“พรอมโตะที่ร่วมเดินทางกับนอคทิส ในระหว่างการเดินทางเขาพลัดตกจากรถไฟด้วยฝีมือของนอคทิสที่เขาเชื่อใจ พรอมโตะที่อยู่ตัวคนเดียวได้ไล่ตามเพื่อนของเขา โดยมีความรู้สึกเศร้าโศกโอบอุ้มตัวของเขาอยู่”

กล่าวถึงตัวเกมหลักก่อน
ในช่วงเนื้อหาเกมบทที่ 12 นอคทิสต่อสู้กับอาเดนและทำให้อาเดนตกลงไปจากรถไฟ แต่ที่จริงแล้วคนที่ตกลงไปไม่ใช่อาเดนแต่เป็นพรอมโตะ ซึ่งในตัวเกมจะมี Lore ของอาวุธราชาลำดับที่ 10 เป็นไม้เท้าที่มีความสามารถในการสร้างภาพลวงตาได้ มีความเป็นไปได้ที่อาเดนจะใช้อาวุธราชานี้ในการหลอกนอคทิส แต่ยังไม่มีข้อสรุปในตอนนี้



หลายวันผ่านไปหลังจากที่พรอมโตะ ตกลงมาจากรถไฟ เขาถูกทหารมาโดของจักรวรรดิจับกุมไปที่ฐานทัพผลิตทหารมาโดลำดับที่ 1



ในระหว่างที่พรอมโตะสลบ เขาได้ฝันเห็นช่วงเวลาในวัยเด็กของเขา เขาก็อยากจะมีเพื่อนเหมือนกับคนอื่น แต่เนื่องจากเขาได้ปิดบังตัวตนของเขาที่เกิดที่จักรวรรดินิฟุลไฮม์ เขาจึงกลัวการที่จะมีเพื่อน ถ้าทุกคนรู้ความจริง เขาก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีก



เมื่อพรอมโตะรู้สึกตัวก็พบว่าเขาอยู่ภายในฐานทัพผลิตทหารมาโดลำดับที่ 1 โดยริสแบนด์ของเขาได้หายไป ที่ข้อมือของพรอมโตะจะมีรหัสบาร์โค้ดว่า “05953234” เมือ่เขาสัมผัสกับระบบรักษาความปลอดภัยของฐานทัพ จึงทราบว่ารหัสบาร์โค้ดนี้ คือ รหัสที่สูญหายไปนาน ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยจะทำการเก็บกู้ ทันใดนั้นพรอมโตะก็ได้พบกับอาเดน แต่พรอมโตะไม่สามารถอัญเชิญอาวุธได้ (เนื่องจากเหตุการณ์หลักของเกม คริสตัลถูกอุปกรณ์ของจักรวรรดิควบคุมพลังอยู่ ทำให้ราชาและผู้ร่วมทางไม่สามารถอัญเชิญอาวุธมายาได้) อาเดนจึงบอกกับพรอมโตะว่าที่นี่คือฐานทัพผลิตทหารมาโดและชิไค สำหรับพรอมโตะแล้ว ที่นี่ก็คือ บ้านของเขา โดยที่ผ่านมาพรอมโตะได้ฆ่าเพื่อนพ้องทหารมาโดไปมากมาย อาเดนจึงสั่งให้พรอมโตะลองไปพบกับวาซาไทล์ดู แล้วพรอมโตะจะได้รู้ความจริง



จนพรอมโตะได้เห็นจึงเชื่อคำพูดของอาเดนแล้วว่าที่นี่ คือ โรงงานผลิตทหารมาโด



พรอมโตะได้เข้าไปด้านในจนพบกับร่างทดลองที่อยู่ในหลอดแก้ว ซึ่งมีเค้าโครงใบหน้าคล้ายคลึงกับพรอมโตะ



ด้านในของสถาบันวิจัย พรอมโตะได้เห็นอาเดนอยู่กับวาซาไทล์ โดยอาเดนได้ถามกับวาซาไทล์เกี่ยวกับเด็กที่ถูกขโมยไปเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งวาซาไทล์ยังจำได้ว่าเป็นฝีมือของลูซิส อาเดนจึงให้ของขวัญแทนคำขอบคุณที่วาซาไทล์สามารถทำลายอินซอมเนียได้ อาเดนจึงเชื้อเชิญให้พรอมโตะเข้ามาหาวาซาไทล์ พ่อของพรอมโตะนั่นเอง



