Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
BoxOffice: Resident Evil เปิดตัวต่ำที่สุดในทุก��าคที่ผ่านมา Split ยังคงแรงไม่หยุด
FallsDowns at 2017-01-30 01:36:08 , Reads (27343), Comments (12) , Source :


การปิดตำนานเรื่องราวการผจญภัยของท่านเทพอลิซและพลังเหนือโลกของเธอในสหรัฐดูจะไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก ด้วยตัวเลขเพียง 13.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขเปิดตัวที่น้อยที่สุดในแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Resident Evil ทั้งห้าภาคที่ผ่านมา จะมีใกล้เคียงที่สุดก็ย้อนกลับไปภาคแรกในปี 2002 ที่เปิดตัว 17 ล้านเหรียญเท่านั้น ในขณะที่ภาคอื่นๆตัวภาพยนตร์เปิดตัวเกิน 20 ล้านเหรียญทั้งหมด คงต้องไปลุ้นตัวเลขรวมจากสัปดาห์ต่อๆไปกันแล้วละครับ



ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน Split ยังคงครองแชมป์ต่อไปในสัปดาห์ที่สองด้วยตัวเลข 26.3 ล้านเหรียญ ตัวภาพยนตร์เข้าฉายบ้านเราในสัปดาห์นี้ (จริงๆมีรอบพิเศษในวันศุกร์ที่ผ่านมา) ตามมาด้วยภาพยนตร์ของเหล่าน้องสุนัข A Dog's Purpose ซึ่งเปิดตัวเป็นสัปดาห์แรกที่ 18.4 ล้านเหรียญ ในขณะที่ทางด้าน Hidden Figures ยังคงไม่ยอมย้ายไปไหน เกาะติดอันดับสามอย่างหนึบที่ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ



Resident Evil: The Final Chapter เปิดตัวในอันดับสี่ที่ 13.9 ล้านเหรียญดังที่กล่าวไปข้างต้น ตามมาด้วยผลงานสุดพีคแห่งปีที่ยังคงได้รับผลจากการกวาดรางวัลจากเวทีต่างๆต่อไป La La Land ติดสิบอันดับแรกของ BoxOffice มายาวนานถึง 8 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยสัปดาห์นี้เก็บไปอีก 12.1 ล้านเหรียญ ซึ่งดันมากกว่า xXx: Return of Xander Cage ที่เพิ่งจะเข้าฉายได้สองสัปดาห์ก็ตกมาอยู่อันดับหกที่ตัวเลข 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐเสียแล้ว



Sing อยู่สิบอันดับแรกของ BoxOffice มาแล้ว 6 สัปดาห์ ทำเงินต่อไปที่ 6.2 ล้านเหรียญ ตามมาด้วยภาพยนตร์กรณีเดียวกันแต่อยู่ติดมาแล้ว 7 สัปดาห์อย่าง Rogue One: A Star Wars Story ที่ 5.1 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Monster Trucks ตามมาที่ 4.1 ล้านเหรียญ ปิดท้าย BoxOffice สัปดาห์นี้ที่ Gold ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของ แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ ซึ่งเปิดตัวอันดับที่สิบของตารางพอดิบพอดีด้วยตัวเลข 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐครับ



มีโอกาสสูงมากทีเดียวที่ Split จะยังคงความแรงต่อไป เนื่องจากที่สหรัฐสัปดาห์นี้มีเพียงแค่ The Space Between Us และ Rings เปิดตัว แม้น่าจะพอทำเงินได้บ้างแต่คาดว่าน่าจะยังคงล้มแชมป์ประจำสัปดาห์ไม่ได้ อย่างไรก็ตามสัปดาห์หน้ารับรองเลยว่า BoxOffice คงมีศึกตบแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ชนิดเลือดพุ่งกันบ้าง เพราะเป็นศึกสามเส้าระหว่าง The LEGO Batman Movie, Fifty Shades Darker และ John Wick: Chapter 2 ใครจะอยู่ใครจะไปต้องรอดูกันอีกสัปดาห์ครับ



- ตัวเลขรวมจากทั่วโลกของภาพยนตร์เด่นๆในขณะนี้ -
Sing : 463.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (สัปดาห์ที่ 6)
Hidden Figures : 104.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (สัปดาห์ที่ 6)
Rogue One: A Star Wars Story - 1,030 ล้านเหรียญสหรัฐ (สัปดาห์ที่ 7)
La La Land : 223.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (สัปดาห์ที่ 8)

- ตัวเลขเปิดตัวในอเมริกาของแฟรนไชส์ Resident Evil -
Resident Evil (2002) : 17.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
Resident Evil: Apocalypse (2004) : 23 ล้านเหรียญสหรัฐ
Resident Evil: Extinction (2007) : 23.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
Resident Evil: Afterlife (2010) : 26.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
Resident Evil: Retribution (2012) : 21 ล้านเหรียญสหรัฐ

ref: [Link]
[Link]

แสดงความคิดเห็น
3 more comments >>
เป็นภาคที่เเอคชั่นยาวที่สุดเลย เต่เนื้อหาบาบางมาก
พาซีรี่ลงแหวเองอะนะ.....
หนุกดีนะ resident
จบซะที ริสิเด้น
Re มันก็แบบนี้ทุกภาคละฉายในบ้านตัวเองเกือบขาดทุนแต่มันได้กำไรจากต่างประเทศเยอะไงเลยทำภาคต่อได้เรื่อยๆ
ที่ไปดูในโรงมาคือ เพิ่มเสียงให้ดังขึ้น ตอนยิงปืนใส่แอฟเฟกซะต้องหรี่ตาเลย
ผมว่า REภาคที่แล้วสนุกนะ นางเอกไม่มีพลังเอสเปอร์เหนือธรรมชาติ ศิลปะการต่อสู้ล้วนๆ แล้วก็มีการละลึกตัวละครจากภาค1 แถมบอสใหญ่สุด ไม้ตายหมัดดับหัวใจเทพมาก
เหมือนภาคนี้เขารู้แล้วว่าคนเกลียดพลังวิเศษมันไม่เข้ากับหนังซอมบี้ แต่พอภาคนี้ทำใจไว้แล้วว่า พลังวิเศษจะกลับมา
แอ็คชั่นเยอะจริง แต่หลาย ๆ อย่างมันขาด ๆ ไงไม่รู้ เวสเกอร์ง่ายไป บอสไม่เป็นบอส ศัตรูไม่หลากหลาย ว่าแต่คริสหายไปไหนหว่า
แต่ที่ญี่ปุ่นนี่ถือว่าแรงพอควรเปิดตัวอันดับ 1 สัปดาห์แรกและตอนนี่เก้บรายได้รวมเกือบ 4 พันล้านละ
ส่วนตัวหนังผมว่าก็สนุกตื่นเต้นดีในฐานะที่เป็นหนังบู้ที่ดูแบบไม่ต้องคิดอะไร แต่ถ้าแฟนเกมส์มาดูแม่มก็น่าด่าเหมือนทุกๆภาคน่ะแหละในเรื่องตัวละครในเกมส์โคตรง่อย
หนังบ้าระห่ำสู้ผี มันขาดการดำเนินเรื่องที่น่ากลัว ก็แบบนี้แหละ ซึ่งผมไม่ดูมาหลายภาคหลังและ