Batman v Superman : Dawn of Justice ( 2016 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
"Batman v Superman: Road to Justice League"
![](http://www.mx7.com/i/a5e/3GxqXk.jpg)
Batman v Superman : Dawn of Justice ( 2016 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz
-- ภาพรวม --
- กัล กาด็อท รับบทวันเดอร์วูแมนได้อย่างยอดเยี่ยม ขโมยซีนสุดๆ
- การแสดงของเบน เอฟเฟลค และเจเรมี่ ไอรอน ค่อนข้างดี ทำให้ภาพยนตร์ Batman ในอนาคต น่าดูขึ้นเยอะ
- เฮนรี คาวิลล์ ยังคงรับบทเป็น Superman ได้ดี ถ่ายทอดสภาวะความสับสนของตัวละครได้น่าติดตาม
- ฉากแอ็คชั่นมีค่อนข้างน้อย แต่ก็ทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะท้ายเรื่องที่อลังการพอตัว
- เล็กซ์ ลูเธอร์ ซึ่งรับบทโดยเจสซี่ ไอเซนเบิร์ก ในด้านนึงก็น่าสนใจ แต่ในอีกด้านก็น่ารำคาญ
- การเล่าเรื่องของ แซค สไนเดอร์ ค่อนข้างจืดชืด
- บทพูดเหมือนพยายามจะให้ดูเท่ห์อยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นน่ารำคาญ
- พยายามที่จะยัดหลายสิ่งหลายอย่างเข้าไปในภาพยนตร์เรื่องเดียวมากเกินไป จนเป็นเหตุทำให้ภาพรวมออกมาวุ่นวาย ขาดความเป็นเอกภาพ
- เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างมารวมตัวกัน แฟนๆน่าจะชอบอย่างแน่นอน ในขณะที่คนทั่วไปคงไม่ประทับใจเท่าไรนัก
เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดภาพยนตร์ที่กระแสแรงแห่งปี 2016 เสียจริงๆ กับการปะทะกันของซุปเปอร์ฮีโร่ Batman v Superman : Dawn of Justice ที่เปิดตัวมาก็มีกระแสดราม่า เมื่อคะแนนในเว็บไซต์นักวิจารณ์ตั้งแต่ Metacritic ยัน Rotten Tomatoes ค่อนข้างต่ำ จนหลายคนล้อกันว่าเป็น ผู้ชม vs นักวิจารณ์ ไปเสียแล้ว
![](http://www.mx7.com/i/a6a/fE2BrP.jpg)
Dawn of Justice ในภาพรวมแล้วถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่แย่ แต่ก็พูดยากว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม หรือกระทั่งเข้าขั้นดี ด้วยความที่มันมีทั้งจุดดี จุดเด่น ผสมผสานกับจุดด้อย และปัญหาต่างๆพร้อมกัน
ขอเริ่มจากจุดที่ชื่นชอบในภาพยนตร์ก่อนละกัน ในด้านของนักแสดงหน้าใหม่แล้ว ต้องขอชม กัล กาด็อท ซึ่งกระโดดเข้ามารับบทเป็นวันเดอร์วูแมนได้อย่างยอดเยี่ยม ขโมยซีนอย่างมาก ส่วน เบน แอฟเฟล็ค ซึ่งเข้ามารับบทบาทสำคัญอย่างพี่แบท ก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว เคมีของเขานั้นเข้ากับ เจเรมี่ ไอรอน ซึ่งรับบทเป็น อัลเฟรด อย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ทำให้ตั้งตารอคอยภาพยนตร์แบทแมน ซึ่งเจ้าตัวเคยบอกว่าจะกำกับเองและเล่นเองไม่ใช่น้อย
![](http://www.mx7.com/i/a87/D5aJgy.jpg)
ส่วนในด้านของนักแสดงที่กลับมารับบทเดิมอย่าง เฮนรี คาวิลล์ ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความพัฒนาในการแสดงของเขา ถ่ายทอดสภาพความสับสนของตัวละครได้อย่างดี
อย่างไรก็ตาม นักแสดงอีกท่านอย่าง เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก ซึ่งรับบทเป็น เล็กซ์ ลูเธอร์ อาจจะต้องรอดูผลงานในภาคต่อถัดๆไป เพราะในบางฉากตัวละครของเขาก็น่าสนใจดี แต่พอไปถึงอีกฉาก การแสดงของเขาก็กลายเป็นน่ารำคาญเสียอย่างนั้น คล้ายคลึงกับบทพูดในภาพยนตร์ ซึ่งดูพยายามเหลือเกินที่จะให้มันดูเท่ห์ ดูหล่อ ดูสวย แต่พอเริ่มยัดเข้ามาทุก 5 นาที ความเท่ห์เริ่มจะกลายเป็นความน่ารำคาญเสียแทน
