เห็นพิ่มไม่พูดบัตรทองบ้าง
ครม. อนุมัติงบบัตรทองปี 63 จำนวน 1.91 แสนล้านบาท เพิ่มเหมาจ่ายเป็น 3,600 บาทต่อหัว



การเมือง
ครม. อนุมัติงบบัตรทองปี 63 จำนวน 1.91 แสนล้านบาท เพิ่มเหมาจ่ายเป็น 3,600 บาทต่อหัว
7 นาที 13 กุมภาพันธ์ 2019
เขียนโดย
Workpoint News
Advertisement


มติครม. อนุมัติงบกองทุนบัตรทองปี 63 วงเงิน 1.91 แสนล้านบาท ดูแลประชาชนกว่า 48 ล้านคน คิดเป็นอัตราเหมาจ่ายรายหัว 3,600 บาท “เลขาธิการ สปสช.” ระบุ จะนำมาสู่การพัฒนาระบบ เพิ่มการเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขที่จำเป็นให้กับประชาชน

วันที่ 12 ก.พ. พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการกระชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้ อนุมัติงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 1.91 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 2562 จำนวน 6,500 ล้านบาท สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) 48.26 ล้านคน คิดเป็นอัตราเหมาจ่าย 3,600 บาทต่อหัว เพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 173 บาทต่อหัว

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพประชาชน เชื่อว่าวงเงินอนุมัตินี้จะทำให้ประชาชนเข้าถึงการบริการสาธารณสุขได้อย่างถ้วนหน้า ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

โดยงบที่ได้รับประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้

1.งบบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว จำนวน 1.74 แสนล้านบาท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายหน่วยบริการในส่วนเงินเดือน ค่าตอบแทนบุคลากรและค่าบริการสาธารณสุขในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จำนวน 48.26 ล้านคน คิดเป็นอัตราเหมาจ่ายรายหัว 3,600 บาทต่อประชากร เพิ่มขึ้นจากปี 2562 เป็นจำนวน 173 บาท/ประชากรผู้มีสิทธิ์

2.งบบริการสาธารณสุขผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 3,596 ล้านบาท

3.งบบริการสาธารณสุขผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง จำนวน 9,405 ล้านบาท

4.งบบริการบริการควบคุมป้องกันความรุนแรงโรงเรื้อรัง จำนวน 1,037 ล้านบาท

5.งบค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จำนวน 1,490 ล้านบาท

6.งบค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงในชุมชน จำนวน 1,025 ล้านบาท

7.งบค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมบริการระดับปฐมภูมิที่มีแพทย์ประจำครอบครัว จำนวน 268 ล้านบาท
Workpoint News

อยากให้ทุกคน ไม่ว่าจะเสื้อแดง นกหวีด หรือทุกคนที่เคยเชียร์ข้างใดข้างนึงอย่างสุดโต่ง ลองดูคลิปนี้ของเสรี ลองเปิดใจกว้างๆ ทำหัวโล่งๆ แล้วลองพิจารณาดูซักนิด



ส่วนตัวไม่ได้ฝักฝ่ายไหนเป็นพิเศษ วางตัวเป็นกลางมาตลอด แต่ช่วงนี้กระแสการเมืองมันมา และเมืองไทยเว้นช่องว่างจากประชาธิปไตยมานานมาก เลยเริ่มสนใจ และมองเห็นว่า

สิ่งที่เราหลายๆคน มาทะเลาะกันอยู่ตรงนี้ "เกิดจากการยุยงปลุกปั่นเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มไหนรีเปล่า?"

เราเป็นประชาชนคนนึง ที่กำลังถูกจูงจมูกให้ทะเลาะกันเอง เพื่อผลประโยชน์ของใคร??

สุดท้าย ความเกลียดชังที่พวกท่านเกลียดกัน ไม่ว่า เกลียดแม๊ว เกลียดปู เกลียดคนนู้น เกลียดคนนี้ ลองนั่งนิ่งๆแล้วพิจารณาดูว่าสิ่งที่ท่านกำลังเป็น กำลังคิด กำลังฝังใจ มันเกิดจากการจูงใจของใครให้คิดแบบนี้หรือเปล่า

หรือเราอยากวนเวียนติดวังวงของการรัฐประหารต่อไป พอทหารอยากขึ้นมา ก็สร้างสถานการณ์ สร้างความเกลียดชัง (เหมือนปี 35) แล้วก็ล้มกระดาน เป็นแบบนี้ไม่รู้จบ

แล้วประเทศไทยจะเดินไปทางไหนครับ ....

