Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review - Thor : Ragnarok (ธอร์ เชิญยิ้ม)

<<
<
1
2
3
>
>>
Reply
Vote
# Tue 7 Nov 2017 : 1:26PM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review - Thor : Ragnarok (ธอร์ เชิญยิ้ม)

กำกับ : Taika Waititi (Eagle vs Shark, What We Do in the Shadow, Hunt for the Wilderpeople)

มาถึงภาคที่สามแล้วกับหนังฮีโร่มาร์เวลขวัญใจหลายๆคนอย่าง Thor แต่ภาคนี้เปลี่ยนแนวไปนิดหน่อยจากสองภาคแรก หน้าหนังดูมีโทนขี้เล่นมากขึ้น และดูมีกลิ่นของ Guardians of the Galaxy มาก ทั้งการเน้นความตลกและการใช้เพลงเก่ายุค 80s เข้ามา (สองภาคแรกแทบไม่มีการใช้ดนตรีแบบนี้เลย) และคะแนนรีวิวชุดแรกก็ออกมาดีมากถือเป็นหนัง Thor ที่มีรีวิวที่ดีที่สุดเลยทีเดียว แล้วตัวผมล่ะคิดอย่างไรกับ Thor : Ragnarok มาดูกันครับ



Thor : Ragnarok เล่าถึงเหตุการณ์ต่อจาก Thor : The Dark World ที่ Loki (Tom Hiddleston) ได้หลอก Odin (Anthony Hopkins) แล้วขึ้นครอง Asgard เสียเอง เดือดร้อนถึง Thor (Chris Hemsworth)ต้องมาจัดการน้องตัวแสบ แต่แล้วเรื่องราวกลับยุ่งเหยิงมากขึ้น เมื่อ Hela (Cate Blanchett) พี่สาวคนโตจอมบ้าอำนาจของ Thor ได้หลุดออกจากการกักขังของ Odin และได้กลับมายัง Asgard เพื่อยึดอำนาจ Hela นั้นมีพลังอำนาจมากถึงขนาด Thor ร่วมมือกับ Loki ยังไม่สามารถต่อกรได้ Thor ถูกทำลายค้อน Mjolnir คู่ใจ และยังถูกส่งไปยัง Sakar โลกที่อยู่ในช่องว่างต่างมิติอีกด้วย เขาจะหาทางกลับ Asgard มาล้างแค้น Hela ได้หรือไม่ ติดตามได้ใน Thor : Ragnarok ครับ



สำหรับ Thor : Ragnarok ก็ถือเป็นหนัง Marvel ที่สามารถให้ความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ตามมาตรฐานของหนัง Marvel แทบจะทุกเรื่องที่ผ่านมา แต่กับเรื่องนี้ได้เลือกที่จะเน้นมุกตลกมากขึ้น ปล่อยมุกรัวขึ้น ตัวละครทำอะไรรั่วๆมากขึ้น ซีเรียสน้อยลง มุกตลกก็ถือว่าเวิร์คเป็นส่วนใหญ่ครับ (ถึงแม้ว่าจะไม่พีคเท่าที่หวังไว้ก็ตาม) ซึ่งก็คงถูกใจแฟนหนังบางท่าน แต่สำหรับผม ผมรู้สึกว่ามันไร้แก่นสารเกินไปหน่อย องค์ประกอบหลายอย่างใน Thor : Ragnarok นี้บางตอนนี่อยู่ในระดับโศกนาฏกรรมได้เลย แต่ผกก.ก้เลือกที่จะถ่ายทอดออกมาแบบง่ายๆ แปปๆ เดี๋ยวก็ลืม ทำให้ความหนักแน่นของหนังมันหายไป รู้สึกเหมือนดูตลกคาเฟ่มากกว่า (หรือหากจะบอกว่า “แค่สนุกก็พอแล้ว คิดอะไรมาก” ผมก็คิดว่ามันไม่ได้สนุกพีคขนาดนั้นครับ) หนังยังดำเนินเรื่องค่อนข้างเร้ว แต่สิ่งที่เป็นแก่นของเรื่องจริงๆก็มีอยู่ช่วงท้ายแค่นิดหน่อยครับนอกนั้นเหมือนเป็นการ Sidetrack เพื่อจับตัวละครมาเจอกันมากกว่า แต่มันก็มีส่วนดีเพราะการได้ดูความสัมพันธ์ของตัวละคร Marvel ที่ปูมาเป็นอย่างดีก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งหนึ่งของหนังเรื่องนี้ครับ และเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุด Climax หนังก้สร้างความผิดหวังอีกรอบ เพราะเหล่าตัวละครที่อุตส่าห์ปูมาโชว์ฟอร์มได้ไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ คือมันก็ดูสนุกดีแต่ดูไม่สมศักดิ์ศรีอย่างไรไม่รู้ โดยเฉพาะตัวร้ายที่เป็นปัญหาของหนังมาร์เวลแทบทุกเรื่องแล้ว เรื่องนี้ Built มาซะเก่งเทพแต่บทจะแพ้ก็ง่ายแสนจะง่าย ผิดหวังจริงๆครับกับตรงนี้



