วงค่ะ
ถ้าเป็นการคำนวณเรื่องงานบริหารจัดการหละก็ชั้นเองก็ไม่แพ้เชาหรอกนะคะ........ถึงเรื่องอื่นจะแพ้หมดรูปก็เถอะ - -!
แล้วก็ การมาพูดคุยกับทุกคนแบบนี้ก็ถือเป็นงานของชั้นเหมือนกันนะคะ
ผู้บริหารจัดการคนก่อน............โฟโตเนอร์น่ะ ได้ทิ้งหัวใจของความเป็นมนุษย์ ใช้งานทุกสิ่งเหมือนเป็นเพียงตัวหมาก แล้วผลลัพธ์ของมัน ก็คือการล่มสลายของระบบงานทั้งหมด (ตรงนี้ใช้คำว่า 体制 ที่แปลว่า system คงเพราะเชียร่ากำลังพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องระบบงานเฉยๆ)
หัวใจของคนนั้นอ่อนไหวได้ง่ายเหมือนเป็นจุดอ่อน แต่บางเวลาก็เป็นได้ดั่งอาวุธที่ส่องแสงแพรวพราว..........
ถึงชั้นจะเป็นผู้บริหารจัดการ แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นคนที่มีหัวใจค่ะ ไม่ใช่เพียงให้ข้อมูล แต่ต้องการสื่อใจถึงกับทุกคนและเป็นพลังให้ค่ะ
…........เพราะฉะนั้นชั้นถึงชอบคุยกันเจี๊ยวจ๊าวไงคะ เอ้าทุกคนมาคุยเรื่องไร้สาระกันต่อเถอะค่ะ
ฮิสึกิทำคอตก
ฮิสึกิ : ถ้าไม่มีไอ้ประโยคสุดท้ายนั่นก็จบได้สวยแล้วแท้ๆ
เรา : นั่นสินะ
--------------------------------------
สถานะตอนนี้ของคูน่า
วันถัดมายังไม่มีการติดต่อจากเอิร์ธไกด์เข้ามา เราเลยออกมาเที่ยวเล่นคนเดียวบ้าง
เรา : สวัสดีตอนเช้าจ้า~ คูน่า
คูน่า : อะเระ! รินมาคนเดียวนี่มีอะไรรึเปล่า?
อ๊ะ รู้แล้ว! ตั้งใจมาเพราะอยากเจอชั้นเลยใช่ม้า~? แหม่ เป็นไอดอลชื่อดังนี่ลำบากจังน้า~
เรา : …...ตามนั้นแหละ
คูน่า : …....พูดตอบเสียงทื่อๆ มาแบบนั้น ให้ความรู้สึกยังกะถูกต่อยสวนกลับมา เจ็บชะมัดเลยอะ
…......จริงสิ ถ้าเป็นรูปลักษณ์แบบนี้คงทำให้ตกใจขึ้นบ้างรึเปล่านะ
แล้วคูน่าก็พรางตัวหายไป จากนั้นก็มาโผล่ข้างหลังเราในอีกลุคนึงแทน
คูน่า : ….....เป็นไงคะ รู้สึกตกใจนิดๆ รึเปล่า?
เรา : ก็ไม่นะ เพิ่งเจอกันในห้องบังคับการไปเองนี่
คูน่า : ที่จริงช่วงนี้ไม่ค่อยมีโอกาสอยู่ในสภาพนี้เท่าไหร่น่ะค่ะ..........ยิ่งระยะนี้เหมือนอยู่ในสภาพถูกปฏิเสธงานยังไงยังงั้น
ถึงชั้นอยู่ในกรอบการทำงานของ 3 วีรชนคาสึระ มีหน้าที่เป็นรองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองก็เถอะ แต่นั่นก็แค่ในนาม เพราะงานที่ให้ชั้นทำก็มีแต่งานเอกสารกับส่งข้อความเท่านั้นเอง
….......ให้พูดตามตรง ตอนที่ชั้นได้ยินว่าคุณจะกลับมานั้น ชั้นกลัวมากเลย.......
ว่าบางที ผลข้างเคียงของไมอาจทำให้ตัวตนของชั้นถูกลืมไป....น่ะ
แต่ว่าไม่เป็นไรแล้วหละ ทั้งคุณแล้วก็ทุกคนต่างไม่มีใครลืมตัวตนของชั้น
เรา : ไม่มีทางลืมอยู่แล้วหละ
คูน่า : เพียงเท่านี้.........ชั้นเองก็ไม่จำเป็นต้องฝืนสู้ต่อแล้ว เพราะว่าคุณกลับมาแล้วนี่เนอะ
และที่สำคัญกว่านั้น.............
แล้วคูน่าก็เปลี่ยนลุคกลับมาเป็นเวอร์ชันไอดอลแบบเดิม
คูน่า : ยิ่งกว่าการต่อสู้แล้ว ชั้นน่ะชอบร้องเพลงเต้นรำ สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่สุดเลยหละ
ไอดอลของทุกคนคูน่าน่ะเป็นอมตะนิรันดร์กาลน้า~ เพราะฉะนั้นริน จากนี้ไปก็ช่วยเชียร์ชั้นด้วยนะ
มีขยิบตาวิ้งให้เราด้วย เราก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ โดยไม่ได้บอกความในใจออกไป
เรา : จ้าๆ {ทุกคนไม่ลืมเธอหรอก แต่คนจัดคอนเสิร์ทคงลืมเธอไปแล้วหละ}
-----------------------------------
เจออาคส์น่าสงสัยแล้วค่ะ!
ตกบ่ายเราที่ออกไปเที่ยวเล่นหาเงินก็ถูกเสียงดังโหวกเหวกทักเข้าให้ เจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครอื่น ยายพี่บ้าแห่งหน่วยข่าวกรองนั่นเอง
พาตี้ : เอ้า! สวัสดีหลังจากเงียบหายไปซะนาน! 2 ปีผ่านไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน หน่วยข่าวกรองอันดับหนึ่งของอาคส์ พี่น้องแฝดสาว พาตี้&เทียจ้า~~!
อื่ม~ ไม่มีอะไรเปลี่ยนจริงๆ แหละ สมงสมองยังคงเดิม
เทีย : ที่จริงก็เจอกันในเมืองหลายต่อหลายครั้งแล้วเนอะ มากล่าวทักทายกันแบบนี้อาจจะสายไปหน่อยก็เถอะเน้อ~
พาตี้ : วันนี้เรามาเพราะมีข้อมูลพิเศษสำหรับคุณโดยเพราะมานำเสนอ!
เรา : เอ๋ ไม่ใช่ว่าชั้นอาจรู้มาก่อนแล้วเหรอ
พาตี้ : อะไรกั้น อะไรกัน..........พาตี้&เทียของพวกเรานั้นรวดเร็วกว่าทุกคนอยู่แล้ว! เพราะพวกเราน่ะได้ไปคุยกับอาคส์น่าสงสัยโดยตรงแล้ว..ค่ะ!!
เทีย : จะบอกว่าน่าสงสัยก็เถอะ แต่ใครๆ เขาก็รู้ต้นตอว่าเป็นคนที่แอคเซสเข้ามาจากโลกกันแล้วหละ........
แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ได้อธิบายไปอยู่..........ตอนที่คุณยังอยู่ในโคลด์สลีปนั้น พวกเราเคยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่มาจากโลกด้วยค่ะ
พาตี้ : แหม่~ ที่จริงตอนนั้นชั้นก็คิดแล้วน้าว่าเป็นคนน่าสงสัยจริงๆ
เพราะไม่ว่าจะพูดด้วยเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นสนใจ หรือเต็มที่ก็แค่อ้าปากค้างแล้วก็ไปน่ะสิ (เพราะคนจากโลกคิดว่าเป็น NPC ปกติคงไม่มีคิดพิมพ์แชทกับ NPC อยู่แล้ว)
เทีย : นั่นเพราะพาตี้จังเอาแต่พูดเอาๆ อยู่ฝ่ายเดียวไม่ใช่รึไง อาการแบบนั้นน่ะไม่ว่าใครที่คุยด้วยก็เป็นทั้งนั้นแหละ
พาตี้ : หมะ-ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย!! ดูอย่างเธอคนนี้ยังตั้งใจฟังเลยอ่ะ เนอะ? เนอะ?!
เรา : …...............................อื้ม
พาตี้ : เห็นมะ “อื้ม” เลยนะ
เทีย : ….....เมื่อกี๊ เหมือนถูกฝืนใจให้ตอบเลยเนอะ
พาตี้ : แหม่ เวลาเจอคู่สนทนาที่ยอมฟังเนี่ย ยิ่งทำให้รู้สึกอยากทำงานข่าวกรองขึ้นไปอีกเนอะ
เทีย : ก็ เป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยนเลยน่ะค่ะ พวกเราเนี่ย
…......จะว่าไปพาตี้จัง แล้วผลลัพธ์หลังจากที่ไปพูดคุยกับคนที่มาจากโลกแล้วได้อะไรบ้าง รายงานสิ?
พาตี้ : เอ๊ะ? อื่~~ม นั่นสิน้า~~~~ ความรู้สึกมันแบบว่า แทบไม่ต่างอะไรกับพวกเรา ไม่มีความแตกต่างกันเลย
เทีย : …......ก็นะ ถึงตัวพาตี้จังจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็เถอะ แต่ที่บอกมานั้นมีความจริงที่น่าสนใจมากอยู่
จุดที่ว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย อวาตาร์ปลอมที่สมบูรณ์แบบที่ให้ผลลัพธ์การตรวจวิเคาระห์เหมือนอาคส์ทุกประการ
พาตี้ : เพราะงั้นอาคส์ที่ลงทะเบียนในปัจจุบันก็เลยต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด หรือที่เรียกว่า ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนประมาณนั้น
เทีย : ข้อมูลนั้นสามารถปลอมแปลงได้ แต่ถ้าสาวลึกลงไปก็สามารถเจอจุดที่ขัดแย้งกันได้น่ะค่ะ
…..........พอคิดแบบนั้นแล้ว ที่พาตี้จังเข้าไปคุยแบบไร้สมองนั่น ก็ไม่ใช่ว่าไร้ความหมายซะทีเดียวเนอะ
พาตี้ : รวบรวมข้อมูลได้รวดเร็วกว่าใครๆ นั่นคือหัวใจหลักของหน่วยข่าวกรองแหละนะ!
เทียมองพี่สาวด้วยสายตาเวทนาอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันมาคำนับเรา
เทีย : จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ
-----------------------------------
วิถีการดำเนินชีวิตของฮิสึกิ
วันรุ่งขึ้นพวกเราเข้ามาในห้องบัญชาการขณะที่เอ็นกะกำลังคุยกับเชียร่าอยู่
เอ็นกะ : โอ้ รินมาได้จังหวะพอดีเลย โทษทีนะแต่เธอช่วยเป็นตัวแทนของอาคส์แล้วไปด้วยกันหน่อยได้รึเปล่า
เรา : ตัวแทนเรื่องอะไร?
เอ็นกะ : ท็อปของพวกเราอยากพบเธอน่ะ ถ้ากำหนดสถานที่ได้เมื่อไหร่จะติดต่อมาอีกที
ฮิสึกิ : ไปพบตรงๆ เหรอ? แค่โทรคุยกันไม่สะดวกกว่าเหรอ?
เอ็นกะ : แค่โทรคุยมันมีหลายอย่างที่สื่อออกไปไม่ได้น่ะสิ อย่างการแสดงอารมณ์เงี้ย
การประชุมสำคัญๆ เนี่ย ให้มาพบหน้าพูดคุยกันมันจะทำให้การพูดคุยลื่นไหลกว่าน่ะ
ฮิสึกิ : อื~ม แล้ว จะไปที่ไหนล่ะ?
เอ็นกะ : ….....บอกไว้ก่อนเลยว่าแกน่ะอยู่เฝ้าบ้านนะ
ฮิสึกิ : เฮะ! ไมอ่ะ?!
เอ็นกะ : ก็เป็นมาเธอร์คลัสเตอร์ไม่ใช่เหรอ เอ็งน่ะ
ฮิสึกิ : นั่นน่ะ ออกมาแล้วย่ะ!
เอ็นกะ : งั้นก็ไม่เกี่ยวข้องแล้วหละนะ เพราะงั้นก็ไม่มีเหตุผลต้องพาไปนี่
ฮิสึกิ : อย่ามาทำเป็นเล่นลิ้นสิ! ชั้นตกเป็นเป้าของมาเธอร์คลัสเตอร์อยู่นะ ก็ต้องเป็นผู้เกี่ยวข้องสิ!
เอ็นกะ : ที่ตกเป็นเป้านะคืออารุ ไม่เกี่ยวกับแก แล้วก็ถ้าตกเป็นเป้าหละก็ซ่อนตัวอยู่แบบนี้ย่อมดีกว่าเห็นๆ เอ้าที่อธิบายไปเนี่ยมีอะไรผิดรึเปล่า?
ฮิสึกิ : ตะ แต่ว่า........ชั้นเองก็สู้ได้นะ.......
เอ็นกะ : ไม่ได้กำลังคุยกันว่าทำได้หรือไม่ได้ ชั้นกำลังบอกว่า พวกที่เตรียมใจแค่ครึ่งๆ กลางๆ น่ะอย่าได้มายุ่งให้มากกว่านี้
ฮิสึกิ : ครึ่งๆ กลางๆ เหรอ.......อะไรหละนั่น......!
เอ็นกะ : งั้นบอกมาฮิสึกิ เป็นหมายของแกคืออะไร?
แกต่อสู้ไปเพื่ออะไร? แกใช้พลังที่ได้มานั่นไปเพื่ออะไร?
ฮิสึกิ : เพื่ออะไร นั่นน่ะ..........มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย.........
ชั้นก็แค่อยากจะรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น.........แล้วก็..........
เอ็นกะ : รู้ไปแล้วยังไง? หลังจากรู้แล้วจะทำอะไร? ลึกๆ แล้วไม่ได้คิดอะไรเลยใช่มั้ย?
