One Cut of the Dead : เกรด S

เอาจริง ๆ ที่ไปดูหนังเรื่องนี้เพราะเสียงชื่นชมอันล้มหลามจนทำให้เกิดความสนใจ เพราะเอาจริง ๆ ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับไอ้ที่หนังพยายามโฆษณาเรื่องการถ่ายแบบ One Take ความยาว 37 นาที แต่ก็อยากรู้ว่าแค่นั้นทำไมคนถึงชื่นชมขนาดนี้

หลังจากไปดูก็ต้องบอกครับว่า หนังเรื่องนี้มันของจริง ไอ้ One Take ที่ว่านี่คุณจะรู้สึกถึงความทุนต่ำ ความไม่สมเหตุผล ความห่วยเกินจะทานทนชนิดว่าหนังแผ่นบางเรื่องยังจะมีความตั้งใจกว่านี้ แต่ส่วนตัวผมก็สนุก สนุกกับความห่วยของฉาก One Take ที่ว่ามานี่ มันทั้งหลุด ทั้งบ้าบาชนิดว่าเป็นหนังเกรด C กันได้ง่าย ๆ เลย ใครที่ชื่นชอบหารดูหนังห่วยจะชอบพาร์ทนี้มาก แต่ในทางกลับกันหากคุณไม่สันทัดกับหนังแนวมุมกล้อง Handheld (พวกถือกล้องถ่ายหนัง) อาจจพาลออกจากโรงในครึ่งแรกของหนังเหมือนกัน เพราะบางช่วงเหวี่ยงกล้องชนิดว่า Cloverfield เป็นงานที่ดูง่ายไปเลย (แต่ในหนังมีการเหวี่ยงกล้องระดับนั้นไม่เยอะ)

แต่พอหลังจบ One Take ที่ว่าและเข้าส่วนครึ่งหลังมันจะหักมุมชนิดเซอร์ไพร์สมาก ผลคือมันทำให้มุมมอง 37 นาทีแรกที่ห่วยแตกกลายเป็นงานเทพทันที สิ่งที่คุณรู้สึกมันห่วย ทำไมต้องทำแบบนั้น ทำไมบ้าบอแบบนี้ มันถูกเฉลยแบบมีเหตุผลทั้งหมดในครึ่งหลังและมันออกมาสนุกมาก ฮากลิ้ง ฮาแบบปวดท้องเอาตาย วายป่วงสุด ๆ และนอกจากความฮายังมีโมเมนต์ความซึ้งแบบฉบับหนังครอบครัวที่คาดไม่ถึงว่าจะเจอในหนังแบบนี้ สุดท้ายภาพรวมของหนังมันเลยกลางเป็นหนังตลกเอาตาย แต่ก็ Feelgood แบบคาดไม่ถึง จริง ๆ อยากพูดส่วนส่วนครึ่งหลังของหนังมากกว่านี้ แต่อยากให้เพื่อน ๆ ไปดูและเซอร์ไพร์สกับมันมากกว่า

สรุปแล้วนี่คือหนังที่เซอร์ไพร์สมาก ๆ ผมดูจบแล้วมันอิ่มใจ มันมีความรู้สึกเหมือนหนังญี่ปุ่นเรื่องนึงที่ผมชอบมาก ๆ (ไม่ขอบอกชื่อเรื่อง เพราะว่าถ้าบอกมันจะสปอยครึ่งหลังของหนังเลย) เป็นรสชาติใหม่ของหนังซอมบี้ที่เราไม่ค่อยได้เจอ เป็นหนังที่อยากให้หลาย ๆ คนไปชมก่อนที่มันจะออกจากโรงในเร็ว ๆ นี้ครับผม

ต้องทนไอ้ 37 นาทีแรกให้ได้ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมไอ้ 37 นาทีแรกทำไมมันห่วยแตกแบบนั้น

รอบน้อยมากว่าจะไปดูวันนี้หนังถูกด้วย T T

เป็น 37 นาที ที่ทั้งอึน ทั้งงง ในความเกรดบีจริงๆ ให้ดิ้นตาย ไม่ทำการบ้านเลยเกือบลุกออกจริงๆด้วยเอา เกือบแล้ว เกือบพลาดงานเทพแล้วๆ

เพราะพาร์ทหลังนี้ ความไม่ลงตัว ความงง ในพาร์ทแรกถูกอธิบายหมดเลย แถมลงตัวอย่างฮาๆด้วย และภายในเวลาครึ่งหลังอันน้อยนิด ตัวละครหลายตัวกลับมีพัฒนาการขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ และนิสัยส่วนตัว เพราะในยามคับขันแล้วเพื่อจุดหมายเดียวกันทุกคนต่างก็ร่วมมือร่วมใจกันได้ในที่สุด

สุดท้ายนี้...หนังซอมบี้ ลองเทค ถ่ายสด...พูดเป็นเล่น ใครจะไปทำ 5555555555555


ปล. ดูจบเรื่องแล้ว 37นาทีที่ว่ากากๆนั้น กลายเป็นลองเทคเทพขึ้นมาทันทีเลย เพราะความผิดพลาดทั้งหมดเกิดจากความตั้งใจ เพื่อไปสู่ครึ่งหลังของหนัง