งานภาพนั้นเน้นสีสันสดใสมากขึ้นเข้ากับธีมของหนังที่ซีเรียสน้อยลง แต่พอเป็นแบบนี้ CG มันเลยดูลอยมากขึ้นมีซีนที่ดูหลอกตาเยอะอยู่อย่างไม่น่าเชื่อว่าหนังมาร์เวลเก็บงานได้แค่นี้เองหรือ ดนตรีประกอบมีเพลงเอกคือ The Immigrant Song ของ Led Zeppelin ที่ใช้บ่อยมาก คือมันก็เพราะดีนะ แต่ใช้บ่อยจนรู้สึกว่าเล่นง่ายไปหน่อยไหม สุดท้ายการแสดง ตามมาตรฐานหนังมาร์เวลไม่มีอะไรโดดเด่น ผ่าน!!!

สรุป : มันก็สนุกดีแหละครับ ดูคลายเครียดได้ดีเลย แต่ผมว่ามันไร้แก่นสารไปหน่อย รีวิวที่ให้เยอะๆนี่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นอะไรในหนังเหมือนกัน 555 แต่ผมไม่เห็น ._.

คะแนน : 7.8/10 (B+) เฉยๆครับ


# Tue 7 Nov 2017 : 2:52PM

[LMD]Mozart
member

Since 10/12/2006
(19374 post)
เอาจริงๆ ภาคนี้ คะแนนรีวีวดีกว่า 2 ภาคแรกเยอะเลยนะ ผมว่่ มันมาถูกทางโคตรๆเลย ทอร์ควรเน้นตลกแบบภาคแรก แต่ภาคแรกมันไม่สุดเท่าภาคนี้

# Tue 7 Nov 2017 : 3:06PM

PNA888
member

Since 2014-09-08 12:28:47
(4154 post)
เป็นหนังตลกที่เอฟเฟ็คดีที่สุดเท่าที่เคยดูมา

# Tue 7 Nov 2017 : 3:57PM

MikuSukoy
member
เขาพยายามอย่างหนักเพื่อจุดไฟให้ลุกโชน
Since 2016-07-07 16:54:43
(2835 post)
ตามหมอ ๆ ๆ ๆ

# Tue 7 Nov 2017 : 5:07PM

FOR_ALL
member

Since 12/2/2009
(6878 post)
เป็นหนังคะแนนรีวิวสูงรายได้ดีที่ผมดูไม่สนุกเลย หนังตลกบ้าบอไม่เมคเซ้นส์
[Edited 1 times FOR_ALL - Last Edit 2017-11-07 17:08:03]

# Tue 7 Nov 2017 : 8:17PM

Zirondus
member

Since 15/5/2009
(897 post)
เป็นหนังที่ดูสนุกพอสมควร มุกตลกเฮฮาเยอะดี แต่เนื้อเรื่องนี่ไม่ค่อยจะถึงไหน ผมคาดหวังว่ามันจะส่งไปสู่ Infinity Wars อย่างยิ่งใหญ่ แต่ก็ต้องผิดหวังกลับบ้าน เปิดเรื่อง Ragnarok มาซะน่ากลัว Hela ก็ดูเก่งกาจ แต่ก็จบแบบง่ายๆ ตามสไตล์ Marvel

# Tue 7 Nov 2017 : 9:30PM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5791 post)
ตอนปูทางเล่าเนื้อเรื่องของตัวละครอย่าง เฮล่า, แกรนด์ มาสเตอร์, แบนเนอร์, วัลคีรี่และสเกิร์จ มันก็สนุกดีมีการฟอร์มทีมใหม่ แต่ทีมเก่าตายแบบง่อยแดกมากพวกโฮกัน, ฟันเดรล, โวล์สแท็กก์
ตอนจบก็บลา บลา บลา ตามสไตล์มาร์เวล

