หนังแอ็คชั่นยุคนี้แปลกอย่างนึง หลายเรื่องถ้ามันเซอร์ไพร์สฮิต แบบสนุกคาดไม่ถึง เวลาทำภาคต่อเนี่ย มันจะเจ๊งทั้งแง่รายได้และคำวิจารณ์ ยกตัวอย่างง่ายๆคือซีรีส์ has Fallen หรือ Taken (รายหลังภาค2เงินดีแต่คุณภาพไม่ค่อยจะดี) ส่วนนึงอาจเพราะว่า ทางผู้สร้างไม่เคยคิดว่าหนังมันจะได้อนุมัติภาคต่อ ทำให้เรื่องราวและบทหนังมันเหมือนการเอาหนังภาคแรก มาตีความใหม่ เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบุคคล ซึ่งการทำแบบนี้ นอกจากมันไม่มีความสดใหม่อันเนื่องมาจากภาคแรกสร้างจุดนั้นไปแล้ว เรายังดูอะไรเดิมๆที่อาจทำได้แย่ลง ผลคือมันเลยไม่เวิร์ค และเจ๊งไป ซึ่งจริงๆแล้ว John Wick ภาคแรกก็อยู่ในข่ายเซอร์ไพร์สฮิตทั้งในแง่ของคำวิจารณ์ และรายได้ที่กำไรไปถึง 20 กว่าล้านเหรียญ

คำถามคือ แล้วภาคต่อของ John Wick นี้มันซ้ำรอยกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นไหม ก็ต้องตอบว่า "ไม่"

ส่วนนึงต้องขอบคุณการสร้างโลกของนักฆ่าภายใน John Wick ภาคแรกที่มันดูดี มีสไตล์ มีความน่าสนใจ มันจึงทำให้ภาคที่สองสามารถหยิบจุดนี้มาขยายเพิ่มเติมให้มากขึ้น ผลคือมันทำให้เราเห็นภาพรวมของโลกของ John Wick กว้างขึ้นมาก และไอ้การขยายโลกของ John Wick เนี่ยแหละที่มันช่วยนำพาเนื้อเรื่องของภาคสองไปไกลกว่าหนังล้างแค้นแบบภาคแรก เราได้เห็นกฏเกณฑ์ การทำงานต่างๆของกลุ่มนักฆ่าที่ชัดเจน และ มันทำใหลุ้นหนังภาคต่อดูสนุกขึ้นอย่างมาก

อย่างมากที่ว่าก็คือ เรื่องราวในหนังมันจะค่อยๆไต่ลำดับความลุ้นระทึกเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคขั้นสุดในช่วงกลางๆไปจนท้าย มันทำให้เราเห็นว่า John Wick ชายผู้ล้างบางกองทัพมาเฟียในภาคแรกเพราะหมาตัวเดียว เป็นคน เจ็บเป็น จนมุมเป็น ตายเป็น มันช่วยเพิ่มความระทึกในการเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ไปจนจบเรื่องได้แบบเต็มอารมณ์มาก ผสานกับบทที่มันอาจดูธรรมดาไป แต่มันก็ช่วยให้เราคล้อยตามไปกับเรื่องราวได้ และสำหรับใครที่ชื่นชอบมุกตลกร้ายหน้าตายในหนัง ภาคนี้ยังคงมี และไว้ซึ่งจังหวะที่ใส่และคุณภาพความฮาเช่นเดิม (ฮา)

ฉากแอ็คชั่นในหนังใหญ่ขึ้นกว่าภาคแรก มันส์ขึ้น และออกแบบโคตรเจ๋ง ถ้าคุณชอบสไตล์การต่อสู้แบบเล็งอัตโนมัติ (Aim Bot) ในภาคแรก ภาคนี้คุณจะเห็นจนเอียนเลยทีเดียว (ฮา) แต่ว่าด้วยการออกแบบฉากต่อสู้โดยเฉพาะสถานที่ มันจึงทำให้ฉากแอ็คชั่นในหนังเป็นมากกว่าการเล็งยิง Aim Bot ทั่วๆไป แต่มันเป็นการประยุกต์กับสถานที่แบบชาญฉลาดมาก รวมถึงการเล่นมุมกล้องแบบเน้นจะๆ ตรงๆ ทำให้เราเห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นแบบชัดๆมากกว่าการส่ายกล้องเพื่อเพิ่มความดุเดือดแบบหนังแอ็คชั่นยุคนี้ที่พยายามเจริญรอยตามซีรีส์ Bourne

และสิ่งนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะหากขาดไปมันคงทำให้ฉากแอ็คชั่นในหนังจืดชืดแม้ไอเดียจะดีก็คือการทำงานของทีมสตั๊นท์ และพระเอกของเรา Keanu Reeves ที่ทำงานกันแบบถึงเนื้อถึงตัวมาก ทั้งลีลาการสู้ การยิงปืนต่างๆ รวมถึงฉากแอ็คชั่นหลายฉากที่เราเจ็บแทน พี่ Keanu เล่นแบบทำให้เราเชื่อว่านี้คือมือปืนที่ฝีมือสูงคนนึง ดูว่าการฝึกที่เราเคยเห็นในคลิปเบื้องหลัง ช่วยทำให้บทบาทจุดนี้ของ Keanu เจ๋งขึ้นเท่าตัว ในขณะที่การแสดงของพี่แกแม้จะแข็งเป๊กตามสไตล์ (ฮา) แต่มันเหมาะอย่างยิ่งกับตัวละครผู้น้อยต่อยหนักเน้นเท่แบบพี่ John และภาคนี้ก็ยังโชว์ความอ่อนไหวทางอารมณ์ให้กับตัวละครนี้มากขึ้น ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า John เป็นมนุษย์ปุถุชนมากขึ้น กล้าบอกตรงนี้ว่านี้คือบทบาทที่ดีที่สุดของเขานับตั้งแต่ Neo จาก The Matrix แล้ว

