คือผมกำลังมองหาทุนป.โท ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เจอทุนน่าสนใจ ซึ่งมันมีเงื่อนไขว่า ต้องได้คะแนน TOEFL

แบบ Paper 500 ขึ้นไป หรือ
แบบ Computer 173 ขึ้นไป หรือ
แบบ Internet 61 ขึ้นไป

ซึ่งตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยสอบเลยครับ ทักษะภาษาอังกฤษก็ค่อนข้างงูๆปลาๆ อยากทราบว่าการสอบ TOEFL นี่มันยากมากไหมครับ ถ้าจะเอาให้ได้ผ่านครึ่ง ตามเกณฑ์ที่ทุนกำหนด

ที่สำคัญคือ ระยะเวล นับตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร ไปสอบ จนถึงผลออกนี่ ใช้เวลานานไหมครับ
คือผมต้องสมัครทุนก่อนวันที่ 8 กุมพา แต่ตอนสมัครอาจยังไม่ต้องยื่นผล TOEFL ถ้าสอบผ่านข้อเขียนจึงค่อยให้

ค่าสอบแพงมาก 160$ ไม่กล้าสอบซี๊ซั๊วเลย ตอนนี้กำลังติวเข้มอังกฤษอยู่ เอามันตั้งแต่พื้นฐาน (ซื้อหนังสือมาอ่านเอง)

แปลกใจจริงๆที่ ทุนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น แทบจะทุกทุนต้องใช้ภาษาอังกฤษ ต่อให้สาขาที่เราเข้าไปเรียนมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอังกฤษเลยก็ตาม

เรียงตามลำดับความยาก ก็ตั้งแต่ toeic ง่ายสุด ตามมาด้วย ielts และ toefl ยากที่สุด
ถ้าจะเตรียมตัวจากงูๆปลาๆโดยไม่มีพื้น ถ้าไม่ไปติวเข้มๆ ไม่ทันคับ เคยเจอคนกด toeic
ไปเยอะๆ เจอ toefl ยังได้คะแนนไม่เยอะมากเลย ส่วนตัวเคยสอบ ielts ได้ 7.0 แต่ toefl ยังไม่เคยสอบ แต่ยากกว่า ielts นะ

ตอบเป็นข้อๆละกัน
1. ยากไหม
ตอบ - ยากกว่าการสอบโดยทั่วไปในการเรียนมหาวิทยาลัยครับ แต่ไม่ยากเกินความสามารถคนที่เก่งภาษาอังกฤษทั่วไปครับ ตัวผมก็ผ่านครึ่งมานิดนึง เพราะดันสอบพูดไม่คล่อง แย่จริง

2. นานไหมหว่าผลจะออก
ตอบ - ผมไปสอบแบบ Tofel-iBT ได้รับผลประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากสอบไปแล้วครับ

ราวๆนี้ครับ ถ้าลงตั้งใจติวหนังสือ แล้วพูดได้เป็นประโยค(แม้จะไม่ถูกทั้งหมด) ก็ลุยไปสอบแบบ internet ได้ครับ ผมเองก็ไม่ได้ไปสอบแบบ paper หรือ computer นะ เหอๆ

ระดับโทในญี่ปุ่น เอาคะแนนภาษาอังกฤษหมดครับ ถึงจะเรียนภาคญี่ปุ่นก็ตาม เปเปอร์ผมยังต้องทำทั้งญี่ปุ่น อังกฤษ ส่งเลยครับ แต่ตอนเรียนสัมนาใช้ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว หลายๆมหาลัยใช้คะแนนโทอิคแทนได้ โทอิคทำคะแนนง่ายกว่า แต่โทเฟว 61คะแนนนี้ ผมว่าได้ไม่ยากนะ ถือว่าต่ำด้วยแหละ

ผมเคยเจอเพื่อนผม ใช้เงื่อนไข toeic มาผ่อนได้ครับเรื่องทุน แต่ต้องได้ 800-900 นะครับ

TOEFL ถ้าพื้นฐานดี ไม่ยากเลยครับ สำหรับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษคล่อง เช่น ฟังข่าว ดูหนัง เขียนรายงาน มีเพื่อนเป็นฝรั่ง..
ไม่ต้องเตรียมตัวมากก็น่าจะได้ 100+

แต่ถ้าพูดถึงกรณีทั่วๆไป ที่ไม่ค่อยมีโอกาศใช้ทักษะภาษาอังกฤษแค่ 80+ ก็รากเลือดได้แล้วครับ
สำหรับ 61 ยากไหมนั่น จะขออธิบายตามประสบการณ์ดังนี้ครับ

