เห็นข่าวแนว ข่าวมั่วมาไว ตามsocialต่างๆ

ไม่น่าละทําไมถึงมี สส ไร้คุณภาพ แบบลืมบัตร

แต่เรื่องนี้ข้าราชการอย่างกรมควบคุมน่าจะคุมอยู่

Pm2.5 บริหารแบบไทยๆ

แต่โคโลน่า บริหารแบบสากล เชื่ออย่างนั้นนะ

และถ้าเป็นไปได้ อย่าให้หมอหนูพูด
ให้คนอื่นพูดแทน
ถ้าเป็นไปได้อีก ปรับหมอท่านอื่นมาเป็นหัวหน้าแทนได้ยิ่งดี

บุคลากรแพทย์บ้านเรามีคนเยอะพอแล้วเหรอถึงจะส่งไปช่วยน่ะครับ แถมผู่ป่วยทางโน้นมีกี่คนกัน ? ถ้าส่งไปก็น่าจะต้องขอล่ามด้วยแน่นอน ลำบาก + เกะกะการทำงานเขาเปล่าๆ

หมอไม่พอครับ โดยเฉพาะหมอรพ.รัฐทุกวันนี้คนไปหาหมอที่รพ.รัฐไปตั้งแต่ตี 5 ตรวจ+รับยาเสร็จ 5 โมงเย็นครับ ที่หมอเยอะๆต้องรพ.เอกชนครับ ต้องเสียเงินหาอันนี้หมอเพียงพอแน่นอน ส่วนนึงเพราะรายได้หมอเอกชนดีกว่าำให้ส่วนมากหมอที่ทำรพ.รัฐมารับจ็อบทำรพ.เอกชนด้วย

งบประมาณสาธารณะสุขเยอะครับจำไม่ผิดน่าจะอันดับสาม แต่หมดไปกับอุดพวกบัตรทอง,30 บาท,ประกันสังคมครับ เงินเหลือไปอัพให้พวกหมอหรือซื้ออุปกรณ์ทางแพทย์ครับ ถ้ามีงบพอจริงๆพี่ตูนคงไม่ต้องออกมาวิ่งเรี่ยไรหาเงินซื้อให้หรอกครับ

ที่น่ากลัวคือ ถ้าคนเริ่มเป็นเยอะๆ ไม่ได้กลัวติดนะ

แต่กลัวว่าหน้ากากจะหายาก ของจะแพงขึ้น ความเห็นแก่ตัวจะมีมากขึ้น ตอนนั้นคนไม่ติดเชื้อก็จะอยู่ลำบากครับ งานก็จะหายากขึ้นมากๆ


ที่เมืองจีนปิดไปหลายเมือง ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ
แถมประเทศอื่นปิดไม่รับคนจีนเข้าประเทศ แต่เมืองไทยรับเข้ามาสบายใจ แสดงถึงความฉลาดของรัฐบาล..จ้าา

ผมมั่นใจว่าคนติดเชื้อมากกว่าตัวเลขที่ประกาศหลายเท่าแน่ๆ ไม่งั้นไม่เร่งทำโรงพยาบาลขนาดนั้น

ส่วนตัวผมไม่กลัวเพราะไม่ได้อยู่เมืองหลวง

ทีแรกก็แอบหวั่นๆ เจอเฟคนิวรัวๆเข้าไปแบบนี้ก็ช่างแม่ม ก็แค่หวัด จะกลัวไปทำไม
นี่ก็เพิ่งหายหวัดจากการอัดยาเข้าไปรัวๆ

เรื่องจะส่งหมอไทยไปช่วยที่จีน ผมคิดว่าอย่าดีกว่าครับ.. มีข่าวหมอที่รักษายังตายเลย ใครมันจะกล้าเข้าไป..

ไวรัสนี้ก็ต้องรักษาตามอาการ ให้ยาตามเวลาอยู่ดี หมอแค่เดินดูอาการ แล้วสั่งจ่ายยา คนเดียวก็ดูคนไข้ได้หลายสิบคนอยู่แล้ว ไม่ใช่การผ่าตัดที่ต้องการหมอช่วยมากๆ..

ที่จีนเร่งสร้างโรงพยาบาล ผมคิดว่าโรงบาลอื่นที่รองรับผู้ป่วยเต็มแล้วมากกว่า เลยต้องสร้างเพิ่ม..

