นักแสดงมากฝีมือ เจเรมี่ ไอรอนส์ ผู้รับบทเป็นอัลเฟรดในภาพยนตร์ Batman v Superman: Dawn of Justice ล่าสุด ได้กล่าวเห็นด้วยที่ตัวภาพยนตร์โดนติโดยเหล่านักวิจารณ์ระหว่างให้สัมภาษณ์กับทาง Daily Mail



"ก็สมเหตุสมผลดี คือหนังก็ทำรายได้ไป 800 ล้านเหรียญสหรัฐอะนะ ฉะนั้นมันก็ไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าไร แต่ตัวหนังก็ค่อนข้างจะใส่นู้นใส่นี้เยอะไปหน่อย" ไอรอนส์ กล่าว

ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าตัว เจเรมี่ ไอรอนส์ หัวเราะเมื่อนักวิจารณ์คนหนึ่งนิยาม Dawn of Justice ว่า "เป็นภาพยนตร์ BlockBuster ที่ไม่ปะติดปะต่อมากที่สุดในหลายปีนี้" และตัวเขาก็ได้ยอมรับว่า "มันก็สับสนจริง"

อย่างไรก็ตาม ตัวเขาก็ได้พูดถึง Justice League Part 1 ซึ่งกำลังถ่ายทำอยู่ในขณะนี้ และแน่นอนว่า แซค สไนเดอร์ ยังคงเป็นคนกำกับ ว่า

"ผมคิดว่าเรื่องถัดไปจะเรียบง่ายมากขึ้น บทภาพยนตร์จะเล็กลง มันจะตรงไปตรงมามากขึ้น"

นี้น่าจะหมายความว่า Justice League น่าจะมีเรื่องราวให้วุ่นวายน้อยลง และทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เห็นจุดเด่น เอกลักษณ์ได้ชัดเจน แต่จะได้ผลหรือไม่งานนี้ก็คงจะต้องรอดูกันละครับ



Justice League Part 1 กำหนดฉายที่อเมริกา 17 พฤศจิกายน 2017 แต่ในปลายปีนี้มีภาพยนตร์อีกเรื่องของ DC ซึ่งก็คือ Suicide Squad กำหนดฉายบ้านเรา 4 สิงหาคม 2559 ครับ

ref: [Link]

Wait for see them

ต้องให้ใครซักคนไปคุมตาแซ๊กอย่าให้เพ้อเจ้อมากไปครับ แล้วหนังมันจะออกมาดีเอง เพราะเรื่องอื่นนี่ไร้ที่ติทั้งนั้น แค่อย่าให้เขียนบทกับแต่งบทภาพยนต์เอง

แซค สไนเดอร์ เขียนบทไม่ค่อยดีอะ

ดูหนังแล้วรู้สึกเลย ฝันบ่อยเกิน หายโกรธง่ายเกิน ปมความแค้นแบทซุปก็งั้นๆมาก เร้กซ์ ลูเธอร์ฉลาดมากที่เอาลายนิ้วมือไปเปิดประตูยานได้ มันสมองของUSAไม่มีใครคิดออกมาได้เล้ยยย

ผมอยากให้มีใครซักคนมาแก้ไข BvS (พี่ Zack ก็ได้) ให้มันยิ่งใหญ่และลงตัวกว่านี้ ก่อนที่จะเข้า The Justice League

ตอนนี้ผมยังค้างอยู่เลย หนังมันไม่สุดนะ

ที่หนังมันเป็นอย่างที่นี้ก็เพราะ dc รีบร้อนจนหนังมันมั่วไปหมด น่าจะปูเรื่องผูกปม แบทแมนกับวันเดอร์วูแมนอย่างละภาคก่อนให้มีที่มาที่ไปแล้วค่อยจับยัดรวมกันในBatman v Superman

แซ็คเป็นคนเขียนบทด้วยเหรอครับ?
เข้าใจว่าเป็นคริส เทอร์ริโอกับเดวิด เอส โกเยอร์มากกว่าหรือว่าแกไม่มีชื่อในเครดิต

ถ้าพูดให้ถูกน่าจะเป็นแกเล่าเรื่องได้ไม่ดีเลยสำหรับแบบทวีซุป
ฉากบู๊สนุกตามสไตล์แก แต่การเล่าการนำเสนอเรื่องมันไม่มีความต่อเนื่องเลย

เรื่อง "มาธาร์" คือถ้าหนังตัดองค์ประกอบที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักออกและบิ้วอารมณ์วางเนื้อเรื่องให้มันมาบรรจบที่ชื่อแม่เหมือนกันผมว่ามันก็พีคได้นะซึ่งเอาจริงๆหนังมันก็พยายามเล่าจุดนี้นะแต่มันเสือกมีประเด็นอื่นอีกและก็เล่าสลับไปมาจนคนดูมันไม่ได้โฟกัสตรงนั้น พอมาถึงจุดที่มันจะต้อง "ปั้ง" แต่เสือก "แป้ก" เอาจริงๆผมโคตรเสียดายมุขนี้มากเอามาใช้ได้เสียของสุดๆ เพราะแค่แซค อยากเป็น โนแลน แต่พี่เป็นแบบเค้าไม่ได้และพี่ดันลืมว่าพี่มีดีอะไรทำอะไรได้ดี

ถ้าเขาปูมาซะหน่อยว่า ซุปเรียกแม่ มาธาร์ ตลอดจะดูเนียนกว่านี้เยอะ

แต่ที่จริง...ไม่เกี่ยวว่าจะเรียกว่า มาธาร์ หรือ แม่ ลูอิสก็เป็นคนมาห้ามอยู่ดี
แล้วมันจะเรียกชื่อจริงแม่ให้โดนล้อทำไมเนี่ย 555