ขอถามนอกกระแสเลือกตั้งหน่อยครับ แต่ยังเป็นคำถามการเมือง

ผมสงสัยเรื่องนาฬิกายืมเพื่อนของบิ๊กป้อมน่ะครับ สงสัยว่าเรื่องนี้บิ๊กป้อมผิดยังไง

คือเจตนาผมไม่ได้จะปกป้องคสช. ทหารหรือพรรคพวกบิ๊กตู่นะ แต่ผมอยากรู้ว่าการที่บิ๊กป้อมมีนาฬิกาหรูที่ยืมเพื่อนมามันมีข้อกฏหมายอะไรผิด และเรียกร้องให้ตรวจสอบ และถึงแม้ปปช.จะบอกว่าไม่ผิด ก็ไม่เชื่อบ้างก็อ้างว่า ปปช.โดนทหารกดอยู่อะไรก็ตามแต่ ก็ยังคงด่ากันถึงทุกวันนี้

แต่หลักฐานหรือข้อกฏหมายที่ชี้ให้เห็นว่าบิ๊กป้อมผิดจริงๆมันคือเรื่องไหนครับ นอกจากความคิดมโนไปเองว่าบิ๊กป้อมรวยผิดปกติ ต้องคดโกงมาซักทางนึงแน่ๆ

สำหรับสิ่งที่ผมรู้คือ นักการเมืองต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินก่อนและหลังจัดตั้งรัฐบาล พูดง่ายๆคือก่อนมีเท่าไหร่ หลังมีเท่าไหร่ มีความผิดปกติหรือไม่ แต่กรณีของบิ๊กป้อมมันยังไม่ถึงเวลาตรวจสอบตามเวลาของมัน ผมก็เลยสงสัยว่ามีข้อกฏหมายไหนอีกรึเปล่าที่ผมยังไม่รู้

ใครมีความรู้รบกวนหน่อยครับ

ใครพอรู้บ้างว่าเราสามารถติดต่อกับทักกี้ได้ไง ทางเฟซ ไอจีได้หรือเปล่า ผมมีแผนเซ็ทซีโร่สีเสื้อละ อิอิอิ

สิงคโปร์ทำพิธีปล่อยเรือดำน้ำ
[Link]

เทียบกันงบประมาณกลาโหม 3 รัฐบาล

ผมว่าเก็บแผนติดต่อทักกี้ไว้ก่อนก็ได้ ผมอ่านสูตรแล้วเค้าก็ทำๆกันอยู่ทุกคนนี่ล่ะ คือมันไม่ใช่แผนแต่เป็น No idea ครับ

กรุงเทพมหานครชี้แจง กรณีข้อโต้แย้งการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง

สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ขอเรียนข้อเท็จจริง ดังนี้

ในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครนั้น กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการทุกโครงการ รวมทั้งมีสิทธิในการจัดเก็บค่าโดยสาร การหารายได้เชิงพาณิชย์จากโครงการต่าง ๆ ของบริษัท และการหาแหล่งเงินทุนในการก่อสร้าง โดยกรุงเทพมหานครไม่ได้มีการสนับสนุนงบประมาณแก่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด แต่อย่างใด สำหรับโครงการรถฟ้าสายสีทองเป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เข้าบริหารจัดการและดำเนินการจัดหาแหล่งเงินทุนในการก่อสร้าง โดยไอคอนสยามได้ประสงค์ซื้อสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองล่วงหน้า 30 ปี มูลค่าของสัญญา 2,080 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่เคยมีการศึกษาความเหมาะสมของโครงการไว้ ประกอบด้วย โครงการจ้างที่ปรึกษาฯ โดยสำนักการจราจรและขนส่ง เมื่อปี พ.ศ.2559 ซึ่งคิดรายได้เชิงพาณิชย์ 1,110 ล้านบาท และที่ปรึกษาทบทวนผลการศึกษา จ้างโดยบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด คิดรายได้เชิงพาณิชย์ 723.9 ล้านบาท

