Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
ไวไปมั้ยพี่ Tales of Luminaria (テイルズ オブ ルミナリア) เตรียมปิดให้บริการแล้ว
banktoom at 2022-05-10 16:08:05 , Reads (13207), Comments (69) , Source :





ปิด 20 กรกฎาคมนี้ จำได้ว่าเพิ่งเปิดไม่ใช่หรอ

เครดิต dengekionline

แสดงความคิดเห็น
31 more comments >>
เรื่องการบังคับที่คนเขาว่าห่วย หลังโดนว่าไปสักพักเขาก็ปรับปรุงระบบการบังคับใหม่แล้วนะครับ ระบบการบังคับที่จากเดิมใช้ปุ่มๆเดียวทำทุกอย่างทั้งการวิ่งทั้งโจมตี ตอนนี้สามารถเลือกได้เลยว่าจะแยกปุ่มระหว่างเคลื่อนไหวกับโจมตีมั้ย แล้วก็ยังสามารถปรับขนาดของปุ่มกับตำแหน่งของปุ่มได้ตามต้องการ ซึ่งตำแหน่งของปุ่มนี่หมายรวมไปถึงปุ่มท่าไม้ตาย ปุ่มใช้เวทด้วย

ยังมีอีกคือ เกมมีการปรับสมดุลตัวละครอยู่เรื่อยๆครับ อย่างตัวละครที่สมดุลไม่ค่อยดีเล่นยาก ใช้งานไม่ค่อยได้เขาก็ปรับให้มันเล่นได้ง่ายขึ้น เช่น ราอูล ที่จากเดิมได้แค่ตีธรรมดากว้างแต่ท่าตีพิเศษเป็นท่าควงหอกโง่ๆที่ทำซากอะไรไม่ได้ ตอนนี้เปลี่ยนยกเครื่องใหม่เพิ่มท่าควงหอกจากด้านบนเพื่อทำแดแมจรอบตัว หรือควงหอกด้านสร้างเป็นโล่กันการโจมตีให้คนทางด้านหลังได้ด้วย จากเดิมทีราอูลเป็นตัวละครจืดๆทั่วไปพอปรับใหม่มันเหมือนเกิดใหม่เลย ส่วนคนอื่นก็มีปรับสมดุลเหมือนกัน เช่น กันการโจมตีได้ดีขึ้น ปรับเป็นไม่ชะงักเมื่อถูกโจมตีตอนอยู่ในสภาวะต่างๆ

นอกจากนี้ตอนเล่นเนื้อเรื่อง ระหว่างที่เล่นไปตัวละครมันจะคุยกันไปตลอดทางเลยครับ คนฟังญี่ปุ่นออกนี่จะฟินมาก หายากนะจะเจอเกมมือถือที่ตัวละครมันคุยกันแบบนอนสต็อประหว่างที่เราเล่นเกมเพลย์อยู่แบบนี้ ชนิดที่ว่าเราสู้เสร็จแล้วมันยังคุยกันไม่จบก็มี ซึ่งบางทีก็เป็นข้อเสียเหมือนกัน

นอกจากนี้เล่นเนื้อเรื่องไปเราจะเจอมินิเกมมาให้เล่นด้วย คือไอ้มินิเกมนี่มันมาแบบคาดไม่ถึงจริง ๆ ที่เจอก็มีมินิเกมขี่ม้า มินิเกมยิงเป้า มินิเกมเต้น ไอ้มินิเกมเต้นนี่สนุกมากแนะนำเลย เล่นเอาเสียดายเลยที่จะไม่ได้เห็นพวกเอ็ดไปเต้นในEP3ของตัวเอง อยากให้ทำมินิเกมอันนี้แบบให้เราสามารถจับคู่ให้ตัวละครได้จังเลยมันต้องฟินสุดๆเป็นแน่