คะแนน 8/10

คือเป็นหนังฮีโร่ที่สนุกใช้ได้อีกเรื่องหนึ่งในปีนี้และของมาร์เวล บวกกับเป็นหนังตลกคอมเมดี้ที่มีทุนสร้างสูงสุดตลอดกาล ด้วยจำนวนเงิน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าอยากได้เนื้อหาแบบลึกๆต้องรอจัสติซ ลีกเอาแล้วสำหรับหนังฮีโร่ปีนี้ ลุ้นกับเจแอลแบบชนิดว่าจะได้สร้างหนังแยกเดี่ยวครบทุกตัวละครหรือเปล่า
[Edited 1 times "MnemoniC" - Last Edit 2017-11-07 23:26:47]

# Tue 7 Nov 2017 : 10:25PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
[LMD wrote:
Mozart;2314671]เอาจริงๆ ภาคนี้ คะแนนรีวีวดีกว่า 2 ภาคแรกเยอะเลยนะ ผมว่่ มันมาถูกทางโคตรๆเลย ทอร์ควรเน้นตลกแบบภาคแรก แต่ภาคแรกมันไม่สุดเท่าภาคนี้


ภาคนี้มันไม่เหมือนภาคแรกนะ ภาคแรกมันก็ไม่ได้ตลกเฮฮารั่วกันขนาดนี้ ภาคแรกโทนหนังมันซีเรียสอยู่นะ คือแน่นอนหนังฮีโร่ของดิสนี่ย์มันก็ต้องมีความตลกอยู่แล้ว

คือเป็นหนังตลกน่ะมันไม่ผิด แต่หนังฮีโร่แบบนี้มันควรจะมีพาร์ทดราม่าที่เป็นเรื่องเป็นราวด้วย คือแม้แต่หนังตลกของโจวซิงฉือมันยังมีพาร์ทดราม่าหนักๆแบบซีเรียสใส่เข้าไปได้เลยนะ โดยที่หนังก็ยังเป็นหนังตลกเฮฮารั่วๆได้อยู่ Guardians ก็ยังมีส่วนที่ซีเรียสขึงขังนะ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็ประมาณ ไรเดอร์ กับ เซ็นไต น่ะ
- ไรเดอร์มันก็รั่วๆบ้าๆบอๆ แต่หนังมันก็ซีเรียสจริงจัง ถึงเวลามันก็ดราม่าดึงอารมณ์ร่วมได้
- เซ็นไตยุคก่อน ที่มันเอาฮาอย่างเดียว แบบที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนเรียกว่า "หนังหลอกเด็ก" น่ะ คือแค่ออกมาแปลงร่าง สวมชุดสู้กับเหล่าร้าย แล้วก็เฮฮาไปวันๆ ทั้งๆที่หลายๆอย่างเอาจริงๆมันเป็นเรื่องซีเรียสคอขาดบาดตาย อันนี้มีความรู้สึกว่าธอร์ภาคนี้มันค่อนข้างกระเดียดไปทางนี้ (แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ)


หนังดิสนี่ย์มุกตลกมันเป็นแบบทีวีซีรี่ส์ ซิทคอมอะไรแบบนั้น แต่เผอิญมันเล่นมุกล้อเลียนตัวเอง ล้อเลียนคาแรคเตอร์ฮีโร่ มุกมันเลยดูคลาสสิคอยู่ แต่ธอร์ภาคนี้มันล้นไปนะ เหมือนมันเป็น "เป็น(ต่อ)ธอร์" "ผู้กองธอร์เจ้าสเน่ห์" "Grandmaster เฮง เฮง เฮง" อะไรแบบนั้นเลย ถามว่าตลกไหม ก็พอขำๆอยู่ ดีไหม ? ก็เป็นหนังตลกเด็กๆน่าจะทำเงินได้เยอะ


##############################

รายต่อไปที่แววว่าอาจจะเละก็คือ จัสติส ลีก คือหนังของแซ็คมันก็ไม่เน้นบทอะไรอยู่แล้ว แต่มันยังมีความซีเรียส +ความรุนแรงอยู่ แล้วนี่ยิ่งเอาจอสส วีดอนมาแก้ให้เป็นหนังตลก +ลดความรุนแรง (อันนี้ผู้บรอหารออกมาบอกแล้วว่าที่แก้ใหม่คือลดความรุนแรงใส่ความสดใส ตลกเฮฮาเข้าไปแทน) อันนี้ทำใจไว้เลย ยิ่งบักจอสส วีดอน Buffy งี้ Angle งี้ (AV มันถึงออกมาแนวนั้น) สงสัยปีนี้จะได้เห็น "จัสติส รัก ซอยเก้า" อีกเรื่อง

