ผมได้ทดสอบมาระยะหนึ่งแล้ว แต่รอบนี้ต้องบอกว่า Phainon น่าประทับใจจริง ๆ จนรู้สึกอยากชมเชยทีมพัฒนา
และผมไม่ได้พูดถึงแค่ภาพหรือแอนิเมชัน—แต่หมายถึงความสมดุลของตัวละคร เขาไม่ได้โกงเกินไป และก็ไม่อ่อนแอเกินไป
เขาอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตัว DPS หลักที่เปิดตัวในแพตช์ 3.x ซึ่งถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก

หนึ่งในข้อดีที่สุดของ Phainon c]t ก็เป็นจุดอ่อนหลักของเขาด้วย—คือสไตล์การเล่นที่เน้นการลงทุนทุกอย่างลงไปที่ตัวเขา
เขาไม่ต้องการตัว sub-DPS หรือดาเมจเสริม เขาต้องการทีมที่มีตัวซัพพอร์ตทุ่มเทเต็มที่ในการทำให้เขาโดดเด่น
เช่น ตัวซัพพอร์ตอย่าง Tribbie ที่ช่วยเสริมดาเมจเยอะ อาจจะไม่เหมาะนักกับทีมของ Phainon

แต่หากไม่นับตัวซัพที่ทำดาเมจสูง คุณก็มีอิสระมากในการจัดทีมรอบตัวเขา
ตัวอย่างเช่น Sunday และ Robin เล่นกับเขาได้ดีมาก หรือแม้แต่ Bronya ที่บัฟตัวเดียวก็เข้ากับ Phainon ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ

ถ้าคุณอัปเกรด Phainon อย่างดีแล้ว ที่เหลือในทีมไม่จำเป็นต้องลงทุนหนักเกินไป ขอแค่ตัวซัพพอร์ตไม่ถ่วงเขาก็พอ
ถ้าคุณมีตัวซัพระดับห้าดาว E0 และอัปขึ้นมาระดับหนึ่ง ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

สำหรับ Phainon เอง สิ่งที่ควรโฟกัสคือ อัตราคริ (CR), ดาเมจคริ (CDMG), และพลังโจมตี (ATK) ซึ่งทำให้เส้นทางการอัปตอนต้นของเขาค่อนข้างเป็นมิตรกับมือใหม่

แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่ลงทุนกับเขาให้ดีพอ ประสบการณ์ในการเล่นจะค่อนข้างแย่
เพราะเขาจะเป็นคนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนสนาม รัวดาบไปเรื่อย ๆ และพลังไม่พอจะทำให้การต่อสู้ดูยืดเยื้อและน่าเบื่อ

เขาไม่ได้อ่อนแอเมื่ออยู่ที่ E0 แต่ถ้าต้องการปลดล็อกศักยภาพจริง ๆ แนะนำให้ไปถึงอย่างน้อย E1
และยิ่งอัปเกรดมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเก่งและสนุกขึ้นเท่านั้น

พวกคุณชอบอนิเมะแนวต่างโลกไหม? เพราะ Phainon ให้ความรู้สึกเหมือน Ainz Ooal Gown หรือ Cid Kagenou
พวกเขาเป็นผู้นำที่โกงมาก ทุบทุกอย่างพังพินาศด้วยค่าสถานะเว่อร์ ๆ มีเพื่อนร่วมทีมที่เท่และมีเสน่ห์ แต่สุดท้ายแล้ว…
มันก็คือ Phainon ที่แก้ปัญหาทุกอย่าง และได้รับคำชมทั้งหมด

ข้อเสียใหญ่อย่างหนึ่งของเขาคือ ประสิทธิภาพจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจอศัตรูหลายตัวพร้อมกัน
ลองจินตนาการถึงโรงงาน A และ B ที่ต้องผลิตของจำนวนเท่ากัน
โรงงาน A มีสายการผลิต 3 สาย ทำงานเสร็จใน 2 ชั่วโมง ส่วนโรงงาน B มีแค่สายการผลิตเดียว ใช้เวลา 6 ชั่วโมงในการทำงานเท่ากัน

นั่นแหละคือสิ่งที่ Phainon ต้องเจอเวลาสู้กับศัตรูหลายตัว
ถ้ามีศัตรู 5 ตัว สิ่งที่คุณทำได้ก็แค่นั่งดูเขาจัดการทีละตัว...ช้ามาก
ถ้าสถานะของเขาต่ำ ก็จะยิ่งช้ากว่าเดิมอีก
ผมหวังอย่างจริงใจว่าส่วนนี้จะได้รับการปรับปรุงในอนาคต