ไม่ใช่ว่าตัวเองอยากจะทำ แต่แกน่ะแค่ไหลไปตามกระแสรอบๆ ตัวเท่านั้นเอง
ฮิสึกิ : มะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ชั้นน่ะมาที่นี่ด้วยความต้องการของตนเอง แล้วก็อยาก.......ร่วมไปกับทุกคน......
เอ็นกะ : ก็บอกแล้วไงว่าไม่เกี่ยวกับทุกคน ทำไมถึงไม่เข้าใจสักทีนะแกน่ะ
ไม่เคยตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ตามกระแสคนรอบข้างไปเท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนที่มาเธอร์บอกอะไรก็ทำตามเลย
ฮิสึกิ : งั้น......งั้นพี่หละทำไมถึงไปเข้ากับเอิร์ธไกด์ ทำไมถึงต้องต่อสู้ล่ะ?!
เอ็นกะ : อึก........มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ชั้นกำลังพูดตอนนี้สักหน่อย
ฮิสึกิ : เกี่ยวอย่างยิ่งเลยหละ! มาทำเป็นอวดดีต่อว่าคนอื่น คิดว่าคงมีเหตุผลอันเลอเลิศอยู่สินะ อธิบายมาให้ละเอียดเลยดีกว่า!!
อารุ : หยุดนะ------!!!
อารุตะโกนจัดจังหวะดังลั่น
อารุ : หยุดได้แล้วทั้งสองคน! อย่าทะเลาะกันมากกว่านี้นะ!
อย่าพูดโดยไม่คำนึงถึงหัวใจของอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้ตัวเองเจ็บปวดเข้าไปอีก!
ฮิสึกิ : อารุ!
อารุ : ทั้งสองคนต่างก็คิดถึงกันและกัน แล้วทำไมต้องทะเลาะกันด้วย
ต้องดีกันสิ ถ้าไม่ดีกันหละก็.......ต้องน่าเศร้าแน่ๆ..........(อารุทำเสียงเหมือนจะร้องไห้)
เอ็นกะ : ฟู่............โทษที พอดีหัวร้อนไปหน่อยน่ะ
ฮิสึกิ : ชั้นเองก็........ขอโทษด้วยค่ะ
เชียร่า : อ๊า...........คือว่า............ที่ฮิสึกิซังถามเมื่อกี๊ เหตุผลที่เอ็นกะซังต้องต่อสู้คืออะไรเหรอคะ?
เอ็นกะ : ….......ชั้นน่ะมีสิ่งที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องให้ได้ เป็นสิ่งที่จะปล่อยให้เสียไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เพื่อการนั้นถึงได้เข้าเอิร์ธไกด์ ชั้นได้รับพลังมาเพื่อการนั้นเท่านั้น
ฮิสึกิ : สิ่งที่อยากปกป้อง.............
เอ็นกะ : ฮิสึกิ เธอน่ะต้องการจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องอารุ ปกป้องทุกคนอยู่รึเปล่า?
….........อย่าเพียงแค่หวั่นไหวไปกับอารมณ์ ไม่ใช่แค่คำพูด แต่ต้องคิดให้รอบคอบด้วย
ฮิสึกิ : ….........ขอโทษ.......ขอออกไปพักให้หัวเย็นลงหน่อยก่อน
ฮิสึกิเกินออกไปก่อนเอ็นกะเลยพูดกับอารุเบาๆ
เอ็นกะ : ช่วยไปอยู่ข้างๆ ยัยบ้านั่นทีนะ ฝากด้วยล่ะ
อารุพยักหน้าแล้ววิ่งตามออกไป
เรา : มองทะลุปรุโปร่งเลยนะ
เอ็นกะ : ….....ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แค่มองดูก็อยู่แล้วว่าใจของยัยนั่นคิดยังไงอยู่ ที่โกรธขนาดนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันได้หละนะ
เชียร่า : …......ถึงจะแค่พูดไป แต่เอ็นกะซัง ความสามารถของฮิสึกิซังน่ะสูงมากอยู่นะคะ
เอ็นกะ : ก็ต้องแน่อยู่แล้ว เพราะเป็นน้องสาวชั้นนี่นะ
เชียร่าหรี่ตา ให้อารมณ์ว่า “ดูหลงตัวเองจังเลยนะคะ” อยู่เลย
เอ็นกะ : แต่ที่เป็นปัญหาน่ะคือความมุ่งมั่นต่างหาก
เห็นบอกว่าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ยัยนั่นก็ได้แต่โลเลไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นเท่านั้น
ถ้าจะพูดให้แรงกว่านี้หน่อยก็ ยัยนั่นน่ะเคลื่อนไหวแบบไม่คิดไปตามคนที่ตัวเองเคารพแค่นั้นเอง
….........แต่ จะบอกว่าช่วยไม่ได้ก็คงช่วยไม่ได้ การดำเดินชีวิตของยัยนั่นหลังเสียพ่อแม่ไปน่ะก็ทำได้แค่ [ตัวเองจะเป็นที่ต้องการของคนรอบข้างรึเปล่า] แค่นั้นเอง
อาวุธแปรสภาพน่ะขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของผู้สร้าง ยิ่งมีความมุ่งมั่นแรงกล้าเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแสดงพลังออกมาได้มากขึ้นเท่านั้น
คนที่ความมุ่งมั่นเขวไปเขวมาอย่างฮิสึกิน่ะ มันเสี่ยงเกินไป
ชั้นเห็นคนที่ออกไปสู้แบบไม่เตรียมใจให้พร้อม แล้วต้องตายมานับต่อนับแล้ว เธอเองก็คงเคยเห็นเหมือนกันใช่มะ?
เชียร่า : …...เอ็นกะซังเนี่ย จะว่าไปก็ไม่เหมือนฮิสึกิซังอยู่อย่างนะคะเนี่ย? ตรงที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่ากันเยอะเลย
เอ็นกะ : ก็มีน้องสาวแบบนั้นนี่นะ ชั้นไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่คงไม่ได้หรอก
เชียร่า : แต่ว่า ปากไม่ตรงกับใจเนี่ยไม่ดีเลยนะคะ แค่บอกฮิสึกิซังไปว่าไม่อยากให้ต้องเข้ามาพัวพันก็คงจะดีแล้วแท้ๆ
เอ็นกะ : ช่างเหอะน่า
-----------------------------------
สัญญาของเอ็นกะ
หลังออกจากห้องมาสักพัก เอ็นกะก็ขึ้นมาชั้นบนเพื่อมองฮิสึกิจากไกลๆ โดยที่เราก็แอบตามมาด้วย
เอ็นกะ : ….....หือ อ้อ รินเรอะ เรื่องสถานที่ประชุมยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย ช่วยรออีกหน่อยนึงละกัน
เรา : ให้ความสำคัญกับฮิสึกิน่าดูเหมือนกันนะ
เอ็นกะ : …....ก็นะ เป็นครอบครัวที่เหลือเพียงคนเดียวนี่
พ่อแม่ของพวกเราน่ะเข้าไปพัวพันกับอุบัติเหตุแล้วก็เสียชีวิตไป หรือพูดให้ถูกคือเพราะเอาตัวเข้าปกป้องชั้นกับฮิสึกิตอนที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วก็เสียชีวิตไป
เรา : อุบัติเหตุอะไรเหรอ?
เอ็นกะ : เรื่องตอนนั้นจัดเป็นอุบัติเหตุใหญ่เลยหละ ห้างที่พวกเราไปนั้นอยู่ดีๆ ก็ถล่มลงมาจากภัยพิบัติ ผู้รอดชีวิตมีแค่ชั้นกับฮิสึกิเท่านั้น
จะบอกว่าเป็นผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหารย์ก็ดี หรือบอกว่าเป็นเพราะความรักของพ่อแม่ก็ดี เหล่าญาติที่ไม่รู้จักหน้า ต่างมาพูดอะไรทั้งน้ำตาออกหน้าทีวีซึ่งได้ดูตั้งหลายต่อหลายหน แต่ตอนนี้คงไม่มีใครจำได้แล้วหละ (หมายถึงพวกสมาคมสงเคราะห์รึเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจ มันพูดจับความลำบาก)
….........โอะ แต่เรื่องนั้นจะยังไงก็ไม่สำคัญแล้วหละนะ
และในช่วงเวลาสุดท้ายนั้น ชั้นก็ได้ให้สัญญากับพ่อแม่เอาไว้...........ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องยัยนั่นไว้ให้ได้
แล้วหลังจากเหตุการณ์นั้นความสามารถของชั้นก็ตื่นขึ้น จากนั้นเอิร์ธไกด์ก็มาหาชั้นแล้วชวนเข้าร่วมองค์กร
ไม่ว่าอะไรโผล่มาตอนนั้นก็ต้องคว้าไว้ก่อนอะนะ แล้วงานของเอิร์ธไกด์ก็เงินดีด้วย ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากเลยหละ
แล้วเพื่อจะสืบเรื่องของมาเธอร์คลัสเตอร์ชั้นจึงไปเข้าโรงเรียนนั้น.........โรงเรียนเท็นเซย์ แล้วหลังจากนั้นฮิสึกิก็ตามมา
ที่เข้าโรงเรียนเดียวกันก็ดีอยู่แหละ แต่ต่อจากนั้นดันไปเป็นมาเธอร์คลัสเตอร์เข้าให้นี่สิ.........บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นรู้สึกปวดตับสุดๆ เลยหละ (肝を冷や เพิ่งรู้ว่าที่เราเรียก ปวดตับ นี่คนยุ่นเค้าเรียก ตับ肝แข็ง冷や)
ถ้าชั้นมีพลังมากกว่านี้สักหน่อยคงพยายามกีดกันไม่ให้เป็นมาเธอร์คลัสเตอร์แล้วหละ
แต่ครั้งนี้ก็โชคดีที่ได้เธอมาช่วย ผลลัพธ์ตอนนี้ก็โอเคแล้วหละ
ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ก็คงปลอดภัยหละนะ
แล้วโทรศัพท์ของเอ็นกะก็ดังขึ้น
เอ็นกะ : เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะริน
เราพยักหน้าตกลง
-----------------------------------------------
ก็แค่......อยากรู้เท่านั้น........?
หลังจากที่พวกเราไปแล้ว ฮิสึกิก็ยังโวยวายระบายอารมณ์ต่อไป
ฮิสึกิ : ฮึ่มๆ! ไอ้พี่บ้า บ้าๆๆ~~! อะไรกันเล่าๆๆ ไม่เข้าใจความรู้สึกของชั้นเลยรึไง!
….......เข้าใจหรอกย่ะ ถึงไม่พูดก็เข้าใจ ที่ว่ากำลังลังเลอยู่น่ะ ตัวชั้นเองรู้ดีอยู่แล้ว!
อ๊า~ ยิ่งคิดทำให้หัวเย็นก็ยิ่งหงุดหงิด! จริงๆ เลยนะ ไอ้พี่บ้า~~~!!!
ฮิสึกิตะโกนเสียดังเสร็จก็ยังบ่นต่ออีก
ฮิสึกิ : ไม่มีเป้าหมายแล้วทำไมล่ะ! เรื่องแบบนั้นน่ะลุยๆ ไปเดี๋ยวมันก็คิดออกเองแหละ!............เฮ่อ~ เอ้าอารุเองก็บ่นอะไรบ้างสิ
อารุ : เอ๊ะ เอ๊ะ? แล้วพูดอะไรดีเหรอ?
ฮิสึกิ : อะไรก็พูดๆ ไปเถอะ!
อารุหันไปทางมอนิเตอร์ยักษ์แล้วตะโกนเสียงดัง
อารุ : …....ยะ อยากตัวโตขึ้นกว่านี้จาง~~~!!!
ฮิสึกิ : นั่นมันแค่ความปรารถนาไม่ใช่รึไง!!
??? : ฮึๆ
เสียงผู้หญิงหัวเราะดังมาจากด้านหลังพวกฮิสึกิ แม้ไม่ใช่เราแต่พวกฮิสึกิก็มองโฟกัสแต่ด้านล่างไม่ต่างกัน เพราะงั้นมาว่าเราหื่นไม่ได้แล้วนะ
ฮิสึกิ : อ๊ะ.....ขอโทษค่ะ โหวกเหวกกันไปหน่อย.....สินะคะ?
??? : เปล่าจ้ะ ไม่ต้องคิดมากหรอก ชั้นแค่ตามโฟตอนที่รู้สึกคุ้นเคยเลยบังเอิญมาอยู่ที่นี่แค่นั้นเอง
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนน่าสนุก เลยละสายตาไม่ลงน่ะจ้ะ..........ทางนี้เองก็ต้องขอโทษเหมือนกัน เอ้าเชิญต่อกันได้เลยจ้ะ
ฮิสึกิ : เปล่าค่ะที่จริงก็ไม่ได้อยากจะตะโกน.........ไม่สิ ที่จริงก็อยากตะโกนอยู่หรอก แต่มันไม่ใช่แบบนั้นอ้ะ.......
….......นี่ คุณเองก็เป็นอาคส์สินะ
มาโตอิ : อื้อ ชั้นชื่อมาโตอิจ้ะ แล้วพวกคุณล่ะ? ว่าไปแล้วก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยนะ
ฮิสึกิ : ชั้นฮิสึกิ ส่วนนี่อารุ.......พอดีเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเลยมาอยู่ที่นี่น่ะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะมาโตอิซัง
มาโตอิ : ฮึๆ เรียกชื่อห้วนก็ได้จ้ะ ฮิสึกิจัง
แล้วฮิสึกิจังเป็นอะไรรึเปล่า? รู้สึกได้ว่ามีเรื่องกลุ้มใจอยู่สินะ
ฮิสึกิ : อ่า ก็ นิดหน่อย............