ดังนั้น การที่กล่าวว่าไอคอนสยามออกเงินสร้างให้ แต่ กทม. ต้องผ่อนชำระคืน 20 ปี ในรูปของค่าเช่าพื้นที่โฆษณาจึงไม่ถูกต้องแต่อย่างใด รวมทั้งกรุงเทพมหานครไม่ต้องสนับสนุนงบประมาณใด ๆในการก่อสร้างโครงการ และเมื่อการดำเนินงานได้ผลกำไร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จะต้องจ่ายผลตอบแทนให้กับกรุงเทพมหานครในอัตราร้อยละ 50 ตามสัญญาระหว่างกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัดด้วย

สำหรับการเดินทางระหว่างรถไฟฟ้าสายสีทองมีการเชื่อมต่อกับโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนหลักสายอื่น รายละเอียด ดังนี้
1.จุดเชื่อมต่อที่ 1 : รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS ส่วนต่อขยายสายสีลม) ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนถ่ายกับระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS ส่วนต่อขยายสายสีลม) สถานีกรุงธนบุรี (S7) ได้ที่สถานี G1 (สถานีกรุงธนบุรี) ของโครงการ โดยสามารถเดินผ่านทางเชื่อมระดับชั้นโดยสารระหว่างสถานีในระยะทางประมาณ 40 เมตร
2.จุดเชื่อมต่อที่ 2 : รถไฟฟ้าสายสีแดง ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงหัวลำโพง – บางบอน – มหาชัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากการรวบรวมข้อมูลตามแผนแม่บทรถไฟฟ้าฯ พบว่าหากสถานีคลองสายของรถไฟฟ้าสายสีแดงจะอยู่บริเวณถนนลาดหญ้า ณ บริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาจะสามารถเชื่อมต่อกับสถานี G3 (สถานีคลองสาน) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองได้โดยการเดินทางประมาณ 290 เมตร
3.จุดเชื่อมต่อที่ 3 : รถไฟฟ้าสายสีม่วง ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะที่สถานีสะพานพุทธ ซึ่งเป็นรูปแบบใต้ดิน ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนถ่ายได้ที่สถานี G4 (สถานีประชาธิปก) ของโครงการโดยการเดินเท้าระยะทางประมาณ 405 เมตร ไปตามแนวทางเท้าของถนนสมเด็จเจ้าพระยา

พร้อมกันนี้ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ขอเรียนชี้แจงด้วยว่า กรุงเทพมหานคร ได้มีการศึกษาโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรองและได้นำเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองในการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการและมอบสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาความเหมาะสมเพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระยะที่ 2 ปัจจุบันอยู่ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาดำเนินการ ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 และมีมติเห็นชอบให้ กรุงเทพมหานครเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง

เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดรองทำหน้าที่เป็นระบบเสมือน(Feeder System) ให้แก่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนระบบหลัก ส่งเสริมการเข้าถึงและเป็นทางเลือกการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ซึ่งจะมีปริมาณผู้โดยสารมีน้อยต่อเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนหลัก ดังนั้น เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรูปแบบการก่อสร้างแบบยกระดับกับแบบใต้ดินสามารถสรุปได้ว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นรูปแบบยกระดับมีข้อดีกว่าการก่อสร้างเป็นรูปแบบใต้ดินหลายประการ ดังนี้

1. ก่อสร้างง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน และใช้ระยะเวลาก่อสร้างที่น้อยกว่า

2. ค่าก่อสร้าง ค่าการดำเนินงาน และบำรุงรักษาระบบต่ำกว่า จึงมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการเงินการลงทุนที่ดีกว่า

3. สามารถออกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน เนื่องจากมีระบบส่งน้ำหลักของการประปานครหลวงอยู่ใต้ถนนเจริญนคร

4. ผลกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เนื่องจากปริมาณงานในการก่อสร้างแบบยกระดับน้อยกว่ารูปแบบใต้ดิน

5. ผลกระทบทางสังคมน้อยกว่า เปิดพื้นที่ก่อสร้างน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องเวนคืนที่ดิน

6. เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนหลักสายอื่น ๆ ได้สะดวกกว่า

โดยคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 และมีมติเห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2537 เรื่อง พื้นที่ที่ควรกำหนดให้ระบบขนสงมวลชน (รถไฟฟ้า) เป็นระบบใต้ดิน

http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/8747%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2?fbclid=IwAR1EcXDikV4co7Ihuz7cirD94WzEg_qu1SyIDO15NwStFplv_jEtq33PgCU

[Link]

