Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Paddington ( 2015 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
FallsDowns at 2015-03-31 18:42:29 , Reads (7891), Comments (2) , Source :

Paddington ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz



"การผจญภัยของหมีน้อยน่ารัก ท่ามกลางป่าผู้ดีที่มีชื่อว่าลอนดอน"



ไม่แน่ใจว่าเป็นความบังเอิญหรืออย่างไร ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้ามาฉายในช่วงนี้ หลังจากที่เราได้ติดภาพตัวละครหมีน้อยที่อยู่ในลักษณะหยาบโลน ทะลึ่งจากในภาพยนตร์อย่าง Ted ( 2012 ) ที่กำลังจะเข้าฉายภาคที่สองในปีนี้
ถึงแม้ว่าตัวละครอย่างแพดดิงตันน่าจะมาก่อนอย่างเห็นได้ชัด จากการที่ตัวละครนี้มีต้นฉบับมาจากหนังสือตั้งแต่ปี 1958 ของไมเคิล บอนด์ และถูกนำมาใช้เป็นทีวีซีรียส์หลายต่อหลายครั้ง


Paddington เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเจ้าหมีแพดดิงตั้นซึ่งเดินทางจากป่าลึกในเปรูมาถึงเกาะอังกฤษ ด้วยภารกิจการตามหานักสำรวจที่เคยพบกับญาติๆของเขา แต่ระหว่างนั้นเองเขาก็ได้พบกับครอบครัวบราวน์ที่จะนำพาเขาไปสู่การผจญภัยอันน่าตื่นเต้น



ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยสีสัน มีชีวิตชีวา และน่าติดตามเสียจริงเชียว ตั้งแต่การออกแบบฉาก ตัวละคร หรือการใช้โทนสีต่างๆในฉากที่ออกแบบมาได้อย่างน่าทึ่ง สวยงามตระการตา และน่ามองเป็นที่สุด ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องขอชมผู้กำกับภาพ อีริค วิลสัน และ ผู้ออกแบบโปรดัคชั่นอย่าง แกรี่ วิลเลี่ยมสัน ที่เนรมิตลอนดอน และบ้านของครอบครัวบราวน์ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง


ในด้านของผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง พอล คิง ที่ผันตัวจากการกำกับทีวีซีรียส์ มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอง เขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมมากทีเดียว ด้วยการเล่าเรื่องอันสนุกสนาน น่าติดตาม และเขายังโอบอ้อมความโอเวอร์ เหนือจริงในแบบหนังสือการ์ตูน หรือ มิวสิควิดีโอ มาใช้ได้อย่างชาญฉลาด ในจำนวนที่กำลังพอดี ไม่มากจนล้น ซึ่งทำให้เกิดมุขตลกชวนขำที่สร้างสรรค์ได้อย่างยอดเยี่ยม ซ้ำยังผสมผสานการดำเนินเรื่องเข้ากับเพลงประกอบภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว สร้างการเล่าเรื่องที่ลื่นไหลไม่รู้สึกติดขัดและทำให้ภาพยนตร์รู้สึกเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา


แต่ความน่าทึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่ได้จบลงแค่นั้น ด้วยบทภาพยนตร์ของมันที่ก็แข็งแกร่งและน่าค้นหาไม่แพ้กัน
ตั้งแต่ตัวละครต่างๆในภาพยนตร์ เช่น ครอบครัวบราวน์ , ตัวละครร้ายที่รับบทโดยนิโคล คิดแมน และตัวละครสุดสำคัญอย่างเจ้าหมีแพดดิงตัน ทุกๆตัวละครในภาพยนตร์ก็ถูกเขียนและออกแบบมาได้เป็นอย่างดี มีมิติ และบุคลิกซึ่งสอดแทรกถึงปมปัญหาในแต่ละตัวละครได้อย่างน่าสนใจ เช่น ตัวละครผู้เป็นพ่ออย่าง เฮนรี่ บราวน์ ซึ่งสะท้อนถึงความรักและภาระอันหนักหน่วงของผู้เป็นพ่อที่มีต่อครอบครัวของตน หรือ ตัวละครของนิโคล คิดแมน ที่ต้องการแก้ไขในสิ่งที่พ่อของเธอได้ทำผิดพลาดไว้




และที่สำคัญเลย ก็คือนักแสดงทุกคนในภาพยนตร์ต่างก็แสดงผลงานอย่างยอดเยี่ยมทำให้ตัวละครต่างๆดูมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น แซลลี่ ฮอว์กินส์ , ฮิวจ์ บอนเนวิล และโดยเฉพาะ นิโคล คิดแมน ซึ่งนำแสดงบทตัวร้ายได้อย่างแสบสัน แต่กลับน่ารัก น่าติดตามเสียจริงเชียว


