Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
ท่านคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เชื่อหรือไม่!?

<<
<
1
2
3
4
Reply
Vote
# Wed 15 Aug 2018 : 9:23PM

ผู้ชมโทรทัศน์
member

Since 2014-11-04 11:54:10
(1659 post)
จริงๆก็อยากให้สังคมหันมาสนใจโรคซึมเศร้านี้มากขึ้นนะ ไม่ว่ามันจะเป็นหน้าที่ของสังคมที่จำเป็นจะต้องสนใจคนเป็นโรคนี้ไหม
คงจะบอกว่าแล้วแต่บุคคลไปคงดูไม่ใส่เท่าไหร่ จริงๆแล้วนะผมว่าสังคมน่ะคือสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆได้ การจะให้ความรู้เพิ่มขึ้นกับสังคมนิหน่อยมันจะเป็นอะไรไป
องกรณ์ Who ก็ให้ความสำคัญกับโรคซึมเศร้ามากซะด้วย
[Link]
และก็สถิติที่ประเทศไทยฆ่ามากเป็นอันดับ 3 ของโลกถึงจะเป็นข้อมูลเก่าก็เถอะ แต่ผมก็เชื่อมันยังมีผลกระทบอยู่จนทุกวันนี้นะ
[Link]


# Wed 15 Aug 2018 : 10:11PM

SD_A
member

Since 2015-11-22 10:53:47
(1531 post)
ประเทศเรามันกำลังพัฒนาครับ จะให้มาสนใจพวกนี้ไม่ได้หรอก อุบัติเหตุยังแก้ไม่ได้เลย
จริงๆแล้วคนฆ่าตัวตายเยอะเลยนะครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีเงิน แล้วก็จบไปไม่มีใครสนใจ คนมีเงินเค้าหาทางออกช่วยตัวเองได้อยู่แล้ว
ลองไปดูรพ.รัฐครับ อนาถสุดๆ ถ้าใครอยากเห็นแหล่งเสื่อมโทรมมากๆ ให้มาดูรพ.รัฐครับ กลิ่นขี้เยี่ยวนอนอัดๆกันไป จะให้มาสนใจโรคนี้คงอีกหลายสิบปีครับ

# Thu 16 Aug 2018 : 6:47AM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5791 post)
มองอีกมุมหนึ่งของสังคมที่คิดว่าอาการซึมเศร้าไม่ใช่โรคเหมือนที่วิทยาศาสตร์อธิบาย เมื่อก่อนเคยได้ยินเกี่ยวกับกลุ่มเด็กที่ทดลองศาสตร์ลี้ลับเรื่องผี พอเวลาผ่านไปไม่นานเด็กกลุ่มนั้นเริ่มมีอาการหวาดผวากลัวสิ่งต่างๆ จนต้องนำกลุ่มเด็กๆมาทำพิธีกรรมเรียกขวัญกว่าจะกลับไปเรียนได้เป็นปกติ

กรณีช็อกกะทันหันมันจะทำให้ออกซิเจนในสมองและเม็ดเลือดทำงานผิดปกติจนอาจเสียชีวิต แต่แน่นอนอาการช็อกก็ไม่สามารถที่จะรักษาโดยพิธีกรรมให้ร่างกายกลับมาดีขึ้นได้ แต่หลายกรณีของผู้ซึมเศร้าศาสตร์ที่งานวิจัยพิสูจน์ไม่ได้ด้วยหลักการแพทย์ กลับช่วยให้ผู้ที่ผ่านพิธีกรรมรู้สึกสบายใจและสุขภาพเป็นปกติได้

ความเชื่อไม่ใช่ทุกที่จะได้รับการยอมรับ ยิ่งสมัยที่มีงานวิจัยวิทยาศาสตร์มายืนยันมากมายความเชื่อจะถูกเรียกว่าบ้าเข้าไปอีก แต่ลองมองถึงความสำคัญของพิธีกรรมอย่างการเรียกขวัญที่มีมาเป็นระยะนับพันปีแล้ว เนื้อหาสาระของพิธีกรรมก็ไม่ใช่การไล่ผีหรือสิ่งชั่วร้ายไปซ่ะทีเดียว แต่มันคือการสร้างกำลังใจในช่วงที่จิตใจเด็กคนนั้นไม่สงบนิ่ง

