คือผมมีความคิดส่วนตัวอย่างนึง(ซึ่งอาจไม่ถูกก็ได้) ว่า เกม open world ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วย game play มากกว่าเนื้อเรื่อง
เพราะเกมแนวนี้ เราจะใช้เวลาไปกับการสำรวจเล่นทำ sub quest เยอะมาก เรียกว่า 80% ในการเล่นคือเล่น sub quest นี่แหละ main quest เลยเป็นแค่ 20% ที่ได้เล่น ถ้าเกมเพลย์ไม่สนุกนี่คือจบเลยนะ

ส่วนตัวเคยเล่น open world ค่อนข้างน้อย เพราะไม่ค่อยมีเวลาเลยพยายามเลี่ยง ที่เคยเล่นก็
Zelda BOTW
Elden Ring
Day gone
Farcry3,4

แล้วเพิ่งได้มาเล่น Ghost of tsushima
รู้สึกว่า sub quest ของตัวละครรอง น่าติดตามทุกตัวเลย เนื้อเรื่อง บทพูด บรรยากาศในเกม ทำให้รู้สึกน่าติดตาม แม้โดยโครงเรื่องหลักอาจไม่ได้ซับซ้อน แต่มันเข้าใจง่าย สื่อถึงอารมณ์วิถีซามูไรมากๆ
เพิ่งเคยเจอเกมopen world ที่รู้สึกเนื้อเรื่องสุดยอดขนาดนี้ แต่ส่วนหนึ่งอาจเพราะผมเล่นแนวนี้น้อยแหละ

ท่านอื่นๆ มีใครแนะนำเกม open world เนื้อเรื่องเจ๋งๆเกมไหนบ้าง

withcer3 เกมส์เพลย์ออกแนวก๊องแก๊ง แต่เนื้อเรื่องโยงกันกระจุย

Zelda:botw ครับ ทำผมน้ำตาไหลมากเวลาย้อนเนื้อเรื่องครั้งนึง
โดยเฉพาะไฟนอลไฟค์นะ โหทำผมปลื้มปลิ่มนอนไม่หลับวันนึงเต็มๆได้

เอาแบบเน้นเนื้อเรื่องไม่เน้นเกมเพลย์ก็ death stranding ครับ ในโลกไม่ค่อยมีอะไรให้ทำนอกจากส่งของ แต่เนื้อเรื่องมาเต็ม นั่งดูคัทซีน ฟังบทสนทนากันเมื่อยก้นกบเลย

ผมยกให้ Read Dead Redemption 2 นะ เข้าใจง่ายแต่กินใจที่สุด การดำเนินเรื่องทำให้เรามองโลกตามตัวเอกและอินไปกับความสัมพันธ์กับคนรอบ ๆ ตัวทั้งมิตรและศัตรู น่าจะที่สุดแล้วเท่าที่เล่นแนว openworld มา

ที่เหลือก็
Marvel’s Spider-Man เลือกที่จะไม่เกริ่นอะไรเกี่ยวกับความเป็นมาของฮีโร่ตัวนี้ ทำให้ไม่ต้องมาดูหนังซ้ำและไปต่อกับชีวิตของปีเตอร์เลย โดยรวมก็เป็นอะไรที่ตามสูตรแต่ก็สนุกและยังคงชูจุดเด่นของฮีโร่นี้ได้ดีในเรื่องการฝ่าฟันชีวิตของปีเตอร์

Zelda BOTW เกมมันอิสระสูงจนเราก็ควบคุมเรื่องลำดับของการเล่าเรื่องไม่ค่อยได้ แต่โดยรวม ๆ ถ้าอิงจากเส้นเรื่องของแชมเปี้ยนทั้ง 4 กับบทสรุปก็นับว่าทำมาถึงอารมณ์หมด เล่นจบและโคตรจะรักเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คนของเราเลย

Fallout new vegas

Red Dead Redemption 2
ส่วนตัวคือชอบในความมีมิติของเนื้อเรื่อง ต่อสู้เอาชีวิตรอด, ตลกโปกฮา, ดราม่า, เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด, จนเข้าช่วงสุดท้ายของเกมที่ดูน่าเบื่อ ก่อนจะจบภาคแบบไม่มีอะไรค้างคา
(แต่ก็มีหลายอย่างที่จะปูไปภาคแรก ที่ออกมาก่อนในยุค PS3)

