Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : Three Billboards Outside Ebbing, Missouri

<<
<
1
Reply
Vote
# Tue 20 Mar 2018 : 12:51PM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2347 post)
Review : Three Billboards Outside Ebbing, Missouri

กำกับ : Martin Mcdonagh (In Bruges, Seven Psycopaths)

หนังที่ผมตั้งตาที่จะดูอีกเรื่องหนึ่งเนื่องจากทำผลงานได้ดีบนเวทีออสการ์ (ได้รางวัลนำหญิง, สมทบชาย และเข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย) อีกทั้งยังเป็นผลงานจากผกก. In Bruges ที่ผมชื่นชอบด้วย ซึ่ง In Bruges นี้เป็นหนังแนะนำอีกเรื่องนึงเลยครับ ยิ่งใครที่ชอบแนวตลกร้ายนี่ห้ามพลาด ส่วน 3 Billboards นี้ หลังจากที่ได้ชมก็ต้องขอบอกว่าสมการรอคอยจริงๆ



Three Billboards (ขอย่อแค่นี้นะ) เล่าถึง Mildred Hayes (Frances Mcdormand) แม่ผู้สูญเสียลูกสาวไปในคดีฆ่าข่มขืน และเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีกระบวนการยุติธรรมยังคงจับผู้ร้ายที่ฆาตกรรมลูกสาวเธอไม่ได้ Mildred จึงได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด เธอได้เช่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่สามป้ายที่อยู่ริมถนนนอกเมือง และได้ขึ้นป้ายวิจารณ์การทำงานของตำรวจเมือง Ebbing ที่เธออาศัยอยู่อย่างเผ็ดร้อน โดยคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงเป็นหัวหน้า Willoughby (Woody Harrelson) ที่มีชื่อขึ้นอยู่บนป้ายบิลบอร์ดนั้นเลย แต่ Mildred ก็ถูกกระแสตีกลับเนื่องจากหัวหน้า Willoughby นั้นเป็นตำรวจน้ำดีที่ผู้คนในเมืองต่างรักใคร่ แถมเธอยังต้องรับมือกับ Dixon (Sam Rockwell) นายตำรวจหนุ่มจอมหัวร้อนที่เทิดทูน Willoughby สุดหัวใจด้วย สุดท้ายเรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน Three Billboards ครับ



ซึ่ง Three Billboards ก็กลายเป็นหนังที่ผมประทับใจมากๆอีกเรื่องหนึ่งครับ โดยท่านที่เป็นนักดูหนังสายเสพย์บทน่าจะพอใจกับเรื่องนี้มากที่เดียว เพราะมันเต็มไปด้วยบทสนทนาที่เขียนมาอย่างคมคายฟังเพลินมากๆ บางฉากแอบมีการฟาดฟันกันด้วยบทที่อาจจะเผลอคิดว่านี่หนังเควนตินรึเปล่าเลยทีเดียวครับ แต่ในขณะเดียวกันบทหนังก็มีความเรียลอยู่ค่อนข้างมากจนใครที่ไม่รู้เบื้องหลังอาจจะคิดว่านี่มันเรื่องจริงหรือเปล่าก็ได้ครับ (จริงๆหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งครับ แค่ได้แรงบันดาลใจจากป้ายโฆษณาลักษณะนี้จริงๆ เมือง Ebbing ก็ไม่มีอยู่จริง) และยังมีการสอดแทรกประเด็นศีลธรรม/การเมืองที่เป็นประเด็นอยู่ในช่วงนี้อย่างแนบเนียนไม่รู้สึกว่ามาสอนกันโต้งๆแบบเรื่องอื่นครับ เรื่องของความตลกร้ายที่เป็นลายเซ็นของผกก.คนนี้มาตั้งแต่ In Bruges แล้วเรื่องนี้ก็ไม่เว้นครับยังคงมีอยู่ทั่วไปในหนัง แต่สิ่งที่กระแทกใจมากคือฉากขยี้อารมณ์ที่มาแบบไม่ทันให้ตั้งตัวซึ่งขอบอกว่ามัน effective มากๆ บทในฉากนั้นนี่เขียนมาได้สวยงามมากจริงๆเล่นเอาน้ำตาลูกผู้ชายไหลพรากไม่รู้ตัวเลยครับ จะว่าไปอารมณ์ต่างๆในหนังนั้นหลากหลายมากจริงๆมีทั้งความตลก ความสะเทือนใจ ความมันส์สะใจ แถมยังแอบมีความลุ้นระทึกด้วย เรียกได้ว่าประสบการณ์การชมภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนการนั่ง Roller Coaster of Emotion ตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียวครับ หากจะหาข้อติของหนัง อาจจะเป็นเรื่องช่วงท้ายที่มันดรอปนิดหน่อยหลังจากที่ช่วงกลางเรื่องมันพีคมากๆมาก แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นครับ