มาโตอิ : เมื่อกี๊ที่ตะโกนออกมาเพราะมีเรื่องที่ทนไม่ได้อยู่ใช่มั้ยล่ะ? ระบายให้ชั้นฟังก็ได้นะ
ฮิสึกิ : …...ทำไม ต้องทำขนาดนั้นด้วยล่ะ
มาโตอิ : ชั้นน่ะเป็นคนประเภทที่ชอบเก็บอะไรต่ออะไรไว้เยอะไปหมด (溜め込んじゃう人 คนที่ชอบเก็บของไม่ได้ใช้เอาไว้ เช่นใบเสร็จ กล่องกระดาษ ซองจม. ฯลฯ จนรกไปหมด) เลยถูกดุอยู่บ่อยๆ เพราะงั้นก็เลยพอเข้าใจความรู้สึกน่ะจ้ะ (ว่าแต่ไอ้คนดุนี่คงไม่ได้หมายถึงเรานะ เพราะเราก็ขยะเต็มคลังเหมือนกัน -w-)
ฮิสึกิ : {….....ทำไมกันนะ ทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกแท้ แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสามารถคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องเลยเนี่ย}
…......งั้นมาโต ช่วยฟังเรื่องของชั้นหน่อยละกัน โอเคนะ?
มาโตอิ : อื้ม เรื่องอะไรก็ได้จ้ะ ชั้นน่ะชอบพูดคุยอยู่แล้วหละ
แล้วทั้งคู่ก็ไปนั่งคุยกัน
ฮิสึกิ : เธอน่ะทำไมถึงต่อสู้ล่ะ? เป้าหมายที่ทำให้เธอต้องสู้คืออะไรงั้นเหรอ?
มาโตอิ : เป้าหมายที่ทำให้ต้องสู้เหรอ......ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ?
ฮิสึกิ : “ก็แกมันไม่มีเป้าหมายในการต่อสู้” ถูกว่ามาอย่างนี้น่ะ........ถึงจะหงุดหงิดก็เถอะ แต่พอมานั่งคิดดูดีๆ แล้ว ก็นึกไม่ออกจริงๆ นั่นแหละ.............
มาโตอิก้มหน้านิดๆ แล้วยกมือตัวเองขึ้นมามอง
ฮิสึกิ : …...........พิลึกจริงๆ ด้วยสินะ
มาโตอิ : อ๊ะ ขอโทษจ้ะ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แค่รู้สึกเหมือนได้เห็นตัวเองเมื่อก่อน เลยหวนให้คิดถึงขึ้นมาน่ะ
ฮิสึกิ : เมื่อก่อนเหรอ....?
มาโตอิ : ชั้นเองก็มีช่วงที่สูญเสียเป้าหมายในการต่อสู้เหมือนกันนะ.......เคลื่อนไหวตามคำสั่ง ทำตามคำสั่งที่ได้รับมาเท่านั้น........เคลื่อนไหวโดยไม่มีเป้าหมายมาโดยตลอด
ฮิสึกิ : ….....ชั้นเอง...ก็เหมือนกัน เพราะแค่รู้สึกสบายที่ทำตามมาเธอร์บอกแค่นั้น
แต่นั่นก็เหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยคิดอะไรเลยสินะ..........เข้าใจแล้ว เพราะฉะนั้นพี่เลยพูดออกมาแบบนั้น
…....ว่าจะใช้พลังนี้เพื่ออะไร
มาโตอิ : สิ่งสำคัญคือ ตัวเองอยากจะทำอะไรน่ะจ้ะ ถ้าคำตอบคือ [เพื่อปกป้องใครบางคน] หละก็ นั่นก็ต้องมาจากความมุ่งมั่นโดยใจจริงของฮิสึกิจังเองน่ะ
ฮิสึกิ : ตัวเองอยากทำอะไรงั้นเหรอ...........อื่อ~~............ถ้าตัดสินใจได้แน่วแน่ก็จบแล้วแท้ๆ..........
มาโตอิ : งั้นก่อนอื่นก็ค่อยๆ ทำสิ่งที่อยากทำตรงหน้าไปทีละอย่างๆ ดูเป็นไงจ๊ะ? ลองทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำดู
ฮิสึกิ : สิ่งที่อยากทำ............
มาโตอิ : จ้ะ ไม่ใช่ให้คนอื่นตัดสินใจ แต่เป็นตัวเองที่ตัดสินใจว่า [จะทำนี่แหละ] ชั้นคิดว่านั่นต้องเป็นก้าวแรกสู่คำตอบแน่ๆ เลย
ฮิสึกินั่งหลับตาอยู่พักหนึ่งแล้วจึงตอบออกมา
ฮิสึกิ : ….....รู้สึกว่า พอจะเข้าใจแล้วหละ
ใช่แล้วฮิสึกิ จะมัวลังเลไปทำไม ไม่ว่าใครจะว่ายังไง แต่ชั้นน่ะอยากรู้ความจริง
ทั้งเรื่องที่มาเธอร์ต้องการจะทำ ทั้งเรื่องที่ทำไมต้องเล็งเป้ามาที่อารุ ชั้นอยากรู้ อยากรู้.......จากนั้นก็ตัดสินใจ!
ขอบคุณนะมาโตอิ รู้สึกว่าชั้นจะพบเส้นที่จะไปต่อแล้วหละ!
อารุไปรออยู่กับเชียร่าก่อนนะ ชั้นจะออกไปข้างนอกสักหน่อย
แล้วฮิสึกิก็รีบวิ่งลงลิฟต์ไป
มาโตอิ : ฮึๆๆ เป็นเด็กที่ร่าเริงดีจัง
อารุคุงสินะ? งั้นพวกเราเองก็ไปกันเถอะ ชั้นเองก็ถูกเรียกให้ไปหาเชียร่าจังอยู่พอดี
อารุจับมือมาโตอิแล้วก็เกิดสงสัยขึ้นมา
อารุ : พี่สาว พวกเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่านี่?
มาโตอิ : ไม่จ้ะ คิดว่าน่าจะเป้นครั้งแรกนะ แต่ว่า............ทำไมกันนะ ชั้นเองก็มีความรู้สึกโหยหาที่คุ้นเคยอย่างมากอยู่เหมือนกัน
------------------------------------
ของแถมจาก es ฉลองมาโตอิกลับมา (พิมพ์จากความจำนะ ไม่ได้เปิดไล่ดูซ้ำ)
เรื่องราวต้นตอน es3-1 หลังทีมถูกยุบไป 2 ปี เรา เจเน่ แล้วก็มัว เจ้าเวพ่อนชิพตัวจิ๋ว ก็ได้กลับมารวมทีมกันอีกครั้ง (ตามไทมไลน์แล้วน่าจะอยู่ช่วงราวๆ ก่อนเริ่ม EP4 ภาคหลักหน่อยนึง)
มัว : ทีม Darker Buster คืนชีพ!
เจเน่ : ดาค-เก้อ-บัส-เต้อ อะไรคะนั่น? เราเคยมีชื่อทีมแบบนี้เหรอ?
มัว : ป่าวหรอกเห็นมันเท่ดี ข้าเลยเอามาใช้เป็นชื่อทีมน่ะ
เรากล่าวทักทายทั้งคู่รวมถึง เซราฟี โอเปอเราเตอร์ของพวกเรา (ที่โดนย้ายมายืนหลบมุมอยู่กาบขวายาน แทนที่จะอยู่หน้าเคาเตอร์) แล้วจึงรับภารกิจไปที่ดาวเคราะห์วอบัล ตอนออกมาจากยานเจเน่ก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว
Before ---> After
เมื่อมาถึงวอบัล
เจเน่ : ว้าว~~ ทะเลสวยจัง ดาวเคาระห์วอบัลนี่ดีจังเลยนะคะ
มัว : นิ......นี่.....เจเน่ รู้สึกว่าจะเปลี่ยนลุคไปหน่อยรึเปล่า........เพราะว่ามาทะเลเหรอ?
เจเน่ : อ๊ะ ถามได้ดีเลยค่ะ.......นี่น่ะเป็นเคล็ดลับของความแข็งแกร่งเลยนะ!
ชั้นน่ะไปถามคนมีฝีมือหลายคนเลยนะคะว่าทำยังไงถึงจะเก่งขึ้น
เมื่อ 2 ปีก่อน ทีมของพวกเราถูกยุบเพราะทำภารกิจล้มเหลวครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ ซัคการ์ด เป้าหมายที่จำเป็นต้องจับเป็น เสียชีวิต เจเน่โทษว่าเป็นเพราะตัวเองไม่มีพลัง เป็นเหตุผลที่ต้องการฝึกพิเศษ
เจเน่ : พอชั้นไปคุยกับยอดฝีมือที่อยู่แถวๆ เมดิคัลเซ็นเตอร์ เค้าก็บอกความลับกับชั้นมาน่ะค่ะ
มัว : แล้ว.......มันเกี่ยวอะไรกับที่แต่งตัวแบบนี้เหรอ?
เจเน่ : เรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดห้ามบอกใครเด็ดขาดเลยนะคะ........จี่~~~
เจเน่จ้องตาเราเขม็ง เราก็ตอบตกลงแบบปัดๆ ไป...........ยอดฝีมือแถวเมดิคัลเซ็นเตอร์เหรอ? พอเดาได้เลยว่าเป็นใคร
เจเน่ : ยิ่งใส่เสื้อผ้าน้อยๆ ยิ่งทำให้ความสามารถในการดูดซับโฟตอนดีขึ้นน่ะค่ะ
มัว : ห๊า!! ….....เพื่อดุ ดุ ดูดซับโฟตอนเลยแต่งตัวโป๊ๆ เนี่ย ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ!
เจเน่ : ถึงบอกไงคะว่าเป็นความลับสุดยอด ที่เค้าสอนชั้นเนี่ยถือเป็นกรณีพิเศษเลยนะ!
มัว : จริงเร้อ~? ไอ้คนที่บอกเนี่ยต้องเป็นพวกน่ารังเกียจแน่ๆ (いやらしい น่ารังเกียจ คำใกล้เคียงจากอาจาร์กูOOOคือ エッチ หรือ ลามกนั่นเอง)
เจเน่ : แต่ชั้นเชื่อนะคะ! ชั้นเชื่อในแววตาอันชาญฉลาดของยอดฝีมือท่านนั่น........คนอย่างเค้าไม่มีทางโกหกแน่นอน!
มัว : ไม่ใช่ว่าโดนหลอกอยู่จริงๆ เร้อ~?
ถึงจะมีความรู้สึกเดจาวูอยู่หน่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรไป เพราะแต่งแบบนี้ดีกว่าเห็นๆ ขอบคุณคำแนะนำจากท่านยอดฝีมือข้างร้านยา ถ้าเจเน่ได้ท่านผู้นั้นเป็นอาจารย์ต้องแข็งแกร่งขึ้นมากแน่ๆ..........
ถึงจะนึกแบบนั้น แต่สุดท้ายตอนวิ่งเควสเราก็ต้องลุยเดี่ยวอยู่ดี...........เอวัง
**ปล. ถึงตัวละคร [เรา] ในภาค es จะลิงค์ใช้ตัวละครเดียวกับภาคหลัก แต่ตามเนื้อเรื่องแล้วเป็นคนละคนกับภาคหลักน่อ
**แต่เจเน่ที่เป็น NPC พาร์ทเนอร์ ในภาคหลักก็เรียกเราว่าลีดเดอร์เหมือนกัน คงไม่ได้เล่นมุขพาราเรลเวิลด์อีกหรอกนะ
------------------------------------
ติดตามช่วงไปเยี่ยมองค์กรหมอผีพาร์ทหน้าจ้า
สาวปิดตา : ตัวประกอบฉากเกะกะจังเลย บทนี้ฉันเป็นนางเอกนะคะ
ฮิสึกิ : วะๆๆๆ ว๊าก~~~ นี่ไม่ใช่เกมดราOOOบอลน้า~~~
รอบนี้ยาวมาก เวิร์ด 30 หน้า ยังไม่ได้ส่วนไปลาสเวกัสเลย ปกติพาร์ทนึงแค่ราวๆ 15 หน้า
เนื่อจากค่อยๆ พิมพ์วันละนิดละหน่อยเสร็จแล้วลงเลย จึงยังไม่ได้อ่านทวนอีกรอบ ปุ่ม w กดไม่ค่อยติดด้วย ไม่รู้ "ไ" หายไปแถวไหนบ้างรึเปล่า
พี่น้องจอมเงอะงะ
หลังกลับมาจากโลกเราก็พาเอ็นกะมาหาเชียร่าเพื่อพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับเอิร์ธไกด์
เอ็นกะ : แหม่ ยอดไปเลยนะอาคส์ชิพเนี่ย เทคโนโลยีต่างกันโขอย่างที่คิดจริงๆ
มีมนุษย์อยู่เหมือนกันแบบนี้แสดงว่าโลกเองถ้าพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ก็คงได้แบบนี้บ้างสินะ
เชียร่า : เฮะๆ ไม่รู้เหมือนกันสิคะ เพราะกว่าโฟโตเนอร์หรืออาคส์จะพัฒนามาได้ขนาดนี้นั้น ชิออนเป็นตัวตนที่ขาดไม่ได้เลยหละค่ะ
ถ้ามนุษย์โลกออกสำรวจอวกาศแล้วเจอตัวตนแบบเดียวกับชิออนเข้า ก็อาจเป็นไปได้อยู่เหมือนกันนะคะ
ถ้ายังไงไว้เดี๋ยวคุยรายละเอียดกันทีหลังดีมั้ยคะ?
เอ็นกะ : ถ้าสาวสวยอย่างเธอชวนคุยกันสองต่อสองหละก็ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยินดีเสมอ
ฮิสึกิ : …......นี่พี่!
เอ็นกะ : เออๆ เข้าใจหรอกน่า.....ให้ตายเหอะ แกนี่จริงจังตลอดไม่เปลี่ยนเลยนะ
เอาหละ อาจจะช้าไปหน่อยเพราะเคยสู้ร่วมกันมาแล้ว แต่ยังไงก็ขอแนะนำตัวอีกครั้งละกัน
เอ็นกะหยิบบัตรประจำตัวแบบตำรวจขึ้นมาโชว์ให้พวกเราดู
เอ็นกะ : สมาชิกองค์กรต่อต้านมาเธอร์คลัสเตอร์ [เอิร์ธไกด์] สาขาฝั่งตะวันออกไกล (極東支部所属 Kyokutou shibu shozoku) ยาซากะ เอ็นกะ แล้วก็...........
