Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review: Bloodborne (PS4)
Kanann at 2015-03-28 02:59:47 , Reads (12237), Comments (34) , Source : 10

เลือดสาด! วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า อายจนไม่กล้าบอกเลยว่าตั้งแต่ได้เกมมาโต้รุ่งทุกคืน อะโหชีวิตตัวเองมาก เล่นรอบแรกไม่ดูเวปไม่เปิดวิกิปิดตัวจากอินเตอร์เน็ตเลยแต่ก็สามารถเก็บความลับจนเกือบครบได้ รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก (...)

 

 

สำหรับผู้ที่ไม่มีข้อมูล Bloodborne เป็นเกมจากเจ้าของผลงาน Action-RPG ซีรีส์ที่ดังในด้านความยากแบบไม่ธรรมดานั่นก็คือพวกตระกูล Souls ทั้งหลายครับ (Demon's Souls, Dark Souls) โดยคราวนี้เจ้าตัวกลับมาจับมือกับ Sony ทำเกมใหม่ที่ทั้งยังคงความเป็นโซลไว้แต่เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยน setting ใหม่จากยุคกลางไปเป็นยุควิคตอเรีย (ประเทศอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 19) เปลี่ยนจากคำสาปและเวทมนตร์คาถามาเป็นอะไรที่ออกวิทยาศาสตร์เหนือธรรมชาติหน่อย ๆ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีครับ ชอบมาก คนรีวิวใจง่ายชอบอะไรบ้างเรามาดูกัน

 

เรื่องภายนอก

โอเคล่ะ วิคตอเรีย ถ้าให้จำเพาะเจาะจงเลยก็คือศิลปะแบบ High Victorian Gothic มืด ๆ สยอง ๆ ที่สร้างบรรยากาศโดยรวมให้เกมสยองขวัญหลายเกมสมัยนี้ถึงกับต้องอาย คือมีครบทั้งความหลอน~~~~ ความลึกลับแล้วก็ เพล้ง! อุ้ยแม่ร่วง! สะดุ้งกันไป ทำได้ดีมากด้วยนะ คือเป็นคนชอบอะไรหลอน ๆ โบราณ ๆ อย่างพวกปราสาทร้างหรือหมู่บ้านผีสิงอะไรพวกนี้อยู่แล้ว และ Bloodborne ก็ไม่ได้มี gore fest อย่างพวกเลือดเครื่องในหรืออะไรชวนแหวะมารบกวนการชมฉากสวย ๆ ด้วย แล้วตัวเราบทก็ไม่ใช่คนอ่อนแอมาตกกลางดงผี แต่เป็น Hunter ที่เล่นดี ๆ พี่จะเท่มากเลย

ส่วนตัวซาวน์แทร็คในเกมนี่ก็สนับสนุนย่อหน้าข้างบนเลยคือทั้ง 1. หลอน 2. เท่ 3. อลังการงานสร้าง

เนื้อเรื่องก็ประมาณเรา (ผู้เล่น) คือคนที่ถูกทำให้เป็น "นักล่า" ด้วยเลือดพิเศษ ที่ต้องมาล่าปีศาจในเมือง Yharnam ที่เคยเกิดโรคระบาดด้วยเลือด ขึ้นทำให้เละกันหมดทั้งเมืองแล้วถูกปล่อยทิ้งไว้ (ธีมของเกม Blood-borne)  ซึ่งในรายละเอียดเนื้อเรื่องกับเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรต่าง ๆ ผู้เล่นต้องอาศัยการคลำเอาเองจึงจะรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้างอันเป็นเสน้ห์ของซีรีส์โซลอยู่แล้ว ถ้าอยากรู้หมดก็ต้องขยันอ่านขยันทำการบ้านเยอะ ๆ จากทั้งตัว NPC กับรายละเอียดไอเท็มจากนั้นก็ต้องผ่านกระบวนการประติดประต่อเอาเองที่เหมือนการต่อจิ๊กซอว์หน้าตาแปลก ๆ ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือง่ายสุดรอเวบพวก wiki สรุปให้ทีหลัง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นแค่น้ำจิ้มรสเด็ดของเกมเท่านั้นครับ ตัวเนื้อ ๆ ที่เขาเน้นมันอยู่ที่เกมเพลย์เป็นหลักมากกว่า

แล้วก็ต้องบอกก่อนว่าคำว่ากราฟิกส์เนี่ยไม่ใช่จุดแข็งของค่าย From Software อยู่แล้ว ไม่ว่าจะบน PS4 ก็เถอะ ความสวยงามจะได้อานิสงค์มาจากอาร์ตที่อยู่ในขั้นเทพเจ้าเสีย 90% ถ้าเราลองมองดูใกล้ ๆ จะพบร่องรอยการกลบเผา กลบเทกเจอร์คุณภาพต่ำ หรืออะไรทางด้านเทคนิคที่คนเชี่ยวทางด้านนี้คงถอนหายใจ ฯลฯ นอกจากนี้เฟรมเรตก็ยังคงเป็นปัญหาที่ทำให้นิ่งที่ 30 ไม่ได้ในบางจุด+มีกระตุก อันอาจจะกระทบกับเกมเพลย์เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วก็ไม่เจอแบบหนักมากครับ พอมองข้ามได้

 

แค่ต้นเจนก็เฟรมตกแล้วครัฟ ทำจัยครัฟทัมใจ

 

ตัวเกม / รายละเอียด

Bloodborne เป็นเกม Action-RPG แบบมาตรฐานเหมือนตระกูลเดียวกันทั่วไป สร้างตัวละคร ฆ่าศัตรูเก็บเลเวล ไปสู้บอส ไปต่อ บอสตัวถัดไป ฯลฯ จบ สิ่งที่ทำให้แตกต่างนอกจากความยากนรกที่จะพูดถึงทีหลังแล้วก็คือลักษณะพิเศษของเกมที่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาครับ

หนึ่งเลยคือการออกแบบฉากที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยทางแยกทางลัดและทางลัดชวนให้สำรวจ และผู้เล่นจะได้รางวัลจากการสำรวจนั้นด้วยไอเท็มดี ๆ หรือเพื่อเป็นการเปิดทางไปสู่ทางลับอีกทางที่มีทางแยกไปต่อไอ้อีกเพียบ ถ้าไม่โดนศัตรูเอาปลายนิ้วเท้าเขี่ยตายซะก่อน (พูดงี้จะเข้าใจมั้ยเนี่ย...เอาเป็นว่าเลเวลดีไซน์เทพละกัน!) สายชอบสำรวจหานุ่นหานี่อย่างคนรีวิวเล่นแล้วขึ้นสวรรค์ครับ ความซับซ้อนของ NPC และเควสที่มาด้วยกันจากพวกเขาเหล่านั้นก็เรียกได้ว่าอย่างเยอะแบบถ้าให้อธิบายล่ะก็ต้องขออีก 3 ย่อหน้าเลย... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้เล่นก็ไม่จำเป็นต้องทำตามกติกาก็ได้ด้วย สามารถเล่นแบบตรงไปตรงมาฆ่าไม่เลี้ยงไปจนจบเกมก็ได้ไม่ต้องไปสนเรื่องยิบย่อยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว พูดง่าย ๆ ก็คือคุณจะเล่นแบบตรงแน่วเลยก็ได้ หรือจะเล่นแบบเก็บรายละเอียดแบบเม็ดต่อเม็ดก็สนุกได้หมด

เช่นเดียวกันกับตัวระบบการต่อสู้กับการพัฒนาตัวละคร/อาวุธ ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นแบบตรงไปตรงมาหรือเล่นแบบมีเคล็ดลับที่จะออกมาเท่ไปคนละแบบครับเนื่องจากตัวอาวุธแม้จะมีน้อยถ้าเทียบกับพวกเกมโซลทั้งหลาย แต่เนื่องจากตัวอาวุธเองนั้นเปลี่ยนรูปร่าง/อัพเกรด กับใช้งานได้หลายรูปแบบแถมออกมาเท่เป็นบ้าด้วยทำให้เล่นแบบไหนก็น่าลองไปหมด (่เช่นไม้เท้าเปลี่ยนเป็นแส้ ชักที่จับค้อนออกมาเป็นดาบ มีดยาวแยกร่างเป็นมีดคู่ กันเบลด ฯลฯ) ถ้าให้แจกแจงรายละเอียดในส่วนนี้ก็คงต้องขออีก 3 ย่อหน้า จึงขอสรุปว่าแม้จะไม่ถึงขั้นไฮเปอร์แอคชั่นแบบเกมแนว ๆ ทำนองนั้น แต่ความเท่กินขาดค่ะ

เวลาโหลดซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากตายหรือวาปไปมาใช้เวลานาน 15-30 วินาทีซึ่งเป็นอะไรที่ทางค่ายเกมสัญญาว่าจะแก้ไขทีหลัง แต่ที่รีวิวอยู่นี่คือเวอร์ชั่นที่ยังไม่ได้แก้ยังโหลดนานเต่าคลานอยู่ ส่วนตัวผมไม่ได้คิดอะไรนะ ใช้เวลาตอนนั้นจิบน้ำหรือเดินไปเข้าห้องน้ำมันดื้อ ๆ เลย แต่มันก็ถือว่านานเกินอยู่ดีสำหรับเกมในสมัยนี้แล้วจริง ๆ นั่นแหละ 

คอมเมนท์ปิดท้ายคือคนรีวิวไม่ได้เติม PlayStation Plus เลยไม่ได้ไปแตะในส่วนของออนไลน์เลย ทั้งคำบอกใบ้ของผู้เล่นคนอื่นที่เขียนไว้ตามทางที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของซีรีส์ (เช่นเขียนว่า "เลี้ยวตรงนี้ มีสมบัติ" พอตูเลี้ยวไปปุ๊บเจอศัตรูดักเฉาะหน้าตายอนาถ เป็นต้น) การช่วยกันสู้บอสที่ทำให้เกมง่ายขึ้นมาก หรือการ PvP สู้กันเอง แต่พวกนี้ไม่ต้องก็ได้แค่นี้เกมก็สนุกมากแล้วในความคิดผม ส่วนที่เป็นดันเจี้ยนสุ่มก็ได้เข้าไปเล่นมาบ้างเพื่อเอาอาวุธที่มีเฉพาะในนั้น (แล้วก็มีบอสใหญ่เป็นของตัวเองด้วย) ฉากจบเกมที่มีสามแบบก็จบไปแค่แบบเดียวที่ได้สู้บอสใหญ่ลับด้วย (ถ้านับไม่ผิดเกมนี้บอสธรรมดามี 8 บอสลับมี 8 บอสใหญ่มี 2) ที่เหลือจะไปตามเก็บอีกทีหลังจากนี้ครับ ตัวเกมอยากให้ผู้เล่นลองเล่นรอบสองรอบสามอยู่แล้วแถมเพิ่มความยากให้ด้วยในการเล่นรอบถัดไป

 

 

ความยาก

ก่อนเกมนี้ออกไปซ้อมมือกับ Demon's แล้วก็ Dark ภาคแรกมาเรียบร้อยคนรีวิวอาจจะได้เปรียบชาวบ้านทั่วไปหน่อยคือ "ความเคยชิน" คือเกมมันยากอยู่แล้วนะ ผู้เล่นทั่วไปที่หลงมาเล่นเตรียมตัวไว้ได้เลยตายเกินร้อยครั้งแน่นอน หรืออาจจะต้องเสียเงินซื้อเกมนี้ฟรีแทบไม่ผ่านบอสสักกะตัวก็น่าจะเป็นเรื่องปกติ

สิ่งที่เปลี่ยนไปจากโซลก็คือผู้เล่นไม่สามารถเล่นแบบเน้นป้องกันได้แล้ว ลาก่อนการกางโล่เตรียมรับมือทุกสิ่งทุกอย่างตลอดเวลา ลาก่อนการใส่เกราะหนา ๆๆๆๆๆ ศัตรูตีแทบไม่เข้า ลาก่อนเวทมนตร์กับธนูที่ตอดจากที่ไกลได้ ใน Bloodborne ตัวละครเราใส่ชุดบาง ๆๆๆๆๆ ที่สเตตัสค่อนข้างแกว่งและเน้นไปทางรับมือกับสถานะผิดปกติ (พิษ, มึน) หรือกันไฟกันเวทย์ แต่ด้านพลังป้องกันเพียวจะไม่ห่างกันมาก โดนตบทีสองทีลงไปนอนหลับสบายบนพื้นเหมือนกันหมด มือข้างที่ควรจะถือโล่ก็กลายเป็นปืนแทน ซึ่งตัวปืนนี้ไม่ได้ทำหน้าที่โจมตีหลักแต่ทำหน้าที่ทำลายจังหวะศัตรูเปิดช่องให้เราสวน แล้วยิ่งรวมกับอาวุธประชิดต่าง ๆ ที่มีสไตล์การเล่นที่ประหลาดแต่เท่แล้วก็น่าจะถูกใจสายโชว์เมพหรือคนที่ชอบเข้าไปบวกไปแลกศัตรูเลย แต่สายคอยตอดคอยป้องกันนี่ตอนแรกคงร้องไห้เป็นเลือดแล้วต้องเลือกว่าจะปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นตัวเองใหม่แล้วไปต่อหรือน้อยใจกลับไปเล่น Dark Souls ก็ได้ฟระ 