ว่าแล้วก็อยากให้มีภาคต่อ หรือไม่ก็รีมาสเตอร์ภาคแรกมาก็ได้

เนื้อเรื่องดีผมยกให้เรดเดธละกัน เนื้อเรื่องหลักมันเป็นหนังฟอร์มยักษ์ได้สบายๆ แต่ถ้าวัดกันทั้งเกมทั้งเนื้อเรื่องหลักเนื้อเรื่องเควสย่อยต่างๆ วิชเชอร์ 3 คือมาสเตอร์พีช เนื้อเรื่องใส่ใจทุกรายละเอียด เล่นแล้วดำดิ่งกับเควสต่างๆมาก

The Witcher 3 ทึ่งกับคนเขียนบท เควสหลัก เควสรองสัมพันธ์กันหมด เป็นเหตุและผล มีที่มาที่่ไป ไม่มีแบบวิ่ง ส่งของ ส่งจดหมาย ตีมอนสเตอร์แล้วจบเควสแบบไม่เกี่่ยวอะไรเควสหลัก

โหวต Red Dead 2 อีกเสียงครับ จริงๆ ภาค 1 ก็ดี เเต่ภาค 2 นี่เข้าขั้น Masterpiece สุดๆเลย เเถมถ้านับว่ามันเขียนเนื้อเรื่องให้เชื่อมกับภาค 1 ได้เเบบเเนบสนิท เทพสุดๆด้วยนะ จนบางทีเผลอคิดว่าทีมงานมันเขียนเนื้อเรื่องภาค 2 มาก่อน ภาค 1 ละหรือเปล่า เหมือนซีรี่ย์หนังสตาร์วอล 555

Red Dead Redemption 2
เนื้อเรื่องดีมากแต่เกมออกแนวสโลว์ไลฟ์หน่อย โดยเฉพาะช่วงเริ่มเกมที่ช้ามากกกก จนบางคนอาจเลิกเล่นไปก่อน

The Witcher 3
เหมือนอ่านนิยายดีๆเรื่องนึง (ก็มันดัดแปลงมาจากนิยายนี่หน่า)

Mafia 1-3
สองภาคแรกเป็น Open world ที่ดำเนินเนื้อเรื่องแบบเป็นเส้นตรงดิ่ง ไม่มีระบบอะไรมาก
ภาคสามระบบเป็น Open world เต็มรูปแบบ แต่มีความซ้ำซากหน่อย แต่เนื้องเรื่องยังสนุก

Dead Stranding
เนื้อรื่องออกแนวเว่อวังตามสไตล์ Kojima ฉากซึ้งๆทำเอาขนลุกเลย น่าจะทำเป็นหนังมากกว่าเกม

Assassin's Creed Unity
เอาจริงๆผมเกลียดภาคนี้มากเพราะองค์ประกอบด้านอื่นๆ แต่ดันชอบเนื้อเรื่องกับคัทซีนมากสุดในซีรีย์นี้

God of War 2018 + Ragnarok
ไม่รู้ว่านับเป็น open world ได้รึป่าว แต่เอาว่าเนื้อเรื่องเทพแน่ๆ (ก็เนื้อเรื่องมันเกี่ยวกับเทพ)

ที่ชอบมากๆทางเนื้อเรื่องคือ

Witcher 3
RDR 2
Ghost of Tsushima
AC:Odyssey
Sleeping Dogs
GTA V
Mad Max
Nier Automata

มีอีกแต่นึกไม่ออกล่ะแต่พวกนี้ชอบสุดๆเล่นแล้วเล่นยาวเลยตอนที่ได้จับครั้งแรกแต่ละเกม

แอ็คชั่น - จีทีเอ 5
ไซไฟแฟนตาซี - ซีโนเบรด
สปอร์ต - นีด ฟอร์ สปีด: ไรวัล
อาร์พีจี - ดราก้อน เอจ: อินควิสซิชั่น

3 อันดับที่สุดโอเพ่นเวิลด์

3.เดอะ ดิวิชั่น 2
2. แบทแมน อาร์แค่ม ไนท์
1. เมทัล เกียร์ 5 แฟนท่อม เพน

1.witcher 3
2.death stranding
3.fallout 76

ถ้าถามแค่เนื้อเรื่องก็

1.Red dead redemption 2
2.The witcher 3
3.Spider-Man ของโซนี่

ข้อ 1 ข้อ 2 คงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากน่าจะมีคนพูดไว้เยอะ

แต่ข้อ 3 ที่เลือกเพราะผมรู้สึกว่าบทมันเหมือนดูหนังภาคหลักภาคนึงเลย