Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Jason Bourne ( 2016 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
FallsDowns at 2016-08-03 17:51:58 , Reads (14044), Comments (9) , Source :

หายหน้าหายตาไปถึง 9 ปี (ถ้าหากไม่นับ The Bourne Legacy) สำหรับแฟรนไชส์สุดระทึกที่โด่งดังอย่าง Bourne หลังจากแปกไปไม่เป็นท่าในภาค The Bourne Legacy ในปี 2012 ซึ่งได้ เจเรมี่ เรนเนอร์มารับบทนำ



การกลับมาของแฟรนไชส์ Bourne ในครั้งนี้ เชื่อว่าค่อนข้างจะตั้งความคาดหวังให้แฟนๆหลายคนอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะนอกจากดารานำอย่าง แม็ตต์ เดม่อน จะกลับมารับบทเป็น เจสัน บอร์น เหมือนเดิมแล้ว ตัวผู้กำกับ The Bourne Supremacy (2004) และ The Bourne Ultimatum (2004) พอล กรีนกราส ก็กลับมารับตำแหน่งเดิมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นของ Jason Bourne ในภาคนี้ กลับเป็นมาจากการเปลี่ยนตัวผู้เขียนบทยกแผง ซึ่งทำให้เห็นถึงจุดที่ขาดหายไปในภาคนี้ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความลุ่มลึกของเรื่องราว ความลึกลับน่าค้นหา ไปจนถึงกระทั่งปมขัดแย้งต่างๆในภาคนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นข้ออ้างในการผลักดันแฟรนไชส์ให้เดินหน้าต่อไปได้ มากกว่าเป็นสิ่งที่ถูกขีดเขียนและวางแผนมาเป็นอย่างดี



ในมิติหนึ่งอาจเป็นชะตากรรมที่ตัวภาพยนตร์คงจะต้องทำใจยอมรับ ในเมื่อส่วนสำคัญของภาพยนตร์เลือกที่จะพูดถึงประเด็นที่สังคมหันมาให้ความสนใจได้ซักระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะหลังจากผลงานภาพยนตร์สารคดีอย่าง Citizen Four (2014) และการเปิดโปงสุดอื้อฉาวของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เด็น ซึ่งจะมีภาพยนตร์ชีวประวัติในปลายปีนี้

โชคยังดีที่สององค์ประกอบเดิมที่แฟนๆตั้งความหวังอย่าง แม็ตต์ เดม่อน และพอล กรีนกราส ยังคงไม่ผิดหวัง แม้ตัวพี่แม็ตต์ จะแลดูเริ่มหมดแรงจากอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงรับบทนำได้อย่างดีเยี่ยม น่าสนใจ คอยลุ้นเอาใจช่วย



ในขณะที่พอล กรีนกราส ยังคงเล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหล น่าติดตาม ควบคุมจังหวะของภาพยนตร์ในแต่ละช่วงได้ดีโดยเฉพาะในฉากแอ็คชั่นทั้งหลาย แม้จะนำเสนอเนื้อหาออกมาอย่างโต่งๆแลดูขาดชั้นเชิงไปหน่อยก็ตาม

นักแสดงใหม่ของแฟรนไชส์อย่าง อลิเซีย วิแคนเดอร์ (ลาร่า ครอฟต์ คนใหม่) ก็ถ่ายทอดตัวละครของเธอได้อย่างน่าค้นหาดี แต่คงจะดียิ่งขึ้นไปอีกหากตัวภาพยนตร์ถ่ายทอดพื้นหลังของตัวละครเธอมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เราจะได้เห็นในภาคต่อไป

ท้ายที่สุดแล้ว Jason Bourne ก็เป็นผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านฉลุยในด้านของความบันเทิง แต่ในด้านของคุณภาพโดยรวมยังคงครึ่งๆกลางๆ จากบาดแผลที่ใหญ่หลวงอย่างบทภาพยนตร์ ซึ่งเอาตัวรอดไปได้ด้วยการกำกับของ พอล กรีนกราส อย่างหวุดหวิด เชื่อว่าแฟนๆที่ประทับใจ Bourne สามภาคแรกอาจกลับบ้านไปอย่างผิดหวังกันบ้างนิดหน่อย



Final Result: [ 7 / 10 ]





(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
พอล กรีนกราส กำกับแค่ภาค 2-3 ครับ

ส่วนที่หนังสนุกสู้3ภาคแรกไม่ได้ อาจเพราะ โรเบิร์ต ลัดลัม ผู้ให้กำเนิดบอร์นเขียนแค่3ภาคแรก ที่เหลือคนอื่นเขียนต่อครับ เพราะแกตายซะก่อน
Like : Fugo1503
View all 3 comments >
พอกล่าวถึงละนึกออกเลยกรรม 555 ขอบพระคุณมากครับ
ถึง โรเบิร์ต ลัดลัม จะเขียนนินายแค่3ภาคแรกแต่ตัวนิยายกับหนังก็แทบจะไม่เกี่ยวกันเลยครับ เนื้อเรื่องไปคนละทาง
ผมไม่เคยอ่านนิยายเลยครับ อย่างงี้อ่านนิยายก็ยังคงสนุกใช่มั่ยครับเพราะคนละทางกับหนัง ได้ยินเพื่อนบอกว่านิยายหนุกมาก จะได้ลองอ่านบ้าง
สำหรับผมเป็นหนังสนุกที่สุดในช่วงเดือนที่ผ่านมาละ ถึงจะสู้ภาคแรกๆไม่ได้ก็เหอะมันก็ยังเติมเต็มความสนุกของผมได้ ชอบฉากประท้วงกรีกที่ต้องลุยเอาตัวรอดฝ่าฝูงผู้ประท้วงเพื่อเอาตัวรอดมากสุดละในเรื่อง
8.5/10
รู้สึกว่ารีวิว กระชับขึ้นนะครับ และค่อนข้างชอบในส่วนที่ครอบสปอยไว้ ในเชิงข้อคิดที่คุณจับมาได้ หรือมุมมองส่วนตัวที่มีต่อหนัง
View all 1 comments >
กราบขอบพระคุณมากครับ จะพยายามพัฒนาต่อไปครับ
ยอมรับว่าไม่เจ๋งเท่า 1-3 ซึ่งอันนั้นขึ้นหิ้งไปแล้วว่าเป็นหนึ่งในไตรภาคที่ดีที่สุด

แต่ด้านความบันเทิงมันติดท็อปปีนี้ของผมเลย ตอนเข้าไปนี่ไม่ได้คิดถึงเนื้อเรื่องเลย กะไปดูการกำกับของกรีนกราสและแอคชั่นสไตล์บอร์น ซึ่งสมหวังมาก สนุกมาก ชอบมาก

ชอบมากเลย ซีรี่นี้
ต้องหาเวลาไปดูซะแล้ว