บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
[email protected] หรือ
[email protected]
ไวไปมั้ยพี่ Tales of Luminaria (テイルズ オブ ルミナリア) เตรียมปิดให้บริการแล้ว
banktoom at 2022-05-10 16:08:05 , Reads (13207), Comments (69) , Source :
ปิด 20 กรกฎาคมนี้ จำได้ว่าเพิ่งเปิดไม่ใช่หรอ
เครดิต dengekionline
ยังมีอีกคือ เกมมีการปรับสมดุลตัวละครอยู่เรื่อยๆครับ อย่างตัวละครที่สมดุลไม่ค่อยดีเล่นยาก ใช้งานไม่ค่อยได้เขาก็ปรับให้มันเล่นได้ง่ายขึ้น เช่น ราอูล ที่จากเดิมได้แค่ตีธรรมดากว้างแต่ท่าตีพิเศษเป็นท่าควงหอกโง่ๆที่ทำซากอะไรไม่ได้ ตอนนี้เปลี่ยนยกเครื่องใหม่เพิ่มท่าควงหอกจากด้านบนเพื่อทำแดแมจรอบตัว หรือควงหอกด้านสร้างเป็นโล่กันการโจมตีให้คนทางด้านหลังได้ด้วย จากเดิมทีราอูลเป็นตัวละครจืดๆทั่วไปพอปรับใหม่มันเหมือนเกิดใหม่เลย ส่วนคนอื่นก็มีปรับสมดุลเหมือนกัน เช่น กันการโจมตีได้ดีขึ้น ปรับเป็นไม่ชะงักเมื่อถูกโจมตีตอนอยู่ในสภาวะต่างๆ
นอกจากนี้ตอนเล่นเนื้อเรื่อง ระหว่างที่เล่นไปตัวละครมันจะคุยกันไปตลอดทางเลยครับ คนฟังญี่ปุ่นออกนี่จะฟินมาก หายากนะจะเจอเกมมือถือที่ตัวละครมันคุยกันแบบนอนสต็อประหว่างที่เราเล่นเกมเพลย์อยู่แบบนี้ ชนิดที่ว่าเราสู้เสร็จแล้วมันยังคุยกันไม่จบก็มี ซึ่งบางทีก็เป็นข้อเสียเหมือนกัน
นอกจากนี้เล่นเนื้อเรื่องไปเราจะเจอมินิเกมมาให้เล่นด้วย คือไอ้มินิเกมนี่มันมาแบบคาดไม่ถึงจริง ๆ ที่เจอก็มีมินิเกมขี่ม้า มินิเกมยิงเป้า มินิเกมเต้น ไอ้มินิเกมเต้นนี่สนุกมากแนะนำเลย เล่นเอาเสียดายเลยที่จะไม่ได้เห็นพวกเอ็ดไปเต้นในEP3ของตัวเอง อยากให้ทำมินิเกมอันนี้แบบให้เราสามารถจับคู่ให้ตัวละครได้จังเลยมันต้องฟินสุดๆเป็นแน่
พูดถึงข้อเสียแล้วก็คือ ถึงจะปรับปุ่มให้บังคับง่ายขึ้นแล้วแต่เนื่องจากมันเป็นเกมแนวตั้ง เลยทำให้มุมกล้องยังมีปัญหาอยู่เหมือนเดิม บ่อยครั้งที่เรามักจะโดนโจมตีจากมุมอับที่มองไม่เห็น ถ้าเล่นเนื้อเรื่องอย่างเดียวก็ไม่เป็นปัญหาหรอก แต่ถ้าเล่นซีเคร็ทมิชชั่นมันจะทำให้หัวร้อนได้เลยเพราะมันต้องแข่งกับเวลา นี่ยังไม่นับรวมว่ามันทำให้เราคลาดสายตายจากมอนได้ง่ายมากด้วยนะ อีกเรื่องนึงคือเกมนี้เรามักจะเจอฉากการเล่นที่ค่อนข้างหลากหลายมันก็ทำให้เกมไม่น่าเบื่อดี แต่บางทีก็รู้สึกว่าทำเกินไปหน่อย อย่างเช่น เล่นโหมดเนื้อเรื่องมันจะเป็นอะไรทำนองว่าให้เราเดินจากจุดAไปจุดB แต่พอวิ่งไปถึงจุดๆนึงเกมกลับบังคับให้เราเดินซะงั้น แล้วเดินช้าเป็นเต่าเลย อีกอันนึงคือตอนเจอฉากทะเลทรายเกมก็บังคับให้เราเดิมไต่ข้ามเนินทรายไปทีละเนิน คือทำแบบนี้มันทำให้เกมอืดอาดยืดยาดโดยไม่จำเป็น แต่ก็ยังดีที่หลังจบบทที่ฉากที่ว่านั่นแล้ว อะไรที่มันบังคับเราเดินก็ไม่มีอีกเลย
เล่นเกมนี้แล้วรู้สึกรักอุนเอย์ขึ้นมาเลยนะ เพราะการอัพเดทแกไขตัวเกมของเขามันเห็นเป็นรูปธรรมดีมาก ตัวละครที่คนบอกว่าเล่นก็แก้ให้มันเก่งขึ้น มีท่าให้ใช้มากขึ้น อะไรที่คนบ่นกันหลังจากนั้นก็ไม่ทำอีกเลย(ถึงมันจะไม่แก้เรื่องทำเกมฝั่งจักรวรรดิเป็นเกมมุโซก็ตาม)
แต่พูดถึง Raid Gemslays บอสงูเดือนเมษายน ผมว่าเป็นบอสที่แย่เกินไป Moveset โดยรวมมันทำร้ายตัวละครสาย Melee เกิน ส่วนตัวตีไกลก็สบายเช่นเคย แค่อาจจะเสียเวลานิดหน่อย
ส่วนบอสเดือนนี้ เจอลูเซี่ยน 2 คนก็ชนะสบายแล้ว
ไม่มีใครไว้ใจว่าจะเปิดได้นาน
บันแหนมก็ออกแนวเหวี่ยงแหไปเรื่อย
รอเครสโตเรียf กับ ลูมินาเรียfละกัน
สองภาคนี้น่าทำลงคอนโซลมากกว่า
แบบซีรี่ส์คิเซคิ ล่อต่อยาวตั้งแต่โซระ เรย์ อาโอะ เซ็น บลาๆ
แต่ยาวเกิน คนก็เทกันเยอะ 18 ปีไม่มูฟออน ต่อให้นับจากเซ็นก็ล่อไป 9 ปีแล้ว
ไม่แน่ใจ คุ้นๆว่าเกมมันไม่ให้โปรแกรมอีมูเล่นด้วย จริงๆควรอนุญาตได้แล้วนะ อย่างอาร์คไนท์กดลิงค์ออฟฟิเชี่ยลไป nox ให้เลย ยิ่งเกมที่อยากได้ภาพสวยๆแล้วไม่ทำเวอชั่นคอม ปรับให้ใช้จอยได้ยิ่งดีพวกเกมแอคชั่น
บันแหนมจะได้เป็นบทเรียนรึเปล่าก็ไม่รู้
ทำ world ของตัวเองแบบเกมเกาหลี
ก็คงต้องลดสเกลของเนื้อเรื่องลงแหละครับ จะฝืนทำเยอะๆ ยัดทุกอย่างมาแล้วมันไม่ได้ก็ใช่ที่
ฝืนทำเนื้อหาเยอะลงมือถือก็อายุสั้นอีก สู้ตัดคัดเอาเหลือส่วนที่ดีๆไว้จริงๆแล้วเอามาทำเป็นเกมคอนโซลดีกว่าครับ
