คืออยากรู้ไม่ค่อยเห็นมีกะลังเบื่อของฝรั่ง เห็นFFXVนี่ดีเลย ได้อารมณ์เดินท่องโลกแฟนตาซีอย่างแท้จริง(หวังว่านะ)

นอกนั้นที่เคยเล่นก็Shadow of Colossusครับ

Dragon Dogma Dark Arisen ครับ

Yakuza นี่นับมั้ย

Pokemon เลยคัช

ยากูซ่านี่ครบทุกรสครับ ทั้ง open world, action, mini game, จีบสาว, rpg อัพเลเวลตัวละคร แถมเนื้อเรื่องยังดราม่าอีก

ไฟนอล 13-3

way of samurai ถ้าเกมญี่ปุ่นอันนี้เกมเพลย์น่าจะใกล้ GTA สุดละ มากกว่า yakuza เยอะ

yakuza เอาจริงๆเหมือน rpg ตัดฉากสู้ ที่ฉากมีรายละเอียด มีมินิเกมเยอะๆ มันเดินดุ่มๆไปตีคนซีซั้วไม่ได้

ถ้า GTA คือ หนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์ อันนี้คือ ละครซามูไรทุนต่ำมากๆเมื่อสัก 10-20 ปีก่อน

ฉากนี่แคบมากๆ แต่ เกมเพลย์นี่อิสระสุดๆ เอาจริงๆ เราว่าอิสระกว่า GTA ด้วยซ้ำ

สกิลอาวุธเพียบ ผสมอาวุธได้มาก จีบสาวได้เกือบทุกตัว ตบ npc ได้แทบทุกตัวแม้กระทั่งพวกที่มีผลต่อเนื้อเรื่อง

ระบบต่อสู้นี่ยังจะทำซะละเอียด ใส่ระบบสลับคมดาบเพื่อตีศัตรูไม่ให้ถึงตาย เท่ๆ อารมณ์บัตโตไซ

ทางแยกเนื้อเรื่องละเอียดมาก มีเลือกฝ่ายดีชั่วได้ ฉากจบหลากแบบ

ถ้าอยากได้อะไรที่ญี่ปุ่นจ๋า ลองของแปลก เล่นอันนี้ไม่ผิดหวัง เป็นอะไรที่ฝรั่งไม่มีวันทำได้

เสียตรงกราฟิกกากทุนต่ำ โมชั่นก็กากเอามากๆ Glitch เพียบ ถ้าเล่นเกมฝรั่งฟอร์มยักษ์ๆมาจนชิน อาจจะรับไม่ได้

X / Zelda

Saga Frontier เก่าไปมั้ย

Xenoblade ครับ โลกกว้างไม่รู้จะกว้างยังไงแล้ว

Final 13 ภาคแรกเลยครับ

ดราก้อน ดอกม่า

ผมว่าเริ่มจากทำความเข้าใจกับคำว่า open world ให้มันตรงกันก่อนดีกว่าครับ อย่าง Xenoblade เนี่ย มันคือ RPG ที่ฉากแต่ละฉากกว้าง มี quest ยิบย่อยเยอะ (แต่ส่วนใหญ่ก็ซ้ำๆรูปแบบกัน)มีของตกตามพื้นเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ open world นะ
อย่าง rep บนๆว่าน่ะครับ ถ้าเอาแบบ open world จริงๆต้อง Way of Samurai (แนะนำเล่นภาค4 ไปเลย) เรียกว่าอิสระในการดำเนินเนื้อเรื่องมากกว่า GTA อีก แต่จำนวนมินิเกมส์ กับรายละเอียดในโลกของเกมส์คงเอาไปเทียบกันไม่ได้

อืม ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ คือมีคนคิดแบบนี้เยอะเหมือนกัน ที่จริง concept ของ open world นี่ก็ยังเถียงกันอยู่เยอะทั้งบอร์ดนอกบอร์ดใน แต่ open world มันไม่ควรจะใช่แค่ว่าฉากกว้างนะครับ ลองนึกภาพว่า ใน Xeno จากฉากแรกถ้าคุณจะไปฉากที่ 2 คุณก็ต้องผ่านเนื้อเรื่องในฉากที่ 1 ถูกมั๊ยครับ จะไปฉาก 3 ก็ต้องผ่านเนื้อเรื่องของ ฉาก2 ก่อน เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆเป็นลักษณะเส้นตรง ถูกมั๊ยครับ
ในส่วนของการเล่นกับจุดมุ่งหมายของเกมส์ ก็แทบไม่มีลูกเล่นอะไรเลย จาก 1 ไป 2 จาก 2 ไป3 หมดเหมือนกัน
ถ้าอย่างท่านว่า Dragon Quest ก็ open world ครับ แน่นอนว่าไม่กว้างเท่า Xeno แต่สำหรับผมก็กว้างมากละครับ แล้วก็เดินไปเดินมาได้อิสระเหมือนกัน เล่นไปฉากหลังๆละ อยากจะวาร์ปกลับมาหมู่บ้านแรกก็ได้ อิสระมาก
ส่วน sandbox ความเห็นผม ผมคิดว่ามันเป็นซับของ open world ลงไปอีก อย่าง open world มีอิสระจริง แต่ก็ยังมีจุดมุ่งหมายใหญ่ๆคลุมอยู่ แต่อย่าง sandbox เนี่ยคือเราจัดเองหมด อยากจะทำยังงัยก็ได้ เล่นยังงัยก็ได้ กำหนดจุดหมายของเกมส์กันเอาเอง (อย่าง Minecraft)

Dragon Dogma's ครับผม