เห็นว่าช่วงหลังนี้คนมักจะขุดสารพัดเรื่องมาว่า SE กันซะเสียประหนึ่งว่าแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน ซึ่งความจริงแล้ว SE เป็นบริษัทใหญ่นะครับ แผนกที่ใช้ทำเกมเขานี่ก็มีหลายสตูดิโอ ซึ่งแต่ละสตูเขาก็แยกกันต่างหากเป็นเอกเทศ แต่ละสตูก็มีทีมย่อยๆ อีก ซึ่งเขาจะใช้ชื่อว่า Creative Business Unit ซึ่งถ้าจะให้มองภาพง่ายๆ แต่ละยูนิตเนี่ยก็ประหนึ่งแพลตตินั่ม 1 บริษัทเลยนะครับ ปกติเขาจะไม่ใช้คนข้ามยูนิตกัน และในยูนิตเดียวกันก็มีหลายทีมอย่าง เช่น ยูนิต 3 ที่ทำ FF16 เนี่ย ก็แยกทีมทำกับ FF14 ไม่ใช่ว่าเขาใช้คนมั่วทำสองงานร่วมกัน เพียงแต่ทรัพยากรบางอย่างภายในยูนิตสามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น การให้โซเค็นมาแต่งเพลงให้ FF16 ด้วย เป็นต้น แล้วเช่นเดียวกันเรื่องที่คนบอกว่าทำไมไม่ไปเอาของทีมนู้นทีมนี้มาใช้ ก็เพราะแต่ละยูนิตมันก็เหมือนสตูดิโอเกมคนละสตูดิโอ ถึงจะอยู่บริษัทเดี่ยวกันมันก็ไม่ได้จะใช้โยกย้ายของไปมาระหว่างกันง่ายๆ แล้วขอให้ดูงานหลักๆ ที่ Creative Business Unit รับผิดชอบกันครับ จะเห็นว่าเป็นพวกไตเติ้ลใหญ่หรือไตเติ้ลหลักที่ออกมาแล้วไม่ค่อยเจอปัญหาใช่ไหมครับ

- Creative Business Unit I is led by Yoshinori Kitase, who was the head of Business Division 1 and focuses on Final Fantasy single-player titles, spin-offs, SaGa and Kingdom Hearts. The department comprises the former Business Division 1 (Mainline single-player Final Fantasy such as Final Fantasy XIII and Final Fantasy VII Remake), Business Division 3 (Kingdom Hearts, Final Fantasy spin-offs, The World Ends with You, SaGa series), and Business Division 4 (Final Fantasy spin-offs produced with external companies, e.g., Dissidia Final Fantasy NT, Theatrhythm Final Fantasy, Final Fantasy Record Keeper).

- Creative Business Unit II is led by Yuu Miyake, who was the head of Business Division 6 and focuses on the Dragon Quest, Nier and Bravely series, as well as arcade games. The department comprises the former Business Division 6 (Dragon Quest series, Nier series), Business Division 7 (Lord of Vermilion, Gunslinger Stratos) and Business Division 11 aka "Team Asano" (Bravely series, Octopath Traveler series).

- Creative Business Unit III is led by Naoki Yoshida, who was the head of Business Division 5 and focused primarily on MMORPGs, transitioning in 2020 to the single player Final Fantasy XVI. It mainly comprises the former Business Division 5 (Final Fantasy XI, Final Fantasy XIV, Dragon Quest Builders series).

- Creative Business Unit IV is led by Hirokazu Nishikado and focuses on the Mana series, along with co-development and production of remasters and ports. It comprises the former Business Division 8 (Mana series, along with remasters and ports of different franchises), Business Division 9 (Schoolgirl Strikers, Grimms Notes), and Business Division 10 (Million Arthur series, Chaos Rings series).

