เล่นรวด 2 ภาคมา สรุปเป็นตากุ้งยิงเลย ไม่ใช่เพราะป้าแว่นแกแก้ผ้าบ่อยนะครับ...

ต่างจากเกมอื่นตรงที่ต้องขอรีวิวภาคแรกที่แถมมากันก่อนนะครับ เพราะเนื้อเรื่องนี่มันต่อกันแบบเห็น ๆ ผู้เล่นจำเป็นต้องเล่นคู่กันอย่างมากเลยถึงจะรู้สึกลงตัวเป๊ะ ๆ ซึ่งทาง Platinum ก็ทำถูกต้องแล้วที่ขายเป็นแบบแพ็คคู่ (แต่ถ้าจะเอาเกมเพลย์เฉย ๆ ก็แล้วแต่เลยครับ) ไม่สปอยล์นะครับแค่แนะนำ

Mini Review: Bayonetta (WiiU)

ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยกับเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดอย่างของ Xbox 360 ก็คือปัญหา Screen tearing ไม่มีอีกต่อไป แต่กลับกันทางด้านเฟรมเรตถ้าเข้าใจไม่ผิดมีจุดที่ตกบ่อยกว่าพอสมควรแต่ไม่น่าเกลียดเท่าของ PS3 ครับเวลาโหลดที่น่ารำคาญก็ไม่มีด้วย แล้วก็ความแตกต่างทางด้านตัวฮาร์ดแวร์ของ Wii U จะทำให้ภาพออกมาสว่างกว่าของ Xbox พอสมควรแต่ข้อนี้ต้องเปิดเทียบกันถึงจะดูออก ตัวกราฟฟิคบั๊กมีให้เห็นบ้างประปรายหยุมหยิมเนื่องจากเป็นเกมพอร์ตต้องทำใจ การบังคับด้วยหน้าจอสัมผัสหรือชุดสวมใส่ของนินเทนโดใส่มาให้เล่นขำ ๆ แล้วก็มีความสามารถพิเศษของชุดที่แปลก ๆ รวมไปถึงโกง ๆ บ้าง (เช่นโล่ของลิงค์ในเกมเซลด้า) แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เหมือนเล่นเกมเดิมครับ ส่วนที่ทำให้ไม่เหมือนกันที่สุดไปกระจุกอยู่ตรงกราฟฟิคอย่างเดียว ถ้าให้ตัดสินกันแบบฟันธง เวอร์ชั่นที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นของ Xbox จ้ะ

ปล. เกมมันมากพะย่ะค่ะ ไม่เคยเล่นก็เล่นเสีย

จุ๊บ ๆ

Review: Bayonetta 2 (WiiU)

คนรีวิวเล่นภาคแรกก่อน 1 คืนให้จบ แล้วต่อภาคสองคืนถัดมา ความประทับใจแรกที่ได้รับเลยก็คือตัวกราฟฟิคถูกอัพเกรดขึ้นมาก Wii U นี่มันเนกเจนจริง ๆ (ไม่ได้ประชด) คุณภาพของแสงสีกับเทกเจอร์ ฯลฯ อะไรพวกนี้ยิ่งถ้าเล่นต่อจากภาคเก่าเลยทันทีนี่จะรู้ซึ้งถึงความแตกต่างได้เลย เฟรมเรตก็อยู่ที่สถานการณ์อย่างคัตซีนนี่จะประมาณ 30 เจอศัตรูเยอะหน่อยก็ 40-50 ตอนว่าง ๆ อยู่ก็ขึ้นถึง 60 ได้ ซึ่งอันนี้ไม่ไ้ดพูดลอย ๆ เพราะไปดูวิดีโอพิสูจน์ทางด้านเทคนิคมาแล้วครับ ตอนเล่นเองก็พอแยกออกอยู่เพราะแกว่งมาก... อีกอย่างหนึ่งที่ต้องระบุหน่อยก็คือด้วยข้อจำกัดของสเปคเครื่อง เรื่องการเกลาหยัก (Anti-Aliasing) นี่ไม่มีแล้วก็เทกเจอร์โหลดไม่ทันนี่ก็พอสังเกตเห็นชัดเจนอยู่เล็กน้อย ถ้าคุณเป็น PC gamer ขาประจำหรือตาเซ้นสิถีฟหน่อยก็ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อน แต่แลกกับความลื่นของเกมเพลย์ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะว่าลื่นมากไม่มีจุดติดขัดตั้งแต่ต้นจนจบไม่ว่าจะโหมดใดก็ตาม