ถ้าอยากช่วยจริงๆ ผมว่าระดมหมอ นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ ผู้เชี่ยวชาญยาสมุนไพร มาช่วยกันวิจัยยารักษา ยาต้านไวรัส หรือวัคซีนดีกว่า จีนก็เผยแพร่รหัสพันธุกรรมไวรัสให้แล้วด้วย..

ผมว่าในไทยต้องมีสมุนไพรสักตัวแหละที่จัดการไอ้โคโรน่า 2019 ได้..

หวัดที่เราเป็นๆกันอยู่ปกติส่วนมากเป็นหวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียครับไม่ใช่ไวรัส พวกนี้จะเป็นต่อเมื่อร่างกายเราอ่อนแอพักผ่อนไม่พอ พักผ่อนมากๆก็หายเองได้
แต่ไอ้ไวรัสตัวนี่เนี่ยต่อให้ร่างกายเราแข็งแรงก็เป็นได้เพราะร่างกายคนเรายังไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวนี้ ต้องมีการเพาะเชื้อหาวิธีทำวัคซีนฉีดให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาก่อน แบบพวกไวรัสใข้หวัดใหญ่ทั้งหลายแหล่

ถามว่ากลัวมั้ยกลัวครับ เพราะถ้ามันระบาดต่อให้เราร่างกายแข็งแรงแค่ไหนก็ติดได้ แล้วโอกาสตายเพราะโรคแทรกซ้อนมีมั้ย มี เพราะงั้นระวังตัวและป้องกันไว้ก่อนดีที่สุดครับ ถ้าเป็นแล้วรักษาตามอาการหายก็ถือว่าดีไป ถ้าเกิดมีปัญหากับยา วิธีรักษา หรือมันดันมาวิวัฒนาการพัฒนาความร้ายแรงที่เราตายไปก็จบเลย

ถ้าไม่นับเกาเหนือ
อย่างมากก็แบนแค่จากอู่ฮั่นนะ ไม่ได้แบนจีนหมด

ญี่ปุ่น ณ ตอนนี้ยังเวลคัมจีนอยู่ เข้ามากว้านซื้อหน้ากากหมดแผงเลย

แก้

แก้

เช้านี้​ยอด​ผู้ติดเชื้อในจีนพุ่งเป็น​ 4,474 ราย​ เสียชีวิต​ 107 ราย​ คิดว่าตัวเลขจริงน่าจะเยอะกว่านี้มาก​ แต่จีนยังไม่กล้าเปิดเผย​

ผมว่าตัวเลขที่จีนเปิดเผยคือตัวเลขจริงเท่าที่รู้ ณ ตอนนั้นนะครับ

ตั้งแต่ 22 ม.ค. ประธานสีเข้าควบคุมเอง สั่งให้เปิดเผยทุกอย่าง เขาใช้คำนี้

"ใครคิดจะรักษาหน้านักการเมืองมากกว่าสุขภาพของคน จะต้องรับผิดชอบ" แรกๆ นักการเมืองท้องถิ่นก็อาจจะปกปิดข้อมูลจริงๆ

จีนเขาเปิดเผย confirmed cases คือ ตรวจ PCR แล้วยืนยันเชื้อ

ตัวเลชการติดเชื้อจริง ไม่มีใครรู้ แต่มันต้องสูงกกว่า confirmed cases เยอะอยู่แล้ว ไม่ใช่ทุกคนจะมารพ. พวกไม่หนัก หรือไม่มีอาการ ก็ไม่ได้รับการตรวจยืนยัน และช่วงแรกๆ การตรวจ PCR ก็ทำได้ช้า

ผู้เชี่ยวชาญทั้งฝั่งจีน WHO และมหาวิทยาลัยต่างๆ จากโลกตะวันตกก็ประเมินกัน เอามาเผยแพร่บ้างบางอันก็ไม่ แต่นั่นคือการประเมิน ไม่ใช่ข้อมูลที่จะมารายงานตัวเลขประเมิน เท่าที่ผ่านตาก็มีตั้งแต่ 20,000-300,000 ราย

ตรวจพบคนจีนในไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 6 คน ตอนนี้เป็น 14 แล้ว
โรคนี้มันน่ากลัวตรงที่ว่า 2 วีคแรกไม่แสดงอาการแต่สามารถแพร่เชื้อได้ คนที่เป็นก็ไม่รู้ตัว ไม่ใส่แมสก์ เดินทางไปนู่นไปนี่