ยังเป็นพี่ชายของยัยบ้าโคตรจริงจังคนนี้ด้วย (เอามือไปวางบนหัวฮิสึกิ) จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยแล้วกัน
เรา : อื้อ ยินดีต้อนรับ (เราพยักหน้าตอบกลับเบาๆ)
อารุ : พี่ชายของพี่?
เอ็นกะ : เอ้อ ใช่แล้ว
อารุ : งั้นก็เป็นพี่ชายของผมด้วยน่ะสิ?
เอ็นกะ : โอ้ว เชิญเรียกตามสบายเล้ย
อารุ : พี่จ๋า!
เอ็นกะ : ไอ้น้องชาย!
อารุโผเข้าไปกอดเอ็นกะ ฮิสึกิเลยทำหน้าบึ้ง
ฮิสึกิ : ….....มู่!
เอ็นกะ : อะไรฮิสึกิ อิจฉาเรอะ?
ฮิสึกิ : อิ อิจฉาที่ไหนกันเล่า! ที่สำคัญอธิบายเรื่องราวมาซะทีสิ
เอ็นกะ : ถึงจะบอกให้อธิบายก็เถอะ.........ก็แค่พวกเราเป็นศัตรูกับมาเธอร์ เป็นพันธมิตรกับอาคส์ ยังมีอะไรที่ต้องอธิบายมากกว่านี้อีกเหรอ?
ฮิสึกิ : บอกแค่นั้นจะไปรู้เรื่องได้ไงเล่า! อธิบายอย่างเช่นทำไมถึงไปเป็นศัตรูกับมาเธอร์แบบเนี๊ยะ ไม่ก็อธิบายว่าไอ้เอิร์ธไกด์นี่มันเป็นยังไงกันแน่
เอ็นกะ : …...เอเทลอินฟราน่ะถูกดูแลแล้วก็ควบคุมโดยมาเธอร์คลัสเตอร์
พวกมันน่ะควบคุมเน็ตเวิร์คซึ่งเปรียบดั่งหัวใจของยุคแห่งข้อมูลข่าวสารสมัยนี้อยู่ เพราะงั้นไม่ว่าประเทศไหนก็ยื่นมือมายุ่งไม่ได้
ถ้าหากพวกมันอยากทำลายโลกหละก็ง่ายนิดเดียว แค่สั่งยิงมิซไซล์จากทั่วโลกพร้อมๆ กัน เพียงแค่นั้นโลกก็ล่มสลายแล้ว
แล้วองค์กรที่ไม่ยอมปล่อยให้มาเธอร์ตั้งตนเป็นผู้ครอบครอง นั่นก็คือเอิร์ธไกด์
เป็นองค์กรที่คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของมาเธอร์คลัสเตอร์ หาวิธีขัดขวาง แล้วก็ติดต่ออาคส์โดยตรงยังไงล่ะ
…...เพราะแบบนั้น ปกติเลยต้องพยายามทำตัวไม่ให้สะดุดตาพวกมาเธอร์คลัสเตอร์ยังไงล่ะ
ฮิสึกิ : หมายความว่า ที่ห้องของพี่โดนระเบิดไปก็เพราะความแตกว่าเป็นเอิร์ธไกด์สินะ? …......โถ่เอ้ย ทำตัวเองชัดๆ เลยนี่
เอ็นกะ : ยัยโง่ นั่นมันเพราะแกทรยศมาเธอร์ต่างหาก พวกมันเลยเอาข้อมูลส่วนตัวของชั้นไปตรวจสอบจนความแตกไงเล่า แต่แรกเริ่มเดิมทีมันก็เกิดมาจากความผิดของแกนั่นแหละ
ฮิสึกิ : งือๆๆๆ....! (ฮิสึกิได้แต่กัดฟัน เพราะเถียงไม่ออก)
เอ็นกะ : เอาเถอะ เดิมทีชั้นก็ไม่ได้คิดจะปกปิดตัวตนอะไรด้วยสิ เพราะแบบนี้เลยทำให้ตกตัวปัญหาตัวใหญ่ได้ ถือว่าผลลัพธ์ออกมาดีก็แล้วกัน
ตอนนี้พวกมาเธอร์คลัสเตอร์ส่วนใหญ่ก็โผล่มาหน้าฉากกันแล้ว ฝั่งเอิร์ธไกด์เองก็ต้องเริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกัน
เป้าหมายหลักคือต้องการเป็นพันธมิตรร่วมต่อสู้ไปกับอาคส์
และอีกไม่นานก็ตั้งใจจะจัดประชุมร่วมกันกับอาคส์
เพื่อการนั้นก็เลยเลือกชั้นให้เป็นคนติดต่อกับอาคส์ เพราะแบบนั้น ก็ขออยู่ที่นี่ด้วยสักระยะแล้วกัน
ฮิสึกิ : เก๊ะ!!
เอ็นกะ : อะไรกานฮิสึกิ ดูดีใจจังน้า
ฮิสึกิ : เห็นแบบนี้แล้วยังคิดว่าดีใจเนี่ย ตามีปัญหาแล้วหละมั้ง
เอ็นกะ : ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกน่า ยังไงก็เป็นครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวไม่ใช่รึไง มามะๆ มาให้พี่ชายกอดอย่างรักใคร่ดีกว่ามะ?
ฮิสึกิ : ….....บ้า~~~เรอะ! ชั้นจะไปเดินเล่นแล้ว ไปกันเถอะอารุ!
อารุ : อ้า รอเดี๋ยวสิพี่จ๋า!
แล้วทั้งสองคนก็ออกไปข้างนอก
เอ็นกะ : เป็นพวกไม่รับมุขเลยนะ...........เอาเถอะ ออกไปก็ดีแล้ว
….......ถ้างั้นก็ขอขอบคุณอย่างเป็นทางการอีกครั้งละกัน ขอบคุณที่ช่วยเหลือฮิสึกิมาตลอด ในฐานะพี่ชาย ผมขอขอบคุณจากใจจริงเลย
แล้วเอ็นกะก็โค้งคำนับเรา
เอ็นกะ : ถึงจะเป็นพวกวู่วามบ้าบิ่น หรือทำตัวบ้าเกินเยียวยาไปหน่อย...........แต่นั่นก็เป็นน้องสาวผมหละนะ
พวกเธอเป็นผู้มีพระคุณของน้องสาว เพราะงั้นขอขอบคุณจริงๆ
--------------------------------------------
สิ่งสำคัญคือตาที่คอยสังเกตการณ์
เรากับเอ็นกะออกจากห้องก็มาจ๊ะเอ๋กับลิซ่าที่เดินขึ้นมาพอดี (แปลกมากที่เดินขึ้นมา)
ลิซ่า : โอยะๆๆๆ? มีคนที่ให้ความรู้สึกแปลกๆ โผล่มาอีกแล้วเหรอคะนี่
ฮ้า ให้ตายสิรินซังเนี่ยหาเพื่อนแปลกๆ น่าสนใจเพิ่มได้เรื่อยๆ แบบนี้น่าอิจฉาจริงๆ
แบ่งให้ลิซ่าหน่อยได้รึเปล่าค้า? ไอ้ความรู้สึกยอดเยี่ยมปนลึกลับเนี่ย อยากจะลองยิงมากมายเลยค่า~
เอ็นกะ : โอะ โอ้ย ริน คนๆ นี้มันยังไงกันเนี่ย
เรายังไม่ทันตอบลิซ่าก็ตอบให้แทน
ลิซ่า : ลิซ่าก็คือลิซ่าไงคะ ยินดีที่ได้รู้จักน้า~
ลิซ่ายื่นมือออกมา เอ็นกะก็จับมือพร้อมแนะนำตัวแบบกล้าๆ กลัวๆ
เอ็นกะ : อะ อ้า ผมเอ็นกะ ยินดีที่ได้รู้จัก
ลิซ่า : หึ ฮึๆๆๆๆๆ ระวังตัวจังนะคะ ไม่ต้องห่วง ลิซ่าไม่ทำอะไรหรอกค่า
จะว่าไปคุณเนี่ยเป็นคนใช้ปืนสินะ? ยิ่งกว่านั้น เป็นสไนเปอร์งั้นสิ เนอะ!?
เอ็นกะ : …........ทำไม...ถึงคิดแบบนั้นล่ะ
ลิซ่า : ก็ตอนที่ระวังลิซ่าน่ะ ชั่วจังหวะหนึ่งคุณใส่แรงไว้ที่เท้ามากที่สุดใช่มั้ยล่ะ? นั่นเพื่อเตรียมจะถอยทิ้งระยะห่างสิน้า~
แต่ว่ามือเองไม่มีการขยับเป็นพิเศษ แถมยังไม่ได้พกปืนมาด้วย แสดงว่าคงใช้การสร้างปืนเอางั้นสิเน้อ?
เอ็นกะ : แค่จับมือแป๊บเดียวก็ความแตกหมดเลยเหรอเนี่ย?
ลิซ่า : ฮะๆๆ สิ่งสำคัญของสไนเปอร์คือดวงตาที่คอยสังเกตค่ะ ถ้าทำให้เกิดความรู้สึกกดดันได้ ในสนามรบนั้นจัดเป็นความสามารถที่สำคัญมากทีเดียว
อ๊า! ไม่ได้แล้วๆ! พอเจอคนที่มีกลิ่นแบบเดียวกันเลยเผลอคุยอยู่ซะนาน!
ถ้างั้นลิซ่าขอตัวก่อนนะค้า~ ต้องรีบไปที่โลกแล้วไปหาเผ่ามายาแสนลึกลับ อยากจะไปยิงๆๆๆ แล้วก็ฆ่าให้ได้เยอะเย้อ~เลยอะน้า
อ๊า ความรู้สึกที่ได้ยิงมันนุ่มนิ่มแต่กดดัน รู้สึกแย่แต่ก็รู้สึกดีมากๆ เลยหละ หึๆๆ ฮุๆๆๆๆๆ
แล้วลิซ่าก็เดินจากไป
เอ็นกะ : ….....นี่ อาคส์เนี่ย ยิ่งเป็นพวกเพี้ยนๆ ยิ่งเก่งรึเปล่านี่?
เรา : มู่........ไม่ใช่สักหน่อย
---------------------------------------------
ไม่ว่าใครเริ่มแรกก็เป็นมือสมัครเล่นทั้งนั้น
หลังแยกย้ายกับเอ็นกะเราก็มองมาเห็นฮิสึกิกำลังโดนคาโทริหลอกลวงอยู่
คาโทริ : ไม่ต้องห่วงๆ เริ่มแรกไม่ว่าใครก็เป็นมือสมัครเล่นทั้งนั้นแหละ แต่พอพรุ่งนี้ก็จะเป็นผู้มีประสบการณ์ แล้วก็เป็นผู้มากประสบการณ์ในที่สุด! ไม่ว่าอะไรก็ต้องลองหัดก่อนทั้งนั้นเจ้าค่ะ
เพราะฉะนั้นแค่ครั้งเดียว ถึงจะคิดว่าโดนหลอกก็ได้แต่ช่วยลองบาวน์เซอร์สักครั้งด้วยเถอะค่ะ!
ฮิสึกิ : ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ว่าชั้นน่ะ............
คาโทริ : นี่ค่ะๆ ตอนนี้ดิฉันมีดูอัลเบลดที่ใช้สุดแสนง่ายดายอยู่ด้วย (ควักดาบขึ้นมาโชว์ด้วย) มันสะดวกมากเลยนะค้า
ฮิสึกิ : วิธีชักชวนมันไม่พิลึกไปหน่อยรึไง! แล้วก็ชั้นไม่ได้เป็นอาคส์นะ จะไปลองคลาสนั้นก็คงไม่ได้เรื่องอะไรหรอก.........
แล้วเราก็เดินมายุ่งเรื่องชาวบ้านตามปกติ
ฮิสึกิ : อ๊ะ! ริน ชะ ช่วยทีสิ!
คาโทริ : อ๊า ท่านริน! คุณหนูคนนี้เป็นคนรู้จักของท่านสินะคะ
อ๊ะ ถ้าอย่างนั้นคุณก็น่าจะลองเป็นบาวน์เซอร์ดูหน่อยนะคะ
เพราะยังไงก็เป็นคลาสที่ท่านรินสร้างขึ้นมาเลยนะคะ
คาโทริ : เอ๊ะ! จริงเหรอ?
ซากะ : โกหกทั้งเพ!
คาโทริ : ซากะซัง! ช่วยตามน้ำหน่อยสิ!
ซากะ : ไม่ปล่อยให้โกหกหรอก
คาโทริ : อะแฮ่ม......ผู้สร้างอาจจะพูดเกินไปหน่อย แต่บาวน์เซอร์น่ะมีท่านรินสนับสนุนอยู่นะคะ นี่ไม่ได้พูดเกินเลยแล้วนะ!
ฮิสึกิ : …....จริงเร้อ?
คาโทริ : เนอะๆ ใช่สินะคะ
เรา : ผู้สนับสนุนบาวน์เซอร์มีอยู่ 2 คนน่ะ
คาโทริ : กะ ก็~ จริงอย่างที่ว่าอยู่น่ะค่ะ
แต่พอมาบอกกันตรงๆ แบบนี้ก็เขินเหมือนกันนะคะซากะซัง
ซากะ : อ้า มีฉันกันริน 2 คนน่ะ
คาโทริ : ซากะซัง!!?
แล้วคาโทริก็ทำคอตก
ซากะ : ถ้าเผยแพร่ให้อาคส์ทุกคนรู้จักบาวน์เซอร์ก็จะปลอดภัย เห็นพูดอยู่แบบนี้น่ะนะ..........
แต่เรื่องนั้นน่ะเกิดขึ้นไม่ได้จากพลังของคนๆ เดียวหรอก เพราะความร่วมมือของริน หรือผลกระทบที่เกิดมาจากคาโทริก็เป็นส่วนช่วย ตรงนี้ฉันเองก็ยอมรับเหมือนกัน
คาโทริ : ซากะซัง............(เสียงสะอื้น)
….......หือ? แค่ผลกระทบอย่างเดียว ก็หมายความว่าดิฉันแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย ประมาณนั้น?
อารุ : พี่จ๋า.......ตกลง มันหมายความว่าไงเนี่ย?