ถึงแม้ว่าภายนอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะดูสดใส หรือน่ารักซักเท่าใด แต่สิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นภาพยนตร์ที่น่าจดจำมากที่สุดในต้นปี 2015 ณ ตอนนี้เลย ก็คือความที่มันสามารถสอดแทรกประเด็นอันหนักหน่วงได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นการพูดถึงประเด็นปัญหาของคนอเมริกาใต้ที่อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในอังกฤษ ซึ่งพาดพึงไปถึงยุคล่าอาณานิคมของประเทศอังกฤษในสมัยก่อน และยังเสียดสีถึงสังคมผู้ดีอังกฤษที่ยกตนเหนือชนชาติและเผ่าพันธ์ุอื่นได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ตัวภาพยนตร์ต้องการจะสื่อถึงก็คือ สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคนแปลกหน้าเหล่านี้จะเป็นชนชาติ(หรือเผ่าพันธุ์)อะไร ตราบใดที่เรามีความรักให้กับพวกเขา พวกเขาก็เปรียบเสมือนครอบครัวของเรานั้นเอง



ในท้ายที่สุด Paddington อาจจะเป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อเรื่อง หรือบทสรุปที่ซ้ำซากไปบ้าง เฉกเช่นการมาของตัวละครใหม่ซึ่งทำให้เกิดการมารวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้งของหลายๆตัวละครเก่า แต่นั้นก็ไม่อาจจะเทียบถึงความน่าทึ่ง และความน่าอัศจรรย์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่เต็มไปด้วยสีสัน ชีวิต และสามารถถ่ายทอดเนื้อหาอันหนักหน่วงได้ดีเยี่ยม จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Paddington กลายเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถที่จะจูงมือบุตรหลานของตน เข้าไปชมและสามารถสนุกไปได้พร้อมๆกันอย่างแน่นอน

Final Score : [ 8.5 / 10 ]


(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
เปลี่ยนมาให้คะแนนเป็นตัวเลข ผมว่าโอเคนะครับ ตัวเลขมันเข้าใจง่ายสุดแล้ว แต่ไม่ต้องสนว่าเศษทศนิยมต้องเป็น ".5 " ก็ได้ครับ เอาแบบไอจีเอ็น เกมเทรเลอร์ก็ได้ 7.8, 8.4 คะแนนมันหลากหลาย ดูเข้าใจได้ละเอียดกว่าครับ

คนที่จะดูหมีไม่รู้ว่าจะทันมั๊ย เพราะฟาสต์7 เข้าพรุ่งนี้แล้ว เห็นว่าหนังเก่าคงโดนถอดออก3-4เรื่อง เพื่อเคลียร์โรง ส่วนผมคงดูตอนลงแผ่น เรื่องนี้หลายคนก็ชมกันว่าดี ว่าเป็นหนังหมีที่มีระดับ เพื่อนผมมันก็ชอบกันนะครับ
toranin wrote:
เปลี่ยนมาให้คะแนนเป็นตัวเลข ผมว่าโอเคนะครับ ตัวเลขมันเข้าใจง่ายสุดแล้ว แต่ไม่ต้องสนว่าเศษทศนิยมต้องเป็น ".5 " ก็ได้ครับ เอาแบบไอจีเอ็น เกมเทรเลอร์ก็ได้ 7.8, 8.4 คะแนนมันหลากหลาย ดูเข้าใจได้ละเอียดกว่าครับ

คนที่จะดูหมีไม่รู้ว่าจะทันมั๊ย เพราะฟาสต์7 เข้าพรุ่งนี้แล้ว เห็นว่าหนังเก่าคงโดนถอดออก3-4เรื่อง เพื่อเคลียร์โรง ส่วนผมคงดูตอนลงแผ่น เรื่องนี้หลายคนก็ชมกันว่าดี ว่าเป็นหนังหมีที่มีระดับ เพื่อนผมมันก็ชอบกันนะครับ


สาเหตุที่เปลี่ยนหลักๆก็เพราะส่วนตัวคิดว่าให้คะแนนแบบ A B C D มันลำบากน่ะครับ บางเรื่องนี้จะให้ B+ ก็เยอะไป จะให้ B ก็น้อยไป เลยหันมาเปลี่ยนเลข แต่คาดว่าคงน่าจะประมาณ .5 เป็นหลักแหละครับ .4 .3 ทศนิยมเยอะๆกลัวว่าคนอ่านจะสับสนน่ะครับ

ส่วนเรื่องคนไปดูไหมคาดว่าคงยากเหมือนกันครับ ยิ่งกระแส fast มาแรงขนาดนี้ จะเหลือซักโรงนึงรึเปล่ายังไม่รู้เลย แต่ก็อยากให้ไปดูกันจริงๆนะครับ (แต่ยอมรับเลยว่าดูช้ากว่าชาวบ้านเขาเยอะ)