เมื่อพรอมโตะไปหาวาซาไทล์ ก็พบว่าวาซาไทล์กำลังจะกลายร่างเป็นชิไค วาซาไทล์ได้บอกกับพรอมโตะว่า พรอมโตะถูกสร้างขึ้นมาจาก DNA ของวาซาไทล์ ซึ่งพรอมโตะคือหนึ่งในหลายล้านคน ที่จะกลายมาเป็นทหารมาโดได้ การที่พรอมโตะกลับมาที่นี่ก็เพราะ คนที่เกิดที่นิฟุลไฮม์ ก็ต้องกลับมาที่นิฟุลไฮม์ แต่พรอมโตะก็ยืนยันว่าเขาเป็นคนของลูซิส ไม่ใช่ทหารมาโด วาซาไทล์จึงสั่งให้พรอมโตะมาเป็นหนึ่งเดียวกับเขา เพื่อที่จะได้มีพลังที่เหนือกว่าราชาของลูซิส รวมถึง 6 เทพ



พรอมโตะได้ลั่นปืนใส่วาซาไทล์จนเสียชีวิต อาเดนยังพูดขึ้นมาว่าพรอมโตะฆ่าพ่อของตัวเองซะแล้ว ทีนี้ก็ไม่เหลือทั้งพ่อและเพื่อน



ทันใดนั้นระบบ Operator ของฐานทัพก็ทำงานเนื่องจากปฏิกิริยาการตอบโต้ทางร่างกายของวาซาไทล์ต่ำ กระบวนการของพลาสโมเดียมเริ่มสูงขึ้น จนร่างของวาซาไทล์กลายเป็นชิไคโดยสมบูรณ์ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เนื้อเรื่องหลัก FF15 บทที่ 13-14) ระบบจึงนำตัวอย่างรหัส Code XDA-1002 ย้ายไปที่ “อินโมลเดอร์ริส”



ทันใดนั้นอะราเนียก็ปรากฏตัวขึ้นมา (ขอรูปเดี่ยวเน้นๆ หน่อย ชีสวย)



อะราเนียมาที่นี่เพื่อตรวจสอบอาวุธของจักรวรรดิบางอย่างอยู่ เธอจึงสั่งให้พรอมโตะรีบหนีออกมา เธอจะไม่ช่วยคนที่ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่ต่อ จนพรอมโตะได้พบกับ “สโนโมบิล” อะราเนียจึงสั่งให้พรอมโตะล่วงหน้าไปก่อน โดยเธอจะตามไปทีหลัง



พรอมโตะเดินทางไปถึงแคมป์ที่พักตามที่อะราเนียบอก พรอมโตะคิดจะลบหมายเลขบาร์โค๊ดที่อยู่บนข้อมือออก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถทำได้



จนอะราเนียตามมาพบ เธอได้บอกกับพรอมโตะว่า เธอได้พบกับพวกนอคทิสที่เทเนบราเอ ซึ่งนอคทิสเป็นห่วงพรอมโตะมาก แต่พรอมโตะก็ไม่สามารถกลับไปหานอคทิสได้ เนื่องจากเขาเป็นคนของจักรวรรดินิฟุลไฮม์ และที่สำคัญเขาถูกสร้างโดยวาซาไทล์ คนที่แย่งชิงสิ่งสำคัญของพวกนอคทิส ทำให้เขาไม่สามารถไปพบกับพวกนอคทิสได้ อะราเนียเลยประชดไปว่าทั้งๆที่เดินทางมากับนอคทิสตั้งนาน ยังไม่รู้จักนิสัยของนอคทิสอีกเหรอ อย่างลูกน้องของอะราเนียเดิมทีก็เคยเป็นศัตรูของอะราเนียที่เคยฆ่าฟันกันมาก่อน พรอมโตะจึงถามเรื่องราวต่างๆกับอะราเนียจึงทราบว่า พวกนอคทิสกำลังมุ่งหน้าไปเมืองหลวงของจักรวรรดิและย้ำอีกว่านอคทิสเป็นห่วงพรอมโตะมาก