ทีนี้ไอ้พวกที่เกมโดนด่าเนี่ยมาจากไหน ระบบของ SE คือจะรับผิดชอบทำเกมเองเฉพาะเกม AAA หรือไตเติ้ลหลักที่เห็นข้างบน แต่พวกเกมอื่นเนี่ยเขาใช้การจ้าง outsource ทำให้ และ Creative Business Unit มีหน้าที่เป็นแค่ที่ปรึกษา หากเราไปเช็ครายละเอียดของผู้พัฒนาแต่ละเกมดีๆ เนี่ยไม่ได้มาจาก Creative Business Unit ที่เป็นทีมทำเกมหลักของบริษัทเลย ดังนั้นจะเอามาเชื่อมโยงเกมนี้ห่วยและจะทำให้เกมอื่นห่วยเนี่ยมันจะไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผล เพราะแต่ละสตู รวมถึง outsource ทำงานแยกเป็นอิสระต่อกันเหมือนเกมคนละค่าย ถ้าสตูนี้ทำงานไม่ดี มันไม่ได้หมายความว่าอีกสตูหนึ่งทำงานไม่ดีไปด้วย เรื่องงบก็เช่นกันโดยปกติบริษัทเหล่านี้มักจะแยกงบของแต่ละส่วนไว้แล้ว อย่างส่วนเกมมือถือเขาก็ต้องกันงบไว้พัฒนาเกมมือถือทุกปี มันไม่ไปเกี่ยวข้องกับงบของเกม AAA ที่จัดสรรให้เฉพาะอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับฝีมือของสตูมากกว่าที่จะทำเกมออกมายังไง ตัวอย่าง ทีมอาซาโนะ ของยูนิต 2 เป็นโปรดิวเซอร์ให้บริษัท Artdink ทำ Triangle Strategy หรือบริษัท Historia เป็นรับรีเมค Live A Live แต่ไม่ได้ทำเอง อย่าง Pixel Remaster ก็ให้บริษัท Tose ทำ

แน่นอนว่าต่อให้เป็น outsource ทำแต่การใช้ชื่อ Square Enix ออกมาเนี่ยมันทำให้เสียชื่อนะแหล่ะ เพียงแต่ไม่อยากให้เชื่อมโยงกันว่าอันนี้ไม่ดี แล้วจะทำให้อันนี้ไม่ดีด้วยเพราะเกมมันทำกันคนละระดับสตูดิโอเลย ไม่ใช่ระดับทีม มันไม่ได้เหมือนอย่างแพลตตินั่มที่เขามีสตูเดียวแล้วมีทีมทำงานย่อยร่วมกัน ถ้าแบบนั้นงานมันถึงออกมาแนวเดียวกัน เอาง่ายๆ FF16 จะชัดที่สุดเพราะทำในยูนิตเดียวกับ 14 งานมันถึงมีฟีลคล้ายๆ กันอยู่ แต่ถ้าไปเทียบกับ FF7 RE ที่เป็นคนละยูนิตสไตล์หรือแนวคิดมันก็ต่างกันชัดเจนตามผู้บริหาร

อันนี้ตัวอย่างของเกมกันนะครับว่าที่ออกมาช่วงหลังใครเป็นคนพัฒนา

เอาของใหญ่ก่อนเลย FF15 และ Forspoken เชื่อไหมครับสองเกมนี้ไม่ได้อยู่ในสตูดิโอหลักที่กล่าวมาแต่เป็นบริษัทลูกของ SE แยกออกมาเลย เดิมคือ Square Enix Business Division 2 แล้วต่อมาแยกออกมาเป็น Luminous Productions ผลงานที่ทำมีแค่ Luminous Engine, FF15 แล้วก็ Forspoken เนี่ยแหละ ปัจจุบันโดนยุบไปรวมกับบริษัทแม่แล้ว และไม่ปรากฎข้อมูลว่าทีมงานโดนย้ายไปไหน ดังนั้นอย่างที่บอกจึงไม่ควรเชื่อมโยงว่าเกมพวกนี้ไม่ดีแล้วเกมอื่นจะพาลไม่ดีไปด้วยเพราะว่ามันทำกันคนละบริษัท แล้วทีมนี้ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเกมที่ยูนิตอื่นทำ