สรุปแล้ว John Wick Chapter 2 มันไม่ใช่แค่การขยายจักรวาลนักฆ่าในหนังเรื่องนี้ให้กว้างขึ้น น่าสนใจขึ้น แต่มันทำฉากแอ็คชั่นได้จัดเต็มขึ้น สนุกขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น และบทที่แม้เรียบง่ายแต่เพราะองค์ประกอบของหนังมันทำให้เราสนุกไปจนจบอย่างไม่ติดขัด รวมถึงการเพิ่มความเป็นคนให้กับพี่ John จนเรารู้สึกว่าตัวละครตัวนี้ ไม่ใช่โปรแกรม Aim Bot มีชีวิต แต่เขาคือคนจริงๆ นี้เป็นหนังแอ็คชั่นภาคต่อที่มีคุณภาพโคตรๆในรอบหลายปีอีกเรื่องนึง

เกรด A+

คะแนนมะเขือก็โหดเอาเรื่อง แบบนี้คงไม่ได้ฟลุคแล้ว

รอดูเลยที้เดียว ขอบคุณคุณโซมะครับ คิดถึงจากใจจริงว อยากดูแว้วว

คุณ soma กลับมาแล้ววว

ผมคิดว่าแฟรนไชส์นี้คือหนังแอคชั่นที่ดีที่สุดในโลกในตอนนี้เลยนะ เพราะว่าหนังมันทำสไตล์ที่ว่าพระเอกเก่งแต่บางทีก็ไม่เก่งจนเกินไปทำให้หนังมันดูมีขึ้นมีลง ดูแล้วสนุก เดี๋ยวพรุีงนี้จะได้ไปดูบ้างแล้วแอบอดใจไม่ไหวเหมือนกัน XD

คงดูวันอาทิตย์นู้นเลย

กะว่าหนังภาคต่อเเนวนี้คงไม่เท่าไหร่ พอเห็น IMDB 8.6 Rotten 90% เฮ้ย!!!!!

เดี๊ยวลากแม่ไปดูพรุ้งนี้บ่ายๆ

จิงดิ

โปสเตอร์เอาฮาใช่ไหม

จอห์น วิค น่าดูจริงๆ

แต่ว่า

Soma. กลับมาแล้วเฮ้ยยยยยยยย

John Wick มันเป็นเรียลไฟท์ เล่นจริง ทำได้จริง สตั๊นแมนมีเจ็บตัวกันจริงๆ ถ่ายเสร็จได้รอยฟกช้ำกันจริงๆ





เทียบกับเรื่องอื่นๆแล้ว คิวบู๊ของ John Wick เทพกว่าเยอะ อย่าง Sleepless นี่ก็สู้กันดุเดือด แต่ตอนถ่ายทำมันไม่ได้สู้กันจริงๆ ใช้มุมกล้องตัดสลับไปมา


ว่ากันที่คิวบู๊ +การออกแบบนะ John Wick นี่ Best Choreography เลย เมพสุดในโลกแล้วตอนนี้ สูสีกับ องค์บาก, The raid คือ พวก Taken, The Equalizer ไม่มีเรื่องไหนได้เท่าขี้ตีน John Wick เลย

จากตอนแรก John Wick เหมือนจะเป็นแค่หนังสูตรสำเร็จเดินตามพวก Taken แต่ไปๆมาๆ John Wick ทำได้ดีกว่า +สร้างมาตรฐานใหม่

ต่อไปอาจจะได้เห็นหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ด ที่มีสไตล์ Gun Fight +martial arts แบบ John Wick ออกมาอีกหลายเรื่อง คืออะไรที่มันเจ๋งๆ แปลกใหม่ คนดูชอบ มันก็จะมีคนทำตาม





The Accountant นี่ก็เริ่มใช้คิวบู๊สไตล์ John Wick ละ แต่ยังใช้สตั๊นแมน เฮียเบน ไม่ได้ทุ่มทุนเจ็บตัวแบบคีนู และก็ยังไม่ไหลลื่นเท่า John Wick แต่รวมๆก็โอเค


คู่ปรับจอห์น วิค ไม่ใช่พวกเลียม นีสันนะ เจอกันตัวๆคุณพ่อไบรอัน มิลส์ ได้มีรูกลางกระบาลแน่ คู่ปรับเฮียจอห์น ตอนนี้ดูแล้ว มีที่พอสูสีกับเฮียจอห์น วิค ก็มีนักบัญชีนี่แหละ

เพิ่งไปดูมาสดๆตอนบ่ายโมง ขอบอกว่าภาคนี้มันส์จริง สุดจริง ฉากยิงกันคุณพระคุณเจ้ามากเพราะมันดูรุนแรงกว่าเดิมพอตัว แถมคู่ปรับภาคนี้ไม่เก่งไม่อ่อนจนเกินไปพอให้คนดดูได้ลุ้น แล้วมีการพลิกเนื้อเรื่องช่วงท้ายได้พีคมากๆ สมการรอคอยครับภาคนี้

ใครคอแนวแอคชั่นยิงหูดับตับไหม้ขอบอกเลยครับว่าดูเรื่องนี้แล้วโคตรฟิน
ภาค3ปีไหนออกบอกได้เลยจะไปดูอีก

ดูมาเมื่อกี้

ภาค 3 มาตอนไหนนิ อยากรู้เนื้อเรื่องจะเดินไปทางไหนต่อ ในเมื่อ จอนเลือกทางแบบนี้?

แต่เสียดายบท รูบี้ โรส