ต้องมีพ่อปื้ดเข้าสภารอบหน้าจริงๆเหรอ

ใกล้วันก็มีข่าวพรรค์นี้ออกมาอีก

จะพอเหมาะพอเจาะไปหน่อยนะ


ปิดพื้นที่กู้ระเบิด 2 ลูกใน ซ.อินทามระ 55

[Link]

ออสเตรเลีย ยอมรับผิดกรณี "ฮาคีม" โบ้ยระบบไอทีโบราณ
[Link]
ไอ้ที่ด่าประเทศจะว่าไง ออสเตรเลียผิดเองนะโว๊ย

#ความจริงอันโหดร้าย

วันนี้แอดได้สัมภาษณ์คุณ ณิฏฌาพัทน์ แป้นแก้ว (คุณอัน)
อดีตผู้สมัครลง สส. เขต 1 ของพรรคอนาคตใหม่ ชนะโหวตภายในแต่พรรคไม่ส่ง มาดูเบื่องลึกกันครับ

#แอด : เกิดอะไรขึ้นครับ เจออะไรมา

#อัน : สิ่งที่อันเจอมาคือ มีคนในพรรคโทรมาบอกกับคณะทำงานจ.ลำปาง ค่ะ ว่าต้องการเอาอีกคนนึง ตอนแรกเค้าตัดอันไม่ให้ได้ลงไพมารี่โหวตด้วยซ้ำค่ะ แต่คณะทำงานจ. ลำปางขอไว้ ค่ะ

วันที่ 2 ของการไพมารี่โหวตเลยมีชื่ออันขึ้นมา (วันแรกไม่มีอัน เป็นผู้สมัคร อีกคนขึ้นมาคนเดียวเลยค่ะ ) จากนั้นพอทำการไพมารี่โหวตเสร็จ เราต้องรอให้ทางพรรคโทรมาสอบถามความเห็นของคณะทำงานอีกที แต่ไม่มีการโทรมาสอบถามใดๆ

คะแนนเป็นตามที่คุณเห็นค่ะ ว่าคะแนนโหวตอันได้มากกว่า #31ต่อ7 แต่ใกล้ถึงวันประกาศ กลับมีเลขาธิการพรรคโทรมาหาคณะทำงาน จ.ลำปางให้บอกครอบครัวอันว่ายังไงก็จะให้อีกคนนึงได้ เมื่อถามถึงเหตุผล คำตอบคือ #กลัวเสียหน้าค่ะ

อันขอสาบานว่านี่คือความจริงที่คณะทำงานเป็นคนบอกกับครอบครัวอันค่ะ และนี่เป็นสิ่งที่อันได้รับจากพรรคถึงแม้คณะทำงานจ.ลำปางจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ พรรคไม่เคยติดต่อมาอธิบายกับเราเลยมีแต่ให้คณะทำงาน มาบอกเรา

อันและครอบครัวแค่อยากให้พรรคออกมาพูดความจริง
สิ่งที่พรรคทำไม่เป็นประชาธิปไตยเลย กับเหตุผลที่กลัวใครเสียหน้า

#แอด : คิดว่าทำไมพรรคถึงเลือกอีกท่าน

#อัน : ผู้สมัครอีกท่านเป็นคนที่ได้รับการยอมรับในสังคม
ดูภายนอกแล้วแทบไม่มีข้อติใดๆเลยด้วยซ้ำ

ด้วยคุณสมบัติต่างๆแล้ว การที่จะได้ลงสมัครสส ก็ไม่แปลกเลย เพียงแต่ มันเริ่มจากครอบครัวอันเป็นสมาชิกพรรคนี้ตั้งแต่แรกๆ สำนักงานพรรคยังไม่ตั้งไม่ได้ด้วยซ้ำ จะมีคนเข้ามาสมัครเป็นสส โดยเขต1ไม่มี จนมีคนไปเชิญชวน คนนี้มา

พวกเราที่เป็นสมาชิกพรรคก็รู้และช่วยเหลือพรรคมาเรื่อยๆเพราะการจะส่ง ผู้สมัครได้นั้น พรรคต้องหาสมาชิกให้ได้100คนก่อน หากมีไม่ถึงก็ไม่สามรถส่งผู้สมัครได้ทั้ง จังหวัด ทุกคนในสำนักพรรคกังวลว่าจ.ลำปาง จะไม่สามารถส่งได้ เพราะสมาชิกมีน้อยเหลือเกิน