พูดถึงข้อเสียแล้วก็คือ ถึงจะปรับปุ่มให้บังคับง่ายขึ้นแล้วแต่เนื่องจากมันเป็นเกมแนวตั้ง เลยทำให้มุมกล้องยังมีปัญหาอยู่เหมือนเดิม บ่อยครั้งที่เรามักจะโดนโจมตีจากมุมอับที่มองไม่เห็น ถ้าเล่นเนื้อเรื่องอย่างเดียวก็ไม่เป็นปัญหาหรอก แต่ถ้าเล่นซีเคร็ทมิชชั่นมันจะทำให้หัวร้อนได้เลยเพราะมันต้องแข่งกับเวลา นี่ยังไม่นับรวมว่ามันทำให้เราคลาดสายตายจากมอนได้ง่ายมากด้วยนะ อีกเรื่องนึงคือเกมนี้เรามักจะเจอฉากการเล่นที่ค่อนข้างหลากหลายมันก็ทำให้เกมไม่น่าเบื่อดี แต่บางทีก็รู้สึกว่าทำเกินไปหน่อย อย่างเช่น เล่นโหมดเนื้อเรื่องมันจะเป็นอะไรทำนองว่าให้เราเดินจากจุดAไปจุดB แต่พอวิ่งไปถึงจุดๆนึงเกมกลับบังคับให้เราเดินซะงั้น แล้วเดินช้าเป็นเต่าเลย อีกอันนึงคือตอนเจอฉากทะเลทรายเกมก็บังคับให้เราเดิมไต่ข้ามเนินทรายไปทีละเนิน คือทำแบบนี้มันทำให้เกมอืดอาดยืดยาดโดยไม่จำเป็น แต่ก็ยังดีที่หลังจบบทที่ฉากที่ว่านั่นแล้ว อะไรที่มันบังคับเราเดินก็ไม่มีอีกเลย

เล่นเกมนี้แล้วรู้สึกรักอุนเอย์ขึ้นมาเลยนะ เพราะการอัพเดทแกไขตัวเกมของเขามันเห็นเป็นรูปธรรมดีมาก ตัวละครที่คนบอกว่าเล่นก็แก้ให้มันเก่งขึ้น มีท่าให้ใช้มากขึ้น อะไรที่คนบ่นกันหลังจากนั้นก็ไม่ทำอีกเลย(ถึงมันจะไม่แก้เรื่องทำเกมฝั่งจักรวรรดิเป็นเกมมุโซก็ตาม)
View all 1 comments >
ปรับราอูล นี่ผมว่าโคตรดี จากตัวที่เล่นได้แค่ในโหมดเนื้อเรื่อง มาเป็นหนึ่งในตัวเล่น Raid ได้ดีมากๆๆๆ

แต่พูดถึง Raid Gemslays บอสงูเดือนเมษายน ผมว่าเป็นบอสที่แย่เกินไป Moveset โดยรวมมันทำร้ายตัวละครสาย Melee เกิน ส่วนตัวตีไกลก็สบายเช่นเคย แค่อาจจะเสียเวลานิดหน่อย

ส่วนบอสเดือนนี้ เจอลูเซี่ยน 2 คนก็ชนะสบายแล้ว
เทลมือถือนอกเกาะชื่อมันเสียไปแล้วกู้ยากอ่ะ
ไม่มีใครไว้ใจว่าจะเปิดได้นาน

บันแหนมก็ออกแนวเหวี่ยงแหไปเรื่อย

รอเครสโตเรียf กับ ลูมินาเรียfละกัน
สองภาคนี้น่าทำลงคอนโซลมากกว่า
View all 2 comments >
ถ้าทำมาได้ก็ดีครับ แต่ลูมินาเรียนี่ผมว่าทำยาก เพราะเกมมันเนื้อหาเยอะมา โปรดิวเซอร์เกมแกเคยบอกว่าถ้าทำเป็นเกมแบบคอนซูมเมอร์ คงต้องใช้บลูเรย์ถึงสามแผ่น เผลอๆจะไม่พอเอาด้วย ถ้าจะทำคงต้องทำแบบอัพเดทเนื้อเรื่องเป็นแบบรายเดือน รายปีอะไรก็ว่ากัน อัพเป็นตอน 1 ของ21ตัวละคร ตอน2 21ตัวละคร หรือลดหลั่นกันไปก็ได้ แต่ทำเป็นแบบขายแยกนี่ไม่เหมาะอย่างแรง
ถ้าตั้งใจจะทำมันก็ทำได้
แบบซีรี่ส์คิเซคิ ล่อต่อยาวตั้งแต่โซระ เรย์ อาโอะ เซ็น บลาๆ