อะราเนียจึงบอกกับพรอมโตะว่า ถ้าอยากจะเดินทางไปกับนอคทิสต่อ ก็ไปบอกด้วยตัวเอง แต่พรอมโตะก็ยังลังเลว่าจะดีเหรอ เขาอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้ทุกคนก็ได้ อะราเนียจึงตวาดใส่พรอมโตะว่า “กลัวว่าคนอื่นจะคิดเกี่ยวกับตัวเองว่ายังไง ไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะทำอะไร แบบนี้มันก็เหมือนกับตายทั้งเป็น ไม่เกี่ยวว่าใครจะพูดอะไรว่าอย่างไร แต่ตัวเองต้องตัดสินใจในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ด้วยตัวเอง” โดยอะราเนียได้บอกกับพรอมโตะอีกว่า พรุ่งนี้เธอจะไปกำจัดอาวุธชนิดใหม่ของจักรวรรดิ ที่เหลือพรอมโตะจะทำอะไรก็แล้วแต่ตัวเอง



พรอมโตะได้ออกเดินทางด้วยสโนโมบิล เนื่องจากเขาได้ยินเสียงสุนัขร้อง จนพบกับทหารมาโดที่นอนแน่นิ่งตัวหนึ่ง เขาจึงนั่งพักอยู่ตรงนั้น โดยใช้เวลาอยู่ไม่ทันไร



พรอมโตะได้เห็นภาพหลอนของนอคทิส กำลังเข้ามาทำร้ายเขาที่กลายร่างเป็นทหารมาโด พรอมโตะได้หลบหนีการโจมตีของนอคทิส



ในที่สุดภาพหลอนของนอคทิสก็หายไป พรอมโตะได้พบกับไพรน่า สุนัขของลูน่า (ซึ่งตายไปแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ที่ออลทิเช ตอนรีไวอาซันปรากฏตัว)



ไพรน่าได้พาพรอมโตะมาพบกับทหารมาโดในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ พรอมโตะจึงจำใจกำจัดทหารมาโด โดยเขามองเห็นทหารมาโดเป็นตัวของเขาช่วงเวลาหนึ่ง ในที่สุดพรอมโตะก็ตัดสินใจกำจัดทหารมาโดทิ้ง และเขาได้พบกับตัวของเขาในช่วงเวลาเด็ก ใกล้ๆศพของทหารมาโดตัวนั้น



เมื่อพรอมโตะได้สัมผัสกับตัวเขาในช่วงเวลาเด็ก ตัวของเขาในวัยเด็กก็ได้รับจดหมายของลูน่าที่ฝากมาไว้กับไพรน่า (สุนัขที่พรอมโตะเคยช่วยชีวิตไว้ในตอนเขายังเด็ก ติดตามอ่านรายละเอียดสรุปได้ในเนื้อเรื่อง Brotherhood) โดยจดหมายจะเป็นตัวเดียวกันกับ BH ลูน่าขอให้พรอมโตะช่วยเป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือนอคทิส พรอมโตะในวัยเด็กก็ลังเลว่าเป็นเขาจะดีเหรอ พรอมโตะในวัยเด็กได้เห็นรูปที่ทุกคนถ่ายคู่กับเรกาเรียและรูปที่ถ่ายกับทุกคนก่อนออกเดินทางไปออลทิเช พรอมโตในวัยเด็กจึงกลายเป็นพรอมโตะในช่วงเวลาปัจจุบันและตัดสินใจบางอย่างออกมา



พรอมโตะจึงเดินทางกลับไปหาอะราเนีย เพื่อขอร่วมทางไปด้วย โดยเขาจะไปสะสางเรื่องราวในอดีตให้หมด อะราเนียยังมีแซวว่าถ้าขัดแข้งขัดขาละก็ เดี่ยวทิ้งซะเลย



พรอมโตะกับอะราเนียเดินทางไปถึงฐานทัพของจักรวรรดิ โดยอะราเนียได้ข้อมูลมาว่าอาวุธรุ่นใหม่ของจักรวรรดิอยู่ด้านในสุดของฐานทัพนี้ โดยอาวุธชิ้นนี้ เธอได้ยินมาว่าวาซาไทล์ได้ทำการนำมาโดอาเมอร์มาร่วมกับร่างของตัวเอง โดยมาโดอาเมอร์ที่วาซาไทล์สร้าง (ไดยะเวพ่อน) เป็นอาวุธที่ใช้ทำลายล้างอินซอมเนีย จึงต้องรีบกำจัดในตอนนี้