ช่วงหลังเนี่ย outsource ทั้งนั้นไม่ได้ทำเกมเองเลยเหมือนทำฆ่าเวลารอเกมหลักมากกว่า โดย SE ทำหน้าที่เป็นแค่ผู้จัดจำหน่าย มันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือ outsource แล้ว อย่าง Tose เนี่ยทำงานดีถึงถูกจ้างทำพวก Remake, Remaster บ่อยมาก

Babylon's Fall - PlatinumGames
Triangle Strategy - Artdink / Netchubiyori
Chocobo GP - Arika
Stranger of Paradise: Final Fantasy Origin - Team Ninja
Live A Live - Historia
The Diofield Chronicle - Lancarse
Valkyrie Elysium - Soleil
Star Ocean: The Divine Force - tri-Ace
Harvestella - Live Wire
Dragon Quest Treasures - Tose
Crisis Core: Final Fantasy VII Reunion - Tose
Theatrhythm Final Bar Line - indieszero
Octopath Traveler II - Acquire
Front Mission 2 - Storm Trident
Front Mission 3 - MegaPixel Studio

ด่าบริษัทถูกต้องแล้วครับ ไม่ใช่หน้าที่ของคนเล่นที่ต้องมาเข้าใจ

อย่าง Capcom เค้าก็แบ่งเป็น Division เหมือนกัน ทุกเกมหลังๆก็ยังปังทุกเกม ถ้าจะบอกแผนกย่อยต่างคนต่างทำเอง ขายเอง แล้ว CEO มีไว้ทำไมครับ

ท้ายสุด CEO เป็นคนเคาะครับ จะขายเเลยหรือว่าให้ขัดเกลาเกมให้ดีกว่านี้แล้วค่อยขาย ชัดเจนครับว่า CEO หิวเงินดูถูกผู้บริโภคก็รับผลกรรม เด้งไป ทั้งๆที่ Game Concept ออกมาดีทุกเกม แต่กลวง คุณภาพไม่ถึงสักเกม

พวกบอร์ดหรือผู้บริหารคนอื่นๆก็รับทราบปัญหานะครับ CEO คนใหม่ ถึงมาเน้นย้ำเรื่องคุณภาพเกมก่อนเลย

ตรงข้ามกับ Zelda เกมเสร็จแล้ว 1 ปี ถึงค่อยมาวางขาย คนทำต้องเล่นแล้วเล่นอีก 20 รอบ ยอมเข้าเนื้อรายได้ไม่เข้าไป 1 ปี เต็มๆ

ปล. FF16 ไม่แป๊กหรอกครับ เกมออกมาคุณภาพได้มาตรฐานแน่นอน แต่จะชอบไม่ชอบอีกเรื่อง

ขอบคุณมากเลยครับ ทำให้เข้าใจอะไรๆขึ้นเยอะเลย แบบนี้แปลว่าปีที่แล้วเกมที่เหลี่ยมทำเองจริงๆ น่าจะมีแค่ crisis core : reunion เองมั้ง

ส่วนตัวผมไม่สนการบริหารภายในบริษัทหรอกนะ สนแค่เกมที่ออกมา ดีก็ซื้อ+ชมและday1 ต่อ
ถ้าแย่มาทีนึงก็รอ เค้ารีวิวก่อน โดนภาคเจ้าชายday1 นี่คุมขมับเลยนะบางคนไม่เข้าใจจริงๆ

ในความเห็นผม ff16 ไม่ซื้อครับ รอรีวิวก่อน ส่วนตัวว่ามันขายได้ แต่น่าจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด ดูgameplay ตอนสู้ละ effect ต่างๆมันบังฉากและแสบตาชิบหาย

