Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
)) The Kop (( เสียงเชียร์ และศรัทธา คุณคือส่วนหนึ่งของขุมกำลัง power up!!

Reply
Vote
# Tue 23 Jun 2009 : 10:26PM

Adtong
member

Since 17/11/2005
(6571 post)
The Kop: ที่มา ความหมาย และการเปลี่ยนแปลง

ไม่มีแฟนกีฬาฟุตบอล คนไหนไม่รู้จักคำว่า The Kop

Liverpool: Anfield Road





แต่...
The Kop ในความหมายของ แฟนฟุตบอลที่เชียร์ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ทั่วโลกในปัจจุบันนั้น
มันมีที่มา ที่ไป อย่างไร...

น่าสนใจ ใช่น้อยนะครับ...

ในกระทู้ห้องศุภชลาศัย มีกระทู้ที่ตั้งเพื่อถามคำถามนี้มาหลายครั้ง
และ ทุกครั้งก็มี "ผู้รู้" เข้ามาช่วยตอบเสมอ

ในฐานะที่ ถือตนเอง ว่าเป็น The Kop คนหนึ่ง แบบที่ เงยหน้าไม่อายฟ้า และ ก้มหน้าไม่อายดิน
ผมเองก็ขอรวบรวม ความเห็นที่ สรุปความหมายของคำว่า The Kop นี้ไว้ใน Blog นี้นะครับ

===============================


------------ ที่มา ของคำว่า The Kop ------------

"The Kop"
เมื่อ ลิเวอร์พูลเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น 1 ต้องพบกับมหาอำนาจลูกหนังของอังกฤษในยุคแรกไม่ว่าจะเป็น เปรสตัน,ฮัดเดอร์สฟิลด์,แบล็คเบิร์น และที่สำคัญคือ เอฟเวอร์ตันทีมร่วมเมืองในขณะนั้น โดยศึกดาร์แมตช์นัดแรกเกิดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค. 1894

ระหว่างทีมลิเวอร์พูลกับเอฟเวอร์ตันโดยลิเวอร์พูลออ กไปเยือน ปรากฏว่าลิเวอร์พูลแพ้ 3-0 ต่อหน้าแฟนบอลกว่า 40,000 คน และในการเจอกันที่แอนฟิลด์ทำได้แค่เสมอ 2-2

ในปีแรกของลิเวอร์พู ลในดิวิชั่น 1 จบฤดูกาลด้วยอันดับสุดท้ายของตาราง และต้องกลับไปเล่นในดิวิชั่น 2 แต่เพียงแค่ปีเดียวก็กลับขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น 1 อีกครั้ง

ภายใต้ การนำทีมของผู้จัดการทีมที่ชื่อ ทอม อัตสัน การกลับขึ้นมาครั้งนี้ลิเวอร์พูลอยู่ในดิวิชั่น 1 นานกว่าเดิม และยังประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 1900-1901 เป็นครั้งแรกอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามแฟนบอลของลิเวอร์พูลต้องดูทีม ของตนเองเล่นในดิวิชั่น 2 อีกครั้งในปี 1904 แต่ลิเวอร์พูลก็สามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาและคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 1 ได้อีกครั้งในฤดูกาล 1905-1906

ในช่วงนี้ฉายา The Kop ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อลิเวอร์พูลสร้างสนามใหม่ และตั้งชื่ออัฒจันทร์หลังประตู
ว่า สปิออน ค็อป โดยนักข่าวของหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูลเดลี่โพสต์ ที่มีชื่อว่า เออร์เนสต์ เอ็ดเวิร์ตส์ เป็นผู้เสนอชื่อนี้ขึ้นมา

สำหรับคำว่า "Spion Kop -- สปิออน ค็อป" เป็นชื่อของเนินเขาที่ นาทาล ในสงครามบัวร์ที่แอฟริกาใต้เมื่อปี 1900 แปลว่า "จุดที่ได้เปรียบ"

สงคราม ครั้งนั้นอังกฤษส่งทหารเข้าร่วม 300 นาย และได้เสียชีวิตเกินครึ่งหนึ่ง โดยส่วนมากจะเป็นทหารจากเมืองลิเวอร์พูล จึงตั้งชื่ออัฒจันทร์เพื่อเป็นเกียรติประวัติความกล้าหาญ

และใครที่ได้ไปดูการแข่งขันฟุตบอลบริเวณอัฒจันทน์นั้นจะเรียกตัวเองว่า "The Kop" จึงเป็นฉายาของลิเวอร์พูลมาจนถึงปัจจุบันนี้
(จน ในปัจจุบัน มีการอนุมานไปทั่งโลก ว่าแฟนลิเวอร์พูล ไม่ว่าส่วนใด ไม่เฉพาะแต่คนที่ไปนั่งในอัฒจันทร์นี้ ก็ถือว่าเป็น The Kop ไปหมดแล้ว...)