TOEFL IBT มีข้อสอบ 4 ส่วน อ่าน ฟัง พูด เขียน (สอบตามลำดับ) คะแนนพาร์ทละ 30 รวม 120
ทำผ่านคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ข้อสอบอ่าน คุณต้องอ่านบทความระดับวิชาการ โดยข้อสอบจะสรรหา เรื่องที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน เพื่อวัดความรู้ภาษาของคุณจริงๆ ไม่ว่าจะ ประวัติศาศตร์ ชีวะ สัตววิทยา และอื่นๆ คำถามเลือกชอยส์ 4ข้อ มีหลายแบบ ทั้งถามศัพท์ (ต้องรู้ synonym) สรุปเรื่อง เลือกสิ่งที่ไม่ตรง จัดหมวด.... โดยมีข้อสอบ 3-5 ชุด ชุดละ 13-15 ข้อ เวลาสอบ 1ชั่วโมง ระบบการให้คะแนนผมลืม แต่ไม่ใช่ว่าตอบได้ครึ่งนึง แล้วจะได้ 15/30 มันได้น้อยกว่านั้น

สอบฟัง ฟังตั้งแต่เรื่องทั่วไป จนถึงวิชาการ สอบ 1ช.ม. เช่นกัน สมองฝ่อเรียบร้อย และทำใจว่า คนข้างๆที่เริ่มสอบพูด ก็จะมีเสียง โช้งเช้งๆๆ ให้คุณปวดประสาทเล่น รวมๆก็คล้ายๆด้านบนครับ

สอบพูด เป็นอะไรที่เครียดมาก มี 6ข้อ 2ข้อแรกถามเรื่องทั่วไปจะสุ่มรูปแบบคำถาม ถ้าโชคดีก็ ถามง่ายๆเช่น คุณชอบขี่จักรยาน หรือ มอเตอร์ไซค์ มากกว่ากัน เพราะอะไร จนถึงคำถามยากๆเช่น ให้บอกข้อดีข้อเสียของการที่มหาลัยแห่งหนึ่ง จะปรับปรุงห้องสมุด ว่ามีอะไร และสรุปแล้ว ข้อดีหรือข้อเสีย สำคัญกว่ากัน ให้เวลาเตรียมตัวหลังจากฟังคำถาม 15วินาที ตามด้วยเวลาอัดเสียง 45 วินาที
ข้อ 3-4 ผมลืมรายละเอียดลึกๆ แต่ ต้องอ่านและฟัง เรื่องในรั้วมหาลัย แล้ววิเคราะห์ ตอบ 60 วินาที ส่วนข้อ 5-6 ก็คล้ายๆกันเรื่องวิชาการยากๆ เช่นการลอกคราบของแมลง บลาๆ อ่าน ฟัง แล้วพูดสรุป - เทคนิค ให้เน้นข้อ 1-2 ว่าต้องฟันคะแนนให้ได้สูงๆ ข้อหลังๆก็ตามบุญตามกรรม แต่ห้ามเงียบนะครับ พยายามพูดลื่นๆไว้ นึกอะไรออกพูดไป ถ้าเงียบ 0 ทันที แล้วสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดก็ล่ม เสียเวลา เสียเงิน

สอบเขียน มี 2 ข้อ ข้อแรก อ่านบทความก่อน แล้วฟัง เสร็จแล้วให้สรุปว่า ทั้ง2อย่างสนับสนุนหรือค้านกันอย่างไร ให้เขียนอย่างต่ำ 200คำ เวลา 20นาที โดยจะมีประเด็นใหญ่ๆ 3 จุด ข้อสองก็ เป็นหัวข้อให้เขียน เช่น เห็นเด้วยหรือไม่เห็นด้วย ว่า... ตัวอย่างเช่น "เห็นด้วยหรือไม่ว่า ยุคสมัยไหม่ทำให้คนอายุยืนขึ้น" ต้องเขียนตามรูปแบบวิชาการ 300คำขึ้น (มีเกริ่น มีสรุป 4-5 ย่อหน้า) เวลา 30นาที ส่วนตัวที่เคยสอบมา คะแนน 20+ อย่างน้อยแกรมม่าต้องดี พิมพ์ผิดเล็กๆน้อยๆไม่เป็นไร คะแนนสูงๆ ต้องฝึกเขียนบ่อยๆใช้เวลา รู้ว่าเขียนยังไงให้เป็นธรรมชาติ ซึ่งค่อนข้างยากครับ

ไม่รู้ผมเขียนมากไปหรือเปล่า แต่ถ้าสงสัยตรงไหนเพิ่มเติม ถามได้ครับ แต่ประสบการณ์ส่วนตัว สอบแต่ละที มันเหนื่อยมาก สอบ 8โมง เสร็จเกือบบ่าย นอนให้เต็มที่กินข้าวให้อิ่มก่อนสอบด้วยครับ ขอให้โชคดีครับผม

