ภาคนี้มีเรื่องให้พูดเยอะทั้งข้อดีและข้อเสีย สิ่งใหม่ ๆ กับสิ่งเก่า ๆ ในส่วนของ false advertising ถ้าไม่ได้ตามข่าวแบบคนรีวิวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ ใครจะเป็นนางเอกใครตัวประกอบใครจะตายไม่สำคัญแล้วก็ไม่จะสปอยล์ด้วย ขอให้อ่านอย่างสบายใจ ปล. 2 คนใน 8 คนบนหน้าปกเกมมีบทในเกมไม่ถึง 20%
ภาคที่ 15 ฉลองครบ 20 ปีสำหรับซีรีส์ Tales of ในคราวนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "สุเรย์ (eng - Sorey)" เด็กหนุ่มที่เติบโตมากับ "ชาวสวรรค์ (เทนโซคุ)" และมีพลังสามารถจูนเข้าหากันและกันได้ ลงไปช่วยเหลือโลกที่ตอนนี้อยู่ในระหว่างความขัดแย้งและพลังทางลบที่สร้างปีศาจอย่างพวก "คนที่ถูกสิง (เฮียวมะ)" แล้วก็มีมังกรมาร่วมแจมด้วย สุเรย์และพวกพ้องมีภารกิจนำแสงสว่างกลับมาสู่ดินแดนกรีนวู๊ดแห่งนี้
รีวิวเกมนี้ผู้เขียนเล่นที่ระดับความยาก second ตลอดทั้งเกม โดยมีการลองปรับ hard ระหว่างทางบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เคยเล่นถึงระดับ evil กับ chaos
ทั่วไป
ก่อนอื่นเลยขอชมเนื้อเรื่องก่อนทั้งภาพรวม จังหวะการเล่า การกำกับ ถือว่าทำได้ดีที่สุดใน 10 ปีนี้แล้ว เรื่องราวค่อนข้างรวบรัดเข้าใจง่าย แต่ไม่ขาดพวก back story ฉากอนิเมแม้จะไม่มีฉากแบบอลังการงานสร้างมากแต่ก็ถือว่ามีให้ดูเยอะ แม้ตัวละครจะขาดการพัฒนาไปบ้าง (ส่วนใหญ่ตั้งแต่ต้นจนจบก็เป็นอย่างไรอย่างนั้น) แต่ก็มีอุปนิสัยที่ลงตัวดีอยู่แล้ว อีกส่วนที่ชอบก็คือเพลงประกอบ ตอนแรกคิดว่ายังไงของคนแต่งซากุระบะก็สไตล์เดิม ๆ งั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมไหน (Valkyrie Profile, Tales, Star Ocean) แต่ก็มีบางแทร็คทำให้เปลี่ยนใจเช่นในดันเจี้ยนธาตุทั้ง 4 ทั้ง 4 สถานที่เลยที่พูดว่า "เจ๋ง" จากจะหลับเป็นผมนี่ลุกขึ้นมาเลย!
ทางด้านเทคนิค ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้เหมือนกันฉากเนื้อเรื่องว่าตัวละครใช้โมชั่นแคปเจอร์นะนั่น...ส่วนฉากต่อสู้ใช้การเคลื่อนไหวรีไซเคิ่ลจากภาคก่อน ๆ (อย่าคิดว่าจับไม่ได้) ตัวเกมลองจับดีไซน์ตามกระแสโลกอย่างฉากแผนที่แบบโอเพ่นเวิร์ลด์สุดกว้างใหญ่แล้วก็ทำได้กว้างจริง ๆ ถ้าผู้เล่นคนไหนไม่รู้ว่าเกมมีสกิลวิ่งเร็วล่ะก็ได้เดินกันขาลากทั้งในฉากแผนที่และดันเจี้ยนแน่ ขนาดมีตัวช่วยวาประหว่างจุดเซฟได้ก็ถือว่ากว่าจะเล่นจบก็ต้องเดินกันเป็นกิโล ๆ อยู่ดี ซึ่งไอ้ความกว้างนี่ต้องยอมแลกมาด้วยปัญหาทางด้านข้อจำกัดกราฟิคสำหรับเครื่อง PS3 เทกเจอร์ทุกอย่างยกเว้นตัวละครทางทีมสร้างใช้อะไรที่คุณภาพต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ใส่ฟิลเตอร์ให้มันดูเบลอ ๆ กลบเกลื่อน ส่วนของ AA