Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
บทสรุป Dragon Age Origins

<<
<
1
2
3
4
5
6
>
>>
Reply
Vote
# Tue 1 Dec 2009 : 8:48AM

Decibel per-oxide
member

Since 23/1/2006
(3806 post)
บทสรุป Dragon Age Origins
(โดย Pongkrit03)



บทนำ
ครั้งแรกที่ผมเห็นคนปล่อยเกมส์นี้ในเว็บ Bit ตัวผมก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่นัก นึกว่าเป็นแนว FPS ล่ามังกรซึ่งต่อมารู้ว่าเป็น RPG ผมก็เริ่มสนใจขึ้นมานิดหน่อยแต่ก็ไม่อะไรมาก กระทั่งผมเข้าไปเช็คเว็บ Gamespot ที่นั่นมักจะมีการ review เกมส์ที่เชื่อถือได้ซึ่งผมเข้าไปชมบ่อยๆ และเมื่อผมเห็นคะแนนของเกมส์นี้แล้ว ผมถึงกับตะลึง เพราะขนาด Batman ซึ่งตอนแรกคาดว่าเป็นเกมส์แห่งปีแล้วยังได้เพียง 9 คะแนน แต่ Dragon Age กลับได้ถึง 9.5 คะแนน (บ้ามาก) ซึ่งหากลิสต์รายชื่อเกมส์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน (ราวๆ10ปีได้) ในเว็บ Gamespot ตัว Dragon Age เป็นรองเพียงแค่ Diablo ภาคแรกซึ่งได้คะแนน 9.6 เท่านั้น

[Link] (อ้างอิงจาก Gamespot.com)

ดังนั้นเกมส์แห่งทศวรรษแบบนี้มีหรือผมจะพลาด ผมรีบโหลดบิทมาลองอย่างไว อาจเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เล่นเกมส์ค่าย Bioware เลยรู้สึกว่ารายละเอียดเยอะไปหมดแถมยากอีกต่างหาก ขนาด normal ยังจะตายเอา แต่เมื่อผมเล่นซักพักจนเข้าใจระบบเกมส์แล้ว ผมก็รู้สึกเลยว่า โอ้ว มันสมราคา 9.5 จริงๆ ทุกๆอย่างดีไปหมด ทั้งเนื้อเรื่อง รายละเอียดปลีกย่อย และที่สำคัญที่สุดคือระบบการเล่นในด้าน Tactic ซึ่งถ้าเข้าใจแล้วจะเล่นง่ายขึ้นมาทันที ผมจึงตั้งใจว่าถ้าผมเล่นจบแล้วยังไม่มีคนไทยคนไหนทำบทสรุป ผมก็จะทำบทสรุปเกมส์นี้เป็นเกมส์ที่สอง (เกมส์แรกที่ผมทำลงเน็ทคือ Tropico 3)

อย่างไรก็ตามเกมส์นี้เป็นแนว RPG ที่มีรายละเอียดมหาศาล ตัวผมเองเป็นแค่ผู้เขียนมือสมัครเล่น แถมเขียนฟรีๆก็คงไม่เจาะลึกมาก แต่จะเน้นในเรื่องเทคนิควิธีเล่นมากกว่า ในแง่เนื้อเรื่องผมจะบอกเฉพาะส่วนเนื้อเรื่องหลักๆเท่านั้น ผมอาจจะบอกทางเลือก แต่ผมจะไม่บอกผลลัพธ์ของทางเลือกนั้นๆ ผมจะพยายามสปอยให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมคิดว่าผู้เล่นคงสนุกมากกว่าถ้าได้ลุ้นเอง

ท้ายที่สุดนี้ที่ผมเขียนบทสรุปนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นประโยชน์กับคนไทยทุกคนที่เล่นเกมส์นี้โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ ใครจะก็อปเนื้อหาไปแปะไว้ที่ไหนก็ได้แต่ก็ขอให้ลงเครดิต pongkrit03 ก็พอครับ

คำเตือน : Dragon Age เป็นเกมส์ที่ใช้ทักษะภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก รวมถึงยังมีเนื้อหาที่รุนแรง ผู้ที่รู้ตัวเองดีว่าภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงควรหลีกเลี่ยงเกมส์นี้ หรือถ้าจะเล่นก็ควรมีดิ๊กอยู่ข้างกายคอยหยิบมาเปิดบ้าง ไม่เช่นนั้นความสนุกของเกมส์นี้อาจจะลดลงถึง 30% ... ส่วนบุคคลที่อายุไม่เกิน 15 ปีขอให้เล่นอย่างฉลาด เกมส์ก็คือเกมส์ ชีวิตจริงก็คือชีวิตจริง อย่าไปปนกัน



หัวใจของเกมส์นี้ กลยุทธ์
ครั้งหนึ่งที่ผมเล่นอยู่ได้มีฉากในแคมป์ฉากหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจมาก จนถึงตอนนี้ยังจำมันได้ไม่ลืม นั่นคือหลังจากเราผจญภัยได้ซักพักหนึ่ง Sten หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของเราได้มาบอกกับเราว่าเขาไม่ประทับใจในตัวเราเลย เขาบอกว่าเรานั้นไม่เหมาะที่จะเป็น Grey Warden (ผู้พิทักษ์สีเทา) อย่างที่เขาเคยได้ยินมา เราก็ถามเขาว่า แล้วที่เขาได้ยินมาเกี่ยวกับ Grey Warden เนี่ยมันเป็นยังไง ... แรกทีเดียว ผมคิดว่า Sten คงจะตอบประมาณว่า Grey Warden จะต้องเป็นนักรบที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน สู้ 1 ต่อ 100 ได้ ไม่มีวันตาย อะไรทำนองนี้ซะอีก ... ทว่าผิดคาดเลยครับ นี่คือสิ่งที่ Sten บอก

Great Strategists and peerless warriors. That is what we hear of the Wardens.

แปลได้ว่า นักวางกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่และนักรบที่ไม่มีใครเสมอเหมือน นั่นแหละคือสิ่งที่เราได้ยินมาเกี่ยวกับ Wardens ผมถึงกับอึ้ง ! ... มันไม่ได้เกี่ยวกับสู้เก่งเลย แต่สิ่งแรกที่ Sten บอกกลับเป็นเรื่องกลยุทธ์ ซึ่งมันก็ทำให้ผมถึงบางอ้อเลยทีเดียว นี่แหละครับหัวใจในการพิชิตเกมส์นี้ การใช้กลยุทธ์ ! ... ซึ่งถ้าใครคิดจะเล่นเกมส์นี้เอามันส์ ลุยลูกเดียว ผมขอแนะนำให้ท่านเปลี่ยนเกมส์ครับ หรือไม่ก็ไปเล่น Easy ซะ เพราะถ้าเล่น normal ท่านดับแน่นอน นี่ยังไม่รวมถึง hard กับ nightmare นะ ...

ทำไมผมถึงต้องเอาเรื่องนี้มาพูดยืดยาว ก็เพราะมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เกมส์นี้เราไม่ได้บู้คนเดียว แต่เราจะมีเพื่อนอีก 3 คน .... ผมได้ดูตัว Collection ซึ่งมีผู้สร้างเกมส์นี้มาพูด เขาบอกเลยว่าเกมส์นี้เนี่ยจะง่ายหรือยาก มันขึ้นอยู่ว่าความพร้อมของทีมมีแค่ไหน การประสานงานเข้าขากันไหม พวกนี้สำคัญกว่าอาวุธชุดเกราะหรือสกิลซะอีก ผมขอให้ทุกคนดู Trailer อันนี้ดีๆครับ

[Link]

เป็นตัว Trailer ของ Dragon Age ที่ผมชอบที่สุด ดูรอบแรกก็ว่ามันส์ดี แต่พอดูรอบสองและสาม ถึงพบว่าตัว Trailer นี้มันได้สอนเราหลายๆอย่าง ผมจะแจงให้ฟัง

1.เลือกคนให้เหมาะกับงาน จะเห็นได้ว่าตัวเอกเราเรียก Sten ให้ขึ้นไปบวกพวกศัตรูจากด้านหน้าเพราะ Sten ตีแรงและพละกำลังเยอะ (คงไม่บ้าเรียก Morrigan ที่เป็นนักเวทเข้าชนหรอกจริงไหม)

2.ในฉากที่นักเวทศัตรูยิง Fire Ball ออกมา ตัวเอกสั่งให้หยุดก่อน นี่เป็นการสอนเราว่าไม่จำต้องบุกไปโง่ๆ เรามีปุ่ม H ซึ่งสามารถทำให้ทุกคนหยุดได้ สกิลในเกมส์นี้หลายสกิลสามารถหลบได้ ดังนั้นหัดหลบบ้างจะช่วยได้เยอะ

3.ฆ่าเมจก่อนเสมอ ! นี่เป็นกฏสำคัญของเกมส์นี้เลยทีเดียว เห็นได้ว่านักธนูเล็งเก็บเมจก่อน จะปล่อยให้มันร่ายเวทย์ไม่ได้เด็ดขาด

4.ตอนมังกรมา ตัวเอกของเราเข้าไปล่อมังกรไว้ ถ้าเทียบกับในเกมส์ก็คือเข้า TANK นั่นเอง เพราะตัวเอกเรามีอาชีพเป็นไนท์สายโล่ห์ที่มี Def สูงสุด จึงให้คนอื่นระดมโจมตีแทน ... เราจะปล่อยให้ศัตรูโหดๆมาตีตัวเมจหรือตัวธนูเราไม่ได้

5.ตอนที่มังกรเปลี่ยนมาจู่โจมนักธนู สิ่งนี้บอกเราว่าเกมส์ๆนี้ศัตรูไม่ได้โง่ที่จะตีตัว tank อยู่ตลอด มันจะเลือกตัวที่มีค่า Threat สูงเป็นหลัก หรือก็คือเลือกอัดตัวทำ dmg สูงๆก่อนน่ะนะ แต่ขาเราก็ไม่ได้ผูกติดกับพื้นดิน ดังนั้นการวิ่งล่อเป็นสิ่งที่ทำได้ วิ่งล่อแล้วให้เพื่อนเราหวดแทนเป็นอีกกลยุทธ์ที่ใช้ได้ดีในการเจอศัตรูโหดๆ


ผมจะเน้นเรื่องกลยุทธ์อย่างละเอียดตามสถานการณ์ในส่วนของ Walkthough นะครับ




พื้นฐานและทริคต่างๆ
เกริ่นยาวพอควร เข้าเรื่องเลยดีกว่าเกี่ยวกับพื้นฐานและทริคต่างๆในเกมส์นี้

1.เกมส์นี้ศัตรูจะเลเวลขึ้นตามเรานะครับ ข้อดีคือเราจะไปที่ไหนก่อนก็ได้อย่างอิสระ แต่ข้อเสียคือการเก็บเลเวลไม่ได้ช่วยให้อะไรง่ายขึ้นเลย (ค่าประสบการณ์ที่ได้เขียนย่อว่า XP )

2.การตายของตัวละครคือการหมดสภาพต่อสู้ แต่ถ้าหมดสภาพครบ 4 คนถือว่าตายจริงๆ ... หลังจากจบการต่อสู้แล้วคนที่หมดสภาพก่อนหน้านี้จะฟื้นมา โดยมีบาดแผลติดตัว 1 อย่าง ซึ่งเราสามารถทำให้บาดแผลนี้หายไปได้โดยใช้ item ชื่อ injury และคนที่ตายจะได้ xp เท่ากับคนที่เหลืออยู่ xp จะได้เท่ากันทุกคน ไม่มีการเฉลี่ยว่าหาร 3 หรือหาร 4 ดังนั้นพกคนไปเยอะที่สุดครับ

3.สกิลของเกมส์นี้มีอยู่ 3 แบบด้วยกันนะครับ แบบแรกคือ Activated แบบกดใช้เดี๋ยวนั้นเลย แบบที่สองคือ Sustained คือเปิดค้างไว้ได้โดยจะเสีย mp max บางส่วน เรียกว่าค่า upkeep ถ้าปิดแล้วจะได้ mp max กลับมา และแบบที่สามคือ Passive ติดตัวตลอดเวลาไม่ต้องเสียอะไรและไม่ต้องกดเปิด

4.ชุดเกราะต่างๆจะมีค่า Fatigue (ความเหนื่อยล้า) อยู่ ค่านี้คือค่าหักเพิ่มจาก Stamina ที่เราต้องใช้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราใช้สกิลที่กิน Stamina 10 แล้วเราใส่เกราะที่รวมแล้วมีค่า Fatigue 30% เราจะต้องเสีย Stamina ทั้งหมด 13 ครับ โดยปกติแล้วเกราะที่หนักจะมี Fatigue เยอะ ทำให้ใช้สกิลได้น้อยลง แต่ทดแทนด้วย DEF เยอะซึ่งคุณต้องตัดสินใจเองว่าชอบแบบไหน

5. อาชีพ warrior กับ rouge จะใช้ค่า Stamina ในการใช้สกิล ส่วน Mage จะใช้ Mana ซึ่งมันก็คล้ายๆกัน แต่ต่างตรงที่ Mana สามารถเติมได้ด้วย Lyrium Potion แต่ Stamina ต้องแล้วแต่สกิลที่ใช้เติมครับ

6.การใช้สกิลของ Warrior และ Rouge ขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้แต่ Mage ไม่ต้อง ดังนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องสร้าง Mage ของคุณให้เป็นสายโจมตีล้วนหรือสาย Heal ล้วนเสมอไป คุณสามารถอัพคาถายังไงก็ได้ตามใจชอบ อยากใช้คาถาอะไรก็อัพๆไปเลยครับ

7.ค่า Str จะทำให้คุณใส่เกราะหนักได้ และเพิ่ม Dmg ให้กับอาวุธระยะประชิดทั้งหลาย ยกเว้นมีดสั้นกับธนูจะได้ dmg จากค่า Dex นักเวทยิงเวทแรงจาก Magic ส่วนค่า cunning (ความเจ้าเล่ห์) จำเป็นในบางสกิลของพวก rouge เห็นเค้าว่าทำให้หาจุดอ่อนศัตรูได้ง่ายขึ้นด้วยแต่ไม่รู้คำนวณยังไง willpower ช่วยเพิ่ม mp max , stamina max ให้เรา constitution เพิ่ม hp

8.ในการต่อสู้คุณมีปาร์ตี้สูงสุด 4 คน สามารถควบคุมได้ทีละ 1 ตัว โดยตัวที่เหลือที่คุณไม่ควบคุมจะทำการโจมตีตาม Tactics ที่คุณตั้งไว้ (แต่ตัวที่คุณควบคุมต้องสั่งเอง)

9.กดปุ่ม F5 เพื่อ quick save ได้ โดยจะมีเพียงเซฟเดียว ควรกดทุก 5 นาที กดก่อนเจอศัตรู และกดก่อนพูดคุยกับตัวละครต่างๆ ถ้าเจอบทสนทนาลักษณะทางเลือกที่ไม่ส่งผลในทันทีและคุณไม่แน่ใจ แนะนำให้เซฟเป็นไฟล์แยกต่างหากอีกไฟล์นึงก่อนเลือกทางเลือกนั้น เพื่อที่สามารถย้อนกลับมาเลือกใหม่ได้เสมอ

10.ค่า Threat คือค่าที่บ่งบอกความเป็นอันตรายของตัวคุณต่อพวกศัตรู โดยศัตรูจะโจมตีคนที่มีค่า Threat สูงที่สุดเป็นอันดับแรก โดยค่า Threat จะสูงตามความสามารถในการทำ dmg และทำ critical ... อย่างไรก็ตามมีบางสกิลที่ช่วยเพิ่มลดค่า Threat ได้เอง

11.แถบ Quick bar ไว้ใช้สกิลสามารถเลื่อนได้โดยกดที่ริมขวาสุดของแถบนั้น แล้วดึงออก

12.ปุ่ม H ทำให้ตัวละครทุกคนหยุด และไม่เดินตามตัวละครหลักที่คุณควบคุมอยู่

13.ปุ่ม = ทำให้คุณเลือกทุกคนได้ ซึ่งถ้าคุณเลือกทุกคนอยู่นั้น จะไม่มีใครทำ tactics เลย คุณสามารถสั่งให้ทุกคนโจมตีศัตรูตัวเดียวกันได้โดยวิธีนี้ ถ้าต้องการจัดกลุ่มเป็นคู่ กด shift แล้วเลือกตัวละคร

14. Armor penetration คือค่าการเจาะเกราะ ซึ่งจะทำให้ศัตรูเกราะลดทุกครั้งที่เราโจมตี ค่าเจาะเกราะที่สูงจึงเหมาะกับการสู้กับตัวเกราะหนักๆ อาวุธประเภทค้อนหรือ mace แม้จะตีเบากว่าดาบ แต่จะมีค่าการเจาะเกราะที่สูงกว่า

15.การกด Tab ทำให้เรามองเห็นชื่อ item ชื่อ npc ต่างๆได้ง่าย (เผื่อมีคนไม่รู้)

16.เกมส์นี้มีสกิลสองแบบซึ่งอาจจะทำให้เราสับสนเล็กน้อย 1. Skills เป็นทักษะพิเศษ และ 2. Talents หรือก็คือสกิลที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละ Talents จะขึ้นกับอาชีพเรา ส่วน Skills นั้นทุกตัวจะเหมือนๆกัน Talents จะได้ 1 แต้มทุก 1 เลเวล แต่ Skills จะได้ 1 แต้มทุก 3 เลเวล ยกเว้นอาชีพ rouge จะได้ 1 แต้มทุก 2 เลเวล

17. Skills หรือทักษะพิเศษได้แก่การ ทำยา , ทำกับดัก , ทำยาพิษ , ค่า coercion สำหรับฮีโร่เราใช้ในเรื่องการเจรจา ,ขโมยของยิ่งค่าสูงยิ่งขโมยตัวเก่งๆได้ , ค่า survival จะช่วยเราเห็นศัตรูในแม็พได้ก่อนที่เราจะเข้าปะทะจริง , ค่า combat จำเป็นในการอัพสกิลสูงๆ และค่า tactic จะช่วยให้เราได้ slot tactics เพิ่ม

18.ทุกอาชีพมี Class 2 เรียกว่า Specialization ซึ่งต้องไปหาปลดล็อกเอาเองจากเนื้อเรื่อง อาจจะให้เพื่อนเราสอนหรือซื้อ manual จากร้านค้า โดยเราจะเลือกครั้งแรกได้ที่เลเวล 7 และครั้งที่สองที่เลเวล 14 เราสามารถมี class 2 ได้ 2 class ในตัวเดียวกัน

19.เกมส์นี้จบที่เลเวล 20 โดยประมาณ ดังนั้นวางแผนอัพสกิลกันให้พอดี

20.หน้า Tactics คือส่วนสำคัญที่คุณต้องพยายามเข้าใจ ฝั่งซ้ายคือเงื่อนไขและฝั่งขวาคือการกระทำ หากมีการเข้าเงื่อนไขพร้อมกันมากกว่า 1 ตัวละครจะเลือกทำเงื่อนไขที่อยู่บนก่อน ตัวเกมส์สามารถเซต Tactic อัตโนมัติให้คุณได้ แต่ผมว่าเซตเองจะดีกว่าเยอะ คุณสามารถเซฟ Tactic ที่คุณเซตไว้ได้ เป็นไฟล์ custom 1 2 3 ไว้เวลาเจอสถานการณ์ที่แตกต่างกันจะได้ย่นระยะเวลาการเปลี่ยน tactic .... นอกจากนี้ที่มุมบนขวาจะเป็นการเซ็ตลักษณะตัวละคร เช่น Aggressive เจอแล้วบุกหาเลย สู้ไม่ถอย อะไรอย่างนี้ ลองอ่านดูเองนะครับ

21. Codex คือรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติม เช่น คุณหยิบจดหมายหรือหนังสือขึ้นมา มันจะขึ้นที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอว่า codex ถ้าคุณคลิ๊กซ้ายเข้าไป มันจะบอกว่าจดหมายหรือหนังสือนี้เขียนว่าอะไรบ้าง แต่คุณไม่จำเป็นต้องอ่าน codex เลยก็ได้ครับ

22.การใช้กับดักหรือยาพิษ ผู้ใช้จำเป็นต้องมี Skills นั้นอย่างน้อย 1 ขั้นด้วย และพิษไม่สามารถใช้กับอาวุธระยะไกลได้

23.การพูดคุยกับเพื่อนมีผลต่อค่า approve rating ซึ่งถ้าค่านี้สูง เพื่อนเราคนนั้นจะได้ bonus dmg ด้วย การให้ของขวัญก็ช่วยเพิ่มค่านี้ได้ ถ้าค่านี้ต่ำอาจทำให้เพื่อนเราออกจากทีมได้เช่นกัน ค่า approve ยังเป็นตัวชี้วัดในการจีบสาว(หรือจีบหนุ่ม)ด้วยว่าจะติดหรือไม่

24.ให้ของขวัญทำได้โดยเปิดหน้า inventory แล้วลากของขวัญใส่ยังตัวเพื่อนเราที่อยู่ทางด้านซ้าย

25.ของที่ขายให้พ่อค้าไปแล้วจะยังคงอยู่กับพ่อค้านั้น เราสามารถซื้อกลับได้เสมอ

26.เพื่อนเราที่พักอยู่ camp แม้จะไม่ได้มาบู้กับเรา พวกเขาก็จะได้ XP เพิ่มตามเราเหมือนกัน ทั้งแต้ม Skills และ Talents ด้วย

27.การจีบสาวสองคนถือเป็นเรื่องต้องห้าม ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้ หึๆ

28. Rune คือหินที่ใส่ในอาวุธที่มีช่องเพื่อเพิ่มความสามารถพิเศษ สามารถใส่ได้ฟรีโดยไปคุยกับ Sandal (คนแคระตัวเล็ก) ในแคมป์เรา

29. Resistance คือค่าความต้านทาน มีทั้งหมด 7 แบบ Fire , Ice , Electrical , Mental ( เช่น คาถา sleep) , Nature (พวกพิษ) , Physical (เช่นการล้ม) และ Spirit (พวกพลังวิญญาณ)

30. คุณสามารถเพิ่มช่องเก็บของได้โดยการซื้อ Backpack (กระเป๋าเดินทาง)



เพื่อนร่วมทีมและตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ
คุณควรรู้จักพวกเขาเพื่อวางแผนว่าจะใช้ใครเข้ามาอยู่ในทีม แต่ก่อนหน้านั้นคุณต้องรู้ว่าอาชีพแต่ละอาชีพแตกต่างกันยังไง มี 3 อาชีพ


1.Warrior แบ่งเป็นสองสายหลักๆ คือสายโล่ห์เน้นอึดไว้ Tank และสายดาบใหญ่ไว้เป็นตัว DD (Damage Dealer) และพอจะ Tank ได้บ้าง

2.Rouge สองสาย คือ ธนู กับ อาวุธคู่ เน้น DD ทั้งคู่แต่ต่างที่ระยะใกล้กับไกล rouge สามารถปลดล็อกกล่องสมบัติได้

3.Mage ทำได้ทุกอย่างทั้งโจมตี , ก่อกวน และรักษาอาการบาดเจ็บ



ทีมที่ดีควรจะมีอย่างน้อย 1 ตัวรับหน้าที่ Tank และมี Rouge อย่างน้อย 1 ตัวไว้ไขกล่องสมบัติ ส่วนถามว่าจำเป็นต้องมี healer ไหม ผมขอตอบว่าไม่จำเป็น (ถึงบรรดา guide ต่างประเทศจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องมี healer 1 คนในทีมก็เถอะ) มันขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเล่นมากกว่า ผมเล่นจบแบบ normal ไม่ได้ใช้ healer ก็ไม่เห็นว่าจะยากตรงไหน ยา Greater heath poultice นี่ไม่ได้แตะเลยซักขวดตั้งแต่เล่นมา



โฉมหน้าเพื่อนๆของเรานะครับ เข้าทีม 3 คนรวมตัวเราเองเป็น 4 คน ผมจะบอกเรียงจากซ้ายไปขวา

1.ชื่อ : Orghen
อาชีพ : Warrior ดาบสองมือ
Skills ติดตัว : combat + tactic
Specialization : Berserker
ได้จาก : Orzammar ตามเนื้อเรื่อง

2.ชื่อ : Leliana
อาชีพ : Rouge ธนู
Skills ติดตัว : ยาพิษ + ขโมย
Specialization : Bard (นักขับร้อง)
ได้จาก : เมือง Lothering

3.ชื่อ : Morrigan
อาชีพ : Mage สายโจมตี
Skills ติดตัว : ทำยาสมุนไพร
Specialization : Shapeshifter
ได้จาก : ป่า Korcari

4.ชื่อ : Sten
อาชีพ : Warrior สายดาบสองมือ
Skills ติดตัว : Combat
Specialization : ไม่มี
ได้จาก : Lothering


คนตรงกลางที่สะพายดาบสองข้างเป็นตัวผู้เล่นเองไม่นับนะครับ


5.ชื่อ : DOG
อาชีพ : หมานั่นแหละ
Skills ติดตัว : ไม่มี
Specialization : ไม่มี
ได้จาก : แรกๆเลย

6.ชื่อ : Alistair
อาชีพ : Warrior สายโล่ห์
Skills ติดตัว : combat
Specialization : Templar
ได้จาก : แรกๆเลย

7 ชื่อ : Wynne
อาชีพ : Mage สาย Heal
Skills ติดตัว : ทำยาสมุนไพร
Specialization : Spirit Healer
ได้จาก : หอคอย Circle of Magi

8.ชื่อ : Zervan
อาชีพ : Rouge สายมีดคู่
Skills ติดตัว : combat + ยาพิษ
Specialization : Assassin
ได้จาก : มาลอบสังหารเรา (สุ่ม)

9. ชื่อ : Shale (โกเล็ม)
อาชีพ : Warrior (Tank ก็ได้ DD ก็ได้)
Skills ติดตัว : ไม่แน่ใจ
Specialization : ไม่ทราบ
ได้จาก : DLC

การเลือกทีมส่งผลต่อทั้งเกมส์ครับ ขอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วย



ต่อจากนี้จะเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ

List ของขวัญโดยคุณ mugenot นะครับ (แนะนำให้ปริ้นส์มาไว้ข้างๆตัวเลย)

MORRIGAN- Golden Mirror
- Tribal Necklace
- Silver Chain
- Silver Brooch
- Locket
- Golden Amulet
- Flemeths Grimoire
- Black Grimoire
- Golden Rope Necklace
- Golden Demon Pendant
- Silver Medallion

ALLISTER- Black Runestone
- Onyx Demon Statuette
- Stone Dragon Statuette
- White Runestone
- Duncans Shield
- Stone Warrior Statuette
- Small Carved Statuette
- Allistairs Mothers Amulet

DOG- Ox Bone
- Lamb Bone
- Beef Bone
- Veal Bone
- Large Bone

LELIANA- Nug
- Chantry Amulet
- Andrastes Grace
- Bronze Symbol of Andraste
- Silver Sword of Mercy
- Etched Silver Symbol
- Golden Symbol of Andraste
- Steel Symbol of Andraste
- Blue Satin Shoes
- Silver Sword of Mercy

SHALE (DLC Stone Prisoner)- Remarkable Garnet
- Remarkable Ruby
- Remarkable Sapphire
- Remarkable Topaz
- Remarkable Greenstone
- Remarkable Amtheyst

STEN- Silver Framed Still-life
- Stens Sword
- Totem
- Water-stained Portrait
- Portrait of a Goose Girl
- Painting of the Rebel Queen

WYNN- The Rose of Orlais
- Tattered Notebook
- Fancy Scroll
- The Search for the True Prophet
- The Guerrins of Ferelden: A Genealogical History
- Discovering Dragons Blood: Potions, Tinctures, and Spicy Sauces

LOGHAIN- Current Map of Ferelden
- Map of the Anderfels
- Map of Occupied Ferelden
- Botanist Map of Thedas
- Ancient Map of Imperium

OGHREN- Sun Blonde Vint-1
- Legacy White Shear
- Garlbogs Backcountry Reserve
- Alley Kings Flagon
- Golden Scythe 4-90 Black
- Chasind Sack Mead

ZEVRAN- Small Silver Bar
- Small Gold Bar
- Medium Silver Bar
- Medium Gold Bar
- Dalish Gloves
- Antivan Leather Boots
- Silver Bracelet
- Small Silver Ring
- Gemmed Bracelet
- Golden Scythe 4:90 Black
- White Rune Stone

Spell Combos (ก็อปเว็บนอกมาทั้งดุ้น แปลเองนะครับ คิดว่าไม่ยากเกินไป)

Earthquake + Grease + Fireball + Walking Bomb should stymie most groups before they can do too much harm to your party.
A fire spell on Grease works great at lower levels or when you dont have all kinds of time.
Glyph of Paralysis + Glyph of Repulsion causes an explosive effect that paralyzes those nearby.
Blizzard + Inferno + Tempest becomes Storm of the Century (spectacular electrical storm).
Cast Blizzard on a burning Grease slick to extinguish it.
Send a tank to draw all kinds of threat from a mob away from the party. Cast Force Field on the tank for immunity from all damage and then follow with Inferno to engulf the entire area. The enemies burn while fighting a tank that cant die.
Drain Life and Mana Drain are twice as effective on a target with a Vulnerability Hex.
Cast Spell Might on yourself and then cast Animate Dead on a skeleton. This skeleton is much more powerful than the ordinary skeletons you can animate.
Cast Sleep on a target and then cast Horror on it. This inflicts massive spirit damage on the target, often killing many lesser foes outright. Those who survive emerge in a state of fear.
Immobilize a target with Cone of Cold or Petrify. When the target is in that vulnerable state, a critical hit from any weapon, a hit from the Stonefist spell, or the effects of the Crushing Prison spell will shatter it. (Bosses and lieutenants are highly resistant to this.)
Cast a Death Hex on a target and then cast a Death Cloud in its area. If the target is touched by the Death Cloud, it sustains massive spirit damage.



Side Quests เฉพาะเควสที่ค่อนข้างยากนะครับ ก็อปจากเว็บนอก

Correspondence Interruptus (จดหมายรัก)
Type: Collection
Start: Bartender in Gnawed Noble Tavern
Task: Collect 12 love letters from chests
Quest Tips: Find all 12 love letters in the following locations:


Brecilian Ruins (south, secret hallway just inside entrance)
Circle Tower (Senior Mage Quarters, behind wall in east bedroom)
Dalish Camp (just north of Varathorn)
Denerim (Pearl, one of the back rooms)
Denerim (Wades Emporium)
Denerim (Arl Eamons Estate, Arls bedroom upstairs)
Haven (Villager House, along the wall)
Lake Calenhad Docks (Spoiled Princess, northeast corner of the inn)
Orzammar (Carta Hideout, southeast corner room of Jarvia encounter)
Orzammar (Royal Palace, small room on east side of palace)
Redcliffe Basement (northwest alcove)
Redcliffe Village (Windmill, east side)


Places of Power
Type: Exploration
Start: Mages Collective at Denerim Market District
Destination: Four separate locations across Ferelden
Task: Unlock four hidden locations
Quest Tips: The four hidden places of power are: East Brecilian Forest (gravestone in the northern ogre grove), Ortan Thaig (Altar of Sundering), The Alienage (Alienage Tree), and Apprentice Quarters in the Circle Tower (activate the middle of the floor). Because these are in difficult-to-reach places, this will likely be the last Mages Collective quest you complete before the final Defending the Collective quest.


The Scrolls of Banastor
Type: Collection
Start: Mages Collective at Denerim Market District
Destination: Various places
Task: Collect five scrolls hidden around the world.
Quest Tips: The scrolls are in ancient texts treasure piles in the following locations: Circle Tower (Senior Mage Quarters level, southeast ruined room), Circle Tower (Great Hall level, northwest large room), Wyrmling Lair on the Urn of Sacred Ashes quest (southeast library), Wyrmling Lair on the Urn of Sacred Ashes quest (middle west barracks), and Werewolf Lair in the Brecilian Ruins (southeast werewolf bedroom). Once you have them all, return for your reward.