ศัตรูหลายตัวแล้วกับบอสนี่ไม่ต้องพูดถึงว่าตบทีเดียวอาจตายได้เลย ถ้าเก็บเลเวลมาหน่อยก็หยวน ๆ ให้เป็นสองสามทีตายละกัน พอนึกภาพความยากออกมั้ยครับ? แต่ดีไซน์ความสมดุลออกมาดีมาก เวลาเจอศัตรูไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือรุมให้ความรู้สึกห้ามประมาทพลาดคือตาย บอสสู้สนุกทุกตัว เสียดายที่ขาดตัวเท่ ๆ กับตัวที่เห็นแล้วต้องอ้าปากหวอในความอลังการไป อันนี้เดี๋ยวให้แก้ตัวภาคต่อไปดีมั้ย?

 

 

ถึงตัวเกมจะมีปัญหาจุกจิกอะไรที่ต้องรอแก้อยู่บ้าง (เฟรมเรตกับบั๊ก เวลาโหลดที่นานเกิน ตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย) แล้วก็ไม่ได้เล็งเป้าไปที่ผู้เล่นทั่วไปเนื่องจากมีกำแพงความยากมากมากั้นอยู่ แต่ก็ไม่อาจขวางให้ผมให้คะแนน 10/10 ได้หรอก...ตั้งแต่รู้จัก Demon's Souls มาก็ทุ่มทั้งใจให้ซีรีย์นี้แล้วครับ ภาคที่คนว่าทำได้ไม่ดีกันอย่าง Dark Souls II ผมยังคิดว่ามีมาตรฐานดีกว่าเกมอื่นเลย แล้ว Bloodborne ที่ออกจะงดงามขนาดนี้จะไปเหลือเหรอ 

10/10!! คุ้มพอที่จะเสียเลือดเสียเนื้อให้หมดตัวเลย

 

 

Praise the moon

 

เพิ่งเคยอัดวิดีโอจริงจัง บน PS4 ครั้งแรก รู้สึกบ้านนอกมาก อันนี้เป็นวิธีสู้บอสแบบไม่ทำการบ้านอะไรเลย ใช้ความสดล้วน ๆ เข้าไปฟันโง่ ๆ ซึ่งอาจจะสร้างกำลังใจให้ผู้ที่ได้ชมว่าเล่นบัดซบอย่างคนรีวิวอย่างผ่านได้ ไฉนคุณจะเล่นไม่ได้

https://www.youtube.com/playlist?list=PLyH_JuNGAvgjL0otC_nHrif87obhZPV2A



(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
21 more comments >>
ติดอยู่อย่างเดียว ที่หงุดหงิด
- เรื่อง framerate drop เล่นแล้วไม่ค่อย smooth
เรื่อง loading นาน แรกๆก็หงุดหงิด แต่หลังๆรู้สึกว่าก็ดีเหมือนกัน เหมือนถูกบังคับให้ได้พักสายตาประมาณ 37 วินาที ต่อการตาย 1 รอบ

