Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
มารู้จักกับคลาสและจ็อบใน FFXIV 6.0 Endwalker กัน

<<
<
1
Reply
Vote
# Wed 20 Oct 2021 : 10:14PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
FINAL FANTASY XIV: ENDWALKER - Job Action



FINAL FANTASY XIV: SHADOWBRINGERS Benchmark Trailer



FINAL FANTASY XIV - Break the Limit!



Job Guide: Action Overview ของเว็บหลักสามารถดูความสามารถของสกิลต่างๆ แบบอัพเดตล่าสุดได้ที่นี่เลย [Link]

ระบบจ็อบเป็นจุดเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่งของ FFXIV ผู้เล่นสามารถเล่นทุกจ็อบได้ภายในตัวละครเดียวกัน สามารถสับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเมื่อปลดล็อคแล้ว อย่างไรก็ตามแต่ละจ็อบมีเลเวลเป็นของตัวเองแยกกันต่างหากไม่มีการแชร์กัน เมื่อต้องการเล่นจ็อบใหม่ก็จำเป็นต้องเก็บเลเวลให้ก่อน ซึ่งเกมนี้ก็มีเครื่องมือและโบนัสหลายอย่างสำหรับช่วยเหลือการเก็บเลเวลตั้งแต่จ็อบที่สองเป็นต้นไปได้ไม่ลำบากจนเกินไป ส่วนจ็อบแรกที่เลือกโฟกัสจะเล่นให้เลเวลเต็มก่อนแม้จะไม่ได้โบนัสแต่เกมก็ได้อำนวยความสะดวกให้ค่าประสบการณ์จากเควสต์เนื้อเรื่องหลักที่จำเป็นต้องผ่านเพื่อเข้าถึงเนื้อหาท้ายเกมนั้นมีมากเพียงพอที่จะทำให้จ็อบแรกสุดที่ต้องการปั้นมีเลเวลเต็มจากการทำเควสต์เนื้อเรื่องเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปฟาร์มจากแหล่งอื่นๆ มาก (แม้จะมีขาดช่วงบ้างแต่ถ้าทำภารกิจประจำวันหรือเก็บเลเวลเล็กน้อยก็สามารถทำเนื้อเรื่องต่อได้โดยไม่นานหากเก็บเลเวลอย่างถูกวิธี) ทำให้การเก็บเลเวลหลายจ็อบในเกมนี้ไม่ยากอย่างที่คิด 

เกมบังคับว่าคุณจำเป็นต้องมีสายสู้อย่างน้อย 1 จ็อบจึงจะสามารถดำเนินเนื้อเรื่องเพื่อปลดล็อคคอนเทนท์ต่างๆ ในเกมได้ ซึ่งเกมได้แบ่งบทบาทหน้าที่ของสายสู้ทั้ง Disciples of War และ Disciples of Magic ออกเป็น 3 บทบาทหลัก ได้แก่ Tank, Healer และ DPS โดย DPS จะมีการแบ่งออกเป็นบทบาทย่อยอีก 3 รูปแบบ คือ Melee, Physical Ranged และ Magic Ranged โดยในแต่ละบทบาทในโรลเดียวกันจะมีภาพรวมของจ็อบและหน้าที่ในปาร์ตี้แบบเดียวกัน มีสกิลบางอย่างแชร์ร่วมกัน อย่างไรก็ตามแต่ละจ็อบก็ยังมีรูปแบบการเล่นเฉพาะที่แตกต่างกันเป็นของตัวเอง แต่ละจ็อบในเกมจะมีบทบาทตายตัวไม่สามารถเปลี่ยนไปทำหน้าที่ในโรลอื่นได้ เช่น อยากเล่น Dark Knight แต่ไม่อยากแทงค์นั้นไม่สามารถทำได้อย่างไรบทบาทของ Dark Khight จำเป็นก็ต้องล่อศัตรูให้ปาร์ตี้และทำเสียหายได้ไม่สูงเท่า DPS ซึ่งรายละเอียดบทบาทต่างๆ มีดังต่อไปนี้