# Tue 7 Nov 2017 : 11:09PM

ReveLatioN
member

Since 27/5/2006
(14742 post)
ตามที่ผมบ่นไว้ในอีกกระทู้แหละ มันแย่แต่ดูสนุก

เลยเป็นความสนุกแบบฉาบฉวย เนื้อเรื่องกลวงๆ

# Tue 7 Nov 2017 : 11:31PM

PNA888
member

Since 2014-09-08 12:28:47
(4154 post)
เอาจริง ๆ จุดที่เสียดายสุดคือทีมเก่า มันน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้นะรู้ว่าตัวละครเริ่มเยอะเลยอยากโละบ้างแต่ก็ง่ายเกิน

# Tue 7 Nov 2017 : 11:40PM

Thoppy Yoh!
member

Since 23/1/2010
(856 post)
ยังไม่ได้ดูนะแต่บ่นหน่อยหนังฮีโรหลังๆมาแนวนี้ซะเยอะเลย
สำหรับผมหนังฮีโร่ต้องไม่ใช่แบบนี้อะ สำหรับผมอยากได้สไปดี้2แต่ปัจจุบันเหมือนแบบมาเวลจะติดตลาดไปซะละ

# Tue 7 Nov 2017 : 11:44PM

[LMD]Mozart
member

Since 10/12/2006
(19374 post)
toranin wrote:
[LMD wrote:
Mozart;2314671]เอาจริงๆ ภาคนี้ คะแนนรีวีวดีกว่า 2 ภาคแรกเยอะเลยนะ ผมว่่ มันมาถูกทางโคตรๆเลย ทอร์ควรเน้นตลกแบบภาคแรก แต่ภาคแรกมันไม่สุดเท่าภาคนี้


ภาคนี้มันไม่เหมือนภาคแรกนะ ภาคแรกมันก็ไม่ได้ตลกเฮฮารั่วกันขนาดนี้ ภาคแรกโทนหนังมันซีเรียสอยู่นะ คือแน่นอนหนังฮีโร่ของดิสนี่ย์มันก็ต้องมีความตลกอยู่แล้ว

คือเป็นหนังตลกน่ะมันไม่ผิด แต่หนังฮีโร่แบบนี้มันควรจะมีพาร์ทดราม่าที่เป็นเรื่องเป็นราวด้วย คือแม้แต่หนังตลกของโจวซิงฉือมันยังมีพาร์ทดราม่าหนักๆแบบซีเรียสใส่เข้าไปได้เลยนะ โดยที่หนังก็ยังเป็นหนังตลกเฮฮารั่วๆได้อยู่ Guardians ก็ยังมีส่วนที่ซีเรียสขึงขังนะ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็ประมาณ ไรเดอร์ กับ เซ็นไต น่ะ
- ไรเดอร์มันก็รั่วๆบ้าๆบอๆ แต่หนังมันก็ซีเรียสจริงจัง ถึงเวลามันก็ดราม่าดึงอารมณ์ร่วมได้
- เซ็นไตยุคก่อน ที่มันเอาฮาอย่างเดียว แบบที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนเรียกว่า "หนังหลอกเด็ก" น่ะ คือแค่ออกมาแปลงร่าง สวมชุดสู้กับเหล่าร้าย แล้วก็เฮฮาไปวันๆ ทั้งๆที่หลายๆอย่างเอาจริงๆมันเป็นเรื่องซีเรียสคอขาดบาดตาย อันนี้มีความรู้สึกว่าธอร์ภาคนี้มันค่อนข้างกระเดียดไปทางนี้ (แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ)


หนังดิสนี่ย์มุกตลกมันเป็นแบบทีวีซีรี่ส์ ซิทคอมอะไรแบบนั้น แต่เผอิญมันเล่นมุกล้อเลียนตัวเอง ล้อเลียนคาแรคเตอร์ฮีโร่ มุกมันเลยดูคลาสสิคอยู่ แต่ธอร์ภาคนี้มันล้นไปนะ เหมือนมันเป็น "เป็น(ต่อ)ธอร์" "ผู้กองธอร์เจ้าสเน่ห์" "Grandmaster เฮง เฮง เฮง" อะไรแบบนั้นเลย ถามว่าตลกไหม ก็พอขำๆอยู่ ดีไหม ? ก็เป็นหนังตลกเด็กๆน่าจะทำเงินได้เยอะ