คนแต่งเรื่องก็ยังคงเป็นคุณคามิยะ ฮิเดกิอยู่ ซึ่งเหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังภาคแรกไม่นานแล้วก็จะเชื่อมกันอย่างที่ใคร ๆ อาจจะคาดไม่ถึงด้วย (เพราะงั้นจึงควรเล่นภาคแรกก่อน) เนื้อเรื่องจะออกซิมเปิ้ล ๆ ตามประสาลูกผู้ชายไม่เวิ่นเว้อแต่สำหรับคนรีวิวแล้วถือว่าน่าประทับใจในระดับหนึ่งเลยครับ พวกบทความต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตำนานในเกมมีให้เก็บอ่านจำนวนมาก ภาคนี้จะแตกต่างจากภาคแรกอยู่ตรงจุดที่จะเน้นแจกบทตัวละครอื่นนอกจากตัวเอกอย่างป้าไปเยอะ คนที่อยากเห็นป้ากวนโอ๊ยหรือทำอะไรฮา ๆ อาจจะผิดหวังไปมากอยู่ แต่เพราะตัวละครอื่นได้มาเด่นกันบ้างนี่แหละทำให้การเล่นควบสองภาคน่าสนใจขึ้นไปอีก เพราะว่าใน 2 นี้โรไดน์กับพี่หน้ากากลูเมนนี่แม่มโคตรเท่ซะ 

ทีนี้อาจจะเพราะเปลี่ยนผู้กำกับด้วยความฮากลิ้งเลยค่อนข้างลดลงเยอะ ผู้กำกับคนใหม่คงหน้าด้านไม่เท่าคามิยะ พวกช็อตที่น่าอับอายขายขี้หน้าแทนคนทำแต่น่าจดจำหรือตลกไม่รู้จักกาละเทศะก็เปลี่ยนเป็นออกลีลา cool cool แบบภาพยนตร์แอ็คชั่นทั่วไปแทน ซึ่งโชคดีที่ภาคนี้บทแจกว่อนไปทั่วแทนที่จะเน้นโฟกัสที่ป้าคนเดียวเลยทำให้ออกมาไม่ดูจืดสนิทเท่าไรนัก เพราะฉะนั้นใน Bayonetta 2 นี่จะได้บรรยากาศแบบเสพเนื้อเรื่องโดยรวมมากกว่าที่จะเน้นไปที่ดูว่าตัวเอกจะทำอะไรพิเรนทร์บ้างกับศัตรูตัวต่อไป

ซาวน์แทร็คหลักอย่าง Tomorrow is Mine ส่วนตัวคิดว่า ของภาค 1 อย่าง Mysterious Destiny โดดเด่นกว่าครับ แต่คุณภาพก็เฉียด ๆ กันนะอันนี้แล้วแต่คนชอบดีกว่า ที่เซอร์ไพรส์แต่ไม่รู้สปอยล์หรือเปล่านี่คือใช้เพลง Moon River ด้วย (ตำแหน่งเดียวกับ Fly Me to the Moon ในภาคที่แล้ว) รสนิยมดีกันจริงนะ Platinum Games

non-stop climax action คือนิยามเกมเพลย์ของ Bayonetta ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าหยุดไม่อยู่จริงตั้งแต่ภาคแรกแล้ว พูดง่าย ๆ คือศัตรูโผล่มาปุ๊บนี่คือกดอะไรก็ได้แบบไม่ต้องหยุดเลย ถ้าดูใน youtube หรือไปดูเพื่อนคนที่เล่นเก่ง ๆ หน่อยจะทราบครับ เกมมันมีไว้เพื่อเล่นโชว์ตามที่ผู้กำกับคามิยะชอบจริง ๆ แอ็คชั่นกันแบบใส่ไม่ต้องยั้งโดยเฉพาะในภาค 2 นี่คือบอส บอส บอส บอส อย่างเพียบต่อเนื่องเอาจนหัวหน้าใหญ่ดูจืดไปเลย (ดีหรือไม่ดี?)  ความเท่ความอลังการงานสร้างล้วนจัดหนักตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ โดยพื้นฐานแล้วเกมจะเน้นทำคอมโบด้วยอาวุธและเทคนิคที่หลากหลายเหมือนแอ็คชั่นแนวเดียวกันเกมอื่น (เช่น Devil May Cry หรือ God of War) แต่สิ่งที่ทำให้ Bayonetta แตกต่างก็คือเกมเน้นว่าทำให้ดีที่สุดเลยก็คือ---1. คอมโบต่อเนื่องอย่าหยุดกดปุ่ม อย่าชะงักให้คิดระหว่างทำทุกช็อตทุกเสี้ยววินาที 2. ทำเวลาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 3. พยายามชนะแบบเพอร์เฟ็คต์ไม่โดนโจมตีเลย---ถ้าผู้เล่นทำได้ก็จะได้ Rank และเงินรางวัลตอบแทนมากไปด้วยและได้ความภูมิใจว่าเรานี่มันช่างเก่ง+เท่เหลือเกิน พอออกมาแบบนี้ก็เท่ากับสนุกทั้งคนเล่นเองและคนนั่งดูครับ

