อัปเดต...

- ทวีปอเมริกาเหนือแคนาดาตรวจเจอผู้ติดเชื้อรายแรกแล้ว รอผลยืนยันของภรรยาอีกคนจะเพิ่มเป็นสองรายหรือเปล่า

- ทวีปยุโรปเยอรมนีตรวจพบผู้ป่วยรายแรกแทบรัฐบาวาเรียทางตอนใต้

- อาเบะนายกญี่ปุ่นเตรียมเครื่องบินของรัฐบาลไปรับคนญี่ปุ่นออกมาจากจีน

- ประเทศไทยพบ 14 รายและรัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอยู่ ใจเหยด เหยด

14​ ราย

บรรดาคนที่ร้องเย้วๆให้ปิดประเทศนี่เขาไม่รู้เลยสินะว่า​ ตราบใดที่​ WHO ไม่ประกาศให้เป็นสภาวะฉุกเฉินแล้วเราดันทุรังกีดกันไม่ให้คนจีนเข้าประเทศแล้วจะโดนผลกระทบตามมาหนักขนาดไหน

ไทยติดแล้วไม่มีคนตาย แต่จีนติดแล้วตาย
วัน 27 ม.ค คณะกรรมการสาธารณสุขในมณฑลหูเป่ยทางภาคกลางของจีน ประกาศว่ามีคนตายไปแล้ว 106 ศพ

แสดงว่าไทยมีตัวยาดีกว่าอย่างนั้นหรือ ?
อัตราติดไวรัสแล้วหายของไทยตอนนี้คือ 100% รักษาหายได้

ที่ว่าตรวจพบและรายงานออกมาเนี่ยพบยังไง​ คนป่วยเข้าไปหาหมอเองตรวจโรคแล้วเจอ งี้หรอ

ถ้าแบบนั้นจำนวนคนที่อาจจะติดเชื้อแล้วก็ต้องมากกว่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องปิดบังข้อมูล

และโรคนี้มันคล้ายไข้หวัดมากไทยที่ได้ข่าวว่ามีคนติดเชื้อก็ไม่กี่วัน​ ก็มีทั้งไม่แสดงอาการ​ ออกอาการแล้วแต่ระดับเดียวกับเป็นไข้และกำลังซัดพาราอยู่

บางทีก็ติดตามลุ้นกันมากไปมันไม่ใช้ไวรัสซอมบี้ที่เป็นแล้วไม่เกินชั่วโมงตายแล้วลุกมากัดคนข้างๆ

มันมีระดับการรับมืออยู่​ แต่ถึงเวลาชิบหายขึ้นมาก็พึ่งตัวเองอยู่แล้ว​ ให้ความสนใจเรื่องเชื้อไวรัสน่ะดี​ แต่ต้องมีสติ​ กรองข่าว​ และอย่าขี้แซะ

ใครจะว่าผมกลัว ผมตื่นตระหนก ผมก็ไม่ว่าอะไร

เสร็จงานผมไม่ไปไหนเลย เล่นเกมส์อยู่กับบ้าน

โรงหนัง ร้านอาหาร ก็ไม่ไป

สามเเหล่งท็อปในกรุงเทพ ที่ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนเยอะสุด
1.ตลาดนัดรัชดา
2.ตลาดจตุจักร
3.ไอคอนสยาม

ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไป เเต่ถ้าจำเป็นต้องไป ก็คงไม่ถึงขั้นเสี่ยงตายอะไร
อัตราความเสี่ยงบ้านเรามันยังต่ำมากอยู่

ไม่กลัว แต่ไม่ประมาทฮะ

ไวรัสตัวนี้มันเป็นประเด็นเพราะการระบาด ไม่ได้เป็นประเด็นเพราะความรุนแรงอ่ะ

ปล. แต่บ้านเรานี่ถือว่าเตรียมตัวมาดีนะ

มีคนป่วยในไอโวรีโคสต์กับศรีลังกาแล้ว ถ้าไวรัสมันพัฒนาจนอยู่ในที่อากาศร้อนได้ และมีการระบาดในแอฟริกา ในเอเชียใต้ (อินเดีย) ผมว่าน่ากลัว

เอาง่ายๆถ้า​ ช่วงวันที่​ 10-14กุมภา

แล้วไม่มีคนไทยในประเทศติดเพิ่มแม้แต่คนเดียว

ต้องยอมรับว่า​ กรทควบคุมโรค​ แม่งเทพมาก

รับนักท่องเที่ยวพื้นที่เสี่ยง​มา​ แต่ไม่ระบาดในไทยเลยแม้แต่น้อย

จีน,WHOวอนโลกอย่าตื่นตูมเกินเหตุ ปธน.สีมั่นใจควบคุมอยู่วิกฤตไวรัสมรณะ

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน (ขวา) พบปะกับทีโดรส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(ซ้าย) ที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่ง
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน (ขวา) พบปะกับทีโดรส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(ซ้าย) ที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่ง



เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ - สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนในวันอังคาร(28ม.ค.) ระบุว่าประเทศของเขากำลังต่อสู้อย่างจริงจังกับ "ปีศาจ" โคโรนาไวรัสและให้สัญญาถึงความโปร่งใสของรัฐบาลในความพยายามควบคุมการแพร่ระบาด จูงมือองค์การอนามัยโลก(WHO) วอนประชาคมนานาชาติอย่าตื่นตระหนก ท่ามกลางข่าวคราวประเทศต่างๆกำลังพิจารณาอพยพพลเมืองที่ติดตามอยู่ในเมืองอู่ฮั่น

"โรคระบาดนี้คือปีศาจและเราไม่อาจปล่อยให้ปีศาจตนนี้ซ่อนตัว" สี กล่าวระหว่างพบปะกับทีโดรส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ "รัฐบาลจีนเปิดกว้าง, โปร่งใสและมีทัศนคติที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบเสมอ ในการเปิดเผยข้อมูลของโรคระบาดนี้อย่างทันท่วงทีแก่ผู้คนในประเทศและต่างประเทศ"

คำยืนยันนี้มีขึ้นหลังพวกเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์กลางของวิกฤตสาธารณะกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไร้ความสามารถ หลังมีเสียงขุ่นเคืองจากประชาชนที่ต่อว่าต่อขานเกี่ยวกับแนวทางรับมือกับวิกฤต

สี ยังบอกด้วยว่าจีนมีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมวิกฤตนี้ได้ และเขาเชื่อว่าประชาคมนานาชาติจะประเมินการแพร่ระบาดในแนวทางที่ "ไม่ลำเอียง ยุติธรรม สงบเยือกเย็นและมีเหตุผล"

การพบปะกันครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื่อที่ได้รับการยืนยันทั่วโลกเพิ่มเป็นกว่า 4,600 คน ในนั้นมีผู้เสียชีวิต 106 ราย ทั้งหมดอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งนี้เฉพาะในวันอังคาร(28ม.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 1,771 คน ถือเป็นเพิ่มขึ้นวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในเดือนธันวาคม

ประเทศต่างๆ ในนั้นรวมถึงเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ, เยอรมนี, สเปนและอินเดีย บอกว่ากำลังพิจารณาแผนต่างๆสำหรับอพยพพลเมืองของพวกเขาที่ติดค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางของการแพร่ระบาด

อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนแห่งรัฐอ้างคำกล่าวของทีโดรส ระบุว่าจีนได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการควบคุมการแพร่ระบาด และกำลังจัดการกับวิกฤตเพื่อเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่นๆทำตาม พร้อมบอกว่าคำประเมินเกี่ยวกับการแพร่ระบาดควรอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริง ไม่ตื่นตูมจนเกินเหตุ

ก่อนหน้านี้ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนบอกว่าองค์การอนามัยโลกทราบว่าบางประเทศมีแผนอพยพพลเมือง แต่หน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้ไม่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวและบอกว่าประชาชนควรอยู่ในความสงบ

- เพิ่มเติมอเมริกาก็เตรียมสร้างยาต้านไวรัสกันแล้ว

ตอนนี้ตัวเลขอัตราการตายเทียบกับ confirmed case ราวๆ 2% กว่า ถ้าผู้ติดเชื้อจริงสูงกว่าเลข confirmed case 10 เท่าอัตราการตายก็จะเหลือ 0.2%

มาลองเทียบกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ตัวเลขจาก CDC ของอเมริกาฤดูกาล 2018/19 เฉพาะอเมริกา

จำนวนคนติดเชื้อ 42.9 ล้านคน
ป่วยจนต้องนอนโรงบาล 647,000 คน
ตาย 61,200 คน

อัตราการตายของไข้หวัดใหญ่ 0.15%

นี่ขนาดประเทศระดับ USA และไข้หวัดใหญ่มันมีวัคซีนและยาต้านไวรัส

แตกตื่นเกินไปก็ไม่ฉลาด

ถ้าจบที่ พี่จีน เค้าเล่นใหญ่อยู่ๆปิดเมืองประมาณเชื้อซอมบี้ระบาด จริงๆก็แค่ไข้หวัดประจำปี

เท่าที่ผมอ่านความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ส่วนใหญ่คิดว่าคงเอาไม่อยู่นะ แต่ส่วนใหญ่ก็คือว่าความรุนแรงต่ำ


อันนี้ อ.ยงค์
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3586218894754035&id=100000978797641

การระบาดอย่างรวดเร็วของโรคปอดบวมอู่ฮั่น โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019