สิ่งที่โรคหรืออาการซึมเศร้ามันรุนแรงในประเทศไทยจนเป็นอันดับต้นๆของการเสียชีวิต เพราะปัญหาทางสังคมหรือชนชั้นทางวัฒนธรรมก็มีส่วนอย่างมาก ความเข้าใจในเรื่องต่างๆของคนไทยได้รับข่าวสารมาไม่เท่ากันทั้งความเชื่อหรือเรื่องจริง ทางออกที่ดีที่สุดนอกจากพิธีกรรมแล้วควรให้จิตแพทย์ตรวจสอบด้วยอีกทางหนึ่ง

และเรื่องความเชื่อพวกกลับชาติมาเกิด มีคนมาขอส่วนบุญ หรือเจ้ากรรมนายเวรมาทวงหนี้ เรื่องแบบนี้ก็น่าจะหาวิธีการที่เหมาะสมรับมือเพื่อความสะบายใจของเราด้วย หากตัวเองอยู่ดีๆเกิดฝันเห็นนิมิตมีคนมายืนปลายเตียงนอนเหมือนมาเอาชีวิตเรา จิตแพทย์อาจให้คำปรึกษาที่ไม่ตรงประเด็นแต่หมอแก้เคล็ดอาจรู้ทางแก้ปัญหาครับ

# Thu 16 Aug 2018 : 9:51AM

Ophen-Y-Offrers
member

Since 2013-03-24 23:46:34
(1814 post)
ในฐานะที่ผมเข้าข่ายป่วยเป็นโรคนี้อยู่นะครับ ปัจจุบันก็ทานยาและไปตามหมอนัดทุกเดือน

คือมันรู้สึกเบื่อทุกอย่างน่ะ จะว่าไงดี คือมันไม่ได้รู้สึกเศร้า ร้องไห้ อะไรแบบนั้นหรอก แต่มันชอบมีชุดความคิดแปลกๆเข้ามาในหัว อย่างทำไมทุกอย่างมันเป็นแบบนี้นะ ทำไมถึงต้องแบบนั้น จนบางทีอยากหายไปให้พ้นๆจากที่ตรงนี้ ไม่ได้อยากตายนะ แค่แบบเบื่อกับการใช้ชีวิตมากๆ บางครั้งพอเห็นข่าวคนฆ่าตัวตายมันก็ชอบมีความคิดแว่บมาในหัวว่าก็ง่ายดีนะ ลองทำดูดีมั้ย คือบางช่วงอารมณ์ผมมักคิดว่าฆ่าตัวตายมันไม่ได้น่ากลัวเลย แต่เสี้ยววิต่อมาก็ตั้งสติได้ว่าบ้าเหรอ จะตายทำไม วนอยู่อย่างนี้มานานมากๆ(อาการผมเริ่มออกช่วงอายุ 15 ปัจจุบัน 24 แล้ว )

คือไม่ได้อยากให้คนมาช่วย มาให้กำลังใจหรอก บ่อยครั้งที่รู้สึกแย่แทนด้วยพอมีคนมาให้กำลังใจหรือชมเรา เพราะเรารู้สึกว่าเรื่องแค่นี้ต้องชมต้องช่วยกันด้วยเหรอ ไม่ต้องมายุ่งก็ได้ แค่อยากอยู่คนเดียว แต่เหงามั้ย ก็เหงานะ แต่รู้สึกดีกว่าการต้องอยู่ในสังคมคนเยอะๆมันอึดอัด ทุกวันนี้บางครั้งยังรู้สึกแย่ๆเลยที่ต้องไปเจอคนที่ทำงาน ทั้งๆที่เขาก็ดีกับเรามาก จนกลายเป็นเราที่รู้สึกแย่แทนที่คิดลบแบบนี้