ปล.กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับ Dragon Age Origins นะครับ (กระทู้ตั้งต้น)
[Link]
ปล.2 กระทู้รวมเนื้อเรื่องบางส่วนของ Dragon Age Origins นะครับ (spoil) และยังแปลเกี่ยวกับสกิลต่างๆด้วยครับ
[Link]
[Edited 4 times Decibel per-oxide - Last Edit 2009-12-1 18:21:58]


# Tue 1 Dec 2009 : 9:17AM

pongkrit03
member

Since 11/10/2009
(55 post)
มีบุคคลใจดีเรียบเรียงบทสรุปของพวกผมเป็นรูปเล่มแล้วนะครับ ผลงานของคุณ designnoot เชิญโหลดกันไปได้เลยจ้า ปริ้นอ่านเลยไม่ต้องเปิดไปเปิดมา
designoot wrote:


แจกบทสรุปภาษาไทยครับเป็น e-book ไฟล์ pdf ทำเสร็จแล้วครับ
[Link]



Walkthroughs



ก่อนเริ่มผมขอบอกก่อนว่า Walkthrough ของผมอ้างอิงจากเกมส์ Dragon Age ที่ลงแพทเสริม DLC ราวๆ 500 mb , ลงอัพเดท 1.01a และลงตัว Fix bug rouge เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจะเป็นการดีถ้าคุณลงเหมือนผม โดยเฉพาะตัว DLC ต้องลงนะครับ ใครที่ไม่มีไปลองหาโหลดดูครับ DLC จะทำให้มีเควส + ไอเท็มเสริม และ fix bug rouge จะทำให้อาวุธประเภทธนูและมีดแรงสมจริงมากขึ้น (รวมถึงศัตรูที่ใช้มีดกับธนูเช่นกัน)

ขั้นเริ่มต้นหลังจากเลือกตัวละครและอาชีพแล้ว คุณจะได้เลือกระดับความยาก ผมขอแนะนำเลยนะครับ ถ้าคุณไม่เคยจับเกมส์แนว RPG มาก่อน หรือคุณคิดว่าตัวเองเล่นเกมไม่เก่ง ถ้าคิดว่าอยากเล่นแบบชิวๆดูเนื้อเรื่อง ไม่เครียด ให้เลือก Easy ครับ แต่ถ้าคุณช่ำชองการเล่นเกมส์ RPG มาพอสมควร ต้องการความท้าทาย ให้เลือก Normal ครับ และสำหรับโหมด Hard กับ Nightmare นั้น ขอสงวนไว้สำหรับคนที่เคยเล่นเกมส์นี้จบอย่างน้อย 1 รอบหรือไม่ก็ต้องเป็นผู้ที่เคยเล่นเกมส์ค่าย Bioware อย่างโชกโชนแล้วเท่านั้นครับ .... อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเปลี่ยนระดับความยากได้ระหว่างเกมส์ครับ ดังนั้นไม่ต้องพะวงอะไรมากนัก

ผมแนะนำว่าคุณควรจะปริ้นส์ส่วนของ Walkthrough ออกมานะครับ เพื่อที่จะได้อ่านและเล่นไปด้วยได้พร้อมๆกัน

สำหรับในส่วนของ Side Quests มีเขียนอยู่ที่ด้านล่างสุดของหน้านี้นะครับ ทำโดยคุณ Zeusgod จากบอร์ด overclockzone



Begin


Title คร่าวๆได้ความว่าพวก Darkspawn เกิดจากพวก Mage ที่ไปทำเวทต้องห้าม ถูกกลืนกิน(Corruption) หรืออย่างไรก็ตามแต่ พวก Darkspawn เข้าทำลายทุกอย่าง เมืองคนแคระใน deep road เป็นที่แรกที่ถูกทำลาย กระทั่งพวกมนุษย์ทุกคนกำลังจะแพ้ กลุ่มที่เรียกตัวว่า Grey Warden (ผู้พิทักษ์สีเทา) ก็ปรากฏตัว พวกเขามาจากหลายเผ่าพันธุ์ ทุ่มทุกอย่างเพื่อหยุด Darkspawn ให้จงได้ และพวกเขาก็ชนะในที่สุด กระทั่งเวลาผ่านไป 4 ศตวรรษ Darkspawn กำลังจะกลับมาอีกครั้ง แต่ Grey Warden เหลือน้อยคนนัก

เมื่อจบ title แล้วคุณจะมีเนื้อเรื่องเริ่มต้นแตกต่างกันได้ถึง 6 แบบตามอาชีพและเผ่าพันธุ์ที่เลือกในตอนแรก ผมจะ walkthrough ให้เฉพาะที่ผมเคยเล่นมานะครับ คือเนื้อเรื่อง human และ mage นอกนั้นหาทางไปเอาเองครับ



Human Noble (Noble = ชนชั้นสูง)
คุณเกิดมาในตระกูล Cousland ที่คุมดินแดนชื่อ Highever เริ่มมาคุณจะอยู่ในปราสาท พ่อของคุณกำลังคุยกับ Arl Howe ขุนนางคนสนิทถึงเรื่องที่จะส่งกำลังทหารไปช่วย King Calian ต่อสู้กับพวก Darkspawn ทางตอนใต้ที่เมือง Ostagar ระหว่างนั้นคุณจะได้พบกับ Duncan ผู้ที่อดีตเคยเป็น Grey Warden ซึ่งตัวเขาเองก็เดินทางมาที่ Highever เพื่อรับสมัครคน (recruiting) มาเป็น Grey Warden เพื่อสู้ Darkspawnเหมือนกัน ทาง Duncan มีท่าทีสนใจในตัวคุณ แต่พ่อคุณจะปฏิเสธที่จะส่งคุณไปร่วมซึ่ง Duncan ก็เคารพในความเห็นนั้น พ่อคุณจะส่ง Fergus พี่ชายคุณไปกับพวกทหาร ส่วนตัวคุณจะให้ดูแลปราสาท เขาบอกให้คุณไปลา Fergus นี่คือเควสแรกที่คุณได้รับ

เมื่อควบคุมตัวละครได้แล้ว ยังไม่ต้องรีบไปที่จุดที่ Fergus อยู่ (เปิดดูได้จากแผนที่ปุ่ม m ) แต่ให้สำรวจปราสาทให้ทั่วเพื่อเก็บของและหนังสือเพิ่มXP ถ้าเป็น warrior ก็ไม่ต้องกังวลกับหีบที่เปิดไม่ได้ ปล่อยๆไปครับ เดินถึงจุดหนึ่งจะเจอ Ser Gilmore ที่เป็นองค์รักษ์คนสนิทของพ่อและเป็นเพื่อนซี้เรา เขาจะบอกเราว่าแม่เราให้เราไปเอาหมาที่อยู่ในห้องครัวออกมาซะ เมื่อไปห้องครัวแล้วจะเห็นแม่ครัวชื่อ Nan บ่นโน้นนี่ เมื่อเราเข้าไปในห้องเก็บอาหารจะพบกับหมาเรา และเจอพวกหนูยักษ์หลายตัว จึงรู้ว่าจริงๆแล้วหมาเราเข้ามาในห้องนี้เพราะได้กลิ่นพวกหนูต่างหาก ฆ่าให้หมดแล้วจะได้หมามาร่วมทีม

จากนั้นสำรวจให้พอแล้วไปห้อง Fergus ร่ำลากันให้เรียบร้อย ออกจากห้อง เกมส์จะตัดไปตอนดึก คุณจะตื่นขึ้นมาเพราะเสียงหมา คุณจะพบว่าไอ้ Arl Howe มันทรยศพ่อคุณซะแล้ว เล่นเอาทหารของมันมาบุกตีปราสาทช่วงที่พี่ชายคุณนำกองกำลังส่วนใหญ่ออกจากเมืองไปซะนี่ ... รีบใส่ชุดลุยพวกทหาร แม่คุณจะโผล่มาช่วยอีกแรงและให้คุณตามหาตัวพ่อคุณให้เจอ ก่อนเข้าห้องโถงใหญ่อย่าลืมไปสำรวจห้องด้านขวา ที่นั่นมีกล่องเก็บสมบัติประจำตระกูลซึ่งแม่คุณมีกุญแจอยู่ ไปเอามาซะ การต่อสู้ช่วงนี้ให้ควบคุมอย่างระวัง เพราะถ้าเล่น normal แล้วพลาดท่าเผลอๆตายได้เลย รุมโจมตีเป็นตัวๆไปครับ เอาตัวคุณกับหมาเข้า Tank ตัวแม่สนับสนุนจากด้านหลัง (ติดอาวุธให้เธอด้วยล่ะ)

จากนั้นไปที่ห้องโถงจะพบการต่อสู้ชุลมุน ฆ่าให้หมด แล้ว Ser Gilmore จะบอกว่าจะช่วยต้านทหารข้างนอกไว้ ให้คุณไปหาพ่อแล้วหนีไปซะ ... คุณไปหาพ่อคุณตามจุดในแผนที่ (ก็ห้องครัวนั่นแหละ) ระหว่างทางจะได้เจอ Howe Knight ชื่อแดง ถือเป็นบอสตัวแรก ให้ตัวคุณ tank ไว้ในขณะที่หมาและแม่เก็บพวกทหารอื่นๆให้หมด แล้วค่อยรุมสกรัมมัน .... ฆ่าได้แล้วไปห้องเก็บของจะเจอพ่อคุณอยู่

Tips and Tricks
Knight สวมเกราะหนักจึงเป็นการดีถ้าคุณจะใช้สกิลจำพวกทำลายเกราะใส่ ถ้าทีมคุณใกล้ตายก็ดื่มยานะครับอย่าเก็บไว้ดูเล่น


พ่อคุณอยู่ในสภาพบาดเจ็บหนักไม่รอดชัวร์ เขาบอกว่าที่ห้องเก็บของนี้มีทางลับที่หนีไปนอกเมืองได้ ให้คุณกับแม่หนีไป ตอนนั้น Duncan จะเข้ามาพอดี พ่อคุณขอร้องให้เขาช่วยคุ้มครองคุณออกจากปราสาทด้วยได้ไหม Duncan ก็บอกว่าได้ แต่ต้องมีค่าตอบแทน นั่นคือ ตัวคุณจะต้องมาร่วมเป็น Grey Warden พ่อคุณก็จนใจต้องตอบตกลงบอกว่านี่คือลิขิต แม่คุณขอตายพร้อมพ่อ คุณหนีรอดมาได้โดยสำเร็จ

จบ Human Noble




Mage
คุณเป็นผู้มีเวทมนตร์แต่กำเนิด ถูกฝึกฝนอยู่ในหอคอย Magi ที่ซึ่งมี Templar (นักล่าเมจ) คอยดูแลอยู่ เนื่องจากการมีเวทมนตร์นั้นเป็นได้ทั้งของขวัญและคำสาป เมจสามารถเชื่อมจิตเข้าไปใน Fade (โลกอีกมิติที่มีพวกปีศาจอยู่) และถ้าเมจคนนั้นอ่อนแอจะถูกปีศาจเข้าสิงร่างได้ เมจทุกคนจึงต้องผ่านการทดสอบก่อน เรียกว่า Harrowing ที่จะปล่อยให้เมจฝึกหัดเข้าไปใน Fade ตามลำพัง ถ้าฆ่าปีศาจในนั้นได้จะได้เป็นเมจเต็มตัว แต่ถ้าสอบตก หรือก็คือถูกปีศาจสิงร่าง Templar ที่ดูการทดสอบอยู่ก็จะเชือดคุณทิ้งทันที ... ยังมีอีกทางเลือกคือถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงทดสอบ Harrowing ก็ต้องเข้ากรรมวิธี Tranquil คือการให้ยากับคุณทำให้คุณหมดพลังเวทไปตลอดชีวิต มิหนำซ้ำยังส่งผลให้ผู้ที่เป็น Tranquil ไร้อารมณ์ใดๆอีกด้วย

Irving เป็นหัวหน้าเมจอาวุโสของหอคอยเมจนี้และ Greagior ก็เป็นหัวหน้า Templar ที่ดูแลพวก Templar ที่นี่ คุณถูกปลุกกลางดึกมาทดสอบ Harrowing แบบไม่ได้ทั้งตั้งตัว แต่ก็ไม่น่ายากอะไร ผ่านแล้ววันรุ่งขึ้นคุณจะพบกับ Jowan เพื่อนเมจคนหนึ่งที่ยังเป็นเมจฝึกหัดอยู่เลย เขาจะบ่นว่าไม่ถูกเรียกทดสอบ Harrowing ซักทีทั้งที่อยู่ที่นี่มานานกว่าคุณอีก ... คุณถูกเรียกตัวไปพบ Irving ระหว่างนี้สำรวจเก็บของให้เต็มที่

Irving กำลังคุยกับ Duncan ที่เป็น Grey Warden ซึ่งกำลังหาเมจมาช่วยสู้ Darkspawn อยู่ คุณได้พาเขากลับไปส่งห้องรับรอง ออกมานาย Jowan จะคุยกับคุณส่วนตัว คุณจะพบกับ Lily ที่เป็นสาวจากทางโบสถ์ เป็น initiate (น่าจะพระฝึกหัด) พวกเขารักกัน มันเป็นเรื่องต้องห้าม ... Jowan ยังบอกว่าแอบดูลิสต์รายชื่อมา พบว่าตัวเองจะถูกเข้ากรรมวิธี Tranquil ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะสูญเสียทุกอย่าง ทั้งเวทมนตร์และความรักที่มีต่อ Lily เขาขอร้องให้คุณช่วยให้เขากับ Lilyหนีจากที่นี่ โดยก่อนจะหนีต้องหาทางทำลาย Phylactery ของตัวเขาเองให้เสียก่อน (คล้ายๆกับตัวอย่างเลือด) ซึ่งถ้าหนีไปโดยไม่ทำลายเนี่ย พวก Templar สามารถใช้ Phylactery ตามรอยเขาได้ (ปกติเมจทุกคนจะถูกเก็บ Phylactery ไว้อยู่แล้ว เพื่อกันหลบหนี) ... เรายังถามถึงข่าวลือที่ว่า Jowan เป็น Blood Mage (ผู้ใช้เวทเลือดต้องห้าม) ซึ่ง Jowan จะปฏิเสธเรื่องนี้

คุณเลือกได้ว่าจะช่วย Jowan กับ Lily แล้วหนีจากหอคอยที่เหมือนคุกนี้ไปพร้อมพวกเขา หรือจะไปรายงานเรื่องนี้ต่อ Irving ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทางไหน สุดท้ายคุณจะได้ไปกับ Duncan ในฐานะ Grey Warden เพื่อช่วยต่อสู้กับ Darkspawn

จบ Mage



---------------------------------------------------------------------------


Ostagar


Ostagar คือเมืองป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ทางตอนใต้ของอาณาจักร Ferelden ... คุณจะมาถึงที่นี่พร้อมกับ Duccan โดยมีกษัตริย์ Cailan ผู้นำอาณาจักร Ferelden ออกมาต้อนรับเลยทีเดียว ที่นี่ตอนนี้กำลังรบกับพวก Darkspawn อยู่ซึ่งที่นี่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ถ้าที่ Ostagar แตก พวก Darkspawn จะบุกขึ้นเหนือได้และ Ferelden จะถึงการล่มสลาย .. แต่เท่าที่ดู Cailan ไม่เครียดอะไรนักเพราะรบชนะติดต่อกัน (ถ้าคุณมาจาก Human Noble คุณจะถามถึงพี่ชาย Fergus ที่มาที่นี่ก่อนหน้านี้ Cailan จะบอกว่าเขาออกไปลาดตระเวนอยู่ยังไม่กลับมา)

สำรวจเมืองให้ทั่ว พบ Alistair ผู้ที่เป็น Grey Warden มาก่อนเรา แล้วพบ Duncan เขาจะบอกถึงพิธีกรรม (Ritual) ในการเป็น Grey Warden โดยสมบูรณ์ เราต้องไปเอาเลือด Dark Spawn มา 3 ตัวอย่าง และยังฝากให้เราไปเอาเอกสารบางอย่างที่ Grey Warden รุ่นก่อนเก็บไว้ในป่า Koricari ด้วย เป็นสัญญาเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือจากเผ่าต่างๆ (Treaties) ... สำหรับคนที่ไม่ได้เริ่มเรื่องจาก Human Noble ให้ไปทำเควสเอาหมาที่ Kennel Master ด้วย ... เรายังได้เพื่อนใหม่อีกสองคน คือ Daveth กับ Jory ที่มีฐานะเป็นผู้สมัคร (Candidate) เหมือนเรา คือ ยังไม่ได้ผ่านพิธีกรรมเป็นทางการ


ป่า Korcari wild

Tips and Tricks
ที่ป่านี้ถือเป็นครั้งแรกที่คุณมีปาร์ตี้เต็มรูปแบบ ขอให้คุณเสียเวลาศึกษาสกิลที่พวกเขามีแล้วเซ็ต Tactic ให้พวกเขาด้วย ... ขณะเข้าปะทะให้ดูเพื่อนคุณว่าเขาทำตาม Tactic ที่คุณตั้งไว้ไหม แล้วคุณพอใจมันไหม ถ้าไม่พอใจก็ลองเซตใหม่ ... พยายามหา Tactic ที่ดีและเหมาะกับสไตล์ของคุณมากที่สุด

นอกจากนี้ให้ลองฝึกยิงล่อให้ศัตรูเป็นฝ่ายบุกมาหาคุณด้วย ทำได้โดยกดปุ่ม H ให้ทุกคนหยุดอยู่กับที่แล้วใช้ตัวธนูไปยิงล่อ วิธีนี้จะล่อฝ่ายศัตรูให้ทยอยมาให้คุณฆ่าทีละตัว ซึ่งช่วยคุณได้มากในหลายสถานการณ์


ศัตรูที่นี่มีทั้งหมาป่า ทั้งพวก Darkspawn (ระวัง Genlock rouge ที่ล่องหนได้ ให้ฟังเสียงเอา) และเมื่อเข้าไปลึกๆ คุณจะพบกับ Hurlock Emissary ชื่อเหลืองเป็น Mage ศัตรูตัวโหดที่คุณได้เจอเป็นครั้งแรก



Enemy Analysis : Emissary (พวก Mage ทั้งหลาย)


Mage คือศัตรูที่คุณต้องระวังมากที่สุดในเกมส์ Dragon Age เพราะพวกมันสามารถส่งทั้งทีมของคุณลงนรกได้ในไม่กี่วินาที (ถ้าคุณให้เวลามันร่ายคาถาน่ะนะ) จริงอยู่ว่าปกติเมจจะต้องตัวนิ่ม แต่บางกรณีในเกมส์นี้เมจศัตรูก็ถึกได้เหมือนกัน ( Bioware จะเอายากไปหน่ายยย ) เวลาเจอเมจควรทำดังนี้ครับ
1.ฆ่าทิ้งทันทีเป็นอันดับแรก ให้ทุกตัวใช้สกิลแรงๆอัดไปที่เมจพร้อมๆกัน เรียกว่า เอาให้ตายในพริบตาเลย
2.ถ้าเมจอึด ให้ขัดจังหวะ (Interrupt) เอาไว้ อย่าให้เมจร่ายเวทได้ ใช้พวกสกิลผลักให้ล้ม หรือสตันก็ตามแต่ ถ้าใช้แล้วไม่ติดอีกก็รุมโจมตีเอาไว้ครับ ขัดจังหวะได้เหมือนกันถ้า Dmg มากพอ
3.ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่เข้าถึงตัวเมจได้ยาก ให้ใช้สกิลประเภทตัดศัตรูออกจากต่อสู้ชั่วคราว เช่น Force Field , Horror , Paralyze , Perify ,Sleep ฯลฯ ...ใส่เมจ เพื่อซื้อเวลาในขณะที่คุณหวดศัตรูตัวอื่นไปก่อน
4.ถ้าเมจอยู่ในชัยภูมิที่มันได้เปรียบมาก วิธีที่ดีที่สุดคือหนีครับ ออกจากระยะร่ายเวท และหากำแพงหรือโขดหินกำบังไว้ พยายามล่อให้เมจศัตรูเป็นฝ่ายเข้าหาคุณเอง

เพื่อความชัดเจน ผมได้ทำคลิปตัวอย่างข้อที่ 4 ลง youtube ไว้ครับ เชิญดูเป็นแนวทางได้ (เล่นเองถ่ายเองครับ ผมเล่นเป็นอาชีพเมจ)

[Link]

จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ที่ 1 ถ้าผมบู้ต่อจะมีโอกาสตายยกทีมสูงมาก ไม่ก็เปลืองยาไปหลายขวด ในขณะที่สถานการณ์ที่สองชนะแบบง่ายๆ ไม่ได้กินยาเลย ต่างกันเยอะครับ แค่เปลี่ยนกลยุทธ์นิดหน่อยเท่านั้น


สุดทางคุณจะพบกับ Morrigan และแม่เธอ Flemeth ที่ช่วยรักษา Treaties ไว้ เมื่อได้แล้วกลับเข้าเมือง Ostagar ก่อนไปให้ของ Duncan อย่าลืมเอาดอกไม้แก้พิษไปให้ Kennel Master และแวะไปขายของที่พ่อค้า Quarter Master ด้วย ขายของที่ไม่ได้ใช้ซะ แล้วกว้านซื้อยา poultice + พวก Injury มาให้หมดเตรียมสู้ศึกหนัก ซื้อ Backpack ด้วยนะครับ ราคาถูกมากๆ (ที่อื่นแพงกว่านี้ 10 เท่า) เมื่อคุณไปพบ Duncan พิธีกรรมการเป็น Grey Warden เต็มตัวก็เริ่มขึ้น (เลือด Darkspawn เป็นพิษ)


Tips and Tricks โดยคุณ lunaticchild
ที่ Ostagar เราสามารถซื้อ กระเป๋็า (Backpack) ได้ 2 ครั้งนะครับ ซื้อก่อนจะออกไปทำภารกิจ หาขวดเลือด หลังจากกลับมา เราจะสามารถซื้อได้ีอีกครั้งหนึ่ง ช่วยให้สบายได้มากครับ ไม่ต้องห่้วงช่องเก็บของจะเต็มเลย


หลังจากจบพิธีแล้ว มาประชุมวางแผนกับ King Cailan ที่นั่นคุณจะได้พบ Loghain ที่เป็นเหมือนรองแม่ทัพ (เขาเป็นพ่อของภรรยา King Cailan = พ่อตา อะแหละ) .... ผลสรุปลงเอยว่า King Cailan จะนำทัพแนวหน้าไปพร้อมกับ Duncan เมื่อเห็นจังหวะเหมาะจะให้คนจุดสัญญาณไฟที่หอคอย Ishal แล้ว Loghain ค่อยนำอีกกองทัพนึงเข้ามาตีกระหนาบจากด้านข้างเพื่อบดขยี้พวก Darkspawn ให้สิ้นซาก ... ในศึกนี้เราจะได้รับหน้าที่ไปจุดปล่องไฟ (Beacon) ที่หอคอย Ishal


หอคอย Ishal
เมื่อคุณมาถึงจะพบว่าหอคอยทำไมถูก Darkspawn เข้ายึดครองก็ไม่ทราบได้ ถ้าคุณไม่จุดไฟ Loghain ก็จะไม่นำทัพเข้ามาช่วย ชีวิต King Cailan อยู่ในกำมือคุณแล้วตอนนี้ โชคยังดีที่คุณได้เพื่อนมาเพิ่ม ... การต่อสู้ในหอคอยนี้ยากอยู่พอควร หวังว่าประสบการณ์ที่คุณได้จากป่า Kocari จะช่วยให้คุณผ่านมันไปได้ (สู้ที่นี่ระวังหลังหน่อยนะ) กระทั่งขึ้นถึงชั้นบนสุดจะพบกับ Boss Orge รอคุณอยู่

Enemy Analysis : Orge


Orge ถือเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวเก่งของ Dragon Age ก็ว่าได้ ทั้งอึดทั้งตบหนัก คุณจะได้เจอมันอีกหลายครั้งในตอนหลังๆ จุดอ่อนของมันคือแพ้เวทมนตร์ ควรใช้ทุกท่าที่ลด Attack และ Defense ของมันก่อนเข้าไปรุมสกรัม มันมีท่าขว้างหิน (Hurl) ใส่ตัวที่อยู่ไกลซึ่งเราสามารถวิ่งหลบได้นะครับ มันยกหินปุ๊บ ให้รีบวิ่งเลย ... นอกจากนี้มันยังมีท่าไม้ตายจับตัวละครเราขึ้นมาบีบ (Grabbing) ซึ่ง HP คนที่โดนจับจะลดเร็วมาก ให้รีบใช้ท่าประเภทสตันหรือผลักให้ล้ม เพื่อนที่โดนบีบจะสลัดตัวหลุดมาได้ครับ

ตัวอย่างผมเล่นเองอีกเช่นกัน จบไวกว่าที่คิดมาก คงเพราะผมใช้สกิลลด Def ใส่มันตั้ง 3 สกิล แล้ว Cone of Cold ก็ช่วยให้เพื่อนๆผมรุมสกรัมมันได้เต็มที่ด้วย เจาะเกราะมันแตกกระจายเลยแหละ

[Link]


Flemeth Hut
คุณตื่นขึ้นมาพบว่า Flemeth เป็นคนช่วยคุณเอาไว้จากหอคอย Ishal ... ด้วยการทรยศของ Loghain ทำให้ปราการ Ostagar แตก . Alistair เสนอให้ไปบอกเรื่องนี้กับ Arl Eamon ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของ Cailan ที่อยู่เมือง Red Cliff ให้มาจัดการคนเลวอย่าง Loghain ซะ ... นอกจากนี้เรายังมี Treaties อยู่กับตัว ซึ่งด้วยสัญญานี้ เราสามารถไปขอกำลังเสริมจากพวกคนแคระ พวกเอลฟ์และพวกเมจได้ในฐานะ Grey Warden เพื่อต่อสู้กับพวก Blight (ก็คือ Darkspawn นั่นแหละ) Flemeth ยังเสนอให้ Morrigan ลูกสาวเธอมาช่วยเราด้วยอีกแรง แม้ว่า Alistair จะกลัวว่าการนำ Morrigan ไปด้วยจะเป็นปัญหาเพราะเธอเป็น Apostle (พวกเมจนอกรีต) ก็ตาม ... เราจะมุ่งขึ้นเหนือไปหมู่บ้านเล็กๆชื่อ Lothering ก่อนเพื่อหาข่าวสาร


---------------------------------------------------------------------------------

Lothering


เมื่อคุณมาถึงที่นี่จะพบว่ามีผู้ลี้ภัย (Refugee) อยู่เต็มไปหมด ก็ไม่น่าแปลกเพราะว่า Ostagar แตกไปแล้ว พวก Darkspawn จึงกระจายไปทุกหนแห่ง แถมยังมีพวก Bandit (ขโมย) คอยมาซ้ำเติมคนลี้ภัยอีก ที่โบสถ์ (Chantry) คุณจะพบกับ 1 ในทหารของ Arl Eamon เขาบอกข่าวร่ายกับคุณว่าตอนนี้ Arl Eamon ป่วยหนักโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอะไรรักษาได้ พวกเขาถูกส่งไปค้นหา Urn of Sacred Ash ที่ว่ากันว่ารักษาได้ทุกโรคตามตำนานของ Andraste (ผมไม่ค่อยรู้ตำนานเท่าไหร่) ... ที่โรงเตี้ยม (Tavern) คุณจะพบกับทหารของ Loghain ซึ่งตอนนี้พวก Grey Warden ถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏเสียแล้ว ที่นั่นยังมี Leliana สาวจากโบสถ์ จัดการทหารซะ แล้ว Leliana จะขอเข้าร่วมกับเรา โดยเธอบอกว่า Maker เป็นคนบอกให้เธอมาช่วยเรา ( Maker = พระเจ้า) ด้านหลังมี Sten อยู่ในคุก ไปขอกุญแจจากแม่พระในโบสถ์ (Revered Mother) เมื่อช่วยแล้วเขาจะเป็นพวกเราอีกคน (Sten เป็นชาว Qunari ที่มาจากเมืองทางเหนือที่อยู่นอกอาณาจักร Ferelden ซึ่งชนเผ่านี้มีผิวดำและทรงพลังมาก บูชาการต่อสู้)

สำรวจเมืองให้ทั่ว ทำเควสย่อยๆจนพอใจ ซื้อยา potion กับ elfroot ตุนไว้ให้หมดแล้วออกจากเมือง

Tips and Tricks
ถ้าคุณเป็น Warrior หรือ Mage คุณมี leliana ที่ปลดล็อกกล่องสมบัติได้แล้วตอนนี้ แถมยังขโมยของคนตามทางได้อีกด้วย การขโมยของไม่มีผลอะไรต่อเนื้อเรื่อง ดังนั้นขโมยให้เต็มที่ . นอกจากนี้ต่อไปทุกครั้งที่คุณไปถึงเมืองไหน ให้กว้านซื้อยาแดงกับ elfroot (สมุนไพรทำยาแดง) จากพ่อค้าให้หมดนะครับ มีเงินเหลือซื้อยาฟ้าด้วยเพราะคุณอาจขาดแคลนได้กลางทาง



Camping
คุณฝันเห็น Archdemon ซึ่งคุณสงสัยว่าเป็นปีศาจที่มีรูปร่างเหมือนมังกรอย่างนั้นหรือ ? ควบคุมตัวละครได้แล้ว ให้ใช้เวลาช่วงนี้เพิ่มความสัมพันธ์กับเพื่อนคนที่คุณคิดว่าจะเอาเขาเข้าทีมเป็นตัวจริงซะ อาจจะเสียเวลานาน แต่มันก็คุ้มค่าครับ เพราะ Bonus Stat จะอยู่ถาวร เว้นแต่ความสัมพันธ์จะลดลง (ก่อนคุยเซฟด้วยก็ดี) ...... คุณจะพบว่าสองพ่อลูกคนแคระที่คุณช่วยไว้ที่ Lothering มาอยู่ในแคมป์คุณด้วย คุณซื้อของจากเขาได้ และคนลูกใส่ rune ในอาวุธที่มีรูให้คุณฟรีๆอีกต่างหาก (Enchantment)

Tips and Tricks
ของบางอย่างที่คุณคิดจะขาย แต่ก็กลัวว่าอาจจะต้องใช้ในภายหลังก็ได้ ให้ขายที่คนแคระตรงนี้ครับ เพราะอย่างน้อยคุณก็รู้ว่าถ้าจะกลับมาใช้ จะซื้อกลับที่ไหน ... นายคนแคระนี่ยังมีพวก potion ทำ crafting ขายให้คุณอย่างไม่มีขีดจำกัดด้วย


ถ้าลง DLC เราจะได้พบกับนาย Levi Dryden ที่บอกตัวเองเป็นหลานของหลานของหลานอดีต Grey Warden ที่มีชื่อเสียงนามว่า Sophie (โซเฟีย) ก่อนหน้านี้ Duncan สัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะถ้าจบศึกพวก Dark Spawn แล้วจะไปสำรวจอดีตฐานทัพของ Grey Warden ด้วยกัน .... เสร็จเรียบร้อยออกจากแคมป์ คุณจะได้พบกับทางแยกหลายสายทีเดียว



---------------------------------------------------------------------



Map of Ferelden


เส้นทางต่อจากนี้คุณสามารถเลือกตัดสินใจได้เอง มีทั้งหมด 6 ทางที่คุณจะไปขอความช่วยเหลือ
1.Arl of Red Cliff - Arl Eamon , อยู่ที่เมือง Red Cliff
2.Broken Circle - Mage , อยู่ที่หอคอยเมจ ติดทะเลสาบ Calenhad
3.Nature of Beast Elf , ป่า Brecailian
4.Paragon of Her Kind คนแคระ , เมือง Ozzammar ในภูเขาน้ำแข็ง
5.Wardens Keep (DLC) อดีตฐานทัพ Grey Warden อยู่ที่ Solider Peak
6.The Stone Prisoner (DLC) เอา Shale เพื่อน โกเล็มหิน ที่หมู่บ้าน Honnleath

เรื่องเส้นทางนี่ไกด์ต่างประเทศทุกไกด์บอกเป็นเสียงเดียวว่าให้ไปหอคอยเมจก่อนเพื่อเอา Wynne ที่เป็นตัว Healer มาร่วมทีม ถ้าคุณหมายมั่นจะใช้ Wynne ก็ให้ไปหอคอยเมจก่อนเลยครับ แต่ผมขอย้ำอีกรอบว่าจบเกมส์นี้ไม่จำเป็นต้องใช้ Healer ก็ได้นะครับ มันแล้วแต่สไตล์การเล่น ส่วนใครที่อยากใช้ตัว Orghen ที่เป็นคนแคระ ผมแนะนำว่าใช้ Sten แทนดีกว่าครับ เพราะเป็นนักดาบสองมือเหมือนกัน ... ที่ไม่อยากให้ไปเพราะว่าเควสเมืองคนแคระซับซ้อนและยากเอาการครับ ไม่เหมาะกับการไปช่วงแรก

สรุปใครที่ไม่ได้กะจะใช้ Wynne ขอให้ไปพร้อมผมละกันครับ ผมจะเคลียร์ส่วน DLC ก่อนนะครับเพราะว่าค่อนข้างง่าย เรียงลำดับเส้นทางดังนี้ครับ The Stone Prisoner -> Wardens Keep -> Arl of Red Cliff -> Broken Circle -> Nature of Beast -> Paragon of Her Kind


----------------------------------------------------------------------------


Stone Prisoner


เริ่มต้นเควสด้วยการไปที่ Sulcher Pass ที่อยู่ด้านซ้ายของแผนที่ คุณจะพบพ่อค้าคนหนึ่งขาย Control Rod (อุปกรณ์บังคับ Golem) ให้เรา และบอกตำแหน่งหมู่บ้านที่มีโกเล็มอยู่ให้

หมู่บ้าน Honnleath
อยู่ซ้ายล่างๆในแผนที่ เมื่อมาถึงคุณพบว่าที่หมู่บ้านนี้ถูก Darkspawn โจมตีอยู่ จัดการพวกมันให้หมด (อย่าลืมที่ผมบอกนะครับ ถ้าศัตรูอยู่ในชัยภูมิที่มันได้เปรียบ ให้ยิงล่อมันมาหาเราแทน) ในสนามหญ้ามีโกเล็มหินอยู่ แต่ยังใช้ไม่ได้ คุณต้องการโค้ดคำพูด (Activation Phase) ที่ถูกต้อง เข้าไปในบ้านหลังนึงกระทั่งเจอผู้รอดชีวิตที่อยู่ในบาเรียสีม่วง เขาสัญญาว่าจะบอกโค้ดคำพูดให้ถ้าเราช่วยลูกสาวเขาที่หนีลงยังห้องใต้ดินของบ้าน ลงไปล่างสุดคุณจะพบลูกสาวเขาและแมวน้อยน่ารักที่ถูกปีศาจจาก Fade สิงอยู่ ถ้าคุณคิดฆ่ามัน มันจะสิงเด็กทันที วิธีเดียวที่จะช่วยเด็กคนนี้ได้คือหลอกมันก่อนว่าเราจะช่วยมัน แล้วแก้ Puzzle ที่อยู่ข้างหลังให้ได้ ผมไม่สาธยายวิธีแก้นะครับ แต่คิดว่าน่าจะไม่ยากเกินเอื้อม

Tips and Tricks
Desire Demon เป็นปีศาจสาวที่มักออกมาจาก Fade เพื่อสิงสู่สิ่งมีชีวิต (มันเรียกมนุษย์อย่างเราว่า Mortal = ผู้รู้จักตาย) คุณจะได้เจอมันบ่อยๆ แต่มันไม่ค่อยเก่งหรอกครับ ก็แค่ Mage ธรรมดาๆ รุมอัดพริบตาเดียวก็ตายแล้ว ผมไม่ลงวิดีโอนะครับ


ฆ่าปีศาจตัวนี้จะให้ของดีคุณหลายอย่าง 1 ในนั้นคือหมวก Honnleath ซึ่งอาจจะใช้ถึงจบเกมส์เลยก็ได้


------------------------------------------------------------------------------


Wardens Keep


ไปที่ Solider Peak ที่อยู่ด้านบนของแผนที่ Levi จะนำทางเรามาสู่ฐานทัพเก่าของ Grey Warden ที่ไม่มีใครพบเจอมานาน (บอกก่อนนะครับว่าที่นี่ไม่ง่ายเหมือนหมู่บ้าน Honnleath ที่ผ่านมาแน่) เราพบว่าที่ป้อมนี้มีภูตผีเต็มไปหมด แถมยังเห็นภาพหลอนเป็นฉากๆว่าด้วยพวก Sophie ที่เป็น Grey Warden ต่อสู้กับทหารของ King Arland ด้วย

เดินเข้าไปเรื่อยๆคุณจะพบกับ Rage Demon Boss ซึ่งยากเอาการอยู่นะ สู้ไปซักพักจะมีโครงกระดูกเวทมนตร์มาฟื้นพลังให้มันใหม่อีก ผมไม่มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษครับ ฆ่าลูกกระจ๊อกก่อนแล้วหวด Boss ตามปกติ ฆ่ามันแล้วจะได้ไม้เท้าน้ำแข็งที่ดีที่สุดในเกมส์ (Winter Breath)

หลังจากนั้นคุณจะพบกับ Sophie ที่ถูกปีศาจสิงสู่ร่าง (This One) มันยื่นเงื่อนไขให้คุณไปฆ่าเมจที่อยู่อีกหอคอยหนึ่งแลกกับการที่มันจะช่วยปิดประตูเชื่อมต่อที่นี่กับ Fade ให้ ถ้าปิดประตูนี้แล้วที่ Solider Peak จะไม่มีภูติผีมาป้วนเปี้ยนอีก คุณยังจะได้พบกับ Avernus ซึ่งอยู่มาเป็นศตวรรษยังไม่ตายเพราะมันศึกษาในศาสตร์เลือด (ยิ่งกว่าพวก Blood Mageอีก) ส่วนสาเหตุที่ต่อสู้กันก็คือ King Arland ในสมัยนั้นเป็นคนเลว เบียดเบียนราษฏร์ Sophie ที่เป็นผู้นำ Grey Warden ขณะนั้นจึงวางแผนก่อกบฏ แต่แผนมาแตกเสียก่อนเลยถูกทหาร Arland ล้อมป้อม แล้วก็เป็นดั่งที่เห็น Avernus ก็เลวไม่แพ้กันเพราะใช้เวทมืดเรียกพวกปีศาจออกมา ทำให้ป้อม Solider Peak เกิดความผิดปกติจนมีภูตผีหลุดออกมาอย่างที่เห็น เรื่องนี้ Sophie เองก็รู้เห็นด้วย

คุณจะได้เลือกว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ฆ่า Sophie ปีศาจ หรือลงโทษ Avernus กับความผิดที่ใช้เวทมืด แต่ลงท้ายที่สุด คุณต้องปิดประตู Fade เพื่อให้ป้อม Solider Peak ปลอดจากพวกผีซะที

Tips and Tricks
เป็นอีกจุดหนึ่งที่ยากไม่ใช่เล่น พวก Demon ที่ออกมาส่วนใหญ่แพ้น้ำแข็งครับ ตีแรงอยู่เหมือนกัน ... เก็บมันก่อนที่มันจะเก็บเรา พยายามประหยัด Stamina กับ Mana ไว้ด้วย สุดท้ายคุณจะพบกับ Desire Demon อีกครั้ง แต่ตัวนี้เก่งกว่าที่หมู่บ้านโกเล็มเยอะ มีคลิปตัวอย่างให้นะครับ สู้ๆ ^^

[Link]






จัดการเรื่องทุกอย่างแล้ว Levi จะบอกคุณว่าต่อไปเขาจะไม่ยึดติดกับอดีตอีก เขาจะทำการค้า และจะตั้งรกรากที่ Solider Peak นี่แหละ ซึ่งถ้าคุณไปทำเควสที่อื่นซักพักแล้วกลับมา เขาจะมีของดีๆขายให้คุณ ทั้งยังมีกล่องที่คุณสามารถฝากของอะไรก็ได้อีกด้วย ... และถ้าคุณได้ชิ้นส่วนดาวตก ให้เอามาให้พี่ชาย Levi ตีครับ จะได้ดาบ Starfang (เขี้ยวดวงดาว) ซึ่งเป็นดาบที่ดีที่สุดในเกมส์



--------------------------------------------------------------------------

Tips and Tricks .... คุณสามารถกลับแคมป์ไฟเพื่อขายของ + เพิ่มความสัมพันธ์ได้ทุกเมื่อ โดยกดที่รูป camp มุมขวาบนของแผนที่


-----------------------------------------------------------------------


Arl of the Red Cliff



ไปที่ Red Cliff Village ทางด้านขวาของแผนที่ ถ้า Alistair อยู่ในทีมคุณ เขาจะเผยความจริงว่าตัวเองเป็นลูกของ King Maric ผู้เป็นพ่อของ King Calian แต่คนละแม่กัน (ง่ายๆคือเป็นน้องต่างแม่ของ King Calian) จริงๆตามศักดิ์ถ้า King Calian ตายไป คนที่ควรจะขึ้นเป็นผู้นำอาณาจักร Ferelden คนใหม่ก็คือ Alistar แต่ว่าเจ้าตัวไม่อยากจะเป็นกษัตริย์เท่าไหร่นัก

ที่ Red Cliff คุณจะได้พบกับ Bann Teagen ผู้ซึ่งเป็นน้องชายของ Arl Eamon เขาบอกว่าตอนนี้ที่นี่เกิดเรื่องประหลาด คือจู่ๆคนในปราสาทก็หายตัวไปหมด (ประตูหน้าล็อก เข้าไม่ได้) มิหนำซ้ำตอนกลางคืนยังมีผีร้ายออกจากปราสาทมาทำร้ายคนในหมู่บ้านอีก คุณถูกขอร้องให้อยู่ช่วยป้องกันหมู่บ้านในคืนนี้

สำรวจเมืองให้ทั่ว เก็บเควสย่อยให้ครบ ถ้าพร้อมแล้วไปบอก Knight ที่อยู่บนภูเขา และเตรียมรับมือกับพวกผีโหดที่มาในคืนนี้