แต่ยาวเกิน คนก็เทกันเยอะ 18 ปีไม่มูฟออน ต่อให้นับจากเซ็นก็ล่อไป 9 ปีแล้ว
ได้ยินว่าเกมเพิ่งเอาเสียงญี่ปุ่นเข้าเซิฟโกลบอลตอนเดือน 3 ช้าไปละ ประกาศปิดเดือน 5

ไม่แน่ใจ คุ้นๆว่าเกมมันไม่ให้โปรแกรมอีมูเล่นด้วย จริงๆควรอนุญาตได้แล้วนะ อย่างอาร์คไนท์กดลิงค์ออฟฟิเชี่ยลไป nox ให้เลย ยิ่งเกมที่อยากได้ภาพสวยๆแล้วไม่ทำเวอชั่นคอม ปรับให้ใช้จอยได้ยิ่งดีพวกเกมแอคชั่น

บันแหนมจะได้เป็นบทเรียนรึเปล่าก็ไม่รู้
Like : GIRIGIRI
เกมแนวตั้งแนวๆนี้ พอเปิด global แล้วมีเกมไหนรุ่งบ้างหนิ (ไม่รวมเกมคนละแบบแนว candy crush หรือ AC pocket camp นะ)
tales of น่าไปทาง mmo บ้างนะ
ทำ world ของตัวเองแบบเกมเกาหลี
Like : Konosuba
View all 1 comments >
Eternia Online ไงครับ เจ๊งเหมือนกัน
ผมคิดว่า ลูมินาเรียไม่เหมาะจะทำลงเป็นเกมคอนโซลนะ เพราะแคชก็อบปี้มันก็เขียนไว้อยู่แล้วว่า เกมRPGที่วิธีชีวิตของคนทั้ง21คนได้สวนทางกัน พูดง่ายๆคือมันเป็นเกมที่มีตัวละคร21คนเป็นตัวดำเนินเรื่อง เนื้อหามันเยอะจนทำเป็นระดับคอนโซลไม่ไหว ผมว่าเกมมือถือที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เหมาะสมกับมันดีแล้วครับ ถ้าให้ดีกว่านี้ก็คงต้องให้ภาพมันเป็นระดับ เกนชินแล้ว ถ้าเป็นนั้นยังพอเป็นไปได้ น่าจะขายดีด้วยถ้าเขาจะทำนะ คือไม่ต้องขายเป็นออฟไลน์ แต่เป็นเกมกึ่งออนไลน์อัพเดทเนื้อเรื่องตลอดอะไรแบบนี้
View all 11 comments >
เนื้อหาเยอะ ทำลงคอนโซลมันก็ดีแล้วนี่ครับ ความจุมันเยอะกว่า ผมมองไม่เห็นข้อเสียนอกจากพกพาแค่นั้นนะ
เนื้อหาของตัวละครหลักทั้ง 21 คน คนละ 8 ตอน บวกกับเนื้อหาตอนครอสโร้ด อีกอย่างต่ำ 7 ตอน รวมเป็น 175 ตอน ตอนนึงใช้เวลาเล่นโดยเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง นี่ยังไม่นับรวมมินิเกมอีกนะ ถ้าหากทำลงคอนโซลแน่นอนคุณภาพของตัวเกม ไม่ว่าจะคัตซีน เกมเพลย์ต้องทำให้ได้คุณภาพมากกว่าตอนทำลงมือถือ ต้องมีเพิ่มพวกซับอีเวนท์ลงมาด้วย แล้วต้องยัดไอ้ทุกอย่างที่ว่ามานี่ลงในบลูเรย์เพียง1แผ่น ผมมองว่ามันไม่น่าเป็นไปได้เลยครับ เว้นแต่ว่าจะทำเป็นแบบFFXIVที่อัพเดทเนื้อหาตามช่วงเวลา ถึงพอเป็นไปได้ แต่ทำเป็นเกมแบบขายครั้งเดียวจบเลยนี่มองยังไงก็เป็นไปไม่ได้
shinjikaoru wrote:
เนื้อหาของตัวละครหลักทั้ง 21 คน คนละ 8 ตอน บวกกับเนื้อหาตอนครอสโร้ด อีกอย่างต่ำ 7 ตอน รวมเป็น 175 ตอน ตอนนึงใช้เวลาเล่นโดยเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง นี่ยังไม่นับรวมมินิเกมอีกนะ ถ้าหากทำลงคอนโซลแน่นอนคุณภาพของตัวเกม ไม่ว่าจะคัตซีน เกมเพลย์ต้องทำให้ได้คุณภาพมากกว่าตอนทำลงมือถือ ต้องมีเพิ่มพวกซับอีเวนท์ลงมาด้วย แล้วต้องยัดไอ้ทุกอย่างที่ว่ามานี่ลงในบลูเรย์เพียง1แผ่น ผมมองว่ามันไม่น่าเป็นไปได้เลยครับ เว้นแต่ว่าจะทำเป็นแบบFFXIVที่อัพเดทเนื้อหาตามช่วงเวลา ถึงพอเป็นไปได้ แต่ทำเป็นเกมแบบขายครั้งเดียวจบเลยนี่มองยังไงก็เป็นไปไม่ได้