หรือการลบรอยหยักคืออะไรไม่รู้จัก ทุกสิ่งทุกอย่างดูโล่งโจ้งไปหมดจนกระทั่งเดินเข้าไปใกล้ ๆ หิน ต้นไม้ คน หรือแม้กระทั่งมอนสเตอร์ถึงจะโผล่ ส่วนหญ้าก็ปักไปงั้น ๆ ขอแค่ให้มีกระจิ๊บกระจ๊อยเหมือนกับเกมอื่นเขา ดันเจี้ยนเอาเข้าจริงแล้วนอกจากความกว้างและยาวก็ถือว่าไม่มีตรงส่วนไหนที่ออกแบบให้รู้สึกโอ้โหเป็นพิเศษ อันนี้ไม่ได้ยกมาสับ แต่นับถือในความพยายามที่จะทำให้มันโอเพ่นเท่าที่จะทำได้
โล่งดี
กลับมาที่การดำเนินเรื่องที่อยากจะชื่นชมอีกจุดหนึ่งก็คือตัวเกมในจุดหนึ่งมีอิสระให้ผู้เล่นทำอะไรก่อนหลังหรืออออกสำรวจโลกมั่วนิ่มเองบ้างทำซับเควสบ้างเก็บนู่นเก็บนี่ให้ครบสำหรับผู้เล่นสายชอบเก็บของ มีให้เลือกตอบคำถามที่สัมพันธ์กับฉากเนื้อเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง อย่างแรกนี่กำลังพอดีแล้วไม่ให้อิสระมากเกินเดี๋ยวหลงไปต่อไม่ถูก แต่อย่างหลังเสียดายที่น้อยไปหน่อยเพราะส่วนตัวชอบมากเลยตอบคำถามแล้วเห็นผลต่างกันเนี่ย ตัวเกมความยาว 30-40 ชม. มีมาให้ไม่ถึง 5 ฉากเองมั้ง
พิลึก
ถึงแม้ระบบต่อสู้เน้นไปทางแอคชั่นที่เป็นจุดเด่นของซีรีย์นี้จะคงทำได้อยู่ในระดับที่ดี สมดุล แล้วก็สนุกมากด้วย เบสิค ๆ อย่าง ฟัน ๆๆๆ กัน ๆๆๆ หลบ ๆๆๆ แล้วก็ไม้ตาย บู้ม! สะใจ แถมระบบใหม่อย่างการรวมร่างกับคนในฉากต่อสู้ที่เป็นชาวสวรรค์+มนุษย์ = คามุอิก็ค่อนข้างให้ความรู้สึกสดใหม่และพลิกแพลงเทคนิคการต่อสู้ได้เยอะ การสู้บอสที่ไม่ใช่สแปมกันอย่างเดียวแต่ต้องดูจุดอ่อนดูจังหวะและพยายามทำให้มันมึนเพื่อจัดหนักก็ถือได้ว่าทำออกมายอดเยี่ยม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องออกมาแป้ก ๆ หน่อยเหตุด้วยสองประการดังต่อไปนี้คือ
1. เฟรมเรต...ธรรมดา Tales of จะพยายามรักษาฉากต่อสู้ไว้ที่ 60fps เพื่อความลื่นไหล มีตกบ้างอะไรบ้าง ภาคไหนแย่หน่อยก็พยายาม 30+ ไว้ก่อน (เช่นบน PS2 ทุกภาคเลย) แต่ใน Zestiria นั้นอยู่ที่ 30 และตกตั้งแต่อ้อนแต่ออก ตัวเกมพยายามไม่ทำเอฟเฟ็คต์เยอะแล้วแต่ก็ไม่ได้ช่วยในจุดนี้
2. มุมกล้อง...ไม่ตัดฉากสู้นี่ก็คือว่าเป็น "ความพยายาม" ของเกมที่จะให้ได้มาตรฐาน RPG สมัยใหม่ ผลที่ออกมาคือ
เวลาศัตรูเดินอัดเราติดมุมก็ไม่ต้องมองเห็นอะไรอีกแล้วหัดไปมองนาฬิกาบนข้างฝาดีกว่า ยิ่งถ้าเจอศัตรูในทางแคบ ๆ แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เพราะมันหลบออกมาให้กล้องมันซูมออกไม่ได้