Tips and Tricks
เป็นจุดที่ยากจุดนึงในเกมส์ทีเดียว คุณจะได้เจอกับพวก Corpse (ซากศพ)เป็นฝูง ซึ่งพวกนี้อึดมาก แถมยังฉลาดชอบตีตัวนิ่มคุณอีก เวท sleep ใช้กับมันไม่ได้ และถ้าเป็นประเภท Shambling จะทนต่อเวทน้ำแข็ง รอบแรกเจอบนเขาไม่ยากเท่าไหร่ เซฟ stamina กับ mana เอาไว้ กระทั่งมีทหารมาเรียกคุณไปที่โบสถ์ นั่นแหละของจริง พยายามสู้ไปครับ เมื่อต้านไม่ไหวให้หนีขึ้นไปให้ Knight บนเขาช่วย (แต่ถ้าเล่นดีๆไม่ต้องหนีก็ได้)

คลิปตัวอย่าง กองทัพผีเดนตายบุก
[Link]
(เร่งความเร็ว 150 % เพราะมันยาว ผมใช้ Pause บ่อยเพราะการต่อสู้ชุลมุนมากครับ)

ปล.ผมอ่านไกด์ต่างประเทศ เขาบอกว่าถ้าชนะพวกผีได้โดยไม่มีทหารตายซักคน เราจะได้รางวัลพิเศษด้วย แต่ผมลองอยู่ 2 3 รอบ ไม่ไหวครับ คงต้องมี Wynne ในทีมก่อนถึงจะพอลุ้น (ไม่ก็เล่น Easy)
ปล.2 ช่วงชุลมุน สกิล Mind Blast ของ Morrigan ช่วยคุณได้เยอะนะครับ
ปล.3 ถ้ารอจนจบไม่มีผีมาอีกแต่ไม่ตัดฉากซักที ให้ลองไปสำรวจในเมืองครับ อาจมีเหลืออยู่เป็น bug




รุ่งเช้าหลังจากได้รับการชมเชย Bann Teagan จะวางแผนยึดปราสาทคืน ยังไม่ทันคุย Isolde ผู้เป็นภรรยาใหม่ของ Arl Eamon ที่น่าจะถูกขังอยู่ในปราสาทก็โผล่มา (ได้ยังไงไม่ทราบ) เธอขอร้องให้ Bann กลับปราสาทไปพร้อมเธอ Bann บอกทางลับเข้าปราสาทใน Wind mill ให้เรา โดยให้เราลอบเข้าไปเปิดประตูปราสาทในขณะที่เขาจะดึงความสนใจให้

เข้าทางลับใต้ดิน คุณจะพบกับ Jowan ถูกขังอยู่ (ถ้าคุณเล่น Mage เขาคือเพื่อนเก่าคุณเอง) เขาบอกว่า Loghain จ้างเขาวางยาพิษให้ Arl Eamon ก็จริง แต่เขาไม่รู้เรื่องพวกผีนี่นะ และขอโอกาสกลับตัวเป็นคนดี แล้วแต่คุณจะทำไงกับหมอนี่ ... ลุยไปเรื่อยกระทั่งออกมาลานกว้าง คุณจะพบกับศัตรูสุดโหด และตัวนี้จะเป็นเพื่อนคุณอีกนาน


Enemy Analysis : Revenant


ปกติ Revenant จะมาในรูปขวดแก้ว (vial) ซึ่งคุณเลือกได้ว่าจะสู้หรือไม่สู้ ถ้าสู้ชนะก็จะได้สุ่มของดี + เงินพอสมควร แต่กรณีนี้บังคับให้คุณต้องสู้ ก็ยังโชคดีเป็นแค่ระดับ Elite (สีเหลือง) ให้รีบเปิดประตูหน้าเพื่อให้พวกไนท์เข้ามาสมทบด้วย .. Revenant ถือเป็นบอสที่ยากมากครับ เพราะมันตีหนัก และมี Aura of Weakness ทำให้การโจมตีระยะประชิดของเราหวืดง่ายมาก แถมถ้าเราไปล้อม มันจะใช้ท่าฟันรอบตัว และตัวมันเองยัง Immune ต่อธาตุน้ำแข็งอีกต่างหาก

ใช้ท่าทุกท่าที่ลด Attack กับ Defense ของมัน รวมถึงท่าหยุดการเคลื่อนไหวต่างๆ ... Cone of Cold แม้จะไม่ส่ง Dmg แต่ก็อาจจะคุ้มในแง่ช่วยหยุดการเคลื่อนไหวได้ ... นักธนูช่วยคุณได้มากในการจัดการมัน เพราะอยู่นอก aura of weakness

คลิปตัวอย่าง
[Link]


เข้าไปในปราสาทคุณจะพบว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงของพวกผีเดนตาย เด็กน้อย Conner มีเวทมนตร์มาแต่กำเนิด ด้วยความที่คุณแม่กลัวว่าคุณลูกจะต้องถูกส่งตัวไปกักกันที่หอคอยเมจเธอจึงปิดบังเรื่องนี้ไว้ บังเอิญเจอ Jowan เลยจ้างมาหวังให้สอนลูกให้รู้จักเก็บงำพลังตัวเอง กระทั่ง Jowan ถูกขังคุกเพราะความแตกเรื่องวางยา เด็กน้อยจอมซนจึงได้โอกาสไปยุ่งตำราต้องห้ามของ Jowan ... เพราะต้องการช่วยพ่อตัวเองเลยดันโง่ไปทำสัญญากับปีศาจใน Fade และถูกสิงเข้าให้

คุณมีทางแก้อยู่ 3 ทาง 1.ฆ่าเด็ก 2.ให้ Jowan ทำเวทเลือด เพื่อเข้าไปฆ่าปีศาจที่สิงเด็กอยู่ทาง Fade แต่แลกกับแม่เด็กตาย หรือทางสุดท้ายคือไปเรียกพวกเมจจากหอคอยเมจมาทำพิธี (ไม่มีใครต้องเสียสละ)

จริงๆผมอยากเลือกทางที่ 2 แต่ในเมื่อทำ Walkthrough อยู่จึงต้องขอเลือกทางที่ดีที่สุดคือทางที่ 3 ... พัก Arl Eamon ไว้ก่อน เราจะเดินทางไป Circle of Magi กัน


----------------------------------------------------------------------



Broken Circle


ไปที่ Lake of Calenhad เพื่อข้ามไปยัง Circle Tower (อยู่ในแผนที่ด้านบนของเมือง Red Cliff) คุณจะพบว่าตอนนี้หอคอยเมจกำลังเกิดวิกฤตใหญ่หลวง มีพวก Abomination (ผมขอแปลว่า พวกคนไม่ใช่คน) โผล่มาจากไหนไม่รู้เพียบไปหมด เหล่า Templar ที่มีอยู่ไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ต่างพากันหนีมาแล้วปิดประตูไว้แน่น Greagoir หัวหน้า Templar บอกว่าตอนนี้เขากำลังทำเรื่องขอใช้พรบ.ฉุกเฉิน Right of Annulment อยู่ซึ่งถ้าผ่านสภา Denerim ได้แล้วเนี่ย Templar ทั่วทั้ง Ferelden จะมาที่นี่แล้วกวาดล้างสิ่งมีชีวิตในหอคอยนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือเมจที่รอดชีวิตก็ตาม

Tips and Tricks
หลังจากผ่านประตูที่พวก Templar กั้นแล้วคุณจะออกมาไม่ได้อีก การต่อสู้นี้ยาวนานนัก ก่อนเข้าประตูให้ตุนยาแดงไปให้เยอะที่สุดพร้อมกับเผื่อที่ว่างในกระเป๋าอย่างน้อย 50 ช่อง


Tips and Tricks
พ่อค้าในหอคอยเมจนี่ ขาย Lyrium Dust ส่วนผสมทำยาฟ้าให้กับคุณได้อย่างไม่จำกัด


คุณจะได้พบ Wynne จอมเวทหญิงชราที่มากประสบการณ์ที่คอยปกป้องเมจเด็กๆเอาไว้ คุณเลือกได้ว่าจะช่วยเมจที่รอดชีวิตหรือเห็นด้วยกับพวก Templar ให้กวาดล้างไปเลย ... อย่างไรก็ตามถ้าจะช่วยเมจ คุณจะถูกบังคับให้ต้องนำ Wynne ร่วมทีมบุกหอคอยด้วยอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้ ซึ่งถ้าคุณมีทีมหลักครบแล้วผมขอแนะนำให้คุณฆ่าเธอทิ้งเสียดีกว่า เพราะการนำเธอบุกหอคอยจะทำให้ทีมหลักคุณคนนึงเสียโอกาสได้ XP ที่สำคัญการเปลี่ยนตัวลูกทีมนั้นถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าเปลี่ยนแล้วทีมไม่เข้าขากัน การต่อสู้ในหอคอยเมจนี่หืดแน่นอน หรือถ้าคุณตั้งใจจะใช้ Wynne เป็นตัวจริงคุณก็ควรจะมาที่นี่เป็นที่แรกอยู่แล้ว ... (การฆ่า Wynne ไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องเมจ ตราบใดที่คุณสามารถช่วย Irving หัวหน้าเมจได้ในตอนท้าย จะไม่มีการกวาดล้างจากพวก Templar)

Tips and Tricks
ศัตรูในหอคอยเมจไม่ใช่หมูนะครับ ผมจะวิเคราะห์ศัตรูที่คุณต้องเจอให้ แต่จะไม่ทำคลิปเพราะเชื่อว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาคุณน่าจะหาวิธีผ่านได้เอง
1.Abomination ไอ้พวกนี้ทนต่อธาตุน้ำแข็ง และน่าจะแพ้ไฟนะ ผมยังไม่ได้ลอง
2.Rage Demon ตัวแดงๆครับ เห็นก็รู้แล้วว่าแพ้น้ำแข็ง ทนต่อไฟ
3.Arcane Warrior เมจที่มีความต้านทานเวทมนตร์สูง ส่งมันลงนรกด้วยการโจมตีปกติ ใช้พวกสตัน อันตรายนะตัวนี้ ระวังมากๆ (มันเดินช้าครับ อาจใช้เป็นจุดอ่อนได้)
4.Posses Templar Templar ที่ถูกควบคุม มักมาพร้อม Desire Demon ... น่ากลัวมากสำหรับเมจในทีมคุณเพราะมันมีท่า Holy Smite ที่สตันเมจเราได้แถมลด mana อีก ฆ่า desire demon ก่อนแล้วค่อยเก็บ Templar
5.Blood Mage ก็เมจทั่วไป


Special Side Quest : Watch Guard of The Reaching
ปกติผมจะไม่ลง side quest ให้ แต่อันนี้กรณีพิเศษ เพราะรางวัลคือสุดยอดดาบสองมือในเกมส์ ดาบฆ่ามังกร ซึ่งอานุภาพไม่แพ้ Starfang

ที่ห้องกว้างในชั้น Great Hall (ที่ที่คุณเจอศพฟื้น + Arcane Warrior) มีรูปปั้นอยู่ 3 รูปที่ไปแตะแล้วจะไฟช็อต ให้คุณแตะเรียงตามลำดับคือ ซ้ายสุด , ขวาสุด และตรงกลาง (ถ้าแตะถูกไฟจะไม่ช็อต) จากนั้นไปที่ห้องก่อนทางขึ้นที่เจอ Boss Abomination จะมีรูปปั้นตัวสุดท้าย แตะถูกแล้วเควสจะอัพเดต ลงไปชั้นล่างสุดเลย ห้อง Basement กดเปิดประตูจะเจอบอส Shah Wyrd ก็ฆ่าซะ ได้ดาบฆ่ามังกรมาครับ

ปล.Side Quest นี้จะทำไม่ได้ถ้ายังเก็บ Codex ชั้นล่างๆไม่ครบ ลองสำรวจดีๆก่อนนะคับถ้าทำไม่ติดเนี่ย


ขึ้นไปจนสุดทาง คุณจะเจอ Abomination ตัวหนึ่งที่สะกดจิตคุณทุกคนจนหลงไปอยู่ใน Fade กันหมด


The Fade
เสมือนโลก Matrix ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา คุณจะพบ Niall ที่เป็น Mage ที่หลงติดอยู่ในโลกนี้เหมือนกัน เขาบอกว่าคุณต้องฆ่า Sloth Demon ให้ได้เพื่อออกจากที่นี่ เป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุดในเกมส์สำหรับผม ต้องฆ่าบอสแต่ละโซนย่อยก่อน ขอให้คุณไปดังนี้ครับ

1.Raw Fade ที่แรกที่มาถึง เอาร่างหนูมุดรู
2.Darkspawn เอาร่าง Spirit เพื่อผ่านประตูเวท(ที่มีหมอกขาว)
3.Burning Tower มนุษย์ไฟ วิ่งผ่านไฟ
4.Mage Asunder เอา Golem พัง Massive Door

เมื่อได้ครบ 4 ร่าง ให้ย้อนกลับไปทุกที่อีกครั้งเพื่อไล่ฆ่าบอสที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ ไป Templar Nightmare ด้วย แล้วค่อยช่วยเพื่อนอีก 3 คน จากนั้นก็ลุยบอสตรงกลางแผนที่ Inner Sanctum

Tips and Tricks
ช่วงนี้คุณลุยคนเดียวอาจจะมีจุดยากเวอร์อยู่บ้าง ผู้สร้างเกมส์จึงให้มีการแปลงร่าง 4 แบบ ซึ่งแต่ละแบบใช้รับมือสถานการณ์ที่แตกต่างครับ การใช้ร่างแปลงให้เหมาะกับสถานการณ์จะช่วยได้เยอะ Golem เป็นร่างที่แข็งแกร่งมาก มีสกิลหมู่ที่ดี ส่วนร่าง Spirit ก็มีท่า Crushing Prison ที่หยุด + ลดพลังศัตรูฮวบๆ และถ้าใช้ Winter Grasp แช่แข็งศัตรูได้ก่อน เมื่อใช้ Crushing Prison ซ้ำอาจทำให้เกิดการ Shatter (ตายโดยฉับพลัน) ได้ด้วย , ตัวมนุษย์ไฟก็ Immune ต่อไฟ ใช้ร่างนี้ตอนเจอศัตรูร่าย Fire Ball

ตามทางคุณยังมี Lyrium Vein ซึ่งช่วยฟื้น HP/MP ได้ ให้ใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วย


สุดทางเจอ Sloth Demon บอสตัวสุดท้ายใน Fade และมันไม่หมูเลย


Enemy Analysis : Sloth Demon


Sloth Demon แม้อยู่ในรูป Arcane Warrior แต่มันไม่ใช่แค่ AW แน่ ... Fade ทำให้มันมีทั้งหมด 5 ร่างในตัวเดียวกัน การต่อสู้นี้จะกินเวลานานกว่าที่คุณคิด อัดทุกอย่างเข้าใส่มัน ใช้แท็คติกให้เหมาะกับแต่ละร่างที่มันเปลี่ยน (คุณรู้จุดอ่อนของศัตรูแต่ละตัวอยู่แล้วนี่) ใช้ Mana และ Stamina อย่างประหยัดหน่อย ในสนามต่อสู้มี Lyruim Vein อยู่ 2 จุดให้คอยใช้เมื่อตัวละครใกล้ตายหรือมานาใกล้หมด คุณยังสามารถเปลี่ยนเป็นร่างแปลงได้เหมือนเดิม ใช้โกเล็มหรือ Spirit ถ้าคุณคิดว่าจำเป็น

ทีแรกผมกะจะไม่ทำคลิปนะครับ แต่ในเมื่อมีคนมีปัญหากับเจ้าตัวนี้ผมก็เลยทำให้ดูครับ สู้กับ Sloth Demon ไม่ยากหรอกครับ แต่ต้องรุมสกรัมมันให้ไวๆเท่านั้น โดยเฉพาะร่างสุดท้าย โผล่มาปุ๊บทุกคนต้องบวกเลย อย่าให้มันร่ายคาถาได้ถึง 3 ครั้ง

คลิปตัวอย่าง
[Link]



ฆ่าได้แล้ว Niall จะบอกเราว่าเขามีไอเท็มอย่างหนึ่งที่คิดว่าช่วยเราต่อต้านกับเวท Blood ได้นั่นคือ Litany of Andralla ให้เราเก็บที่ศพเขาด้วยหลังจากเราออกจาก Fade

Tips and Tricks
ในชั้นนี้มีหมวก Libertarian Cowl อยู่ เก็บซะ เป็นหมวกของเมจที่ดีที่สุดในเกมส์


... ลุยต่อไปเรื่อยจนถึงชั้นบนสุดคุณจะได้พบกับหัวหน้าใหญ่ที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายพวกนี้ขึ้น Uldred เมจผู้สำเร็จสุดยอดวิชา Blood Magic ที่ทำให้เมจคนอื่นกลายเป็น Abomination

Enemy Analysis : Uldred


ร่างสุดยอดแห่ง Abomination (พวกคนไม่ใช่คน) Uldred ทั้งตบหนัก ทั้งอึด ทั้งใช้เวทน้ำแข็งใส่คุณได้ เป็นบอสที่ยากไม่ใช่เล่น มันยังคอยเปลี่ยนร่างเมจคนอื่นให้กลายเป็น Abomination มารุมคุณได้อีก แต่คุณก็สามารถใช้ Litany of Andralla ที่ได้มาแก้ทางได้ โดยขณะที่มันกำลังเปลี่ยนร่างเมจคนอื่น ให้กดใช้ ก็จะเป็นการ cancel ท่าของมันได้ (สังเกตว่ามันจะพูด Do you accept gift that I offer ? แล้วมีวงแหวนม่วงๆรอบตัวเมจ ก็กดใช้เลย) คอยกด Litany of Andralla ขัดจังหวะเอาไว้ ทุ่มทุกอย่างก็จะเอาชนะได้ในที่สุด

คลิปตัวอย่างการใช้ Litany of Andralla
[Link]



จบเรื่องแล้ว ถ้าคุณฆ่า Uldred ได้ก่อนที่มันจะเปลี่ยนร่าง Irving เป็นพวกไม่ใช่คน ทาง Greagoir ก็จะยอมหยุดคำสั่ง Right of Annulment ... Irving สัญญาว่า Mage จะมาร่วมกับเราในการสู้กับ Darkspawn ... อย่าลืมพูดถึงเรื่องเด็กถูกสิงที่ Red Cliff เขาจะยินดีช่วย โดยจะไปรอเราอยู่ที่ปราสาท Red Cliff เลย

Red Cliff Castle
ให้ Irving เริ่มพิธีได้ จะส่งใครเข้าไปใน Fade ก็แล้วแต่ ฆ่า Demon ในนั้นซะ ออกมาพบว่าเด็กรอดแล้ว เหลืออย่างเดียวคือการค้นหา Urn of Sacred Ashes เพื่อรักษา Arl Eamon



-----------------------------------------------------

Special Side Quest :: Kill Flemeth

ในหอคอยเมจคุณจะได้ Black Gilmore มาซึ่งถ้ามอบให้กับ Morrigan และปล่อยซักพักกลับไปคุยกับเธออีกครั้ง เธอจะบอกว่าเธอรู้แล้วถึงความลับที่แม่เธอไม่แก่ไม่ตายเสียที นั่นคือเมื่อร่างกายแม่เธอใกล้ถึงอายุขัย ตัว Flemeth จะเลี้ยงลูกสาวขึ้นมา จากนั้นเมื่อเวลาเหมาะสมก็จะไปสิงร่างลูกสาวแทน โดย Morrigan คิดว่าตนเองถูกเลี้ยงให้เป็นภาชนะรองรับวิญญาณเท่านั้น Morrigan ขอร้องให้เราไปฆ่าแม่เธอเสีย แต่ตอนเผชิญหน้าห้ามนำเธอไปด้วย เพราะหากแม่เธอรู้ถึงภัยอันตราย ไม่แน่อาจจะสิงร่างกับเธอเดี๋ยวนั้นเลย

.... ก็ไม่มีอะไรครับ เควสฆ่าคนแก่ธรรมดาๆ เรากลับไปที่กระท่อม Flemeth Hut ทางตอนใต้ พกยาไปให้พร้อม ถ้าจะให้ดีก่อนสู้ให้ตัวลุยกินพวกยาเพิ่มความต้านทานไฟ (Warm) ซักหน่อย ตัวตีใกล้ให้อยู่ประชิดไว้จะได้ไม่โดนท่าพ่นไฟร่างทอง แล้วก็ถ้าแม่เธองับเพื่อนเรา (Grab) ขึ้นมา เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เธอปล่อยเพื่อนเราให้ได้ ! (ไม่งั้นคนโดนงับอาจตายได้ใน 4 วิ) ... ตัวตีใกล้นั้นใช้งานยากหน่อยเพราะ Flemeth ชอบผลักเรากระเด็น ให้ใช้ตัวยิงไกลเยอะๆจะได้เปรียบกว่า (รูปแบบ Tank 1 ยิงไกล 3 จะเล่นง่ายครับ) สำหรับคนที่ใช้ Morrigan เป็นตัวจริงในทีมก็จะลำบาก (อย่างยิ่ง) เพราะคุณไม่สามารถเอาเธอเข้าร่วมรบได้ ถ้าคิดว่าทีมยังไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องรีบทำเควสนี้ก็ได้ครับ เพราะคุณไม่ได้อะไรนอกจาก 240XP กับชุดประจำตัว Morrigan (ก็ไม่ได้ถึงกับสุดยอดไอเท็มนะผมว่า) .... ก็ถ้าไม่มั่นใจ รอให้ได้อาวุธกับเกราะสุดยอดก่อนค่อยมาฆ่าเธอก็ไม่สาย (รอบที่แล้วผมใช้ 3 คนเอาชนะเธอได้ไม่ยากเลย พอมีชุดเทพแล้วเนี่ย) .... แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองสด ทีมตูปึ้ก ลองเลยก็ได้ครับ ผมก็ลองสดเหมือนกัน

คลิปตัวอย่าง แค่ฆ่าคนแก่ครับ ไม่มีอะไร ขำๆ ^_^
[Link]
ปล.คลิปนี้ผมใช้เวลาตัดต่อถึง 6 ชั่วโมง





Special Side Quest :: Desperate Haven (จาก Chantry Board)
คุณถูกส่งไปช่วยพวก Refugee เควสนี้ไม่ได้ซับซ้อนครับ เพียงแต่ความยากไม่ใช่น้อยๆ เพราะคุณจะเจอฝูง Darkspawn นัวกับ Refugee (ที่เป็นตัวถ่วง) แล้วดันมี Emissary สีแดงอยู่ไกลสุดกู่ (จุด Refugee อยู่ในแผนที่ใกล้ๆกับ Denerim)

ในคลิปก่อนๆผมยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่คลิปนี้การต่อสู้ทำออกมาค่อนข้างดีครับ การใช้สกิลทำได้ถูกจังหวะ (ยังแอบเปิดเผย Tactics ที่ผมเซ็ตซะด้วย) ถือเป็นกรณีศึกษาที่ใช้ได้ครับ

[Link]



------------------------------------------------------


จบครึ่งแรก


[Edited 8 times pongkrit03 - Last Edit 2010-3-6 09:51:30]

# Tue 1 Dec 2009 : 9:21AM

pongkrit03
member

Since 11/10/2009
(55 post)
Walkthroughs 2



ลุยกันต่อกับช่วงครึ่งหลังนะครับ


Urn of Sacred Ash

ใกล้จะได้เวลาปีนเขากันแล้วนะครับ เราได้เบาะแสจาก Bann Teagen ว่ามี Brother Genitivi ที่ได้ทำการค้นคว้าข้อมูลของ Urn of Sacred Ash อยู่ เขาอาศัยอยู่ในเมือง Denerim ที่อยู่ทางขวาของแผนที่

Denerim
เปรียบดั่งเมืองหลวงของ Ferelden ก็ว่าได้ ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยการค้า ทั้งยังมีเควสย่อยมากมาย ... ไปที่บ้านพัก Genitivi คุณจะพบผู้ช่วยของ Gentivi เขาบอกว่า Gentivi หายตัวไปที่ทะเลสาบ Calenhad แต่เมื่อคุณเข้าไปในห้องนอน นายผู้ช่วยจะเข้ามาโจมตีคุณ ฆ่าแล้วดูในห้องนอนคุณจะพบศพผู้ช่วยตัวจริง สงสัยเรื่องนี้จะมีลับลมคมในอะไรบางอย่างแน่ๆ คุณพบหนังสือค้นคว้าของ Gentivi ที่เขียนถึงหมู่บ้านลี้ลับที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน Village of Haven

... อย่างไรก็ตามยังไม่ต้องรีบไปที่ Haven ก็ได้ครับ ช่วงนี้ก็สำรวจ Denerim แล้วก็ซื้อของ + ทำเควสย่อยให้เต็มที่ก่อน จะใช้เวลาพอสมควร ที่นี่มีร้านของเมจที่มีไอเท็มเมจดีๆเยอะแยะ (รวมถึงชุดเมจที่ดีที่สุดในเกมส์ด้วย) และมีร้านเกราะ Wade หัวโล้น หมอนี่ทำเกราะมังกรได้ ถ้าคุณได้หนังมังกรมาครับ


Tips and Tricks
ถ้าจะไป Back Ally ผมขอเตือนว่าคุณจะได้พบกับศัตรูเป็นจำนวนมาก ที่คุณต้องระวังมากที่สุดก็คือพวกนักธนู ผมเคยบอกใช่ไหมว่าเมจถือเป็นตัวอันตรายที่คุณต้องใส่ใจ แต่ในตอนนี้ถ้ากลุ่มศัตรูมีนักธนูมากกว่า 3 คนขึ้นไป คุณต้องใส่ใจพวกมันเหมือนเจอเมจเลยทีเดียว นั่นเพราะ Archer พวกนี้มีท่า Scatter Shot ซึ่งจะทำ dmg + สตันคุณได้ยกทีม ถ้าพวกมันยิงท่านี้ออกมาพร้อมๆกัน และยิ่งคุณลง Fix bug dex ด้วยอีกนี่ เริ่มเกมส์ปุ๊บตัวนิ่มคุณอาจลงไปนอนโดยที่คุณยังไม่ได้สั่งอะไรเลยด้วยซ้ำ ... นอกจากนี้พื้นที่ต่อสู้ของ Denerim ก็มีลักษณะโล่งกว้างมากจนคุณไม่สามารถใช้วิธียิงล่อหรือหาที่กำบังได้ ก็บอกตรงๆเลยนะครับว่าตรงนี้ ยากมาก !

วิธีแก้ทางก็พอมีนะครับ ดังนี้
1.ก่อนที่นักธนูฝ่ายตรงข้ามจะใช้ Scatter Shot ตัวธนูฝ่ายคุณก็ชิงใช้ท่านี้ก่อนซะเลย(ถ้ามี) พอจะถ่วงเวลาได้ซัก 4 5 วิ
2.ยืนกระจายกันไว้ให้มากที่สุด ผลของ Scatter Shot จะไปไม่ถึง (แต่ต้องไกลหน่อย)
3.บุกไปฆ่านักธนูก่อน (ทำยากเหมือนกัน ถ้าโดน Scatter Shot ก่อนถึงตัว คราวนี้มาเป็นชุด)
4.เวท AOE หมู่ระยะกว้างเช่น Blizzard , Inferno ทำประโยชน์ได้ดีมากในการต่อสู้ช่วงนี้ สกิล Sleep ก็หลับหมู่วงกว้างได้เหมือนกัน (แน่นอน ถ้าไม่โดน Scatter Shot ขัดจังหวะก่อนน่ะนะ)
5.ถ้าคุณมี Wynne ให้ใช้ Group Heal ทันทีหลังจากโดน Scatter Shot (ถ้ามีโอกาสได้ใช้นะ)

หาทางรอดกันเองนะครับ ลองดูคลิปช่วย Refugee ที่ผมโพ๊สก่อนหน้านี้เป็นตัวอย่างประกอบละกัน ตรงนี้ผมไม่ลงคลิปนะครับ แต่ผมก็ทำอย่างที่เขียนไปข้างบนแหละ เปิดมาผมยัด Blizzard ไปเลย + ธนูเก็บธนูด้วยกัน ทำนองนี้




Village of Haven
อยู่ทางด้านซ้ายล่างของแผนที่ คุณจะแปลกใจว่าที่นี่มีพ่อพระด้วย (ปกติทั่วไปเค้ามีแต่แม่พระ) แถมดูเหมือนคนที่นี่จะไม่ค่อยต้อนรับผู้มาเยือนเท่าไหร่นะ สำรวจให้ทั่วกระทั่งไปที่โบสถ์คุณจะพบว่าหมู่บ้านพิศวงนี้เค้านับถือลัทธิ Andraste กัน เป็นพวกนอกรีต (ข้อมูลเรื่องนี้อ่านได้ในส่วน History ข้างล่างๆนะครับโดยคุณ Cold Turkey) และพวกนี้ยังทำหน้าที่ปกป้อง Urn of Sacred Ash อีกด้วย (ด่านแรกอย่างนั้นหรือ ? แต่เป็นแค่ชาวบ้านจะมาสู้อะไรพวกเราได้)

ฆ่าให้หมด เข้าห้องลับจะพบ Gentivi นอนเจ็บหนักอยู่ เขาจะบอกทางไป Ruin Temple ที่คาดว่าเป็นที่กักเก็บ Urn ให้เรา

Ruin Temple
ลุยลูกเดียว ที่นี่ถือว่าง่ายนะถ้าเทียบกับหอคอยเมจ แม้ฉากจะกว้างแต่เราใช้วิธียิงล่อได้ในหลายจุด เข้าไปถึงรังมังกรก็มีศัตรูที่คุณต้องระวังซักหน่อย


Enemy Analysis : Drake

มังกรผู้พิทักษ์ พวกนี้มักจะมาทีละ 3 ตัวในระดับ Elite ขอให้สู้อย่างระวังมากๆ มันตีแรง มีท่าฉกที่ผลักเพื่อนเรากระเด็น แล้วยังมีท่า Overwhelm คร่อมเพื่อนเราซึ่งเราต้องรีบขัดจังหวะทันทีไม่งั้นเพื่อนเราจะตายอย่างไว สู้กับพวกนี้ให้ใช้ท่าหยุดต่างๆเช่น Cone of Cold , Mind Blast , Scatter Shot , Paralyze ไรงี้ไว้ อย่าประมาทแม้ว่าพลังมันจะเหลือน้อยแล้วก็ตาม เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน ... โชคดีอย่างเดียวคือคุณไม่ค่อยได้เจอมันเท่าไหร่หรอก (ฆ่ามันจะได้ Drake Skin ไปทำเกราะ Drake)


สุดทางจะพบกับ Kolgrim ผู้เป็นหัวหน้าตัวจริงของพวกลัทธิ Andraste หมอนี่เชื่อว่ามังกร High Dragon ที่อยู่ในหุบเขานี้เป็น Andraste กลับชาติมาเกิด (งมงายทั้งเพ) ทั้งยังขอร้องให้เราเทเลือดมังกรลงใน Urn เพื่อปลดปล่อยให้ Andraste เป็นอิสระอย่างแท้จริง ถ้าเรายอมช่วยก็จะมีค่าตอบแทนให้

Tips and Tricks
ค่าตอบแทนคือเลือดมังกรที่ดื่มแล้วได้ Class Reaver ... การเทเลือดมังกรอาจทำให้เพื่อนเราผู้ศรัทธาต่อ Maker ไม่พอใจเพราะทำให้ Urn แปดเปื้อน แต่เราใช้วิธีเซฟก่อน แล้วไปเทเลือดจากนั้นกลับมาโหลดใหม่ ก็สามารถปลดล็อค Class ได้โดยไม่ต้องมีการสู้กับเพื่อนเราครับ


ที่วิหารชั้นในสุดคุณจะพบกับวิญญาณผู้ปกป้อง Urn ที่แท้จริงซึ่งผู้ที่จะเอา Urn ได้นั้นต้องผ่านด่านพิสูจน์ตนเองทั้ง 4
1.ด่านคำปริศนา ตอบผิดก็ต้องสู้ ไม่มีไรครับ ฆ่าให้หมด
2.ด่านสู้ร่าง Copy พวกนี้ถึงจะ copy มา แต่สกิลไม่เหมือนเราหรอกครับ
3.ด่านสะพานวัดไหวพริบ อาจจะทำให้คุณเสียเวลาอยู่บ้าง ผมจะใบ้ให้ครับ ภาพซ้อน 2 อันทำให้เกิดวัตถุจริง และฝั่งขวาอันที่ 2,4,5 ทำให้เกิดภาพได้ 2 อันซึ่งเป็นหัวใจในการผ่าน ใช้ 3 คนผลัดวิ่งไปมา แล้วส่งคนเดียวผ่านไปครับ ค่อยๆทำไปเรื่อย ผ่านได้ก็จบ
4.ด่านชำระบริสุทธิ์

เมื่อได้ Urn แล้วกลับไปที่ Red Cliff Castle

Red Cliff Castle
ไปคุยกับ Bann Teagen เมื่อรักษาเรียบร้อย Arl Eamon จะขอบคุณเรา ส่วนเรื่องจัดการคนทรยศ Loghain นั้น Arl Eamon เห็นว่าถ้านำทหารฝ่ายเราไปยึดบัลลังก์คืนก็จะต้องเกิดการนองเลือด ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเราจะไม่มีกำลังพลเหลือไปสู้พวก DarkSpawn เพราะเราฆ่ากันเองหมด Arl Eamon จึงเสนอที่จะใช้พรบ.ฉุกเฉินที่เรียกว่า Landsmeet ซึ่งจะเป็นการเรียกผู้นำเมืองต่างๆทั้งหมดใน Ferelden มาประชุมพร้อมหน้าใน Denerim เพื่อเลือกว่าใครสมควรเป็น King คนใหม่ (อารมณ์เหมือนขอยุบสภาเลือกตั้งใหม่ทำนองนั้น) ซึ่ง Arl Eamon มีสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ปัญหาคือทางฝ่ายเราใครจะลงสมัครล่ะ ? ... Arl Eamon จึงเสนอ Alistair ลงสมัคร เพราะคนๆนี้เป็นบุตรของ King Maric พ่อของ King Calian ที่ตายไป มีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะขึ้นบัลลังก์ ... Ailstair ไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เขาก็ต้องยอม เพราะ Arl Eamon บอกว่าถ้า Alistair ไม่ทำตามนี้ เขาก็จะยอมให้ Loghain เป็น King ไปเลยเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด (สปริตดีโคตรๆ ไม่เหมือนพรรคการเมืองในบ้านเรา)

Landsmeet ต้องใช้เวลาดำเนินการพอสมควร Arl Eamon จึงเสนอให้เราใช้เวลาช่วงนี้ไปจัดการกับ Treaties อื่นที่เหลืออยู่ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกับเขาอีกครั้ง

------------------------------------------------------------------------

Special Side Quest :: High Dragon

ถ้าคุณฆ่า Kolgrim ตายไป คุณจะได้ Kolgrim Horn แล้วถ้าเอาไปเป่าที่ Mountain Top ก็จะสามารถเรียก High Dragon มาสู้กับคุณได้ซึ่งศัตรูตัวนี้ถือว่าเก่งเป็นอันดับสองของเกมส์รองจากบอสใหญ่ Archdemon เท่านั้น ถ้าฆ่าได้แล้วคุณจะได้ของตอบแทนจำนวนมาก ทั้งยังได้ Dragon Skin เอาไปทำสุดยอดเกราะในเกมส์ เกราะมังกร อีกด้วย

มังกรก็คือมังกรครับคล้ายๆกัน ถ้ามันงับ (Grab) เพื่อนคุณก็ให้ใช้ท่าช่วยโดยด่วน กินยาต้านไฟ ทุ่มทุกอย่าง + ปั๊มยาเข้าไว้ก็จะเอาชนะได้ในที่สุด ขอแค่อย่ากลัวก็พอ แต่ถ้าคุณไม่พร้อมก็ไม่ต้องรีบสู้ก็ได้ครับ เพราะต่อให้ได้ Dragon Skin มา คุณก็ต้องทำชุด Drake ก่อนอยู่ดีซึ่งใช้ระยะเวลาพอสมควร

คลิปตัวอย่าง
[Link]
ปล.คลิปนี้ใช้เทคนิคการตัดต่อมากที่สุดในทุกคลิปที่ผมทำมา
ปล.2 คลิปนี้มีภาพนู้ด ผู้มีอายุต่ำกว่า 15 ไม่ควรเข้าไปดู : P
ปล.3 Sten เป็นพระเอกจริงๆรอบนี้ เพิ่งรู้ว่า Indomitable มันสุดยอดอย่างนี้นี่เอง



---------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------



Nature of Beast


เป็นเควส The Blight ที่ผมชอบเนื้อเรื่องมากที่สุด ไปที่ป่า Brecilian ทางขวาของแผนที่ คุณจะมาถึงถิ่นของเอลฟ์ Dalish Camp ... คุณจะได้พบกับ Zathrian ผู้นำของเผ่าเอลฟ์ (Keeper) เขาบอกเราว่าตอนนี้ทางเผ่าเอลฟ์เพิ่งต่อสู้กับพวกหมาป่าไปซึ่งฝ่ายเขามีจำนวนมากที่บาดเจ็บและติดพิษคำสาป พวกเขาคงไม่สามารถรักษาสัญญา(Treaties)ที่เคยให้ไว้กับ Grey Warden ในอดีตได้ นอกจากเสียจากว่าเราจะบุกเข้าป่าไปฆ่า Winterfang หมาป่าสีขาวและนำหัวใจมันมาได้ หัวใจนี้จะช่วยล้างคำสาปของเหล่าทหาร ถึงตอนนั้นเผ่าเอลฟ์ก็จะช่วยเราทำศึกกับ Darkspawn (ตกลงใครจะช่วยใครกันแน่ฟะเนี่ย - -) เรายังแปลกใจว่าทำไมแค่หมาป่าทำให้เผ่าเอลฟ์เสียหายขนาดนี้ (อ่อนจัง) Zathrian จะบอกว่าพวกนี้มันไม่ใช่หมาป่าธรรมดา พวกมันเตรียมการซุ่มโจมตีเราด้วยนะ (เป็นแค่หมาแต่ซุ่มโจมตีได้ด้วย มันชักจะยังไงอยู่น้า ??)