ฮิสึกิ : ก็หมายความว่าพี่สาวคนนี้พูดโกหกไม่ใช่รึไง?
คาโทริ : โหดร้าย!
ซากะปล่อยทั้ง 3 คนฟาดปากกันแล้วเดินมาคุยกับเราค่อยๆ
ซากะ : 2 คนนั้นไม่ใช่อาคส์สินะ?..............หมายความว่าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายอีกแล้วสิ
เรา : ก็นิดหน่อยแหละค่ะ
ซากะ : ก็ไม่ได้คิดจะห้ามหรอกนะ เพราะการที่เธอเป็นพวกชอบช่วยเหลือคนอื่น ก็ทำให้คาโทริตั้งใจทำงานตามอย่างบ้าง ปล่อยไว้แบบนี้ก็คงจะดีหละนะ?
เรา : ก็คงอย่างงั้นมั้ง
--------------------------------------------
อาคส์กับเอิร์ธไกด์
หลังจากนั้นเราที่เดินขึ้นมาเขตร้านค้าก็เห็นเอ็นกะเดินวนอยู่หน้าร้านประหนึ่งคนไม่มีตังค์เลยเข้าไปทัก
เอ็นกะ : อื่ม.............ได้ยินมาว่าแถวนี้นี่นะ..............
เรา : เดินทำท่าคิดมากอะไรอยู่เนี่ย?
เอ็นกะ : โอ๊ะ รินเองเรอะ เห็นแม่นั่นแถวนี้บ้างมั้ย?
เรา : แม่นั่น? ใครหละนั่น?
เอ็นกะ : แม่นั้นก็....คนนั้นไง.....เอ่ ชื่ออะไรว้า.........
ไอกะ : ไอกะไง
นางเอกปรากฏกาย~~~~! อ๊า อยากลูบหัวฟู้ฟูนั่นจัง
เอ็นกะ : ใช่ๆ ไอกะ.....โย่ว ไม่ได้เจอกันนานนะไอกะ
ไอกะ : นั่นสินะ ไม่นึกว่าจะได้มาเจอกันอีกครั้งบนยานอาคส์นี่เหมือนกัน ยาซากะ เอ็นกะ
เรา : {จำชื่อไม่ได้เนี่ยสมองปลางทองรึไงนะ หมอนี่}........ทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนเหรอ?
เอ็นกะ : ก็นะ.......เจอกันครั้งแรกประมาณ 1 ปีก่อนหละมั้ง?
ไอกะ : ก็เป็นตอนที่ฉันไปปฏิบัติภารกิจที่โลก........คำนวณเวลาดูก็คงราวๆ นั้นแหละ
เอ็นกะ : ก็เคยบอกไปใช่มะว่าโลกกับอาคส์น่ะเคยติดต่อกันมาก่อน ก็นี่ไงๆ
ไอกะ : ตอนที่ไปอาศัยอยู่ที่โลก หรือบอกว่าไปทำภารกิจที่นั่น ก็ได้เอิร์ธไกด์ช่วยอำนวยความสะดวกให้หลายเรื่องเหมือนกัน
แล้วเอิร์ธไกด์ที่คอยติดต่อประสานงานกับฉันก็คือ............
เอ็นกะ : ชั้นเองนี่แหละ เพราะว่าอยู่ติดกับโรงเรียนที่ไอกะเข้าไปอยู่พอดี
โรงเรียนที่ไอกะเข้าไปคือ โรงเรียนเซก้า ซึ่งเป็นโรงเรียนในเครือเดียวกับ โรงเรียนเท็นเซย์ ของชั้น
ไอกะ : ที่โรงเรียนเซก้าเองก็มีเรื่องหลายๆ อย่างเกิดขึ้น ภารกิจที่โลกล้วนเป็นความทรงจำที่สำคัญยิ่ง......ของฉันเลยหละ
เอ็นกะ : การที่ได้มาพบกันที่นี่ก็คงเพราะสายสัมพันธ์บางอย่างแน่ๆ แล้วการได้เจอคนคุ้นหน้าก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นด้วยหละนะ
ถ้างั้นขอฝากตัวอีกรอบละกันนะไอกะ
ไอกะ : อ้า ทางนี้เองก็ขอฝากตัวด้วยเหมือนกัน
แล้วทั้งคู่ก็จับมือกัน
--------------------------------------------------
วิธีเรียกรุ่นพี่
หลังแยกกับพวกเอ็นกะ เราก็แวะมาหาน้องโอซึ่งอยู่ใกล้ๆ โดยมีฮิสึกิยืนคุยอยู่ด้วย (ส่วนอารุยืนประกอบฉากเฉยๆ)
ฮิสึกิ : อ๊ะ ริน! ทางนี้กำลังคุยเรื่องเกี่ยวกับเธออยู่พอดีเลย มาคุยด้วยกันสิ!
เรา : เอ๋~ ให้คุยเรื่องตัวเองเนี่ยนะ........นะ น่าอายออก
อิโอ : จะคุยเรื่องรุ่นพี่ แต่ชวนรุ่นพี่มาด้วยเนี่ย.......ฮิสึกินี่ไม่รู้จักกลัวเลยนะ
ฮิสึกิ : ทำเป็นพูดไป อิโอเองก็อยากเจอรินใช่มั้ยล่า? หน้ามันฟ้องอยู่นา~
อิโอหลบหน้าแก้เขิน
อิโอ : ….....มู่
พอหาหัวข้อบ่ายเบี่ยงได้อิโอก็เริ่มถามฮิสึกิแบบติดอ่างนิดๆ ทันที
อิโอ : …......จะ จะว่าไปทำไมฮิสึกิถึงเรียกรุ่นพี่ห้วนๆ แบบนั้นล่ะ?
ฮิสึกิ : หือ.....เอ๊ะ? จะว่าไป...? ตอนที่เจอกันตอนแรก รวมถึงเชียร่าด้วย ก็เรียกต่อท้ายด้วย [ซัง] อยู่นี่นะ..........
เลิกเติมไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ.......ตอนที่ตะโกนเรียกไปแบบไม่ทันตั้งตัว รึเปล่านะ?
อิโอ : ถึงพวกเราจะเรียกรุ่นพี่แบบห้วนๆ เหมือนกันอยู่ก็เถอะ แต่ฮิสึกิน่าจะเรียกรุ่นพี่แบบให้ความเคารพสักหน่อยดีกว่ามั้ย? เป็นถึงคนที่ช่วยชีวิตเอาไว้นี่?
ฮิสึกิ : จะว่าไปก็จริงอย่างที่อิโอพูดนะ........งั้นก็มาเลือกกันเถอะ!
อิโอ : เลือกงั้นเหรอ?
ฮิสึกิ : รินอยากให้ชั้นเรียกแบบไหนล่ะ บอกมาได้เลย
แต่จะให้กลับไปเรียก ซัง มันก็ยังไงอยู่ เอาเป็น [ท่าน] (様 sama) หรือว่า [ราชา] (王 ou) หละว่าไง....?
เรา : เอ๋~~! {น่าอายทั้งคู่เลยอะ แต่อยากเห็นรีแอคชันเหมือนกัน}
อิโอ : ฮิสึกินี่เห็นรุ่นพี่เป็นตัวอะไรกันแน่หละนั่น
เรา : งั้นเอาเป็น ท่าน ละกัน
ฮิสึกิ : งี้นี่เอง ท่าน งั้นเหรอ
ฮิสึกิตั้งท่าคล้ายถอนสายบัว ส่วนอารุก็ทำตามประหนึ่งหางเครื่อง (ในภาพคนพูดต้องเปิดฮิสึกินะ ไม่ใช่อิโอ ไม่รู้จะออกแพชแก้ชื่อผิดเรึเปล่า)
ฮิสึกิ : ท่านรินเจ้าขา~
เอ๊ะ จะว่าไปเหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนเนี่ยแหละ?
อิโอ : …...คาโทริซังสินะ
ฮิสึกิ : จะว่าไปมันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดีหละน้า
เรา : (ชักสนุกแล้วสิ) งั้นลองเรียก ราชา แบบที่เสนอมาล่ะ เป็นไง?
ฮิสึกิ : เข้าใจแล้ว ราชา สินะ
ฮิสึกิตั้งท่าโค้งคำนับ ประหนึ่งพ่อบ้าน ส่วนอารุก็ทำตามประหนึ่งหางเครื่องเหมือนเดิม {ว่าแต่นั่นมันท่าคำนับพระราชาประเทศไหนน่ะ?}
ฮิสึกิ : ท่านราชารินของข้าน้อย........เป็นไงฟังดูรู้สึกดีมั้ย?
เรา : กะ.....ก็ดีมั้ง {น่าอายชะมัด}
อิโอ : ….....ไม่รู้สึกว่ามันออกจะน่าอายเกินไปหน่อยเหรอ?
เรา : ….....มู่ {ก็น่าอายอยู่หรอก แต่มาพูดตรงๆ แบบนี้มันก็........ต้องเอาคืน}
ฮิสึกิ : เหรอ? แต่สไตล์ยุคกลางแบบนี้ชั้นชอบนะ.........แต่มันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดีแหละนะ
เรา : อ๊ะ งั้นเรียก รุ่นพี่ (センパイ senpai) แทนดีมั้ย
อิโอ : งะ เดี๋ยวสิ.......?! (อิโอสะดุ้งโหยงทันควัน)
ฮิสึกิ : รินเซนปาย~~! แบบเนี้ยะเหรอ? รู้สึกมันออกแนว maniac ไปหน่อยนะ (maniac มา-นิ-แอ็ค พวกคลั่งหรือคลั่งไคล้ในบางเรื่อง คนยุ่นจะมองว่าอาการหนักกว่าโอตาคุ(แค่ระดับหลงไหล)ไปอีกขั้นนึง)
อิโอ : มะ..ไม่ ไม่ใช่สักหน่อย รุ่นพี่ก็เป็นรุ่นพี่นั่นแหละ
ฮิสึกิ : แต่เอาจริงๆ ก็รู้สึกแปลกอยู่ดีแหละ สรุปว่าเติมซังคงดีที่สุด..........รินซัง งั้นเหรอ.........
อิโอ : ….......ถึงอาจฟังดูไม่ดีถ้าบอกไปก็เถอะ แต่ดูเหมือนคงจะช้าไปที่จะเปลี่ยนแล้วหละมั้ง
เรา : ก็คงงั้นแหละ
ฮิสึกิ : เฮอะ ช่างมันแล้ว เรียกห้วนๆ แบบที่ผ่านมานั่นแหละดีสุดแล้ว
------------------------------------
คำถามตรงไปตรงมา
หลังคุยเสร็จพวกเราก็พากันกลับมาที่ห้องบังคับการ ฮิสึกิยืนโม้กับเชียร่าแบบไม่มีเสียงให้เราได้ยิน แล้วอยู่ดีๆ อารุก็ถามคำถามสุดจี๊ดขึ้นมา
อารุ : งานของเชียร่าคืออะไรเหรอ?
เชียร่า : ยะ อยู่ๆ ก็ถามแบบนี้ มีอะไรงั้นเหรอคะอารุคุง?
อารุ : อย่างงานของรินกับพี่น่ะคือไปที่โลกแล้วก็ต่อสู้ใช่มั้ยล่ะ?
ฮิสึกิ : ของชั้นก็ไม่เชิงซะทีเดียวแต่ของรินคงใช่แหละ
อารุ : เชียร่าไม่ต้องไปก็ได้เหรอ? หรือที่นั่งพูดอยู่ที่นี่ก็เป็นงานเหรอ?
เชียร่า : ฮือ~ๆ ฟังจากที่อารุคุงพูดแล้ว เหมือนว่าชั้นเอาแต่นั่งอู้อยู่ในนี้ไม่ใช่รึไงคะเนี่ย~~........!
เรา : อ้าว ไม่ใช่งั้นเหรอ?
เชียร่า : เดี๋ยวเถอะรินซัง! พูดแบบนี้เดี๋ยวอารุคุงก็เชื่อหรอก! ช่วยฟอลโลกันหน่อยสิคะ!
เรา : อะฮะฮะ ล้อเล่นหน่อยเดียวน่า........ไม่ใช่หรอกอารุ เชียร่าก็มีงานของตัวเองอยู่นะ
เชียร่า : Nice-desu รินซัง! ฟังให้ดีนะคะอารุคุง ชั้นเองก็มีงานของชั้นอยู่นะคะ
อารุ : งานของเชียร่า?
เชียร่า : ที่จริงสมญานามของชั้นคือ “ไฮแคสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานบริหารจัดการ” (演算特化管理用ハイ・キャスト Enzan toku-ka kanri-you Hai-Cast) มีหน้าที่คอยคำนวณและบริหารจัดการยานอาคส์ค่ะ
เป็นคนคอยจัดสรรและอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยบนยาน อีกทั้งเป็นคนกระจายข้อมูลข่าวสารให้กับชาวอาคส์อีกด้วยค่ะ
อารุ : เป็นแบบนี้นี่เอง............ถึงมองด้วยตาแล้วเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้นก็เถอะ
เชียร่า : ช่างเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงใจเหลือเกินค่ะ.........แต่ ถึงจะเห็นแบบนั้นแต่ชั้นเนี่ยขยันทำงานมากเลยนะคะ เอะเฮ่ม!
เชียร่าทำท่าท้าวเอวเหมือนทุกที ฮิสึกิได้ยินเรื่องงานแล้วเลยถามต่อบ้าง
ฮิสึกิ : จะว่าไปตอนนี้ก็น่าจะมีอาคส์ที่ออกปปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่ใช่เหรอ.......ไม่ซัพพอร์ตเค้าจะดีเหรอ?
เชียร่า : ฮึฮื่ม~ อย่าดูแคลนชั้นมากไปนะค้า~ ถึงจะจัดการงานพร้อมกันมากมายก็สบายหายห่วงค่ะ
ถ้าเป็นการคำนวณเรื่องงานบริหารจัดการหละก็ชั้นเองก็ไม่แพ้เชาหรอกนะคะ........ถึงเรื่องอื่นจะแพ้หมดรูปก็เถอะ - -!