อย่างอื่นก็ยอดเยี่ยมสมกับคะแนน


Like : Marasai, l3oatsu, Granzon
Dark Soul 1.2 หรือ BB ผมว่าก็ยากหมดแหละในการเล่นรอบแรก
แต่ส่วนตัวสำหรับการเล่นรอบแรกผมให้ BB ยากกว่าและท้าทายกว่า DS
DS ยังใช้ ธนูหรือเวทย์หรอยศัตรูอยู่ไกลๆได้ แต่ BB ทำแบบนั้นไม่ได้ ต้องสู้ระยะประชิดเป็นหลัก
DS ตีเกราะดีๆ อัพโล่ห์โหดๆ ไปนัวกับศัตรูได้แบบไม่กลัวตาย แต่ BB ทำแบบนั้นไม่ได้ จะอัพเวลมาเยอะแค่ไหนโดนตบตายง่ายๆได้ตลอดเวลา
DS ศัตรูออกสกิลช้า แต่ BB มันรัวมาเป็นชุด เวลาสู้กับศัตรู BB จึงสนุกตื่นเต้นเร้าใจกว่า

แต่ BB ก็มีข้อเสียเรื่องความหลากหลาย อาวุธ ชุดเกราะ เวทย์มนต์ บอส NPC ที่น้อยกว่า DS มาก..แถมระบบออนไลน์ก็รอนานเป็นชาติกว่าจะจอยกันได้ รอจนหลับผมก็เป็นมาแล้วจนคิดถึงระบบวาง sign บนพื้น อย่างน้อยก็เห็นเวลาจะซัมม่อน ไม่ใช่รอแบบไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ แต่บางคนก็ชอบระบบสั่นกระดิ่งเพราะดูสะอาดตา อันนี้ก็ว่ากันไป

คงไม่ให้คะแนนเพราะชอบทั้ง DS , BB
มีทั้งสองซีรีส์ สลับกันเล่นได้เรื่อยๆ แค่นี้ก็ฟินแล้ว
จะมีลง pc มั่งมั้ยนะ
ทำไมชอบเอา bb ไปเทียบกับ ds กันจัง เรื่องอาวุธ

ิิส่วนตัวแค่มันสลับโหมดอาวุธ แถมบางอันมันก็เปลียนรูปแบบการใช้งานไปเลย แล้วก็ฟันแล้วสลับโหมดทำคอมโบได้อีกต่างหาก ลูกเล่นมันเล่นแล้วสนุกกว่า ds นะผมว่า
โอ้ว คะแนนสูงอยากเล่นมากก Orz
แต่ไม่มีเครื่องเศร้าใจแปป....
ยังไม่ได้ลองเล่นแต่ สำหรับเราที่เล่น ชีรีย์นี้มา ยกให้ Demon Soul > DS1>DS2 เลย
เรื่องความยากขอยกให้ Demon Soul เลย เซฟเดียวหลังจากฆ่าบอส . . แมงโหดสัสไปไหน แถมบอสนี่...เหอะๆ แล้วยิ่งแมพหลังๆอย่าง บึงพิษนี่....ไม่อยากจะพูดถึง.... -''-
Dark soul ยกความยากของด่านให้เลย....ไกล ยาว โหด จุดเซฟอยู่ไกลห้องบอสสัสๆ แต่บอสนี่ง่ายโคตร....
Dark soul 2 เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุดนะ ไม่ยาก และไม่ง่าย เล่นเพลินที่สุดแล้วคะ ใครที่ชอบ pvp ซัดกันโล้ด =o=//
ส่วนตัวไม่ได้สาย pvp แต่เป็นสาย helper player มากกว่า (ฮา)

ปล T-T เก็บตังค์ต่อไป เพื่อสักวันจะได้ถอย PS4 มาเล่นบ้าง....
เล่นไม่ได้หลับได้นอน ผ่านไปเกินห้าสิบชั่วโมงแล้วยังไม่จบเกมเลย :v
ได้ 10 เลยทีเดียว เดี๋ยวไล่เก็บเกมเดี๋ยวตามไปเล่น
เล่นจบรอบแรก แบบงมเข็ม และเก็บอะไรก็ไม่ครบสักอย่าง 555

BB ยากกว่า DS1 และ DS2 เพราะรูปแบบการเล่นที่เร็ว แรง โครต action ส่วนใหญ่ต้องใช้หลัก รุนแรงแลกรุนแรง ไม่มีมาหร็อย มาซุ่มยิง มาป็อด หรือแม้แต่หลอกล่อ boss ไปตายแบบโง่ๆ

ยิ่ง final boss นะ แม่งเอ้ย!!! กันเลยทีเดียว
- ใครที่มี PS4 ไม่ควรพลาดเกมอย่าง Bloodborne ครับ
ตกลงจะครับ หรือจะ ค่ะ งง