Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : Power Rangers 2017
Soma555 at 2017-03-23 00:29:21 , Reads (3900), Comments (8) , Source :



Power Ranger : B+

ยอมรับว่ามีความกลัวมากหลังจากเห็นคะแนนที่ไม่สู้ดีในต่างประเทศ กลัวว่าหนังมันจะแย่กว่าที่เราคาดคิดเอาไว้ในตอนเริ่มโปรเจคมา แต่หลังจากชมแล้ว ก็บอกครับว่า มันดีกว่าที่คิดไว้พอสมควร

อย่างแรกที่ต้องบอกเลยคือ ควรลดความหวังลงระดับนึงเลยหากคิดจะไปดูหนังที่แอ็คชั่นกันตั้งแต่ต้นยันจบเรื่อง เพราะเวลาส่วนใหญ่ของหนังจะหมดไปกับการพูดถึงการเติบโตของเหล่าตัวละครทั้ง 5 คน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ซีรีส์นี้เลือกจะเจาะลึกปมจิตใจตัวละครในร่างมนุษย์มากกว่าจะไปเน้นที่พวกเขาในร่างชุดเกราะเรนเจอร์กัน ซึ่งข้อเสียอาจทำให้คนหวังแอ็คชั่นกระจุยกระจายต้องคอตกกันไป แต่ข้อดีคือมันทำให้เรามองเห็นความเป็นเด็กวัยรุ่นของฮีโร่ทั้ง 5 คนนี้ในมุมที่ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจมากขึ้น มันทำให้มีความรู้สึกเอาใจช่วยและผูกพันมากกว่าที่เราเอาใจช่วยพวกเขาเพราะว่า มันเป็นพระเอกนี้หว่า ซึ่งนับว่าจุดนี้เป็นจุดที่ผมค่อนข้างชอบมากในหนังที่เลือกจะเป็นแบบนี้มากกว่าการเป็นหนังแอ็คชั่นบล็อคบัสเตอร์ทั่วไป แต่เอาจริงๆถ้ามันลดความยาวในส่วนนี้ลงไปหน่อย ก็จะโอเคมากขึ้น

ส่วนฉากแอ็คชั่นในแบบที่เราหวังจะไปยัดตอนท้ายเรื่อง (โปรดนึกถึง Godzilla 2014 ที่ปล่อยของกันตอนสุดท้ายนั่นแหละ) ซึ่งตลอดการดำเนินเรื่องรวมถึงบท มันดูเป็นอะไรที่เดาได้กันตั้งแต่ต้นเรื่อง แถมยังมีบางจุดที่ไม่สมเหตุสมผลและขาดจุดเฉลยไป (ซึ่งคาดว่าคนสร้างน่าจะลืม) แต่ว่าหากท่านเป็นแฟนคลับของพาวเวอร์เรนเจอร์ และ เซนไต จะรู้ว่ารูปแบบการดำเนินเรื่องแบบนี้ มันก็คือรูปแบบของซีรีส์นี้เราชอบนั่นแหละ ทั้งบางอย่างที่ดูจะบังเอิญเหลือเกิน คำพูดปลุกใจแสนเสี่ยวแดก มิตรภาพก่อเกิดพลัง บลาๆๆ พวกนี้เป็นอะไรที่อาจดูตกยุคสำหรับหลายๆคนที่ไม่ผูกพันกับซีรีส์ชบวนการ 5 สี แต่สำหรับแฟนคลับแล้วรู้เลยว่านี้คือการเอาใจแฟนคลับอย่างมาก ซึ่งหากท่านไม่ได้ซีเรียสความเชยๆอะไรแบบนี้ที่มีในบทหนัง ก็จะไม่ติดใจส่วนนี้เท่าไร

แล้วฉากแอ็คชั่นล่ะ ทำได้สนุก ปล่อยของกันเต็มที่ แต่มันแอบรู้สึกไม่อิ่มเท่าไร อยากให้มันมากกว่านี้ อยากให้มันนานกว่านี้ ยิ่งฉากการต่อสู้ของ Megazord ที่น้อยไปนิดนึงยังไม่ทันจะรู้สึกมันส์สะใจแบบเต็มที่ก็จบเสียแล้ว แต่ท่ามกลางฉากแอ็คชั่นที่จัดมาในหนังมันก็มีฉากที่ทำให้เราต้องร้องกริ๊ด และฉากที่ทำให้แฟนๆเพาวเวอร์เรนเจอร์แทบจะลุกขึ้นปรบมือกันตรงนั้นเลย

สรุปแล้ว Power Ranger ภาคนี้อาจไม่ได้ตอบโจทย์คอหนังแอ็คชั่น แต่มันตอบโจทย์ในแง่มุมของคนที่ชื่นชอบ Power Ranger ที่อยากจะสำรวจลึกเข้าไปในปมปัญหาและจิตใจของนักสู้ทั้ง 5 ก่อนจะมารวมทีมกัน เป็นการผสานของหนังปัญหาวัยรุ่นกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ลงตัว และในส่วนของแฟนๆเซนไตหรือพาวเวอร์เรนเจอร์ การได้พบอะไรที่เราคุ้นเคยจากการดูซีรีส์เหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก บนจอภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ดูหรูหราขึ้น มันก็เพียงพอให้เราได้ฟินหนังไปจนจบแล้วล่ะครับ

