Hideaki Anno กล่าว anime จะล่มสลายลง��ายใน 5 - 20 ปีข้างหน้า
Hideaki Anno ผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการอนิเมะอย่างยาวนาน ผลงานที่เรารู้จักกันดีก็คือ Gunbuster , Nadia: The Secret of Blue Water และ Neon Genesis Evangelion ได้ให้ความเห็นอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับวงการอนิเมะในอนาคตข้างหน้าซึ่งเป็นประเด็นที่เหล่าชาวอนิเมะทั้งบอรดไทยและต่างประเทศได้ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ โดยคุณอันโนะเองได้ให้สัมพากย์กับสำนักข่าว RIA Novosti ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งถือว่าเป็นวันเกิดครบรอบอายุ 55 ปี ของเขา โดยบทสัมพากย์นี้จะยกมาจากเวป akibatan นะครับ ขอขอบคุณทางเวป akibatan ด้วยครับสำหรับข่าวดีๆ
เขาได้ให้ความเห็นว่าวงการอนิเมะแบบที่เรารู้จักกันทุกวันนี้กำลังจะเสื่อมถอย และล่มสลายลงในอีก 5 – 20 ปีข้างหน้า ไม่มีทางเลี่ยงได้ ขึ้นอยู่กับเวลาว่าจะเกิดช้าหรือเร็วเท่านั้น!
“อุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่นกำลังเสื่อมถอย” Hideaki Anno กล่าว ในความคิดของเขานั้น ตอนนี้อุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่นได้เลยจุดพีคไปแล้ว และกำลังเจอกับความเสื่อมถอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าอนิเมะจะหายไป อนิเมะเองจะยังคงอยู่ หากแต่จะไม่ได้รับความนิยมอย่างในปัจจุบัน หรือบางทีอาจจะไม่มีสิ่งที่ทำให้สร้างผลงานได้น่าสนใจอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้
Anno คิดว่าในอนาคตญี่ปุ่นจะไม่ใช่ศูนย์กลางของอนิเมะแบบทุกวันนี้ เมื่อประเทศอื่นๆ ในเอเซียมีเงินมากขึ้น และสามารถผลิตงานอนิเมะออกมาสำหรับผู้ชมของตัวเองได้ ไม่แน่ว่าในอีก 5 ปี ประเทศอย่างไต้หวันอาจจะกลายเป็นศูนย์กลางของอนิเมะ ที่ซึ่งนักอนิเมเตอร์เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกายแรงใจ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่นที่เฉื่อยชา
ทั้งนี้ยังมีเรื่องของค่าแรงที่ต่ำ Anno เชื่อว่าอุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่น จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหาวิธีการใหม่ๆ ในการสร้างผลงาน อย่างการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก เพื่อหาทางสร้างอนิเมะที่น่าสนใจ ภายใต้สภาวะใหม่ที่ต่างจากเดิม เพราะวิธีเดิมๆ ที่ทำกันมานั้น เอาแน่นอนไม่ได้เสียแล้ว ซึ่งหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เขาคิดอาจจะเกิดขึ้นจริงในเร็ววันก็เป็นได้
ลองมาดูความเห็นจากเวป myanimelist เวปใหญ่เวปนึงในต่างประเทศว่าคนเห็นด้วยขนาดไหนที่ว่าอนิเมะกำลังจะตายลงในอีก 5 - 20 ปี ข้างหน้าจากผลโหวด
ผมคนนึงที่คิดว่าไม่น่าจะล่มสลาย แต่แนวความนิยมอนิเมะจะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนอะนะ
Popular News
แสดงความคิดเห็น
[Link]
คำเกริ่นก่อนสัมพากย์รายละเอียด
In an interview with Russian news agency RIA Novosti (via EvaGeeks), Anno said the anime industry as we now know it will end in the next five to twenty years. Decline and “death” are unavoidable. Anno calls this only “a matter of time.” Yikes!
