Review : Death Wish 2018 (หว่อนหน่าได๋?)

กำกับ : Eli Roth (Cabin Fever, Hostel, Knock Knock)

หนังรีเมคจากหนังเก่าตั้งแต่ปี 1974 ซึ่งผมก็ไม่เคยดูเวอร์ชั่นนั้นนะ มาคราวนี้กำกับโดย Eli Roth ซึ่งถึงงานของเขามักจะออกเกรดบีหน่อยๆแต่มันก็พอบันเทิงอยู่ โดยคราวนี้ได้ดาราจอมอึด Bruce Willis มาแสดงนำด้วย หนังเป็นยังไงไปดูกันครับ



Death Wish เล่าถึง Paul Kersey (Bruce Willis) คุณหมอผู้ทุ่มเทให้การทำงานและการสร้างชีวิตที่ดีให้กับครอบครัว แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผันเมื่อมีเหตุการณ์โจรขึ้นบ้านเขาในคืนที่เขาอยู่เวรที่โรงพยาบาล และโจรชั่วก็ได้สังหารภรรยาของเขาและทำให้ลูกสาวของเขาพิการ เมื่อเขาได้สัมผัสถึงกระบวนการทางยุติธรรมที่ล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ เขาก็เริ่มคิดที่จะทำอะไรสักอย่าง เขาได้เริ่มออกปฏิบัติการเป็นศาลเตี้ยสวมฮู้ดที่คอยสังหารคนร้ายอย่างเลือดเย็นพร้อมทั้งหาทางแก้แค้นไปด้วย แต่สิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องจริงๆหรือ เขาจะแก้แค้นสำเร็จหรือไม่ติดตามได้ใน Death Wish ครับ



ซึ่งหากใครเห็นเทรลเลอร์ของ Death Wish แล้วเข้าไปชมเพราะหวังว่าจะเป็นหนังบู๊แล้วละก็ อันนี้ก็คงจะต้องผิดหวังครับ เพราะจริงๆแล้ว Death Wish มีฉากบู๊ค่อนข้างน้อย ตัวละคร Paul Kersey ก็เป็นมือใหม่หัดบู๊ครับเพราะเดิมเป็นคุณหมอธรรมดาๆนี่เอง เพิ่งจะเริ่มจับปืนเสียด้วยซ้ำ สำหรับผม Death Wish เป็นหนังล้างแค้น ที่มีกลิ่นความเป็น Thriller หน่อยๆ (ฉากปล้นบ้านก็ทำได้กดดันและน่ากลัวดีสมกับที่เป็นแนวถนัดของ Eli Roth) และยังมีความจิกกัดการเมืองที่ค่อนข้างชัดเจนครับ และหนังก็ค่อนข้างเข้าสถานการณ์เพราะเพิ่งมีเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนที่อเมริกาไป และทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายเกี่ยวกับปืนของอเมริกาอย่างเผ็ดร้อน โดย Death Wish ก็แสดงให้เห็นว่าหากเราลุกขึ้นมาจับปืนเป็นศาลเตี้ยแล้วจะเป็นอย่างไร ซึ่งถึงแม้หนังจะดูเลือกข้างนิดๆแต่ก็ยังคงความเป็น Dilemma ไว้อยู่ครับ แต่ข้อติหลักของ Death Wish สำหรับผมก็คือ หนังทำอารมณ์ได้ไม่ถึงสักอย่างครับ จะบู๊ก็ไม่บู๊ จะการเมืองหรือเป็นแนวโหดก็ไปไม่สุด สุดท้ายก้เลยได้แค่ดูเพลินๆครับซึ่งผมว่ามันเป็นปัญหาที่มีมานานกับหนังของอิตา Eli Roth นี้นะ กับ Death Wish นี้ก็ไม่รอดครับ



เรื่องการแสดงนั้นก็เฉยๆตามมาตรฐานครับ Bruce Willis ไม่ใช่ดาราเจ้าบทบาทอะไรอยู่แล้ว ทีมนักแสดงอื่นๆก็ตามนั้น (แต่ Camila Morrone ที่เล่นเป็นลูกสาวสวยดี เอาชื่อไป Search รูปดิ งานดีมาก 555) ส่วนเพลงประกอบ มีการใช้เพลงที่ผมชอบมากๆเป็นเพลงหลัก แต่ก็เท่านั้นครับนอกนั้นไม่มีอะไรโดดเด่น

สรุป : ไม่ใช่หนังบู๊แต่เป็นหนังล้างแค้นและจิกกัดการเมืองที่ทำอารมณ์ได้ไม่สุดสักอย่าง แต่ก็ดูเอาเพลินๆได้อยู่ครับ ขอเห็นต่างมะเขือเน่าหน่อยละกันไม่ได้คิดว่าแย่ขนาดนั้น

คะแนน : 7.3/10 (B) เฉยๆครับ