เล่น remake ภาคแรกบน pc จบแล้วไม่ได้จับอีกเลย คิดว่าเกมมันยืดๆ มากไปจนไม่อยากเล่นซ้ำไปอีกนาน

ล่าสุดแวะไปดูชุมชน mod ที่เล่นกันซะจนกลายเป็นเกมแต่งตัวแฟนตาซีไปแล้ว นี่ยังไม่นับ mod 18+ อีกนับไม่ถ้วนเลยนะ ตัวละครหญิงน่าจะโดนกันหมดทุกคนละ

ขอเเค่ คงเนื้อหา เน้น คาเเรคเตอร์ world building ดีๆอย่าง part1 ก็พอเเล้ว เกมเพลย์ไม่ห่วง ส่วนที่เติมเพิ่มก็ให้มันมีความหมายที่ดี ก็พอ

สิ่งที่ชอบมากใน part1 นี่ก็ตัวเนื้อหาหลัก เเละเกมเพลย์นี่เเหละ

ลองนึกเล่นๆเกี่ยวกับเนื้อหาที่จะเพิ่มมา แบบในภาค Remake ที่บท wall market มีนังคล้าวเต้นให้สาวๆกรี๊ด (แต่หนุ่มๆกุมขมับ)

ภาค Rebirth นี่คงไปถึง Costa Del Sol อยู่ อาจได้เห็นอีเว้นริมชาดหาด เช่นทีฟา&แอริธใส่บิกินี่

จริงๆ 7Remake ก็ไม่ขี้เหร่นะถ้าให้คิดว่าเป็น RPG ยุคใหม่ๆที่เน้นความฉับไวกึ่งๆเรียลไทม์ แต่ถ้าให้เอาไปเทียบกับ 7Original ที่เป็น Jrpg ที่เดินทางสำรวจโลกผมว่าสอบตก ผมว่ายุคนี้การจะทำให้ได้อารมณ์เก่าๆมันยากมาก (ส่วนตัวอยากให้รีเมคแล้วได้อารมณ์แบบภาค9ไม่ก็10อะครับ) ขนาดเกมค่ายเดียวกันอย่าง DQ11 นี่ผมโอเคกับมันเลยนะ พยายามรักษาให้ได้มาตรฐานเก่าแต่ก็พยายามเพิ่มอะไรใหม่ๆเข้าไป (ถ้าไม่นับความทุเรศที่พอร์ทจาก Nsw มาลง PS4 นะ เพราะผมเล่นบน PS4 ดีนะไม่รีบซื้อเล่นก่อนเกือบโดนซื้อ2รอบ)

เห็นคนแชร์ใน ffxiv reddit สปอยนะ

อ่าวกรรม ตอบผิดกระทู้

บทสัมภาษณ์ล่าสุด ผ่านมา 2 ปีกว่า ตั้งแต่รีเมควางขาย คิตาเสะกับโนมูระก็ยังพูดเหมือนเดิม

ว่าแก่นของเนื้อเรื่องไม่ได้เปลี่ยนไปจากออริ และ จะไม่ได้ฉีกไปจากต้นฉบับมาก

ถ้าเนื้อเรื่องไม่มีทางเหมือนเดิม ก็ไม่รู้ทำไมจนป่านนี้แล้วถึงยังให้สัมภาษณ์แบบนี้อยู่ สงสัยจะชอบโดนด่าฟรีจริงๆ

7re ps4 เล่นจบเเล้ว สรุปได้ว่า

คอมเเบทเกมส์เพลสุดจริงเอาไป 10/10

กราฟฟิค 10/10

เนื้อเรื่อง+ความสนุก 7/10 มันมีบางตอนที่สนุดสุดมาก เเละ ก็มีบางจุดที่กากมากๆ จนเลิกเล่นไป 3-4 เดือน ที่เห็นๆ ก็ไปช่วยทีฟา เเล้ว ก็ปีนเข้าช่องระบายอากาศที่ตลกมาก

ล่าสุดเพจเกมถ้วยแปลข่าวผิด บอกว่า VII re อาจจบแค่ 2 ภาค แต่จริงๆต้นทางคือ ตอนแรกแพลนไว้ 3 ภาค >> เสนอไอเดียว่าอาจจะทำ 2 ภาคจบก็ได้ >> สุดท้ายลงตัวออกมาคือ 3 ภาค อย่างที่ประกาศ

