เล่นจบแล้วก็ขอรีวิวสักหน่อยนะครับ สามารถติดตามรีวิว+พูดคุยเรื่องเกม, หนัง และการ์ตูนได้ที่เพจ Old Geeks ครับ [Link]

Salt and Sanctuary เป็นเกมแนว Sidescroller RPG จากทีมพัฒนา Ska Studios ครับ เป็นทีมเล็กมากมีแค่สามีภรรยาช่วยกันทำ 2 คนเท่านั้น และหากใครได้ลองเล่นหรือลองดูคลิปเกมเพลย์ก็จะพบว่าเกมนี้มีระบบการเล่นคล้ายเกมซีรี่ส์ดังอย่าง Dark Souls ค่อนข้างมาก ซึ่งทีมพัฒนาก็ได้ออกมาบอกเองเลยว่าเกมนี้คือ "จดหมายรักจากพวกเขาถึง Souls Series" นั่นเองครับ (ในรีวิวนี้ผมจะเอาไปเปรียบกับ Souls Series ค่อนข้างบ่อย ถือว่าเพื่อให้เห็นภาพละกันนะครับ)



เนื้อเรื่อง

Salt and Sanctuary เริ่มเรื่องโดยที่เราเป็นทหารที่มีหน้าที่คุ้มกันเจ้าหญิงองค์หนึ่ง ที่กำลังล่องเรือข้ามทะเลไปแต่งงานทางการเมืองเพื่อหยุดสงครามที่ปะทุมาหลายร้อยปี แต่เรือของเราได้ถูกกลุ่มโจรไม่ทราบที่มารวมทั้งอสุรกายร่างยักษ์โจมตีเสียก่อนทำให้เรือแตก ตัวเรานั้นรอดชีวิตและไปติดเกาะแห่งหนึ่งครับ เราต้องหาทางเอาตัวรอดในเกาะนี้และตามหาตัวเจ้าหญิงให้ได้ และนี่คือเนื้อเรื่องในตอนเริ่มแรกของ Salt and Sanctuary ครับ

เนื้อเรื่องอ่านดูอาจจะดูไม่มีอะไรเลย แต่เกมนี้นั้นเลือกที่จะเล่าเรื่องเหมือนเกมตระกูล Souls ครับคือ "ไม่เล่าเนื้อเรื่องตรงๆ แต่ให้ผู้เล่นปะติดปะต่อจากข้อมูลต่างๆเช่น คำอธิบายไอเทม คำพูดอันเป็นปริศนาของ npc ต่างๆแทน" ซึ่งเมื่อเล่นไปจนจบเกมก็พบว่าเนื้อเรื่องลึกซึ้งใช้ได้เลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่ลุ่มลึกเท่าเกมตระกูล Souls ทั้งหลายครับ



Gameplay

สำหรับเกมเพลย์นั้นถือว่าทำได้สนุกครับ มีการผสมผสานระหว่างความเป็น 2d และ Action RPG style Souls ได้ดีทีเดียว Boss Fight ก็มีให้สู้กันจุใจครับ และก็ไม่ได้เอาแต่ลอก Dark Souls นะครับมีการเพิ่มระบบใหม่ๆขึ้นมา เช่น ระบบ Brand ตีตราตัวเองให้มีความสามารถเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นได้ เช่น เดินกลับหัว หรือกระโดด dash ได้ เป็นต้น ซึ่งช่วงหลังต้องเอามาใช้แก้ปริศนาสำคัญๆหลายครั้งเหมือนกัน (แต่บางอันก็รู้สึกยากไปนิด) อีกระบบที่ผมชอบมากคือระบบศาสนาครับ ระหว่างการผจญภัยของเราเราจะพบกับที่พักที่คล้ายๆกับ Bonfire ใน Dark Souls แต่ในเกมนี้นั้นที่พัก (Sanctuary) มีของหลายศาสนาครับ ถ้าเป็นของศาสนาเราก็จะได้รับการช่วยเหลือมากหน่อย เรียกพ่อค้านักตีดาบมาช่วยเราได้ แต่ถ้าเป็นของศาสนาอื่นก็อาจให้พักอย่างเดียว อีกทั้งเรายังสามารถเปลี่ยนศาสนาไปมาได้ด้วยครับ แต่จะเสียค่าศรัทธาของศาสนาเดิมไป (คล้ายๆชีวิตจริงเลยนะ 555)