มันทำให้ผมนึกถึงเวอร์ชัน 3.1 ที่ต้องนั่งดูระบบออโต้ในโหมด Mydei ที่ทั้งนานและน่าเบื่อ
เพราะข้อจำกัดในเชิงโครงสร้างนี้ เขาจึงมักได้คะแนนต่ำกว่า และดูเสียเปรียบในคอนเทนต์อย่าง DU, PF, และ AS
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับตัว DPS หลักอื่น ๆ ที่มาจากเวอร์ชัน 3.x
ไม่ว่า Phainon จะเก่งแค่ไหน เขาก็ยังต้องจัดการศัตรูทีละตัวอยู่ดี

สรุปแล้ว
ถึงแม้ Phainon จะมีข้อบกพร่องเชิงโครงสร้างในชุดสกิลของเขา
แต่ผมก็ยังเชื่อว่า Phainon เวอร์ชัน 1 (v1) เป็นตัวละครที่คุณจะไม่เสียใจถ้าลงทุนกับเขา

ถ้าคุณเป็นคนที่เล่น Star Rail ทุกวัน หรือแค่ชอบ Phainon มาก
ผมว่า ข้อจำกัดของเขาจัดการได้ไม่ยากเลย

ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่เล่นมานานแล้ว ก็น่าจะมีตัวซัพพอร์ตอย่าง Sunday หรือ Robin อยู่แล้ว
แค่เพิ่ม Phainon เข้าไปในทีม ก็สามารถสนุกไปกับการตีความใหม่ของสายกายภาพได้ทันที

แต่ถ้าคุณเป็นผู้เล่นใหม่ ผมว่าก็สมเหตุสมผลดีที่จะลงทุนกับเขา
และค่อย ๆ สะสมตัวซัพพอร์ตไปรอบ ๆ เขาเมื่อคุณเริ่มคุ้นกับเกม
จุดเริ่มต้นอาจดูเล็กน้อย แต่อนาคตจะสดใสแน่นอน

ดูเหมือนผมจะได้เจอตัวละครน่าประทับใจอีกตัวแล้ว
สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจที่สุดระหว่างการทดสอบก็คือ ตัวละครนี้แจกฟรีจริงเหรอ?
พูดจริงนะ? ตัวละครที่เก่งขนาดนี้ยังแจกฟรีอีก?

Archer ทำได้ดีกว่าที่ผมคาดหวังไว้มากจนเกือบลืมเรื่องอัตราส่วนดาเมจไปเลย
ถ้าเทียบดาเมจดิบ ๆ แล้ว Archer ยังไม่ถึงระดับของตัว Hypercarry จากเวอร์ชัน 3.x แต่ถ้าใช้ทีมพื้นฐานทั่วไป ผลงานของเขาใกล้เคียงกับตัว DPS หลักจากเวอร์ชัน 2.x

พูดตามตรง ถ้าคุณจะสร้างทีม Hypercarry เพื่อเขาโดยเฉพาะ มันอาจไม่คุ้มเท่าไหร่
ถ้าอยากเล่นทีมสายนี้แบบจริงจัง ตัวเลือกอย่าง Phainon หรือ Saber จะตอบโจทย์มากกว่า

ที่สำคัญคือ Archer ไม่ต้องการการลงทุนสูงใน Eidolon
แค่ไปถึง E1 และใส่ Light Cone (LC) ที่เหมาะสม คุณจะพบว่าการเล่นของเขาราบรื่นและควบคุมได้ง่ายมาก
แม้จะอยู่แค่ E0 ก็ยังทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะสำหรับตัวแจกฟรี

ข้อเสียหลักของ Archer คือ เขาต้องใช้สกิลร่วมกับตัวละคร Mage ญี่ปุ่นสายสูง ที่มีผมมัดข้างและชุดสีแดง
ใช่ครับ ผมหมายถึง Sparkle (Rin Tohsaka ละม้ายมาก)
Sparkle คือ LC ตัวจริงของ Archer และเป็นพาร์ทเนอร์ที่ขาดไม่ได้
ซินเนอร์จี้ระหว่างสองตัวนี้แข็งแกร่งมากจนยากจะจินตนาการว่าเล่นทีม Archer ได้โดยไม่มี Sparkle

ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย—ประสิทธิภาพของ Archer ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะหาสกิลพ้อยต์ให้เขาได้มากแค่ไหน
การใช้สกิลของเขาก็กินพ้อยต์หนักมาก—หนักยิ่งกว่า Dan Heng IL เสียอีก ซึ่งบอกเลยว่าหนักแล้วนะ
จุดนี้ผมว่าควรมีการปรับบาลานซ์บ้าง

สำหรับผู้เล่นเก่าที่มี Sparkle อยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา
แต่ผู้เล่นใหม่อาจไม่มี—และตรงนี้อาจเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด

ข้อเสียอีกอย่างคือ Archer เป็นตัวละครสาย Hunt
แม้จะมีดาเมจเป้าหมายเดี่ยวที่แรง แต่เมต้าใน Star Rail ปัจจุบันเน้นการสู้กับศัตรูหลายตัว
นั่นทำให้สาย Hunt รู้สึกไม่ค่อยมีพื้นที่เท่าไหร่ นอกจาก Feixiao ตัวอื่น ๆ จากสาย Hunt แทบไม่ค่อยได้ใช้งาน

อาจต้องรอให้เมต้าเปลี่ยนหรือมีพื้นที่ใหม่ๆเพิ่มเข้ามา ถึงจะได้เห็นศักยภาพของ Archer เต็มที่

ถ้าพิจารณามาตรฐานของตัวแจกฟรีทั่วไป Archer ถือว่าเป็นตัวที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ
ถ้าคุณเป็นผู้เล่นใหม่ และมีโอกาสได้ Sparkle ด้วย บอกเลยว่าเล่นสนุกแน่

แม้ไม่มี Sparkle ทันที ก็ยังสามารถใส่ตัวซัพที่ไม่กินสกิลพ้อยต์ลงไปในทีมได้
และเพราะ Archer ไม่ต้องพึ่งเกจมากนัก คุณสามารถใช้คู่กับ Sunday หรือ Robin ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีซินเนอร์จี้ที่ดีเกินคาดกับ Archer, Tribbie และ Sparkle
ถ้ามี Sparkle และฮีลเลอร์ดี ๆ ก็สามารถทำผลงานได้ดีแม้จะเป็นแค่ E0
ผมแนะนำอย่างยิ่งให้ลองเล่น Archer ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่

ในบรรดาตัวละครทั้งหมดที่มีในเบต้านี้ ผมคิดว่า Saber คือคนที่ “สมบูรณ์แบบที่สุด”

ดาเมจของเธอสามารถแข่งขันกับตัวละคร DPS หลักจากเวอร์ชัน 3.x ได้อย่างง่ายดาย
สกิลของเธอก็เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา ทำให้เข้าถึงได้ง่ายแม้แต่กับผู้เล่นใหม่

ยิ่งไปกว่านั้น Saber ยังมีความ ยืดหยุ่นสูงมากในการจัดทีม
หากคุณรู้สึกว่า Phainon ไม่โดนใจ หรืออาจจะดูเทอะทะเกินไป Saber คือทางเลือกที่คุ้มค่าในการลงทุน

แม้ว่า Ultimate ของเธอจะใช้พลังงานถึง 360 ซึ่งถือว่าสูง
แต่ภายในชุดสกิลของเธอมีระบบการสร้างพลังงานในตัวเอง ทำให้แทบไม่รู้สึกเลยว่าพลังงานที่ต้องการสูงมากนั้นนั้นเป็นภาระ

Ultimate อาจเป็นสกิลที่แรงที่สุดของเธอก็จริง
แต่ดาเมจจากสกิลปกติก็ยังสูงมากเช่นกัน
ต่างจาก Phainon ตรงที่ Saber สามารถรับประโยชน์จากตัวละคร sub-DPS อย่าง Tribbie ได้อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถจัดทีมได้หลากหลายและสมดุลมากกว่า

Saber ทำงานได้ดีกับตัวซัพพอร์ตแทบทุกประเภท
จากประสบการณ์ของผม ทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคือ Sunday, Tribbie และ Huohuo
ทั้ง Sunday และ Huohuo เติมพลังงานให้ทีมรวมกันถึง 102 แต้ม ทำให้ Saber อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบมากในการต่อสู้
สกิล DDD ของ Tribbie ยังช่วยเพิ่มความเร็วและความถี่ในการโจมตีของ Saber ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หากคุณมี Robin ก็สามารถสลับกับ Tribbie และจัดทีมแบบเดียวกับที่ใช้กับ Aglaea ได้ คือใช้ Sunday, Robin และ Huohuo
แม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่เท่าใช้ Tribbie แต่ก็ยังถือว่า “ดีมาก” เช่นกัน