โดยสมดุลของตัวเกมแล้วคิดว่าภาคนี้ออกจะง่ายกว่าภาคแรกสังเกตจากไม่ค่อยเกมโอเวอร์ (ต้นจนจบ = 2 ครั้ง ภาคแรกล่อไปเกิน 10) แล้วแถมไอเท็มเช่นพวกของฟื้นหลังที่ดองไว้ไม่ได้ใช้นี่เต็มตัวเลย ส่วนโบนัสแถมอย่างใช้จอสัมผัสเล่นลองแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่แนวแต่ใส่ไว้ก็ดีครับไม่งั้นจอยแพดนี่เหงาแย่เลย (แต่ผมใช้จอยคลาสสิคเล่น แพดใส่แบตเสริมแล้วมันหนัก) ทางด้านปริศนาหรือความลับให้เก็บ Bayonetta 2 จะหาง่ายกว่าภาคแรกแต่มีเยอะกว่า 2-3 เท่าตัวได้ เล่นจบไปสองรอบไอเท็มกับเงินนี่เต็มตัวเลย พวกเล่นสายชอบหาของตามซอกตามมุมแบบคนรีวิวประทับใจมากค่ะ ความลับกับของให้ซื้อมาสะสมเยอะมากจนคาดว่าต้องเล่นเดือนนึงเต็ม ๆ เลยจึงจะสามารถเก็บหมด

ของใหม่ล่าสุดอย่าง co-op ที่เล่นกับ CPU หรือออนไลน์กับผู้เล่นคนอื่นซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้กลไกของเกมเปลี่ยนไปด้วยประการหนึ่งคือมีตัวละครให้เลือกเล่นที่มีสไตล์และความสามารถในการต่อสู้แตกต่างจากตัวบาโยเน็ตต้าเอง แล้วก็ไม่เหมือนการใช้ตัวละ Jeanne แบบภาคแรกที่มีความต่างกันแค่เพียงเล็กน้อยด้วย ถ้าบอกชื่อตัวละครจะเป็นการสปอยล์ไปหน่อย เอาเป็นว่า Masked Lumen ตอนเป็นศัตรูว่าเท่แล้วตอนใช้ก็เท่ ส่วน Rodin เสียดายที่ยังหาวิธีปลดไม่เจอ (ยังไม่ได้หาอ่านเวปวิกิเลย รีวิวเสร็จจะไปหาดูละ) ส่วนวิธีการเล่นก็จะเป็นเหมือนของซีรีย์ Ninja Gaiden ภาคหลัง ๆ ก็คือร่วมมือกันสู้ฝูงศัตรูกับบอส แต่ใน Bayonetta 2 เราสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นช่วงไหนบ้างหรือในแต่ละช่วงจะใช้ความยากระดับใด ทำให้มีบรรยากาศออกแคชช่วลมากกว่า ทว่าถ้าเลือกสดมาก ๆ บอสบางด่านตบทีเดียวครึ่งหลอดนะ...

ชุดตัวละครนินเทนโดก็มีเหมือนภาค 1 นะ แล้วเพิ่ม Fox จาก Star Fox มาอีกชุดหนึ่ง รวมกับชุดอื่น ๆ ในเกมแล้วก็มีเป็นสิบอยู่ครับ ส่วนตัวละครอื่นไม่แน่ใจนะยังเล่นเก็บไม่มากขนาดนั้น

คะแนน 9/10

โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบเกมภาคต่อที่มาแนว more of the same เท่าไรนักครับ แต่ same same ของป้าบาโยเน็ตต้านี่อยู่ในระดับ top-tier กว่าเกมแอคชั่นเกมอื่นเยอะมากจริง ๆ เล่นมาราธอนไป 3 คืนซ้อนนิ้วชี้ข้างขวาผมตอนนี้กระตุกกดปุ่ม ZR (R2/RT) โดยอัตโนมัติไม่ยอมหยุดไปเรียบร้อย เป็นประสบการณ์ที่เกมซีรีย์อื่นมอบให้ได้ยากหน่อยนะ แล้วมาแบบได้เล่นคู่กันสองภาคนี่ฟินมาก ทั้งเนื้อเรื่องกับวาไรตี้คุ้มค่าสมกับที่รอคอย

(Click to expand)