ระบบการพัฒนาตัวละคร Tales of Zestiria ถือเป็นจุดหลักและจุดสำคัญเลยที่ทำให้คิดว่า "อะไรจะวุ่นวายกับชีวิตคนเล่นขนาดนี้" แค่เปิดหน้าต่างของสวมใส่กับพวกสกิลนี่ก็แทบจะเป็นลม คือโดยหลัก ๆ แล้วสิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก็แค่ผสมอาวุธชุดป้องกันให้สกิลมันออกมาเป็นไปตามที่ต้องการ จะให้มันเรียงกันเพื่อเอาโบนัส หรือจะมั่วไปเลยก็ได้ถ้าไม่ได้เล่นเกมในระดับที่ยากไปกว่า normal เพราะประเด็นของการสู้ศัตรูปกติที่ไม่ใช่บอสยังอยู่ในระดับที่ว่าแค่กด OO XX ให้มันชนะให้ได้ก็พอ แต่ด้วยความเยอะใส่ผู้เล่นทั้งระบบอาหารระบบไอเท็มเพิ่มสเตตัสที่ยกเครื่องใหม่ ระบบนู้นระบบนี้ระบบนั้นแล้วก็ระบบโน่นนนนนที่ค่อนข้างละเอียดจนกระทั่งเกมต้องปักแผ่นหินไว้ทั่วโลกเพื่อสอนเทคนิคผู้เล่นนั้นมีตั้งแต่ต้นเกมยันเกือบจบเลยทีเดียว ดู...ดูความเยอะของมัน เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าถ้าผู้เล่นไม่รู้ภาษาหรือเป็นมือใหม่ของซีรีส์นี้น่าจะเจอกำแพงที่ทำให้เล่นสนุกน้อยลงไปกว่าภาคอื่น ๆ ครับ Zestiria นี่เป็นอะไรที่ตรงข้ามกับคำว่า "เบสิค" พอสมควร ไม่ถึงขนาดต้องทำการบ้านแต่ก็ต้องอ่านละเอียดกับลองผิดลองถูกเสียมาก
คะแนน 7.7 โดยรวมโอเคแบบพิลึก ๆ
แนะนำสำหรับคนที่อยากลองเข้าหาซีรีส์นี้อย่าเริ่มที่ Tales of Zestiria ครับ ไปที่ Vesperia หรือ Grace f จะเหมาะสมกว่า
ส่วนขาประจำเขาทำมายังไงก็เล่น ก็จงเล่นมันเข้าไป ดูทรงแล้ว "น่าจะ" ออกมาหลอกแดร๊กเงินเราบน PS4 อีกแหง สำหรับภาคนี้ นอกจากที่ว่าจะขอแดร๊กนิ่ม ๆ กับ DLC ไปแล้ว (อย่าเชื่อคนรีวิว เชื่อ Bandai Namco นู่น)
ให้เกรด Tales of ภาคหลักในเจเนเรชั่นที่แล้ว
Tales of Innocence = D (Tales of Innocence R = C)
Tales of Vesperia = A (Tales of Vesperia PS3 = A)
Tales of Hearts = B (Tales of Hearts R = C)
Tales of Graces = C (Tales of Graces f = B)
Tales of Xillia = C
Tales of Xillia 2 = B
Tales of Zestiria = C
คงต้องรอภาค PS4
Tales of Xillia 2 = B
ภาค2ไม่ได้เล่นมันสนุกกว่าภาคแรกอีกเหรอครับ จะได้เล่น
แต่นอกนั้นสนุกครับ =w=b
ระบบ skill board เป็นอะไรที่ทำให้มีความหลากหลายสุดๆ แลกด้วยการศึกษาสักหน่อย
ถ้าเข้าใจระบบรับรองว่าเล่นได้หลาย ชม.
รอบสองสามารถใช้ Grade Shop ซื้อสกิลที่สุ่มออก double , triple ได้อีก
ผลของสกิลจะคูณตามตัวคูณ
- เปลี่ยนตัวละครที่ใช้เดินไม่ได้ ก็เข้าใจนะว่าเอาตามเนื้อเรื่อง แต่เท่ากับ DLC ชุดนี่ซื้อมาไม่คุ้ม
ขนาดในเมนูแต่งตัว ยังไม่สามารถซูมให้เห็นตัวละครได้ชัดๆเลย จะเห็นชัดจริงๆก็ก็แค่ในเนื้อเรื่อง
- Skit ภาคหลังๆนี้น้อยไปนะ ตั้งแต่ TOX ละ ถ้าเคยเล่นเทลภาคเก่าๆจะรู้เลยว่าเยอะมาก นี่น้อยเกิน
- ภาพ 2D คัทอินตอนใช้ท่าไม้ตายยังทำได้แย่เช่นเคย น่าจะทำแบบ TOV ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว
แถมจังหวะที่ภาพโผล่ก็ควรเป็นแบบ TOV คือซัดๆไปแล้วค่อยขึ้นจังหวะปิดท้าย นี่ขึ้นตอนกดมันดูจืดๆ
ปล. ให้คะแนนบาบะ 10 เต็มเรื่องโรเซ่ 55