ถ้าขายเป็นแผ่นบลูเรย์แผ่นนึงแล้วเกมมันไม่จบ ต้องอัพเดทเนื้อหาเพิ่มเรื่อยๆ ซักอย่างต่ำ 8 รอบ เพื่อให้ได้เกมที่จบสมบูรณ์ ซึ่งแพทช์ที่ว่านั่นต้องซื้อเพิ่มเอาทีหลังด้วย ผมว่าลูกค้าไม่น่าจะยอมเรื่องการขายแบบนั้นนะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความจุอะครับ ปัญหาคือเนื้อหามันเยอะจนขายครั้งเดียวไม่ได้มากกว่า
เพียงแต่มันน่าเสียดายมากกว่าตรงที่ เกมมันควรจะเล่นได้ทุกยุคทุกสมัย กลับกลายเป็นพอทำแบบนี้ก็เท่ากับ เกมนี้เหมือนหายไปจากโลกไปเลย ไม่มีค่าเลยที่ทำมา จะหาข้อมูล ก็ดูได้แค่ยูทูป ซึ่งเอาตรง ๆ ไม่ดีเลย ครั้นจะให้คนเอามาเปิดเซิฟเถื่อนก็กะไรอยู่ เกมไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก
แค่คิดแล้วมันน่าเสียดาย งานศิลป์ ดีไซน์ ระบบ อย่างน้อยมาสามารถเก็บไว้ศึกษาดูภายหลังก็ได้ ขายได้เรื่อย ๆ ลดราคาตามเทศกาล ดีกว่าเป็นแบบนี้ คือเกมบางเกมมองจากนอกโลกก็รู้แล้วว่า ปิดเซิร์ฟก็คือไปต่อประเทศอื่นไม่ได้แล้ว ขายประเทศไหนก็ไม่มีพับลิชเชอร์ซื้อไปเปิดแล้ว ก็เท่ากับว่าหายสาบสูญ
ถ้าขายเป็นแผ่นบลูเรย์แผ่นนึงแล้วเกมมันไม่จบ ต้องอัพเดทเนื้อหาเพิ่มเรื่อยๆ ซักอย่างต่ำ 8 รอบ เพื่อให้ได้เกมที่จบสมบูรณ์ ซึ่งแพทช์ที่ว่านั่นต้องซื้อเพิ่มเอาทีหลังด้วย ผมว่าลูกค้าไม่น่าจะยอมเรื่องการขายแบบนั้นนะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความจุอะครับ ปัญหาคือเนื้อหามันเยอะจนขายครั้งเดียวไม่ได้มากกว่า
ผมว่าคุณคิดไปเองเป็นตุเป็นตะแล้วอะ ทั้งที่มันยังไม่เกิดขึ้นจริงเลย เอาแพทมาขายทีหลังก็คือ DLC ถ้ามันดีจริงอย่างที่คุณว่าคงมีคนซื้อแหละครับ
ตามนิสัยบันแหนมไม่มีฟรีหรอก แต่ถ้าเป็น DLC มันถูกว่าเติมกาชาแน่นอนอะ จะมาบอกไม่ควรลงเครื่องอื่นเพราะขายครั้งเดียวไม่ได้นี่ผมว่าแปลกละ
ภาคฝั่งจักรวรรดิ episode 1 2 3
ภาคฝั่งสหพันธ์ episode 1 2 3
แล้วก็ขายบทสุดท้ายไป
ถ้ายอดขายไม่ดีก็โดนตัดจบอยู่ดี ตัวอย่างก็มีแล้วแบบ Xenosaga
แต่ผมเข้าใจนะว่าถ้าทำเป็นเกมคอนโซลแล้วหากเกมมันหมดช่วงพีคไปแล้วมันเหลือให้คนได้กลับมาเล่นได้บ้าง ความรู้สึกนี้เข้าใจดีและแหละ แค่คิดว่าตัวเองจะไม่ได้ฟังเพลงเปิดเพลงปิดของเกมนี้แล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาแนะนำตอนใหม่แล้วมันทำให้ปวดใจนะ