แล้วก็ การมาพูดคุยกับทุกคนแบบนี้ก็ถือเป็นงานของชั้นเหมือนกันนะคะ
ผู้บริหารจัดการคนก่อน............โฟโตเนอร์น่ะ ได้ทิ้งหัวใจของความเป็นมนุษย์ ใช้งานทุกสิ่งเหมือนเป็นเพียงตัวหมาก แล้วผลลัพธ์ของมัน ก็คือการล่มสลายของระบบงานทั้งหมด (ตรงนี้ใช้คำว่า 体制 ที่แปลว่า system คงเพราะเชียร่ากำลังพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องระบบงานเฉยๆ)
หัวใจของคนนั้นอ่อนไหวได้ง่ายเหมือนเป็นจุดอ่อน แต่บางเวลาก็เป็นได้ดั่งอาวุธที่ส่องแสงแพรวพราว..........
ถึงชั้นจะเป็นผู้บริหารจัดการ แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นคนที่มีหัวใจค่ะ ไม่ใช่เพียงให้ข้อมูล แต่ต้องการสื่อใจถึงกับทุกคนและเป็นพลังให้ค่ะ
…........เพราะฉะนั้นชั้นถึงชอบคุยกันเจี๊ยวจ๊าวไงคะ เอ้าทุกคนมาคุยเรื่องไร้สาระกันต่อเถอะค่ะ
ฮิสึกิทำคอตก
ฮิสึกิ : ถ้าไม่มีไอ้ประโยคสุดท้ายนั่นก็จบได้สวยแล้วแท้ๆ
เรา : นั่นสินะ
--------------------------------------
สถานะตอนนี้ของคูน่า
วันถัดมายังไม่มีการติดต่อจากเอิร์ธไกด์เข้ามา เราเลยออกมาเที่ยวเล่นคนเดียวบ้าง
เรา : สวัสดีตอนเช้าจ้า~ คูน่า
คูน่า : อะเระ! รินมาคนเดียวนี่มีอะไรรึเปล่า?
อ๊ะ รู้แล้ว! ตั้งใจมาเพราะอยากเจอชั้นเลยใช่ม้า~? แหม่ เป็นไอดอลชื่อดังนี่ลำบากจังน้า~
เรา : …...ตามนั้นแหละ
คูน่า : …....พูดตอบเสียงทื่อๆ มาแบบนั้น ให้ความรู้สึกยังกะถูกต่อยสวนกลับมา เจ็บชะมัดเลยอะ
…......จริงสิ ถ้าเป็นรูปลักษณ์แบบนี้คงทำให้ตกใจขึ้นบ้างรึเปล่านะ
แล้วคูน่าก็พรางตัวหายไป จากนั้นก็มาโผล่ข้างหลังเราในอีกลุคนึงแทน
คูน่า : ….....เป็นไงคะ รู้สึกตกใจนิดๆ รึเปล่า?
เรา : ก็ไม่นะ เพิ่งเจอกันในห้องบังคับการไปเองนี่
คูน่า : ที่จริงช่วงนี้ไม่ค่อยมีโอกาสอยู่ในสภาพนี้เท่าไหร่น่ะค่ะ..........ยิ่งระยะนี้เหมือนอยู่ในสภาพถูกปฏิเสธงานยังไงยังงั้น
ถึงชั้นอยู่ในกรอบการทำงานของ 3 วีรชนคาสึระ มีหน้าที่เป็นรองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองก็เถอะ แต่นั่นก็แค่ในนาม เพราะงานที่ให้ชั้นทำก็มีแต่งานเอกสารกับส่งข้อความเท่านั้นเอง
….......ให้พูดตามตรง ตอนที่ชั้นได้ยินว่าคุณจะกลับมานั้น ชั้นกลัวมากเลย.......
ว่าบางที ผลข้างเคียงของไมอาจทำให้ตัวตนของชั้นถูกลืมไป....น่ะ
แต่ว่าไม่เป็นไรแล้วหละ ทั้งคุณแล้วก็ทุกคนต่างไม่มีใครลืมตัวตนของชั้น
เรา : ไม่มีทางลืมอยู่แล้วหละ
คูน่า : เพียงเท่านี้.........ชั้นเองก็ไม่จำเป็นต้องฝืนสู้ต่อแล้ว เพราะว่าคุณกลับมาแล้วนี่เนอะ
และที่สำคัญกว่านั้น.............
แล้วคูน่าก็เปลี่ยนลุคกลับมาเป็นเวอร์ชันไอดอลแบบเดิม
คูน่า : ยิ่งกว่าการต่อสู้แล้ว ชั้นน่ะชอบร้องเพลงเต้นรำ สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่สุดเลยหละ
ไอดอลของทุกคนคูน่าน่ะเป็นอมตะนิรันดร์กาลน้า~ เพราะฉะนั้นริน จากนี้ไปก็ช่วยเชียร์ชั้นด้วยนะ
มีขยิบตาวิ้งให้เราด้วย เราก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ โดยไม่ได้บอกความในใจออกไป
เรา : จ้าๆ {ทุกคนไม่ลืมเธอหรอก แต่คนจัดคอนเสิร์ทคงลืมเธอไปแล้วหละ}
-----------------------------------
เจออาคส์น่าสงสัยแล้วค่ะ!
ตกบ่ายเราที่ออกไปเที่ยวเล่นหาเงินก็ถูกเสียงดังโหวกเหวกทักเข้าให้ เจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครอื่น ยายพี่บ้าแห่งหน่วยข่าวกรองนั่นเอง
พาตี้ : เอ้า! สวัสดีหลังจากเงียบหายไปซะนาน! 2 ปีผ่านไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน หน่วยข่าวกรองอันดับหนึ่งของอาคส์ พี่น้องแฝดสาว พาตี้&เทียจ้า~~!
อื่ม~ ไม่มีอะไรเปลี่ยนจริงๆ แหละ สมงสมองยังคงเดิม
เทีย : ที่จริงก็เจอกันในเมืองหลายต่อหลายครั้งแล้วเนอะ มากล่าวทักทายกันแบบนี้อาจจะสายไปหน่อยก็เถอะเน้อ~
พาตี้ : วันนี้เรามาเพราะมีข้อมูลพิเศษสำหรับคุณโดยเพราะมานำเสนอ!
เรา : เอ๋ ไม่ใช่ว่าชั้นอาจรู้มาก่อนแล้วเหรอ
พาตี้ : อะไรกั้น อะไรกัน..........พาตี้&เทียของพวกเรานั้นรวดเร็วกว่าทุกคนอยู่แล้ว! เพราะพวกเราน่ะได้ไปคุยกับอาคส์น่าสงสัยโดยตรงแล้ว..ค่ะ!!
เทีย : จะบอกว่าน่าสงสัยก็เถอะ แต่ใครๆ เขาก็รู้ต้นตอว่าเป็นคนที่แอคเซสเข้ามาจากโลกกันแล้วหละ........
แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ได้อธิบายไปอยู่..........ตอนที่คุณยังอยู่ในโคลด์สลีปนั้น พวกเราเคยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่มาจากโลกด้วยค่ะ
พาตี้ : แหม่~ ที่จริงตอนนั้นชั้นก็คิดแล้วน้าว่าเป็นคนน่าสงสัยจริงๆ
เพราะไม่ว่าจะพูดด้วยเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นสนใจ หรือเต็มที่ก็แค่อ้าปากค้างแล้วก็ไปน่ะสิ (เพราะคนจากโลกคิดว่าเป็น NPC ปกติคงไม่มีคิดพิมพ์แชทกับ NPC อยู่แล้ว)
เทีย : นั่นเพราะพาตี้จังเอาแต่พูดเอาๆ อยู่ฝ่ายเดียวไม่ใช่รึไง อาการแบบนั้นน่ะไม่ว่าใครที่คุยด้วยก็เป็นทั้งนั้นแหละ
พาตี้ : หมะ-ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย!! ดูอย่างเธอคนนี้ยังตั้งใจฟังเลยอ่ะ เนอะ? เนอะ?!
เรา : …...............................อื้ม
พาตี้ : เห็นมะ “อื้ม” เลยนะ
เทีย : ….....เมื่อกี๊ เหมือนถูกฝืนใจให้ตอบเลยเนอะ
พาตี้ : แหม่ เวลาเจอคู่สนทนาที่ยอมฟังเนี่ย ยิ่งทำให้รู้สึกอยากทำงานข่าวกรองขึ้นไปอีกเนอะ
เทีย : ก็ เป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยนเลยน่ะค่ะ พวกเราเนี่ย
…......จะว่าไปพาตี้จัง แล้วผลลัพธ์หลังจากที่ไปพูดคุยกับคนที่มาจากโลกแล้วได้อะไรบ้าง รายงานสิ?
พาตี้ : เอ๊ะ? อื่~~ม นั่นสิน้า~~~~ ความรู้สึกมันแบบว่า แทบไม่ต่างอะไรกับพวกเรา ไม่มีความแตกต่างกันเลย
เทีย : …......ก็นะ ถึงตัวพาตี้จังจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็เถอะ แต่ที่บอกมานั้นมีความจริงที่น่าสนใจมากอยู่
จุดที่ว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย อวาตาร์ปลอมที่สมบูรณ์แบบที่ให้ผลลัพธ์การตรวจวิเคาระห์เหมือนอาคส์ทุกประการ
พาตี้ : เพราะงั้นอาคส์ที่ลงทะเบียนในปัจจุบันก็เลยต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด หรือที่เรียกว่า ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนประมาณนั้น
เทีย : ข้อมูลนั้นสามารถปลอมแปลงได้ แต่ถ้าสาวลึกลงไปก็สามารถเจอจุดที่ขัดแย้งกันได้น่ะค่ะ
…..........พอคิดแบบนั้นแล้ว ที่พาตี้จังเข้าไปคุยแบบไร้สมองนั่น ก็ไม่ใช่ว่าไร้ความหมายซะทีเดียวเนอะ
พาตี้ : รวบรวมข้อมูลได้รวดเร็วกว่าใครๆ นั่นคือหัวใจหลักของหน่วยข่าวกรองแหละนะ!
เทียมองพี่สาวด้วยสายตาเวทนาอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันมาคำนับเรา
เทีย : จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ
-----------------------------------
วิถีการดำเนินชีวิตของฮิสึกิ
วันรุ่งขึ้นพวกเราเข้ามาในห้องบัญชาการขณะที่เอ็นกะกำลังคุยกับเชียร่าอยู่
เอ็นกะ : โอ้ รินมาได้จังหวะพอดีเลย โทษทีนะแต่เธอช่วยเป็นตัวแทนของอาคส์แล้วไปด้วยกันหน่อยได้รึเปล่า
เรา : ตัวแทนเรื่องอะไร?
เอ็นกะ : ท็อปของพวกเราอยากพบเธอน่ะ ถ้ากำหนดสถานที่ได้เมื่อไหร่จะติดต่อมาอีกที
ฮิสึกิ : ไปพบตรงๆ เหรอ? แค่โทรคุยกันไม่สะดวกกว่าเหรอ?
เอ็นกะ : แค่โทรคุยมันมีหลายอย่างที่สื่อออกไปไม่ได้น่ะสิ อย่างการแสดงอารมณ์เงี้ย
การประชุมสำคัญๆ เนี่ย ให้มาพบหน้าพูดคุยกันมันจะทำให้การพูดคุยลื่นไหลกว่าน่ะ
ฮิสึกิ : อื~ม แล้ว จะไปที่ไหนล่ะ?
เอ็นกะ : ….....บอกไว้ก่อนเลยว่าแกน่ะอยู่เฝ้าบ้านนะ
ฮิสึกิ : เฮะ! ไมอ่ะ?!
เอ็นกะ : ก็เป็นมาเธอร์คลัสเตอร์ไม่ใช่เหรอ เอ็งน่ะ
ฮิสึกิ : นั่นน่ะ ออกมาแล้วย่ะ!
เอ็นกะ : งั้นก็ไม่เกี่ยวข้องแล้วหละนะ เพราะงั้นก็ไม่มีเหตุผลต้องพาไปนี่
ฮิสึกิ : อย่ามาทำเป็นเล่นลิ้นสิ! ชั้นตกเป็นเป้าของมาเธอร์คลัสเตอร์อยู่นะ ก็ต้องเป็นผู้เกี่ยวข้องสิ!
เอ็นกะ : ที่ตกเป็นเป้านะคืออารุ ไม่เกี่ยวกับแก แล้วก็ถ้าตกเป็นเป้าหละก็ซ่อนตัวอยู่แบบนี้ย่อมดีกว่าเห็นๆ เอ้าที่อธิบายไปเนี่ยมีอะไรผิดรึเปล่า?
ฮิสึกิ : ตะ แต่ว่า........ชั้นเองก็สู้ได้นะ.......
เอ็นกะ : ไม่ได้กำลังคุยกันว่าทำได้หรือไม่ได้ ชั้นกำลังบอกว่า พวกที่เตรียมใจแค่ครึ่งๆ กลางๆ น่ะอย่าได้มายุ่งให้มากกว่านี้
ฮิสึกิ : ครึ่งๆ กลางๆ เหรอ.......อะไรหละนั่น......!
เอ็นกะ : งั้นบอกมาฮิสึกิ เป็นหมายของแกคืออะไร?
แกต่อสู้ไปเพื่ออะไร? แกใช้พลังที่ได้มานั่นไปเพื่ออะไร?
ฮิสึกิ : เพื่ออะไร นั่นน่ะ..........มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย.........
ชั้นก็แค่อยากจะรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น.........แล้วก็..........
เอ็นกะ : รู้ไปแล้วยังไง? หลังจากรู้แล้วจะทำอะไร? ลึกๆ แล้วไม่ได้คิดอะไรเลยใช่มั้ย?
ไม่ใช่ว่าตัวเองอยากจะทำ แต่แกน่ะแค่ไหลไปตามกระแสรอบๆ ตัวเท่านั้นเอง
ฮิสึกิ : มะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ชั้นน่ะมาที่นี่ด้วยความต้องการของตนเอง แล้วก็อยาก.......ร่วมไปกับทุกคน......