สำรวจเมืองให้ทั่วเช่นเคย รับเควสย่อยให้พร้อมแล้วเข้าป่า Brecilian

Tips and Tricks
พ่อค้าในแคมป์ Dalish ขายสมุนไพรได้แก่ Elfroot , Toxin , Deathroot ให้กับคุณอย่างไม่จำกัด


Brecilian Forest
ลุยไปกระทั่งเจอกับต้นโอ๊คยักษ์มันจะขอร้องให้เราช่วยตามหาลูกโอ๊ค (acorn) ที่หายไป ถ้าเรานำมาคืนมันจะให้เศษไม้ Oak เป็นการตอบแทนซึ่งเศษไม้นี้จะทำให้เราผ่านหมอกของป่าไปได้ ในป่าส่วนลึกเราจะเจอกับเมจติ๊งต๊องที่เป็นคนขโมยลูกโอ๊ค เราสามารถพูดจาขอแลกปลี่ยนลูกโอ๊คกับสิ่งของไร้สาระที่เรามีได้ หรือเราจะฆ่าเมจเอาลูกโอ๊คก็ได้ หรือถ้าฆ่าไม่ไหวก็ไปฆ่าต้นโอ๊คยักษ์แทน เลือกตามใจชอบ (มีหลายคนบอกว่าเมจติ๊งต๊องโหด แต่ผมลองบวกดูแล้วก็ไม่ได้เก่งอะไรนะครับ เปิด cone of cold แล้วรุมสกรัมไม่กี่วิก็ตายแระ)

Tips and Tricks
ในป่านี้คุณจะได้เจอทั้งพวกมนุษย์หมาป่า ทั้งพวก Darkspawn และต้นไม้บ้า ซึ่งก็ไม่ได้อันตรายเท่าไหร่หรอก Werewolf เคลื่อนที่เร็วและมีท่าคร่อมเรา แนะนำว่าลงมือก่อนได้เปรียบในช็อตนี้ ... ต้นไม้บ้าแพ้ไฟนะครับ ส่วน darkspawn ก็รู้ๆกันอยู่ อย่าลืมว่าการยิงล่อคือสุดยอดกลยุทธ์



Special Side Quest :: Mages Treasure (นิยมเรียกว่าเควส Revenant)
เป็นเควสย่อยเอาเกราะ Juggernaut สุดยอดเกราะของ Warrior ซึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ... ในป่าจะมีหลุมศพ (Grave) อยู่ ถ้าไปขยับจะมี Revenant เพื่อนซี้เราชื่อแดงปรากฏกายพร้อมฝูง Undead โดยจะมีทั้งหมด 3 แห่ง ฆ่าหมด 3 แห่งจะได้เกราะส่วนแขน , ขา , หัว

.. เมื่อเราไปถึงวิหารส่วนลึก จะมีห้องที่มีบ่อน้ำและแท่นบูชาอยู่ ให้ทำตามนี้ครับ
1.เอาน้ำเติมเหยือก แล้ววางเหยือกบนแท่น
2.คุกเขาสวดมนต์
3.จิ้บน้ำ
4.เทน้ำจากเหยือกกลับคืนในบ่อ

เสร็จแล้วก็เข้าไปเอาเกราะชิ้นสุดท้ายมาเลยครับ

ปล.ลักษณะ Revenant ก็อย่างที่ผมเคยวิเคราะห์ไป กรณีนี้จะยากหน่อยเพราะเป็นระดับ Boss แถมยังมีลูกน้องด้วย ผมจึงทำคลิปตัวอย่างอีกครั้งนึงนะครับ สำหรับ Revenant ที่หลายคนมีปัญหา (พวกลูกน้องมันก็ Immune ต่อธาตุน้ำแข็งนะครับ ลำบากหน่อยสำหรับคนเล่นเมจสายน้ำแข็งเช่น Morrigan)

คลิปตัวอย่าง (ใครที่ผ่านแล้วไม่ต้องดูก็ได้ครับ)
[Link]





ไล่บี้พวกหมาป่าไปจนกระทั่งมันหนีไปถึงวิหาร คุณจะพบว่าพวกหมาป่าพากันปกป้องเจ้านายโดยดันประตูไว้ไม่ให้คุณเข้าไปในรังของพวกมันได้


Tips and Tricks
ก่อนเข้าวิหารแนะนำให้เผื่อที่ว่างในกระเป๋าอย่างน้อย 50 ช่อง จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา



คุณต้องอ้อมลงไปยังส่วนลึกของวิหารที่เต็มไปด้วยแมงมุมพิษและพวก undead กระทั่งพบกับศัตรูที่ท้าทายอีกครั้ง


Enemy Analysis :: Dragonling

มังกรที่แท้จริง ลักษณะคล้าย Drake แต่โหดกว่า คือ อัดแรง ฉกกระเด็น ขึ้นคร่อมได้ พ่นไฟอีกต่างหาก แล้วยังมีท่าผลักหมู่หรือสตันหมู่ที่คล้ายๆกับท่าของ High Dragon ด้วย ... วิธีจัดการก็แบบเดียวกับ Drake ครับ คือใช้สกิลหยุดทุกท่าก็จะยุติการต่อสู้ลงได้อย่างไม่ยาก (อย่าปล่อยให้มันโจมตีเชียว ไม่งั้นงานเข้าแน่ขอเตือน)



ลงลึกจนถึงชั้นล่างสุดของ Ruin คุณจะได้พบกับ Boss Arcane Warrior รอคุณอยู่


Tips and Tricks
บอส Arcane Warrior ตัวนี้สู้ค่อนข้างยากนะครับเพราะมันจะวาร์ปไปวาร์ปมา จะเป็นการดีถ้าทีมคุณกินยาต้านทานสายฟ้ามาก่อน (Grounding) อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าถ้าคุณเล่นตามวิธีผมมาโดยตลอดคุณจะพบว่าเจ้าบอสตัวนี้มีจุดอ่อนอย่างนึง เป็นจุดอ่อนที่ไม่น่าให้อภัยซึ่ง Bioware คงทำพลาดน่ะครับทำให้สามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายๆ ...

อย่างไรก็ตามถ้าคุณยังเล่นไม่ถึงตรงนี้ผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งดูคลิปนี้นะครับ ผมคิดว่าคุณน่าจะภูมิใจมากกว่านะถ้าคิดวิธีฆ่าได้ด้วยตนเอง ถ้าคิดไม่ออกจริงๆค่อยดูคลิปผมข้างล่างนี่ ...

[Link]




ลุยจนอ้อมกลับมายังรังหมาป่าอีกทางนึง พวกหมาป่าเริ่มจะยอมแพ้เราแระ เพราะรู้ว่าสู้เราไม่ไหว มันพาเราไปเจรจากับหัวหน้า Lady of Forest เธอจะบอกว่า Zathrian บอกเราไม่หมดหรอก รู้ไหมว่าจริงๆแล้วคำสาปเนี่ยมันก็เกิดจากตัว Zathrian เองนี่แหละ (รายละเอียดเพิ่มเติมไปอ่านได้ที่ส่วน Spoil ของคุณ Violent) เราเลือกได้ 3 ทาง

1.อดีตเป็นไงไม่สน ฆ่า Winterfang ให้ได้ก็พอจบ (ยากสุด)
2.ร่วมมือกับพวกหมาป่าไปถล่มหมู่บ้านเอลฟ์แทน เพื่อให้หมาป่ามาช่วยเราสู้ Darkspawn (มันส์สุด)
3.หาทางเจรจากับ Zathrian ให้ยุติคำสาป (ประทับใจสุด แต่ได้ของน้อยสุด)

อย่างไรก็ตามถ้าจะแก้คำสาป ทั้งตัว Zathrian กับ Lady of Forest ก็จะต้องตายเป็นผลพลอยได้ เพราะทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของคำสาป ...


----------------------------------------------------------



Paragon of Her Kind

เควสสุดท้ายของ The Blight แล้วนะครับ เป็นเควสที่ซับซ้อนและยาวที่สุด เราจะไปเมืองคนแคระกัน ให้ไปยัง Frost Mountain ทางซ้ายของแผนที่ หน้าประตูทางเข้าเราจะพบว่าตอนนี้ทางเมืองคนแคระกำลังเผชิญวิกฤตใหญ่หลวง (เจอวิกฤตทุกที่ที่ไปเลยสิน่า พวกเรานี่เป็นโมริ โคโกโร่จริงๆ) นั่นก็คือตอนนี้ที่นี่ยังไม่มี King ที่จะมาตัดสินใจได้ว่าจะช่วยเราสู้กับ Darkspawn หรือไม่ (เห้ย ไหงเป็นงั้น ?-?)

Orzammer
เมืองใต้ดินที่โคตรยิ่งใหญ่ตระการตาของเผ่าคนแคระ แต่มาถึงก็ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก เราได้พบว่าขณะนี้พวกคนแคระแบ่งเป็นสองฝ่ายคือเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง เอ้ยไม่ช่ายยยย ฝ่าย Bhelen ลูกชายของ King Endrin ที่เพิ่งตายไป กับฝ่าย Harrowmont ขุนนางเฒ่าคนสนิทอดีต King แถมมากระซวกกันต่อหน้าเราซะอีกนี่ แล้วจากข้อมูลดูเหมือนคะแนนเสียงทั้งสองฝ่ายจะพอๆกันแบบ 50/50 เสียด้วย สงครามกลางเมืองอาจจะเกิดได้ทุกเมื่อ

สำรวจเมืองเช่นเคย เมืองคนแคระใหญ่มาก มีทั้งหมด 3 ชั้นแบ่งตามระดับฐานะคือ ชั้นสามัญชน (common) ที่เรามาถึง , ชั้นบนคนตระกูลสูง (Diamond) และชั้นล่างพวกคนยากจน (Dust town) ... เราจะถูกบังคับให้ต้องเลือกช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้เป็น King โดยแต่ละฝ่ายจะมีค่าตอบแทนว่าถ้าเขาได้เป็น King แล้วจะส่งทหารมาช่วยเราสู้ Darkspawn (การเมืองจริงๆ)


Tips and Tricks
ในราชวัง (Royal Palace) มีสุดยอดดาบลับ Ageless ซ่อนอยู่ โดยจะมีกลไกอยู่ 3 แห่ง ให้กด H แล้วเอาเพื่อนไปเหยียบคาไว้ทุกอัน อันแรกอยู่ที่ห้องโถงที่เข้ามาถึง อีก 2 อันอยู่ในห้องบัลลังค์ตรงมุมซ้ายล่าง (ถ้าเหยียบถูกจะมีเสียงกลไก) จากนั้นให้คนที่เหลือไปกดสวิตซ์ที่เก้าอี้ครับ



Special Side Quest :: Precious Metal (ส่งของเถื่อน)
การที่ Templar มีพลังพิเศษนั้นเป็นผลมาจากการดื่ม Lyrium แต่ถ้าดื่มมากก็จะทำให้ติดได้ หรือพูดอีกแง่ Lyrium นั้นเป็นเสมือนยาเสพย์ติดสำหรับ Templar .... ที่ Dust Town คุณจะเจอนาย Rogek อยู่ หมอนี่เป็นพ่อค้า Lyrium เถื่อน เนื่องจากสถานการณ์การเมืองตอนนี้ทำให้เขาออกไปส่งของลำบาก เขาได้เสนอให้คุณช่วยนำแร่ Lyruim ที่เขามีไปส่งให้กับลูกค้าเขาแทนที่ Circle of Magi แล้วเขาจะมีค่าตอบแทนงามๆให้เรา ถ้าเราฆ่าเขาเลยตอนนี้เราจะได้มาเน่อะๆ 25 Gold แต่ประเดี๋ยวก่อน ไม่ลองทำธุรกิจผิดกฏหมายดูหน่อยหรือ

ถ้าจะทำธุรกิจกับเขา คุณต้องจ่ายเงินก่อนเพื่อเป็นหลักประกันว่าคุณจะไม่เชิ่ดของแล้วหนีหายไป ถ้าคุณมี Skills Coercion สูง คุณต่อรองได้จ่าย 40 Gold จากนั้นนำของไปที่หอคอยเมจชั้น 2 นาย Godwin (เมจที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า) จะจ่ายให้คุณ 65 Gold + มีดสั้นชั้นดี ถ้าคุณขู่ Godwin ต่ออีกว่าจะนำเรื่องนี้ไปบอก Greagoir มันจะจ่ายเราเพิ่มอีก 8 Gold จากนั้นกลับไปหา Regek ต่อรองอีกที เอาค่าเหนื่อยอีก 25 Gold

สรุปรวบยอด (-40) + 65 + 8 + 25 = 58 Gold กำไรล้วนๆ อย่าให้พลาด ^-^
ปล.เงินส่วนนี้ขึ้นกับความสามารถในการเจรจาของตัวละครด้วยนะครับ 58 Gold คือขั้นสูงสุดแล้ว


Tips and Tricks โดยคุณ lunaticchild
ตรงนี้ นอกจากจะได้ 58 ทองแล้วเราสามารถ ล้วงกระเป๋า Regek ต่อได้ครับได้เงินเพิ่มอีกนิดนึง แต่ก็หลายทองอยู่เหมือนกัน





เลือกใครก็ได้ที่คุณชอบ หรือจะลองสอบถามจะชาวเมืองก็ได้ว่าจะเลือกใครดี
1.ช่วย Bhelen คุณต้องไป lobby พวกคนมีตระกูล (ง่าย)
2.ช่วย Harrowmont คุณต้องสู้ในสนาม Proving ที่เป็นโดมต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคนแคระในฐานะชื่อของ Harrowmont ให้ชนะนักสู้ของ Bhelen ให้หมด (มันส์)


Tips and Tricks โดยคุณ lunaticchild
เควส Paragon of Her Kind ใ้ห้ระวังการเลือกข้างให้ดี
มีครั้งหนึ่งผม รับมาของทั้งสองฝ่าย แล้วผมก็ไป ล๊อบบี้ ตามเควสของฝั่ง เบเลน เสร็จแล้วผมดัน ไปสู้ในสนามประลอง ให้เควส ฮอรอวเมนท์
หลังจากนั้นตัว ที่จะดำเนินเควส ต่อของทั้งสองฝั่ง ไม่ยอมให้เควสต่อกับผมครับ มันบอกว่า ให้ไปสืบว่าฝ่ายตรงข้ามให้ไปทำอะไรต่อ ทั้งคู่เลย ทำให้ ต้องเล่นใหม่อีกรอบ - - ระวังกันหน่อยนะครับ


หลังจากนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายไหน พวกเขาจะมอบงานถัดไปให้คุณ นั่นคือการไปฆ่าจอมโจรสาวที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองคนแคระนามว่า Jarvia แล้วเขาจะเอาเครดิตฆ่า Jarvia ให้ตนเอง

ไปที่ Dust Town สอบถามพวกขอทานถึงที่ซ่อนของ Jarvia เข้าไปยังบ้านหลังสุดท้ายจะเจอลูกน้องของมัน ฆ่าแล้วเอา Token มาเปิดประตูของบ้านที่ก่อนหน้านี้เปิดไม่ได้


Tips and Tricks
ก่อนบุกรังโจรกระเป๋าควรมีที่ว่างอย่างน้อย 50 ช่อง



ลุยไปเรื่อยๆจนพบกับ Jarvia ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ยากไม่ใช่เล่น


Enemy Analysis :: Jarvia

แค่ Boss Rouge ธรรมดาแต่ปัญหาคือเธอมีพวกพ้องที่โหด (ระดับ Elite งี้) ในห้องยังมีกับดักระเบิดปกป้องตัวเธอไว้ ซึ่งจะไปแก้ตอนสู้ก็กระไรอยู่ก็ต้องยอมโดน แถมสู้ๆไปจนถึงจุดนึง เธอยังเรียกพวกชุดสองมาเสริมอีก ถ้าคุณมาที่นี่เป็นที่แรกก็บอกตรงๆว่าหืดมากครับ ขอให้เตรียมยาให้พร้อม แล้วกินยาต้านไฟก่อนสู้ด้วยก็ดี ถ้าเล่นตาม Guide ผมก็จะง่ายหน่อยเพราะเรามาถึงที่นี่ในสภาพที่ชุดเกราะ + สกิลครบเครื่องแล้ว มีเทคนิคนิดหน่อยคือตรงกลางห้องที่มีกับดักเนี่ย พวกศัตรูก็โดนด้วยเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเห็นจังหวะศัตรูไปนัวอยู่แถวนั้นเยอะๆก็ให้ตัว tank วิ่งเข้าไปเตะกับระเบิดเลยครับ มันโดนหนักกว่าเราแน่

คลิปตัวอย่าง (อันนี้บังเอิญ sten เตะถูกจังหวะพอดี )
[Link]



กลับมาที่เจ้านายเรา เขาจะบอกว่าฝ่ายตรงข้ามมันรู้ทันเรื่องเราไปฆ่า Jarvia มันเลยเร่งการเลือกตั้งเร็วกว่าเดิมให้เลือกตั้งอีกสองวันข้างหน้า ทำให้เรากระจายข่าวเรื่องนี้ไปยังประชาชนไม่ทัน เขาจึงขอร้องเราอีกครั้งให้เราตามหา Branka ผู้เป็น Paragon (คล้ายๆผู้คุ้มกฏ) ของเมืองคนแคระมา ซึ่ง Paragon นั้นมีอำนาจในการออกเสียงอย่างมาก ถ้า Branka เลือกโหวตเขา เขาก็จะชนะอีกฝ่ายอย่างไม่ต้องสืบ (อ้าวเฮ้ย ไม่ประชาธิปไตยนี่หว่า ทุกคนมันต้อง 1 เสียงเท่ากันสิฟะ)

Branka หายตัวไปนานหลายปี ได้ยินว่าเธอเข้าไปใน Deep Road (อาณาจักรใต้ดิน) เพื่อค้นหา Anvil of Void สิ่งประดิษฐ์สุดยอดในอดีตที่สามารถสร้างโกเล็มได้

ทางเข้าไป Deep Road เราจะพบ Orghen ผู้เป็นสามีของ Branka (เห้ย ไอ้ขี้เมาแบบนี้เนี่ยนะได้เป็นเมียของ Paragon) เขาได้ยินว่าเราจะค้นหา Branka จึงออกมาดักรอที่จะไปพร้อมพวกเรา

ใน Deep Road ถ้าคุณมาที่นี่เป็นที่สุดท้ายตามไกด์ผม การลุยก็จะง่ายมากครับ ศัตรูมีแต่ Darkspawn เดิมๆ กับ deep stalker ไดโนเสาร์ตัวจิ๋ว ที่นี่ยังมีภูมิประเทศที่ใช้เทคนิคยิงล่อได้หลายจุด ไปสบายๆครับถ้าไม่รีบมากก็ไม่ตายอยู่แล้ว

Deep Road จะแบ่งย่อยออกเป็นหลายส่วน
1.Aeducan Thaig สำหรับคนที่ช่วย Bhelen จะได้มาที่นี่ก่อนอยู่แล้ว บริเวณนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการตามหา Branka แต่ว่าไปเก็บ xp กับไอเท็มก็ง่ายดี
2.Caridin Cross ทางผ่านไป Ortan Thaig
3.Ortan Thaig มีพวกวิญญาณขาว สุดทางเจอบอสแมงมุม ก็สนุกพอสมควร
4.The Dead Trenches ความท้าทายเริ่มมีมากขึ้นเพราะเราบุกรัง darkspawn เลยตอนนี้ เราจะได้พบกับ Kardol ผู้เป็นแม่ทัพคอยต้าน Darkspawn จากตรงนี้ไม่ให้บุกไปยังเมืองคนแคระได้ ลุยไปเรื่อยๆกระทั่งสุดทางพบกับบอสสุดสยอง + น่าขยะแขยงที่สุดใน Dragon Age


Enemy Analysis : Brood Mother

น่าขยะแขยงมากกว่าน่ากลัวซะอีก ไอ้นี่มันร่างสองของ Butcher ใน Dot A หรือเปล่านี่ แต่เห็นอย่างนี้นี่เป็นบอสที่ยากมากๆของเกมส์เลยนะครับ ตัวมันอึดมากๆ มีหนวด Elite 4 อันคอยมากวนเรา แถมสู้ๆไปมันยังเรียก Darkspawn มาสู้กับเราอีก ถ้าใครมาที่นี่แรกๆเลยตรงนี้จะเป็นจุดหืดมาก (ผมถือว่าเป็นบอสที่ยากอันดับ 4 ของเกมส์เลยนะ รองจาก Archdemon , High Dragon และ Flemeth)

จู่โจมหนวดของมันก่อน เน้นสกิล AOE เข้าไว้ ปั้มยาไปเรื่อยๆ เนื่องจาก Butcher เอ้ย Brood Mother (>,<) มันไม่เคลื่อนที่เลย เราจึงสามารถลงเวท AOE ใหญ่ๆอย่างพวก Blizzard ได้ ยังไงมันก็รับเต็มๆ (จริงๆกรณี Flemeth ก็ลงได้เหมือนกันนะครับถ้ามีท่าแล้ว)

http://www.youtube.com/watch?v=c4lLhmeAnCM

ปล.ในคลิปนี้มีการใช้เวท Storm of Century ก็จริง แต่นั่นไม่ใช่ของจริงครับ ผมอ่านไกด์อังกฤษและลองใช้คอมโบ Blizzard + Tempest + Inferno แต่ว่ามารู้ภายหลังว่านั่นไม่ใช่ของแท้ก็หลังจากที่ผมทำคลิปนี้ไปแล้ว ที่ถูกต้องคือ Blizzard + Spell Might + Tempest ครับ
ปล.2 แต่ยังไงก็ตามคลิปนี้ผมทุ่มทุนสร้าง Title อย่างมาก อยากให้ได้ดูกันทุกคนนะครับ ^-^



5.Anvil of the Void
สุดทางกันแล้ว ที่นี่เราจะถูกบังคับให้นำ Orghen ร่วมทีม แถมยังกลับออกไปไม่ได้อีกจึงควรเตรียมยา + ที่เก็บของให้พร้อมซัก 30 ช่อง ... เราจะได้พบกับ Branka ที่ดูเหมือนคนบ้าไปแล้ว เพราะเธอคิดแต่จะค้นหา Anvil of the Void โดยไม่สนใจพวกพ้องที่เธอพาไปตายเลย ... ไปจนสุดทางจะพบศัตรู ไม่สิ ต้องเรียกว่าระบบป้องกันขั้นสุดท้ายมากกว่า (แถมโหดเอาการ)

Enemy Analysis :: Spirit Anvil (ไม่แน่ใจว่าชื่อนี้ไหม)


น่าปวดหัวที่สุด ! ทั่งนี่จะคอยปล่อยวิญญาณขาวออกมา วิธีทำลายมันได้คือต้องทำลายวิญญาณขาวก่อน แล้วไปกดที่แท่นแถวนั้นก็จะปล่อยพลังสร้างความเสียหายแก่มันได้ ทำไปเรื่อยๆก็จะชนะ แต่ที่ผมรำคาญที่สุดก็คือตัวแม่ Spirit Anvil เองเนี่ยจะคอยปล่อยไอพลังดำมาทำร้ายเรายกทีมอย่างต่อเนื่อง แล้วเราไม่สามารถใช้สกิลหยุดใส่มันได้ หมายความว่าเราต้องคอยปั้มยาไปเรื่อยๆระหว่างที่สู้กับวิญญาณขาว ... เหอะๆ ถึงจะมี Lyrium vein อยู่ใกล้ๆสองอันแต่มันก็ไม่พอกินหรอก ผมมันเป็นพวกเกลียดการปั้มยาเข้าสู้ซะด้วยจึงลองคิดหาวิธีที่จะสู้กับมันดูว่าแบบสบายๆมีไหม

และในที่สุดผมก็ค้นพบแล้วครับ วิธีจัดการมันได้แบบง่ายๆเลย เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าเล่นเกมส์นี้หัวใจคือกลยุทธ์

คลิปตัวอย่าง (ลักไก่อีกแล้วครับท่าน)
[Link]


ผ่านระบบป้องกันมาได้เราจะพบกับ Caridin ผู้เป็นคนสร้าง Anvil of Void และเป็นคนนำมันมาซ่อนไว้ เขาก็เป็น 1 ใน Paragon เช่นกัน ที่เขานำมาซ่อนเพราะว่า Anvil of Void เนี่ยสร้างโกเล็มได้ก็จริงแต่ก็ต้องแลกกับชีวิตคนเช่นกัน ด้วยสิ่งนี้ทำให้คนตายไปมาก (รายละเอียดอ่านได้ในส่วน Spoil ของคุณ Violent) เราจะได้เลือกว่าจะอยู่ฝ่าย Caridin คือทำลาย Anvil of Void (ฝายธรรมะ) หรือ Branka คือนำมันมาใช้ ถ้าเลือก Branka เราจะได้กองทัพโกเล็มมาช่วยสู้ Darkspawn ด้วยนะ

Tips and Tricks
การต่อสู้ตรงนี้มี Lyrium Vein เต็มไปหมด ใช้มันให้เป็นประโยชน์ (Branka มี Control Rod อยู่ทำให้สามารถบังคับ Golem ส่วนหนึ่งมาเป็นพวกเธอได้) ก็คิดว่าไม่ยากอะไรนะครับ



จบเสียที Paragon of Her Kind ^_^

Tips and Tricks
หลังจากจบเควสคนแคระแล้ว ให้ไปคุยกับ Shale เราจะได้เควสพิเศษมานะครับ คือเควสค้นหาอดีตของ Shale ที่อยู่ใน Deep Road

-------------------------------------------------------


The Landsmeet


ได้เวลาจัดการกับ Loghain แล้วนะครับ ใครมี side quests อะไรเหลือให้ทำให้เรียบร้อยก่อน เมื่อพร้อมแล้วให้ไปที่ Red Cliff Castle คุยกับ Arl Eamon เขาจะพาเราลุยเมือง Denerim กัน

Denerim
มาถึงปุ๊บก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีเลยนะนี่ คนที่อยู่ข้างๆ Loghain คือ Arl Howe นะครับ ถ้ามาจาก human noble ก็ไอ้หมอนี่แหละครับที่ทรยศพ่อเรา (เตรียมชำระแค้นได้) ปะทะคารมกันพอประมาณก็จากไป Arl Eamon จะพาเรามายังคฤหาสน์ส่วนตัวของเขาใน Denerim และบอกเราว่าช่วงนี้ยังเหลือเวลาอีกหน่อยก่อนที่จะเริ่ม Landsmeet ให้เราออกไปสืบข้อมูล + หาการกระทำชั่วๆของ Loghain ซะ เพื่อที่จะเอามาเป็นประเด็นเพิ่มเติมใน Landsmeet

ที่ห้อง Arl Eamon เราจะพบสาวใช้ของ Queen Anora ( Anora คือสาวสวยที่โผล่ใน movie บ่อยๆ เธอเป็นภรรยาของ King Calian ที่ตายไปและเป็นลูกสาวของ Loghain) ... สาวใช้บอกว่า Anora ถูกจับตัวไว้ในคฤหาสน์ของ Arl Howe เพราะลอบเข้าไปถามความจริงเรื่อง King Calian ตาย ตัว Anora เองก็อยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เพราะฝ่ายหนึ่งก็เป็นพ่อ อีกฝ่ายก็สามี เมื่อพ่อทรยศสามีจะให้เธอทำเช่นไร .... Arl Eamon เสนอให้เราช่วย Anora ออกมาเพราะน่าจะใช้เธอเป็นกำลังสำคัญใน Landsmeet ได้

Arl of Denerims Estate
ก่อนไปเตรียมยาให้พร้อมเช่นเคย คนใช้จะพาเราลอบไปด้านหลังคฤหาสน์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะปลอมเป็นทหารเข้าไปไหมหรือจะลุย
ไปตรงๆเลยก็แล้วแต่ เมื่อถึงห้องที่ Anora อยู่จะพบว่าห้องถูกผนึกด้วยเวทมนตร์อีกที คุณต้องไปฆ่าตัวการ Arl Howe ก่อนเวทถึงจะหาย (ผมคิดว่างั้นนะ) ก่อนลงชั้นใต้ดินคุณจะพบ Riordan ที่เป็น Grey Warden เหมือนเรา น่าจะอาวุโสพอๆกับ Duncan (เพิ่งรู้ว่ายังมี Grey Warden คนอื่นนอกจากพวกเราอีกนะนี่) เขาบอกว่าที่นอก Ferelden มี Grey Warden อื่นอีกราว 200 คนได้ แต่พวกเขาไม่สามารถเข้ามาอาณาจักรนี้ได้เพราะ Loghain ไม่ยอมรับ Grey Warden แถมยังหาว่าเป็นต้นเหตุให้ King Cailian ตายเสียอีก เขายังชมพวกเราว่าเก่งมาก แค่สองคนรวมรวบ Treaties ได้มากขนาดนี้

ชั้นใต้ดินเราจะพบคนหลายคนถูกขังอยู่ ทั้งคนรวยคนจน ช่วยแล้วเราก็จะได้ quest สิ่งตอบแทน ... ฆ่า Arl Howe เสีย กลับขึ้นมาช่วย Queen Anora เธอจะอยู่ในชุดทหารแล้ว (ช่างเตรียมตัวดีเสียจริง) ทว่าขากลับเราจะพบกับ Cauthrien มาดักรอคุณอยู่ เธอเป็นสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของ Loghain (แถมโง่บรมอีกต่างหาก ไม่รู้เล้ยว่า Loghain มันทำชั่วอะไรไปบ้าง ก็เธอนี่แหละที่เป็นคนสั่งถอนทัพตามที่ Loghain บอกตอน Ostagar )

Cauthrien พาทหารจำนวนมากมาล้อมคุณในชัยภูมิที่ได้เปรียบ มีทางเลือกคือ
1.ยอมแพ้เพื่อเลี่ยงการนองเลือด (ถูกจับไปป้อม Drakon)
2.สู้เลยไม่ต้องพล่ามมาก (Sten ชอบใจ)
3.บอกว่ามาช่วย Queen Anora แล้วคุณจะพบว่า Queen Anora หักหลังคุณได้อย่างสะใจ (ตอนหลังเธอจะบอกว่าที่พูดแบบนั้นก็เพื่อเอาตัวรอด ไม่งั้นตัวเธอก็จะตายไปด้วย)

การต่อสู้ที่จุดนี้ยากมาก ถ้าคุณแพ้คุณจะถูกจับไปที่ป้อม Drakon (Bioware กะจงใจให้เราสู้แพ้เลยแหละ)

Tips and Tricks
การต่อสู้บริเวณนี้ถ้าสู้ตรงๆคงแพ้สถานการณ์เดียว แต่ถ้าใช้กลยุทธ์ซักหน่อยก็พอไหวครับ เริ่มมาให้รีบหนีไปยังห้องที่เดิมขัง Anora ไว้ Cauthrien จะตามเรามากับทหารไม่กี่คน จัดการเธอซะ จากนั้นค่อยกลับไปเก็บทหารที่เหลือโดยจะยิงล่อหรือใช้เวท AOE ก็แล้วแต่

ปล.ตัว Cauthrien นั้นตีแรงเวอร์มากๆ อย่าให้ตีตัวนิ่มเราเด็ดขาด ห้ามประมาทเพราะเธอคริที 100+ ได้เลย ฆ่าเธอเราจะได้ดาบ Summer Sword (ซัมเมอร์ซอร์ด) ที่เป็นดาบสุดยอดในเกมส์อีก 1 เล่ม .... แต่ถ้าเราแพ้แล้วถูกจับไปป้อม Drakon เราก็ยังมีโอกาสฆ่าเธอเอาดาบอีกครับ ไม่ต้องห่วง
ปล.2 ผมไม่ทำคลิปนะครับ เพราะขี้เกียจครับ แต่จากคลิปที่ผ่านๆมาของผมก็คงจะบอกได้นะครับว่าที่ผมพูดมาไม่ได้โกหก



ถ้าถูกจับไปที่ Drakon คุณจะมี 2 ทางเลือกคือ
1.แหกคุกไปเอง (สนุกกว่านะ)
2.รอเพื่อนมาช่วย (เลือกได้สองคน)

(ภาพจากป้อม drakon)


เมื่อหนีได้แล้วกลับมาที่คฤหาสน์ Eamon อีกที Anora จะบอกคุณว่าเธอพอมีเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการทำชั่วของพ่อเธอที่ Elven Alienage เธอยังเสนอตัวเองเป็นจ้าวครอง Ferelden อีกด้วย โดยเธอให้เหตุผลว่า Alistair แม้จะมีสายเลือด King ก็จริง แต่ Alistair ไม่รู้วิธีปกครอง ไม่รู้เรื่องการเมือง เขาจะสามารถเป็น King ได้อย่างไร นี่ยังไม่รวมกับที่แม้แต่เจ้าตัวเองยังไม่อยากเป็น King ด้วยซ้ำ ... ต้องเธอสิ ! เธอเป็นคนนำ Ferelden มากว่า 5 ปี เธอมีประสบการณ์ มีความสามารถ และมีคนนับถือมากกว่า (ผมชอบ Anora จัง เธอแกร่ง กล้าได้กล้าเสีย) แต่ Arl Eamon ก็เถียงว่าถึง Alistair จะยังด้อยความรู้ด้านการปกครอง แต่เขาก็รู้จักการสู้รบ รู้วิธีนำกองทัพเพื่อปกป้องบ้านเมือง ที่สำคัญ Alistair เป็นคนที่มีเมตตา

ยังไงก็ตามแต่ Anora ยื่นข้อเสนอว่าถ้าเราตกลงช่วยให้เธอเป็นผู้ครอง Ferelden แทน Alistair เธอก็จะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เราใน Landsmeet ขึ้นกับคุณแล้วว่าจะเลือกใคร Alistair หรือ Anora ? หรืออาจจะมีทางเลือกที่น่าสนใจกว่านั้น ?? (ต้องกลับไปให้คำตอบ Anora ที่ห้องของเธอด้วยว่าตกลงเราจะเอาไง)

Tips and Tricks
คุยกับ Riordan ถามถึงที่ซ่อนลับของ Grey Warden ใน Denerim จากนั้นไปที่ Warehoure เข้าประตูลับไป ในนั้นมีโล่ห์ Duncan ซึ่งถือเป็นโล่ห์ที่ดีที่สุดในเกมส์



Elven Alienage
ที่นี่คือหมู่บ้านของเอลฟ์ซึ่งมีประชากรมากกว่าใน Dalish Camp แต่ว่าผิดกันคือเอลฟ์ที่นี่ตกเป็นทาสของมนุษย์ ไม่มีการฝึกฝนด้านการต่อสู้ใดๆทั้งสิ้น ... คุณพบว่าที่นี่มีโรคระบาด (Plague) อยู่ ที่น่าแปลกคือมีพวกเมจจาก Tevinter (เมืองนอก Ferelden) มาอาสารักษาให้ แต่คนที่ถูกรักษากลับไม่ได้กลับออกมาจากเขตกักกันอีกเลย ไม่มีใครสามารถเข้าไปในเขตกักกันได้

ฝ่าพวกเมจเข้าไปในบ้านเขตกักกัน คุณจะพบว่าไม่มีใครเลยซักคน ตามรอยเข้าไปยังอพาทเมนท์หลังเมือง เราจะพบว่าพวก Tevinter มีการขนเอลฟ์เหล่านี้เพื่อไปขายยังต่างแดน (ง่ายๆคือค้าทาส) และเรื่องนี้ Loghain ก็รู้เห็นด้วย จัดการกับหัวหน้าเมจศัตรูซะ หรือจะต่อรองก็แล้วแต่

Tips and Tricks
ถ้าสู้กัน เริ่มมารีบวิ่งเข้าห้องด้านหลังเพื่อหลบท่า Blizzard ของมัน พอหมดฤทธิ์ค่อยกลับไปบวก หรือถ้าคุณมี AOE ใหญ่ๆเช่น Blizzard ก็สวนคืนมันไปเลยครับ ล้างคนในห้องให้หมดแล้วค่อยฆ่าตัวหัวหน้า


กลับมาที่คฤหาสน์ Arl Eamon เพื่อบอกเรื่องนี้ เขาบอกทุกอย่างพร้อมแล้ว และจะไปรอเราที่ Landsmeet


The Landsmeet (ใน Royal Palace)
ทุกอย่างที่คุณทำมาจะส่งผลในตอนนี้ ภายใต้การเฝ้ามองชนชั้นสูงจำนวนมากจากทั่วอาณาจักร ให้คุณพยายามพูดถึงเรื่องชั่วของ Loghain เข้าไว้ในขณะที่มันก็จะพูดใส่ร้ายป้ายสีเราเหมือนกัน (แม้ Loghain จะเลว แต่ผมก็ยอมรับไว้ไอ้หมอนี่มันวาทศิลป์ดีจริงๆ) เมื่อคุณชนะ Landsmeet ไอ้ Loghain จะไม่ยอมรับและท้าคุณดวลแบบ 1 ต่อ 1 จัดการมันซะเป็นอันปิดฉากเรื่องนี้เสียที

Tips and Tricks
เตือนไว้ก่อนว่าคุณสามารถแพ้ Landsmeet ได้นะครับ ซึ่งถ้าแพ้ คุณสามารถกบฏจนชิงบัลลังก์มาได้ก็จริง แต่แน่ใจหรือว่าอยากถูกผู้คนตราหน้าว่าเป็นพวกกบฏน่ะ


เสร็จเรื่องแล้ว Arl Eamon จะบอกเราว่าเขาจะกลับไป Red Cliff เพื่อเตรียมกองทัพสู้กับ Darkspawn ถ้าเราไม่มีธุระอะไรอีกก็ให้ตามเขามาที่ Red Cliff


จบ Landsmeet
========================


The Final Onslaught


ถึง Quest สุดท้ายของเกมส์กันซักทีนะครับ ใครที่ยังเหลือ Side Quest ที่อยากทำอยู่ก็ให้ทำเสีย เพราะหลังจากนี้คุณจะทำไม่ได้อีกแล้ว ตุนยา Heath กับ Lyrium ระดับสูงๆไปให้มากที่สุด ไอเท็มที่จำเป็นต้องใช้ก็เตรียมไปให้พร้อม ไม่จำเป็นต้องประหยัดเงินกันอีกแล้ว ไปกว้านซื้อของดีๆมาใช้กันด้วย เช่นพวก Tome หรือพวก Rune ระดับ Grand Master เป็นต้น ของที่เหลือๆก็ไปให้กับพวกขอรับบริจาคใน แคมป์เรานะครับ เมื่อพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยที่ Red Cliff Village


Red Cliff Village


คุณพบว่าที่นี่ถูกพวกกองทัพ Darkspawn โจมตีเสียแล้ว ถึงจะมีจำนวนเยอะแต่ก็ไม่ยากหรอกครับ เพราะพวกนี้ถูกลดระดับ lv ให้อ่อนกว่าเรามากๆ ยกเว้นตัวระดับ Elite หรือ Boss ที่ต้องระวังกันนิดนึง จัดการหมดแล้วไปที่ปราสาท Red Cliff

ที่ปราสาทคุณจะพบ Arl Eamon กับ Riordan ซึ่ง Riordan จะบอกเราว่าเขาเห็นกองทัพ Darkspawn จำนวนมากมุ่งหน้าไปที่ Denerim มิหนำซ้ำยังเห็น Archdemon มาด้วยอีกต่างหาก เราจะรีบเตรียมพลยกไปช่วย แต่คิดว่าคงไปไม่ทันการ ... ...