![](http://www.mx7.com/i/9a3/ZZnbAF.jpg)
สำหรับท่านใดที่เห็นชื่อภาพยนตร์ Batman v Superman แล้วหวังว่าจะได้เห็นฉากแอ็คชั่นระหว่างพี่แบทกับพี่ซุปเยอะๆแล้วละก็ เตรียมผิดหวังได้เลย เพราะอย่าว่าแต่ฉากพี่แบทกับพี่ซุปเลย แค่ฉากแอ็คชั่นทั้งหมดรวมกันคงจะไม่ถึง 1 ใน 3 ของทั้งเรื่องด้วยซ้ำไป ถึงแม้ว่าฉากที่มีอยู่โดยเฉพาะท้ายเรื่องค่อนข้างจะมั่วซั่วได้ซะใจสมเป็น แซค สไนเดอร์ ก็ตาม ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดที่ชวนให้ตั้งคำถามมากที่สุด
ในเมื่อทางค่าย Warner Bros. ได้ตัดสินใจที่จะเลือกผู้กำกับ แซค สไนเดอร์ มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เหตุใดทิศทางของภาพยนตร์จึงแทบจะกลายเป็นภาพยนตร์ดราม่าไปได้ ทั้งๆที่นั้นไม่ใช่จุดแข็งของผู้กำกับท่านนี้เลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเป็นเพราะกลัวว่าผู้ชมติดภาพ Dark Knight Trilogy ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ไม่ทราบเช่นกัน
![](http://www.mx7.com/i/1ec/JwvKpS.jpg)
ยิ่งพอผนวกเข้ากับความพยายามในการยัดเยียดหลากหลายตัวละครเข้าไปพร้อมๆกันในภาพยนตร์เรื่องเดียว ยิ่งทำให้เรื่องราวแกนหลักจริงๆในภาคนี้ซึ่งควรจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จางหายไปในพื้นหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งในจุดนี้แฟนๆคงน่าจะชอบกันอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นโฉมหน้าสมาชิกทีม Justice League ในอนาคต แต่สำหรับคนทั่วไป หรือท่านที่ไม่ได้รู้จักตัวละครเหล่านี้มากนัก คงได้แต่นั่งงงตาปริบๆและตั้งคำถามว่า 'ใส่มาทำไมในเมื่อมันคือตัวละครสำหรับภาพยนตร์ในอนาคตและแทบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาพยนตร์ที่ฉันกำลังนั่งดูอยู่'
เอาเข้าจริงแล้ว ตัวแนวคิดหรือแกนหลักของ Dawn of Justice ก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว ในด้านของการพูดถึงการล่มสลายของความเชื่อในมนุษยชาติ การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด จนต้องนำไปสู่ความหวังในการรื้อฟื้นความเชื่อมั่นในมนุษย์ให้กลับคืนมา
![](http://www.mx7.com/i/5c7/H28u2e.jpg)
แต่ในเมื่อการเล่าเรื่อง บทภาพยนตร์ และเวลาในภาพยนตร์ต่างถูกใช้ไปกับการปูทางไปสู่ภาพยนตร์ในอนาคตจำนวนมาก จนเนื้อหาตัวภาพยนตร์จริงๆเหลือเพียงแต่ร่องรอย น้ำหนัก และความน่าจดจำของความคิดนี้ ก็เปรียบเสมือนการซื้อต้นไม้มาวางไว้ที่บ้านโดยที่ไม่มีใครแยแสจะใส่ใจและให้เวลากับมัน จนต้องแห้งและล้มตายไปในที่สุด
![](http://www.mx7.com/i/195/KcUIPC.jpg)
สุดท้ายแล้ว ด้วยการแสดงและการแนะนำตัวละครใหม่ๆอย่าง แบทแมน วันเดอร์วูแมน หรือสมาชิกทีม Justice League ที่น่าตื่นเต้น รวมไปถึงฉาก Climax ที่อลังการงานสร้าง น่าจะทำให้ Batman v Superman: Dawn of Justice กลายเป็นภาพยนตร์ที่แฟนๆชื่นชอบได้ไม่ยากนัก ในขณะที่สำหรับผู้ชมทั่วไปแล้วมันคงจะกลายเป็นภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการใช้วัตถุดิบและเครื่องมือที่มีอยู่อย่างผิดทิศผิดทาง เป็นเหตุทำให้ภาพรวมกระจัดกระจาย ขาดเอกภาพ ถึงแม้ว่าภาพรวมมันอาจจะไม่แย่อย่างที่กระแสพูดถึงกันก็ตาม