เอ็นกะ : ก็บอกแล้วไงว่าไม่เกี่ยวกับทุกคน ทำไมถึงไม่เข้าใจสักทีนะแกน่ะ
ไม่เคยตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ตามกระแสคนรอบข้างไปเท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนที่มาเธอร์บอกอะไรก็ทำตามเลย
ฮิสึกิ : งั้น......งั้นพี่หละทำไมถึงไปเข้ากับเอิร์ธไกด์ ทำไมถึงต้องต่อสู้ล่ะ?!
เอ็นกะ : อึก........มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ชั้นกำลังพูดตอนนี้สักหน่อย
ฮิสึกิ : เกี่ยวอย่างยิ่งเลยหละ! มาทำเป็นอวดดีต่อว่าคนอื่น คิดว่าคงมีเหตุผลอันเลอเลิศอยู่สินะ อธิบายมาให้ละเอียดเลยดีกว่า!!
อารุ : หยุดนะ------!!!
อารุตะโกนจัดจังหวะดังลั่น
อารุ : หยุดได้แล้วทั้งสองคน! อย่าทะเลาะกันมากกว่านี้นะ!
อย่าพูดโดยไม่คำนึงถึงหัวใจของอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้ตัวเองเจ็บปวดเข้าไปอีก!
ฮิสึกิ : อารุ!
อารุ : ทั้งสองคนต่างก็คิดถึงกันและกัน แล้วทำไมต้องทะเลาะกันด้วย
ต้องดีกันสิ ถ้าไม่ดีกันหละก็.......ต้องน่าเศร้าแน่ๆ..........(อารุทำเสียงเหมือนจะร้องไห้)
เอ็นกะ : ฟู่............โทษที พอดีหัวร้อนไปหน่อยน่ะ
ฮิสึกิ : ชั้นเองก็........ขอโทษด้วยค่ะ
เชียร่า : อ๊า...........คือว่า............ที่ฮิสึกิซังถามเมื่อกี๊ เหตุผลที่เอ็นกะซังต้องต่อสู้คืออะไรเหรอคะ?
เอ็นกะ : ….......ชั้นน่ะมีสิ่งที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องให้ได้ เป็นสิ่งที่จะปล่อยให้เสียไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เพื่อการนั้นถึงได้เข้าเอิร์ธไกด์ ชั้นได้รับพลังมาเพื่อการนั้นเท่านั้น
ฮิสึกิ : สิ่งที่อยากปกป้อง.............
เอ็นกะ : ฮิสึกิ เธอน่ะต้องการจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องอารุ ปกป้องทุกคนอยู่รึเปล่า?
….........อย่าเพียงแค่หวั่นไหวไปกับอารมณ์ ไม่ใช่แค่คำพูด แต่ต้องคิดให้รอบคอบด้วย
ฮิสึกิ : ….........ขอโทษ.......ขอออกไปพักให้หัวเย็นลงหน่อยก่อน
ฮิสึกิเกินออกไปก่อนเอ็นกะเลยพูดกับอารุเบาๆ
เอ็นกะ : ช่วยไปอยู่ข้างๆ ยัยบ้านั่นทีนะ ฝากด้วยล่ะ
อารุพยักหน้าแล้ววิ่งตามออกไป
เรา : มองทะลุปรุโปร่งเลยนะ
เอ็นกะ : ….....ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แค่มองดูก็อยู่แล้วว่าใจของยัยนั่นคิดยังไงอยู่ ที่โกรธขนาดนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันได้หละนะ
เชียร่า : …......ถึงจะแค่พูดไป แต่เอ็นกะซัง ความสามารถของฮิสึกิซังน่ะสูงมากอยู่นะคะ
เอ็นกะ : ก็ต้องแน่อยู่แล้ว เพราะเป็นน้องสาวชั้นนี่นะ
เชียร่าหรี่ตา ให้อารมณ์ว่า “ดูหลงตัวเองจังเลยนะคะ” อยู่เลย
เอ็นกะ : แต่ที่เป็นปัญหาน่ะคือความมุ่งมั่นต่างหาก
เห็นบอกว่าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ยัยนั่นก็ได้แต่โลเลไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นเท่านั้น
ถ้าจะพูดให้แรงกว่านี้หน่อยก็ ยัยนั่นน่ะเคลื่อนไหวแบบไม่คิดไปตามคนที่ตัวเองเคารพแค่นั้นเอง
….........แต่ จะบอกว่าช่วยไม่ได้ก็คงช่วยไม่ได้ การดำเดินชีวิตของยัยนั่นหลังเสียพ่อแม่ไปน่ะก็ทำได้แค่ [ตัวเองจะเป็นที่ต้องการของคนรอบข้างรึเปล่า] แค่นั้นเอง
อาวุธแปรสภาพน่ะขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของผู้สร้าง ยิ่งมีความมุ่งมั่นแรงกล้าเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแสดงพลังออกมาได้มากขึ้นเท่านั้น
คนที่ความมุ่งมั่นเขวไปเขวมาอย่างฮิสึกิน่ะ มันเสี่ยงเกินไป
ชั้นเห็นคนที่ออกไปสู้แบบไม่เตรียมใจให้พร้อม แล้วต้องตายมานับต่อนับแล้ว เธอเองก็คงเคยเห็นเหมือนกันใช่มะ?
เชียร่า : …...เอ็นกะซังเนี่ย จะว่าไปก็ไม่เหมือนฮิสึกิซังอยู่อย่างนะคะเนี่ย? ตรงที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่ากันเยอะเลย
เอ็นกะ : ก็มีน้องสาวแบบนั้นนี่นะ ชั้นไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่คงไม่ได้หรอก
เชียร่า : แต่ว่า ปากไม่ตรงกับใจเนี่ยไม่ดีเลยนะคะ แค่บอกฮิสึกิซังไปว่าไม่อยากให้ต้องเข้ามาพัวพันก็คงจะดีแล้วแท้ๆ
เอ็นกะ : ช่างเหอะน่า
-----------------------------------
สัญญาของเอ็นกะ
หลังออกจากห้องมาสักพัก เอ็นกะก็ขึ้นมาชั้นบนเพื่อมองฮิสึกิจากไกลๆ โดยที่เราก็แอบตามมาด้วย
เอ็นกะ : ….....หือ อ้อ รินเรอะ เรื่องสถานที่ประชุมยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย ช่วยรออีกหน่อยนึงละกัน
เรา : ให้ความสำคัญกับฮิสึกิน่าดูเหมือนกันนะ
เอ็นกะ : …....ก็นะ เป็นครอบครัวที่เหลือเพียงคนเดียวนี่
พ่อแม่ของพวกเราน่ะเข้าไปพัวพันกับอุบัติเหตุแล้วก็เสียชีวิตไป หรือพูดให้ถูกคือเพราะเอาตัวเข้าปกป้องชั้นกับฮิสึกิตอนที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วก็เสียชีวิตไป
เรา : อุบัติเหตุอะไรเหรอ?
เอ็นกะ : เรื่องตอนนั้นจัดเป็นอุบัติเหตุใหญ่เลยหละ ห้างที่พวกเราไปนั้นอยู่ดีๆ ก็ถล่มลงมาจากภัยพิบัติ ผู้รอดชีวิตมีแค่ชั้นกับฮิสึกิเท่านั้น
จะบอกว่าเป็นผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหารย์ก็ดี หรือบอกว่าเป็นเพราะความรักของพ่อแม่ก็ดี เหล่าญาติที่ไม่รู้จักหน้า ต่างมาพูดอะไรทั้งน้ำตาออกหน้าทีวีซึ่งได้ดูตั้งหลายต่อหลายหน แต่ตอนนี้คงไม่มีใครจำได้แล้วหละ (หมายถึงพวกสมาคมสงเคราะห์รึเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจ มันพูดจับความลำบาก)
….........โอะ แต่เรื่องนั้นจะยังไงก็ไม่สำคัญแล้วหละนะ
และในช่วงเวลาสุดท้ายนั้น ชั้นก็ได้ให้สัญญากับพ่อแม่เอาไว้...........ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องยัยนั่นไว้ให้ได้
แล้วหลังจากเหตุการณ์นั้นความสามารถของชั้นก็ตื่นขึ้น จากนั้นเอิร์ธไกด์ก็มาหาชั้นแล้วชวนเข้าร่วมองค์กร
ไม่ว่าอะไรโผล่มาตอนนั้นก็ต้องคว้าไว้ก่อนอะนะ แล้วงานของเอิร์ธไกด์ก็เงินดีด้วย ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากเลยหละ
แล้วเพื่อจะสืบเรื่องของมาเธอร์คลัสเตอร์ชั้นจึงไปเข้าโรงเรียนนั้น.........โรงเรียนเท็นเซย์ แล้วหลังจากนั้นฮิสึกิก็ตามมา
ที่เข้าโรงเรียนเดียวกันก็ดีอยู่แหละ แต่ต่อจากนั้นดันไปเป็นมาเธอร์คลัสเตอร์เข้าให้นี่สิ.........บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นรู้สึกปวดตับสุดๆ เลยหละ (肝を冷や เพิ่งรู้ว่าที่เราเรียก ปวดตับ นี่คนยุ่นเค้าเรียก ตับ肝แข็ง冷や)
ถ้าชั้นมีพลังมากกว่านี้สักหน่อยคงพยายามกีดกันไม่ให้เป็นมาเธอร์คลัสเตอร์แล้วหละ
แต่ครั้งนี้ก็โชคดีที่ได้เธอมาช่วย ผลลัพธ์ตอนนี้ก็โอเคแล้วหละ
ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ก็คงปลอดภัยหละนะ
แล้วโทรศัพท์ของเอ็นกะก็ดังขึ้น
เอ็นกะ : เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะริน
เราพยักหน้าตกลง
-----------------------------------------------
ก็แค่......อยากรู้เท่านั้น........?
หลังจากที่พวกเราไปแล้ว ฮิสึกิก็ยังโวยวายระบายอารมณ์ต่อไป
ฮิสึกิ : ฮึ่มๆ! ไอ้พี่บ้า บ้าๆๆ~~! อะไรกันเล่าๆๆ ไม่เข้าใจความรู้สึกของชั้นเลยรึไง!
….......เข้าใจหรอกย่ะ ถึงไม่พูดก็เข้าใจ ที่ว่ากำลังลังเลอยู่น่ะ ตัวชั้นเองรู้ดีอยู่แล้ว!
อ๊า~ ยิ่งคิดทำให้หัวเย็นก็ยิ่งหงุดหงิด! จริงๆ เลยนะ ไอ้พี่บ้า~~~!!!
ฮิสึกิตะโกนเสียดังเสร็จก็ยังบ่นต่ออีก
ฮิสึกิ : ไม่มีเป้าหมายแล้วทำไมล่ะ! เรื่องแบบนั้นน่ะลุยๆ ไปเดี๋ยวมันก็คิดออกเองแหละ!............เฮ่อ~ เอ้าอารุเองก็บ่นอะไรบ้างสิ
อารุ : เอ๊ะ เอ๊ะ? แล้วพูดอะไรดีเหรอ?
ฮิสึกิ : อะไรก็พูดๆ ไปเถอะ!
อารุหันไปทางมอนิเตอร์ยักษ์แล้วตะโกนเสียงดัง
อารุ : …....ยะ อยากตัวโตขึ้นกว่านี้จาง~~~!!!
ฮิสึกิ : นั่นมันแค่ความปรารถนาไม่ใช่รึไง!!
??? : ฮึๆ
เสียงผู้หญิงหัวเราะดังมาจากด้านหลังพวกฮิสึกิ แม้ไม่ใช่เราแต่พวกฮิสึกิก็มองโฟกัสแต่ด้านล่างไม่ต่างกัน เพราะงั้นมาว่าเราหื่นไม่ได้แล้วนะ
ฮิสึกิ : อ๊ะ.....ขอโทษค่ะ โหวกเหวกกันไปหน่อย.....สินะคะ?
??? : เปล่าจ้ะ ไม่ต้องคิดมากหรอก ชั้นแค่ตามโฟตอนที่รู้สึกคุ้นเคยเลยบังเอิญมาอยู่ที่นี่แค่นั้นเอง
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนน่าสนุก เลยละสายตาไม่ลงน่ะจ้ะ..........ทางนี้เองก็ต้องขอโทษเหมือนกัน เอ้าเชิญต่อกันได้เลยจ้ะ
ฮิสึกิ : เปล่าค่ะที่จริงก็ไม่ได้อยากจะตะโกน.........ไม่สิ ที่จริงก็อยากตะโกนอยู่หรอก แต่มันไม่ใช่แบบนั้นอ้ะ.......
….......นี่ คุณเองก็เป็นอาคส์สินะ
มาโตอิ : อื้อ ชั้นชื่อมาโตอิจ้ะ แล้วพวกคุณล่ะ? ว่าไปแล้วก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยนะ
ฮิสึกิ : ชั้นฮิสึกิ ส่วนนี่อารุ.......พอดีเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเลยมาอยู่ที่นี่น่ะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะมาโตอิซัง
มาโตอิ : ฮึๆ เรียกชื่อห้วนก็ได้จ้ะ ฮิสึกิจัง
แล้วฮิสึกิจังเป็นอะไรรึเปล่า? รู้สึกได้ว่ามีเรื่องกลุ้มใจอยู่สินะ
ฮิสึกิ : อ่า ก็ นิดหน่อย............
มาโตอิ : เมื่อกี๊ที่ตะโกนออกมาเพราะมีเรื่องที่ทนไม่ได้อยู่ใช่มั้ยล่ะ? ระบายให้ชั้นฟังก็ได้นะ
ฮิสึกิ : …...ทำไม ต้องทำขนาดนั้นด้วยล่ะ
มาโตอิ : ชั้นน่ะเป็นคนประเภทที่ชอบเก็บอะไรต่ออะไรไว้เยอะไปหมด (溜め込んじゃう人 คนที่ชอบเก็บของไม่ได้ใช้เอาไว้ เช่นใบเสร็จ กล่องกระดาษ ซองจม. ฯลฯ จนรกไปหมด) เลยถูกดุอยู่บ่อยๆ เพราะงั้นก็เลยพอเข้าใจความรู้สึกน่ะจ้ะ (ว่าแต่ไอ้คนดุนี่คงไม่ได้หมายถึงเรานะ เพราะเราก็ขยะเต็มคลังเหมือนกัน -w-)
ฮิสึกิ : {….....ทำไมกันนะ ทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกแท้ แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสามารถคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องเลยเนี่ย}
…......งั้นมาโต ช่วยฟังเรื่องของชั้นหน่อยละกัน โอเคนะ?