ที่ห้องชั้นสอง Riordan จะบอกเราถึงเรื่องที่ Duncan ไม่ได้บอกเรามาก่อนเพราะเรายังเป็น Warden เด็กใหม่อยู่ นั่นคือการที่จะฆ่า Archdemon นั้นแค่ฆ่าอย่างเดียวไม่พอ เพราะ Archdenom จะย้ายวิญญาณไปสิง darkspawn ที่อยู่ใกล้ที่สุดแทน วิธีที่จะฆ่ามันได้คือต้องให้ Grey Warden เป็นคนฆ่าเท่านั้น เพราะ Grey Warden มีเลือดพิษ Darkspawn อยู่ในร่าง วิญญาณของ Archdemon จะสิงในร่าง Warden แทน แต่เพราะ Warden มีชีวิตจิตใจไม่เหมือนพวก Darkspawn ผลก็คือวิญญาณ Archdemon จะสลายไป ในขณะที่วิญญาณของ Grey Warden คนนั้นเองก็จะสลายไปด้วยเช่นกัน (ง่ายๆก็คือการฆ่า Archdemon ต้องสละชีวิต Warden 1 คน ผู้ซึ่งเป็นคนลงดาบสุดท้าย) . Riordan บอกว่าโดยปกติ Warden ผู้ลงดาบสุดท้ายจะต้องเป็นผู้อาวุโสที่สุดในกลุ่ม หรือก็คือเขาจะเป็นคนยอมเสียสละเอง แต่ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไปก่อนหน้านั้น งานนี้ก็จะต้องเป็นของเรากับ Alistair รับช่วงต่อ น่าเสียดายที่กองกำลัง Warden ที่เมืองอื่นไม่อาจมาได้ทันเวลา ศึกนี้จะมี warden แค่ 3 คนเท่านั้น และถ้าเรา 3 คนตายหมดจะไม่มีใครฆ่า Archdemon ได้อีก Ferelden ก็จะพินาศ

กลับมาที่ห้องพักเราจะพบ Morrigan ซึ่งเธอจะบอกเราว่าเธอรู้เรื่องที่เราคุยกับ Riordan แล้ว และเธอมีทางรอดให้เราแบบไม่ต้องให้ใครตายเลย นั่นคือก่อนไปรบเธอจะขอมีลูกกับเราก่อน เด็กที่อยู่ในครรภ์จะมีเชื้อของ Darkspawn ด้วย เมื่อสังหาร Archdemon แล้ว วิญญาณของ Archdemon จะมาสิงที่เด็กในครรภ์เธอแทน ผลก็คือ Archdemon จะตาย ส่วนตัวของเด็กนั้นเพราะเป็นวิญญาณบริสุทธิ์จึงยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจทำให้ตัวของเด็กเกิดความเปลี่ยนแปลงซึ่งเธอก็ไม่ยอมให้คำตอบเราว่าหลังจากนั้นเด็กจะกลายเป็นอะไรต่อไป นอกจากนี้หลังจากเสร็จศึกแล้วเธอก็จะขอพาลูกในครรภ์หนีหายไปตลอดกาลด้วย ... ... Morrigan ยืนกรานเรื่องนี้อย่างหนักแน่น ถ้าเราไม่ตกลงเรื่องนี้หรือเป็นตัวละครผู้ ญ เธอจะขอไปมีลูกกับ Alistair แทนก็ได้ และถ้าเรายังไม่ยอมอีกเธอจะขอออกจากกลุ่มโดยที่เราห้ามไม่ได้เลย


---------------------



---------------------

Denerim


ศึกสุดท้ายกันแล้วนะทุกคน ที่ Denerim พังพินาศไปแล้วแหละ แต่ยังไงเราก็ต้องฆ่า Archdemon ให้ได้ จัดการพวก darkspawn ที่ประตูเมืองให้หมด Riordan จะให้เราแบ่งเป็นสองทีม ทีมแรกบุกไปฆ่า Archdemon ส่วนทีมที่สองคอยเฝ้าพื้นที่บริเวณนี้ไม่ให้พวก darkspawn กำลังเสริมมาช่วยเจ้านายของมันได้ ร่ำลากันเรียบร้อยแล้ว Riordan จะแนะนำให้เราไปฆ่าสองแม่ทัพมือซ้ายมือขวาของศัตรูก่อนแล้วค่อยไปเก็บ Archdemon โดยตัวเขาเองจะแยกตัวไปต่างหาก

เลือกไปที่ไหนก่อนก็ได้ทั้งในส่วน Market และส่วน Alienage


Tips and Tricks
ช่วงนี้คุณสามารถเรียกกำลังเสริมที่คุณมีได้โดยกดที่แถบด้านขวาของจอ


จัดการแม่ทัพเสร็จแล้วไปที่ส่วนราชวัง Riordan ได้ช่วยทำให้ Archdemon บินหนีไม่ได้อีกแล้ว เป็นโอกาสทองของเราที่จะบุกขึ้นไปยังป้อม Drakon ซึ่งมีพวกลูกน้องมันยั้วเยี้ยไปหมด การต่อสู้ช่วงนี้จะหืดขึ้นเรื่อยๆ ก็หวังว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาจะทำให้คุณผ่านมันไปได้

ป้อม Drakon
ที่นี่คุณจะพบพวก Darkspawn ระดับสูงต่างๆ ลุยไปเรื่อยจะพบ sandal ผู้น่าสงสาร โอกาสสุดท้ายที่คุณจะซื้อของและทำ enchantment แล้ว ... ฝ่าฟันความลำบากมากมายไปจนสุดทางที่ชั้นสอง ในที่สุดคุณก็มาถึงบอสใหญ่ของเกมส์ซะที

Enemy Analysis :: Final Boss :: Archdemon

ไม่มีคำแนะนำใดๆอีกแล้วสำหรับบอสตัวสุดท้ายนี้ คุณต้องใช้ทุกอย่างที่คุณเรียนรู้มาในการจัดการกับมันด้วยตัวเอง โชคดีอย่างเดียวคือการต่อสู้นี้คุณสามารถเรียกกำลังเสริมได้ นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน ขอให้อย่ากลัว จัดการมันเสียคุณก็จะพบฉากจบของเกมส์นี้ซะที

คลิปฆ่า Archdemon
[Link]

ปล.นี่คือคลิปสุดท้ายของผมแล้วนะครับ ผมใส่ทุกอย่างลงไปยาวกว่า 6 นาที ใช้เวลาตัดต่อสองวันได้ แนะนำให้รอโหลดให้เต็มก่อนแล้วค่อยดูทีเดียวนะครับ เพื่อจะได้ดูไม่สะดุดอารมณ์
ปล.2 คลิปนี้มีการโชว์คาถาที่มีพลังทำลายล้างมากที่สุดในเกมส์ Storm of the Century นะครับ รอบนี้คือของจริงครับ เชิญรับชมได้





เป็นอันจบแล้วนะครับสำหรับตัว DA Walkthrough แล้วก็เป็นอันสิ้นสุดภารกิจของผมเสียทีหลังจากนั่งทำนั่งเขียนมาเป็นเดือนๆ ก็หวังว่าทุกท่านจะได้รับความสนุกที่ได้เล่นเกมส์แห่งปี 2009 เกมส์นี้นะครับ ใครที่ชื่นชอบ walkthrough ที่ผมเขียนก็ขอให้ช่วยกระจายลิงค์เว็บนี้ไปยังที่อื่นๆหน่อยนะครับ เพื่อที่คนเล่นอื่นๆที่ไม่รู้ว่ามีจะได้เข้ามาอ่านกัน (เพราะเขียนมาแล้วก็อยากให้คนอื่นๆได้ประโยชน์กันให้มากที่สุดครับ)

แน่นอนว่ายังมีส่วนอื่นๆของเกมส์ที่ยังเหลืออยู่ แต่ผมจะไม่เขียนเพิ่มอีกแล้วล่ะครับ เพราะผมเองก็จะต้องทำงานแล้ว หน้าที่ของผมจบลงแค่ walkthrough นี้ แต่หากผู้ใดสนใจจะเขียนต่อผมก็ยินดีที่จะอัพขึ้นหน้ากระทู้ให้พร้อมเครดิตนะครับผม

จบบริบูรณ์

[Edited 3 times pongkrit03 - Last Edit 2010-1-3 18:42:29]

# Tue 1 Dec 2009 : 3:42PM

coldturkey
member

Since 27/5/2009
(65 post)
ขอถามนะครับ (version xbox360) ปุ่ม B ตาม default จะเป็นปุ่มที่เลือกเติมเลือดโดยใช้ ไอเทมที่เหมาะสมที่สุด แต่ผมบังเอิญดันไป assign skill ให้ปุ่มนี้ไป ทีนี้จะเปลี่ยนเป็นแบบเก่าได้ยังไงอ่ะครับ

เกมนี้สนุกแต่เล่นนานๆแล้วเบลอครับ ผมนั่งอ่าน codex นานไป พอดีข้องใจอะไรหลายอย่างมาก ชื่อ ตัวละคร อะไรแปลกๆที่อยู่ดีๆตัวละครก็อ้างถึงมันเยอะไปอ่ะคับ ผมทนเล่นทั้งๆที่สงสัยไม่ค่อยได้ นั่งอ่านจนหลับเลยครับ ผูกไปผูกมาจนงงไปหมด สงสัยต้องหาหนังสืออ่าน ผมชอบบ้าสงสัยอะไรแปลกๆ อย่างเช่นทำไม mages ต้องถูกจับตามองโดยพวก Templar กะ chantry และ circle of magi เกิดขึ้นได้ไง ใครปกครอง ไอ้พวกนี้ถ้าไม่อ่าน codex หรือคุยเอาก็ไม่รู้ลึกอ่ะครับ ผมบ้ามากเล่นทั้งวันเนื้อเรื่องไปไม่ถึงไหนนี่ยังไม่นับเวลาที่เสียไปกะการอ่าน background ตัวละครนะ หลายๆอย่างมันมาจาก prequel ที่เป็นหนังสือ dragon age: the stolen throne อ่ะครับ ยังหาโหลดไม่ได้เลย ว่ามาซะยาว ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนที่ช่วยตอบนะครับ

# Tue 1 Dec 2009 : 8:23PM

pongkrit03
member

Since 11/10/2009
(55 post)
History โดยคุณ coldturkey จาก Gconsole

ตามสัญญานะครับ ผมเอาเรื่อง History of the First Blight มาลงและ ผิดพลาดขออภัยด้วยนะคับ ผมเมาอยู่ ถ้าเจอเด๋วมาแก้ทีหลังนะคับ

ในจุดหนึ่งของการแผ่อำนาจของ Tavinter Imperium (อาณาจักรหนึ่งใน Thedas) Tavinter Imperium ได้แผ่ขยายปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของ Thedas พยายามรวมดินแดนเป็นหนึ่ง ภายใต้การปกครองของ เหล่า magisters (เป็นตำแหน่งของผู้ปกครอง มาจากภาษาละตินมีความหมายเหมือน master) ทรราช เป็นที่กล่าวกันไว้ว่า old gods ที่เหล่า magister ให้การบูชานั้นได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ blood magic แก่ magister โดยพวกเขาได้ใช้พลังต้องห้ามนี้ในการสร้างอำนาจในการปกครองให้ตน เลือดของคนและเล่า elf มากมาย สูญไปเพื่อการใช้พลังและอำนาจเพื่อตอบสนองต่อความโลภของเหล่า magister
แต่ใครก็ตามที่ได้ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด สักวันหนึ่งก็จะต้องหล่นลงมา อาจเป็นไปได้ว่า เหล่า magister ได้เห็นว่าสักวันตนต้องถึงจุดที่ล่มสลาย หรือพวกเขา ต้องการเพียงสร้างอำนาจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าเหตุผลจะคืออะไรก็ตาม พวกเขาได้เปิดประตูเข้าสู่ Golden City ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของ fade เป้าหมายคือเพื่อช่วงชิง บัลลังของ the maker ที่ที่ ถูกทิ้งไว้ไว้ว่างๆมาเนิ่นนานภายหลังจากที่ the maker ได้เสร็จสิ้นจากการสร้างโลก พวกเขาต้องการทำลายสรวงสวรรค์ด้วยอำนาจของตัวเอลและกลายเป็นพระเจ้าเสียเอง การกระทำนี้เองที่ Chantry ได้กล่าวถึงไว้ว่าเป็น second sin
เหล่า magisters ได้เข้าสู่ golden city และได้ย่างกรายเข้าสู่ดินแดนของ maker ที่ที่ซึ่งสิ่งมีชิวิตทั่วไปยังไม่เคยมีใครหาญกล้าที่จะก้าวเข้ามา หรือสามารถเข้ามาถึงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ที่แห่งนี้นั้นไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์ควรจะย่างกรายเข้ามา เหล่า magisters ที่จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย และบาปอันหนา ได้ทำให้ golden city ต้องแปดเปื้อน ที่ที่ครั้งหนึ่งเคย perfect และศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนแห่งนี้จึงถูกครอบงำด้วยความมืดและฝันร้าย เหล่า magister ได้ถูกขับไล่ออกจากที่นั่นและได้ถูกสาป เพราะการทรยศครั้งนั้น เมื่อ Golden city ได้ถูกทำให้แปดเปื้อน และ เมื่อเหล่า magisters ได้ต้องคำสาปและกลายเป็น สิ่งที่มาจากความมืด พวกเขาได้กลายเป็น darkspawn ที่เกิดขึ้นในยุคแรกๆ และ golden city ที่ครั้งหนึ่งเหมือนเป็นกับสถานศักดิ์สิทธ์ ที่ส่องแสงสว่างใน fade ก็กลับกลายเป็น Black city สถานที่ที่เป็นสิ่งเตือนใจ ของเหตุการณ์ในครั้งนั้น
Second sin ในครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายอย่างมาก ในดินแดน Thedas เหล่า darkspawn ที่เต็มไปด้วยความแค้นและความชั่วร้าย ได้กลับเข้าสู่โลกของมนุษย์ เหมือนดั่งสายลมแห่งความชั่วร้าย เหล่า darspawn ได้นำพาความแห้งแล้ง และความพิบัติไปสู่ทุกๆที่ที่มันได้ก้าวข้ามไป ผืนดิน กลายเป็นดินแดนที่แปดเปื้อน ท้องฟ้าสั่นสะเทือนเต็มไปด้วยเมฆสีดำแห่งความชั่วร้าย
กล่าวกันไว้ว่าเหล่า magisters ผู้ต้องสาปเหล่านี้ที่ได้กลายมาเป็น darkspawn ในยุคแรก ได้ย่ำกรายเข้าสู่ดินแดน ที่มืดมิดแห่งหนึ่ง ของเหล่าคนแคระและได้ขยายกองกำลังขึ้น ณ ที่นั่น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม พวกมันได้พยายามตามหา old gods ที่พวกมันเคยรับใช้ และพวกมันก็ค้นหาจนพบ
Dumat ผู้แรกในเหล่า old gods ผู้ซึ่งเคยได้ชื่อว่า Dragon of silence (มังกรแห่งความเงียบ) ก่อนที่จะถูกกักขังไปพร้อมกับพี่น้องของตน ในใต้ผืนโลกเนื่องจาก first sin ที่ตนได้กระทำ นั่นคือการ ช่วงชิงความศรัทธาต่อ maker ไปจากเหล่ามนุษย์ชาติให้หันมาบูชาตนเอง ได้ตื่นขึ้นมาและได้รับการปลดปล่อยจากสถานคุมขังของ maker โดยผู้ติดตามอันชั่วร้ายของตน และด้วยความชั่วร้ายที่ปกคลุม Dumat ได้กลายร่างเป็น archdemon ตนแรก พลังอันชั่วร้ายและยิ่งใหญ่ของเขา และฝูง darkspawn ที่ติดตาม Dumat ได้พาปีกของตนขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่ง และนำหายนะ ลงสู่โลกที่สร้างขึ้นโดย the maker


ทำไม maker จึงเพิกเฉยต่อมนุษย์ชาติและ chantry of light เกิดขึ้นได้อย่างไร พบกันคราวหน้านะคับ ผมเมาไม่ไหวแล่ว


---------------------------------------------------------------


ต่อนะครับ History of Chantry

The First Blight นั้นได้นำความหายนะอย่างใหญ่หลวงมาสู่ Tevinter Imperium ไม่ใช่เพียงแค่เหล่า darkspawn ที่ได้ทำลายล้างหมู่บ้านตามชนบท แต่เหล่าประชาชนยังต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า เหล่าพระเจ้าทีตนได้นับถือกลับมาเป็นผู้ที่เผชิญหน้ากับพวกตนเสียเอง (ในที่นี้หมายถึงเหล่า old god ที่มี Dumat รวมอยู่ด้วย ไม่ใช่ The maker) Dumat ผู้ที่เป็น old god และครั้งหนึ่งเคยได้รับการขนานนามว่า Dragon of Silence (อ่านเรื่อง history of the first blight ที่ผมเอาลงไว้ก่อนนะครับ จะได้เคลียร์) ได้ผุดขึ้นมา และ กระจายความเงียบงันลงสู่ผืนโลก และถึงแม้ว่า ประชาชนจะพากันวิงวอนขอความช่วยเหลือเพียงใด เหล่า old gods องอื่นๆกลับเลือกที่จะเพิกเฉย เหล่าประชาชนจึงพากันสูญเสียความศรัทธาต่อพระเจ้านอกรีตเหล่านี้ พร้อมกับลงโทษพระเจ้าเหล่านี้ที่ไม่ช่วยเหลือพวกตนโดยการ สังหาร เหล่านักบวช และ เผาอารามต่างๆลง
ในช่วงเวลานั้น ถึงแม้จะเป็นช่วงที่ โศกนาสตกรรม ของ the first blight ได้สิ้นสุดลงแล้วแต่การขยายดินแดนของ Tevinter Imperium ก็ยัง คงดำเนินอยู่ต่อไป โดยที่อาณาจักร ด้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากเผ่า barbarian บางกลุ่ม และมีความพร้อมที่จะ ทำการรุกราน
เหล่าประชากรในดินแดนเขต Northern และ Eastern reach ของอาณาจักร ได้ก่อตัวขึ้นเป็นปรปักษ์ และก่อกบฏขึ้น และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เหล่า Magisters ได้เข้ามามีบทบาท โดยพวกเขาได้ทำการเชิญปีศาจขึ้นมาเพื่อจัดการกับเหล่ากบฏ โดยทำการประหัตประหาร เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อกลุ่มที่กล้าขึ้นมาต่อต้าน เหล่าประชาชนที่โกรธเกรี้ยวได้ทำการต่อต้านอย่างรุนแรงโดยที่ไม่เคยมีกลุ่มไหนทำได้ขนาดนั้นมาก่อน อย่างไรก็ตาม เหล่า magisters ที่มั่นอกมั่นใจในพลังและอำนาจของตนก็ไม่ยอมที่จะรอดพ้น the first blight มาเพียงเพื่อจะมาจบลงแค่นี้
Tevinter ในช่วงเวลานั้น มีกองทัพที่มีขนาดใหญ่หว่ากองทัพของชาติใดๆใน Thedas แต่อย่างไรก็ตามในภายหลัง ที่ผ่านสงครามยาอย่างยาวนาน ขนาดกองทัพก็เริ่มเล็กลง ขวัญและกำลังใจของทหารก็เริ่มหดหาย ขณะนั้นเองที่ Alamarri barbarian ผู้ปกครองดินแดนแห่งขุนเขา ในเขตรตะวันออกเฉียงใต้ของอาณาจักร ได้เล็งเห็นถึงจุดอ่อนในศัตรูของตน และได้เริ่มวางแผนการนำเอกราชกลับคืนสู่ดินแดนของตน และ จัดการกับ Tevinter ให้สาสม โดยผู้นำของแผนการนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น ผู้นำของกองทัพ barbarian ที่มีนามว่า Maferath และ ภรรยาของเขาที่ชื่อว่า Andraste นั่นเอง ความฝันและความทะเยอทะยานของพวกเขานี่เองที่จะเปลี่ยนแปลงโลก .. ตลอดไป

พอก่อนนะครับ คราวหน้าจะมาเพิ่มว่า Andraste จะเข้ามามีบทบาทอย่างไร (อาจได้ยินชื่อในเกมบ่อยใช่มะ) และ maker จะเข้ามาเกี่ยวโยงได้ยังไง โทดทีนะครับ อาจได้ทีละนิด ผมไม่ค่อยว่างครับ วันพ่อใช้เวลาอยู่กะครอบครับ หมายถึง พ่อแม่นะครับ ผมเพิ่ง 24 ยังไม่มีพันธะ และยังรักษาเอกราชไว้ได้ 55555+ เดี๋ยวจะมาต่อให้จบคับ



----------------------------------------------------


เมื่อ Andraste และสามีของเธอ Maferath ปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของทัพ barbarian อาณาจักร Tevinter ตอนใต้ก็ตกลงสู่หายนะ Tevinter ที่เคยตั้งรับการบุกรุกได้มาโดยตลอด แต่ในขณะนี้พวกเขาต่อสู้โดยปราศจาก ความช่วยเหลือของพระเจ้าที่ตนนับถือ ด้วยกองทัพที่เริ่มแตกกระเจิง และ ดินแดนของตนที่เพิ่งผ่านพ้นหายนะจาก First Blight มาได้ ในขณะนั้นมี หลายๆคนที่รู้สึกว่า เหตุการณ์การบุกรุกในครั้งนี้นั้นเป็น ปาฏิหารย์ที่เป็นแผนการในการเผยแพร่ศรัทธาต่อ the maker ที่ the maker เนรมิตรให้เกิดขึ้นมา
อันที่จริงแล้ว Andraste นั้นมิได้เป็นเพียงแค่ภรรยาของผู้นำทัพอย่าง Maferath เท่านั้น แต่ในภายหลัง เธอยังเป็นถึงผู้ที่หมายหมั้นกับ The maker อีกด้วย !! (เป็นถึงพระเจ้ายังจาหื่นอีก) โดย the maker นั้นรู้สึกประทับใจในตัวและเสียงอันไพเราะของเธอในขณะที่ Andraste นั้นร้องเพลงขอพรและการชี้นำทางจากสรวงสวรรค์ The maker จึงลงมาปรากฏตัวต่อเบื้องหน้าของ Andraste และให้ข้อเสนอให้เธอมาอยู่ด้วยกันกับเขา
และทอดทิ้งโลกที่โสมมไว้เบื้องหลังซะ ด้วยความเฉลียวฉลาดของหล่อน หล่อนจึงวอนขอให้ the maker กลับมาสู่ประชาชนของท่านเองและสร้างความสงบสุขแลสรวงสวรรค์ขึ้นบนโลกมนุษย์ ซึ่ง the maker เองก็ตอบตกลงตามนั้น แต่ the maker จะทำตามนั้นก็ต่อเมื่อ เหล่ามนุษย์ เลิกให้การสนับสนุนและบูชาต่อพระเจ้านอกรีตทั้งหลาย และยอมรับ ต่อบทบัญญัติอันศักดิ์สิทธ์ ของ the maker เท่านั้น
เมื่อรู้ดังนั้น Andraste ที่ได้รับข่าวสารโดยตรงจาก พระเจ้าที่แท้จริง จึงริเริ่ม การเดินทางเผยแพร่ศรัทธา สู่ อาณาจักรที่กำลังอ่อนแอลง หนึ่งในบทบัญญัติของ the maker ก็คือ เวทย์มนต์ทั้งหลาย ควรถูกใช้เพื่อรับใช้มนุษย์ มิใช่มาครอบงำปกครองมนุษย์เสียเอง นี่เองที่เป็นดังเสียงสวรรค์มาปลอบประโลม Tevinter ที่ตกอยู่ภายใต้ การบงการของเหล่า magisters มาเนิ่นนาน
คำสอนที่ได้รับกายแพร่โดย Andraste และการกดดันกองทัพ นั้นประสบความสำเร็จอย่างมากและกระจายออกอย่างกว้างขวาง เหล่าคนที่รู้สึกว่า old gods ทอดทิ้งตน กลับมามีความหวังอีกครั้ง และกระหายที่จะรับฟังทุกคำสอนของ the maker เหล่าคนที่เคยร่วมกันทำลายอารามต่างๆ ได้กระทำสิ่งเดิมแต่คราวนี้พวกเขาทำในชื่อและความศรัทธาต่อพระเจ้าที่แท้จริงอย่าง the maker และผู้ที่เป็นดั่งศาสดา อย่าง Andraste ในขณะเดียวกันกับที่กองทัพของ Maferath ได้บุกพิชิตดินแดนแถบใต้ ได้เหมือนกับที่ คำสอนของ Andraste ได้พิชิตหัวใจของเหล่าประชากรที่เคยสูญความหวัง
ได้มีการกล่าวไว้ว่า the maker ได้ส่งรอยยิ้มลงมาบนผืนโลกใน ในขณะที่ Maferath บุกพิชิต ทัพของ Tevinter แดนในฝั่งใต้ ของอาณาจักร ตกลงสู่ความสงบสุขในมือของ barbarians


คราวหน้าจะมาต่อนะครับ ใครเป็นผู้ที่ ทรยศ Andraste และทำไม the maker ถึงโกรธมนุษย์ และหันหลังให้กับมนุษย์ชาตินับแต่นั้นมา และ The chantry เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร เด๋วไว้ต่อทีหลังครับ

-----------------------------



ต่อจากตอนนี้อีกตอนก็จะจบ History of the Chantry แล้วครับ จะรีบทำนะครับ

กล่าวกันไว้ว่าภายหลังจากสงครามที่ Valarian field สงบลง Maferath ได้ยืนขึ้นและทอดสายตามองออกไปที่กองทัพของตน ที่ขณะนั้นได้พิชิต ดินแดนทางใต้ของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกใบนี้เคยรู้จักไปแล้ว แล้วเขาก็ยังได้สร้างกองทัพที่เริ่มต้นเพียงทัพ barbarian ใหญ่น้อยจนกลายเป็นทัพที่น่าเกรงขามขึ้นมา ด้วยความภาคภูมิใจที่มีอยู่เต็มเปี่ยม เขาหันกลับมาเพื่อที่จะฉลองชัยในครั้งนี้กับทหารของตน แต่เขากลับพบความจริงที่ว่า ทหารของเขาได้หันหลังให้เขาไปแล้ว
Maferath โดนครอบงำโดยความอิจฉาตาร้อนเข้าอย่างจัง กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำจนสำเร็จ กลับเป็นภรรยาของเขาเองที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ เขามองเห็นถึงอิทธิพลและอำนาจที่ภรรยาของตนได้รับ และเหนื่อยกับการที่ต้องเป็นแค่เพียง สามีลำดับสอง รองลงมาจาก the maker หัวใจของเขาถูกครอบงำด้วยความโกรธกริ้ว ถ้าเขาทำทุกสิ่งทุกอย่างเพียงเพื่อให้ตนเองสูญเสียภรรยาไปให้กับพระเจ้าที่ครั้งหนึ่งเคยถูกลืมเลือนและเหล่าฝูงชนที่กระหายความศรัทธา งั้นบางทีสงครามครั้งนี้อาจจะไม่คุ้มค่ากับปัญหาที่เขาได้รับในภายหลังเลย
ตรงจุดนี้เองที่ประวัติศาสตร์กับ Chant of light (เป็นประมาณบทสวด หรือร้อง สรรเสริญ the maker หรือกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทางศาสนา) กล่าวไว้ไม่เหมือนกัน ในประวัติศาสตร์กล่าวว่า Maferath ทอดสายตาออกไปทางทิศเหนือที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อาณาจักรตอนกลาง และไม่เห็นอะไรไปได้อีกนอกจาก สงครามที่รออยู่เบื้องหน้ากับกองทัพที่กำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เค้ารู้สึกสิ้นหวัง ส่วน chant of light ได้กล่าวไว้อีกแบบหนึ่งว่า Maferath ที่รู้สึกรำคาญใจกับตำแหน่ง สามีลำดับสองรองจาก the maker ของตน เขาเริ่มรู้สึกรุนแรงมากขึ้นกับความอิจฉาที่ Andraste ได้รับแต่ชื่อเสียง ทั้งๆที่เป็นเค้าเองที่ เป็นผู้นำกองทัพในศึกครั้งที่ผ่านมา
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม Maferath จึงออกเดินทางสู่ เมืองหลวงของอาณาจักร Minrathous เพื่อเข้าพบ Archon (เป็นตำแหน่ง หมายถึง ผู้ครองเมือง หรือ lord เป็นภาษา กรีกคับ) Hessarian และได้ทำการเสนอ ภรรยาของตนให้กับอาณาจักรเพื่อแลกกับสัญญาสงบศึก ที่จะยุติการเป็นศัตรูต่อกันตลอดไป Archon Hessarian นั้นกระหายที่จะกำจัดกระบอกเสียงเผยแพร่คำสอนอย่าง Andraste ผู้ที่เป็นดั่งศาสดา ที่ปลุกปั่นประชากรของเขาไปในทางที่ต่อต้านตัวเขาเอง เขาจึงตกลงยอมรับข้อเสนอ ภายหลัง Maferath ได้ล่อลวง Andraste ไปให้ถูกจับกุม และนั่นก็เป็นเครื่องแสดงถึงจุดจบของการเผยแพร่คำสอนของเธอ
กลุ่มผู้จงรักภักดี ได้รวมตัวขึ้นที่ central square ภายใน Minrathous เพื่อดูการประหารชีวิตของ Andraste ที่สั่งการโดย Archon หล่อนโดนตรึงกับเสาหลักและโดนเผาทั้งเป็น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เชื่อกันว้าเป็นการลงโทษที่ทรมานที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ อย่างไรก็ตามตามตำนานของ chantry (จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้อธิบายเลยว่ามันคือประมาณโบสถ์หรือศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ แต่คงทราบกันอยู่แล้วมั้งครับ เพราะคงเคยไป chantry of light ในเกมกันหมดทุกคนแล้ว) Andraste กลับถูกทำให้บริสุทธิ์ โดยเปลวเพลิง แล้วก็ล่องลอยขึ้นไปอยู่เคียงข้างกับ the maker เสียงที่ควรจะเป็นเสียงกรีดร้องอย่างทรมาณ กลับเป็นเพียงความเงียบ
จากภาพของศาสดาที่โดนเผา พวกประชาชนที่มาเฝ้าดูในวันนั้นรู้สึกได้ถึงความรู้สึกผิดอย่างลึกซึ้ง และรู้รึกเหมือนพวกตนได้เข้าร่วมพิธีกรรมการสปประมาทพระเจ้าครั้งยิ่งใหญ่ Archon ได้ทำการชักดาบออกมาแล้วปักลงไปที่กลางหัวใจของ Andraste ยุติความทรมานทั้งปวง
การประหารชีวิตของ Andraste นั้น อันที่จริงมีจุดประสงค์เพื่อ ให้เป็นเครื่องหมายของความพ่ายแพ้ ในศรัทธาต่อ the maker แต่ในความเป็นจริง การกระทำนั้นกลับเป็นการปิดกั้น การบูชาต่อ old gods และปูทางไปสู่การกระจาย ความเชื่อต่อ the maker ต่างหาก


