Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : A Silent Voice (รักไร้เสียง)
Slashmeplease at 2017-03-28 12:46:32 , Reads (6848), Comments (21) , Source :

Review : A Silent Voice (รักไร้เสียง)

กำกับ : Naoko Yamada (K-ON the Movie, Tamako Love Story)

*ออกตัวก่อนว่าผมเคยอ่านเวอร์ชั่นมังงะแต่อ่านไปแค่เล่มสองเล่มก็หยุด ไม่ใช่ไม่ดีนะ มันเครียดน่ะ ชอบอ่านอะไรชิลๆมากกว่า

หลังจาก Your Name ประสบความสำเร็จในการฉายบ้านเรา เหล่าค่ายหนังก็มองหาหนังอนิเมชั่นแนวคล้ายๆกันเพื่อสานต่อความสำเร็จ ซึ่งรักไร้เสียงนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่แฟนๆเรียกร้องให้เอาเข้ามาฉายมากที่สุด (แต่ดูการโปรโมตของเมเจอร์แล้วออกจะผิดจุดไปสักหน่อย...แต่ช่างเถอะ)



A Silent Voice เล่าถึง อิชิดะ โชยะ นักเรียนม.ปลายที่กำลังหมดอาลัยตายอยาก เนื่องจากในอดีตเขาเคยเป็นผู้นำในการกลั่นแกล้งนิชิมิยะ โชโกะ นักเรียนหญิงชั้นเดียวกันเนื่องจากเธอหูหนวก จึงดูเป็นตัวประหลาดสำหรับเขา แต่เมื่อเธอย้ายโรงเรียนไปเพื่อนๆในห้องก็เปลี่ยนกันมารุมแกล้งเขาเองอย่างโหดร้าย อดีตอันเลวร้ายเหล่านี้ได้หลอกหลอนโชยะจนเขาคิดฆ่าตัวตาย แต่เมื่อเขาได้พบกับโชโกะอีกครั้ง เธอก็ได้เริ่มเข้ามาทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไป...



ตัวประเด็นของหนังในเรื่อง Bully และผลกระทบที่ตามมาของมันนั้นทำได้ดีมากๆ และผมก็ชอบการดำเนินเรื่องในช่วงกลางไปถึงท้ายเรื่องมาก ถึงแม้ว่าจะแอบมีฉากที่คิดว่าไม่จำเป็นอยู่บ้าง ยังดูเป็นการ์ตูนรวมเล่มยาวๆไม่ค่อยกลืนเป็นหนังเรื่องเดียว ตัวละครต่างๆนั้นออกแบบมาได้อย่างมีมิติดีมากครับ โดยผมคิดว่าตัวนาโอกะ อุเอโนะนี้ออกแบบมาได้ดีมาก ดูมีมิติและมีความเป็นมนุษย์มากจริงๆ (ใช่ เธอก็เหมือนเป็นตัวร้ายกลายๆของเรื่องนี้น่ะแหละ แต่ผมก็รู้สึกว่าพอมีอะไรจะDefend ให้เธอได้ถึงแม้จะรู้ว่าเถียงไปก็แพ้ก็ตาม 5555 ก็มนุษย์เรามันโหดร้ายนี่นะ) จะมีติดนิดหนึ่งตรงตัวนางเอกนี่ล่ะ ที่ผมว่าเธอออกจะดูเป็นแม่พระไปสักนิด แต่ก็น่ารักดีละนะ ให้อภัย 5555



แต่ถึงแม้ว่าหนังจะทำพล็อตเรื่องและตัวละครมาอย่างดี แต่ข้อเสียใหญ่ของหนังสำหรับผมคือ “จังหวะการเล่าเรื่อง” นี้แหละ บางทีหนังจะตัดภาพเร็วๆ แปลกๆ ซึ่งอารมณ์มันสะดุดน่ะ และบางทีก็จะเล่าเรื่องสลับเวลาไปมางงๆเป็นหนังโนแลน ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม งงเปล่าๆ จำได้ว่ามังงะไม่ใช่แบบนี้นี่นา สำหรับผมอารมณ์ของหนังมันเลยขัดๆอยู่สักหน่อยยังไปไม่สุดครับ