แต่สุดท้ายเกมมือถือมันก็ไปไม่รอด น่าจะเอามาปรับใหม่ทำลงคอนโซลแล้วเน้นเนื้อเรื่องหลักๆไปเลยดีกว่า
และเอาจิงๆ ถ้าเอามาทำใหม่แบบเกนชินหรือ Tales of the Ray ผมว่าสุดท้ายยังไงก็ไม่รอด
ซีรี่ส์ Tales of ปั้นเป็นเกมมือถือขายทั่วโลกยังไงก็ไม่ไหว และถ้าจะหวังยอดเติมเงินจากนอกเกาะ JP ผมว่าแฟน Tales of ขาจรเค้าก็ไม่สนใจเกมมือถือ + มาเติมเงินกาชาอะไรแบบนี้หรอก
ผมแฟน Tales ภาคหลัก มาเล่นกาชาภาค Links, Crestoria และ Luminaria ก็ยังไม่เติมเงินให้เลย เพราะไม่ชอบระบบกาชาอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ผ่านไปหลายเดือน โหลดมาลองอีกครั้งก็ยัง ไม่สนุก ผมว่าดีไซน์ระบบต่อสู้หลักพลาดตั้งแต่เริ่มแล้ว ต่อให้ art สวยก็ไม่รอด
ภาคต่อไปถ้าบันแหนมยังจะดันคิดว่าควรต้องเป็นแนวแบบ Single player rpg เน้นเล่นคนเดียวค่อยๆปล่อยเนื้อหาเสพไปเรื่อยๆจะไปรุ่ง ร่วมมือกับ WFS ก็น่าจะดี อย่าง another eden รวมถึง เกมแนวนี้ล่าสุดอย่าง heaven burns red ก็ประสบความสำเร็จสุดๆ อย่างก่อนหน้านี้เกมบันแหนมอย่างสไลม์เกิดใหม่ที่ร่วมมือกับ WFS ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเหมือนกัน
เกมมือถือทำมาดูดเวลาคนเล่น แถมคนคนนึงเปย์เกมมือถือได้แค่1-2เกม น้อยนักที่จะเปย์ทุกเกมที่เล่น
แล้วพอมันเป็นเกมจากซี่รี่เดียวกัน มันก็แย้งผู้เล่นกันเอง แย้งรายได้จากเกมของตัวเองอีก
จากใจคนเล่นภาคมือถือมาทุกภาค Luminaria คือผมไม่คิดจะเล่นเลยนะนั้น (ปัจจุบันผมยังจิ้ม Asteria อยู่เลย เนื้อเรื่องสนุกถึง Filler จะโคตรเยอะก็ตาม)
ตอนหลังโหลดมาลอง พอได้ยินมาว่าเนื้อเรื่อง OK อยู่ แต่พอลองจริงๆระบบสู้ไม่ผ่าน ส่วนเนื้อเรื่อง No Comment เล่นไปได้ไม่ไกล
เกมเพลย์กับตัวละครมันแบกผมไปถึงจุดดีๆไม่ไหว แต่ BGM นี่รู้สึกว่าทำออกมาค่อนข้างดี (เอาไปใส่ Rays ก็ได้นะนั้น...อันนั้นเพลงประกอบมีอยู่ไม่กี่อัน)