----------------------------------

ตอนจบ History of Chantry ครับ

เหล่าฝูงชนที่เป็นสักขีพยานความตายของ Andraste อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสิ้นหวัง เป็นที่เชื่อกันว่าการประหารชีวิตในครั้งนั้นได้ทำให้ the maker โกรธกริ้วเป็นอันมาก และนั่นก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ เขาได้หันหลังให้กับมนุษย์ชาติ ปล่อยให้ ประชาชนแห่ง Thedas ต้องทนทุกขเวทนาในความมืดมิด (ครั้งแรกที่ the maker เมินเฉยต่อมนุษย์คือช่วง the first sin คือช่วงที่มนุษย์พากันไปบูชา old gods ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Dumat แทนที่จะเป็นพระองค์)
ในยุคมืดนี้เองที่ มนุษย์ชาติ ต่างต่อสู้เพื่อค้นหาแสงสว่าง บ้างก็เลือกที่จะเชื่อในลัทธิบูชาปิศาจที่สัญญาว่าจะมอบความร่ำรวยและอำนาจเพื่อแลกกับการบูชาตน บ้างก็สวดวิงวอน old gods ให้ให้อภัยตน และขอร้องให้มังกรเหล่านี้กลับมาสู่พื้นโลกอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีบางพวกที่ตกต่ำถึงขนาดพากันบูชา darkspawn แล้วพากันก่อสร้างลัทธิอันต่ำทราม ที่มีจุดประสงค์ในการยกระดับ ความชั่วร้ายขึ้นมาให้อยู่ในภาวะที่บริสุทธ์ที่สุด ว่ากันว่าในยุคนั้น แม้กระทั่งโลกใบนี้ก็ต้องกรรแสง ในขณะที่เหล่าผู้อาศัยบนโลกต่างพากันเรียกร้องวิงวอนหาพระเจ้าที่ยึดเหนี่ยวที่ไม่ยอมมาปรากฏ
อย่างไรก็ตาม บรรดาสาวกของ Andraste ยังไม่ยอมที่จะละทิ้งคำสอนของเธอภายหลังจากที่เธอได้ตายไปแล้ว กลุ่มผู้บูชาพากันนำเถ้าถ่านอันศักดิ์สิทธ์ที่ได้จากการเผา Andraste ออกมาจาก Minrathous โขมยมันออกมาแล้วนำไปที่วิหารลับ (คุ้นๆไม๊ครับ ก็ไอ้เถ้านี่แหละที่เราพยายามเอามาเพื่อช่วยรักษา Arl Eamon ในเควสที่ red cliff ไงครับ ส่วน ผู้ที่เขียนบันทึกที่ผมเอามาจาก codex นี่ก็ไม่ใช่ใครครับ เป็น Brother Genitivi ที่เราต้องไปตามหาที่ heaven เพื่อหาเบาะแสของของสิ่งนี้แหละครับ) ตำแหน่งที่ตั้งของวิหารแห่งนี้ได้สูญหายไปนานแล้ว แต่เถ้าถ่านของ Andraste นั้นเปรียบเสมือนกับเครื่องหมายของความศรัทธาต่อ the maker ที่คงทนและยังไม่หายไปไหน และ มนุษย์ชาติคงจะได้รับการอภัยจาก the maker ต่อการลบหลู่อย่างใหญ่หลวงต่อพระองค์ในครั้งนั้น
เมื่อเวลาล่วงเลยไป ลัทธิศาสนาของ Andraste ได้แพร่ขยายและเติบโตออกไป แล้วก็ได้เกิด chant of light ที่บอกเล่าเรื่องราวตำนานของ Andraste และ Maferath ขึ้น บทสวดนี้ (ก็ไม่เชิง มันคือเพลงที่ร้องในโบสถ์ครับ) ได้เข้ามาอยู่หัวใจของประชาชน และได้กระจายไปทั่ว Thedas กล่าวกันไว้ว่าจนแล้วจนเล่ามันคงดึงดูดความสนใจของ the maker ได้ เมื่อ the chant of light นี้ได้แพร่หลายมากขึ้น ลัทธิของ Andraste ได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันใหม่ในนาม Andrastian Chantry (ศาสนสถานแห่ง Andraste ผมแต่งชื่อให้เหมาะเองนะครับ ที่จริงก็ทำงี้อยู่หลายครั้งแล้วครับ (ตลอดเรื่อง อิอิ) ใครจะแปลไง แล้วแต่เลยครับ)
Chantry ในยุคแรกๆ เป็นทั้งสัญลักษณ์ของพลังอำนาจและความถูกต้อง ตามที่ถูกจารึกไว้ในช่วงยุคนั้นได้กล่าวถึงมันไว้ว่า เป็นแสงประกายที่มาจากคมดาบกับเสียงอันอบอุ่นของบทเพลงอันศักดิ์สิทธ์ พวกที่เปลี่ยนมานับถือความเชื่อของ chantry รู้สึกว่าเป็นภาระหน้าที่ของตนที่จะต้องเผยแพร่คำสอนของ Andraste ต่อไป และแล้วการเผยแพร่คำสอนของ Andraste ที่เรียกว่า Exalted March (เป็นการเดินทางกระจายคำสอนให้กว้างออกไป ที่ Andraste เป็นผู้ริเริ่ม ที่จริงมีกล่าวถึงมาก่อนหน้านี้แล้วครับ แต่ผมละไปเพราะตอนแรกเห็นว่าไม่สำคัญ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง The chant of light ได้แพร่กระจายไปบนผืนโลกอีกครั้งหนึ่ง แม้แต่ต้องแลกด้วยการใช้กำลังโดยความจำเป็นก็ต้องยอม
ท่ามกลางกลุ่มที่เปลี่ยนมานับถือ Andraste นั้นมีพวกบุคคลที่มีอำนาจรวมอยู่ด้วยทั้งใน Imperium หรือในประเทศอิสระที่เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันในนามของ Orlais ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคนหนุ่มอย่าง King Drakon ผู้ที่สานต่อ exalted march โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะ รวบรวมประเทศอิสระเข้าเป็นหนึ่ง และสร้างอาณาจักรที่ซึ่งอุทิศให้แก่เจตนารมย์ของ the maker อย่างแท้จริง อาณาจักรอย่าง Orlesian ได้กลายเป็นฐานพลังอำนาจของ Chantry มหาวิหาร ใน Val Royeaux เป็นศูนย์กลางความเคลื่อนไหวที่ให้กำเหนิดระบบการจัดการของ Chantry อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน Drakon หรือผู้ซึ่งเป็น จักพรรดิ์ Drakon I ในปัจจุบัน ได้ก่อร่างสร้าง Circle of Magi, Templars, และ holy office of divine ขึ้นมา หลายต่อหลายคนใน Chantry ได้ให้ความศรัทธาและความเคารพต่อเขาเสมือนกับเขาเป็นตัวแทนของ Andraste เลยทีเดียว
Chantry ในยุคปัจจุบัน เปรียบประดุจ ตัวแทนความเคารพและความสวยงาม และเปรียบประดุจสถานที่ ที่ปกป้องคุ้มครอง Thedas จากอันตรายทั้งปวง ขณะที่เหล่า Gray Wasdens คอยปกป้องคุ้มครองโลกใบนี้จาก Blight ตัว Chantry เองก็คอยปกป้องมนุษย์ชาติจากภัยที่มาจากตนเอง โดยหลักๆแล้ว Chantry ก็เพียงทำหน้าที่ของมันเพื่อเรียกร้องขอการอภัยโทษจาก the maker เพื่อที่ว่าสักวันหนึ่ง the maker จะกลับมาแล้วเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้เป็นสรวงสวรรค์อย่างที่มันควรจะเป็น

หวังว่าคงช่วยหลายๆท่านให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้นนะครับ โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่า History of the First Blight กับ History of Chantry นี้ไขข้อข้องใจให้กับผมมากที่สุด นะครับ ผมคงจะพักที่จุดนี้ก่อนหากท่านใดมีข้อสงสัยอะไร ถามมาได้เลยนะครับ แล้วถ้าหากผมเจอเรื่องน่ารู้อะไรอีก ผมจะเอามาลงเพิ่มให้ครับ
[Edited 3 times pongkrit03 - Last Edit 2009-12-9 18:47:46]

# Tue 1 Dec 2009 : 8:25PM

pongkrit03
member

Since 11/10/2009
(55 post)
แปลสกิลและแนะนำการเซ็ท Tactics โดยคุณ Violent จากบอร์ด OVZ
โอ้ว มีแนวร่วม สุ้ๆเน้อ

ทไเป้นทางการ หน่อยงี้ดีละ แต่ อันไหน แปลได้ สมควรแปลให้หมดดีกว่าเน้อ เว้นไว้เฉพาะ คำทับัพท์ ก็พอ

<<โดยส่วนตัว ไม่เคย เรียน "แปลไทย" Eng เนี้ยเป้นเพราะ เล่นเกมมาก ฟังเพลงมาก + ไปเที่ยวบ่อย

เลยแค่เข้าใจความหมาย แต่ แปลเป้นไทย ไม่ค่อยได้

ไงก็ สุ้ๆเน้อ

เดียว ถ้า เรา ทำตารางเวทเสร็จ (คงทำเรื่อยแล้วแต่อารมณ๊์) คิดว่าจะทำ ให้ครบ ทั้ง3 อาชีพ จขกท จะเอามาใส่ไว้เพิ่มเองก็ได้นะ

พิมเพราะอยากให้คนได้ อ่าน แค่นั้น เพราะงั้น ไว้ที่ไหนก็ได้ ไม่ใส่ใจ

สุ้ๆเน้อ ที่ทำ เพราะ "ไม่ได้เล่น RPG ดีขนาดนี้มานานล่ะ จาก Bulder gate2 เลย / Mass effect

เอามาแปะ เพิ่มให้ ในนี้ด้วยเลยละกัน ประหยัดเวลา ทานไม่ต้องทำอีก

วิธีเซท Tactic ไว้อ้างอิง เป้นตัวอย่างเฉยๆนะ

**ช่องให้เซท Tactic จะมากหรือน้อยขึ้นอยุ๋กับ สกิล Tactic จ้ะ



ตามรุป เรียงจากบนลงล่าง

---------------------------------------------------------------------------------
1. HPตัวเอง <50% ให้ ใช้ยา Health Poultice(ยาเพิ่มเลือดขั้น3)
---------------------------------------------------------------------------------
2. พวกเดียวกัน HP<25% ให้ ใช้สกิล Group heal (ฮิลหมุ่)
---------------------------------------------------------------------------------
3. ศัตรู:คลาสเมจ ที่ใกล้ตัวที่สุด ที่เรามองเห้น ให้ ใช้สกิล Earthquake (แผ่นดินไหว ตั้งใช้ไว้ เพราะ ต้องการให้เมจ มันล้ม จะได้ ร่ายเวทไ่ม่ได้)
---------------------------------------------------------------------------------
4. หากตัวเอง ถูกโจมตีด้วย อาวุธระยะไกล ให้ ใช้สกิล Heroic aura (ป้องกันความเสียหาย จากการโจมตีระยะไกล ทั้งหมด)
---------------------------------------------------------------------------------
5. ศัตรู ที่มองเห้นที่ใกล้ตัวที่สุด ให้ ใช้สกิล Stonefist (พลังหมัดดาวเหนือ หึหึ)
---------------------------------------------------------------------------------
6. ศัตรู ที่ hp น้อยที่สุด ให้ ใช้ Arvane Bolt (ศรเวท ไม่เคยพลาดเป้าหมาย (แต่โดนก็ไม่ค่อยรุ็สึก))
---------------------------------------------------------------------------------
7. ศัตรู ที่ มี ระดับ (ความสามารถ ดูได้จากสี ชื่อมอน) Normal (สีขาว)หรือสูงหว่า ให้ ใช้ Glyph of Para (สักลักษณ์สะกดจิต)
---------------------------------------------------------------------------------
8. ศัตรู ที่อยุ่ในระยะ ปานกลางถึุงไกล ให้ ใช้สกิล Fireball (ลูกไฟ โดนอาจจะล้ม ใช้ไกลตัวหน่อย เดียวโดนลุกหลง)
---------------------------------------------------------------------------------
9. เมื่อฝ่ายเดียวกัน HP <75% ให้ ใช้สกิล Regenetation (เพิ่ม อัตราเลือดเด้งเอง)
---------------------------------------------------------------------------------
10. เมื่อตัวละครหลัก HP <75% ให้ ใช้สกิล Lifeward (ออร่อ regen)
---------------------------------------------------------------------------------
11. ตัวเองถูกศตรู รุม"เล็งเป้ามาจะโจมตี" พร้อมกัน ไม่น้อยกว่า 2 ตัว ให้ ใช้สกิล Mind Blast (ระเบิดพลังจิต กระแทกวิญญาณ ทำให้ ศัตรูรอบตัว ใกล้ๆ ติดstun)
---------------------------------------------------------------------------------
12. ศัตรู ที่ HP มากกว่าที่สุด (ไม่ใช่% นะแต่เป้นตัวเลขจำนวน) ให้ ใช้สกิล Winter's Grasp

00000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000

อันนี้เป็นตัวอย่าง ที่ผม เซทไว้ให้ Spider ที่ summon ออกมา จาก สกิล ของ Ranger เน้น ไว้ช่วยพวกนักเวท ในปาตี้



ตามรุป เรียงจากบนลงล่าง

---------------------------------------------------------------------------------
1. ถ้า ตัวเอง HP < 25% ให้ ใช้ยา Health poutice
---------------------------------------------------------------------------------
2.ถ้า ตัวเอง ถูกรุมล้อมโจมตี 2ตัวพร้อมกัน (หรือมากกว่า) ให้ ใช้ยา Swift Salve (ยาเพิ่ม อัตราความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเดิน ระยะสั่นๆ) ใช้เพราะจะได้ เพิ่ม damage ฆ่าให้ตายไวขึ้น สักนิดยังดี
---------------------------------------------------------------------------------
3. ถ้าตัวเอง ถูกรุมล้อมโจมตี 3ตัวพร้อมกัน(หรือมากกว่า) ให้ ใช้สกิล Web (กางใยแมงมุม รัศมีกลาง ทำให้ศัตรูขยับไม่ได้)
---------------------------------------------------------------------------------
4.ถ้า ศัตรู "เล็งเป้า" จะไปโจมตี มอริแกน ให้ ไป โจมตี ศัตรูตัวนั้น
---------------------------------------------------------------------------------
5. ถ้าศัตรู "กำลังโจมตี" ใส่ ป้า เวนเน้ ให้ ใช้สกิล Overwhelm (กระโดนขึ้นคร่อมแล้ว........) รับรองหยุดชัว
---------------------------------------------------------------------------------
6. ถ้าศัตรู เป้นคลาสนักเวท และที่ ใกล้ตัวที่สุดที่มองเห็น ให้ ใฃ้สกิล Poison Spit (ยิงพิษใส่ ไว้ก่อนเลย อันตราย นักเวท)
---------------------------------------------------------------------------------



00000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000

เอาละทำ ตารางสกิลเวทมนตร์แปลไทยกันดีกว่า เลิก เขียน HTML code มานน ตั้งแต่ ม.5 กี่ปีละเนี้ย (ความลับ หึหึ)

เวทมนตร์ กลุ่มแรก Primal ถ้าเป้นเกมปกติ ก็คงราวๆสาย Element ทั้ง4
สรุปง่ายๆ คือ สายเวท 4 ธาตุที่เน้นโจมตี โดยตรง




มีทั้งหมด 4 สาย ตามรุป ไล่จากบนลงล่าง ไฟ - ดิน - น้ำแข้ง - สายฟ้า

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เริ่มกันด้วยเวทไฟ ถือว่าเป้น Fire damage ความเสียหายจาก ธาตุไฟ



[COLOR="Blue"]Flame Blast[/COLOR] - เป็นเวท ไฟ ที่โจมตี เป้น รุป กรวยออกจากมือผู้ร่ายเวท ระยะใกล้ โจมที่เป้าหมายทั้งหมดที่ อยุ่ในพื้นที่ / ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกัน



[COLOR="Blue"]Flaming Weapons[/COLOR]
- คือเสกอาวุธ ให้ติดไฟ นั้นเอง ทำให้อาวุธ Malee ทุกชนิด +ความเสียหาย จากไฟ เพิ่มขึ้นอีก 5 หน่วย ทุกครั้งที่โดนเป้าหมาย (ใช่กับ มีด ดีนักแล) เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป 50 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน



[COLOR="Blue"]Fire Ball[/COLOR] - ทำให้ เกิดลูกไฟใหญ่ ตกใส่เป้าหมาย ระยะไกล รัศมีกว้าง และถ้าเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน เวทนี้ เป้าหมายนั้น จะ "ล้มลง" /พวกเดียวกันเองก็ไม่เว้น



[COLOR="Blue"]Inferno[/COLOR] สร้างรัศมี หมอกไฟ วงกว้างมาก และระยะไกล ทำให้ ทุกเป้าหมายในรัศมี ถูกเผาไปเรื่อยๆ / พวกเดียวกันเองก็ไม่เว้น แน่นอน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตามด้วย เวทสายดิน ถือว่าเป้น Nature damage ความเสียหายจาก ธาตุดิน (จริงๆ ต้องแปลว่า ธรรมชาติ แต่จะเรียกธาตุธรรมชาติก็ กะไรอยุ่)




[COLOR="Blue"]Rock Armor[/COLOR] - เสกให้ผิวหนังของตัวเองแข็งเหมือนหิน เพิ่ม ค่า armor (เยอะอยุ๋นะ) เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป 40 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน



[COLOR="Blue"]Stone Fist[/COLOR] - เสกหิน (รูปมือ) โจมตีเป้าหมาย ระยะไกล ทำให้เป้าหมาย ล้มลง แน่นอน และ หากใช้ คุ่กับ เป้าหมายที่ติด สถานะ frozen/petrify (คือ เป้าหมายที่ถูกแช่แข็ง หรือ ถูกเสกเป็นหิน) อาจทำให้เกิด Shatter "การแตกสลาย" ได้ (ตายโดยทันที 0bตนาการ ราวๆ เอาฆ้อนไปทุบน้ำแข็งแตก นั้นแหละ "ไม่เหลือซาก")



[COLOR="Blue"]Earthquake[/COLOR] - ร่ายเวททำให้แผ่นดิน ในระยะร่ายเวทสั่นไหวอย่างงรุนแรง ทำให้เป้าหมายในบริเวณ มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน "ล้มลง" ทุกๆ 1-3 วิ(แบบสุ่ม) แต่ไม่มีความเสียหาย ใดๆ (เป็นเวท หยุด ที่ดีนักแล) /พวกเดียวกันก็โดน



[COLOR="Blue"]Petrify[/COLOR] - เสกเป้าหมาย ให้กลายเป้นหิน(นาน) ทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้ และ อาจโดน shatter ได้

---------------------------------------------------------------------------------------------

ตามด้วยเวทน้ำแข็ง ถือว่าเป้น Iced damage ความเสียกายที่เกิดจากความหนาว (สำหรับผมถือว่าเป้น เวทที่มี ประโยชณ์ที่สุด)



[COLOR="Blue"]Winter's Grasp[/COLOR] - แช่แข็ง เป้าหมาย(เดียว) หากเป้าหมาย เลเวลน้อยกว่าเรา พอสมควร จะทำให้เป้าหมาย ติด Frozen solid คือโดนแช่แข็ง ขยับไม่ได้ แต่ถ้าไม่โดน เป้าหมายจะ เดินช้าลง แทน



[COLOR="Blue"]Frost Weapons[/COLOR] - เสก อาวุธ malee ของทั้งป้าตี้ให้ เป็นน้ำแข็ง ทำให้การโจมตี ทุกครั้ง ติด ความเสียหาย Iced 5 หน่วย เสมอ เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป 50 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน (ใช้พร้อมกับ Fire weapons ไม่ได้ นะจ้ะ ไม่ทับกัน)



[COLOR="Blue"]Cone of cold[/COLOR] -เป็นเวท น้ำแข็ง ที่โจมตี เป้น รุป กรวยออกจากมือผู้ร่ายเวท ระยะใกล้ โจมที่เป้าหมายทั้งหมดที่ อยุ่ในพื้นที่ และ ถ้า เป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน เป้าหมายนั้น จะ ติด Frozen solid "โดนแช่แข็ง" เหมาะแก่การ shutter "กระแทกให้แตก" นักแล /ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกัน



[COLOR="Blue"]Blizzard[/COLOR] - คือค่ายเกมระดับเทพ (เอ้ยไม่ใช่) สร้างพายุหิมะรัศมีวงกว้าง ระยะไกล เป้าหมายทั้งหมดในรัศมี 1.ได้รับความเสียหาย Iced ตลอด 2.ทำให้เคลื่อนทีช้าลง 3.เพิ่มค่าความต้านทาน "ไฟ" 4.อาจ ล้มลง ถ้ามีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน 5. อาจ โดน Frozen solid "แช่แข็ง" ถ้ามีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน /พวกเดียวกันก็ไม่เว้น ตามเคย

ขยายความนิด Shatter คือการกระแทก เป้าหมาย ที่ติด โดนแช่แข็ง หรือ กลายเป้นหิน ให้ แตกสลาย เกิดขึ้นได้ โดยการโจมตีเวทเฉพาะ และ การโจมตี Critical" เพราะงั้นสายโจร หรือ สกิลของนักรบบางประเ๓ท ใช้ร่วมด้วย จะเวิคมากๆ ใช้ได้แม้แต่มินิบอส (บางพวก)
--------------------------------------------------------------------------------------------

ตามด้วย เวทสายฟ้า ถือว่าเป้น shock damage ความเสียหายจากการถูก ช๊อต



[COLOR="Blue"]Lighting[/COLOR] - ยิงลูกบอลสายฟ้า ใส่เป้าหมาย / อันนี้นะวังนะ ร่ายใส่พวสกเดียวกันได้ ทั้งๆที่เป็นเวทเดี่ยว



[COLOR="Blue"]Shock[/COLOR] - เป็นเวทสายฟ้า ที่โจมตี เป้น รุป กรวยออกจากมือผู้ร่ายเวท ระยะใกล้ โจมที่เป้าหมายทั้งหมดที่ อยุ่ในพื้นที่ แรงใช้ได้เลยนะ / พวกเดียวกันเองก็โดน



[COLOR="Blue"]Tempest[/COLOR] - สร้างเมฆพายู ที่สร้างฟ้าผ่า รัศมีวงกว้าง ระยะไกล โจมตีเป้าหมายทั้งหมด ในรัศมี ตลอดเวลา /แน่นอน จะเว่นพวกเราเองได้รึ



Chain Lingting - สรา้งลูกบอลสายฟ้า ที่จะโจมตี หลายเป้าหมาย เป้นลำดับไป ตาม เป้าหมายที่ใกล้ที่สุด ที่เรา ร่ายเวทใส่ แรงมาก และ อาจโดนพวกเดียวกันเองอีก (ร่ายนานอยุ่) โดยส่วนตัวถือว่า ห่วยมาก เพราะร่ายนาน ไม่คุ้มกับความแรง แต่ถ้าใช้เป้นเวทเปิด ร่ายใส่พวกโจมตีไกล ที่ รุมเราอยุ๋ ก็พอทนนะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Combo Spell คือการร่ายเวทต่อเนื่อง จนทำให้เกิด ความสามรถพิเศษ
ในหมดนี้ ขอแนะนำ
Storm of century พายุถล่มข้ามศตวรรค เกิดขึ้นได้โดย เปิดใช้เวท Spell might ก่อน ซึ่งอยุ่ในหมวด Spirit

แล้วร่ายเวท Blizzard ลง ไปก่อน ตามด้วย Tempest ให้ รัศมีเวท ซ้อนกัน

ก็จะได้ เวททำลายล้าง แรงมากมาย พายุลมหนาว สายฟ้ากระหน่ำ ซึ่งทั้งแรง และทำให้เป้าหมาย ล้มลง แล้วอาจติด แช่แข็ง ให้โดนฟ้าผ่า เล่นๆ โดยทั่วไป ศตรู ที่เลเวลเท่าหรือน้อยกว่าเรา จะตายโดยไม่ได้ออกมาเลยล่ะ แนะนำให้ร่ายข้ามห้องโดยเอาแต่ นักเวทที่จะร่ายเดินนำไป แล้วรา่ยที่สุดขอบจอเลย (ระวัง มานาไม่พอนะจ้ะ)


OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


เวทมนตร์ กลุ่มที่2 Creation ถ้าเป้นเกมปกติ ก็คงราวๆสาย Cleric ละมั้ง แปลไม่ถุก ขอทับศัพท์เน้อ



------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มกันด้วย สายฮิล และฟื้นมานา



็Heal - เวทเพิ่มเลือด (ฟื้นฟู HP) ให้เป้าหมายเดี่ยว โดย เด้งขึ้นเป้นจำนวนแน่นอน โดยทันทีที่ใช้



Rejuvenate - เวทส่งพลังงาน ให้่เป้าหมายเดียว ช่วยเพิ่มค่า Regen ของ mana (สำหรับนักเวท) หรือ Stamina (สำหรับนักรบ) ในช่วงเวลาสั่นๆ (ง่ายๆก้ ช่วยเพิ่มค่า มานาหรือ สตามินา ให้ "เด้ง" ไวขึึน จากปกติ)



Regeneration - ส่งพลังงานให้เป้าหมายเดี่ยว ช่วยเร่ง ค่า Health regen (เลือดเด้งเอง) อย่างมาก ในช่วงเวลานึง ราวๆเลือดค่อยๆเพิ่มเอง (ตามค่าพื้นฐานเดิม ของตัวละครนั้น อย่างมาก)



Mass Rejuvenation เวทส่งพลังงาน ให้่ทั้งปาตี้ ของเราเอง (ไม่นับ Ally นะ) ช่วยเพิ่มค่า Regen ของ mana (สำหรับนักเวท) หรือ Stamina (สำหรับนักรบ) ในช่วงเวลาสั่นๆ (ง่ายๆก้ ช่วยเพิ่มค่า มานาหรือ สตามินา ให้ "เด้ง" ไวขึึน จากปกติ)

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตามด้วยเวท สายออร่า ส่งผลAlly (ฝ่ายเดียวกัน ทั้งหมด) รอบๆ ตัวผู้ร่าย ให้เพิ่มค่าโจมตี หรือป้องกัน ในช่วงเวลาสั้นๆ (ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในความเห็นส่วนตัว)



Heroic Offense - ออร่า เพิ่มค่า Atk ความแม่นยำ รวมถึง ค่า Phisical ของการโจมตี (ไม่ใช่ความแรงนะ) ของพวกเดียวกัน



Heroic Aura อ่อรา "หนังหน้าด้าน" หึหึ ทำให้ ฝ่ายเดียวกันทั้งหมด ในรัศมี จะไม่ได้รับความเสียหาย จากการโจมตีกายภาพระยะไกล(การโจมตี range จาก ธนุหรือ หน้าไม้ นั้นเอง) แถบจะทั้งหมด



Heroic Defense - ทำให้ ฝ่ายเดียวกัน รอบตัว ได้รับค่า พลังป้องกัน(DEF คือ การหลบหลีัก ไม่ใช่ armor นะ ) ร่วมทั้ง เพิ่มความทนทานติดธาตุ Cold / Elec / Fire / Nuture / Spirit ด้วย แต่ ก็ทำให้ ต้องเสีย ฝ่ายเดียวกันที่ติดผลเวทนี้ ต้องเสียค่าStamina หรือ mana ที่ใช้ในการใช้สกิลแต่ละครั้ง มากขึ้นกว่าปกติ ด้วยเช่นกัน



Haste - ทำให้ คนในปาตี้(ไม่นับ ฝ่ายเดียวกันนะ(Ally)) ทั้งหมด เคลื่อนที่ และ โจมตีเร็วขึ้น แต่ก็ ทำให้ ค่า ATK(ความแม่นยำ) ลดลงเล็กน้อย เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป 60 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน

---------------------------------------------------------------------------------------------

เวทกลุ่มที่ 3 อักษรสะกดมาร (แปลมั่วจิง ฮา จริงๆ Glyph เป็น ราวๆ ภาพหรือสัญลักษณ์ ที่ใช่สื่อแทนภาษา) เป้นเวทที่ สร้างพื้นที่ ทำให้ เป้าหมายที่ เข้ามาในบริเวณนั้น ติดสถานะ ต่างๆกัน



Glyph of Paralysis - ร่ายเวทสร้างสัญลักษณ์ บนพื้น ขนาดเล็ก ระยะไกล ศัตรู ตัวแรก(เพียงเป้าหมายเดียว)ที่เข้ามาในรัศมี จะถูกยืดติดกับที่ ขยับไม่ได้ชั่วคราว หากเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน
ผู้ร่ายเวท คนนึง สามารถสร้าง สัญลักษณ์นี้ได้เพียง จำนวนจำกัด ไม่งั้นสัญลักษณ์ ที่สร้า้งไว้แล้ว แต่ยังไม่ทำงาน อาจจะหายไป



Glyph of Warding - ร่ายเวทสรา้งสัญลักษณ์ บนพื้น ขนาดกลาง ระยะไกล ทำให้ ฝ่ายเดียวกันที่อยุ๋ในรัศมี เพิ่มค่า DEF(หลบหลีัก) และ Mental resistance(ต่อต้าน การคุมคามด้านจิต/สติ) และ เพิ่มค่าป้องกันการโจมตีกายภาพระยะไกล(การโจมตี range จาก ธนุหรือ หน้าไม้ นั้นเอง)



Glyph of Repulsion - ร่ายเวทสร้า้งสัญลักษณ์ บนพื้น ขนาดกลาง ระยะไกล ทำให้ศัตรูทั้งหมดที่เข้ามาในรัศมี จะ ล้มลง หากเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน



Glyph of Neutralization - ร่ายเวทสร้า้งสัญลักษณ์ "มหาเวท ดูดดาว" (จะมีแต่คนแก่ๆ รุ็จักไหมเนี้ย ps.คนเขียน ไม่เกี่ยว) ขนาดกลาง ระยะไกล 1.ลบล้างเวท (เฃ่น tempest) 2.สลายค่าสถาณะต่างๆทั้งหมด (เช่น Frozen / Regen) 3.ดูด mana ทั้งหมดของเป้าหมาย และป้องกันการฟื้นมานา (ง่ายๆ ลบ mana ทั้งหมดตลอดระยะที่แสดงผล) 4.ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ต่างๆ ได้โดยสิ้นเชิง

-----------------------------------------------------------------------------------------------

Combo Spell ที่แนะนำของหมวดนี้

Paralysis Explosion สัญลักษณ์ ณ จังงัง รัศมีกว้าง ทำให้เป้าหมายทั้งหมด แข็งขยับตัวไม่ได้ (ปาตี้ เราเอง ไม่โดนนะ เทพมาก)
โดยร่ายเวท Glyph of Paralysis ลงไปก่อน แล้วตามด้วย Glyph of Repulsion เป็นเวทหยุดที่โหดร้ายมากๆ (แต่มักใช้กับบอสไม่ได้ เพราะพวกนั้น Phisical resis สูง)

-----------------------------------------------------------------------------------------------

หืมเวทชุดนี้ขอเรียกเวท พลังจากธรรมชาติ ละกัน ไม่รุ็เรียกไงดีละ




Spell Wisp - เรียก หิ่งห้อย เวทมนตร์ ช่วยเพื่มค่า Spellpower (ความแรงเวท) แก่เจ้าของ เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป 30 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน
"โดยส่วนตัว คิดว่า ถ้าเปิดใช้แล้วร่ายเวท เล้กๆเบาๆ ก็ยังพอเห้นผลความต่าง แต่ถ้าลงงเวทใหญ่ๆ อย่าง blizzard ไม่เปิดใช้ดีกว่านะ)



Grease - เรียกน้ำยางพารา มาราดลงบนพื้น ขนาดกลาง ระยะกลาง ทำให้เป้าหมายทั้งหมด ในพื้นที่ เคลื่อนทีช้าลง และ อาจ ไถล(แถ) เดินแบบ ไม่สามารถเลือกทิศทางได้ หากเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน ถ้าใช้เวทไฟ ใส่ในพื้นที่นี้ จะทำให้ "ยางติดไฟ" เปานั่งยาง มันเลยยยยย /พวกเดียวก็ก็โดน



Spellbloom -สร้างก้อนพลังงาน ให้ บาน(แผ่ขยายจากตรงกลาง) ออกในพื้นที่ เป้าหมายทั้งหมด ในรัศมี ได้รับ ค่า mana regenetion เพิ่มเติม



Stinging Swarm - เรียกฝูงแมลง กินเนื้อ ให้ไป รุมกัดเป้าหมาย (แรงมากๆ) ทำให้เสียเลือดอย่างมาก ในช่วงเวลาสั้นๆ และหากเป้าหมายนั้น ตายระหว่างที่ ยังถูกแมลงกัด อยุ่ ฝูงแมลงนั้น จะ บินไปกัด ศตรูใกล้ๆ ต่อไป (ไม่มีวันหยุด จนกว่า ศตรูจะตายหมด) (ดีมากถ้าเจอพวก อ่อนๆ ชอบรุม แต่กะ เวลายากนิดนึงนะ)

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

เอาละ อีกชุด ในหมวด Spirit เป้นเงทเกี่ยวกับ จิตใจ และ วิญญาณ นั้นเอง



โดยรวมๆ ที่เห็นแจ่มๆ ก็ spell might / Animate dead / Mind blast แค่นั้นเอง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มกันด้วย สายเน้นเพิ่มป้องกันเวท



Spell Shield - โล่กันเวท ทำให้ตัวเอง มีโอกาศ 75% ที่จะสามารถ "ปัด" เวทที่โจมตีมายังตัวเราเอง ให้หายไป โดยแลกกับ มานา ของตัวเอง และถ้ามานาเราหมด โล่เวทนี้ก้จะหายไปทันที



Dispel Magic - ลบ ค่าสเตตัส และ เอฟเฟค ทุกชนิด ในตัวเป้าหมาย (ไม่ว่า จะเป้นเวททำร้ายหรือ ส่งเสริม) ใช้ใส่พวกเดียวกันเองก็ได้



Anti-Magic Ward - สร้างพื้นที่ "ต่อต้าน" เวทมนตร์ทุกชนิด(ส่วนใหญ่) ขนาดกลาง ทำให้ ลบเวทหรือเอฟเฟค ที่เกิดจากเวทมนตร์ ออกจากภายในรัศมี ในชาวงเวลาสั่นๆ



Anti-Magic Burst - สร้างก้อนพลังงาน ขนาดใหญ่ ที่จะ ลบล้างเวทมนตร์ ทุกชนิดในรัศมีที่ร้าย (ต่างกับAnti-Magic Ward ตรงอันนี้มีผล ทันทีที่ใช้ และกว้างกว่า และ ลบเวท ได้เกือบทุกชนิด)


-----------------------------------------------------------------------------------------------

ตามด้วย สายเกี่ยวกับพลังมานา



Mana Drian - ดูดมานา จากเป้าหมาย (เดียว) มาให้ผู้ร่าย



Mana Cleanse - ลดมานา ของ เป้าหมายในรัศมี



Spell Might - เร่งพลังเวทมนตร์ของตัวเอง ด้วยการ เพิ่ม มานา ที่ต้องใช้ต่อเวทมนตร์แต่ละอย่างตามปกติ ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความแรงของเวทต่างๆ เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป 60 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน (ดีพอควร แต่ทำให้ใช้เวทได้ จำนวนครั้งน้อยลง และ แรงขึ้นแค่ เฉพาะเวทที่ โจมตีโดยตรงซะมากกว่า)



Mana Clash - ระเบิดพลังเวท ทำให้เป้าหมาย(ที่เป้นนีักเวท) "สูญเสียมานา ทั้งหมด" ที่มีในตัว กลายเป้น ค่าความเสียหาย Spitir damage ตามจำนวน มานาที่หายไป (แต่ไม่ใช่ 1-1 นะ แค่อัตราส่วน มากตาม) (แน่นอน ไม่เกี่ยวกับ Stamina ของนักรบ นะจ้ะ)

-----------------------------------------------------------------------------------------------

และเวท เนโคร (กลายๆ) ระเบิดศพๆๆๆ ปลุกผี เป็น Nature Damage นะจ้ะ



Walking Bomb - ระเบิดเดินเองได้ เสกพิษใส่เป้าหมาย ทำให้ เกิดความเสียหายเรื่ิอยๆ แต่ถ้าเป้าหมายตาย ในช่วงที่ พิษนี้ยังมีผล จะทำให้เกิดระเบิดออกจากเป้าหมาย (แรงใช้ได้เลย) /แรงระเบิดมีสิทโดนพวกเดียวกันเองนา



Death Syphon - กลืนกินวิญญาณ ตราบใมดยังเปิดใช้เวทนี้ ผู้ร่าย จะฟื้นมานา ตัวเอง ด้วยการดูดพลังงานจาก "ศพ" ใกล้ๆตัว (แจ่มมากๆ) เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป45 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน



Death Syphon - ระเบิดหมู่เดินเองได้ เสกพิษใส่"หลาย"เป้าหมายในรัศมี ทำให้ เกิดความเสียหายเรื่ิอยๆ แต่ถ้าเป้าหมายตาย ในช่วงที่ พิษนี้ยังมีผล จะทำให้เกิดระเบิดออกจากเป้าหมาย (แรงใช้ได้เลย) /แรงระเบิดมีสิทโดนพวกเดียวกันเองนา ปล.ตัวละครเดียว โดน พืษนี้ได้แค่ หนเดียว คิดค่าระเบิด เป้นครั้งเดียวเสมอ



Animate Dead - ปลุกผีจากนรก เรียกศพ "ที่ใกล้ตัวที่สุด" ให้ฟื้นขึ้นมา รับใช้ผู้ร่าย โดยความสามารถและเกราะ+อาวุธ จะเป็นไปตาม คลาสของศพนั้นๆ เช่น ศพของนักธนู ตื่นมาก็ จะใช้ธนูเป้นอาวุธ มีสกิลนักธนู (นิดหน่อย) ให้ใช้ หรือ ถ้าเป็นศพ พวกถือขวาน2มือ ก็จะใช้ขวานยักนั้นเปแ้นอาวุธ และมีสกิลสายดาบ2มือ / แน่นอน ถ้าไปปลุกพวก Alpha ก็จะได้ "ของติดตัวดีกว่า" แต่สกิล สเตตัส เหมือนกันนะจ้ะ เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป80หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน /ถ้าเปิดใช้พร้อมกับ Spell might ผีที่ฟื้นขึ้นมา จะมี สเตตัส ดีกว่าปกติ

-----------------------------------------------------------------------------------------------
ตามมาด้วย สายพลังจิต (มั้ง)



Mind Blast - ระเบิดพลังจิต สร้างแรงกระแทก ต่อ สมองของศัตรูรอบๆ ตัวผู้ร่าย ทำให้ติดอาการ Stun (มึน ไม่ได้สติ)



Force Field - สร้าง กำแพงพลังจิต รอบๆตัวเป้าหมาย(เดี่ยว) ทำให้ ไม่สามารถขยับตัว และ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ อีกด้วย / ร่ายใส่พวกกเดียวกันเองก็ได้ ++โดยส่วนตัว คิดว่า ไว้ "กักขัง" ศัตรูบางประเภทที่เราแพ้ทาง เฃ่น เจอเมท 2ตัว เราก็ ขังมันไปสักตัว ตัดออกจาก วงต่อสุ้ ไปรุมอีกตัวก่อน เพราะเวทนี้ ระยะเวลานานอยุ่ หรือไม่ก็ไว้ป้องกัน NPC ฝ่ายเราเองบางตัว ที่ไม่ต้องการให้ตาย (แถมจะช่วยก็ไม่ไหว) เช่น Irving แห่ง tower of magi นั้นไง ใส่เวทไปปุบ ไม่ต้องสนละ มันจะโดนแปลงเป้น Ambo ไหม



Telekinetic Waepon - ขอแปลง่ายๆ ละกัน "ทำให้อาวุธ คมขึ้น" คือเพิ่มค่าการโจมตี "ทำลายค่าเกราะป้องกัน" ให้มากขึ้น เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป50 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน



Crushing Prison - สะกดเป้าหมายให้ขยับตัวไม่ได้ ได้แต่ยืนแข็งให้เราทุบเล่นๆ สามารถเกิดผล Shatter ได้ด้วยนะจ้ะ

000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000

เวทมนตร์ กลุ่มสุดท้าย Entropy ขอแปลว่า มนตร์ดำแห่งสิ้นหวัง ละกัน เหอๆ ไม่รุ้แปลว่าอะไรดี