พอทานยามันก็ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หายขาด มันรู้สึกว่าคุยแง่ลบกับตัวเองน้อยลงมาก แต่ผมเข้าข่ายในส่วนย้ำคิดย้ำทำด้วย เลยเป็นคนยึดติดกับความคิดนานมากไปหน่อยกว่าจะสลัดออกไปจากหัวได้ เจออะไรกระตุ้นปุ๊บก็วกกลับมาได้ทันที


นี่ถ้าไม่ใช่เพราะมีข่าวคนฆ่าตัวตายมากๆจนแม่ผมกังวลมาขอร้อง ทุกวันนี้ก็คงไม่ได้ไปหาหมอ เพราะด้วยอีโก้ตัวเองที่คิดว่าคุมมันได้ อาการคงจะแย่ลงเรื่อยๆกว่านี้ไปแล้วครับ เพราะงั้นใครมีคนที่เรารักเป็นโรคนี้หรือเข้าข่ายจะเป็น ก็พาๆกันไปหาหมอเถอะครับ เพราะถึงจะไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ความทุกข์ที่มีมันคงไม่หายไปจนเราตายนั่นแหละ


View all 2 comments >

# Thu 16 Aug 2018 : 12:03PM

EASTRISE
member

Since 2012-09-21 19:49:07
(1062 post)
หัวประเด็นกระทู้ผมไม่ขอออกความเห็นละกัน ขอเล่าที่ผมเคยผ่านช่วงซึมเศร้าเเบบยาวๆช่วงปี 2008-2013 ห้าปีเต็มๆเเทน

ช่วงระหว่างนั้นย่ำเเย่มากๆ คือหัวมันคิดลบไปหมด จนถึงขั้นหมกมุ่นเรื่องตาย กินน้อยมากจนร่างกายบุคลิกภายนอกเปลี่ยนไปหมด คนในบ้านเห็นชัดเเต่ไม่มีใครนึกสะกิดใจว่าผมซึมเศร้า..

จนล่วงเข้าปี 2013 ผมลองไปออกกำลังกาย วิ่ง ยกน้ำหนัก บริหารร่างกายหลายๆอย่าง กลับกลายเป็นว่าอาการซึมเศร้าบรรเทาลงเรื่อยๆ ความเเจ่มใสในหัวมันกลับมาโดยที่ผมเองก็ไม่คาดคิด เหมือนความมืดที่อยู่กับเรามาห้าปีนั้นมันเเทนด้วยความสว่างขึ้นทีละนิดๆ

ปัจจุบันตอนนี้ อาการซึมเศร้าหายไปจนเเทบไม่เหลือเเล้ว อาจมีเศร้าหรือน้อยใจบ้างเเต่ก็จะอยู่เเค่เเป๊บเดียว ใช้ชีวิตได้ปกติเเล้วในตอนนี้

จากประสบการณ์ตัวเองที่ผ่านมา เห็นว่าการออกกำลัง มีกิจกรรมนอกบ้านคือสิ่งที่ช่วยเรื่องซึมเศร้าได้มาก ท่านอื่นๆที่กำลังเผชิญกับซึมเศร้าตอนนี้อาจมีหนักมีเบาไม่เท่าผม เเต่ขอให้ลองดูครับ เอาใจช่วยให้ท่านผ่านไปได้เหมือนที่ผมผ่านมันมา
View all 6 comments >

# Fri 17 Aug 2018 : 4:22PM

feya
member

Since 3/1/2009
(1399 post)
บังเอิญมาเห็นกระทู้พอดี และมีประเด็นไปหลายทาง
อยากไขความกระจ่างให้กับทุกคนจริงๆ ว่าโรคซึมเศร้ามันมีจริงมั้ย เกิดได้ยังไง แล้ว wanna be ซึมเศร้าเป็นจริงรึเปล่า