##############################

รายต่อไปที่แววว่าอาจจะเละก็คือ จัสติส ลีก คือหนังของแซ็คมันก็ไม่เน้นบทอะไรอยู่แล้ว แต่มันยังมีความซีเรียส +ความรุนแรงอยู่ แล้วนี่ยิ่งเอาจอสส วีดอนมาแก้ให้เป็นหนังตลก +ลดความรุนแรง (อันนี้ผู้บรอหารออกมาบอกแล้วว่าที่แก้ใหม่คือลดความรุนแรงใส่ความสดใส ตลกเฮฮาเข้าไปแทน) อันนี้ทำใจไว้เลย ยิ่งบักจอสส วีดอน Buffy งี้ Angle งี้ (AV มันถึงออกมาแนวนั้น) สงสัยปีนี้จะได้เห็น "จัสติส รัก ซอยเก้า" อีกเรื่อง


ถ้าพูดถึงความซีเรียส ผมว่า ภาค 3 ซีเรียสกว่าภาคแรกนะ แต่ก็ตลกกว่าเยอะ..

ภาคแรกแม่งโคตรไม่มีความซีเรียสเลย โดยรวมภาค 3 มันลงตัวกว่า 2 ภาคแรกเยอะ.. คะแนนจากทั้งฝั่งนักวิจารย์หรือยูสเซอร์ส่วนมาก มันเลยเทไปที่ภาคนี้มากกว่า (IMDB/Metacritic/มะเขือ)

ยอดขาย แน่นอนว่าขายดี

# Wed 8 Nov 2017 : 1:34AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
เนื้อหามันน่ะซีเรียส แต่พาร์ทดราม่ามันอ่อนยวบยาบ ถึงบอกมันเหมือนหนังเซ็นไตสมัยก่อน คือทั้งที่หลายฉากมันซีเรียสคอขาดบาดตาย แต่ตัวละครก็จะลั้ลลากันทุกเวลา คือจะเหตุการณ์ไหน ผกก.มันก็นำเสนอให้ดูแล้วไม่รู้สึกสะเทือนใจ ไม่หดหู่ ไม่รู้สึกสูญเสียอะไร อันนี้ไม่รู้ว่าจงใจทำออกมาแบบนี้ หรือมือไม่ถึงเรื่องดราม่า หรือผู้บริหารสั่ง

# Wed 8 Nov 2017 : 3:07AM

Kanann
staff

Since 17/4/2008
(18092 post)
โทนของหนังมันคือคอเมดี้แอคชั่นยุค 80 แบบแสงสีเสียงปิ้ว ๆ เบาสมอง ก็ออกมาตรงประเด็นละนะ

ดูเพลงที่ใช้กับโปสเตอร์ดิ เอาใจคนชอบยุคนีออนสุด ๆ
คือบทกับผู้กำกับนี่แกเป๊ะทุกอย่างเลยนะ

อร่อยเหาะมาก
[Edited 2 times Kanann - Last Edit 2017-11-08 03:10:17]

# Wed 8 Nov 2017 : 7:46AM

Fenrir
member

Since 26/4/2006
(2026 post)
คือเขาวางตัวเป็นหนังตลกตั้งแต่เลือกผู้กำกับ ถึงตัวอย่างแรก "เพื่อนที่ทำงาน" แล้ว ผมไม่เคยคาดหวังว่ามันต้องซีเรียสเลยนะ ต่อให้ใช้ชื่อ ragnarok ก็เถอะ

คือ สไตล์หนังมาเวลที่เน้นฮา+ ผุ้กำกับสไตล์คอมเมอดี้+2ตัวอย่างที่ปล่อยออกมา เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีใครหวังว่ามันจะซีเรียสแบบ civilwar แน่นอน มันประกาศตัวชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าเรื่องนี้มาแนวตลกคาเฟ่ แล้วก็ทำได้อย่างที่ควร

คะแนนรีวิวทั่วโลกก็เลยออกมาตามนั้นแหละทั้ง นักวิจารณ์ กะ คนดูทั่วไป (แต่มะเขือก็แค่7กว่าๆนะ ไม่ได้สุดยอดอะไรขนาดนั้น)

<<
<
1
2
3
>
>>
Reply
Vote




1 online users
Logged In :