Disciples of War

Tank

จ็อบที่อยู่ในโรลนี้: Paladin, Warrior, Dark Knight, Gunbreaker

- มีบทบาทสำคัญในการนำและปกป้องปาร์ตี้จากศัตรู คอยล่อศัตรูไม่ให้ไปโจมตีสมาชิกคนอื่นๆ

- มีแพสซีพเฉพาะตัวที่ช่วยลดทอนความเสียหายจากศัตรู 20% 

- มีโหมดเพิ่มการสร้างค่าความเกลียดชังของศัตรูให้มาโจมตีตัวเองง่ายขึ้น สำหรับใช้เมื่อเป็นแทงค์หลักและสามารถปิดได้เมื่อไม่ได้ทำหน้าที่แทงค์

- สกิลส่วนใหญ่ของสายนี้จะเน้นการป้องกันตัวเอง ขัดขวางสกิลศัตรู และฟื้นฟูตัวเองเป็นหลัก

- ใช้เครื่องสวมใส่ประเภท Fending ซึ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะชุดเกราะเป็นหลัก เป็นจ็อบที่มีของสวมใส่ในรูปแบบเกราะหนักให้ใส่มากที่สุด



Melee DPS

จ็อบที่อยู่ในโรลนี้: Dragoon, Reaper, Monk, Samurai, Ninja

- เมคานิคหลักของโรลคือจะต้องโจมตีแบบคอมโบในทิศทางที่ถูกต้อง (เช่น โจมตีด้านหลังหรือด้านข้างของศัตรู) เพื่อสร้างความเสียหายสูงสุด

- สามารถทำความเสียหายได้สูง แต่มีข้อเสียคือการทำความเสียหายจะลดลงมากหากมีเมคานิคที่ต้องขยับออกจากตัวบอสบ่อยๆ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีรอบตัวบอสได้ง่ายกว่าสายโจมตีระยะไกล

- ของสวมใส่โรลนี้มีหลากหลายและใช้ร่วมกันไม่ได้ ดังนี้

-- Dragoon/Reaper ใช้เครื่องสวมใส่ประเภท Maiming และใช้เครื่องประดับ STR ประเภท Slaying ซึ่งการออกแบบของสวมใส่จะมีลักษณะเป็นชุดเกราะจำนวนหนึ่งแต่น้อยกว่าเซ็ต Fending ในหลายเซ็ตก็มักแชร์รูปลักษณ์กับสาย Striking เป็นหลัก



-- Monk/Samurai ใช้เครื่องสวมใส่ประเภท Striking ร่วมกัน แต่สามารถแชร์เครื่องประดับ STR ประเภท Slaying ร่วมกันได้กับสาย Maiming ได้ ซึ่งของสวมใส่ประเภทนี้จะเน้นชุดเบาที่ทำให้ต่อสู้สะดวกสบายแบบชุดผ้าและชุดหนังเป็นหลัก



-- Ninja ใช้เครื่องสวมใส่ประเภท Scouting เพียงจ็อบเดียว แม้จะเป็นธีมชุดเบาแต่จะใช้สเตตัส DEX เป็นหลักและใช้เครื่องประดับร่วมกับสาย Aiming ร่วมกับ Physical Ranged DPS แทน การออกแบบชุดส่วนใหญ่จะเป็นชุดเบาที่เหมือนสาย Striking แต่จะเน้นชุดแนวลอบเร้นเป็นหลักทำให้บางครั้งถ้าชุดของฝั่ง Striking ดูไม่เหมาะสมก็อาจจะไปแชร์รูปลักษณ์กับสาย Aiming หรือสายเวทบ้างเช่นกัน



Physical Ranged DPS

จ็อบที่อยู่ในโรลนี้: Bard, Machinist, Dancer

- เป็นสายที่สามารถโจมตีทางกายภาพจากระยะไกลได้

- สามารถใช้สกิลทั้งหมดได้ระหว่างเคลื่อนที่

- สามารถโจมตีอัตโนมัติได้ตลอดเวลาจากระยะไกลตราบเท่าที่ยังล็อคเป้าศัตรูและอยู่ในระยะยิง

- ทำให้สามารถทำความเสียหายแบบต่อเนื่องดีที่สุดในบรรดา DPS แต่แลกด้วยการโจมตีที่เบากว่าสาย Melee และ Magic