จุดที่อยากจะติของ Gameplay ก็คือเกมนี้มีแผนที่ Style Souls ที่กว้างใหญ่มาก และเชื่อมต่อกันได้หมด แต่ด้วยความที่มันเป็น 2D และภูมิประเทศต่างๆไม่ค่อยมีจุดเด่นเท่าไหร่ ทำให้หลงทางง่ายมากครับ การจะเล่นเก็บรายละเอียดให้ครบโดยไม่เปิด FAQ ดูนี่ผมว่ายากมากๆเลย อีกอย่างคือ เกมนี้ยังไม่มีโหมด Online ครับ เล่นหลายคนได้ในเครื่องเดียวกันเท่านั้น เข้าใจว่า dev คนน้อยนะครับแต่ยุคนี้กับเกมแนวนี้มันควรจะมีนะ

โดยรวมเกมเพลย์ถือว่าสนุกท้าทายดีครับ ช่วงแรกๆผมว่ายากกว่า Dark Souls ซะอีก และมีระบบเจ๋งๆเพิ่มมา ทำได้ดีครับ



กราฟิกและดนตรีประกอบ

กราฟิกมองปราดเดียวก็รู้ว่าทุนต่ำครับ เป็น Art Style ของ Ska Studio อยู่แล้ว ก็มีเอกลักษณ์ดีนะครับแต่ในส่วนของทัศนียภาพ, ภูมิประเทศไม่ค่อยมีที่โดดเด่นสวยงามเท่าไหร่ (มีสวยแค่ 2-3 ฉาก) อีกทั้งฉากยังมืดๆหลายฉากเลยครับใครไม่ชอบเกมฉากมืดๆเยอะๆคงไม่ถูกจริตกัน

ส่วนของดนตรีประกอบนั้นทำได้แค่พอใช้ครับ เพลงฟังเรื่อยๆเอื่อยๆไม่โดดเด่น เพลงยังมีน้อยด้วยครับเพลงประกอบบอสมีแค่ 3 เพลงเท่านั้นเมื่อเทียบกับ Dark Souls ที่มีเพลงประจำตัวบอสทุกเพลง (ผลจากความทุนต่ำอีกสินะ)



สรุป เป็นเกมที่เล่นสนุกครับ การ Polish ความลุ่มลึกต่างๆทำได้ดีมากแล้วสำหรับ dev แค่ 2 คน แต่ก็ยังสู้พวกเกมฟอร์มยักษ์ไม่ได้ แต่ใครเป็นแฟน Dark Souls ก็แนะนำให้หามาเล่นครับราคาถูกด้วย 300 กวาบาทเท่านั้นใน Steam

คะแนน : 7.4/10

ขอแปะคลิปเกมเพลย์สักเล็กน้อยจะได้เห็นภาพนะครับ นี่เป็นบอสตัวแรกแต่ใน ng+ ครับ

เคยคิดจะเล่นตั้งแต่มันวางขายใน Store US ก่อน DS3 ออก

จนถึงตอนนี้ DS3 Plat ไปแล้วมันยังไม่เอาลง Store TH เลย ลาก่อยยยยย

ชอบคุณSlashmepleaseเขียนรีวิมากครับ
ตอนรีวิวWarcraft the movieก็เขียนดีครับ

ตอนเล่นนี่ พอไปถึงช่วงนึง ก็ไม่ไหว จนต้องใช้ glitch ปั้มเลเวลเอาเลย เล่นง่ายขึ้นเยอะ จนได้รู้ว่าอะไรก็ไม่น่ากลัวเท่าตกจากที่สูง


พอเล่นต่อ NG+ นี่ยากขึ้นเยอะเลยทีเดียว กับบอสบางตัว เลเวลสูงแทบไม่ช่วยอะไร เอาจริงๆคือมาเล่นต่อเก็บถ้วยที่เหลือน่ะ แต่ก็เหลืออีกถ้วยเดียว ฆ่าบอสแรกสุดบนเรือ ซึ่งไม่ไหวจะเคลียร์เลยช่างมันละกัน