Review - Mission Impossible : Fallout

กำกับ : Christopher Mcquarrie (Jack Reacher, Mission Impossible : Rogue Nation)



- ภาคล่าสุดของ Mission Impossible ที่มีกระแสวิจารณ์ที่ดีมาก หลายคนบอกว่านี่คือ Mission Impossible ภาคที่ดีที่สุดเลยทีเดียว

- ซึ่งหนังก็เปิดตัวมาได้อย่างดีเยี่ยม ช่วงแรกๆสนุกมาก มุกที่พวกพระเอกใช้แรกๆก็ชอบมาก

- แต่สำหรับผม หนังไม่ได้ไร้ตำหนินะ หนังมีช่วงเนือยนิดหน่อยในช่วงกลางเรื่อง และถึงแม้ช่วงท้ายมันทำมาได้ลุ้นดี แต่ผมรู้สึกว่ามัน "เว่อร์ไปหน่อย" (แน่นอนหลายคนคงบอกว่า MI มันก็ต้องเว่อร์ดิ แต่จำได้ว่า Rogue Nation มันไม่ขนาดนี้อะ)

- ข้อติอีกอย่างของผมคือหนังมันเดาง่ายไป แทบจะรู้ตัวคนร้ายตัวจริงตั้งกะแรกๆ (และเสียดายตัวละครนั้นด้วย) และถึงแม้ว่าภาคนี้ภัยพิบัติมันดูยิ่งใหญ่มากแต่เราก็ไม่มีความรู้สึกว่าพระเอกจะแพ้เลย (ถึงแม้ว่าหนังจะหลอกให้ตกใจได้หลายแวบก็ตาม 55)

- แต่เรื่องของความสนุก หนังก็ทำได้ดีทีเดียว มีส่วนผสมของความตลกและฉากแอคชั่นที่ดูสนุกได้อย่างลงตัว (แฟนผมชมว่าลุ้นสนุกทั้งเรื่องเลย) มันก็อาจจะเป็น MI ที่ดีที่สุดจริงๆแต่สำหรับผม MI ไม่ใช่ซีรี่ส์ที่มาตรฐานสูงมากมายอะไรอยู่แล้ว (ผมเคยดูทุกภาคยกเว้นภาค 3)

- นักแสดงต่างๆยังคงสเน่ห์ของตัวเองไว้ได้อยู่ดี ต้องให้เครดิต Tom Cruise ด้วยที่เล่นฉากบู๊เองแบบไม่เกรงใจสังขารวัย 56 จริงๆ Henry Cavill ก็มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเองได้ดีมาก อยากเห็นเขาในเรื่องอื่นๆอีกเยอะๆที่ไม่ใช่ Superman นะ อ้อ แล้วก็แม่หม้ายขาว Vanessa Kirby เซ็กซี่มากกก แหะๆ

- สรุปก็เป็นหนังที่สนุกมากครับ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นหนังดีมากกกกกกกกแบบที่หลายคนอวยกัน ก็เป็นหนังแอคชั่นป็อปคอร์นที่ทำมาได้ดีเรื่องนึง ไปดูเอาสนุกก็คุ้มครับ

-เกรด B+

สำหรับผมสั้นๆสนุกสมกับที่รอ ให้ A - ละกัน

หักมุมแล้วหักซ้ำในมุมเดิม แล้วมันก็หักมุมตรงนั้นอีกที.....ภายในเวลาไม่กี่นาที

ช่วงที่ไม่จะน่าจะสำคัญก็เล่าเรื่องได้อืดอาดมากเพราะจะโชว์ฉากสตั๊นกัน แต่ที่เสียดายคือเรื่องประเด็นหักมุมที่ธรรมดามากๆ

หนังพวกนี้ก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่ายังไงสุดท้ายพระเอกก็ชนะ ไม่มีทางตาย ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าทำฉากแอคชั่นได้ถึงหรือเปล่า ซึ่งผมว่าซีรี่ย์เจมส์ บอนด์หรือเจสัน บอร์นทำได้ดีกว่า

และภาคนี้ก็ด้อยกว่าภาคก่อนๆของตัวเองด้วย

ส่วนตัว ผมรู้สึกเน้นฉากลุ้นให้ลุ้นนานเกินไป อันนี้ก็อาจจะเพราะผมดันเดาถูกว่าอัยฉากลุ้นๆเนี้ย จบแบบนี้แหงๆ
ผมเลยเบื่อๆแทน ยืดอยู่นั่นแหละ อันนี้ก็อาจจะผิดที่ผมคนเดียวก็ได้ ดูแล้วก็ อืมๆ เออนะ จุดที่ชอบก็มี แต่น้อยไปหน่อย
เลยรู้สึกหนังยาวเกินความจำเป็นไปเยอะ

ดู imax นี่สุดยอดมากครับ ฉากแอคชั่น 10/10 เนื้อเรื่องผมว่าโอเค 8/10 (เนื้อเรื่องดีสุดภาค 1)