- เป็น DPS สายเดียวเท่านั้นที่มีสกิลช่วยขัดจังหวะการโจมตีพิเศษศัตรู

- ใช้เครื่องสวมใส่ประเภท Aiming ที่รูปลักษณ์จะเป็นแนวชุดเบากึ่งชุดคลุม เนื่องจากแชร์ความเป็นสายกายภาพร่วมกับสายชุดเบาและแชร์ความเป็นสายระยะไกลร่วมกับสายเวทจึงทำให้มีรูปลักษณ์ร่วมกับทั้งสองสายในหลายๆ เซ็ต อย่างไรก็ตามชุดเซ็ตนี้จะเน้นออกแนวให้เหมาะสมกับการเป็นนักธนู นักล่า นายพราน มือปืน วนิพกเป็นหลัก



Disciples of Magic

Magic Ranged DPS

จ็อบที่อยู่ในโรลนี้: Black Mage, Summoner, Red Mage, Blue Mage

- เน้นโจมตีระยะไกลด้วย Magic Attack จากสกิลประเภทเวทมนต์ การโจมตีส่วนใหญ่เป็นการเบิร์สที่ทำความเสียหายรุนแรงเป็นช่วงๆ และต้องพักรอ CD ถึงจะเบิร์สได้อีก

- มีข้อจำกัดคือเวทมนต์ส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลาร่ายสกิล

- ไม่มีการโจมตีอัตโนมัติระยะไกลแบบสายกายภาพเป็นการชดเชยที่มีความสามารถทางการโจมตีใกล้เคียง Melee DPS แต่สามารถหลบการโจมตีของบอสได้สะดวกกว่า

- ใช้เครื่องสวมใส่ประเภท Casting ที่มักจะเป็นแนวชุดโค้ทหรือชุดคลุม แต่ก็จะมีแนวกางเกงหรือขาสั้นในบางโอกาสเช่นกัน ส่วนใหญ่มักแชร์รูปลักษณ์กับสาย Healing และใช้โทนสีเข้มเป็นหลัก



Healer

จ็อบที่อยู่ในโรลนี้: White Mage, Scholar, Astrologian

- ทำหน้าที่ฟื้นฟู HP และสนับสนุนปาร์ตี้ด้วยลักษณะเฉพาะของแต่ละจ็อบที่มีความแตกต่างกัน

- มีความสามารถการโจมตีพื้นฐานในระดับทั่วไป เน้นการโจมตีง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ทำให้ไม่จำเป็นต้องฮีลตลอดเวลาแต่สามารถโจมตีช่วยเหลือปาร์ตี้ได้ด้วย อย่างไรก็ตามก็ต้องระมัดระวังการบริหาร MP ไว้ใช้ในการฮีลและไม่โจมตีเพลินจนเกิดการฮีลผิดพลาดด้วยเช่นเดียวกัน

- สามารถทำโซโลคอนเทนท์ได้ไม่แตกต่างจากจ็อบอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องห่วงว่าสายนี้จะเก็บเนื้อเรื่องลำบากเพราะลุยเดี่ยวไม่ได้แบบ Healer เกมอื่นๆ

- ใช้เครื่องสวมใส่ประเภท Healing ที่มักจะเป็นแนวชุดโค้ทหรือชุดคลุม เช่นเดียวกับสาย Casting และมีแนวอื่นๆ แทรกมาบ้างในบางเซ็ต ส่วนใหญ่มักแชร์รูปลักษณ์กับสาย Casting และใช้โทนสีอ่อนจนถึงขาวเป็นหลัก



ตอนนี้สามารถทดลองเล่นได้ถึงเลเวล 60 ได้โดยไม่จำกัดเวลาแล้ว >> [Link]

ทดสอบประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ว่าสามารถเล่นได้หรือไม่ได้ที่นี่ >> [Link]

ชุมชนคนไทยที่เล่นเกมนี้ >> [Link]


# Wed 20 Oct 2021 : 10:14PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
การเปลี่ยนคลาสและจ็อบ
การเปลี่ยนจ็อบของเกมนี้นั้นมีเงื่อนไขแตกต่างกันไปตาม Expansion ดังนี้