เธอยังเข้ากันได้อย่างลงตัวกับซัพพอร์ตตัวอื่น ๆ เช่น Sparkle, Ruanmei, Bronya และ Tingyun
ถ้าคุณอยากลดต้นทุนการลงทุน ก็สามารถใช้แค่ Saber กับ Sunday แล้วเติมตัวซัพที่คุณมีอยู่แล้วในกล่อง ก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ

ระดับความยืดหยุ่นในการจัดทีมของเธอถือว่า “น่าชื่นชมมาก”

แตกต่างจาก Castorice ในช่วงเบต้า 3.2 ที่โครงสร้างทีมรู้สึก “ตายตัวเกินไป” และต้องพึ่งตัวเฉพาะทางอย่าง Castorice + Hyacine หรือ Castorice + Tribbie
Saber ไม่จำเป็นต้องมีทีมเฉพาะแบบนั้นเลย

ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำ Speedrun คุณก็ไม่จำเป็นต้องมี Sunday เพื่อให้ Saber ทำงานได้ดี
นึกย้อนกลับไปตอนที่คุณขาดตัวละครตัวเดียวก็จัดทีมสมบูรณ์ไม่ได้ มันน่าหงุดหงิดแค่ไหนใช่ไหม?
แต่ความหงุดหงิดแบบนั้น จะไม่เกิดขึ้นกับ Saber

มันคล้ายกับการทำ “สลัดแซลมอน” หรือ “ไก่ทิกก้ามาซาลา”
ถ้าคุณมีแค่ แซลมอนกับน้ำสลัดดี ๆ หรือ ไก่กับเครื่องเทศดี ๆ
คุณสามารถใช้วัตถุดิบอะไรก็ได้ที่มีอยู่ในบ้าน แล้วก็ยังออกมาเป็นจานที่อร่อยและน่าพอใจ

อาจเป็นเพราะผมทดสอบเธอไปพร้อม ๆ กับ Phainon ด้วย
ผมจึงยิ่งรู้สึกชัดว่า Saber ทำผลงานได้ดีมากในการต่อสู้กับศัตรูหลายตัว
จริง ๆ แล้ว ยิ่งจำนวนศัตรูน้อยลง ดาเมจจาก Ultimate ของเธอกลับยิ่งแรงขึ้น

พูดให้ชัดคือ เธอสามารถทำผลงานได้อย่าง แข็งแกร่งและคงที่
ไม่ว่าจะเป็นการสู้บอสตัวเดียว หรือรับมือกับศัตรูหลายตัวพร้อมกัน

ในโหมด DU, AS และ PF, เธอ เร็วกว่า Phainon อย่างชัดเจน
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอมีประสิทธิภาพในการเล่นจริงแค่ไหน

ส่วนจุดด้อยของเธอ ณ ตอนนี้ มีเพียงข้อเดียวที่น่าสังเกตคือ
Eidolon (E) ของเธอไม่ได้สเกลดีเท่าคนอื่น

ตั้งแต่ E4 ถึง E6, เธอเริ่มด้อยกว่าตัวอื่น ๆ อย่าง Phainon, Castorice, Mydei หรือ Aglaea
ในแง่ของประสิทธิภาพโดยรวม
แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ชุดสกิลของเธอสมดุลมาก
ไม่ได้เก่งเกินหน้า DPS หลักในเวอร์ชัน 3.x ตัวอื่น ๆ
และก็ไม่ได้อ่อนเพียงเพราะเป็นตัว Collaboration

แม้แต่ใน E0 เธอก็สามารถมอบประสบการณ์ที่ “น่าพึงพอใจ” ให้ผู้เล่นได้แล้ว
ถ้าปรับจุดด้อยเรื่อง Eidolon สูง ๆ ได้อีกหน่อย
ผมคิดว่าเธอสามารถ “อัปขึ้นเซิร์ฟเวอร์จริงได้ทันที” โดยไม่มีปัญหาใด ๆ

เธอเป็นตัวละครแรกที่ผมกล้าพูดเต็มปากว่า
รู้สึกสมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก ไม่ต้องปรับอะไรใหญ่เลย