งานภาพนั้นดีมาก Kyoto Animation เขางานดีอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่สุดยอดเท่า Your Name ก็ตาม อันนั้นมันบ้า 5555 (setting ของหนังมันไม่เอื้อด้วย) และขอชมทีมพากย์ไทยหน่อยที่พยายามกันดีมากครับ เห็นความตั้งใจสุดๆโดยเฉพาะนางเอก ที่ผมเชื่อว่าพยายามไม่แพ้นักพากย์ญี่ปุ่นครับ

สรุป : ถึงผมจะมีปัญหากับจังหวะการเล่าเรื่องของมัน แต่มันก็เล่นประเด็น Bully ได้ดีมากๆและมีตัวละครที่มีมิติดีมาก ยอม 555

คะแนน : 8.3/10 (A) ชอบครับ

แสดงความคิดเห็น
4 more comments >>
แบบมังงะมันดราม่า-เครียดกว่าในหนังเยอะไหมครับ?
View all 3 comments >
สำหรับในช่วงแรกๆ ผมคิดว่ามันสื่ออารมณ์ได้ดีกว่า (เครียดกว่านั่นเอง)
Like : ZeKung
กลัวอ่านแล้วจะเครียด

แล้ว


ผมอ่านมังงะไม่จบครับ
Like : ZeKung
ผมดูแล้วชอบมากนะเรื่องนี้ ชอบกว่า Your Name อีก
นางเอกน่ารักมาก เวลาจะพูดซักคำซักประโยคนี่ลุ้นแล้วลุ้นอีก
Like : Slashmeplease
สำหรับผมถือว่ายังสู้มังงะไม่ได้ครับ การเล่าเรื่องมันโดดไปโดดมาไม่สุดในด้านอารมณ์เลย

แต่ก็ด้วยเวลาของหนังยาวเรื่องนึงมันคงเก็บได้ไม่หมด ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าโอเคครับ
View all 2 comments >
ขอถาม

ฉากจบมังงะกับหนังไม่เหมือนกันใช่ไหมครับ?
ZeKung wrote:
ขอถาม

ฉากจบมังงะกับหนังไม่เหมือนกันใช่ไหมครับ?


ผมยังไม่ได้ดูหนังนะ แต่อ่านมังงะจนจบ

เท่าที่อ่านสปอยล์มาคิดว่าไม่เหมือนกัน แต่สื่อความหมายได้เหมือนกันครับ
ray
ในโรงมีคนร้องไห้ด้วยแล่ะ เป้นฝรั่ง
Like : Slashmeplease
คนละเรื่อง คนละแนว ไม่เกี่ยวกันเลย.........แต่ทำไมนั่งดูรักไร้เสียงไปเรื่อยๆแล้วอยู่ดีๆผมก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา


Like : ZeKung
View all 1 comments >
เรื่องนี้สนุกนะครับ ตอนนั้น ITV มีแต่ซีรี่ย์ญี่ปุ่น

ผมชอบเรื่องนักบินอ่ะ ที่นางเอกเป็นช่างบำรุงเครื่องบิน
Like : BadBear
เราว่าเรื่องนี้มันยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ เค้นอารมณ์ยังไม่ได้เท่าที่ควร

บางจุดที่ควรจะขยายความก็ดันรวบรัด บางช่วงที่ดูไม่มีแก่นสารก็ยืดซะจนรู้สึกเนือยไปเลย

งานภาพโอเคนะตามมาตรฐานสตูนี้ แต่นำเสนอขาดชั้นเชิงไปสักหน่อย

คือจริงๆไปดูเพราะมีคนอวยกันว่าดีกว่า kimi no na wa แต่พิจารณาจากรายละเอียดทั้งหมดแล้วเราว่ายังสู้ไม่ได้ จะมีที่เหนือกว่าตรงมิติความคิดตัวละคร