จ็อบเริ่มต้น
เป็นจ็อบที่สามารถเล่นได้ตั้งแต่เริ่มเกม ตอนสร้างตัวละครจะบังคับให้เลือก 1 คลาสก่อน แต่สามารถเปลี่ยนได้อิสระหลังจากทำเควสต์ประจำคลาสที่เลือกถึงเลเวล 10 จ็อบพวกนี้จะเริ่มจากการเป็นคลาสที่มีชื่อต่างกันซึ่งเป็นมรดกจาก 1.0 แต่ปัจจุบันตั้งแต่ 4.0 เป็นต้นไปถือว่าคลาสเป็นหนึ่งเดียวกับจ็อบแล้ว เมื่ออัพคลาสถึงเลเวล 30 ผู้เล่นก็สามารถทำเควสต์เปลี่ยนเป็นจ็อบได้ต่อเนื่องกันทันที โดย NPC ของคลาสจะส่งผู้เล่นไปหา NPC สำหรับเปลี่ยนจ็อบเองในเควสต์สุดท้าย ไม่สามารถข้ามหรือลัดขั้นตอนไปหา NPC จ็อบเพื่อเปลี่ยนก่อนได้ (และต้องผ่านเควสต์เนื้อเรื่องหลักเลเวล 20 ถึง Sylph-management ก่อน) ซึ่งจ็อบเริ่มต้นจะมีด้วยกัน 10 จ็อบ ดังนี้
- Class: Gladiator > Job: Paladin
- Class: Marauder > Job: Warrior
- Class: Pugilist > Job: Monk
- Class: Lancer > Job: Dragoon
- Class: Archer > Job: Bard
- Class: Thaumaturge > Job: Black Mage
- Class: Conjurer > Job: White Mage
- Class: Arcanist > Job: Summoner/Scholar
คลาสนี้จะพิเศษคือเมื่อเลเวล 30 จะสามารถเปลี่ยนเป็นจ็อบ 2 จ็อบที่มีโรลแตกต่างกันได้ แต่แชร์เลเวลร่วมกัน สามารถสับเปลี่ยนระหว่าง Summoner กับ Scholar ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเก็บเลเวลใหม่ เพราะเลเวลของ 2 จ็อบนี้จะไปขึ้นที่ Arcanist ซึ่งเป็นคลาสเริ่มต้นของทั้งคู่
- Class: Rogue > Job: Ninja
คลาสนี้จะไม่มีให้เลือกตอนสร้างตัวเนื่องจากเป็นคลาสที่เพิ่มมาภายหลังใน 2.4 แต่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนได้ทันทีเมื่อเก็บเลเวลคลาสใดๆ ถึงเลเวล 10 เช่นเดียวกับคลาสอื่น (หากต้องการเล่นคลาสนี้ตั้งแต่เริ่มต้นแนะนำให้เลือก Marauder หรือ Arcanist เนื่องจากเริ่มต้นที่เมืองเดียวกัน)

Extra Jobs
Extra Jobs เป็นจ็อบพิเศษที่เพิ่มมาเมื่อมี Expansion ใหม่ โดยจ็อบพวกนี้จะไม่มีคลาสเริ่มต้น จะเริ่มต้นที่จ็อบเลยและมีเลเวลเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป ตามเงื่อนไขดังนี้

Extra Jobs 3.0
เป็นจ็อบที่เพิ่มมาใน 3.0 Heavensward มีเงื่อนไขในการเปลี่ยนจ็อบคือต้องมีจ็อบสายสู้ใดๆ เลเวล 50 และผ่านเควสต์เนื้อเรื่องหลักเลเวล 50 จนผ่าน Before the Dawn เพื่อเข้าเมืองใหม่ของ 3.0 เมือง Ishgard ถึงจะเปลี่ยนได้เนื่องจาก NPC เปลี่ยนจ็อบอยู่ในเมืองดังกล่าว มีเลเวลเริ่มต้นที่เลเวล 30 ได้แก่ Dark Knight , Machinist และ Astrologian