ลูกเพจไม่ได้อ่านต้นข่าว (หรืออ่านไม่ออก)​ ก็สาปส่งเหลี่ยมกันใหญ่ จนมีคนแย้งว่าแปลผิด เพจเลยลบโพสไป

ส่วนตัวผมก็ยังมองว่าเนื้อหาของรีเมค ณ จุดนี้ มันยังไม่ได้หลุดกรอบหลุดรางถึงขนาดที่จะไม่มีทางเหมือนเดิมได้อะ

อย่างที่เคยบอกว่า FF7 มันมีการใช้ ref มาจากเรื่องศาสนาเยอะ แล้วคอนเซปท์ความสามารถของชาวเซทร่า

ที่สามารถติดต่อสื่อสาร และ รับรู้เจตจำนงค์ของดวงดาวได้มันก็ไปเหมือนกับพวก Prophet ในศาสนาคริสต์เป๊ะๆเลย

แบบเดียวกับที่โนอาห์รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าน้ำจะท่วมโลก เพราะสามารถสื่อสารและรับรู้ประสงค์ของพระเจ้าได้

ผมมองว่าการที่แอริธเห็นอนาคตในรีเมค ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ lore ของ FF7 นะ รีเมคแค่เอาจุดนี้มาขยายให้ชัดขึ้น

ส่วนเรื่องแซ็คก็ยังฟันธงไม่ได้ 100% ว่ารอดจริงรึเปล่า การที่ทีมงานออกมาให้สัมภาษณ์ซ้ำๆซากๆว่าแก่นเนื้อหาจะเหมือนเดิม

ก็เหมือนพูดเพื่อตีท่ากันไว้ก่อนมากกว่า ในกรณีที่แซ็คกับแอริธตายเหมือนเดิม ยังไงก็มันก็ต้องมีผู้เล่นส่วนนึงที่ไม่พอใจ

ว่าทำไมทั้งๆที่เป็นภาคต่อแท้ๆ ปูเนื้อหาแบบนี้แล้วยังให้สองคนนี้ตายเหมือนเดิม ซึ่งอันนี้ก็จะไปโทษ Dev ไม่ได้เลย

เพราะเขาก็ไม่เคยบอกว่ามันเป็นภาคต่อ มีแต่ฝั่งผู้เล่นที่เลือกจะไม่ฟังและคิดนู่นนี่กันไปเอง แถมพูดกันไว้ด้วยว่าตีมสำคัญอย่างนึงคือการสูญเสีย

อีกอย่าง FF7 ก็มีการใช้ red herring แหกตาผู้เล่นมาตั้งแต่ตัวต้นฉบับแล้ว ทั้งเรื่องค้าวเป็นโซลเยอร์ทั้งที่ไม่ได้เป็น ฯลฯ

ถ้าในรีเมค Dev เขาจะแหกตาผู้เล่น ด้วยการปั่นให้หลงคิดไปเองว่าเป็นภาคต่อเพื่อสร้าง False Hope ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

มันคือรูปแบบเดียวกับ Evangelion แหละ ออกภาค Rebuild ออกมาตอนนั้นก็บอกว่าเป็น Remake

พอทำมาเรื่อย ๆ เอ๊ะ ภาคต่อหรือรีเมคกันแน่ ก็แล้วแต่คนเลือกจะเชื่อเลย (แต่มีหยอด Easter Eggs ของภาคเก่าไว้เป็นระยะให้คิดกันเอาเอง)

[Link]



คุูณ คิตาเสะ บอกการพัฒนาเกมเป็นไปตามกำหนด ลื่นไหลไม่สะดุด และจะระบุวันจำหน่ายที่แน่นอน [ก่อนหน้านี้คือ winter 2023 (พ.ย. 2023- มีนา 2024)]

Final Fantasy VII Rebirth : Developer comment number 2



ค่อนข้างมั่นใจว่าเทรลเลอร์มาในงาน Summer Game Fest แน่นอน ถ้าจดหมายอัพเดทมี 7 ฉบับ !!

หวังว่าภาคนี้ยอดชิพจะมากกว่า 5ล้าน+ นะ

[Link]

Final Fantasy VII Rebirth
Developer comment number 3



รายวันจริงๆแฮะ