ผมขอตอบในฐานะนักจิตวิทยา (Psychologist) ที่ทำงานปรึกษาอิสระจริงๆนะครับ
อยากให้แยกว่าผมไม่ใช่จิตแพทย์นะ (Psychiatrist) แตกต่างกันตรง ที่หมอจะรักษาด้วยการจ่ายยาเป็นหลัก
แต่นักจิตจะรักษาด้านการให้คำปรึกษาเพื่อไปปฏิบัติ

แต่ทั้งสองสายต้องเรียนรู้ วิธีการทำงานของกันนะครับ ว่าง่ายๆคือเรียนเหมือนๆกัน แต่หมอจ่ายยาได้ แต่นักจิตจะรู้กว้างกว่า
เหมือนนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ กับ แพทย์ผู้รักษานะครับ

--------

-โรคซึมเศร้ามีจริงมั้ย
มีจริงครับ มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้ง การจัดกลุ่มทำการทดลอง สแกนสมอง ดูกรณีตัวอย่าง ฯลฯ มาเยอะมากๆ ย้อนไป 80กว่าปีแล้วจนสรุปได้ว่า "เป็นโรคที่เกิดจากสารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติ"

-เป็นโรคซึมเศร้าต้องกินยา หรือ อ่านหนังสือธรรมะ?
โรคซึมเศร้ามีความสัมพันธ์กับสารสื่อประสาทเช่น Norepinephrine Serotonin Dopamine แล้วแต่กรณี โดยจะมียาที่
เจาะจงช่วยให้อาการดีขึ้นหลายแบบ หมอเลยให้ทดลองกินก่อน แล้วดูว่าตัวไหนให้ผลดีกว่า ซึ่งแตกต่างกันไปตามบุคคล
และการปฏิบัติธรรมก็ช่วยได้ ในบางกรณีเช่นกัน ไม่จำกัดแค่ปฏิบัติธรรม การมองโลกในแง่ การออกกำลัง เล่นดนตรี
ทำกิจกรรม ก็ช่วยให้อาการดีขึ้นได้

-หนังสือธรรมะ หรือการที่ปฏิบัติให้ชีวิตดีขึ้น มันช่วยได้ยังไงเหรอ?
ถ้าอยากรู้ว่าทำไมช่วยได้ ลองนึกย้อนกลับไปก่อน ทำไมจึงเกิดโรคซึมเศร้าขึ้น?
โรคซึมเศร้าบางอย่างเกิดจากที่เราตกอยู่ในสภาวะความเครียดติดต่อกันเป็นเวลานาน
หรือการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสภาวะร่างกายและจิตใจ
การอ่านหนังสือธรรมมะ ไม่ใช่เพราะใช้พลังบุญจากการอ่านมาช่วยให้หายป่วย
แต่เกิดจากความเข้าใจสัจธรรมในนั้น ว่าความเครียดและความทุกข์ของเรานั้น มันแก้ได้ด้วยตัวเราเอง
เข้าใจสาเหตุของความทุกข์บนโลกใบนี้ และบอกเห็นหนทางในการใช้ชีวิตแบบอื่นๆ
พอความเครียดลดลง สารสื่อประสาทก็จะพยายามกลับมาทำงานเป็นปกติด้วยตัวของมันเอง

-แบบนี้ไม่ต้องกินยาก็ได้ ใช่มั้ย?
ความน่ากลัวของโรคซึมเศร้าคือการบั่นทอนความรู้สึกอยากจะแก้ไข ขัดขวางความอยากเข้าใจปัญหา
เหมือนการสั่งให้ผู้ป่วยข้อเท้าแพลง ไปทำกายภาพเพื่อให้เดินต่อได้ ซึ่งมันยาก...และเจ็บปวด
ดังนั้นการกินยาภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือคัวเองได้ก่อน จึงยังคงจำเป็น

-บางคนแกล้งซึมๆบอกตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า นี่เป็นจริงหรือเรียกร้องความสนใจ..
ข้อนี้ผมจะอธิบายข้อเท็จจริงแล้วลองแยกแยะกันเองนะครับ

1. คนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่จำเป็นต้องมีอาการเศร้าให้เห็น...
2. การฆ่าตัวตาย ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคซึมเศร้า
3. คนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่จำเป็นต้องฆ่าตัวตายเพราะการถูกกดดันหรือน้อยใจ
4. คนเป็นโรคซึมเศร้า ไม่จำเป็นต้องอยู่คนเดียวหรือ ล้มเหลวในการใช้ชีวิต

สื่อไทยในปัจจุบัน เห็นใครฆ่าตัวตายก็โยงกับโรคซึมเศร้าหมด แต่ไม่ได้อธิบายชัดเจนว่า
โรคซึมเศร้าหรือ Depression เป็นแค่ส่วนหนึ่งในปัจจัย ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดจริงๆ
มันมีทั้ง อารมย์ชั่ววูบ การทำตามที่เห็นในสื่อ และอื่นๆอีกมาก

สื่อเรามักนำเสนอข่าวว่า "ฆ่าตัวตาย=โรคซึมเศร้า" มันไปสร้างกลไกทางความคิดว่า
เราควรจะฆ่าตัวตายเพื่อหลีกหนีจากปัญหานี้ จนกลายเป็นความเชื่อฝังใจเด็กและ ผู้ใหญ่ที่โดนสื่อชักจูงได้ง่าย
ว่า "ถ้าเกิดปัญหาชีวิต ให้ฆ่าตัวตาย" และนี่ก็นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน

ทางกรมสุขภาพจิตเลยต้องรีบออกมาขยายความ เพื่อลบภาพและให้ความรู้ว่า ถ้าเศร้า "ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือไม่เป็น"
ก็ควรจะไปหาคำปรึกษาและไปพบแพทย์ เพราะคนที่บอกว่าตัวเองเป็นก็ "เพียงพอ" ต่อการได้รับความช่วยเหลือแล้ว
(อาจจะเป็นโรคกลุ่ม Histrionic Personality Disorder ซึ่งรักษายากกว่าโรคซึมเศร้า)

การที่เราไม่มีความสุขในชีวิต อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติหรือเป็นเรื่องที่ต้องทนให้ได้
การทนโดยเข้าใจปัญหา กับ การทนโดยไม่รู้ว่าควรทนหรือไม่นั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และเป็นปัจจัยให้เราเป็นโรคซึมเศร้าได้ในอนาคตนะครับ
View all 11 comments >

# Sat 18 Aug 2018 : 8:59AM

kenzen
member

Since 31/3/2010
(1523 post)
ความผิดปกติมันเกิดขึ้นจากระดับสารเคมีในสมองนะครับ ผู้ป่วยต้องกินยาเพื่อปรับสมดุลในส่วนนี้ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคำพูดง่ายๆว่า "อย่าไปคิดมาก"

# Sat 18 Aug 2018 : 1:06PM

Amail
member

Since 8/10/2007
(1210 post)
อยากให้กัญชาถูกกฏหมายเร็วๆ
.. ผมเชื่อว่าสารสกัดจากกัญชามีผลช่วยระงับความเจ็บปวดทางร่างกาย
และมีผลทางจิตใจด้วย

เวลานี้เรามีความตื่นตัวทางกัญชาเป็นยารักษาโรคมากขี้น

อย่าเชื่อผมนะ ลองไปหาความรู้เรื่องนี้ทาง internet เอง
ว่างๆก็ไปอ่านงานวิจัยกัญชาของเภสัช ม.รังสิตดู

# Sun 19 Aug 2018 : 11:49PM

Gx`-
member

Since 4/9/2009
(2836 post)
ถามหาความรู้หน่อยครับ แฟนผมไปหาหมอมาแล้วเค้าหมอเค้าบอกว่าแฟนผมเป็นโรคซึมเศร้าผมก็โอเคนะ ไม่ได้รับไม่ได้ไรก็จะอยู่ข้างๆเค้าไปเนี่ยแหละ แต่ช่วงที่ผมเป็นแฟนกับเค้าก่อนจะหาหมอผมรุ้สึกว่าเค้ามีอาการไบโพลานิดๆ มันจะมีช่วงอารมณบางเดือนมี่เค้าจะร่าเริงโคตรๆ กับบางเดือนนี้ดูเหวี่ยงผมไปหมดเลย แบบพูดอะไรขัดนิดนึงก็ด่าไฟแลบเลย