โรคนี้ระบาดได้อย่างรวดเร็วและมีผู้ป่วยจำนวนมาก (รวม 6000 คนแล้ว) รวดเร็วกว่า SARS หลายเท่า โรค SARS เริ่มเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน กว่าจะไปเริ่มระบาดจริงๆในเดือนกุมภาพันธ์ และระบาดมากในมีนาคม เมษายน 2003 ก็ไม่เร็วเท่าโรคปอดบวมอู่ฮั่น

สาเหตุที่เชื่อว่าโรคนี้จะระบาด เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1 การระบาดในประเทศจีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่รู้ว่า มีผู้ป่วยปอดบวมพร้อมกัน 41 คน ในขณะนั้นการระบาดเป็นการรับช่วง จากผู้ป่วยส่งต่อกันมาถึงระดับที่ 4 หมายถึง ผู้ป่วยคนแรกไม่น่าจะมาจากตลาดขายของสด ในช่วงเวลาขณะนั้น มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้สัมผัสตลาดนี้เลย

2 ความรุนแรงของโรคนี้น้อย เมื่อเปรียบเทียบกับ SARS และ MERS อัตราตายของโรคนี้ ถ้าดูจำนวนเปอร์เซ็นต์จะมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เชื่อว่าน่าจะน้อยกว่า 1% หรืออาจจะอยู่ที่ 1 ในพัน จากผู้ป่วยที่เป็นนอกประเทศจีน กว่า 100 คนไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเลย เพราะการวินิจฉัยจะทำได้ดีและรวดเร็วขึ้น และยอดผู้ป่วยที่แท้จริงจะมีมากกว่าผู้ป่วยที่รายงานมาก ตัวเลขอัตราการตาย ก็จะค่อยๆลดลงเหมือนการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ในปี 2009

3 การนับจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต จะเพิ่มขึ้น และเชื่อว่า อีก 1-2 เดือนต่อไป ก็จะไม่มีการนับแล้วเช่นเดียวกับการระบาดไข้หวัดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน พอไปถึงระยะหนึ่งก็เลิกนับจำนวน

4 เมื่อโรคมีความรุนแรงน้อย จึงมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และยังแพร่กระจายโรคได้ มีการเดินทาง จึงทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็ว

5 ขณะนี้ มีผู้ป่วยที่ไม่ได้ไปสัมผัสในประเทศจีน เกิดขึ้นในหลายประเทศเช่น เวียตนาม ญี่ปุ่นและเยอรมัน ดังนั้นก็จะพบได้อีกในหลายประเทศต่อไป

6 ความรุนแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่ การระบาดจึงเหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่พร้อมจะกระจายข้ามทวีป และกระจายไปทั่วโลก อย่างเช่นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือนก็กระจายไปทั่วโลก

เราต้องยอมรับความจริง โรคนี้ระบาดแน่ในประเทศไทย และทุกประเทศ แต่ก็ควรมีมาตรการให้ระบาดช้าที่สุด เพื่อรอองค์ความรู้ใหม่ และข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับโรคนี้ เราไม่อยากเห็นการระบาดอย่างรวดเร็ว การตั้งรับ การทำงานของบุคลากรสาธารณสุข ความสับสน การทำงาน จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เราไม่อยากเห็นการก่อสร้างโรงพยาบาลสนามแบบจีน
การระบาดเมื่อประชากรเป็นแล้ว มีภูมิถึงระดับหนึ่ง โรคก็จะสงบ

ไม่ควรตื่นตระหนก เพราะดูความรุนแรงของโรคแล้ว น่าจะอยู่ในระดับของไข้หวัดใหญ่ ไม่มีใครอยากป่วย ทุกคนจะต้องช่วยกันป้องกัน และลดการแพร่กระจายให้ช้าที่สุด เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด ลดการตื่นตระหนก ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะยังมาซึ่งความลำบากของประชาชนทุกคน หน้าที่ดังกล่าวจึงเป็นของคนทุกคนที่ต้องช่วยกัน

https://mgronline.com/china/detail/9630000009429

ตัวเลขจากจีน

ถ้าดูตามตารางแล้ว แถว หูเป๋ย น่าจะหนักสุด


https://www.thebangkokinsight.com/281181/
เห็นข่าวเยอรมันส่งตัวอย่างอะไรมาที่จีนเพื่อทดลอง
ใกล้ๆนี้คงได้เห็นยารักษาออกมา

แต่ที่สงสัยความเห็นบางส่วยที่อยากจะกั้นคนจีนเข้าไทย
ช่วงนี้ คนจีน จากเมืองต่างๆ ยังออกมาเที่ยวเมืองนอกกันหรือ
ทัวร์ปิด เช่าเหมาลําตามข่าวก็ไม่มา แบบจองมากันเองยังพอมี
แต่ว่าช่วงนี้ยังเยอะอยู่หรือเปล่า มาถึงวันละพันคนไหม(ข่าวไม่มีลง)
ช่วงปกติ คนจีนมาเที่ยวไทยคร่าวๆเดือนละล้านคน