นั้นไงละพี่บิณฑบาตเจอปัญหาแล้ว https://baabinnews.com/entertain/5590?fbclid=IwAR1JVwCn7zHxELx-xfo5H2oZ5XX-eMv4SvTdIh8mT1LA4vzqAaUodx2S1Fs[/url]

[Link]

ลองฟังเสียงชาวบ้านเรื่องนายกลงพื้นที่ดูไหม

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรง เหล่าทัพ เปิดรับและศึกษาแนวคิดของร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และประเด็นที่อาจจะส่งผลต่อทบต่อความมั่นคง ระบบโครงสร้างกำลังพล รวมทั้งโครงสร้างงบประมาณ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้กระทบภารกิจหลักความมั่นคงของกองทัพ
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ฝากให้เหล่าทัพดูแลเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ไม่ได้ย้ำอะไรเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นการทำงานตามภาวะปกติ ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวกับความมั่นคง
ที่มา แนวหน้า

21 ก.ย.62 - นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธานภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยจะเปิดเผยหลักฐานสิ่งจูงใจเพื่อดูส.ส.พรรคเพื่อไทย ของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ หากไม่หยุดพฤติกรรม ว่าขณะนี้ยังไม่ได้พบกับส.ส.ที่มีชื่อในข่าว ยังไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริง ส่วนตัวมองว่าการที่ส.ส.จะไปทานข้าวกับใครถือเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล หากมีความสนิทสนมกันสามารถไปทานข้าวร่วมกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ถือเป็นการเอื้ออาทรต่อกันด้วยซ้ำไป เรื่องนี้ไม่ถึงขั้นจะเป็นจะตาย หากกรรมการบริหารพรรคติดใจในเรื่องนี้สามารถตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ว่า มีการมอบสิ่งจูงใจเหมือนที่เป็นข่าวหรือไม่ หากผลออกมาเป็นทางลบค่อยตั้งกรรมการสอบวินัยต่อไป

"แต่ถ้าไม่มีอะไรก็ควรปล่อยเรื่องนี้ไป ส่วนตัวมองว่าแค่เขาไปกินข้าวกันแล้วต้องมาระแวงเช่นนี้ไม่ถูกต้องนัก ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส.ส.แต่ละคนมีวุฒิภาวะรู้ผิดชอบชั่วดีหากทานข้าวกันแล้วไม่มีการก้าวล่วงงานของกันและกันก็ไม่มีอะไรเสียหาย"

มีรายงานว่า จากกรณีกระแสข่าวส.ส.พรรคเพื่อไทยไปทานข้าวร่วมกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐก่อนการประชุมสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันที่ 18 ก.ย. ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องคือส.ส.ที่ปรากฏชื่อในข่าวมาสอบถามข้อเท็จจริง

เห็นจะม็อบกันจริงจังแล้วหนิ

นัดม็อบทุกวันอาทิตย์​ บิ้วไปเรื่อยๆคนน่าจะเริ่มเยอะขึ้นนั

เพราะนาทีตู่พูดแต่เรื่องไม่เข้าหู

คิดว่าเมื่อฝุ่นกลับมา คิดว่าคราวนี้รัฐบาลจะจัดการจริงจังไหมครับ คราวที่แล้วที่ไม่จัดการผมคิดว่าช่วงหาเสียง เลยไม่อยากเสียฐานเสียง่ายๆ ตอนนี้อยากรู้ว่ามันถืออำนาจเต็มมือละ มันจะใส่ใจจัดการจริงๆไหม

สรุปย้ายชาวบ้านไม่ใช่เพราะนายก
[Link]

ช่อง3นี้มันเหรี้ยจริมๆ

Blind Trust ที่แท้ทร
[https://www.isranews.org/isranews/80698-isranewss-80698.html[/url]

ตกลง blind trust นี้คือหาเสียงให้ซ้อมบี้ส้มฟินกันเล่นๆใช่ไหมครับ

นายปิยบุตรบอกว่า ขณะนี้นายธนาธรเป็น ส.ส. แต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฎบัติหน้าที่อยู่ หากศาลยกคำร้องตรงนี้ก็สามารถดำเนินการได้ เพราะเมื่อเป็น ส.ส. และได้ปฎิบัติหน้าที่ เชื่อว่านายธนาธรจะนำทรัพย์เข้ากระบวนการ Blind Trust เพราะเป็นความตั้งใจที่จะยกมาตฐานจริยธรรมทางการเมือง

แล้วที่จัดงานแถลงข่าวละ

23 ก.ย.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เดินทางมาตามที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีชุมนุมล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลานัด นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง นายวิภูเเถลง ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่เคยต่อสู้คดีพร้อมยื่นคำให้การใหม่เป็นรับสารภาพ ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณามีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งอีกครั้งต่อไป.

อ่านไปสามรอบ ผมแปลกไหมที่หาความเชื่อมโยงไม่เจอ

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายสมพงษ์ เรืองศรี อายุ 63 ปี ผู้ต้องค้ายาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย พร้อมยึดรถยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท นาฬิกายี่ห้อหรู 2 เรือน และเงินในบัญชีธนาคารกว่า 10 บัญชี รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

โดยนายสมพงษ์ เคยถูกจับคดีจำหน่ายเฮโรอีนเมื่อปี 2545 ถูกยึดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท กระทั่งจับกุมได้ในครั้งนี้ และเจ้าพนักงานจะตรวจยึดทรัพย์สินในเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งพบว่าเครือข่ายของนายสมพงษ์มีการนำเงินไปทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินคาดว่ากว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตำรวจได้คุมตัวนายสมพงษ์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยัง อ.เกาะสมุย เข้าตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งเปิดเป็นห้างหุ้นส่วนบริการเช่ารถตู้วีไอพี และพบรถตู้ Alphard สีดำ ทะเบียน 1177 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเคยใช้รับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่เกาะสมุย เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 จอดอยู่ในโรงจอดรถด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบว่าเป็นของเครือญาตินายสมพงษ์ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดแต่อย่างใด

พาดหัวนี่บางคนไม่อ่านด่าเลยก็มี
[Link]