เกมที่แปะป้ายสแควร์มีทั้งดีและมีแย่ไปตามปกตินะครับ เพียงแต่เกมที่ออกมาแย่มันทำชื่อเสียให้สแควร์หนักไปหน่อย
อย่างล่าสุดก็ forspoken ที่ทำเอาโซนี่เป๋ตามไปด้วย คือในฐานะเจ้าของบ้านยังไงก็ได้รับผลกระทบครับ
โซนี่ก็ถูกบ่นหลังงาน state of play ไมโครซอฟท์ + ฟิล สเปนเซอร์แทบไม่มีที่ยืนหลัง Red fall ออกขาย
เราคนเล่นอยากให้เกมมันออกมาดี เล่นสนุกทั้งนั้นครับ ที่คุยกันหลายหน้าหน่อยกระทู้ก่อนก็เสียดายครับ
เกมจากสแควร์มันน่าจะดีต่อเนื่องเรื่อยๆ ให้สมกับชื่อชั้นไม่ได้เกลียดอะไรหรืออยากให้ค่ายมันเจ๊งหรอกครับ
ปล.ผมก็รอเล่นไฟนอล16 กับ 7รีเบิร์ท อยู่ครับ

งาน Outsource ออกมาแย่ซะ
เป็นส่วนใหญ่ เกมมือถือซึ่งก็
เป็น Outsource ก็ปิดตัวลงๆ

งานตัวเองแท้ๆไม่ค่อยมี งาน
ที่มี Forspoken ก็นะ .....

สถานการณ์มันแย่จริงๆครับ
ความเชื่อถือกับความไว้ใจเป็น
เรื่องสำคัญ อย่างเกมมือถือที่
ปิดตัว ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางก็จริง
แต่ในฐานะที่พี่เป็น Publisher
ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบอยู่ดี ซึ่ง
ไม่แปลกที่ผู้เล่นจะเสื่อมศรัทธา

ผมว่าที่ว่ากัน ก็แฟนผลงานพี่เขา
ส่วนใหญ่แหละครับ เคยอวย,รัก
พอเห็นท่าไม่ดี ก็เป็นกังวลกันฮับ

Consumer ทั่วไปเกมดีก็ชม เกมไม่ดีก็ด่าสั้นๆง่ายๆครับ ไม่มีอะไรแปลกเลยในเมื่อแปะป้าย Square Enix เป็น Publisher แล้วคนจะด่าเหลี่ยมก็ปกตินะ

ถ้าเล่นแล้วไม่ถูกใจ เป็นเกมกากๆไม่มีใครไปนั่งเซิจหรอกครับว่าใครทำเกมกันแน่ในเมื่อเห็นมันแปะป้ายว่า Developer/Publisher = Square Enix ( Forspoken )

เกมอย่าง Octopath 2 ก็มีแต่คนชม แค่นั้นแหละครับไหนจะมีพยายามผลักดัน NFT อีกไม่รู้จะเอาอะไรไปเห็นใจเหลี่ยมนะครับ

อีกอย่างถ้าในเคสแบบนี้เหลี่ยมลอยตัวได้ มันก็หมายความว่า EA ก็ลอยตัวได้เหมือนกันนะครับ เกมที่ผ่านๆมาเนี่ย EA มันจะไม่มีส่วนร่วมกับการตัดสินใจของทิศทางของเกมเลยงั้นรึ เละเทะซะขนาดนั้นดูอย่าง Battlefront II จะบอกว่า Dice จัดการเองคนเดียวนี่มันเป็นไปไม่ได้อ่ะยัด Microtransactions มาซะจนแบบเกมอื่นๆอายไปเลย กว่าจะเลี้ยวกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ก็หลายปี

ดูโจโคโบะเรซซิ่งนโยบายซื้อเกมแล้วยังมีการจ่ายตังค์ในเกมนู่นนี่ยังไงค่ายเหลี่ยมก็น่าจะรู้เห็นด้วย

คงไปโทษเอาท์ซอสอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการที่เกมทุนต่ำก็เป็นการตัดสินใจของเหลี่ยมด้วย