TOEFL ปัจจุบัน(ในกทม)เหลือให้สอบแค่ iBT ครับ และหลายๆ สถาบัน อยากได้ผล iBT มากกว่า เพราะทันสมัยสุด

ผมได้ IELTS 6.5 เคยไปสอบ TOEFL iBT ได้ 73 ส่วน TOEIC ได้ 885

ส่วนตัวผมว่า TOEFL ยากตรงที่มันเป็นศัพท์วิชาการเยอะ (ตอนผมสอบเจอศัพท์เกี่ยวกับการแพทย์ด้วย) แล้วก็ พาร์ท speaking ที่ต้องพูดให้คอมฟัง ไม่เหมือน IELTS ที่มีฝรั่งมานั่งฟัง พยักหน้าให้กำลังใจหน่อย 5555

ถ้าทุนที่คุณสอบ มีตัวเลือกให้ยื่นมากกว่า TOEFL เลือกอย่างอื่นเถอะครับ TOEIC หรือ IETLS ก็ได้
แต่ TOEIC นี่หายากหน่อยนะครับ ที่สถาบันการศึกษาจะยอมรับ .... ส่วนมากเอาไว้ใช้สมัครงาน

สู้ๆ ขอให้ได้ทุนตามที่หวังครับ

ว่าแต่ไปเรียนด้วยหลักสูตรภาษาญี่ปุ่น โทเฟล มันจำเป็นด้วยรึ

ปัจจุบันบ้านเราใน กทม. น่าจะเป็นอินเตอร์เนทเบสหมดแล้ว ส่วนตัวคิดว่ายากขึ้นจาก ซีบีทีนิดหน่อย

แต่ถ้าต้องการคะแนนแค่ราว ๖๐ หน่อย ๆ ของ ไอบีที ไม่ยากหรอกครับ ถือว่าเรียกเกณฑ์ไม่สูงนักครับ เป็นระดับที่ตั้งใจอ่านหนังสือเสียหน่อยก็ทำได้แล้วครับ

โทเฟลมีกฎให้สอบได้เดือนละครั้ง ผลจะได้ราว ๑ ถึง ๒ อาทิตย์หลังสอบเสร็จครับ

มันไม่จำเป็นครับ แต่มันเป็นคุณสมบัติของผู้สมัครทุนที่ทุกคนต้องมี ไม่งั้นถือว่าขาดคุณสมบัติ

แล้ว CU tech ล่ะคับ ยากมั้ย พอดีอยากจะไปเรียนต่อโทที่จุฬา เค้าเอาคะแนนอันนี้ 400 ยากรึป่าวใครพอรู้บ้างคับ

ที่ญี่ปุ่น ป.โท ใช้หมดทุกคณะ ทุกมหาลัยแล้วครับ ถึงภาคญี่ปุ่นก็เถอะ แต่มีหยวนๆใช้คะแนนโทอิก 700+ แทนได้บ้างในบางมหาลัย

อะไรๆก็ยากเท่าภาษาอังกฤษแล้วครับ

CU-TEP ใช่บ่อครับ? ของจุฬา ผมไม่เคยสอบนะ แต่พอได้ยินมาบ้าง ค่อนข้างเหมือน TOEFL ตัวแรกสุด มีแค่ Reading Listening ตรวจ Error Writing แค่นั้นครับ หลายๆคนบอกว่าง่ายกว่า TOEFL เยอะครับ

ผมเพิ่มเติม TOEFL IBT นะครับว่า เดือนนึงจะสอบซ้ำกี่รอบก็ได้นะครับ เท่าที่มีตารางเวลาให้ ปัญหาคือที่ดีๆจะที่นั่งเต็มตลอด ต้องจองก่อนล่วงหน้านานครับ ถ้าจะสอบแนะนำให้จองไว้แต่เนิ่นๆครับ(ผมเคยตอบเรื่องที่สอบไว้ในจีคอนนี่แหละ ไม่รู้ยังอยู่ไหม) ส่วนผลสอบได้ 10 วันหลังจากสอบครับ เป๊ะๆ เค้าจะมีวันออกคะแนนให้ดูในเว็ปไซต์เลยคือ 10วันหลังจากสอบ ยกเว้นมีวันหยุดราชการ ถ้าเกินจะมีเมลล์มาแจ้งบอก และ อย่าลืมคำนวนเวลาส่งคะแนนไปมหาลัยด้วยครับ เราดูคะแนนได้ก็จริง แต่จะเสียเวลาที่ต้องส่งคะแนนไปอีกนะครับ

โทเฟลถ้าเอาแค่ 500 ขึ้นไปนี้ง่ายนะครับ 500 ถือว่าขั้นต่ำเลย ตอนผมไปต่ออเมริกาผมสอบโทเฟลได้แค่ 550 เองแต่มันสิบกว่าปีมาแล้ว ไม่รู้มันเปลี่ยนอะไรไปบ้าง