ก็คงต้องลดสเกลของเนื้อเรื่องลงแหละครับ จะฝืนทำเยอะๆ ยัดทุกอย่างมาแล้วมันไม่ได้ก็ใช่ที่
ฝืนทำเนื้อหาเยอะลงมือถือก็อายุสั้นอีก สู้ตัดคัดเอาเหลือส่วนที่ดีๆไว้จริงๆแล้วเอามาทำเป็นเกมคอนโซลดีกว่าครับ
ผมว่าการตัดโน่นตัดนี่มันจะทำให้ตัวละครโดนลดความสำคัญลงนะครับ อีกอย่างถ้าหากต้องมาตัดเนื้อหาเอาเฉพาะส่วนที่สำคัญจริงๆเพื่อให้ลงคอนโซลได้ มันก็ยืนยันแล้วล่ะว่าเนื้อหาแบบนี้มันไม่เหมาะจะทำเป็นเกมคอนโซลนะ
ก็ตามที่ผมบอกอ่ะ ความจุไม่เป็นปัญหาอยู่ละนี่ อัพเดทเป็นแพทเพิ่มเอาทีหลังก็ได้ คือถ้าบอกลงมือถือได้แต่ลงเครื่องที่ความจุเยอะกว่าไม่ได้นี่แปลกละ
MyMarou wrote:
ก็ตามที่ผมบอกอ่ะ ความจุไม่เป็นปัญหาอยู่ละนี่ อัพเดทเป็นแพทเพิ่มเอาทีหลังก็ได้ คือถ้าบอกลงมือถือได้แต่ลงเครื่องที่ความจุเยอะกว่าไม่ได้นี่แปลกละ


ถ้าขายเป็นแผ่นบลูเรย์แผ่นนึงแล้วเกมมันไม่จบ ต้องอัพเดทเนื้อหาเพิ่มเรื่อยๆ ซักอย่างต่ำ 8 รอบ เพื่อให้ได้เกมที่จบสมบูรณ์ ซึ่งแพทช์ที่ว่านั่นต้องซื้อเพิ่มเอาทีหลังด้วย ผมว่าลูกค้าไม่น่าจะยอมเรื่องการขายแบบนั้นนะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความจุอะครับ ปัญหาคือเนื้อหามันเยอะจนขายครั้งเดียวไม่ได้มากกว่า
ก็ค่อย ๆ ขายก็ได้ครับ อย่างดร้าก้อนเควสต์ X ที่กำลังจะลงคอนโซล ก็ยัดมาแค่ 2 แชปเตอร์เอง ซึ่งในออนไลน์ตอนนี้ไปแชปเตอร์ 6 แล้ว

เพียงแต่มันน่าเสียดายมากกว่าตรงที่ เกมมันควรจะเล่นได้ทุกยุคทุกสมัย กลับกลายเป็นพอทำแบบนี้ก็เท่ากับ เกมนี้เหมือนหายไปจากโลกไปเลย ไม่มีค่าเลยที่ทำมา จะหาข้อมูล ก็ดูได้แค่ยูทูป ซึ่งเอาตรง ๆ ไม่ดีเลย ครั้นจะให้คนเอามาเปิดเซิฟเถื่อนก็กะไรอยู่ เกมไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก

แค่คิดแล้วมันน่าเสียดาย งานศิลป์ ดีไซน์ ระบบ อย่างน้อยมาสามารถเก็บไว้ศึกษาดูภายหลังก็ได้ ขายได้เรื่อย ๆ ลดราคาตามเทศกาล ดีกว่าเป็นแบบนี้ คือเกมบางเกมมองจากนอกโลกก็รู้แล้วว่า ปิดเซิร์ฟก็คือไปต่อประเทศอื่นไม่ได้แล้ว ขายประเทศไหนก็ไม่มีพับลิชเชอร์ซื้อไปเปิดแล้ว ก็เท่ากับว่าหายสาบสูญ
shinjikaoru wrote:
MyMarou wrote:
ก็ตามที่ผมบอกอ่ะ ความจุไม่เป็นปัญหาอยู่ละนี่ อัพเดทเป็นแพทเพิ่มเอาทีหลังก็ได้ คือถ้าบอกลงมือถือได้แต่ลงเครื่องที่ความจุเยอะกว่าไม่ได้นี่แปลกละ


ถ้าขายเป็นแผ่นบลูเรย์แผ่นนึงแล้วเกมมันไม่จบ ต้องอัพเดทเนื้อหาเพิ่มเรื่อยๆ ซักอย่างต่ำ 8 รอบ เพื่อให้ได้เกมที่จบสมบูรณ์ ซึ่งแพทช์ที่ว่านั่นต้องซื้อเพิ่มเอาทีหลังด้วย ผมว่าลูกค้าไม่น่าจะยอมเรื่องการขายแบบนั้นนะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความจุอะครับ ปัญหาคือเนื้อหามันเยอะจนขายครั้งเดียวไม่ได้มากกว่า


ผมว่าคุณคิดไปเองเป็นตุเป็นตะแล้วอะ ทั้งที่มันยังไม่เกิดขึ้นจริงเลย เอาแพทมาขายทีหลังก็คือ DLC ถ้ามันดีจริงอย่างที่คุณว่าคงมีคนซื้อแหละครับ

ตามนิสัยบันแหนมไม่มีฟรีหรอก แต่ถ้าเป็น DLC มันถูกว่าเติมกาชาแน่นอนอะ จะมาบอกไม่ควรลงเครื่องอื่นเพราะขายครั้งเดียวไม่ได้นี่ผมว่าแปลกละ

ถ้าอยากจะทำก็ทำได้แหละ ยกเว้นยาวเกิน แค่อาจจะสมูธน้อยกว่าตอนมือถือ แต่ต้องตัดจบให้ได้ climax ก็อาจจะยากหน่อย
ภาคฝั่งจักรวรรดิ episode 1 2 3
ภาคฝั่งสหพันธ์ episode 1 2 3
แล้วก็ขายบทสุดท้ายไป

ถ้ายอดขายไม่ดีก็โดนตัดจบอยู่ดี ตัวอย่างก็มีแล้วแบบ Xenosaga
ผมคิดว่าสู้ไปยกเครื่องระบบใหม่ให้มันดี ๆ ไปเลย ใช้ระบบต่อสู้แบบLMBS แล้วทำเป็นเกมมือถือแบบThe Rays น่าจะดูน่าสนใจกว่า เพราะทรัพยากรในเกมนี้มันดีอยู่แล้วครับ มันมาเสียตรงระบบเกมมันไม่ค่อยมีคอนเทนท์อะไรให้เล่นนอกจากเนื้อเรื่องกับการเล่นมัลติเพลย์เยอร์มากกว่า ระบบต่อสู้เก่าก็ใช่ว่าไม่ดีนะ เพราะมันทำให้พาร์ทเดินทางกับพาร์ทคอมแบทรวมกันเป็นเนื้อเดียว แถมเรายังได้ยินเนื้อหาในเกมจากคำพูดของตัวละครระหว่างเราเล่นไปด้วยได้ ถ้าหากเปลี่ยนระบบเป็นแบบLMBSแบบใน The Rays แล้วเสน่ห์ตรงนั้นมันหายไปผมว่ามันก็น่าเสียดาย เพราะระบบนี้แทนระบบสคิทได้เลย เพราะเราไม่ต้องมากดนั่งฟังที่ตัวละครพูดทีละเรื่องๆ แต่เราเล่นไปด้วยได้ยินที่ตัวละครพูดไปด้วยได้เลยมันเลยฉับไวยิ่งขึ้นมาก