Extra Jobs 4.0
เป็นจ็อบที่เพิ่มมาใน 4.0 Stromblood มีเงื่อนไขในการเปลี่ยนจ็อบคือต้องมีจ็อบสายสู้ใดๆ เลเวล 50 ต่างจาก 3.0 คือไม่จำเป็นต้องทำเควสต์เนื้อเรื่องถึง 50 ก็ได้ ขอแค่มีจ็อบใดๆ เลเวล 50 ก็พอ มีเลเวลเริ่มต้นที่เลเวล 50 ได้แก่ Samurai และ Red Mage

Extra Jobs 5.0
เป็นจ็อบที่เพิ่มมาใน 5.0 Shadowbringer มีเงื่อนไขในการเปลี่ยนจ็อบคือต้องมีจ็อบสายสู้ใดๆ เลเวล 60 เช่นเดียวกับ 4.0 คือไม่จำเป็นต้องทำเควสต์เนื้อเรื่องถึง 60 ขอแค่มีจ็อบใดๆ เลเวล 60 ก็พอ มีเลเวลเริ่มต้นที่เลเวล 60 ได้แก่ Gunbreaker และ Dancer

Extra Jobs 6.0
เป็นจ็อบที่เพิ่มมาใน 6.0 Endwalker มีเงื่อนไขในการเปลี่ยนจ็อบคือต้องมีจ็อบสายสู้ใดๆ เลเวล 70 เช่นเดียวกับ 4.0 คือไม่จำเป็นต้องทำเควสต์เนื้อเรื่องถึง 70 ขอแค่มีจ็อบใดๆ เลเวล 70 ก็พอ มีเลเวลเริ่มต้นที่เลเวล 70 ได้แก่ Reaper และ Sage

Limited Job
เป็นจ็อบพิเศษที่ไม่สามารถนำไปใช้ดำเนินเนื้อเรื่องได้ ไม่สามารถใช้ระบบสุ่มปาร์ตี้ได้ ต้องตั้งปาร์ตี้ขึ้นมาเองเท่านั้น และจะมีเลเวลแคปที่แตกต่างจากจ็อบอื่น ขณะนี้มีเพียง Blue Mage เพียงจ็อบเดียว จ็อบนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใส่คุณลักษณะของจ็อบที่มีความอิสระสูง ปรับสมดุลยากในการเล่นแบบปาร์ตี้ จะมีคอนเทนท์พิเศษเป็นของตัวเองที่ไม่เกี่ยวกับคอนเทนท์หลัก เป็นแนวพัซเซิลใช้สมองประลองปัญญา
[Edited 1 times Kuroyami - Last Edit 2021-10-20 22:31:15]

# Wed 20 Oct 2021 : 10:14PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
Disciples of War
เป็นสายต่อสู้ที่เน้นใช้การโจมตีทางกายภาพเป็นหลัก การใช้งานสกิลต่างๆ จะอิงค่า Physical Damage มีเพียงส่วนน้อยที่จะมีการโจมตีแบบ Magic บ้างแต่จะไม่ใช่การโจมตีหลัก เวลาคำนวนการโจมตีจะอิงกับค่า Physical Damage ของจ็อบเป็นหลัก

Tank
Paladin: PLD อัศวินผู้ปฏิญาณตนเพื่อพิทักษ์ผู้อื่นด้วยดาบและโล่

อาวุธ - ดาบมือเดียวและโล่ (Sword and Shield)
ความสามารถเฉพาะ
- Paladin เป็นอัศวินที่ใช้เทคนิคการต่อสู้ในสังเวียนโคลีเซียมร่วมกับการใช้เวทแสงเพื่อโจมตีศัตรู ป้องกันความเสียหาย และฟื้นฟู HP
- การโจมตีของ Paladin จะใช้คอมโบ 2 คอมโบฟื้นฟู MP และเสริมการโจมตีแบบ DoT สลับกับการใช้เวทแสงจู่โจมศัตรูเป็นหลัก รูปแบบการโจมตีง่ายๆ ตรงๆ คือกดบัพเพิ่มโจมตีและโจมตีคอมโบกายภาพเพื่อฟื้นฟู MP สลับกับคอมโบการใช้เวทย์เวียนกันไป ในระดับสูงจะเพิ่มคอมโบเวทดาบมาแทนการโจมตีปกติเมื่อใช้สกิลที่เกี่ยวข้องด้วย
- มีความสามารถในการป้องกันอัตโนมัติที่เหนือกว่าแทงค์อื่นๆ สามารถใช้โล่ป้องกันการโจมตีได้ (Block) นอกเหนือจากการปัดป้องด้วยอาวุธ (Parry) ในขณะที่แทงค์อื่นๆ จะมีแค่การปัดป้องเพียงอย่างเดียว
- มีความโดดเด่นที่สกิลป้องกันตัวเองที่ใช้ได้บ่อยสามารถลดทอนความเสียหายและฮีลไปพร้อมๆ กันได้
- มีสกิลป้องกันตัวเองฉุกเฉินที่ดีที่สุดเป็นการป้องกันสมบูรณ์แบบที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการใช้งาน แต่แลกด้วย CD ที่นานที่สุดในกลุ่มแทงค์
- สกิลป้องกันความเสียหายให้ปาร์ตี้เป็นแบบลดความเสียหาย 15% แต่มีข้อจำกัดคือห้ามเคลื่อนที่ขณะใช้งานและเอฟเฟคต์เป็นรูปโคน และสกิลสร้างบาเรียและฮีลให้ปาร์ตี้เมื่อได้รับการฮีล