ส่วนตอนจบที่หลายๆคนว่าแปลกๆ เราว่าเป็นอะไรที่โอเคแล้วนะ สำหรับเราเป็นช่วงที่เค้นอารมณ์ได้ดีที่สุดของเรื่องและจบลงในช่วงที่พีคที่สุด ถ้าคิดตามชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น ก็จะพอตีความได้ว่าบางทีชื่อเรื่องนี้ต้องการสื่อถึงพระเอกมากกว่านางเอกซะด้วยซ้ำ
Like : Slashmeplease
อารมณ์ยังสู้มังงะไม่ได้ ตอนจบจำได้ว่าอ่านมังงะมีซึ้งน้ำตาซึม. ในมูวี่โดดเยอะมาก แล้วก็รู้สึกดนตรีค่อนข้างเงียบตามหนังยังไงไม่รู้
โดยรวมหนังทำได้ดีในการเล่าประเด็นต่างๆ ค่อนข้างชัด ให้อารมร์ร่วมดี โดยเฉพาะนางเอก คนพากษ์เก่งมากขอชม ภาพก็สวยใสสไตล์เกียวอนิ
แต่ตัวหนังตัดบทรวบรัดอย่างเยอะ หลายๆฉากขนาดอ่านมังงะมายังจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วคนที่ไม่อ่านมันจะรู้เรื่องไหมนั้น - -"

สงสารตัวละครอื่นๆ โดนตัดบทกระจุย โดยเฉพาะอุเอโนะ ที่ถ้าคนไม่อ่านมังงะมาก่อนคงเกลียดเธอมากแน่ๆ
ทั้งๆที่จริงๆเป็นตัวละครที่มีมิติมากๆ และมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น

ส่วนตัวให้คะแนน Movie (B)
ส่วน Manga ให้ (A) (เป็นการ์ตูนที่ผมชอบที่สุด 1ใน5เรื่อง)

ปล.ไปดูในโรงเถอะครับ ถึงจะสู้ Mangaไม่ได้ แต่มีหลายๆฉากที่ไม่เหมือนใน Manga ให้อารมณ์ความรู้สึกอีกแบบไปเลย
View all 1 comments >
ช่วยสปอยหน่อยครับ ว่า อุเอโนะในมังงะเป็นยังไง

แต่ในหนังยอมรับว่าตัวละครเธอมีมิติ แต่เหมือนเล่าๆไม่หมด

ผมเห็ยด้วยกับแอดมินน่ะ..แต่ผมขัดใจสุดๆ แค่อย่างเดียวคือตอนจบเลยครับ!! ผมพุ่งดูมาวันนี้สดๆร้อนๆ
ขนาดเพื่อนผมที่ไปดูด้วยกันมันอ่านจากในมังงะมายังบอกว่า ขัดใจตอนจบสุดๆ อยากให้พระเอกนางเอกสมหวังกันได้เห็นภาพที่มันคบกันมากๆ!!!!!!!!
มีจุดต่างจากมังงะผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่.....แต่ผมคิดว่ามันเล่าเรื่องโดดๆไปนิดอารมณ์มันไม่ต่อเนื่องแบบเดินเรื่องตัดภาพเดินเรื่องตัดภาพแล้วกลายเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งไปเลย..อะไรงี้น่ะครับ....แล้วด้วยเวลาจำกัดบทเพื่อนๆมันก็ดูขาดๆเกินๆไปนิดบางคนบทแทบไม่มี 555 หรืออย่าง อุเอโนะนี่ก็ขาดมุมด้านอื่นๆไปเหมือนกันเลยดูเหมือนคนนิสัยไม่ดีเท่าไหร่ 555
Like : Slashmeplease