เวลาเกมขายได้เงินไปไหน ก็ด่าตรงนั้นถูกต้องแล้วครับ

ผู้บริโภคคงไม่ต้องไปรู้ถึงสายการบริหารของบริษัททำเกมหรอกมั้ง

พูดงี้ผมว่าก็ไม่ถูกนะ เค้าไม่ได้ทำ harvest moon แล้วมาฝาก SE ขายนิ เกมแม่งก็ IP SE ทั้งนั้น จะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นเลย กูขายอย่างเดียวเกมแย่อย่ามาด่ากูนะ ไม่ได้ดิ เพราะมัน IP คุณ คุณก็มีส่วนด้วยแน่นอน สมควรมีส่วนด้วย ต่อให้ไม่มีเลย มันก็ความรับผิดชอบโดยตรงของ SE อยู่ดี ไอ้ที่ดีก็ดี แต่ไอ้บางเกมที่ออกมาเหมือนคนทำเกมไม่ลองเล่นเองก่อนนี่ก็เยอะ


อย่าง sakuna of rice and ruin เนี่ย ชัด เกมทำมือกัน 2 คน สุดท้ายมาฝากให้ Marvelous ช่วยขาย อันนี้ถ้าแมร่งแย่อ่ะ ด่า Marvelous ก็ไม่ถูก

outsource ผมว่าคนเค้าก็รู้กันอยู่แล้วนะเหลี่ยมจ้างทีมไหนทำ แต่ไม่ว่าเกมจะดีหรือแย่ไม่ว่าค่ายไหนก็ตามคนก็จะชมหรือด่าค่ายนั้นครับไม่ได้ด่า outsource โดยตรง เพราะบริษัทเป้นผู้ิออกนโยบาย เป็นผู้จ้าง outsource เป็นผู้กำหนดแนวทาง ก็เหมือนบริษัททั่วไปแหละครับ จ้างทำของเราอาจไปจ้างอีกที่นึงทำแต่ของที่ปล่อยขายติดโลโก้บริษัทเรา ถ้าของไม่มีคุณภาพผู้บริโภคก็ด่าบริษัทเราแหละครับ ไม่ได้ไปด่าบริษัทที่เราจ้างทำอีกทีนึงหรอก

ยกตัวอย่างแคปคอมก็ได้ครับ RE3 เค้าก็จ้างทีมทำรีเมคอีกที มันดูแย่ไม่คุ้มค่าเค้าก็ด่าแคปคอม ส่วน Re4 รีเมคออกมาดีเค้าก็จ้างอีกทีมทำ คนก็ชมแคปคอมเป็นอันดับแรก

ถ้ารักกันจริงๆก็ไม่ควรตั้งกระทู้แล้วค่ายเขามาแขวนให้คนด่าเล่นแบบนี้อะครับ ถ้าด่าเกมมันห่วยก็ด่ามันที่กระทู้เกมนั้นตั้งแต่ที่เกมมันออกก็พอ มันไม่จำเป็นที่ต้องขุดเรื่องเก่าๆขึ้นมาด่าเลยแม้แต่นิดเดียวครับ เพราะทำแบบนี้มันไม่ช่วยอะไรเลย ถ้ารักกันจริงก็ควรทำให้มันมากกว่าด่านะผมว่า

ซื้อของชิ้นนึงมาใช้แล้วแย่ ผมก็ด่าแบรนด์ที่มันแปะอยู่บนแพ็คเกจนั่นแหละครับ
คงไม่ต้องถึงกับไปแยกมั้งครับว่าล็อตนี้มาจากโรงงานไหน แล้วไปตามด่าให้ถูกโรงงาน
คือคุณดีลกันแล้ว คุณเชื่อมั่นให้เขาผลิตของให้แบรนด์คุณ ก็สมควรต้องรับฟีดแบ็กไปทั้งหมด
ไม่ใช่ว่ารับแต่คำชม แต่ถ้าจะด่าต้องไปตามด่าให้ถูกคน
ส่วนใครจะหมดความเชื่อถือในแบรนด์ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องไปตามกู้ตามเช็ดกันเอง

เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมคนที่มาตอบกระทู้นี้ส่วนถึงเข้าใจไปว่า เขาบังคับไม่ให้พวกคุณด่าเหลี่ยมเพราะว่าเกมบางเกมมันใช้outsource กันซะงั้น

เขาไม่ได้พูดว่าอย่าด่าสักคำเลยนะครับ คุณkuroyamiเขาแค่อธิบายโครงสร้างบริษัทแล้ว บอกว่าถ้าเกมนี้ไม่ดี ก็อย่าเอามาเชื่อมโยงว่าเกมอื่นจะไม่ดีไปด้วยไม่ใช่เหรอครับ พวกคุณจะด่าเกมที่แย่ๆของเหลี่ยมหรือไม่มันก็ไม่เกี่ยวกันเลยนะ ไอ้พวกที่คิดไม่ดีมันก็ชอบเหมารวมแบบนี้อะ เกมไม่แล้วเอามาด่ามันก็เรื่องปกติแหละ แต่การเหมารวมว่าเกมอื่นที่ยังไม่ออกมันจะต้องไม่ดีไปด้วยมันก็ไม่ถูกนะครับ

ส่วนตัว เรามองว่าเกมมันจะดีจะกากไม่เกี่ยวกับบ.เอาท์ซอสเลย อยู่ที่ตัวโปรดิวเซอร์ ไดเรคเตอร์ ที่มาจากเหลี่ยม + เงินทุนกับเวลาที่ให้มาล้วนๆ

เพราะคนที่ออกแบบว่าเกมมันจะออกมาเป็นแนวไหน เล่นยังไง มีฟังก์ชันอะไรบ้าง ก็คือไดเรคเตอร์ที่มาจากเหลี่ยม หรือเกมจะเล่นสนุกมั้ยมาจากหมอนี่

แล้วโปรดิวเซอร์ที่ควบคุมการผลิตก็คนของเหลี่ยมเหมือนกัน งานออกมาดีไม่ดี, full of bugs คนรับผิดชอบคือไอ้หมอนี่ ซึ่งมันก็ไม่มีใครหรอกที่อยากให้งานตัวเองออกมาไม่ดี เพราะมันเป็นประวัติติดตัวไปชั่วชีวิต แต่ทุนมันให้มาแค่นี้จะปั้นโมเดลเทพๆ แบบ ff7r ทุกเกมมันก็เป็นไปไม่ได้ หรือเวลาน้อยจะเกลางานให้ดีก็ทำไม่ทัน มันก็เลยออกมาเป็นโลว์เกรดอินดี้แต่ขายแพงอย่างที่เห็น

เพราะว่าถ้า D กับ P ทำงานได้ดี จะจ้าง dev เจ้าไหนก็แทบไม่ต่างกัน เหมือน ff14 อะ เกมออกมาดีก็ชมแต่โยชิดะกัน ไม่มีใครชมว่าโปรแกรมเมอร์เทพหรอก เพราะเขาก็แค่ทำงานตามที่ d ออกแบบมา

หรืออย่างเซย์เคนมือถือที่เพิ่งปิดไปทั้งที่ใช้ทีมพัฒนาจาก wfs สตูทำเกมมือถือที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น กราฟิกก็ 2d วาดมือไฮเรสระดับ srw ยังอาย เกมเพลย์ก็ไม่แย่ แต่บริหารห่วยเกมเจ๊งในไม่ถึงปี ก็ไม่มีใครโทษ wfs เพราะทั้งหมดทั้งมวลที่เจ๊งก็เพราะเหลี่ยม

สรุปง่ายๆ ว่าปัญหาทั้งหมดมันมาจากการบริหารของเหลี่ยมล้วนๆ อะ ด่าเหลี่ยมนี่แหละถูกแล้ว เอาท์ซอสไม่เกี่ยวเลย