ผู้สมัคร เขต1 คนนี้ก็ไม่ค่อยให้คำตอบเลยว่าหาสมาชิกได้กี่คน หาได้มั้ย จนวันสุดท้ายของการรับสมัคร ผู้ลงสมัคร สส คณะทำงานจังหวัดเลยพูดให้อันลง เพราะเค้าเห็นครอบครัวเราช่วยในพรรคมาตลอด อันจึงลงสมัคร

จากนั้นมาเราก็ช่วยเหลือทำงานในพรรคมาตลอด อันเองก็ไม่ได้คิดว่าอันจะได้ค่ะ เพียงแต่ ผู้สมัครอีกท่านไม่เคยมาที่สำนักงาน ไม่มาประชุม ไม่มาหารือ ไม่มาร่วมกิจกรรมใดๆของพรรคเลย มาครั้งเดียวตอนที่หัวหน้าพรรคมา แล้วก็ไม่มาทำอะไรเกี่ยวกับพรรคอีกเลย นี่เป็นสิ่งนึงที่อันมองว่าคนทำงานทุ่มเทก็อาจจะมีสิทธิ และพรรคจะมองเห็น เพราะอันก็เป็นแค่คนธรรมดา

#แอด แล้วที่เขาว่าเกณฑ์คนมาโหวต จะชี้แจงอย่างไร

#อัน สมาชิกทุกคนในพรรคต้องมาช่วยกันโหวต รับรองหัวหน้าคณะทำงานจังหวัดลำปางค่ะ ถามว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวมั้ย รู้จักบ้างเพิ่งรู้จักบ้าง ประมาณ70คนที่ว่านี้ คือสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องมาช่วยกันโหวตรับรองหัวหน้าคณะทำงาน ไม่ได้พามาโหวตให้อัน

สมาชิกทั้งหมดคือคนที่ อัน และครอบครัว ไปพูด ไปชวน ให้มาสมัครสมาชิกพรรคตั้งแต่แรก ส่วนใหญ่เป็นเพื่อไทยค่ะ แต่เราพูดนโยบายพรรคบ้าง แนะนำหัวหน้าพรรคบ้าง อธิบายจนเค้ายอมรับและเชื่อ และยอมสมัครพรรคอนาคตใหม่ จึงไม่เข้าใจว่าบ็อบบี้เกณฑ์คนยังไง

มันเป็นหน้าที่ ที่ผู้สมัคร แต่ล่ะคน ก็ต้องช่วยกันเกณฑ์คนมาโหวตรับรองคณะทำงานจ ลำปางให้ได้เสียงเกิน50 เสียงอยู่แล้ว ในวันโหวตนั้นจะมีกกต มาดูด้วย เรื่องนี้เป็นการทำเพื่อพรรคนี่คะ

ตอนที่คุณธนาธรมา ลำปาง หัวหน้าพรรคเป็นคนบอกเองว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันและไม่ว่าใครได้เป็นตัวแทน คนที่ไม่ได้ก็จะช่วยเหลือพรรคด้วยกันต่อไป

#แอด สุดท้ายอยากฝากอะไรไหมครับ

#อัน ตอนนี้ลาออกแล้วค่ะแต่ยังคงอยู่ฝั่งประธิปไตยค่ะ

เราอยู่แบบนี้เราก็ช่วยชาวบ้านได้ ชาวบ้านน่ารัก ไม่ได้โง่เหมือนที่คนรวยเข้าใจ อันกลับมีความสุขเวลาที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวหาชาวบ้าน ขอบคุณมากนะคะ

แล้วคุณคิดอย่างไรกันครับ
เพจ drama fight

ทุกท่าน​ ใครพอรู้ประวัติ​ บิ๊กเจี๊ยบ​ ธนะศักดิ์​ ปฏิมาประกรมั้ยฮะ​ ทำไมนายทหารชั้นนายพลของคสชท่านนี้​ ถึงแตกต่างกับพรรคพวกราวฟ้ากับดินเลย​ คนนี้ไม่ค่อยมีประวัติทะเลาะกับใคร​ เห็นตั้งหน้าตั้งตาทำงาน​ ที่ผ่านมาเห็นเข้ากันได้ดีกับกระทรวงวัฒนธรรมและกรมศิลป์​ แบบขยันสุดๆ

เปิดตัวเลขงบฯกลาโหมย้อนหลัง16 ปี ประจานนักการเมืองปลิ้นปล้อนหาเสียง
[Link]