โดยส่วนใหญ่เน้น ลดความสามารถ ของศัตรู มากกว่า จะสร้างความเสียหาย



Weakness - ลดค่าความแม่นยำ และ หลบหลีก(ปัดป้อง)ของเป้าหมาย และ ความเร็วในการเคลื่อนที่ ถ้าเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน



Paralze - ยึดเป้าหมาย(เดี่ยว) ให้ขยับตัวไม่ได้ ถ้าเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน แต่ถ้า ต้านได้ จะถูกลดความเร็วในการเคลื่อนที่ แทน



Miasma - สร้างออร่า รอบตัวเอง ทำให้ ศัตรูทุกในรัศมี ติดWeakness เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป50 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน ++โดยส่วนตัว ถทอว่าแจ่มมากๆ



Mass Paralysis - ยึดเป้าหมายทั้งหมดในรัศมี ให้ขยับตัวไม่ได้ ถ้าเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน แต่ถ้า ต้านได้ จะถูกลดความเร็วในการเคลื่อนที่ แทน ++ร่ายนานไปนิดแต่ก็ถือว่าดี

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



Vulnerability Hex - ลดค่า risistance ต่างๆ ทำให้เป้าหมาย(เดียว) ได้รับความเสียหายจาก Cold / Elec / Fire / nature / spirit มากกว่า ปกติ ง่ายๆก็คือ ทำให้เป้าหมายโดนการโจมตีติดธาตุต่างๆ แรงขึ้น



Affliction Hex - ลดค่า risistance ต่างๆ ทำให้เป้าหมายทั้งหมดในรัศมี ได้รับความเสียหายจาก Cold / Elec / Fire / nature / spirit มากกว่า ปกติ ง่ายๆก็คือ ทำให้เป้าหมายโดนการโจมตีติดธาตุต่างๆ แรงขึ้น



Misdirection Hex - ทำให้ทุกการโจมตีปกติ (คือการโจมตีธรรมดา ที่ไม่ได้ ติด Cri) พลาดเป้าหมายโดยสิ้นเชิง และ การโจมตีที่ติด critical กลายเป้นแค่การ โจมตีปกติ สรุปคือ ทำให้เป้าหมาย โจมตี ติด miss ตลอด และจะตีโดนเราได้ เมื่อติด cri เท่านั้น



Death Hex - ทำให้ ทุกการโจมตีที่เป้าหมาย ได้รับ กลายเป้นการโจมตี critical(แรงกว่า ปกติเยอะ) แทนทีทั้งหมด +++ ดีมากๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



Disorient - ทำให้เป้าหมายเกิดอาการสับสน ลดความสามารถในการโจมตี(แม่นยำ)และป้องกันตัว(หลบหลีก) ATK+DEF ไม่ใช่ค่า Armor / damage นะจ้ะ



Herror - ทำให้เป้าหมายเกิด อาการ "หวาดกลัว จน ขาดสติ" ไม่สามารถขยับได้ ถ้าเป้าหมาย มีค่า Physical Resistant ไม่พอจะต้านทาน แต่หากเป้าหมาย โดน Sleep (หลับอยู่) จะติดhorror 100% และได้รับความเสียหาย Spirit damage อย่างหนัก



Sleep - ทำให้เป้าหมายตกอยุ่ใน ภวัง หลับไปทันที รัศมีกว้าง ระยะไกล แต่ตัวศัตรู จะตื่นทันทีถ้าถูกโจมตี



Waking Nightmare - "ฝันกลางวัน" หึหึ ทำให้เป้าหมายเกิดอาการเป็นภาพหลอน จึงเป้นผลให้อาจจะ(Random สุุ่่ม) ติดStun หรือ โจมตีพวกเดียวกันเอง หรือ กลายเป้น "ผู้ติดตาม" ของเรา ในช่วงเวลานึง / แต่หากเป้าหมาย โดน Sleep (หลับอยู่) จะติดอาการ Waking Nightmare100%

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



Drain Life - ดึง HP จากเป้าหมายมาเติมให้ ตัวผู้ร่ายแทน



Death Magic - ดึงพลังชีวิตจาก ศพ ใกล้ๆตัว มาแปลงเป็น HP ให้ตัวเอง เป็นเวท Sustained คือ เปิดใช้ จะกิน มานาหายไป45 หน่วย ตลอดที่ยังเปิดใช้งาน



Curse of Mortality - สาปให้เป้าหมาย เสียเลือด(HP)และไม่สามารถรักษาตัวเองได้ หรือแม้กระทั่งผลจากเวท Heal ได้แต่เลือดหดหาย รอคอยความตาย หึหึ



Death Cloud - หมอกมรณะ สร้างหมอกดูดเลือด รัศมีกว้าง ระยะไกลที่จะ ดูดเลือดเป้าหมายทั้งหมดในรัศมี ให้สูญเสีย HP ไปเรื่อยๆ /ไม่เว้นพวกเดียวกันเองแน่นอน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Combo Spell ในหมวดนี้ ขอแนะนำ
Entropic Death - มหาประลัยหมอกนรก ร่าย Death Cloud ลงไปก่อน แล้ว ร่าย Death Hex ใส่หมอกนั้น แล้วรอดูผลได้เลย หมอกกินเลือดไร้ปราณี ก็ราวๆ โดนหมอกโจมตีแบบ cri ตลอดไง แรงมากมาย
[Edited 3 times pongkrit03 - Last Edit 2009-12-26 21:59:27]

# Wed 2 Dec 2009 : 8:44AM

Decibel per-oxide
member

Since 23/1/2006
(3806 post)
กำ นี่เว็บนี้ edit โพ๊สตัวเองไม่ได้เหรอเนี่ย แล้วจะเพิ่มเนื้อหายังไง *-*


รอมันโหลดซักพักเดี๋ยวคำสั่ง Edit ก็จะขึ้นมาเองครับ รอนิดนึง

# Wed 2 Dec 2009 : 10:09AM

coldturkey
member

Since 27/5/2009
(65 post)
pongkrit03 wrote:
coldturkey wrote:
ขอถามนะครับ (version xbox360) ปุ่ม B ตาม default จะเป็นปุ่มที่เลือกเติมเลือดโดยใช้ ไอเทมที่เหมาะสมที่สุด แต่ผมบังเอิญดันไป assign skill ให้ปุ่มนี้ไป ทีนี้จะเปลี่ยนเป็นแบบเก่าได้ยังไงอ่ะครับ

เกมนี้สนุกแต่เล่นนานๆแล้วเบลอครับ ผมนั่งอ่าน codex นานไป พอดีข้องใจอะไรหลายอย่างมาก ชื่อ ตัวละคร อะไรแปลกๆที่อยู่ดีๆตัวละครก็อ้างถึงมันเยอะไปอ่ะคับ ผมทนเล่นทั้งๆที่สงสัยไม่ค่อยได้ นั่งอ่านจนหลับเลยครับ ผูกไปผูกมาจนงงไปหมด สงสัยต้องหาหนังสืออ่าน ผมชอบบ้าสงสัยอะไรแปลกๆ อย่างเช่นทำไม mages ต้องถูกจับตามองโดยพวก Templar กะ chantry และ circle of magi เกิดขึ้นได้ไง ใครปกครอง ไอ้พวกนี้ถ้าไม่อ่าน codex หรือคุยเอาก็ไม่รู้ลึกอ่ะครับ ผมบ้ามากเล่นทั้งวันเนื้อเรื่องไปไม่ถึงไหนนี่ยังไม่นับเวลาที่เสียไปกะการอ่าน background ตัวละครนะ หลายๆอย่างมันมาจาก prequel ที่เป็นหนังสือ dragon age: the stolen throne อ่ะครับ ยังหาโหลดไม่ได้เลย ว่ามาซะยาว ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนที่ช่วยตอบนะครับ


โห ถ้าจะเอาลึกแบบนี้คงต้องไปหาข้อมูลจากเว็บนอกแล้วละครับ จนปัญญา ผมแทบไม่ได้เปิด codex อ่านเลย


ทำไม mages ต้องถูกจับตามองโดยพวก Templar ---- อันนี้ตอบได้ครับ เพราะ mage เนี่ยสามารถเชื่อมต่อไปยังโลกแห่ง fade ได้ ถ้าจิตใจไม่แข็งแรงจะถูกสิงน่ะคับ เลยต้องมี templar มาคอยดูแล (ใครถูกสิง ก็เชือดซะ) เป็นเมจนี่โชคร้ายมากกว่าโชคดีครับ เหมือนถูกขังเลย


ขอบคุณครับ แต่อันที่ผมถามคือของ xbox360 ปุ่ม B ตาม default จะเป็นปุ่มที่เลือกเติมเลือดโดยใช้ ไอเทมที่เหมาะสมที่สุด แต่ผมบังเอิญดันไป assign skill ให้ปุ่มนี้ไป ทีนี้จะเปลี่ยนเป็นแบบเก่าได้ยังไงอ่ะครับ เนื้อเรื่องผมอ่านจนแทบทะลุและครับ นั่งอ่าน codex แทบไม่ได้เล่นเลย (กำ นี่มันเกมนะ) ตอนนี้รู้เรื่องที่มาที่ไปของ dumat, first blight, chantry ว่ามันเป็นมายังไง darkspawn เกิดจากใครไปทำอะไรที่ไหน ทำไม maker จึงทอดทิ้ง humanity อะไรพวกนี้แล้วครับ เด๋วจะเริ่มเล่นจริงๆจังๆและ ใครเล่นของ xbox360 ช่วยตอบผมด้วยนะครับสำหรับคำถาม

# Wed 2 Dec 2009 : 11:52AM

pongkrit03
member

Since 11/10/2009
(55 post)
ส่วนสกิลของสายอื่นต่อจากนี้ทำโดยคุณ Cola Coke จาก OVZ นะครับ
ความหมายของ Type Skill

Passive คือ สกิลที่ติดตัว ไม่ต้องเรียกใช้และไม่เสีย Stamina

Sustained คือ สกิลที่ยึดค่า Stamina ของเรา ดูได้จากค่า Upkeep เช่น Max Stamina ของเรามีอยู่ 100 หากใช้สกิล Threaten Stamina เราจะเหลือ 65 และผลของสกิลจะเปิดตลอดเวลา หากต้องการยกเลิกสกิลให้กดที่สกิลนั้นๆ อีกครั้งนึง ก็จะเป็นการยกเลิกสกิล Stamina ของเราก็จะคืนมาเป็น 100 เหมือนเดิม

Activated คือ สกิลที่กดเรียกใช้ และจะเสียค่า Stamina ตาม Activation ที่สกิลนั้นๆบอกไว้

Powerful
Type: Passive
Successive Talent: Threaten
Requires: 10 Strength
Friendly Fire: No
เพิ่ม Health ให้กับ Warrior และลด fatigue สำหรับการสวมชุดเกราะ

Threaten
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 35
Fatigue: 2%
Cooldown: 15 seconds
Previous Talent: Powerful
Successive Talent: Bravery
Requires: Level 4, 14 Strength
Friendly Fire: No
เป็นสกิลที่เปิดใช้โดยยึดค่า Stamina 35 หน่วย ตลอดเวลาการเปิดใช้งานของสกิล
เพิ่มค่า hostility ทำให้ดึงดูดศัตรูเข้ามาโจมตีเรา (สำหรับตัว Tank)


Bravery
Type: Passive
Previous Talent: Threaten
Successive Talent: Death Blow
Requires: Level 8, 20 Strength
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัส Damage , physical resistance , mental resistance และเพิ่มโอกาสการติด Critical ตามสัดส่วนของศัตรูที่เข้ามารุมมากกว่า 2 ตัวขึ้นไป

Death Blow
Type: Passive
Previous Talent: Bravery
Requires: Level 12, 25 Strength
Friendly Fire: No
ฟื้นฟู Stamina ทุกครั้งที่กำจัดศัตรูได้

Precise Striking
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 40
Fatigue: 5%
Cooldown: 15 seconds
Successive Talent: Taunt
Requires: 10 Dexterity
Friendly Fire: No
เป็นสกิลที่เปิดใช้โดยยึดค่า Stamina 40 หน่วย ตลอดเวลาการเปิดใช้งานของสกิล
เพิ่มความแม่นยำในการโจมตี และเพิ่มค่า Critical แต่ลดความเร็วในการโจมตีลง


Taunt
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 41
Cooldown: 20 seconds
Previous Talent: Precise Striking
Successive Talent: Disengage
Requires: Level 4, 14 Strength
Friendly Fire: No
ตะโกนเพื่อดึงดูศัตรูรอบข้าง เพิ่มค่า hostility ทำให้ดึงดูดศัตรูเข้ามาโจมตีเรา (สำหรับตัว Tank)

Disengage
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 10
Cooldown: 10 seconds
Previous Talent: Taunt
Successive Talent: Perfect Striking
Requires: Level 8, 18 Dexterity
Friendly Fire: No
ลดค่า hostility ทำให้ศัตรูใกล้เคียงหาเป้าหมายอื่นแทน

Perfect Striking
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 62
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: Disengage
Requires: Level 12, 22 Strength
Friendly Fire: No
เพิ่มความแม่นยำในการโจมตี และเพิ่ม Attack อย่างมาก ในช่วงเวลาปานกลาง


Credit : gamebanshee.com



] Shield Bash
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 26
Cooldown: 20 seconds
Successive Talent: Shield Pummel
Requires: 11 Strength, Combat Training
Friendly Fire: No
กระแทกศัตรูด้วยโล่ ทำให้ล้มลง หากมีสกิล Shield Mastery เพิ่มความแรงเป็น 2 เท่า

Shield Pummel
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 31
Cooldown: 20 seconds
Previous Talent: Shield Bash
Successive Talent: Overpower
Requires: 15 Strength, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีด้วยโล่ 2 ครั้ง สามารถทำให้เป้าหมายติดสถานะ Stun หากมีสกิล Shield Mastery จะเพิ่ม strength เป็น 2 เท่าของผู้ใช้ในการโจมตีแต่ละฮิต

Overpower
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 31
Cooldown: 20 seconds
Previous Talent: Shield Pummel
Successive Talent: Assault
Requires: 25 Strength, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
กระแทกเป้าหมายด้วยโล่ 3 ครั้ง การโจมตีครั้งที่ 3 จะเป็นการโจมตีแบบ Critical สามารถทำให้ศัตรูล้มลง หากมีสกิล Shield Mastery จะเพิ่มความแรงของสกิล

Assault
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 41
Cooldown: 20 seconds
Previous Talent: Overpower
Requires: 32 Strength, Master Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีศัตรู 4 ครั้งอย่างรวดเร็ว แต่ลด Damage ลงในแต่ละฮิต หากมีสกิล Shield Mastery จะเพิ่มความแรงของสกิล

Shield Defense
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 35
Fatigue: 5%
Cooldown: 5 seconds
Successive Talent: Shield Balance
Requires: 11 Strength, Combat Training
Friendly Fire: No
เป็นสกิลที่เปิดใช้โดยยึดค่า Stamina 35 หน่วย ตลอดเวลาการเปิดใช้งานของสกิล
เพิ่ม Def ของผู้ใช้ แต่ลด Attack ลง มีโอกาสหลบหลีกการโจมตีระยะไกล หากมีสกิล Shield Balance จะโจมตีแรงขึ้นเล็กน้อย , หากมีสกิล Shield Expertise จะเพิ่มโบนัส Def , หากมีสกิล Shield Mastery จะเพิ่มโบนัส Def มากขึ้น


Shield Balance
Type: Passive
Previous Talent: Shield Defense
Successive Talent: Shield Wall
Requires: 14 Strength, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
เรียนรู้การป้องการในการต่อสู้มากขึ้น สกิล Shield Defend จะไม่ลด Attack อีกต่อไป

Shield Wall
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 55
Fatigue: 5%
Cooldown: 15 seconds
Previous Talent: Shield Balance
Successive Talent: Shield Expertise
Requires: 20 Strength, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
ในโหมดนี้จะเพิ่ม Def อย่างมหาศาล เพิ่มโบนัสให้กับชุดเกราะ และลดค่าความเสียหายจากการโจมตีระยะไกลอย่างมาก หากมีสกิล Shield Expertise จะทำให้ตัวละครไม่ติดสถานะ knockdown(ล้มลง) ในโหมดของสกิลนี้ และหากมีสกิล Shield Mastery จะเพิ่มโบนัส Def ขึ้นอีก

Shield Expertise
Type: Passive
Previous Talent: Shield Wall
Requires: Level 12, 26 Strength, Master Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มประสิทธิภาพให้สกิลอื่นๆ (Shield Defense,Shield Wall)

Shield Block
Type: Passive
Successive Talent: Shield Cover
Requires: 10 Dexterity, Combat Training
Friendly Fire: No
มีโอกาสป้องกันศัตรูด้วยโล่ ไม่สามารถป้องกันจากด้านข้าง

Shield Cover
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 20
Fatigue: 5%
Cooldown: 15 seconds
Previous Talent: Shield Block
Successive Talent: Shield Tactics
Requires: 16 Dexterity, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มโอกาสสูงในการป้องกันการโจมตีจากระยะไกล หากมีสกิล Shield Mastery จะเพิ่มโบนัสขึ้นอีก

Shield Tactics
Type: Passive
Previous Talent: Shield Cover
Successive Talent: Shield Mastery
Requires: Level 9, 20 Dexterity, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
ความสามารถเหมือนกับสกิล Shield Block แต่สามารถป้องกันจากด้านข้างได้

Shield Mastery
Type: Passive
Previous Talent: Shield Tactics
Requires: Level 12, 26 Dexterity, Master Combat Training
Friendly Fire: No
ผู้เล่นได้เรียนรู้การใช้โล่ในการโจมตีและป้องกันควบคู่กันไป และเพิ่มประสิทธิภาพของสกิล Shield Bash, Shield Pummel, Assault, Overpower, Shield Defense, Shield Wall, Shield Cover.

"]Specialization Talents[/COLOR]

Warrior


Berserker


Berserk
Class(es): Warrior
Category: Berserker
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 20
Fatigue: 5%
Cooldown: 30 seconds
Successive Talent: Resilience
Friendly Fire: No
เพิ่มความเสียหายในการโจมตีอย่างมาก และเพิ่มการฟื้นฟู Hp แต่ลดการฟื้นฟูค่า Stamina


Resilience
Class(es): Warrior
Category: Berserker
Type: Passive
Previous Talent: Berserk
Successive Talent: Constraint
Requires: Level 8
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัสการฟื้นฟู Hp เมื่อใช้งานสกิล Berserk และเพิ่มโบนัสความต้านทาน nature resistance ตลอดระยะเวลาการใช้งาน


Constraint
Class(es): Warrior
Category: Berserker
Type: Passive
Previous Talent: Resilience
Successive Talent: Final Blow
Requires: Level 10
Friendly Fire: No
การลดการฟื้นฟูค่า Stamina จากสกิล Berserk ลดน้อยลง(Stamina เด้งเร็วขึ้นจากเดิม)


Final Blow
Class(es): Warrior
Category: Berserker
Type: Activated
Range: Personal
Cooldown: 60 seconds
Previous Talent: Constraint
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
โจมตีอย่างรุมแรง ด้วย Stamina ทั้งหมดของผู้ใช้ ค่าความเสียหายจะคิดกับ Stamina ที่เสียไป

---------------------------------------------------------------------------------------------


Champion


War Cry
Class(es): Warrior
Category: Champion
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 25
Cooldown: 20 seconds
Successive Talent: Rally
Friendly Fire: No
ตะโกนออกมาอย่างน่ากลัว ทำให้ลดการโจมตีของศัตรูรอบข้าง มีโอกาสทำให้ศัตรูเกิดอาการ knocked down (ล้มลง)


Rally
Class(es): Warrior
Category: Champion
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 50
Fatigue: 5%
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: War Cry
Successive Talent: Motivate
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัส Atk และ Def ให้กับทีมของเราในตลอดระยะเวลาการใช้งาน หาก โจมตีเป้าหมายเดียวกันจะเพิ่มโบนัส Atk ขึ้นอีก


Motivate
Class(es): Warrior
Category: Champion
Type: Passive
Upkeep: 30
Activation: 40
Previous Talent: Rally
Successive Talent: Superiority
Requires: Level 14
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัส Atk และ Def ให้กับสกิล Rally


Superiority
Class(es): Warrior
Category: Champion
Type: Passive
Activation: 60
Previous Talent: Motivate
Requires: Level 16
Friendly Fire: No
เพิ่มโอกาสการทำให้ศัตรูเกิดอาการ knocked down เมือใช้สกิล War Cry

---------------------------------------------------------------------------------------------


Reaver


Devour
Class(es): Warrior
Category: Reaver
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 25
Cooldown: 30 seconds
Successive Talent: Frightening Appearance
Friendly Fire: No
ดูดพลังจากซากศพมาฟื้นฟู Hp ของผู้ใช้


Frightening Appearance
Class(es): Warrior
Category: Reaver
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 25
Cooldown: 20 seconds
Previous Talent: Devour
Successive Talent: Aura of Pain
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
เมื่อโจมตีศัตรูจะติดสถานะ Fear และช่วยเพิ่มผลของสกิล Taunt และ Threaten


Aura of Pain
Class(es): Warrior
Category: Reaver
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 60
Fatigue: 5%
Cooldown: 45 seconds
Previous Talent: Frightening Appearance
Successive Talent: Blood Frenzy
Requires: Level 14
Friendly Fire: No
ปลดปล่อยออร่าออกมารอบตัว ทำให้ศัตรูใกล้เคียงได้รับความเสียหายจาก spirit damage ตลอดระยะเวลาใช้งาน


Blood Frenzy
Class(es): Warrior
Category: Reaver
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 60
Fatigue: 5%
Cooldown: 60 seconds
Previous Talent: Aura of Pain
Requires: Level 16
Friendly Fire: No
เมื่อ Hp ลดลงจากการโจมตี ผู้เล่นจะได้รับโบนัส Atk เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่การฟื้นฟูของ Hp จะลดน้อยลง

---------------------------------------------------------------------------------------------



Templar


Righteous Strike
Class(es): Warrior
Category: Templar
Type: Passive
Successive Talent: Cleanse Area
Friendly Fire: No
เมื่อโจมตีระยะประชิดกับพวกร่ายเวทย์ จะทำการดูด mana ของศัตรูที่เราโจมตี


Cleanse Area
Class(es): Warrior
Category: Templar
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 40
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: Righteous Strike
Successive Talent: Mental Fortress
Requires: Level 9
Friendly Fire: Yes
ยกเลิกผลเวทย์ทุกชนิดในระยะใก้ลเคียง


Mental Fortress
Class(es): Warrior
Category: Templar
Type: Passive
Previous Talent: Cleanse Area
Successive Talent: Holy Smite
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัสอย่างมากในการต้านทาน mental resistance


Holy Smite
Class(es): Warrior
Category: Templar
Type: Activated
Range: Medium
Activation: 75
Cooldown: 40 seconds
Previous Talent: Mental Fortress
Requires: Level 15
Friendly Fire: No
ดูด Mana จากเป้าหมายที่ร่ายเวทย์ และสร้างความเสียหายด้วย spirit damage ตาม Mana ที่เสียไป และมีโอกาสที่ศัตรูจะติด Stun. การโจมตีแต่ละครั้งมีผลยกเลิกการร่ายเวทย์จากศัตรูรอบข้าง


]Rogue Specialization Talents


Assassin

Mark of Death
Class(es): Rogue
Category: Assassin
Type: Activated
Range: Short
Activation: 40
Cooldown: 60 seconds
Successive Talent: Exploit Weakness
Friendly Fire: No
เผยจุดอ่อนของเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายได้รับ damage มากขึ้น

Exploit Weakness
Class(es): Rogue
Category: Assassin
Type: Passive
Previous Talent: Mark of Death
Successive Talent: Lacerate
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
มีโอกาสโจมตีแบบ Back Stab ใส่ศัตรู ความแรงขึ้นอยู่กับค่า Cunning

Lacerate
lass(es): Rogue
Category: Assassin
Type: Sustained
Upkeep: 60
Activation: 30
Cooldown: 60 seconds
Previous Talent: Exploit Weakness
Successive Talent: Feast of the Fallen
Requires: Level 14
Friendly Fire: No
เมื่อการโจมตีแบบ Back Stab ทำ Damage ได้มากพอ จะทำให้ศัตรูติดสถานะ bleeding wounds ทำให้ได้รับ Damage เพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาสั้นๆ

Feast of the Fallen
lass(es): Rogue
Category: Assassin
Type: Passive
Previous Talent: Lacerate
Requires: Level 16
Friendly Fire: No
เมื่อกำจัดศัตรูด้วย Back Stab จะได้รับ Stamina บางส่วน


Bard

Song of Valor
Class(es): Rogue
Category: Bard
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 50
Fatigue: 5%
Cooldown: 30 seconds
Successive Talent: Distraction
Friendly Fire: No
เพิ่มอัตราการฟื้นฟู Mana และ Stamina ให้กับทีม อัตราการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับค่า Cunning

Distraction
Class(es): Rogue
Category: Bard
Type: Activated
Range: Short
Activation: 40
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: Song of Valor
Successive Talent: Song of Courage
Requires: Level 8
Friendly Fire: No
เมื่อใช้ท่านี้ใส่เป้าหมาย มีโอกาสทำให้เป้าหมายลืมว่าต่อสู้กับใครและเกิดความสับสน

Song of Courage
Class(es): Rogue
Category: Bard
Type: Sustained
Range: Personal
Fatigue: 5%
Activation: 50
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: Distraction
Successive Talent: Captivating Song
Requires: Level 10
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัส Attack , Defend และโอกาสติดการโมตีแบบ Critical. ค่าโบนัสที่เพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับค่า Cunning

Captivating Song
Class(es): Rogue
Category: Bard
Type: Activated
Range: Personal
Upkeep: 60
Fatigue: 5%
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: Song of Courage
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
เมื่อใช้ท่านี้ทำให้เป้าหมายมีโอกาสติด Stun. สามารถใช้ได้ต่อเนื่องแต่จะไม่สามารถเดินหรือใช้สกิลได้เลย


Duelist

Dueling
Class(es): Rogue
Category: Duelist
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 30
Fatigue: 5%
Cooldown: 5 seconds
Successive Talent: Upset Balance
Friendly Fire: No
เมื่ออยู่ในโหลดนี้จะได้โบนัส Attack เพิ่ม. หากมีสกิล Keen Defend จะเพิ่มโบนัส Defend ให้อีก

Upset Balance
Class(es): Rogue
Category: Duelist
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 25
Cooldown: 15 seconds
Previous Talent: Dueling
Successive Talent: Keen Defense
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
เมื่อใช้ท่านี้ มีโอกาสทำให้ศัตรูถูกลดความเร็วและ Defend ลดลง

Keen Defense
Class(es): Rogue
Category: Duelist
Type: Passive
Previous Talent: Upset Balance
Successive Talent: Pinpoint Strike
Requires: Level 14
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัส Defend เมื่อเปิดการใช้งาน Duelist

Pinpoint Strike
Class(es): Rogue
Category: Duelist
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 60
Cooldown: 180 seconds
Previous Talent: Keen Defense
Requires: Level 16
Friendly Fire: No
โจมตีแบบ Back Stab ใส่เป้าหมาย


Ranger

Summon Wolf
Class(es): Rogue
Category: Ranger
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 50
Fatigue: 5%
Cooldown: 60 seconds
Successive Talent: Summon Bear
Friendly Fire: No
เรียกหมาป่าออกมาช่วยสู้

Summon Bear
Class(es): Rogue
Category: Ranger
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 50
Fatigue: 5%
Cooldown: 90 seconds
Previous Talent: Summon Wolf
Successive Talent: Summon Spider
Requires: Level 8
Friendly Fire: No
เรียกหมีออกมาช่วยสู้

Summon Spider
Class(es): Rogue
Category: Ranger
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 50
Fatigue: 5%
Cooldown: 120 seconds
Previous Talent: Summon Bear
Successive Talent: Master Ranger
Requires: Level 10
Friendly Fire: No
เรียกแมงมุมออกมาช่วยสู้

Master Ranger
Class(es): Rogue
Category: Ranger
Type: Passive
Previous Talent: Summon Spider
Requires: Level 12
Friendly Fire: No
เพิ่มประสิทธิภาพของสัตว์ที่ Ranger เรียกออกมา

]Rogue Base Talent

Dirty Fighting
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Activated
Successive Talent: Combat Movement
Requires: 10 Dexterity
Friendly Fire: No
ทำให้เป้าหมายติด Stun ในระยะเวลาสั้นๆ

Combat Movement
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Passive
Previous Talent: Dirty Fighting
Successive Talent: Coup De Grace
Requires: Level 4, 14 Dexterity
Friendly Fire: No
ทำให้มีโอกาสโจมตีแบบ Backstab เพิ่มมากขึ้น

Coup De Grace
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Passive
Previous Talent: Combat Movement
Successive Talent: Feign Death
Requires: Level 8, 18 Dexterity
Friendly Fire: No
หากศัตรูติดสถานะ Stun หรือ Paralyzed ทำให้เราโจมตีแบบ Backsteb สำเร็จ

Feign Death
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 40
Fatigue: 5%
Cooldown: 300 seconds
Previous Talent: Coup De Grace
Requires: Level 12, 22 Dexterity
Friendly Fire: No
หากใช้ท่านี้จะทำให้ศัตรูไม่สนใจเรา หาเป้าหมายอื่นแทน

Below the Belt
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 25
Cooldown: 15 seconds
Successive Talent: Deadly Strike
Requires: 10 Dexterity
Friendly Fire: No
เตะผ่าหมาก และมีโอกาสทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง

Deadly Strike
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 25
Cooldown: 15 seconds
Previous Talent: Below the Belt
Successive Talent: Lethality
Requires: Level 4, 14 Dexterity
Friendly Fire: No
โจมตีแบบธรรมดาแต่จะได้ค่าโบนัสแบบเจาะเกราะ

Lethality
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Passive
Previous Talent: Deadly Strike
Successive Talent: Evasion
Requires: Level 8, 23 Dexterity
Friendly Fire: No
เพิ่มโอกาสการโจมตี Critical และถ้าหากค่า Cunning ของตัวละครมากกว่า Strength, จะทำให้ความแรงในการโจมตีขึ้นอยู่กับค่า Cunning แทนค่า Strength

Evasion
Class(es): Rogue
Category: Rogue
Type: Passive
Previous Talent: Lethality
Requires: Level 12, 35 Dexterity
Friendly Fire: No
เพิ่มโอกาส 1 ใน 5 ในการหลบหลีกการโจมตีธรรมดา, Stun และ Knocked down

Deft Hands, Improved Tools, Mechanical Expertise, Device Mastery
เป็นสกิลปลดล็อกหีบ, ประตู และแก้กับดัก มีทั้งหมด 4 ขั้น โอกาสสำเร็จเพิ่มขึ้นตามค่า Cunning

Stealth, Stealthy Item Use, Combat Stealth, Master Stealth
การล่องหน ทำให้ศัตรูไม่สามารถตรวจจับได้ มี 4 ขั้น ขั้นสุดท้าย ไม่สามารถมีใครตรวจจับได้


]Archery Talents

Melee Archer
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Passive
Successive Talent: Aim
Requires: 12 Dexterity, Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีได้ต่อเนื่อง โดยไม่ชะงักหากถูกโจมตี

Aim
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 35
Fatigue: 5%
Cooldown: 10 seconds
Previous Talent: Melee Archer
Successive Talent: Defensive Fire
Requires: 16 Dexterity, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัส Attack, Damage ค่าเจาะเกราะ และโอกาสติดการโจมตีแบบ Critical แต่จะลดความเร็วในการโจมตี. หากมีสกิล Master Archer จะเพิ่มโบนัสขึ้นอีก

Defensivefire
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 40
Fatigue: 5%
Cooldown: 15 seconds
Previous Talent: Aim
Successive Talent: Master Archer
Requires: 22 Dexterity, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่ม Defend ให้กับผู้ใช้ แต่จะลดความเร็วในการโจมตี. หากมีสกิล Master Archer จะเพิ่มโบนัส Defend ขึ้นอีก

Master Archer
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Passive
Previous Talent: Defensive Fire
Requires: 28 Dexterity, Master Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัสให้กับสกิล Aim, Defensive Fire, Crippling Shot, Critical Shot, Arrow of Slaying, Rapid Shot, และ Shattering Shot. สกิลนี้ยังเพิ่มความเร็วในการโจมตีขณะที่ใส่เกราะหนักอีกด้วย

Pinning Shot
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Activated
Range: Very Long
Activation: 20
Cooldown: 15 seconds
Successive Talent: Crippling Shot
Requires: 12 Dexterity, Combat Training
Friendly Fire: No
ยิงไปที่ขาของเป้าหมาย มีโอกาสทำให้เป้าหมายไม่สามารถขยับได้ หรือลดความเร็วของเป้าหมาย

Crippling Shot
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Activated
Range: Very Long
Activation: 25
Cooldown: 10 seconds
Previous Talent: Pinning Shot
Successive Talent: Critical Shot
Requires: 16 Dexterity, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
ลด Attack และ Defend ของเป้าหมาย. หากมีสกิล Master Archer จะเพิ่มโบนัส Damage ขึ้นด้วย

Critical Shot
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Activated
Range: Very Long
Activation: 39
Cooldown: 10 seconds
Previous Talent: Crippling Shot
Successive Talent: Arrow of Slaying
Requires: 21 Dexterity, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
ยิงธนูแบบ Critical และเพิ่มโบนัสให้กับการเจาะเกราะ ไปยังเป้าหมาย. หากมีสกิล Master Archer จะช่วยเพิ่มโบนัสในการเจาะเกราะ

Arrow of Slaying
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Activated
Range: Very Long
Activation: 79
Cooldown: 60 seconds
Previous Talent: Critical Shot
Requires: 30 Dexterity, Master Combat Training
Friendly Fire: No
ท่านี้เป็นการโจมตีแบบ Critical x 2-5 ศัตรูที่มีเลเวลสูง อาจจะหลบหลีกท่านี้ได้ขึ้นอยู่กับเลเวลของศัตรู. ลดการฟื้นฟู Stamina ชั่วขณะ. หากมีสกิล Master Archer จะช่วยเพิ่ม Attack โบนัสขึ้นอีก

Rapid Shot
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 35
Fatigue: 5%
Cooldown: 30 seconds
Successive Talent: Shattering Shot
Requires: 12 Dexterity, Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มความเร็วในการยิงธนู แต่ไม่มีโอกาสการโจมตีแบบ Critical เลย. สกิล Master Archer ช่วยเพิ่มความเร็วในการยิงขึ้นอีก

Shattering Shot
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Activated
Range: Very Long
Activation: 25
Cooldown: 15 seconds
Previous Talent: Rapid Shot
Successive Talent: Suppressing Fire
Requires: 16 Dexterity, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
การยิงแบบเปิดจุดอ่อนของเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายถูกลด Armor ลง และเราโจมตีได้แรงขึ้น

Suppressing Fire
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 60
Fatigue: 5%
Cooldown: 10 seconds
Previous Talent: Shattering Shot
Successive Talent: Scattershot
Requires: 24 Dexterity, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
เมื่ออยู่ในโหมดนี้ การโจมตีจะมี damage ปกติ แต่ทุกการโจมตีสามารถลด Attack ของเป้าหมายได้. การลด Attack สามารถใช้งานได้หลายครั้ง

Scattershot
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Archery
Type: Activated
Range: Very Long
Activation: 49
Cooldown: 40 seconds
Previous Talent: Suppressing Fire
Requires: 27 Dexterity, Master Combat Training
Friendly Fire: No
ยิงไปที่เป้าหมาย เป้าหมายจะติดสถานะ Stun และศัตรูใกล้เคียงจะโดนผลของสถานะ Stun ด้วย

Dual Weapon Talents

Dual-Weapon Training
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Passive
Successive Talent: Dual-Weapon Finesse
Requires: 12 Dexterity, Combat Training
Friendly Fire: No
การโจมตีจะเป็นปกติเมื่อสวมใส่อาวุธทั้งสองมือ

Dual-Weapon Finesse
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Passive
Previous Talent: Dual-Weapon Training
Successive Talent: Dual-Weapon Expert
Requires: 16 Dexterity, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มโบนัส Attack และ Defend เมื่อสวมใส่อาวุธทั้งสองมือ

Dual-Weapon Expert
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Passive
Previous Talent: Dual-Weapon Finesse
Successive Talent: Dual-Weapon Mastery
Requires: Level 9, 26 Dexterity, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มโอกาสการโจมตีแบบ Critical และมีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะ Bleeding

Dual-Weapon Mastery
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Passive
Previous Talent: Dual-Weapon Expert
Requires: Level 12, 36 Dexterity, Master Combat Training
Friendly Fire: No
การโจมตีของอาวุธทั้งสองมือเป็นปกติไม่ว่าจะสวมใส่อาวุธอะไรก็ตาม. ลดการใช้ Stamina ในสกิล Dual Weapon ทุกสกิล

Dual Striking
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 50
Fatigue: 5%
Cooldown: 10 seconds
Successive Talent: Riposte
Requires: 12 Dexterity, Combat Training
Friendly Fire: No
เมื่ออยู่ในโหมดนี้ การโจมตีจะเพิ่ม Damage มากขึ้น แต่จะไม่สามารถโจมตีแบบ Critical และ Backstabs ได้