แต่จริงๆผมว่าอนิเมะเดี๋ยวนี้ก็พัฒนาขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ
จุดที่พัฒนา
1..อนิเมะยุคนี้มีความหลากหลายให้เราเลือกชมมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ ในด้านเนื้อหา แนวๆนึงไม่ได้ตีเนื้อหาเพียงแค่ด้านเดียว เช่นสาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะ มาจิกะ
2. จำนวนตอนอย่างน้อย 12 ตอน อย่างมาก 26 ตอน ผมว่าเป็นจำนวนตอนที่เหมาะสมกว่าในอดีตที่มักมี 50 ตอน ทำให้เนื้อเรื่องกระชับ ไม่ยืดเรื่อง
3. คุณภาพงานสวยขึ้นตามยุคสมัย
4. ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศมากขึ้น คือไม่ได้ตามดูแค่สายหลักอย่างดราก้อนบอล แต่มีการตามดูอนิเมะทุก SS เหมือนบ้านเราและซื้อลิขสิทธ์ไปฉายและแปลเป็นภาษาต่างประเทศมากขึ้น บางเรื่องอาจไม่ดังในญี่ปุ่นก็ยังขายลิขสิทธิ์ไป ต่างประเทศได้เช่น Junketsu no Maria ที่ไม่ดังและยอดขายแย่ในญี่ปุ่นแต่ฝรั่งชอบมีการซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายและแปลตั้งแต่ยังไม่จบ
แต่จุดที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องยอดขายอนิเมะของแต่ละค่ายเองนี่แหละที่ช่วงหลังๆน้อยลง นี่คือสรุปยอดขายอนิเมะ winter season ที่ผ่านมา (ยอดณวันที่ 5 พ.ค. 2015 )
กลายเป็นอนิเมะที่ขายได้คือ อนิเมะที่มีฐานแฟนเยอะอยู่แล้ว เช่นอนิเมะภาคต่อseries ดัง อนิเมะจากมังงะ หรือ เกมส์ กลับกันด้านล่างๆคืออนิเมะจาก LN หรือมังงะที่ไม่ดังไม่ได้มีฐานแฟนเยอะ อนิเมะที่เป้นฉบับออริจินอลที่ไม่มีฐานแฟนเลย อนิเมะที่เน้นเนื้อหามักขายได้ไม่ดีจนตอนนี้ต้องมีการปรับการนำเสนออนิเมะเพื่อให้อยู่รอดได้
1..อนิเมะแนวกีฬาที่เน้นตัวละครผู้ชายมักได้ทำต่อเพราะขายได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเช่น Kuroko no Basket , Yowamushi Pedal , Haikyuu!
2.ลดการทำอนิเมะออริจินอล มาทำอนิเมะภาคต่อดังๆที่มีฐานแฟนเยอะมากขึ้นเช่น sunrise ตอนนี้ก็เน้น LOVE LIVE , เน้นพวกกันดั้ม XEBEC เน้น Fafner , To LOVE-Ru ,Satelight ขุดเอา Symphogear มาทำ
3. อนิเมะสมัยนี้ขายตัวละครผู้หญิงก็ไม่ใช่ว่าจะขายได้ แต่ถ้าเน้นขายตัวละครชายนี่ขายดีเช่น
Uta no☆Prince-sama , Binan Koukou Chikyuu Bouei-bu LOVE!
