Review : Stand by Me Doraemon 2
.
เอาจริง ๆ ส่วนตัวก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าหนังจะมีภาค 2 ได้ เพราะคิดว่าภาคแรกจบได้ลงตัวมาก ๆ แล้ว แต่เห็นตัวอย่างที่เอาตอน คุณย่าของโนบิตะมา ก็แทบหมดความคาใจแล้วอยากตีตั๋วไปดูให้ได้
.
จริง ๆ ภาพรวมของภาคนี้ผมรู้สึกว่ามันมีความต่อเนื่องของบทที่เป็นภาพยนตร์มากกว่าภาคแรกนะ ภาคแรกเราจะเห็นได้ชัดว่ามันคือการเอาตอนตอนสั้น ๆ มาตัดต่อให้ดูเป็นภาพยนตร์มากที่สุด แต่ภาคนี้เนื้อหาจะร้อยคล้อยเดียวกันไปได้ตลอดทั้งเรื่องจนจบ แต่ที่พูดมาใช่ว่ามันจะดีกว่าภาคแรก ไม่สิ มันแย่กว่าอย่างชัดเจนด้วย
.
ส่วนที่ผมรู้สึกว่ามันพาหนังพังแบบพังมาก ๆ คือองก์ที่ 2 ของเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโนบิตะตอนโต การกระทำของโนบิตะมันน่ารำคาญ น่ารังเกียจ และเห็นแก่ตัวจนเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกขยะแขยงตัวละครตัวนี้จากใจจริง ทั้งที่ตลอดมาไม่เคยรู้สึกแย่กับโนบิตะขนาดนี้มาก่อน รวมถึงมุก ความลื่นไหล ความสนุก องก์ที่ 2 มันชัดเจนเลยว่าทีมงาน ฝืน พยายามที่จะใส่เรื่องราวที่ไม่ได้มีอะไรสำคัญเข้าไปเพื่อยืดเวลาให้หนังมากขึ้นเท่านั้น
.
แต่ยังดีที่องก์ 3 ของหนังเรียกได้ว่าเป็นหมัดฮุกเอาตาย มันมีประเด็นของความเป็นผู้ใหญ่ที่ยอดเยี่ยมมาก รวมไปถึงเป็นการต่อยอดเรื่องราวการแต่งงานของโนบิตะได้ดี ขอบอกว่าองก์ที่ 3 ทำให้ผมร้องไห้ในระดับสะอื้นคาโรง มันทรงพลังอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่พอกลับไปนึกถึงองก์ 2 ความรู้สึกชอบโดยรวมมันลดลงไปเยอะอยู่ดี
.
อีกจุดที่รู้สึกว่าสนุกมันมีการใส่กิมมิคการเดินเรื่องสไตล์โดราเอม่อนมูฟวี่นิดหน่อย เช่น จะมีจุดเล็ก ๆ ที่หนังทำให้เรางงแล้วไปเฉลยที่ทำให้แบบ อ่อ อย่างนี้เอง เฮ้ยเจ๋ง ๆ และรู้สึกว่าภาคนี้ปั้นโมเดลตัวละครได้สวยและน่ารักกว่าภาคแรกขึ้นมาพอตัว (ชิซุกะตอนโตนี่สวยแบบ สวยมากกกก)
.
สรุปแล้ว แม้ว่าความซาบซึ้งและฉากทรงพลังส่วนตัวภาคนี้จะทำได้ยอดเยี่ยมกว่าภาคแรก รวมไปถึงความเป็นภาพยนตร์ก็ดูจะลื่นไหลและต่อเนื่องกว่า แต่เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด องก์ 2 ของภาพยนตร์มันแย่เกินกว่าจะมองข้ามไปได้จริง ๆ และมันฉุดอารมณ์หนังโดยรวมอย่างมาก ที่สำคัญบางอย่างมันก็ไปทำลายความขลังของภาคแรกอย่างสิ้นเชิงด้วย ส่วนตัวแล้วค่อนข้างผิดหวังพอสมควร
.
เกรด B-

ได้ยินข่าว เห็นหน้าปกเทรลเลอร์ ก็รู้แล้วว่ามันโหล่ยโท้ย ไม่ต้องดูไม่ต้องชิมด้วยซ้ำ เหมือนคนเขียนบทโดนกดดันว่าต้องเรียกน้ำตา สุดท้ายน้ำตาที่เรียกได้คือน้ำตาความผิดหวัง ไม่ใช่ซาบซึ้ง
เพราะมันพยายาม Overbuilt พยายามยัดเหยียด ความ Bullshit จนมันไม่ธรรมชาติ ไม่รู้จักจังหวะในการใช้ ใช้จนเลอะ กลับสู่โหมดคลาสสิคยังจะดีกว่า