และนี่คือ สมรภูมิที่ว่านั้น


Spion Kop ราวปี 1950 ช่วงนั้นอัฒจันทร์ในอังกฤษจะเป็นตั๋วยืนเกือบทุกที่นั่ง ทำให้สนามจุคนได้เยอะ เมื่อเทียบกับปัจจุบัน เพราะยืนเบียดๆๆกัน แบบสนามกีฬาชนบทบ้านเรา

เฉพาะอัฒจันทร์ฝั่ง The Kop นี้
สามารถจุคนมายืนอัดกันได้ที่ 24,000 คนเลยทีเดียว

ด้วยการออกแบบที่มีหลังคาขนาดใหญ่คลุมเหนือฝั่งอัฒจันทร์ เอื้อต่อการสะท้อนเสียงให้ก้อง และกลุ่มผู้คนหลากหลาย ที่มาเชียร์ทีมด้วยใจ

ทำให้เสียงร้องที่ออกมาจากอัฒจันทร์ฝั่งนี้ มีเสียงที่ ดัง มากและเป็นที่กล่าวขวัญมากที่สุด

(จริงๆแล้ว หลายทีมในยุโรป ก็มีอัฒจันทร์ที่ใช้ชื่อ Kop แต่ ก็เป็นที่ยอมรับกันว่า
ชื่ออัฒจันทร์ The Kop ที่โด่งดังที่สุด นั้น ตั้งอยุ่ที่ไหน .. )

คุณ Pinch Me บอกว่า Kopites (ชื่อเรียก พวกกองเชียร์ทั้งหลาย ที่เชียร์บนอัฒจันทร์ฝั่ง The Kop) ของ Liverpool นอกจากจะเสียงดังที่สุดแล้วยังแต่งตัวดีที่สุดด้วย




==============================


------------ Last Day of The Kop ------------


แต่ เรื่องราวเกี่ยวกับ อัฒจันทร์ฝั่ง The Kop อันลือชื่อ ก็มีเรื่องราวในวันสุดท้ายของมัน

30 เมษายน 1994

สโมสรลิเวอร์พูล ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสนาม แอนฟิลด์ ครั้งใหญ่ ด้วยการตัดสินใจปรับอัฒจันทร์ฝั่ง เดอะ ค๊อป ให้มาเป็น แบบที่นั่งทั้งหมด

จากผลพวงของ เหตุการณ์ที่เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของสโมสรที่ สนามฮิลส์โบโร่ ในวันที่ 15 เมษายน 1989
ซึ่งเป็นเกมส์การแข่ง เอฟ เอ คัพ รอบรองชนะเลิศระหว่างหงส์แดงและ เจ้าป่า น๊อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

กองเชียร์ลิเวอร์พูลเหยียบกันตาย 96 ศพ
ด้วย สาเหตุง่ายๆ "ผู้คนเข้ามาในสนามมากเกินไป" (ตั๋วยืน ไม่มีการควบคุมจำนวนคนที่ดีพอ และแฟนบอล ทะลักเข้าไปมาก) จนมีการดันไป ดันมา บนอัฒจันทร์ ทำให้รั้วกั้นอัฒจันทร์กับส่วนสนามพังลงมา ทับคนตาย

ในวันแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้น ก่อนที่สนามจะถูกเปลี่ยนเป็นแบบนั่งทั้งหมด

แม้ว่าเกมวันนั้น กับสโมสร นอริช จะจบแล้ว แต่แฟนๆก็ไม่ยอมกลับบ้าน และนั่งอยู่ในอัฒจันทน์ ที่เขารักกันต่อด้วยความอาลัย

ตำรวจก็เข้าใจและไม่ได้พยายามจะไล่ให้กลับไปเพียงแต่กันให้อยู่ด้านหลังเท่านั้น

แต่
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลง และการสูญเสียเอกลักษณ์จากตั๋วยืน เป็นแบบ ที่นั่ง
แต่ คำว่าอัฒจันทร์ฝั่ง The Kop หรือ Spion Kop นี้ ก็ยังเป็นชื่อที่เรียกใช้กันอยู่
ใช้เรียกขานในอัฒจันทร์ฝั่งที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกต่อไป

---------------------------------------

นี่คือภาพสุดท้ายในวันนั้น (โดยคุณ Pinch Me)




รวมถึงบรรยากาศการเชียร์ ในสนามกว่า 45,000 คน อันสุดเร้าใจ ในวันสุดท้าย ของอัฒจันทร์เก่า






-----------------------------------------------

ภาพๆๆ นี้
คือภาพที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด และเป็นภาพตำนานของสโมสร ในวันสุดท้ายของอัฒจันทร์



================================

------------ The New Kop Stand ------------

จนมาถึงการเปลี่ยนแปลง และการก่อสร้าง
เพื่อเป็นอัฒจันทร์ที่มีที่นั่งทั้งหมด




เพื่อที่เสริมด้านความปลอดภัยของคนดูให้มากขึ้น ..