ที่ด้านในของฐาน พรอมโตะและอะราเนียได้พบกับ “บัลบารอส” ผลงานการวิจับของวาซาไทล์ โดยการนำสัตวย์ร้ายมารวมกับเครื่องจักรมาโด หลังจากที่พวกพรอมโตะกำจัดบัลบารอสได้สำเร็จ Operator ได้แจ้งว่า อินโมลเดอร์ริส เริ่มกระบวนการทำงานเต็มที่ เนื่องจากสภาวะชิไคได้รับการบรรจุเสร็จแล้ว สติสัมปชัญญะของวาซาไทล์ก็อยู่ในสภาพคงที่



พรอมโตะกับอะราเนียจึงรีบหนีออกมาจากฐานทัพและพบกับวาซาไทล์ในร่างของอินโมลเดอร์ริส พรอมโตะได้ใช้อาวุธที่ติดอยู่กับสโนโมบิลเข้าต่อสู้และทำลายอินโมลเดอร์ริสได้สำเร็จ



พรอมโตะที่กลับมามีความเชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง จึงรีบเดินทางเพื่อไล่ตามหานอคทิส เพื่อช่วยเหลือนอคทิสในการแย่งชิงคริสตัลกลับคืนมา โดยพรอมโตะได้พูดแซวว่า บางทีเขาอาจจะเจอคริสตัลก่อนนอคทิสก็ได้ ที่สำคัญที่สุดพรอมโตะจะไปบอกกับทุกคนในสิ่งที่เขาอยากจะทำ อะราเนียจึงบอกว่าเส้นทางข้างหน้า คือ เมืองหลวงของจักรวรรดิ พรอมโตะจึงบอกลาและขอบคุณอะราเนีย



โดยมีอาเดนมองพรอมโตะกับอะราเนียอยู่ห่างๆ และฮัมเพลง Victory Fanfare



ในระหว่างที่ Credit ขึ้น ก็พบว่าพรอมโตะถูกจับตัวอยู่ด้วยฝีมือของอาเดน จนพวกนอคทิสมาพบเข้า (เนื้อเรื่องหลักบทที่ 13)



ส่วนขยายความจากเนื้อเรื่องหลัก หลังจากพักผ่อนในฐานทัพจิกนาทัส นอคทิสได้ขอโทษพรอมโตะจากเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหลักบทที่ 12 เนื่องจากเขาถูกอาเดนหลอก ซึ่งพรอมโตะก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาก็ถูกหลอกมาเหมือนกัน นอคทิสจึงชวนพรอมโตะมาเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยกัน ซึ่งพรอมโตะก็ตอบตกลงทันที













เสียงแว่นอิกนิส แตกดัง เพล้งงงงง



หลายคนอาจจะงงกับเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการทดลองทหารมาโด ก่อนอื่น ขอแนะนำให้อ่านย้อนเนื้อหาเนื้อเรื่องหลักบทที่ 13-14 ใหม่ก่อน จะได้พอเข้าใจส่วนหนึ่ง

ส่วนด้านล่างนี้ จะเป็นเนื้อหา Lore ในเกม ได้แก่ เอกสารไฟล์ กับ บันทึกเสียงของวาซาไทล์ ครับ โดยในเกมมันจะสะเปะสะปะ ผมจึงนำมาเรียงเป็นปีๆให้ ซึ่งหลังจากนี้จะนำบางส่วนไปใส่ใน TL หลักของ Album ใหญ่ที่ทำครับ

---------------------------------------

หมายเหตุ
- ข้อความเสียงจะเป็นเสียงของวาซาไทล์พูด

ปี M.E. 722 วันที่ 8 เดือน 7 (ข้อความเสียง)
- มีการยื่นข้อเสนอการวิจัยทหารมาโด โดยมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพ โดยการติดตั้งมาโดคอร์ ทหารมาโดที่ใช้ชิไคเป็นวัตถุดิบ แต่มันก็ยังไม่เสถียร ทำให้การใช้งานจริงค่อนข้างลำบาก แต่ถ้าได้ข้อมูลจากคนๆหนึ่งมา เกรงว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องสร้างทหารที่ไม่มีวันตายให้ได้ เพื่อให้จักรวรรดิปกครองโลก

ปี M.E. 723 วันที่ 11 เดือน 3 (ข้อความเสียง)
- การผลิตทหารมาโดจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้ทารกที่กลายเป็นชิไค วาซาไทล์จึงใช้ DNA ของตัวเอง สร้างทารกขึ้นมาเพื่อใช้งาน ทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไข และทำให้ผลิตทหารมาโดออกมาจำนวนมากได้