มาโตอิ : อื้ม เรื่องอะไรก็ได้จ้ะ ชั้นน่ะชอบพูดคุยอยู่แล้วหละ
แล้วทั้งคู่ก็ไปนั่งคุยกัน
ฮิสึกิ : เธอน่ะทำไมถึงต่อสู้ล่ะ? เป้าหมายที่ทำให้เธอต้องสู้คืออะไรงั้นเหรอ?
มาโตอิ : เป้าหมายที่ทำให้ต้องสู้เหรอ......ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ?
ฮิสึกิ : “ก็แกมันไม่มีเป้าหมายในการต่อสู้” ถูกว่ามาอย่างนี้น่ะ........ถึงจะหงุดหงิดก็เถอะ แต่พอมานั่งคิดดูดีๆ แล้ว ก็นึกไม่ออกจริงๆ นั่นแหละ.............
มาโตอิก้มหน้านิดๆ แล้วยกมือตัวเองขึ้นมามอง
ฮิสึกิ : …...........พิลึกจริงๆ ด้วยสินะ
มาโตอิ : อ๊ะ ขอโทษจ้ะ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แค่รู้สึกเหมือนได้เห็นตัวเองเมื่อก่อน เลยหวนให้คิดถึงขึ้นมาน่ะ
ฮิสึกิ : เมื่อก่อนเหรอ....?
มาโตอิ : ชั้นเองก็มีช่วงที่สูญเสียเป้าหมายในการต่อสู้เหมือนกันนะ.......เคลื่อนไหวตามคำสั่ง ทำตามคำสั่งที่ได้รับมาเท่านั้น........เคลื่อนไหวโดยไม่มีเป้าหมายมาโดยตลอด
ฮิสึกิ : ….....ชั้นเอง...ก็เหมือนกัน เพราะแค่รู้สึกสบายที่ทำตามมาเธอร์บอกแค่นั้น
แต่นั่นก็เหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยคิดอะไรเลยสินะ..........เข้าใจแล้ว เพราะฉะนั้นพี่เลยพูดออกมาแบบนั้น
…....ว่าจะใช้พลังนี้เพื่ออะไร
มาโตอิ : สิ่งสำคัญคือ ตัวเองอยากจะทำอะไรน่ะจ้ะ ถ้าคำตอบคือ [เพื่อปกป้องใครบางคน] หละก็ นั่นก็ต้องมาจากความมุ่งมั่นโดยใจจริงของฮิสึกิจังเองน่ะ
ฮิสึกิ : ตัวเองอยากทำอะไรงั้นเหรอ...........อื่อ~~............ถ้าตัดสินใจได้แน่วแน่ก็จบแล้วแท้ๆ..........
มาโตอิ : งั้นก่อนอื่นก็ค่อยๆ ทำสิ่งที่อยากทำตรงหน้าไปทีละอย่างๆ ดูเป็นไงจ๊ะ? ลองทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำดู
ฮิสึกิ : สิ่งที่อยากทำ............
มาโตอิ : จ้ะ ไม่ใช่ให้คนอื่นตัดสินใจ แต่เป็นตัวเองที่ตัดสินใจว่า [จะทำนี่แหละ] ชั้นคิดว่านั่นต้องเป็นก้าวแรกสู่คำตอบแน่ๆ เลย
ฮิสึกินั่งหลับตาอยู่พักหนึ่งแล้วจึงตอบออกมา
ฮิสึกิ : ….....รู้สึกว่า พอจะเข้าใจแล้วหละ
ใช่แล้วฮิสึกิ จะมัวลังเลไปทำไม ไม่ว่าใครจะว่ายังไง แต่ชั้นน่ะอยากรู้ความจริง
ทั้งเรื่องที่มาเธอร์ต้องการจะทำ ทั้งเรื่องที่ทำไมต้องเล็งเป้ามาที่อารุ ชั้นอยากรู้ อยากรู้.......จากนั้นก็ตัดสินใจ!
ขอบคุณนะมาโตอิ รู้สึกว่าชั้นจะพบเส้นที่จะไปต่อแล้วหละ!
อารุไปรออยู่กับเชียร่าก่อนนะ ชั้นจะออกไปข้างนอกสักหน่อย
แล้วฮิสึกิก็รีบวิ่งลงลิฟต์ไป
มาโตอิ : ฮึๆๆ เป็นเด็กที่ร่าเริงดีจัง
อารุคุงสินะ? งั้นพวกเราเองก็ไปกันเถอะ ชั้นเองก็ถูกเรียกให้ไปหาเชียร่าจังอยู่พอดี
อารุจับมือมาโตอิแล้วก็เกิดสงสัยขึ้นมา
อารุ : พี่สาว พวกเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่านี่?
มาโตอิ : ไม่จ้ะ คิดว่าน่าจะเป้นครั้งแรกนะ แต่ว่า............ทำไมกันนะ ชั้นเองก็มีความรู้สึกโหยหาที่คุ้นเคยอย่างมากอยู่เหมือนกัน
------------------------------------
ของแถมจาก es ฉลองมาโตอิกลับมา (พิมพ์จากความจำนะ ไม่ได้เปิดไล่ดูซ้ำ)
เรื่องราวต้นตอน es3-1 หลังทีมถูกยุบไป 2 ปี เรา เจเน่ แล้วก็มัว เจ้าเวพ่อนชิพตัวจิ๋ว ก็ได้กลับมารวมทีมกันอีกครั้ง (ตามไทมไลน์แล้วน่าจะอยู่ช่วงราวๆ ก่อนเริ่ม EP4 ภาคหลักหน่อยนึง)
มัว : ทีม Darker Buster คืนชีพ!
เจเน่ : ดาค-เก้อ-บัส-เต้อ อะไรคะนั่น? เราเคยมีชื่อทีมแบบนี้เหรอ?
มัว : ป่าวหรอกเห็นมันเท่ดี ข้าเลยเอามาใช้เป็นชื่อทีมน่ะ
เรากล่าวทักทายทั้งคู่รวมถึง เซราฟี โอเปอเราเตอร์ของพวกเรา (ที่โดนย้ายมายืนหลบมุมอยู่กาบขวายาน แทนที่จะอยู่หน้าเคาเตอร์) แล้วจึงรับภารกิจไปที่ดาวเคราะห์วอบัล ตอนออกมาจากยานเจเน่ก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว
Before ---> After
เมื่อมาถึงวอบัล
เจเน่ : ว้าว~~ ทะเลสวยจัง ดาวเคาระห์วอบัลนี่ดีจังเลยนะคะ
มัว : นิ......นี่.....เจเน่ รู้สึกว่าจะเปลี่ยนลุคไปหน่อยรึเปล่า........เพราะว่ามาทะเลเหรอ?
เจเน่ : อ๊ะ ถามได้ดีเลยค่ะ.......นี่น่ะเป็นเคล็ดลับของความแข็งแกร่งเลยนะ!
ชั้นน่ะไปถามคนมีฝีมือหลายคนเลยนะคะว่าทำยังไงถึงจะเก่งขึ้น
เมื่อ 2 ปีก่อน ทีมของพวกเราถูกยุบเพราะทำภารกิจล้มเหลวครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ ซัคการ์ด เป้าหมายที่จำเป็นต้องจับเป็น เสียชีวิต เจเน่โทษว่าเป็นเพราะตัวเองไม่มีพลัง เป็นเหตุผลที่ต้องการฝึกพิเศษ
เจเน่ : พอชั้นไปคุยกับยอดฝีมือที่อยู่แถวๆ เมดิคัลเซ็นเตอร์ เค้าก็บอกความลับกับชั้นมาน่ะค่ะ
มัว : แล้ว.......มันเกี่ยวอะไรกับที่แต่งตัวแบบนี้เหรอ?
เจเน่ : เรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดห้ามบอกใครเด็ดขาดเลยนะคะ........จี่~~~
เจเน่จ้องตาเราเขม็ง เราก็ตอบตกลงแบบปัดๆ ไป...........ยอดฝีมือแถวเมดิคัลเซ็นเตอร์เหรอ? พอเดาได้เลยว่าเป็นใคร
เจเน่ : ยิ่งใส่เสื้อผ้าน้อยๆ ยิ่งทำให้ความสามารถในการดูดซับโฟตอนดีขึ้นน่ะค่ะ
มัว : ห๊า!! ….....เพื่อดุ ดุ ดูดซับโฟตอนเลยแต่งตัวโป๊ๆ เนี่ย ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ!
เจเน่ : ถึงบอกไงคะว่าเป็นความลับสุดยอด ที่เค้าสอนชั้นเนี่ยถือเป็นกรณีพิเศษเลยนะ!
มัว : จริงเร้อ~? ไอ้คนที่บอกเนี่ยต้องเป็นพวกน่ารังเกียจแน่ๆ (いやらしい น่ารังเกียจ คำใกล้เคียงจากอาจาร์กูOOOคือ エッチ หรือ ลามกนั่นเอง)
เจเน่ : แต่ชั้นเชื่อนะคะ! ชั้นเชื่อในแววตาอันชาญฉลาดของยอดฝีมือท่านนั่น........คนอย่างเค้าไม่มีทางโกหกแน่นอน!
มัว : ไม่ใช่ว่าโดนหลอกอยู่จริงๆ เร้อ~?
ถึงจะมีความรู้สึกเดจาวูอยู่หน่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรไป เพราะแต่งแบบนี้ดีกว่าเห็นๆ ขอบคุณคำแนะนำจากท่านยอดฝีมือข้างร้านยา ถ้าเจเน่ได้ท่านผู้นั้นเป็นอาจารย์ต้องแข็งแกร่งขึ้นมากแน่ๆ..........
ถึงจะนึกแบบนั้น แต่สุดท้ายตอนวิ่งเควสเราก็ต้องลุยเดี่ยวอยู่ดี...........เอวัง
**ปล. ถึงตัวละคร [เรา] ในภาค es จะลิงค์ใช้ตัวละครเดียวกับภาคหลัก แต่ตามเนื้อเรื่องแล้วเป็นคนละคนกับภาคหลักน่อ
**แต่เจเน่ที่เป็น NPC พาร์ทเนอร์ ในภาคหลักก็เรียกเราว่าลีดเดอร์เหมือนกัน คงไม่ได้เล่นมุขพาราเรลเวิลด์อีกหรอกนะ
------------------------------------
ติดตามช่วงไปเยี่ยมองค์กรหมอผีพาร์ทหน้าจ้า
สาวปิดตา : ตัวประกอบฉากเกะกะจังเลย บทนี้ฉันเป็นนางเอกนะคะ
ฮิสึกิ : วะๆๆๆ ว๊าก~~~ นี่ไม่ใช่เกมดราOOOบอลน้า~~~
Like : Mukaira, seirei melody
# Thu 18 Aug 2016 : 11:52PM
วันหยุดจะมาอ่านให้ละเอียดครับ บทพูดเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกEP4
ว่าแต่หนูเจนเน่ ไปได้ยินมาจากไหนฟะยิงใส่น้อยชิ้นยิ่งเก่งเนี่ย -*-
ประหยัดเสื้อผ้าเหลือเกิน!!
ว่าแต่หนูเจนเน่ ไปได้ยินมาจากไหนฟะยิงใส่น้อยชิ้นยิ่งเก่งเนี่ย -*-
ประหยัดเสื้อผ้าเหลือเกิน!!
# Fri 19 Aug 2016 : 2:02PM
สาวปิดตา เปิดตัวได้โคตรเทพเลย อยากได้มาเป็นไวฟุเลยทีเดียว
# Mon 22 Aug 2016 : 10:05AM
ภาพโฆษณาเกมมือถือจีน
ว่าแต่ว่า มืไม่มีใครพูดถึงอัลติเมทอาร์มโดสเกียเลย
[Edited 1 times Whip - Last Edit 2016-08-22 13:01:26]
# Mon 22 Aug 2016 : 4:45PM
Whip wrote:
ภาพโฆษณาเกมมือถือจีน
ว่าแต่ว่า มืไม่มีใครพูดถึงอัลติเมทอาร์มโดสเกียเลย
---
ภาพโฆษณาเกมมือถือจีนนี่ เอาภาพท่าโพสคูน่ามาล้างเสื้อผ้าสีผม แล้วแปะดาบลงไปเลยทีเดียว
โลโก้ไม่ต้องพูดถึง
ส่วนอัลติเมทเกาะคริสตัน มีร่างพัฒนาของEx-dragon กะอีกตัว แล้วก็Quarz goldsaint
กะหมาแองก้า หมาแองก้า กะอัลติเมท มาไงฟะ ห้วงมืดโดนตบหัวทิ่มติดลูปไปแล้วนี่
มันจะงอกการกลืนกินลุกลามไปเกาะลอยฟ้าได้ยังไง
# Mon 22 Aug 2016 : 5:43PM
ผมเฉยๆน่ะ คิดว่าถ้าของตอบแทนห่วยก็เหมือนแมพultเก่าๆนี่แหละแทบร้าง เดี๋ยวนี้ดูไลฟ์ ชุดคอสเดิมๆเพิ่มเติมคือแตกหน่อin/ba/ou+ยัดสีเพิ่ม อาวุธเก่าก็ทาสีใหม่ แมพเทศการก็เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีไก่!!
ทุกวันนี้อยากได้EQ TD4/ยามิ ช่วง2-3ทุ่ม 3-4ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอใจล่ะ
ทุกวันนี้อยากได้EQ TD4/ยามิ ช่วง2-3ทุ่ม 3-4ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอใจล่ะ
# Mon 22 Aug 2016 : 6:06PM
<<
<
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
>
>>
Reply
Vote
Popular Thread
1 online users
Logged In :
Logged In :
member
Since 5/2/2007
(2275 post)