แต่ผมเข้าใจนะว่าถ้าทำเป็นเกมคอนโซลแล้วหากเกมมันหมดช่วงพีคไปแล้วมันเหลือให้คนได้กลับมาเล่นได้บ้าง ความรู้สึกนี้เข้าใจดีและแหละ แค่คิดว่าตัวเองจะไม่ได้ฟังเพลงเปิดเพลงปิดของเกมนี้แล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาแนะนำตอนใหม่แล้วมันทำให้ปวดใจนะ
ผมเข้าใจนะว่า การเสนอเนื้อเรื่องเกมนี้ + จุดเด่นๆ มันทำมาเหมาะกับการเป็นเกมมือถือจิงๆ

แต่สุดท้ายเกมมือถือมันก็ไปไม่รอด น่าจะเอามาปรับใหม่ทำลงคอนโซลแล้วเน้นเนื้อเรื่องหลักๆไปเลยดีกว่า

และเอาจิงๆ ถ้าเอามาทำใหม่แบบเกนชินหรือ Tales of the Ray ผมว่าสุดท้ายยังไงก็ไม่รอด

ซีรี่ส์ Tales of ปั้นเป็นเกมมือถือขายทั่วโลกยังไงก็ไม่ไหว และถ้าจะหวังยอดเติมเงินจากนอกเกาะ JP ผมว่าแฟน Tales of ขาจรเค้าก็ไม่สนใจเกมมือถือ + มาเติมเงินกาชาอะไรแบบนี้หรอก

ผมแฟน Tales ภาคหลัก มาเล่นกาชาภาค Links, Crestoria และ Luminaria ก็ยังไม่เติมเงินให้เลย เพราะไม่ชอบระบบกาชาอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ที่ไม่รอดเพราะตัวเกมมันไม่สนุก ผมพยายามลองเล่นละครั้งแรก รุ้สึกเหนื่อย เลยลบทิ้ง