ปี M.E. 723 วันที่ 26 เดือน 11 (เอกสาร)
- ในที่สุด "ฐานทัพผลิตทหารมาโดลำดับที่ 1" ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยผู้ดูแล คือ นักวิจัยลำดับที่ 1 "วาซาไทล์ เวสเทีย"

ปี M.E. 724 วันที่ 24 เดือน 10 (ข้อความเสียง)
- จากการวางแนวทางการผลิตทหารมาโด เพื่อที่จักรวรรดิจะเอาชนะอินซอมเนีย แต่กระบวนการสร้างชิไคก็มีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด จึงไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ วาซาไทจึงดำเนินการทดลองชิไคต่อ

ปี M.E. 736 วันที่ 3 เดือน 5 (ข้อความเสียง)
- มีคนบางคนแอบบุกรุกเข้ามาในสถาบันวิจัย และได้ขโมยร่างทดลองออกไป 1 ร่าง โดยซาซาไทล์ปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของลูซิส การที่มาขโมยทารกก่อนที่จะกลายเป็นชิไค แสดงว่าคนที่ขโมยไปไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของการทดลองนี้ วาซาไทล์จึงออกคำสั่งเพิ่มมาตรการการป้องกันเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นแบบนี้อีกซ้ำสอง

ปี M.E. 745 วันที่ 21 เดือน 11 (ข้อความเสียง)
- วันนี้เป็นวันที่เทพน้ำแข็ง 1 ใน 6 เทพปรากฏตัวขึ้นมาที่ช่องแคบโกรบุส และด้วยผลงานกองทัพทหารมาโดของเขา ทำให้กำจัดเทพน้ำแข็งได้สำเร็จ เขาจึงเก็บข้อมูลของเทพน้ำแข็ง วิเคราะห์สิ่งต่างๆ เพื่อหาหนทางต่อสู้กับเทพ เขาจึงเริ่มพัฒนาอาวุธมาโดต่อ

ปี M.E. 745 วันที่ 22 เดือน 11 (เอกสาร)
- วาซาไทล์ได้นำกองทัพทหารมาโดเข้าป้องกันประเทศจากการบุกรุกโดยเทพน้ำแข็ง "ชีว่า" ที่ช่องแคบโกรบุส ซึ่งทำให้บทบาทของสถาบันวิจัยมาโดมีมากขึ้น โดยได้รับการยอมรับและการเพิ่มงบประมาณ

ปี M.E. 746 วันที่ 3 เดือน 6 (เอกสาร)
- ว่าด้วยการผลิตทหารมาโดรุ่นใหม่ จะมีการแบ่งแยกตัวเลขบาร์โค้ดไว้ ดังนี้
ทหารมาโด : จะระบุหมายเลขรุ่นไว้ 5 ตัว + หมายเลขการผลิต 8 ตัว
ทารก : วันที่ผลิต 4 ตัว + หมายเลขการผลิต 8 ตัว
- อย่างกรณีของพรอมโตะ คือ 05953234 คือเลขการผลิต ตามเนื้อเรื่องจะทราบว่าพรอมโตะถูกขโมยไปตั้งแต่ยังเป็นทารก

ปี M.E. 754 วันที่ 25 เดือน 8 (เอกสาร)
- ข้อความจากตัวละครหนึ่ง วาซาไทล์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการฐานทัพ ซึ่งคาดว่าเกิดจากผลงานการเป็นผู้กล้าที่ช่วยเหลือประเทศจากเทพน้ำแข็ง

ปี M.E 754 วันที่ 17 เดือน 11 (เอกสาร)
- ข้อความจากตัวละครหนึ่ง วันนี้เขาถูกวาซาไทล์เรียกพบ เหมือนจะไหว้วานให้ทำงานลับๆบางอย่าง ก็คงจะเป็นงานที่ผลักไสไล่ส่งให้กับหน้าใหม่

ปี M.E. 754 วันที่ 18 เดือน 11 (เอกสาร)
- ข้อความจากตัวละครหนึ่ง ภาพที่ได้เห็นมันตราตรึงใจ จนกินข้าวหรือดื่มน้ำไม่ลง ท่าทางจะชินกับงานนี้แล้วละมั้ง คืนนี้คงไม่ได้นอนอีกละ