และสิ่งที่ช่วยเสริมบทหนังให้เด่นขึ้นไปอีกก้คือการแสดงของทีมนักแสดงที่ขอบอกว่าเล่นดีกันแทบทุกคนเลยครับ Frances Mcdormand อันนี้ไม่ต้องวิจารณ์อะไรอีกแล้วสมรางวัลมากๆ ทั้งมีความเรียลความตลกและซีนอารมณ์ก็กินขาด Sam Rockwell ก็มีตัวละครที่มีมิติและการพัฒนาการดีมากและเขาก็ถ่ายทอดมันออกมาได้เยี่ยมยอดครับ และสุดท้าย Woody Harrellson คุณทำให้ผมร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรในโรงหนังจะรับผิดชอบยังไง หืม? ดนตรีประกอบนั้นใช้เป็นเพลงโอเปร่าที่ให้บรรยากาศสุดขลังมาปนกับเพลง Country ที่เข้ากับโลเคชั่นดีแท้ และยังไพเราะมากด้วยครับ

สรุป : ตอนนี้ขึ้นแท่นหนังออสการ์ปีที่แล้วที่ชอบที่สุดไปแล้วครับ ใครชอบหนังเน้นบทนี่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว เป็นประสบการณ์การดูหนังที่ลืมไม่ลงจริงๆครับ