ผ่านไปหลายเดือน โหลดมาลองอีกครั้งก็ยัง ไม่สนุก ผมว่าดีไซน์ระบบต่อสู้หลักพลาดตั้งแต่เริ่มแล้ว ต่อให้ art สวยก็ไม่รอด
View all 1 comments >
ก็ไม่แน่ใจว่าคุณเล่นเกมนี้ด้วยตัวอะไรไปบ้าง แต่ถ้าเล่นEPของเลโอแล้วไม่สนุกก็อยากให้ลองเล่นให้จบEPของเลโอดูก่อนครับ พอเล่นบทแรกของเลโอจบแล้ว EPแรกของทุกคนจะปลดล็อคทันที ที่ผมรู้สึกเล่นแล้วสนุกคือ เซเรีย ออกุส บัสเตียน อนามาเรีย ริดี้ พวกที่ว่ามานี่มีวิธีการเล่นที่ต่างกันหมดเลยครับ จะลองไปเล่นที่ห้องเทรนนิ่งดูก่อนก็ได้ แต่ถ้าเล่นในEPของเจ้าตัวมันจะสอนวิธีเล่นให้ตรงนั้นเลย เอาจริงๆก็อยากให้ลองให้ครบ21คนเลยอะนะ เพราะตอนที่เริ่มชินกับเกมแล้วจะรู้สึกว่าเล่นคนไหนก็สนุก บางทีอาจเป็นเพราะว่าผมสนุกกะเนื้อเรื่องของมันมากกว่าก็ได้ ระบบมันทำมาให้สนุกกับเนื้อเรื่องได้ง่ายอยู่แล้วด้วย
ถ้าภาคนี้เนื้อหาดีก็คิดว่าผิดตั้งแต่แรกแล้ว ตัวเกมถ้าไม่สนุกจริงๆจนทำให้แฟนๆเปลี่ยนจาก Rays หรือเล่นทั้ง Rays ทั้งภาคนี้คนก็จะเล่นภาคเดิมดีกว่า tales มันก็มีสองภาคอยู่แล้ว อย่าง chain chronicle กับภาคใหม่ Sin ก็เกิดปัญหาเหมือนกันภาค Sin มันไม่สนุกเท่ามาเก่าคนก็เล่นภาคเก่าดีกว่า
ภาคต่อไปถ้าบันแหนมยังจะดันคิดว่าควรต้องเป็นแนวแบบ Single player rpg เน้นเล่นคนเดียวค่อยๆปล่อยเนื้อหาเสพไปเรื่อยๆจะไปรุ่ง ร่วมมือกับ WFS ก็น่าจะดี อย่าง another eden รวมถึง เกมแนวนี้ล่าสุดอย่าง heaven burns red ก็ประสบความสำเร็จสุดๆ อย่างก่อนหน้านี้เกมบันแหนมอย่างสไลม์เกิดใหม่ที่ร่วมมือกับ WFS ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเหมือนกัน
เอาจริงๆ มันไม่ควรมีเกมจากซี่รี่เดียวกันเปิดอยู่หลายๆเกม เพราะมันแย้งผู้เล่นกันเอง
เกมมือถือทำมาดูดเวลาคนเล่น แถมคนคนนึงเปย์เกมมือถือได้แค่1-2เกม น้อยนักที่จะเปย์ทุกเกมที่เล่น
แล้วพอมันเป็นเกมจากซี่รี่เดียวกัน มันก็แย้งผู้เล่นกันเอง แย้งรายได้จากเกมของตัวเองอีก
ของผมนี่จาก Trailer แรก คหสต นี่คือตัวละครดีไซน์จืดมาก เนื้อเรื่องก็เปิดตัวแบบ"ความยุติธรรมของนายมันคืออะไร" ที่เห็นมานับต่อนับแล้ว ภาพก็งั้นๆ
จากใจคนเล่นภาคมือถือมาทุกภาค Luminaria คือผมไม่คิดจะเล่นเลยนะนั้น (ปัจจุบันผมยังจิ้ม Asteria อยู่เลย เนื้อเรื่องสนุกถึง Filler จะโคตรเยอะก็ตาม)



ตอนหลังโหลดมาลอง พอได้ยินมาว่าเนื้อเรื่อง OK อยู่ แต่พอลองจริงๆระบบสู้ไม่ผ่าน ส่วนเนื้อเรื่อง No Comment เล่นไปได้ไม่ไกล
เกมเพลย์กับตัวละครมันแบกผมไปถึงจุดดีๆไม่ไหว แต่ BGM นี่รู้สึกว่าทำออกมาค่อนข้างดี (เอาไปใส่ Rays ก็ได้นะนั้น...อันนั้นเพลงประกอบมีอยู่ไม่กี่อัน)
View all 1 comments >
เนื้อเรื่องAsteriaจัดว่าสนุกกว่า The Raysอยู่พอสมควรนะ เนื้อเรื่องAsteria นี่แฟนเซอร์วิสค่อนข้างเยอะ เช่นเอาคานอนโนะไปเป็นตัวร้ายบ้าง เอาตัวละครเอกไปย้อมดำเล่นบ้าง นึกอะไรไม่ออกก็เอาตัวละครไปย้อมดำ คือชุดมันก็เท่ดีอะนะ เลยออกจะชอบตอนเนื้อเรื่องบทสี่ที่ดีไซน์ชุดตัวร้ายสามคนใหม่หมดเลย แต่อีบทล่าสุดนี่ก็ไม่รู้ทำไมไม่ยอมจบสักที เริ่มเบื่อหน้าลุดก้า จะได้มีโอกาสเห็นอัลเฟนมาเป็นตัวเอกในเกมนี้กะเค้าสักที