ปล.หนังมีฉากลับกลางเครดิต ห้ามพลาดนะ

แสดงความคิดเห็น
ดูแล้วเหมือนหนังพยายามจะเอาใจคนที่เป็นแฟนเซนได หรือเรนเจอร์อยู่แล้ว พร้อมๆกับพยายามดึงคนดูหน้าใหม่ที่ไม่ค่อยรู้จักขบวนการ 5 สีเท่าไหร่ ด้วยการเล่าเรื่องแบบร่วมสมัย เจาะลึกไปกับตัวละครกว่าจะรวมพลังมาเป็น Power Ranger ปราบตัวร้าย มันเป็นยังไง หนังพยายามให้คนดูรู้สึกผูกพันธ์ไปกับตัวละคร เดินเรื่องเรื่อยๆไปจนครึ่ีงเรื่อง

คือหนังตอบโจทย์แฟนๆเรนเจอร์ได้อยู่นะ แต่สำหรับคนดูหน้าใหม่ที่หนังพยายามจะดึงเข้ามา มันสอบตก เพราะหลังจากที่เดินเรื่องมาเรื่อยๆจนถึง ฉากแอ็คชั่น หรือฉากที่ถึงเวลาปล่อยของจริงมันทำได้เฉยๆ ธรรมดาๆ มาก อารมณ์เหมือนหนังแอ็คชั่นทั่วไปที่ปล่อยของ และเร่งๆเดินเรื่องไปจนจบ อารมณ์แบบว่าจบแล้ว แค่นี้เหรอ

โดยรวมคือมันก็โอเคนะ ถ้าคุณชอบ Power Ranger อยู่แล้ว แต่หนังมันควรทำอะไรได้มากกว่านี้อะ
ไม่ติฉากแอ็คชั่นเลยเรื่องนี้ถึงจะน้อยกว่าแบบต้นฉบับ คิดว่าทำออกมาแบบน้อยๆแต่มีคุณภาพอย่างงี้ดีแล้ว แต่มันน่าสนใจการใส่คาแรคเตอร์เรื่องราวความเป็นมาให้เรนเจอร์ มันมีตัวเด่นคือเรด,บลูไอ้ที่เสียดายคือตัวแบล็คหรือแซคนั่นแหละ ที่ดูเรื่องราวแล้วมันเศร้ากว่าคนอื่น ก็ยังดีที่มีฉากขโมยซีนขี่พวกเมก้าซอร์ดออกมาก่อนเขา โดยรวมตัดเรื่องฉากบู๊ออกแล้วเน้นความเป็นหนังขึ้นมันดีน่ะ(คือจริงๆถ้ามีเยอะก็จะเป็นแบบพวกทรานเฟอร์เมอร์ภาคหลังๆ ที่เน้นต่อสู้แบบไม่ที่มาที่ไปว่าหุ่นนี้มายังไง) แล้วมันบิ้วด์อารมณ์จากเด็กที่เคยเอะอะแปลงร่าง มาเปลี่ยนเป็นมาเข้าเนื้อหาของการเรียนศึกษาและใช้ได้ดี

คะแนน 7/10
ชอบตอน



เป็นผลงานที่เข้าไปแบบแทบไม่ได้หวังอะไร เพราะส่วนตัวแทบไม่เคยดู Power Rangers ตอนเด็ก แต่กลับค่อนข้างประทับใจครับ แม้บทหรือการกำกับจะธรรมด๊าธรรมดา แต่สายสัมพันธ์และการเติบโตของเหล่าเรนเจอร์นี้น่าสนใจและน่าติดตามมาก เคมีก็เข้ากันได้แบบไม่น่าเชื่อ จนทำให้เรื่องราวในภาพยนตร์รู้สึกสนุกตลอดเวลา
ในฐานะแฟน power rangers ผมว่ามันโอเคเลยแหละครับ
แต่แค่โอเคนะ หลายๆ อย่างยังหยิบมาใช้น้อยไป รู้สึกไม่อิ่มจริงๆ หวังว่าภาคต่อไป(ถ้ามี) จะทำให้เราอิ่มได้กว่านี้

ไอ้ส่วนที่ไม่ควรจะอิ่มแต่ดันอิ่มจนล้นคือบทพูด พูดเยอะพูดล้นพูดเละเทะมาก แต่ก็เข้าใจ ตัวละครมันเยอะ คงพยายามเฉลี่ยความเด่น

แต่สิ่งนึงที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ผมดูแล้วหงุดหงิด ขัดใจตลอดเรื่อง คือซับไตเติ้ล เลือกสรรพนามแย่ พระเอกนี่ต่อให้สนิทกะนางเอกมาขึ้นแค่ไหน ก็ยังเรียก ผม คุณ ทั้งเรื่อง... เฮ้ยนี่มันเด็กม.ปลายนะ

ไม่รวมที่แปลผิด แปลเกินอีกหลายที่ บทพูดสั้นๆ แปลมายาวเหยียด ผมว่านักแปลทำการบ้านไม่พอ หรืออาจจะเร่ง
เพิ่งดูจบไม่ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ค่อยสนุกไปดูเองไม่เท่าไหร่แต่ถ้าพาเด็กไปดูด้วยเด็กหลับแน่นอน เอาไป 6/10


ดูเเล้วไม่ค่อยปลื้ม ปูเรื่องพอไหว เเต่ซีนบู๊ถ้ามีน้อยเเบบนี้ ควรจัดเต็มเเอคชั่นสุดอลังวังเวอร์ให้สมกับที่รอมาใกล้จบ เเต่หนังน่าจะทำเงิน ภาคต่อขอมมันส์ๆนะ
เรื่องนี้ก็ยังดูสนุกกว่า F4 ฉบับรีบูตตั้งเยอะ