คะแนน : 8.7/10 (A+) ชอบมากครับ


# Tue 20 Mar 2018 : 1:19PM

Ads๑๔
member

Since 2016-03-01 12:31:42
(736 post)
เอามาจากเฟสของข้าพเจ้าเอง
รีวิวสั้นๆ: Three Billboards Outside Ebbing, Missouri (2017)
หนังดราม่าตลกร้ายที่กำกับและเขียนบทโดย Martin McDonagh ว่าด้วยเรื่องราวของ Mildred Hayes คุณแม่ที่สูญเสียลูกสาวจากคดีข่มขืนแล้วฆ่า ซึ่งหลังจากที่เหตุการณ์สะเทือนขวัญผ่านมา 7 เดือนแล้ว แต่ทั้งเรื่องคดีและการหาตัวผู้กระทำผิดก็ไม่มีความคืบหน้า Mildred จึงเกิดความคิดจัดเช่าป้ายโฆษณา(Billboard)จำนวน 3 ป้ายเพื่อประจานการทำงานที่ล่าช้าของตำรวจ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องหามาดูกันแล้วล่ะครับ
ว่ากันด้วยตัวหนังกันดีกว่า ด้านเนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างรวดเร็ว กระฉับและเข้าใจง่าย บทสนทนาต่างๆภายในเรื่องเต็มไปด้วยคำสบถแต่แฝงแง่คิดดีๆและการเสียดสีสังคมแบบเจ็บๆคันๆไว้ในแทบจะทุกการสนทนา(บางประโยคดีมาก บางประโยคก็ฮาโคตร!) นักแสดงที่รับบท Mildred อย่างป้า Frances McDormand ก็เล่นดีมากประดัง Martin แกเขียนบทของ Mildred ขึ้นมาเพื่อป้าแกโดยเฉพาะเลย ส่วนตัวละครอีกตัวที่อดพูดถึงไม่ได้ก็คือ Dixon รับบทโดยเฮีย Sam Rockwell เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆจะว่าไปแล้ว Dixon เป็นตัวละครมีมิติมาก ว่าด้วยปูมหลังดูเป็นพวกลูกติดแม่ ขี้แย โง่ บ้าและมุทะลุในช่วงของหนังครึ่งแรก แต่พอได้ป๋าดันอย่างจดหมายของ Bill (รับบทโดย Woody Harrelson) ก็เป็นแนวทางให้ไอ้เจ้า Dixon เป็นผู้เป็นคนกับเขาได้บ้าง เหมือนเป็นนัยยะว่าด้วยคนบางคนเป็นคนดีได้ถ้าได้รับคำแนะนำหรือแนวทางที่ดี จากที่โคตรจะเกลียด Dixon ในช่วงแรกพอถึงช่วงหลังก็จะเริ่มสงสารและรักเฮียแกขึ้นแบบไม่รู้ตัวเลย(ยิ่งบทสนทนาที่ว่าด้วย"ความหวัง"และ"ความพยายาม"ยิ่งทำให้เห็นการพัฒนาของตัวละครอย่าง Dixon ได้เป็นอย่างดี) ส่วนตัวอื่นๆก็เล่นดีไม่แพ้กันเพียงแต่ชอบ Dixon เป็นพิเศษหน่อย555 ดนตรีประกอบกับเพลงคันทรี่ลงตัวกับเหตุการณ์และเมืองเล็กๆอย่าง Ebbing มลรัฐ Missouri เป็นอย่างดี งานด้านภาพได้มือกำกับภาพอย่าง Ben Davis มารับหน้าที่ ก็เลยได้ภาพที่ทั้งสวยและเท่ในเวลาเดียวกัน
โดยรวมแม้หนังจะว่าเรื่องของพลเมืองตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องความยุติของหน่วยงานภาครัฐ แต่ลึกๆแล้วแก่นแท้ของตัวหนังที่อยากจะสื่อคือเรื่องของ"การปล่อยวางและให้อภัย"และ"การรู้จักมีสติพร้อมกับมองรอบๆด้าน มากกว่าใช้ความแค้นเป็นตัวตัดสินใจ"ซึ่งชอบมากๆในส่วนที่ผู้กำกับเลือกที่จะจบแบบปลายเปิดพร้อมกับแสดงมุมมองและทัศนคติของตัวละครที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาแล้ว ช่วยให้มีเหตุผลที่ดีว่าเขาเหล่านั้นควรหรือไม่ควรที่ทำอะไรต่อไป ถือว่าเป็นหนังที่ดีพร้อมให้ทั้งความบันเทิงและทัศนคติดีๆบวกแง่คิดดีๆที่แฝงไว้มากมายภายในหนัง 8.5 ชอบมากๆ555
ปล.นอกจากป้ายโฆษณา 3 ป้ายที่เจ็บจี้ดแล้ว จดหมาย 3 ฉบับของ Willoughby ก็ดีงามไม่แพ้กันโดยเฉพาะฉบับที่เขียนถึงภรรยาสุดที่รัก ถือว่าเป็นจดหมายที่เขียนได้หวานที่สุดฉบับหนึ่งเลยเท่าที่เคยได้ยินมา...แม้ในความเป็นจริงมันจะขมก็ตาม

# Tue 20 Mar 2018 : 9:45PM

ThunderBird
member
ยังไม่เลิกยิงมุกอีกเหรอ?
Since 30/3/2005
(13512 post)
หนังดำเนินเรื่องดีมาก แต่ตอนจบคือ ห๊ะ เอางี้เลยเหรอ
View all 2 comments >

# Wed 21 Mar 2018 : 9:27AM

surathach
member

Since 2012-10-30 16:01:43
(1243 post)
สนุกดีครับดูเพลินโคตรๆ โคตรชอบตัวละคร Dixon

# Wed 21 Mar 2018 : 2:19PM

Mozardd
member

Since 2012-09-04 18:05:33
(1140 post)
หนังให้อารมณ์เหมือนดูหนังของ Coen Brother ที่ย่อยง่ายกว่ามาก สนุกดีครับ บทสนทนาเค้าเขียนดีมากๆๆๆ ทั้งที่แกนเรื่องเป็นหนังที่ชวนหดหู่ แต่นั่งฮาไปกับ dialog ตัวละครไปเกือบทั้งเรื่อง แต่ละตัวเกรียนๆฮาๆ คาแรกเตอร์สูง

<<
<
1
Reply
Vote




1 online users
Logged In :