คำว่านิทานหรือเรื่องเล่า เชื่อว่าสำหรับใครหลายคน คำเหล่านี้จัดได้ว่ามีความใกล้เคียงกับความเพ้อฝันหรือกระทั่งคำพูดสุดฮิตที่ว่า "นิทานหลอกเด็ก" ค่อนข้างมาก ทำให้ในมุมหนึ่ง คำเหล่านี้ก็ดูจะเป็นเหมือนเรื่องเพ้อฝัน หรือกระทั่งไร้สาระ

แต่ทว่าถ้าหากนิทาน หรือเรื่องเล่าเหล่านี้มีความหมาย มีจุดประสงค์มากกว่านั้นล่ะ ? นี้คือคำถามที่ A Monster Calls ตั้งในช่วงต้นเรื่อง



ในอีกมิติหนึ่งแล้ว คำเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้เด็กๆนอนหลับฝันดี หรือฆ่าเวลา แต่เป็นเรื่องราวที่ใช้ย้ำเตือนและสอนให้พวกเขาได้เห็นถึงความเป็นจริงของโลกใบนี้ เช่นเรื่องเล่าของสองพี่น้องกริมส์ต้นฉบับ ที่มักจะสอนให้ผู้อ่านได้เห็นถึงอันตรายของโลกภายนอก

สำหรับเรื่องราว A Monster Calls ก็เป็นเรื่องราวที่เตรียมพร้อมให้ คอนเนอร์ ตัวละครเอกของเรา รับมือกับโลกภายนอกรั้วบ้านที่ไม่ได้มีเพียงแค่ที่สิ่งที่ดวงตาเรามองเห็น แต่ยังมีปัจจัยหลากหลายสิ่ง ที่ล้ำลึกลงไปมากกว่านั้นอีก

เรื่องราวของเจ้าชายและแม่มด สะท้อนให้เห็นว่าโลกแห่งความเป็นจริงบางครั้งไม่ได้มีตัวเอกหรือตัวร้ายที่แท้จริง บุคคลที่เราคิดว่าเป็นคนดีแน่นอน แท้ที่จริงอาจเป็นคนเลวก็ได้ ในขณะที่คนที่เราคิดว่าเลวแสนเลว ก็อาจเป็นผู้ที่มีความบริสุทธิ์

เรื่องราวของบาทหลวงและหมอยา สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความเชื่อ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดและการกระทำของผู้ศรัทธาได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าความเชื่อเหล่านั้นมันจะไปในทิศทางที่ถูกหรือผิดเท่าไรก็ตาม

เรื่องราวของมนุษย์ล่องหน สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของสังคมที่ทรงพลังจนสามารถทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่งสามารถมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนได้อย่างภายในพริบตา

ในขณะที่เรื่องราวของตัว คอนเนอร์เอง สอนให้เห็นถึงสัจธรรมของชีวิต ซึ่งทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ต่างต้องมีจุดจบไม่ต่างจากเรื่องเล่าทั้งหลายนี้ เราจึงตกอยู่ในสถานะที่มีทางเลือกเพียงสองทาง ยอมรับความจริงที่แสนโหดร้ายและเดินไปข้างหน้า หรือจมปลักอยู่กับคำโป้ปดซึ่งในท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความเจ็บปวดที่ไม่ต่างกัน



เมื่อเรื่องราวทั้งสี่มารวมกันก็กลายเป็นนิทานที่สอนให้เราได้เห็นถึงสีสันของโลกภายนอกที่แท้จริง ซึ่งไม่ได้สวยสดงดงาม ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยความมืดมน ความท้อแท้ ความชั่วร้าย แต่ในขณะเดียวกันก็มีแสงสว่างระยิบระยับกลายเป็นความอบอุ่น ความรัก และความหวังให้แก่มนุษย์ชาติ

ในอีกด้านหนึ่งตัวละครสัตว์ประหลาดในเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแทนของพลังปิตาธิปไตย(นอกจากตัวพ่อในเรื่อง)ซึ่งเข้ามาเป็นตัวทำหน้าที่เติมเต็ม สั่งสอนหรือผลักดันคอนเนอร์ให้สามารถเดินก้าวผ่านสถานการณ์อันเลวร้ายและเข้าสู่ความเป็นชายอย่างเต็มตัวได้สำเร็จลุล่วง