ปี M.E. 755 วันที่ 16 เดือน 2 (เอกสาร)
- ข้อความจากตัวละครหนึ่ง วันนี้จักรพรรดิได้มาที่สาถบันวิจัยที่อยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ ท่าทางจะคาดหวังกับสถาบันวิจัยมาโดไว้มากแน่นอน เพื่อนิฟุลไฮม์แล้ว ฉันก็จะอุทิศตนเพื่อการทดลองด้วยชีวิต

ปี M.E. 755 วันที่ 24 เดือน 7
- ข้อความจากตัวละครหนึ่ง วันนี้ก็เป็นวันที่เหนื่อยยากอีกวันนึง เกิดการรั่วไหลของพลาสโมเดียมในร่างทดลองที่คอยดูแลอยู่ ทำให้ต้องอยู่จนดึกจนดื่น ทั้งๆที่เฝ้าระวังไว้อย่างดีแล้วแท้ๆ

ปี M.E. 755 วันที่ 25 เดือน 7 (เอกสาร)
- วันนี้ได้มีการกำจัดร่างทดลองหมายเลข ID 0755-06000326 - ID 0755-06000348 และเนื่องจากเกรงว่าร่างทดลองจะกลายเป็นชิไค จึงทำการเผาทิ้งทั้งหมด

ปี M.E. 755 วันที่ 18 เดือน 9 (เอกสาร)
- เป็นเอกสารของเรอุส (พี่ชายของลูน่า) เป็นเวลานานกว่า 10 ปีที่จักรวรรดิมีแผนการบุกอินซอมเนีย โดยราชาที่ถูกเลือกของประเทศศัตรูจะได้รับการฝากฝังอนาคตเอาไว้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องแย่งชิงคริสตัลกับแหวนแห่งแสงมาให้จักรพรรดิอิโดร่าให้ได้

ปี M.E. 756 วันที่ 8 เดือน 4 (ข้อความเสียง)
- "ไดยะเวพ่อน" ผลงานการวิจัยชิไคอาเมอร์ อาวุธมาโดขั้นสูง ก็พัฒนาเสร็จสมบูรณ์ ในตอนนี้ยังยากที่จะควบคุม ถ้ามันเริ่มใช้งานเมื่อไหร่ มันจะทำลายแล้วก็ทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่สามารถหยุดมันได้ แต่ถ้วยแสนยานุภาพของมันแล้ว อาวุธอะไรก็ไม่สามารถเทียบกับมันได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นอินซอมเนียก็ตาม เพียงเท่านี้ก็จะแย่งชิงคริสตัลมาได้ เพื่อนำไปทดลองต่อ
- วาซาไทล์ได้ประกาศผลงานการสร้างไดยะเวพ่อนให้กับจักรพรรดิอิโดร่า

ปี M.E. 756 วันที่ 21 เดือน 5 (เอกสาร)
- บันทึกเกี่ยวกับอาวุธรหัส SAS-0822 "บัลบารอส" ผลงานการวิจัยนานหลายปี อาวุธมาโดที่เกิดจากการรวมกันระหว่างสัตว์ร้ายกับเครื่องจักรมาโด ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงทดสอบ จนกว่าอินโมลเดอร์ริสจะเสร็จสมบูรณ์ ก็สามารถใช้บัลบารอสในการดูแลรักษาความปลอดภัยได้

ปี M.E. 756 วันที่ 9 เดือน 7 (ข้อความเสียง)
- ในที่สุดการวิจัยของวาซาไทล์ก็เสร็จสมบูรณ์ การทำให้ร่างของตัวเองคงสภาพความเป็นชิไคโดยที่ยังคงมีสติสัมปชัญญะเพื่อกลายเป็นอาวุธมาโด โดยประสิทธิภาพมีมากกว่าไดยะเวพ่อน ที่เหลือก็แค่การทดสอบการใช้งานจริง โดยคนที่ผลักดันงานวิจัยของวาซาไทล์จนมาถึงตอนนี้ ก็ต้องขอบคุณ "อาเดน" (เฉลยบุคคล จากข้อความเสียง ปี M.E. 722 วันที่ 8 เดือน 7)

หมานี่คือสุดยอดความลับของ FF15 แล้วใช่ไหม
ตายเหมือนไม่ตาย แถมวาร์ปข้ามเวลาได้ด้วย