MAP ของ AC Odyssey คือใหญ่จริงครับซึ่งต้องชม Ubisoftจริงๆครับเรื่อง openworld เค้าถนัดจริง
แต่ไม่ใช่สิ่งที่ Final Fantasy ควรเอาอย่างหรอกครับ

FF ตอนนี้หลงทางหนักครับพยายามเปลี่ยนตัวเองเกินไปโดยลืมจุดเด่นของ ตัวเอง JRPG ยุคหลังที่ประสบความสำเร็จ อย่าง Persona 5 ,Octopath ,Dragon Quest XI พวกนี้เจ๋งได้โดยไม่ต้องพึ่งองค์ประกอบของ Open World เลยนะครับ ยิ่งเกมส์ JRPG จุดเด่นคือเนื้อเรื่อง กะระบบสู้ (เกมส์ JRPG ส่วนใหญ่สู้แบบ Party Based ไม่ใช่ Solo แบบ AC Witcher หรือ Zelda นะครับ) ทำตัดฉากสู้ไปเลย ทำแมพไม่ต้องกว้าง ขอ ดันเจี้ยนเทพๆแบบ Persona 5 คอนเทนต์เยอะๆแบบ DQ XI แฟนๆก็แฮปปี้แล้ว

อยากเห้น ubi ทำไฟนอล 7 รีเมค

ผมว่าเกม open world ไม่น่าเกี่ยวกับขนาดความกว้างของแผนที่

แต่เป็นการมีอิสระที่จะไปไหนทำอะไรก่อนก็ได้

ถ้าคุณยังไม่กลับมา Main Quest คุณจะเตร็ดเตร่ไปไกลแค่ไหนก็เรื่องของคุณ

ตัวเกมก็จะมีอะไรให้ทำได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะ side quest , collectible , etc.

ซึ่งเกม RPG สมัยก่อน มันก็มีความ open world อยู่เหมือนกัน ในช่วงท้ายเกม

ช่วงแรกให้เล่นไปตามเนื้อเรื่องก่อน เพื่อปลดล็อค สถานที่ ระดับความยากของศัตรู อะไรแบบนี้

แล้วมันจะมีช่วงก่อนไปลุยบอสใหญ่

ที่เราออกตามหาความลับในเกม อาวุธ ชุดเกราะสุดยอด เพื่อเตรียมไปลุยศึกสุดท้าย

ช่วงนั้นมันก็มีความเป็น open world ที่เราเลือกทำอะไรก่อนหลังก็ได้ จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้

ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นจังหวะการวาง learning curve ที่ดีเหมาะกับเกม RPG

ผมเล่นเกม RPG แบบ Skyrim แล้วไม่ถูกจริต มันเคว้งคว้างไปหมด ไม่รู้จะทำอะไรก่อน อะไรหลังดี

มีเควสที่รับมาเยอะแยะมากมายจนไม่รู้จะเริ่มจากอันไหน เควสหนึ่งพาเราไปสู่อีกสิบเควสใหม่ ไม่จบไม่สิ้น

เล่นแล้วไม่สบายใจ เหมือนหน่วงๆปวดอึ อยู่ตลอดเวลา..


สุดท้ายขอตอบคำถาม จขกท.

ผมว่า ถ้า FFXV ทำเกมเสร็จ ไม่เผา ไม่จับแยกขาย ไม่หักหลังแฟนๆ จะเป็นโลกกว้างหรือ โลกแคบ ก็ดีทั้งนั้นครับ

ผมอยากได้เกม open world ระดับพวก witcher , ACO แต่เป็นตัวละครแบบอนิเม JP แบบ Nier ล่ะนะ

FF15 เนื้อหามันดีน่าสนใจมากแต่เลือกจะเล่าในจุดที่ไม่น่าสนใจ ก็แค่นั้นครับ

อย่างผมค่อนข้างบ้า story นะ
แผนที่กว้าง ๆ แต่ทำไว้แค่เดินผ่าน
แผนที่กว้าง ๆ แต่ตัวละครเข้าไป interact ที่นั้น ๆ ไม่ได้ มีแต่หญ้ามีแต่ภูเขา คือผมต้องว้าวหรอ
สำหรับผม เฉย ๆ กว้างขนาดไหนผมก็ไม่เสียเวลาเดินไปสำรวจอยู่ดี

อย่าง Assassin Odyssey ผมว่าเกือบดีละ มีอะไรให้ทำเยอะแยะเต็มไปหมด
แต่ด้าน story ด้าน game play ผมว่าเฉย ๆ ให้ไปหาหอยงี้ ทำยาสเน่งี้ แล้วก็จบ ๆ กันไป ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมใด ๆ
หรือ ไล่ฆ่า นักล่าฆ่าหัว หรือมานั่งจับลูกเรือ มันก้เฉย ๆ นะว้าวแค่นิด ๆ หน่อย ๆ
แต่ก็ไม่ได้แย่นะครับ ก็เล่นฆ่าเวลาสนุก ๆ ได้ ปล.เล่นไปแค่ 16 ชั่วโมงถ้าผมเล่นเยอะกว่านี้อาจจะเปลี่ยนใจ

อย่างเกมที่ผมชอบก็จะมีพวก skyrim fallout witcher persona zelda อาจจะไม่ดีทุกด้านแต่มันมีจุด ๆ นึงที่มันทำให้เกมว้าวแล้วทำให้ผมอยากเล่นต่อไปเรื่อย ๆ แต่ข้อเสียก็มีนะครบเกมพวกนี้ถ้าไม่เล่นนาน ๆ แล้วกลับมาเล่น ความรู้สึกมันแบบไปต่อไม่ถูกฉันจะทำอะไร แล้วก็ดรอปไปในที่สุด 55

Xenoblade X กับ 2 นี่ map กว้างแต่เนื้อเรื่องห่วยแฮะ แต่มันก็ทำให้ผมเล่นภาคละ 200-300 ช.ม. ได้ ส่วน FF15 map กว้างจนนั่งรถอย่างเดียวครับ สาบานได้ว่าหลายจุดไม่เดินไปสำรวจเลย ถ้าไม่มีเควสก็ไม่ไป เควสก็ห่วยเกิน

โลกกว้างกับระยะเวลาการสร้างกว่าจะได้เล่นคงอีกนาน ตอนนี้ ff7 remake กำลังคิดจะสร้างอยู่

พูดแบบไม่อคตินะ DQ ภาคแรก ยังมีความเป็น Open World ที่ดู "มีอะไร" มากกว่า FF15 เลย

เนื้อเรื่องเรียบง่าย แมพแคบ ๆ แบทเทิลกระจุ๋มกระจิ๋ม เควสหลักมีแค่ไปรวบรวมไอเทมมาสร้างสะพานไปปราบบอสใหญ่แค่นั้นเอง เมืองทุกเมืองมีเรื่องราว มีอะไรให้ทำ

ไม่ใช่แค่ทำแมพมาให้กว้าง ๆ ให้มองดูจากเบาะรถ ถึงที่ก็ลุกไปหาปิ๊ง ๆ ซักชิ้นบนพื้น หรือตีมอนซักกรุ๊ป แล้วก็ขึ้นรถไปต่อเพื่อวนลูปต่อไป

ค่ายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทำopen worldไม่เก่ง
ผู้คนไม่มีชีวิตขีวา กว้างแบบไม่มีอะไร