4.ถ้า LN ไม่ดังมากแต่มีคนเขียนมาคุมบทให้จะช่วยได้มากเช่น Saenai Heroine no Sodatekata
5. ถ้าอนิเมะจาก LN เรื่องไหนขายดีมากๆก็รีบประกาศทำภาคต่อเช่น Saenai Heroine no Sodatekata กับ Shinmai Maou no Testament
6. เปลี่ยนแนวอนิเมะของค่ายที่เคยนำเสนอเช่น P.A work ทำ shirobako ซึ่งเป็นแนวที่ไม่มีใครทำมาก่อนแล้วประสบความสำเร็จ
แต่ถามว่าในอนาคตวงการอนิเมะญี่ปุ่นจะแย่ถึงขนาดอันโนะพูดมั้ย ก็ยังเชื่อว่ามันต้องมีคนเก่งๆสร้างสรรค์ผลงานแนวใหม่ๆได้แหละ ทำให้คนมาสนใจอีกครั้ง เหมือนอย่างล่าสุดที่ shirobako ทำได้ แต่ถ้าไม่มีอะไรใหม่ๆเลย มีแต่แบบเดิมๆ แนวเดิมๆ ภาคต่อเดิมก็ไม่แน่อนาคตคนอาจจะเบื่อ เหมือนกินมาม่าใครจะไปกินได้ตลอดชาติ
ตัวอย่างชัดๆก็ nagi แม่งโคตรเทพ ทั้งภาพ ost พลอตเรื่อง นักพากษ์ การกำกับ แนวคิด
แต่ยอดขายก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับที่ลงทุนไป
ล่าสุดก็ พลาสติก เมโมรี่ ก็ขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งๆที่เป็นเมะที่ดีมากเลยเรื่องนึงในซีซั่นนี้
glasslip นี่ คนหวังใว้สูง คือมันได้กลิ่นอาย เรื่อง ทรูเทียร์ มาเลย ตอน1นี่โคตรพีค ทำมาน่าติดตามมาก แต่...
[--content--]
แบมบิ อนิเมชั่นยุค 40s
อนิเมชั่นยุคปัจจุบัน
อีกกลุ่มก็พยายามโตตามกลุ่มลูกค้าที่เคยเป็นการ์ตูนเด็กก็ดราม่าโหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ แบบ Marvel และ DC
แบทแมนยุค 60s
โรบินยุคปัจจุบัน ตายด้วยผลโหวตของผู้ชม
สไปดี้ผู้อาภัพ คนรอบตัวตายหมด ตายซ้ำตายซาก ตายแล้วตายอีก รีบู้ตกี่รอบก็ตาย
หรือไม่ก็ไปแนวอุบาทว์แบบ South Park, Sponge, Cow & Chicken ไปเลย
ที่อุบาทว์กว่านี้ก็ยังมีนะ เหอๆๆ ปีศาจขี้มูก ปีศาจจมูกมีขน เด็กฝรั่งชอบนะแต่มันแย่มากเลยไม่ได้ออนแอร์ไปประเทศอื่น เจอตอนไปเที่ยวเมืองนอกกดปิดโทรทัศน์แทบไม่ทัน ถ้าฝั่งอนิเมะญี่ปุ่นก็เป็นแนว gore อย่าง Corpse Party, สาวน้อยเวทมนต์มาโดกะและการ์ตูนปวดตับทั้งหลาย
สรุปคืออนิเมะไม่ตายหรอกแต่จะไม่เป็นออริจินัลแล้ว เป็นแค่วาดการ์ตูนเพื่อขาย merchandise เรื่องไหนขายของดีก็อยู่นาน เรื่องไหนขายไม่ดีก็ตัดจบเร็วเพื่อเปิดทางเรื่องใหม่
ยกตัวอย่างอนิเมะออริหุ่นยนต์เมื่อปีที่แล้ว
nobunaga the fool , m3 sono kuroki hagane เนื้อเรื่องนี่โคตรไล่คนดู ( nobunaga the fool ทนดูจบเพราะโชจิ คาวาโมรินั่นแหละ)
captain earth กับ Argevollen ดำเนินเรื่องได้น่าเบื่อโดยเฉพาะเรื่องหลัง
buddy complex เนื้อเรื่องพอใช้แต่ดันไปซ้ำๆ กะแนวเรื่องอื่นๆ
เมะออริหุ่นยนต์เรื่องใหม่ที่ยอดขายโอเคก็คือ AZ กับ cross ange ( AZ คนจะด่าไงแต่มันก็มีความสนุกจนคนตามดูต่อตอนต่อตอนนั่นล่ะ)
แนวรักอย่าง glasslip นี่เนื้อเรื่องโคตรเมากาว ยังกะดมกาวมาก่อนเขียนเรื่อง
อันโนะเองก็คงคิดเหมือนกันแหละเลยไปพูดถึงทางผู้ผลิตมากกว่า โดยไม่ได้พูดถึงผู้บริโภค