Final Score : [ 6.5 ]
ปล. ใครก็ได้สร้าง Batman v Superman : Dawn of Just Us ที plz
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
เรื่องบท น่าจะเพราะต้องมายัดเรื่องกำเนิดแบทแมนลงไป ยัดเรื่องจัสติกลีคลงไป ทำให้บทมันเลยดูมั่วๆ จริงๆ ถ้าตัดเรื่องการแนะนำแบทแมนไปน่าจะดีกว่านี้
แต่สุดท้าย ได้ดูพี่แบทกับพี่ซุปก็สะใจแล้วล่ะ
ไอเดียหรือประเด็นของหนังมันดีมากๆเลยนะ โทนหนังให้ความรู้สึกแบบผู้ใหญ่ๆ(หนังมาเวลจะให้อารมณ์สนุกแบบเด็กๆ) ให้อารมณ์หนักอึ่งในช่วง30นาทีแรกของหนังซึ่งตรงนี้ แซค ทำได้ดีมากๆ แต่พอหลังจากนี้เหมือนอยู่ดีๆ แซค ก็เอ๋อแดกการเล่าเรื่องก็ดิ่งลงเหว แซค จับประเด็นมั่วไปหมดและดันพยายามเล่าประเด็นที่คนดูมันเข้าถึงและเข้าใจตั้งแต่ 30-40นาทีแรกของหนังไปแล้วก็ยังพยายามเล่าซ้ำๆ ไอ้ช่วงนี้แหละที่หนังมันพลาดครั้งที่1(พลาดยาวนานมากเกือบชั่วโมง) ส่วนต่อมาถ้าจุดบรรจบของหนัง(จุดก่อนที่ ซุป จะปะทะกับ แบท)มันควรนำเสนอให้ฉลาดกว่านี้มีชั้นเชิงกว่านี้ แต่มันดันไร้เหตุผลในหลายๆจุด แบบว่าดันเล่าน้ำจนหมดเวลาพอถึงเวลาเนื้อมาก็เพิ่งนึกได้ว่าเห้ยเวลามันไม่มีแล้วก็เอามันแบบหวนๆนี้แหละ จุดนี้แหละที่คนดูมันถึงขีดความอดทนแบบนึกในใจถ้าพี่จะเล่นแบบนี้ไม่ต้องเล่ายาวขนาดนี้ก็ได้ นี้คือพลาดครั้งที่2 (ถ้ามันนำเสนอเหตุการณ์ก่อนปะทะดีกว่านี้ คนดูจะโอเคกับการเล่าก่อนหน้านี้มาก) ส่วนตอนปะทะกันจนถึงหยุดสู้อันนี้เป็นเพราะก่อนหน้านี้มันดันเล่ามาไม่ดีทำให้จุดนี้เกือบแย่ไปด้วย
สิ่งที่แซคพลาดใหญ่ๆจุดที่ 3สำหรับผม คือ แซค เล่าส่วนของ ลูเธอร์ ไม่ดีหรือพูดให้ถูกวางบทให้ตัวนี้ยังไม่แน่นพอ มันต้องแน่นกว่านี้ ตัวนี้ผมว่ามันคือตัวละครสำคัญสุดในความคิดผมนะ ถ้าบทมันแน่นและต้องดีกว่านี้มันจะอุดส่วนที่แย่ของการเล่าได้หมด สำหรับผมนี้เป็น key ที่ แซคมองพลาดไปสุดๆ
ผมดูเสร็จกคิดว่าอยากลับบ้านมาดูดากไน๊เลย
หนังเกรด C แรงอวยไม่ช่วยอะไร
ความเห็นส่วนตัวของผมมีดังนี้
-เนื้อเรื่องเยอะอยุ่แล้วยังยัดฉากไม่จำเป็นเข้ามาอีก
-เหตุผลที่แบทแมนเอาจริงเอาจังจะฆ่าซูปเปอร์แมนขนาดนั้นยังไม่หนักแน่นพอ ขนาดโจ็กเกอร์มันยังไม่กล้าฆ่า นี่กะจะฆ่าฮีโร่เพียงเพราะความฝัน.. ตอนซูปเปอร์แมนบอก ขอคุยหน่อย ทำไมใจดำขนาดนั้นไม่คุยเลย กะฆ่าลูกเดียว โหดมาก
-ซูปเปอร์แมนที่อุตส่าห์เอาตัวเข้าปกป้อง Alex อีกทั้งๆที่มันก่อเรื่องขนาดนั้น และมีข้ออ้างที่จะโดนผลงานตัวมันเองฆ่าแทนให้แล้ว... อืม ไม่ชอบเลย เพราะมุขแบบนี้เรื่อยๆคนร้ายในการ์ตูนฝรั่งแต่ละตัวถึงไม่ตายซักที แล้วก็วนซ้ำๆตัวเดิมเรื่อยๆ
เพราะซุปเปอร์แมนโคตรตัวอันตราย ไม่มีอะไรการันตีเลยว่าจะไม่เป็นภัย แถมยังทำตัวตามใจ ก่อภัยแบบไม่แคร์ เหมือน ปรมณูเดินได้
ระดับความอันตราย สูงกว่าโจ้กเกอร์เยอะมากๆๆๆ เดิมทีแบทแมนแค่เตรียมตัว เตรียมของไว้การันตี
แต่โดนเล็กซ์ปั่นหัวเพิ่ม ก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่าต้องฆ่า ไหนจะซุปเปอร์แมนชอบทำตัวเกรียนๆ หยามใส่อีก