Warrior: WAR นักรบผู้กำราบสัตว์ร้ายในตัวเองและระเบิดมันออกมาเป็นความบ้าคลั่งในการสยบศัตรู

อาวุธ - ขวานสองมือ (Great Axe)
ความสามารถเฉพาะ
- Warrior เป็นแทงค์ที่เน้นรูปแบบการโจมตีแบบป่าเถื่อน มีคอมโบ 2 รูปแบบที่สามารถเพิ่มพลังโจมตี และฟื้นฟู HP ตัวเองได้
ลูกเล่นเฉพาะตัวคือการสะสมแหล่งพลังงาน Beast Gauge ผ่านการโจมตีด้วยคอมโบ เพื่อนำไปใช้ท่าที่มีความรุนแรงสูงทั้งเดี่ยวและกลุ่ม
- สกิลป้องกันโดดเด่นที่การวิธีการฮีลตัวเองที่หลากหลายทั้งกับตัวเองและสมาชิกในปาร์ตี้ รวมทั้งลดความเสียหายให้สมาชิกในปาร์ตี้ได้อีกด้วย
- สกิลป้องกันตัวเองฉุกเฉินไม่ใช่แบบป้องกันความเสียหาย แต่เป็นการทำให้ HP ของตัวเองไม่ลดต่ำกว่า 1 และทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้ดังนั้นรูปแบบการใช้งานจะยุ่งยากเล็กน้อย เนื่องจากประสิทธิภาพป้องกันต่ำ CD จึงจะสั้นกว่าของแทงค์อื่น
- สกิลป้องกันความเสียหายให้ปาร์ตี้ใช้งานง่ายเพราะเป็นแบบรอบตัวผู้ใช้ มีความพิเศษกว่าการป้องกันของแทงค์อื่นคือเป็นการสร้างบาเรียจาก Maximum HP 15% และเพิ่มได้อีกเมื่อสละบัพเฉพาะตัวของตัวเอง ดังนั้นจะมีดีกว่าหรือแย่กว่าแทงค์อื่นขึ้นอยู่กับความแรงการโจมตีหมู่ของศัตรูเป็นหลัก

Dark Knight: DRK อัศวินมืดผู้ดูดกลืนพลังด้านลบเพื่อใช้ต่อกรกับความอยุติธรรมที่ไม่ได้รับการตอบสนอง