Riposte
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 39
Cooldown: 20 seconds
Previous Talent: Dual Striking
Successive Talent: Cripple
Requires: 16 Dexterity, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีศัตรูด้วย Damage ปกติ มีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะ Stun และหากศัตรูติดสถานะ Stun จะทำให้การโจมตีติด Critical

Cripple
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 34
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: Riposte
Successive Talent: Punisher
Requires: 22 Dexterity, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีแบบ Critical ไปยังเป้าหมาย มีโอกาสทำให้เป้าหมายลด Attack, Defend และความเร็วในการเดิน

Punisher
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 49
Cooldown: 40 seconds
Previous Talent: Cripple
Requires: 28 Dexterity, Master Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตี 3 ครั้งใส่เป้าหมาย. การโจมตี 2 ครั้งแรกจะทำ Damage ได้ปกติ แต่การโจมตีครั้งที่สามจะเป็นแบบ Critical หากโจมตีโดนทั้งสามครั้ง เป้าหมายจะโดนลด Attack และ Defend หรือไม่ก็ล้มลง

Dual-Weapon Sweep
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 20
Cooldown: 15 seconds
Successive Talent: Flurry
Requires: 12 Dexterity, Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีเป็นมุมกว้างทางด้านหน้าผู้ใช้ Damage แรงกว่าการโจมตีปกติเล็กน้อย

Flurry
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 39
Cooldown: 20 seconds
Previous Talent: Dual-Weapon Sweep
Successive Talent: Momentum
Requires: 18 Dexterity, Improved Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีใส่เป้าหมาย 3 ครั้ง ด้วย Damage ปกติ

Momentum
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Sustained
Range: Personal
Upkeep: 60
Fatigue: 5%
Cooldown: 30 seconds
Previous Talent: Flurry
Successive Talent: Whirlwind
Requires: 24 Dexterity, Expert Combat Training
Friendly Fire: No
เพิ่มความเร็วในการโจมตีอย่างมากๆเมื่อถืออาวุธสองมือ แต่ในโหมดนี้จะใช้ Stamina จนหมดไปเรื่อยๆ

Whirlwind
Class(es): Rogue, Warrior
Category: Dual Weapon
Type: Activated
Range: Personal
Activation: 39
Cooldown: 40 seconds
Previous Talent: Momentum
Requires: 30 Dexterity, Master Combat Training
Friendly Fire: No
โจมตีศัตรูรอบๆตัวด้วยอาวุธทั้งสองข้าง การโจมตีเป็น Damage ปกติ
[Edited 3 times pongkrit03 - Last Edit 2009-12-26 22:05:36]

# Wed 2 Dec 2009 : 2:57PM

coldturkey
member

Since 27/5/2009
(65 post)
ได้ครับ เดี๋ยวเร็วๆนี้ครับ ผมขอเขียนส่วน history พอนะครับ

# Wed 2 Dec 2009 : 3:35PM

coldturkey
member

Since 27/5/2009
(65 post)
ตอนนี้ไม่ว่างนะคับ เดี๋ยว เสาร์อาทิตย์นี้ ผมจะเอาเรื่องในส่วนของ The first blight กะ Chantry of Light มาลงให้ครับ

# Wed 2 Dec 2009 : 7:37PM

pongkrit03
member

Since 11/10/2009
(55 post)
Side Quests
(โดยคุณ Zeusgod จากบอร์ด OVZ)
[FONT="Comic Sans MS"]Blackstone Irregulars[/FONT]
เป็นเควสที่รับจากกล่องตามเมืองต่างๆ
A Change in Leadership
Type: Combat
Start: Blackstone Irregulars
Destination: Random
encounter at Taorans Camp
Task: Kill Raelnor or Taoran
Quest Tips: เควสนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อจบเควสของ blackstone อันอื่นๆหมดแล้ว เควสนี้ไม่มีไรมากไปฆ่า Raelnor ที่ตลาดในเมือง Denerim หรือเลือกฆ่า Taoran ที่แคมป์ ซึ่งจะสุ่มเจอระหว่างเรากดเดินทาง

Dereliction of Duty
Type: Combat
Start: Blackstone Irregulars in Gnawed Noble Tavern
Destination: มี 3 สถานที่ที่ต้องไป Denerim,
Lake Calenhad Docks,Frostback Mountains
Task: ไล่ฆ่ากลุ่มพวกหนีทหาร เพื่อความยุติธรรม(- -*)
Quest Tips ตามล่าพวกหนีทัพประมาณนั้น มีสามกลุ่ม คุยและฆ่าทิ้งเลย(โหดไปมั้ง)
กลุ่มแรก Layson อยู่ที่ Denerim มันอยูที่ Rundown backstreet ไปถึงหาบ้านชื่อ Dirty Hovel (กลุ่มนี้ผมทำสุดท้ายเลย กว่าจะฝ่าดงทีนทหารที่ดักตีจากเควสอื่นๆไปได้)
กลุ่มสอง Sammael ที่ Lake Calenhad Docks (ท่าเรือข้ามหอเมจ)
กลุ่มสาม Tornas ที่ frostback mountains แถวๆลานวงกลมข้างหน้าทางเข้าเมืองคนแคระ

Grease the Wheels
Type: ส่งข่าว
Start:รับที Blackstone Irregulars ที่หมู่บ้าน Redcliffe
Destination: ต้องไป 5 ที่ ใน Denerim
Quest Tips: ตามหาคนใส่ hood ในเมือง Denerim ตามนี้ ที่ the Market District,
Dark Alley, Alienage, Pearl, Run-down Back Street. เควสนี้คุยเฉยๆ

Notices of Death
Type: ส่งข่าว
Start: Blackstone Irregulars ที่ Gnawed Noble Tavern ในเมืองเดเนริม
Quest Tips: ส่งข่าวร้ายว่าสามีหรือญาติคุณตายแล้ว ตามสถานที่ข้างล่าง
Irenia (Redcliffe Chantry)
Larana (Spoiled Princess in Lake Calenhad Docks)
Sara (Denerim Market District)
Tania (Dirty Back Alley in Denerim)

Restocking the Guild
Type: หาของ
Start: รับที่เดียวกับเควสข้างบน
Destination: ไม่มี
Quest Tips: เก็บ 20 health poultices มาส่งให้ของรางวัลเป็นเงินประมาณสาม ทองมั้ง (รู้สึกไม่คุ้มนั่งหาหญ้ามาผสมยาสะสมตั้งนาน)

Scraping the Barrel

Type:ส่งข่าว
Start: Blackstone Irregulars
Quest Tips: ไปส่งข่าวสามที่ ให้กับคนสามคน
Patter Gritch (Lothering Chantry)
Varel Baern (Elven Alienage)
Dernal Garrison (Redcliffe, generic cottage)

ของรางวัลส่วนใหญ่เป็นเงิน เควสกลุ่มนี้

[FONT="Impact"]Denerim[/FONT]


Slim Couldrys Quests

Crime Wave
Start: Slim Couldry
Destination: Denerim Market District
Task: Speak to Slim Couldry
about a series of Stealth and Stealing quests
Quest Tips: เควสนี้รับที่ Slim Couldry ที่ตลาดใน Denerim โดยที่จะได้รับต่างๆกันออกไปแล้วแต่อาชีพคุณและสกิล
ถ้าคุณเป็น rogue และ มีท่า Stealth จะได้รับเควส ตามนี้ The Absent Mistress,
A Fistful of Silver, The Private Collection, and The Tears
of Andraste.
ถ้าคุณมี สกิลขโมยของ คุณก็จะได้รับเควสดังนี้ Lady in Waiting, A Stolen Blade, Market Day, and The Traitors Crown.
ส่วนใหญ่เป็นเควสแอบย่องไปขโมยของตามที่ต่างๆในเมือง อาจโดนทหารยามไล่บ้างต้องสู้นิดหน่อย
ผมเล่น warrior เลยไม่มีให้ทำมั้งหรือหาไม่เจอเองไม่รู้ :smellie_oops:

Honor Bound
Type: Combat
Start: Outside the Gnawed
Noble Tavern.
Destination: The alley behind the Gnawed Noble Tavern
Task: Duel Ser Landry (or persuade him not to duel)
Quest Tips: เควสนี้เราจะได้รับต่อเมื่อเดินเฉียดพ่อ เซอร์Landry แถวๆตลาดในเมืองตรงตัว G พี่แกจะหาเรื่องทักเราและจำเราได้ว่าเราเป็น Greywarden (จำได้อีก) ซึ่งตอนนี้เราก็กลายเป็นผู้ร้ายที่โดนหาว่าฆ่าพระราชาไปแล่ว แล้วมันก็จะท้าเราดวล ซึ่งมีทางเลือกคือ
1.รับคำท้าแล้วเดินตามมันไปดวลกัน ดวล1:1 ก็ได้หรือจะกวนมันยกพวกตีกัน
2.ซึ่งถ้าเรามีสกิลPersuade สูงเราอาจเจรจาไม่ตีกันกันได้
3.ปฏิเสธไปว่าตูไม่ใช่คนที่เจ้าว่า มันก็จะจากไป แต่มันจะมาดักเจอะเราอีกครั้งระหว่างเดินทาง(ไม่รู้เอาพวกมาเยอะกว่าเดิมไหมด้วยเพราะผมดวลกะมันแบบหมู่คณะ:smellie_evil:

The Last Request
Type: Combat
Start: Ser Fridens corpse in
Denerims Run-down Back Street
Destination: Elven Alienage
Task: Destroy the blood mages in the Alienage
Quest Tips: เควสนี้เราจะได้รับเมื่อเราเจอศพทหารTemplar ที่ Rundown backstreet นะครับ(ผมมาถึงต้องฝ่าดงทีนก่อน ไม่รู้พวกดักตีหัวจากเควสไหน) เก็บของจากศพให้หมด จะปลดล็อกสถานที่ Elven Alienageไปที่นั่น จะพบว่าเป็นที่ซ่อนตัวของพวก bloodmage และพวกหนีทัพ ฆ่าให้หมด ในนั้นกับดักเยอะเหมือนกันครับ

Sergeant Kylons Quests
จ่าแกมีหลายงานให้เราทำ หาเงินใช้

Pearls Before Swine
Type: Combat
Start: Sergeant Kylon in the
market district
Destination: White Falcon
Veteran in the Pearl
Quest Tips: นี่เป็นเควสแรกของพี่จ่า จ่าแกต้องการให้ไปเคลียร์ พวกทหารรับจ้าง ที่ the pearl :smellie_oops:
ผ่านเควสนี้ได้หลายวิธีเลย เจรจาก็ได้ ซัดกัน ซึ่งใกล้ๆชนะมันจะยอมแพ้ จะฆ่าหรือปล่อยก็ได้ หลังจากนั้นเดินทางกลับไปหาจ่าเพื่อรับรางวัล ( ซึ่งระหว่างทางจะเจอหัวหน้ากลุ่มทหารกับจ่าเราที่เดินทางมาขอบคุณเรากำลังจะตีกัน ตอนนี้ก็อัดกันได้ตามสะดวก)

The Crimson Oars
Type: Combat
Start: Sergeant Kylon
Destination: Gnawed Noble Tavern
Quest Tips:เควสที่สองของจ่า แกให้ไปที่ Gnawed Noble Tavern ไปไล่พวก Crimson
Oars mercenaries ให้ที เราเลือกได้ว่าจะตีไล่ไปหรือเจรจา(อยู่ที่สกิลด้วยนะ)เลี้ยงเหล้าพวกนั้นแล้วเชิญออกจากร้านไป ในระหว่างที่สู้กันเก็บหัวหน้าก่อนลูกน้องจะยอมแพ้

Something Wicked
Type: Exploration
Start: Ser Otto in the Elven
Alienage
Destination: Abandoned
Orphanage
Quest Tips: รับจาก ser otto ที่ Elven Alienage เขาจะขอให้คุณช่วยสืบหาสิ่งผิดปกติอะไรบางอย่าง โดยที่คุณต้องหาเบาะแสให้ครบเพื่อที่จะไปยังAbandoned Orphanage(ที่เลี้ยงเด็กกำพร้าร้าง) สิ่งที่ต้องสำรวจมี A pool of fresh blood, A feral dog, A dead dog., An insane beggar.
จากนั้นตามออตโต้ไปยัง orphanage คุ้มกันเขาไว้ให้รอดตลอดรอดฝั่ง

อันที่ยังไม่ได้ทำอาจแปลมั่วบ้างจาก Prima Official Game Guide


เควสเมือง Denerim ต่อ
Drake Scale Armor
Type: Crafting
Start: Once youve collected a drake scale
Destination: Wades Emporium in Denerim Market District
Quest Tips: เป็นเควสทำเกราะจากเกร็ดของ เดรก นะครับ จะทำได้ก็ต่อเมือเก็บเกล็ดมาให้ได้ก่อน 3 ชิ้น นำไปหา เวด อยู่ที่ ตรงจุด B เค้าจะทำให้ ต้องมีการจ่ายค่าทำให้เค้าด้วยซึ่งไม่มีผลอะไรต่อเกราะที่ได้ แต่จะส่งผลให้ได้ชนิดของเกราะออกมาต่างกัน regular และ superior โดยที่รอบแรกจะได้แบบ regular และรอบสองจะได้ superior
ผมลองทั้งจ่ายตังค์ให้รอบแรกและรอบหลังเกราะก็ได้ออกมาเหมือนกัน แต่ถ้าจ่ายให้จะมีผลต่อการทำเกราะมังกร ซึ่ง เสียตังไปประมาณ 30 ทอง หน้าตาแบบนี้


Dragon Scale Armor
Quest Tips: เหมือนกันกับเกราะเดรก แต่เควสนี้ต้องทำเควสเกราะเดรกจบก่อนนะ โดยคราวนี้ใช้เกล็ดมังกร 1 ชิ้น (ได้จาก high dragon ไปดูในเควสหลักหน้าแรก) ซึ่งเมื่อนำไปให้จะเลือกได้ว่าจะให้ทำเกราะชนิดไหน medium, heavy,massive และได้ในเวอร์ชั่น superior ถ้าคุณจ่ายตังค่าทำเควสเกราะเดรก ทั้งสองครั้ง

UNBOUND
Type: Combat
Quest Tips: จริงๆเควสนี้ไม่ได้รับจากในเมืองแต่เราจะเจอจากศพนักผจญภัย Adventurer ตาม ruin ต่างๆที่เราไปมา เช่น Temple ruin ในเควสหาขี้เถ้า หรือ Bacilian Ruin ในเควสเอลฟ ถ้าคุณได้รับเควสนี้เมื่อไหร่ ให้เดินทางกลับไป Denerim แล้วไปที่ dirty back alley แล้วหาประตูบ้านหลังนึง Quaint Hovel
เข้าไปในนั้นจะมีชายชื่อ Vilhm Madon มาคุยด้วยคุยเสร็จก็กลายร่างเป็น Gaxkang โหดมาตัวนี้ ถ้าฆ่าได้จะได้ดาบ มือเดียวที่ดี อันนึงในเกม (ดาบดีแต่หมดยาไปหลายขวดกว่าจะได้มา)

Antivan Crows Quests
เควสชุดนี้จะเริ่มจาก The Trial of Crows โดยเมื่อเราไป Denerim ครั้งแรกระหว่างในเมืองจะเจอเด็กคนนึงเอาข่าวมาบอก ให้ไปพบคนที่ Gnawed Noble Tavern เมื่อคุณไปคุณจะพบกับMaster Ignacio ผู้ซึ่งจะเสนองานให้เรา นั้นคืองานลอบสังหารของ Antivan Crows เควสนักฆ่านี่ทำแล้วอาจมีผลให้เพื่อนเราบางคนค่าความสัมพันธ์ลบลงโดยเฉพาะ ป้าwynne
ซึ่งมีหลายเควสย่อย
The First Test
งานแรกเหยื่อเราอยู่ที่ the pearl ให้ไปที่นั่นจะมีอยู่ห้องนึงล็อกอยู่ให้สำรวจแล้วจะต้องตอบพาสเวิร์ด(พาสเวิร์ดหาได้จากใบประกาศจับ graywarden ทีตลาด)ตอบให้ถูก มั่วจนถูกก็ได้ เข้าไปเราจะพบกับ Peadan เหยื่อรายแรก(พวกนี้มันรอดักเชือดgraywarden อยู่) ฆ่าซะแล้วกลับไปรายงานมาสเตอร์
Mercenary Hunt
หลังจากเสร็จเควสแรก Ignacio จะให้เควสต่อไปโดยต้องไปเปิดจากหีบที่อยู่ข้างหลังเค้า(ไม่ส่งให้กะมือค่าจ้างก็เหมือนกันหยิบเองจากหีบสงสัยของร้อน) เหยื่อรายต่อไปเป็นแกงค์พวก Quanari อยู่ที่Kadan-Feซึ่งจะปรากฎบนแผนที่โลก ไปที่นั่นฆ่าทุกคนแล้วกลับไปรายงาน
An Audience with the Ambassador
งานนี้ก็รับได้เลยถ้าเสร็จเควสแรก โดยที่เหยื่อของงานนี้เป็น คือท่านทูต Gainley ของเมืองคนแคระ โดยจะเข้าทำได้ต้องจบเควสของเมืองคนแคระก่อน(A Paragon of Her Kind) หรือไม่ก็เลือกข้างเจ้าชาย ในระหว่างทำเควส ไม่งั้นห้องประชุมมันปิดเข้าไม่ได้ ทำได้แล้วกลับไปรายงาน
The Ransom
งานสุดท้ายของสมาคมนักฆ่านี้ คุณต้องทำเควสก่อนหน้าให้หมดก่อนแล้วถึงจะรับได้ งานนี้คือไปสังหารCaptain Chase และพวกที่ โดยเดินทางไปที่ Ransom Drop ในเมือง Denerim งานนี้มีพวกนักฆ่าคนอื่นมาร่วมแจมด้วย ตีกันมั่วแต่เป้าหมายเราคือกัปตันคนเดียวฉะนั้นอย่าไปมัวตีกับนักฆ่าของ antivan crows คนอื่น

Forgotten Verses
เควสนี้เริ่มตอนที่เราลุยใน Ruined Temple ในระหว่าเควสหาเถ้า ถ้าคุณเก็บ ม้วน scroll ในนั้นมาด้วยให้นำกลับไป Denerim แล้วไปที่หน้าโบสถ์ในตลาด คุยกับSister Justine เธอจะรับบันทึกโบราณไปแปล และให้ค่าตอบแทนเรา 7 ทอง




Romance Quest
Morrigan
มอริแกนชอบผู้ชายนะครับตัวละครหญิงอย่าพยายาม คุยกับเธอเรื่องทั่วไปความเป็นมาและพลังของคุณ อย่าไปกวนทีนเธอ เพิ่มค่าความสัมพันธ์ไประยะหนึ่งให้ของขวัญไปเรื่อยๆ ค่อยเริ่มเข้าเรื่อง(ปลดล็อกคลาสได้ก็ ok)
จากนั้นคุยกับเธอที่แคมป์ จนมีบทสนทนานี้ขึ้นมา
Tis a curious thing. I do not know how to describe it.
จากนั้นตอบตามนี้เลย เรียงไปเลย
What? Is something wrong?
Why would I do that?
Because I need you here.
I was hoping to be more than friends.
เป็นการเริ่มต้นการจีบ
พอหลังจากเราลุยหอคอยเมจแล้วเก็บบันทึกของแม่เธอมาได้ หลังจากคุยเควสแม่เธอแล้วก็คุยอีกจะเจอบทสนทนานี้
I have a thought.
ตอบดีๆไปตามนี้
Oh? Whats on your mind?
And? Whats in it for me?
My tent does get rather cold...
จริงๆแล้วบทสนทนาไม่ค่อยตรงเท่าไหร่เอาเป็นว่าถ้าความสัมพันธ์กับเธอ 50+และจีบกันมาก่อนหน้านั้น จะเริ่มมีประโยคที่คุณเธอจะบ่นว่าเตนท์เธอเย็นจัง จากนั้นก็เลือกตามบายเลยครับ

Leliana กับ Zavran มีอีกสองตัวที่จีบได้แต่คงไม่ต้องเนอะ

มีคนปั้น Mabari(หมาเรา)เป็นตัวหลักบ้างไหม


--------------------------


เพิ่งจบเควสเมืองคนแคระและล่ามังกรสองตัว สรุปเกมนี้มันบังคับให้เราเล่นนักเวทสินะเพราะเวลาสู้บอสบังคับมอริแกนตลอด เศร้าใจคนเล่น warrior จริงๆสร้างมาไม่ได้ค่อยบังคับมัน

[FONT="Century Gothic"]Orzammar[/FONT]


A Lost Nug
Type: Exploration
Start: Nug Wrangler Boermor
in Orzammar Commons
Quest Tips: เควสนี้เป็นเควสตามหาตัว Nugหน้าตาคล้ายๆหนูยักษ์นะผมว่า มาคืนWrangler Boermor โดยเจ้าตัวนี้จะอยู่ทั่ว Orzammar เมื่อหาเจอก็เอามาคืนเค้าจะได้รับเงินตอบแทน ถ้าหาได้ครบ 10 ตัวจะได้รางวัลใหญ่
A Mothers Hope
Task: Find Ruck
Quest Tips: เมื่อเข้าเมืองมาแถวๆหน้าร้านขายชุดเกราะของจาร์นา(C) จะพบกับ Falida สวดออนวอนอยู่เธอจะบอกว่าลูกชายเธอหายสาบสูญไปใน deep roads เมื่อเราเดินทางสู่ deep roads ถ้าพบข่าวอะไรของลูกเธอให้กับมาบอกเธอด้วย(ลูกเธออยู่บริเวณซากเมืองเก่าก่อนเจอบอสแมงมุมนั่นเอง)

An Unlikely Scholar
Type: Messenger
Start: Dagna in Orzammar Commons
Destination: Circle Tower
Quest Tips: ในเมืองนี้จะมีลูกสาวร้านขายเกราะ ชื่อDagna เธออยากเป็นเมจมากเลยและขอร้องให้เราส่งคำขอร้องของเธอไปยัง Circle ของเมจในเฟราเดนเพื่อรับเธอเข้าเป็นเมจ(เมจอื่นอยากจะออกมาอีนี่อยากเข้าไปเรียน) ถ้าคุณจบเควส broken circle โดยที่ Enchanter Irving ยังมีชีวิตอยู่เขาจะรับ Dagna เข้าเรียน แต่ถ้าหอคอยนั้น Templar เป็นคนคุมล่ะก็จะถูกปฎิเสธไม่ให้เข้าเป็นเมจ ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหนเราสามารถกลับไปบอกเธอยังไงก็ได้(ซะงั้น) จะบอกว่ารับหรือไม่รับเธอก็ออกเดินทางสู่แผ่นดินภายนอกอยู่ดี (ถ้าเราไปบอกพ่อเธอเรื่องเธอจะเป็นเมจและบอกว่าเราช่วยเธอจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จแกจะโกรธไม่ขายของให้เรา)
ไว้มาต่อเย็นๆงานเข้า

Asunder
Type: Exploration
Start: A small bloody sack
Destination: Altar of Sundering in Ortan Thaig
Quest Tips: เควสนี้จะได้ก็ต่อเมื่อเราเดินทางไป Aeducan Thaig เมื่อเราฆ่า darkspawn ในนั้นแล้วเก็บ bloody sacks ได้ โดยเราต้องหาเพิ่มให้ครบ 3 อัน มีอีนนึงอยู่ที่ Caridins Cross เมื่อเก็บได้ครบนำไปที่ Ortan Thaig หา Altar of Sundering เมือวางลงบนแท่นคุณจะเลือกได้ว่าจะสู้กับปีศาจเพื่อค่าXPหรือเลือกเงิน(ไม่ได้ทำเพราะเล่นเควสคนแคระไม่ได้เหยียบไป Aeducan Thaig เลย)

The Key to the City
เควสนี้ได้ไอเท็มมีประโยชน์มากเป็นแหวน Attribute +2 มั้ง
Quest Tips: ถ้าคุณสำรวจเมือง Orzammar จนทั่วคุณก็จะได้รับเควสนี้เอง(สำเร็จเควสโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน)เควสนี้จะช่วยปลดล็อกตู้ลงคะแนนเสียง(ในสภาคนแคระน่ะแหละ) โดยมีของรางวัลเป็นแหวนกุญแจเมือง
สถานที่ๆต้องไปกดสำรวจ
Hall of Heroes (find commission report)
Commons (find document on bridge to Proving)
Proving Grounds (find writ of censure in fghters area)
Diamond Quarter (find council writ behind doors to Commons)
Dust Town (find Assembly directive in niche)
กด Tab ดูไปละกันครับเควสนี้ผมก็ไม่ได้อ่านมันเหมือนกันสำรวจจนทั่วก็ quest update ซะงั้น

The Chant in the Deeps
Type: Messenger
Start: Orzammar Commons
Destination: The Shaperate
Quest Tips: รับจาก Brother Burkel แกเป็นพระในเมืองคนแคระ ต้องการจะเปิด Chantry หรือโบสถ์ในเมืองคนแคระ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต จึงของให้เราช่วยเกลี้ยกล่อม shaper ให้หน่อย ซึ่งอยู่ที่ The Shaperate ในเขต Diamond ไปข่มขู่หรือเกลี่ยกล่อมก็ได้ เรามัน Gray warden นี่นา:smellie_oops:
เสร็จกลับไปแจ้งข่าวดี แกก็จะได้เปิดโบสถ์มีลูกวัดสองคน


The Dead Caste
Type: Exploration
Start: The Dead Trenches
Destination: The Dead Trenches
Task: Find the four pieces of
the Legion of the Dead armor
Quest Tips: เควสนี้จะให้เราหาชุดเกราะ Legion ที่อยู่ใน dead trenches ทั้งหมดมี 4 ชิ้นมีชุด หมวก รองเท้า และถุงมือ โดยหาตาม sarcophagus ตามห้องต่าง ไอ้ที่เหมือนโลงนั่นเอง และไปที่ห้อง Legion of the Dead Relic (ห้องที่มีพวกวิญญาณทหารเฝ้าอยู่ หยิบหมวกปุ๊ปอัดเราปั๊บ) ไปอ่านเควส Gangue Shade
ได้ครบสี่ชิ้นเดินทางต่อไปทางที่จะเจอกับ brood mother จะมีหีบอยู่ หยิบ insignia ติดมือมากลับมาถึงเมือง นำกลับไปที่ The Shaperate จบเควส (เควสนี้ผมไม่จบแฮะเหมือนลืมหยิบกลับไปหยิบใหม่มันเอ๋อมีรูปสัญลักษณ์เควสขึ้นแต่กดไม่ได้ กำ ) ชุดเกราะเซตนี้ก็โอเคนะให้คนแคระใส่
เพิ่ม กลับไปที่ The Shaperate ไปแตะตรง Memory ที่เป็นแท่นหนังสือในนั้น จบเควส ผมหลงตั้งนานหาไอ้แท่นไม่เจอ ก็เป้ามันชี้ไปหีบก่อนเจอเจ๊ brood อยู่ได้

Exotic Methods
Type: Crafting
Start: Herbalist Widron in Royal Palace
Destination: Herbalist Widron
Quest Tips: ไปคุยกับ Herbalist Widron ที่อยู่ใน เขตพระราขวัง แถว western chamber เค้าจะขอให้คุณหาส่วนประกอบและปรุงยามารักษา คนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง ส่วนประกอบมี elfroot(x4), lifestone (x2), fask,concentrator agent (x2) และต้องใช้สกิลปรุงสมุนไพร ระดับมาสเตอร์(ยากตรงนี้ ยังอัพมาไม่ถึงซักตัว)

Lost to the Memories
Type: Messenger
Start: Orta in the Shaperate
Destination: Ortan Thaig
Quest Tips: Orta ที่อยู่ที่ shaperate จะขอให้คุณช่วย หาบันทึกเกี่ยวกับตระกูลของเธอ ในระหว่างที่คุณผจญภัยอย่างสนุกสนานใน deep roads ซึ่งบันทึกนี้มันอยู่ที่ Ortan Thaig (คุณอาจไม่ต้องไปคุยกับเธอก่อนลงดีฟโรดก็ได้ ในระหว่างเดินทางเจอก็หยิบกลับมา ถ้าคุณสำรวจทั่วเจอแน่นอน) หลังจากเก็บคืนมาได้แล้ว นำบันทึกนี้ไปให้เธอ เธอจะโครตดีใจเพราะประวัติกลับคืนมาได้เป็นคนชั้นสูงในเมืองซะที เพื่อรับรางวัลกับเธอคุณต้องเดินทางออกนอก Orzarmar หรือ Frobackmountiansไปก่อนแล้วกลับมาค่อยไปหาเธอใหม่เธอจะตบรางวัลคุณอย่างงาม หาเธอเจอที่ Assembly chamber


Of Noble Birth
Type: Messenger
Start: Mardy
Destination: Bhelen or Harrowmont
Task: Gain a birthright for your illegitimate son
Quest Tips: เควสนี้จะเล่นได้ก็เมื่อคุณเล่นเป็นคนแคระ ชนชั้นสูงด้วยนะครับ(ผมก็ยังไม่ปั้นไว้ซักตัว) ในช่วงเริ่มเกม โดย Mardy จะขอให้คุณช่วยไปขอร้อง Bhelen หรือ Harrowmont ให้รับรองลูกเธอให้เข้าเป็นคนในตะกูล โดยถ้าคุณออกจาก Orzammar โดยไม่ได้ทำให้เด็กเข้าอยู่ในตระกูลไหนเลย เมื่อคุณกลับมาอีกทีเด็กนี้จะไปอยู่ใช้ ชีวิตรันทด dust town คนที่ไม่ได้เล่นคนแคระ ก็เควสนี้ล้มเหลวไปตั้งแต่เข้าเมือง
Political Attacks
Type: Combat
Start: Faction Supporters
Destination: Three locations in Orzammar
Task: Defeat the faction supporters who want you dead
Quest Tips: ไอ้นี่ไม่รู้มันจะนับเป็นเควสไหมแต่มันเป็นเหตุการณ์ที่คุณต้องเจอหลังจากเลือกว่าจะหนุนใครเป็น KING อีกฝั่งนึงจะส่งลูกน้องมาตึ้บคุณตามสถานที่ต่างในเมือง 3 ครั้งด้วยกัน ลูกกระจ๊อกธรรมดา

Caged in Stone
Type: Combat Start: Royal Palace Throne
Destination: Royal Palace Throne
Quest Tips: เควสนี้ในเมนเควสหน้าแรกมีมั้งใน Royal Throne Room สำรวจหา codex จากนั้นก็ไปต้องนำตัวเราและเพื่อนๆไปยืนให้ถูกจุด หน้าห้องคน ในห้องตรงหัวลูกศรสองคน แล้วตัวละครเราค่อยกดสำรวจ codex ที่บัลลังค์ แล้วจะมีมังกรออกมาให้ฆ่า จะได้รับดาบ Ageless two-handed
เควสนี้ผมก็ข้ามไปไม่ได้ทำแต่แรกมาทำทีหลังทำไม่ได้เพราะกด codex ไปแล้ว นี่ภาพการยืนให้ถูกจุด



The Gangue Shade
เควสนี้คุณจะเจอระหว่างทำเควส The Dead Caste ตอนที่เก็บเซตเกราะ Legion of the Dead ในเควสนั้นมาครบแล้วคุณหรือคนในปาร์ตี้ต้องใส่มัน แล้วกดที่แท่น Dead Relicในห้อง Legion of the Dead Relic จากนั้นก็จัดการกับ Gangue shade

Precious Metals
เควสขาย lyrium ให้เมจนี่ไปอ่านหน้าแรกในเมนเควสได้เลย สำหรับผม Godwin มันหายไปน่าจะไม่รอด ผมเลยรับมาไปขายร้านในเมือง พอกลับไปหา Rogek มันโมโหใหญ่เลยเก็บมันซะทั้งแกงค์ ปล.อย่าลืมล้วงกระเป๋ามันก่อนเจื๋อนนะครับ

The Shapers Life
Type: Exploration
Start: Wall of Memories in Shaperate
เควสนี้เป็นเควสสำรวจธรรมดาโดยต้องสำรวจหา Wall of Memories ใน shaperate ก่อนเพื่อเปิดเควสแล้วไปสำรวจหารูนโบราณในเมือง 3 จุด เพื่อรับรางวัล จุดแรกอยู่ตรงทางลงไปดีพโรด
จุดที่สอง อยู่ใน caridin's cross จุดสุดท้ายอยู่ที่ dead trenchs ครบสามจุดกลับไปที่ wall of memories รางวัลเป็น XP แค่นี้:smellie_tongue:

Unintended Breakthrough
เควสนี้จะเจอโดยบังเอิญตอนคุณเดินใน royal palace จะมีกลุ่มโจรโผล่มาจากเพดาน:smellie_oooo: แล้วโจมตีก็จัดการซะทหารยามจะเดินมาขอบใจ

Zerlindas Woe
ใน Dust town จะเจอ Zerlinda เขาจะเล่าเรื่องลูกของเธอที่เกิดกับชายคนละชนชั้น จากนั้นคุณสามารถไปบอกพ่อของZerlinda หาเจอได้ในบาร์ Tapster ชื่อ Ordel ให้รับเธอและลูกกลับมาได้ถ้าคุณมีค่า persuade สูงๆ หรือถ้ากล่อมไม่สำเร็จคุณสามารถ บอกให้ Zerlinda ลูกเธอออกจากเมืองไปก็ได้ไปเป็น surface dwarf หรือจะเอาไปฝากกับหลวงพี่ ที่เราช่วยตั้งโบสถ์ให้ก็ได้เขาจะรับทั้งแม่ทั้งลูกไว้ดูแล หรืออาจแนะให้เธอส่งเด็กลงสู่deep roads ก็ได้ :smellie_oooo:

Thief in the House of Learning
Shaper Assistant Milldrate ที่ shaperate จะขอให้คุณช่วยหาหัวขโมย Shady Corebi ที่ขโมยหนังสือ A Volume of Shaper History ไปโดยหัวขโมยอยู่ที่ Dust town (ที่รอยสักเติมหน้ายืนอยู่กลางถนนเห็นชัดๆ) ไปคุยจะรู้ว่าหนังสือกำลังถูกขายอยู่ที่ Proving town ไปที่นั่นแล้วไปทวงคืนมาจาก Fixer Gredin (จากศพมันตามเคย) ได้มาแล้วเลือกได้ว่าจะขายให้ผู้รับซื้อที่ยืนอยู่ใกล้ๆนั้นหรือจะนำไปคืน

Proving After Dark
Type: Combat
Start: Proving Armsman in Proving Grounds
เควสนี้คุณต้องไป ที่ Proving grounds แล้วเดินไปข้างในจะ เจอกับ Armsman อยู่ในห้องเค้าจะให้เราลงต่อสู้ในสนามประลอง สี่รอบ มันส์กว่าตอน สู้ในเควสหลัก หัวเหลืองทั้งนั้นชนะให้ได้เพื่อชื่อเสียงและเงินทอง


จบเมืองนี้แล้วมั้ง อาจข้ามบางเควส
[Edited 1 times pongkrit03 - Last Edit 2010-1-3 18:44:33]

# Thu 3 Dec 2009 : 9:22AM

coldturkey
member

Since 27/5/2009
(65 post)
pongkrit03 wrote:
coldturkey wrote:
ได้ครับ เดี๋ยวเร็วๆนี้ครับ ผมขอเขียนส่วน history พอนะครับ


ขอบคุณมากครับ ^-^ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากทีเดียว ถึงแม้ที่ gconsole จะดูเงียบๆแต่ตอนนี้บทสรุปเกมนี้ค่อนข้างเป็นที่ต้องการครับ เชื่อเถอว่าจะช่วยคนอื่นได้มากมายเลย



ไม่เป็นไรครับช่วยๆกัน Gamer เหมือนกันคับ ผมช่วยได้เฉพาะส่วนเนื้อเรื่องนะคับ ถ้าอยากได้ manual เอานี่ไปเลยครับ ฉบับเต็ม ภาษาอังกฤษ
http://rapid4me.com/?q=dragon+age+prima+guide


# Thu 3 Dec 2009 : 12:06PM

เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ
member

Since 15/5/2007
(3986 post)
พวก codex ในเกมนี้ ไม่จำเป็นต้องอ่านก็เล่นจบได้ก็จริง แต่ถ้าอ่านจะทำให้เล่นเกมได้สนุกขึ้นอีกหลายเท่าเลยครับ

มันจะรวบรวมพวกประวัติศาสตร์ในเกม พวกความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มคนต่างๆ ที่มาที่ไปของแต่ละกลุ่ม ฯลฯ

ทำให้เราเล่นเกมได้อินขึ้นอีกเลยเลยหล่ะ

เอาเป็นว่าใครสงสัยเนื้อเรื่องอะไรตรงไหน ก็โพสถามในกระทู้นี้หรือกระทู้ dragon age ในหน้า console ละกัน ผมจะพยายามตอบตามความสามารถเท่าที่มี

# Thu 3 Dec 2009 : 7:25PM

Kimahri
member

Since 25/2/2006
(6132 post)
ใช่สาขาเดียวกับ overclockzone ใช่ไหม ครับ ดูจากชื่อคนทำน่าจะน่ะ
ยังไงก็สู้ๆ ครับ

<<
<
1
2
3
4
5
6
>
>>
Reply
Vote




1 online users
Logged In :