คือผมอยากรู้ว่ามันมีทางเป็นไปได้มั้ยที่แฟนผมจะมีอาการไบโพลาผสมไปด้วย เพราะผมไปอ่านในเน็ตมาในเฟสบุคอะแหละที่แชร์ๆกันเรื่องอาการของคนเป็นโรคนี่ แล้วแฟนผมเข้าข่ายอาการทั้งหมดเลยที่ว่าในภาพinfo ถ้าเค้าเป็นผมจะได้หาทางช่วยเค้า

https://health.kapook.com/view123670.html

อย่างในลิ้งนี้ ตรงภาพinfoของคนเป็นโรคไบโพลาร์แฟนผมทำแบบนั้นทุกอย่างเลย ใช้เงินเยอะมากในบางเวลา
[Edited 1 times Gx`- - Last Edit 2018-08-19 23:52:14]
View all 2 comments >

# Sat 25 Aug 2018 : 1:22PM

Jeff_Warit
member

Since 2011-10-20 12:17:27
(638 post)
ยืนยันว่ามีจริงๆ แต่ก็ไม่แปลกใจที่คนบางคนยังคิดว่าไม่มีจริง เพราะมันเป็นเรื่องที่มองไม่เห็นจริงๆ เอาเป็นว่าจะเล่าเรื่องให้ส่วนตัวเกี่ยวกับโรคนี้ให้อ่านแล้วกัน

ผมมีคนใกล้ตัวเป็นโรคซึมเศร้า เขาเป็นคนร่างเริงเมื่อตอนอยู่กับเพื่อนๆ แต่ถ้าหากอยู่คนเดียวจะจิตตกขึ้นมาทันที่
จนเขาเองเป็นคนที่บอกว่าอยากไปหาหมอจิตแพทย์ ตอนแรกๆผมเองก็ไม่แน่ใจว่าต้องไปหาจิตแพทย์จริงๆหรอ แต่อาการของเขามันหนักมากจริงๆ
หนักขนาดแบบว่าให้อยู่คนเดียวไม่ได้เลย จะร้องไห้ตลอดและมีความคิดที่ะฆ่าตัวตายด้วย

ก็เลยพาไปหาหมอที่ศรีธัญญาเพราะใกล้บ้านที่สุดและถูกที่สุด ตอนไปหาหมอก็ถามอาการและก็จ่ายยา(เหมือนกับโรงบาลที่รักษาคนไข้ทั่วๆไปเลย)
หลังจากที่กินยาไปครั้งแรก มันเห็นผลทันทีเลยว่ามันดีขึ้นมากริงๆ มีสติกลับมาอีกครั้ง ตัวเขาเองบอกเลยว่า หลังจากกินแล้วโลกมันเปลี่ยนไปคนละสีเลย
แต่วันไหนที่ลืมกินหรือไม่ได้กินยา อาการจะกลับมาทันที และหนักกว่าเดิมด้วย การกินยานั้นสำคัญมากๆ

รักษามาเกือบ4ปีแล้ว ตลอดสี่ปีก็ปรับยาไปเรื่อยๆตามอาการ บอกได้เลยว่าอาการดีขึ้นมากๆ(ๆๆๆ) และเริ่มมีความหวังว่าจะหายขาดได้ ภูมิใจในตัวเขามากๆครับ
[Edited 1 times Jeff_Warit - Last Edit 2018-08-25 13:23:30]

# Wed 29 Aug 2018 : 11:28AM

benz_butz
member

Since 8/2/2007
(2517 post)
ไปเจอคลิปนี้มาจากเพจ Mahidol Channel

อธิบายเรื่องโรคซึมเศร้าจากหมอมหิดล อธิบายได้ดีทีเดียว

[Link]

<<
<
1
2
3
4
Reply
Vote




1 online users
Logged In :