พูดถึงเดอะเรย์ เกมมันสนุกนะ แต่เนื้อเรื่องนี่ยิ่งเล่นยิ่งจะหลับ เพราะศัพท์แสงในเกมมันเยอะมาก และเข้าใจยากด้วย ขนาดผมอ่านยุ่นออกยังตามเรื่องไม่ค่อยทัน ขอดีคือเกมมันพยายามแก้กรรมให้ตัวละครในภาคเก่าดี อย่างเฮลดัฟนี่คือจุดลงตัวคือดีมาก ผมว่าดีกว่าบทสรุปในเวอร์ชั่นอนิเมะอีก พล็อตหลักของเรื่องนี่คือตามไม่ทันจริงๆ เพราะการเล่าเรื่องหรือการอธิบายเซ็ตติ้งมันออกนามธรรมเกินไปจนเข้าใจยาก คือพอเข้าใจเป้าหมายหลักของตัวเอกกะตัวร้ายนะ แต่รายละเอียดปลีกย่อยที่นำไปสู่เหตุการณ์ในเกมนี่เข้าใจยากมาก พอต้องมานั่งอ่านทีละบรรทัดนี่คือหลับไปเลย หลับคามือถือเลย
ส่วนLuminaria เนื้อเรื่องเข้าใจง่ายครับ แค่เข้าใจคำว่า เอมบริโอ รีแอคเตอร์ อสูรต้นกำเนิด สหพันธ์ จักรวรรดิ แค่นั้นก็ตามเรื่องทันแล้ว ส่วนที่ชอบในเกมนี้คือมันไม่ได้เดินเรื่องเป็นเส้นตรงครับ เวลาEPใหม่ออกมาเราต้องมานั่งปติปต่อเอาเองว่าเหตุการณ์นี้เกิดตอนไหน EPของใครเกิดก่อนเกิดหลัง แล้วตัวละครดำเนินเรื่องมีถึง21คน แต่เขาใช้เวลาแค่คนละตอนปูพื้นตัวละครได้เต็มที่มาก จนรู้หมดเลยตัวไหนชื่ออะไรหน้าตาเป็นไงนิสัยยังไง ที่ทำให้น่าสนใจไปกว่านั้นคือทุกคนในเรื่องนี้มีปริศนาครับ ใน21คนนี้ไม่มีใครเลยที่มันไม่มีนอกมีใน ทุกคนต่างมีความลับมีเรื่องอมพะนำเอาไว้ทุกคน ซึ่งมันเป็นส่วนที่ทำให้เรื่องน่าติดตาม
พาร์ทที่ผมว่าสนุกที่สุดคือพาร์ทนักผจญภัยเพราะเป็นพาร์ทที่ตัวละครในตี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งฝั่งสหพันธ์กับฝั่งจักรวรรดิ เป็นการเดินทางของคน5คนเพื่อตามสืบเรื่องอสูรต้นกำหนดเพื่อพิสูจน์ว่าโลกนี้กำลังจะแตกจริงหรือไม่ ซึ่งพอ5คนนี้อยู่ด้วยกันนี่ความเป็นเทลส์ที่เราคุ้นเคยนี่มันจัดเต็มมากครับ 5คนนี้มันคือคณะตลกดีๆนี่เอง แต่ก็เป็นศูนย์รวมของความฉิบหายวายป่วงเหมือนกัน เพราะคนนึงเป็นเจ้าชายจากอาณาจักรที่ถูกจักรวรรดิยึดครอง เจ้าหญิงที่เป็นลูกของราชาองค์ก่อนที่ถูกลอบปลงพระชนม์และกำลังโดนประเทศแม่ของตัวเองไล่ล่า เด็กสาวอัจฉริยะที่สร้างรีแอคเตอร์ได้ด้วยตัวเองแต่โดนพ่อแท้ๆหาว่าเป็นตัวหายนะ คนรับใช้ของเจ้าหญิงที่ไม่น่าใช่คนเพราะสามารถแทรกแซงอสูรต้นกำเนิดได้ และตาลุงนักโบราณคดีวัย31ที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายแต่กลับมีความสามารถรอบด้านจนเกินขอบเขตอาชีพ
แล้วพอไปเล่นluminariaแล้วกลับมาเล่นเนื้อเรื่องของอีก2เกม เล่นแล้วจะหลับให้ได้ทั้งสองเกมเลย