พูดถึงเดอะเรย์ เกมมันสนุกนะ แต่เนื้อเรื่องนี่ยิ่งเล่นยิ่งจะหลับ เพราะศัพท์แสงในเกมมันเยอะมาก และเข้าใจยากด้วย ขนาดผมอ่านยุ่นออกยังตามเรื่องไม่ค่อยทัน ขอดีคือเกมมันพยายามแก้กรรมให้ตัวละครในภาคเก่าดี อย่างเฮลดัฟนี่คือจุดลงตัวคือดีมาก ผมว่าดีกว่าบทสรุปในเวอร์ชั่นอนิเมะอีก พล็อตหลักของเรื่องนี่คือตามไม่ทันจริงๆ เพราะการเล่าเรื่องหรือการอธิบายเซ็ตติ้งมันออกนามธรรมเกินไปจนเข้าใจยาก คือพอเข้าใจเป้าหมายหลักของตัวเอกกะตัวร้ายนะ แต่รายละเอียดปลีกย่อยที่นำไปสู่เหตุการณ์ในเกมนี่เข้าใจยากมาก พอต้องมานั่งอ่านทีละบรรทัดนี่คือหลับไปเลย หลับคามือถือเลย

ส่วนLuminaria เนื้อเรื่องเข้าใจง่ายครับ แค่เข้าใจคำว่า เอมบริโอ รีแอคเตอร์ อสูรต้นกำเนิด สหพันธ์ จักรวรรดิ แค่นั้นก็ตามเรื่องทันแล้ว ส่วนที่ชอบในเกมนี้คือมันไม่ได้เดินเรื่องเป็นเส้นตรงครับ เวลาEPใหม่ออกมาเราต้องมานั่งปติปต่อเอาเองว่าเหตุการณ์นี้เกิดตอนไหน EPของใครเกิดก่อนเกิดหลัง แล้วตัวละครดำเนินเรื่องมีถึง21คน แต่เขาใช้เวลาแค่คนละตอนปูพื้นตัวละครได้เต็มที่มาก จนรู้หมดเลยตัวไหนชื่ออะไรหน้าตาเป็นไงนิสัยยังไง ที่ทำให้น่าสนใจไปกว่านั้นคือทุกคนในเรื่องนี้มีปริศนาครับ ใน21คนนี้ไม่มีใครเลยที่มันไม่มีนอกมีใน ทุกคนต่างมีความลับมีเรื่องอมพะนำเอาไว้ทุกคน ซึ่งมันเป็นส่วนที่ทำให้เรื่องน่าติดตาม

พาร์ทที่ผมว่าสนุกที่สุดคือพาร์ทนักผจญภัยเพราะเป็นพาร์ทที่ตัวละครในตี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งฝั่งสหพันธ์กับฝั่งจักรวรรดิ เป็นการเดินทางของคน5คนเพื่อตามสืบเรื่องอสูรต้นกำหนดเพื่อพิสูจน์ว่าโลกนี้กำลังจะแตกจริงหรือไม่ ซึ่งพอ5คนนี้อยู่ด้วยกันนี่ความเป็นเทลส์ที่เราคุ้นเคยนี่มันจัดเต็มมากครับ 5คนนี้มันคือคณะตลกดีๆนี่เอง แต่ก็เป็นศูนย์รวมของความฉิบหายวายป่วงเหมือนกัน เพราะคนนึงเป็นเจ้าชายจากอาณาจักรที่ถูกจักรวรรดิยึดครอง เจ้าหญิงที่เป็นลูกของราชาองค์ก่อนที่ถูกลอบปลงพระชนม์และกำลังโดนประเทศแม่ของตัวเองไล่ล่า เด็กสาวอัจฉริยะที่สร้างรีแอคเตอร์ได้ด้วยตัวเองแต่โดนพ่อแท้ๆหาว่าเป็นตัวหายนะ คนรับใช้ของเจ้าหญิงที่ไม่น่าใช่คนเพราะสามารถแทรกแซงอสูรต้นกำเนิดได้ และตาลุงนักโบราณคดีวัย31ที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายแต่กลับมีความสามารถรอบด้านจนเกินขอบเขตอาชีพ
แล้วพอไปเล่นluminariaแล้วกลับมาเล่นเนื้อเรื่องของอีก2เกม เล่นแล้วจะหลับให้ได้ทั้งสองเกมเลย