และได้กลายมาเป็น The Kop Stand ในปัจจุบัน...
ในรูปนี้ คือการแปรอักษร ตัวเลข 96 ที่ขนาบข้างด้วย เปลวไฟที่ไม่มีวันดับ Eternal Flame สองคบไฟ

ซึ่งก็คือ ตัวเลขและการรำลึกถึงของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่

ที่เป็น ต้นเหตุ แห่งการเปลี่ยนแปลงของอัฒจันทร์ฝั่ง The Kop และ รวมไปถึงสนามแห่งอื่น ในเกาะอังกฤษอีกด้วย



================================


------------ Message From The Boss ------------

รอย อีแวนส์ "บู้ทรูมคนสุดท้าย" ผจก.ทีม ในขณะนั้น
ได้เขียนการรำลึกถึงอัฒจันทร์ ไว้ ในหนังสือโปรแกรมของสโมสร ในเกมส์กับ นอริช วันนั้น

ข้อความมีดังนี้...
---------------------------------------

The last stand
Roy Evans' programme notes from The Kop's last stand
30.04.1994

Heaven was just a No 68 bus ride to the Kop

The 68 bus from Bootle to Stanley Park was full to capacity and it was match day at Anfield. I was seven years old and in charge of my elder brother Malcolm .. he was about to introduce me to the Kop.

Excited? I couldn't hide it. Like everybody else aboard, I was gripped by the passion, the atmosphere and the expectancy. I had never been to Anfield before.

I was decked out in red, of course and I carried a heavy wooden rattle which would be classed as a dangerous object in 1994. Once inside the Boys' Pen, I remember staring in bewilderment at the thousands who congregated under that famous roof. Their feelings for Liverpool were ultimate and their humour was unbeatable.

The best. I joined the Red Army that day.

That was my beginning and I'm sure that every Kopite will have his own similar story to tell. There was the place where we stood too ... a little piece of concrete, we felt, was our own personal property.

I still look at the spot which was mine.

Then came Bill Shankly and the greatest of all manager-supporter relationships began. It will never be equalled. The common bond and honest expression was unique. Fans and manager were inseperable. After today, of course, the old Kop will disapear and the new all-seater stand will be erected. The bricks and mortar will be different, but the people will remain the same. They have been the heartbeat of this Club and vital to its marvellous achievements. The volume of the Kop will be turned up to maximum whenever 100 percent is given on the pitch. It has always been that way.

Meanwhile, we welcome Norwich City on this extra special day and the players are eager to sign off the season in style. Football cannot be stage-managed but we will be aiming for an open thrilling game. Fortunately, our visitors also have a reputation for interesting and attacking football. I hope to see a performance which is fitting on this memorabe occasion.

Finally, it is my duty on behalf of the Club to thank everybody for their wonderful support this season.


=============================


------------ เบื้องหลังชื่อเสียงของอัฒจันทร์ คือ ผู้คนบนอัฒจันทร์ ------------

หาก ถามว่า ทำไมอัฒจันทร์ฝั่งนี้ ซึ่งอยู่หลังประตู (หากดูจากการถ่ายทอดสด อัฒจันทร์นี้ จะอยู่หลังประตูด้านขวามือครับ...) ถึงได้มีชื่อเสียงกว่า อัฒจันทร์อีก 3 ด้านที่เหลือของแอนฟิลด์

คำตอบก็คือ
อัฒจันทร์หลังประตูของแทบทุกสโมสร จะเป็นส่วนที่มีค่าดู ต่ำที่สุดครับ (แน่นอน เพราะเห็นภาพไม่ทั่วทั้งสนามแบบที่เราเห็นจากทีวี)

ส่วนที่จะแพงสุดคือ ตั๋วตรงส่วนกลางสนามครับ เพราะเห็นเกมส์ได้ครบทั่วทั้งสองด้าน

ดัง นั้น กลุ่มแฟนบอลที่มีฐานะไม่ใคร่ดีนัก (ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่มีแฟนมาจากชนชั้นกรรมาชีพ เพราะเมืองเคยมีอุตสาหกรรมหนัก คือ การต่อเรือ มาก่อน...)

เขาเหล่านี้ ก็มักจะเลือกซื้อตั๋วตรงหลังอัฒจันทร์นะครับ เพราะถูก
และ ที่นั่งในแนวนี้ เมื่อก่อนก็จะเป็นตั๋วยืนเป็นส่วนใหญ่

การเชียร์จากกลุ่มคนดูตรงนั้น จึงดูว่า มีการเชียร์ที่เต็มที่
สปิริตการเชียร์ เข้มข้นมากกว่าอัฒจันทร์ฝั่งอื่นๆ
มีการกระทืบเท้า กระโดดโลดเต้นแบบสุดๆๆ และที่แน่นอนทฃคือ การเปล่งเสียงร้องเพลงอันโด่งดัง ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของสโมสรในเวลาต่อมา

แฟนบอลในส่วนนี้
จึงเป็นแฟนบอลที่เชียร์ทีมด้วยใจจริงๆๆ...


[Edited 2 times Adtong - Last Edit 2009-6-24 17:32:26]

Reply
Vote




1 online users
Logged In :