อาวุธ - ดาบใหญ่สองมือ (Greatsword)
ความสามารถเฉพาะ
- Dark Knight เป็นจ็อบที่ดัดแปลงจาก Dark Knight ในซีรีส์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง FF4 และ FFT โดยเปลี่ยนมาใช้ MP เพื่อแสดงถึงพลังด้านมืดที่บั่นทอนจิตใจแทน HP เพื่อให้เหมาะสมกับเมคานิคของเกมและการเป็นแทงค์ใน FF14
- การโจมตีของ Dark Knight จะมีคอมโบแบบเดียวสำหรับฟื้นฟู MP และ HP แต่จะมีลูกเล่นการโจมตีเสริมจากแหล่งพลังงานอื่นหลายรูปแบบผสมผสานกัน เช่น ท่าโจมตีกายภาพที่ใช้ Blood Gauge ซึ่งสะสมจากการโจมตี และเวทที่ใช้ MP สูงที่จะช่วยเปิดโหมด Darkside เพื่อเพิ่มพลังโจมตีชั่วระยะเวลาหนึ่งได้
- มีบาเรียป้องกันตนเองที่เมื่อบาเรียแตกแล้วจะได้บัพ Dark Art ซึ่งทำให้สามารถใช้ท่าที่เสีย MP โดยไม่เสีย MP ได้ นอกจากนี้ยังมีบัพป้องกันเฉพาะ Magic ให้ตัวเองที่แทงค์อื่นๆ ไม่มี
- ในระดับสูงสามารถสร้างร่างเงา Living Shadow มาช่วยสนับสนุนการโจมตีได้ด้วย
- สกิลป้องกันตัวเองฉุกเฉินไม่ใช่แบบป้องกันความเสียหาย แต่เป็นการทำให้เมื่อ HP ของตัวเองเป็น 0 จะไม่เข้าสู่สถานะ KO เป็นเวลา 10 วินาที การโจมตีต่างๆ จะไม่ทำให้ HP ต่ำกว่า 1 หากฟื้นฟู HP 100% ในระหว่างสถานะนั้นได้ก็จะไม่ KO ดังนั้นรูปแบบการใช้งานจะยุ่งยากและต้องประสานงานกับฮีลให้ดี
- สกิลป้องกันความเสียหายให้ปาร์ตี้จะป้องกันได้แค่การโจมตีแบบเวทเท่านั้น แต่ CD ก็จะสั้นกว่าแทงค์อื่นๆ เช่นเดียวกัน

Gunbreaker: GNB ผู้ใช้เพลงดาบที่ผสมผสานเทคนิคการประจุกระสุนเวทเพื่อปลดปล่อยความสามารถที่หลากหลาย

อาวุธ - กันเบลด (Gunblade)
ความสามารถเฉพาะ
- ชื่อจ็อบเป็นการเล่นคำระหว่าง Gunblade กับ Breaker ที่หมายถึงผู้เป็นแนวหน้าทะลุทะลวงศัตรู แต่ Lore ในเกมจะเล่าเป็นอย่างอื่น Gunblade ของจ็อบนี้เป็นคนละแบบกับ Garlean Empire ศัตรูของเราใช้ มีที่มาแตกต่างกัน
- คอมโบโจมตีหลักมีเพียงอันเดียว สามารถฟื้น HP และสร้างบาเรียอ่อนๆ ได้ แต่จะมีลูกเล่นพิเศษคือคอมโบนี้สามารถสะสมกระสุนเวทเพื่อไว้ใช้ในการทำคอมโบพิเศษอีนอันหนึ่งที่มีความต่อเนื่องและความรุนแรงสูงต่อไปได้
- มีความสามารถในการป้องการที่หลากหลายทั้งการฮีล การสร้างบาเรียที่ใช้กับสมาชิกในปาร์ตี้ได้ บัพป้องกันโดยตรง บัพเพิ่มอัตราการปัดป้อง แต่ประสิทธิภาพจะไม่เท่ากับแทงค์อื่นที่มีสกิลจำกัดกว่า
- สกิลป้องกันตัวเองฉุกเฉินเป็นการป้องกันสมบูรณ์แบบ แต่จะลด HP ลงเหลือ 1 ดังนั้นต้องประสานงานกับฮีลให้ดีเวลาใช้งาน
- สกิลป้องกันความเสียหายให้ปาร์ตี้จะป้องกันได้แค่การโจมตีแบบเวทเท่านั้น แต่ CD ก็จะสั้นกว่าแทงค์อื่นๆ เช่นเดียวกัน

# Wed 20 Oct 2021 : 10:15PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
Melee DPS
Dragoon: DRG อัศวินมังกรผู้ใช้พลังของมังกรร่วมกับการกระโดดอันทรงพลังเพื่อการป้องกันอันแข็งแกร่ง

อาวุธ - อาวุธด้ามยาว (Polearm) เช่น หอก หลาว ทวน ง้าว ไม้พลอง เป็นต้น
ความสามารถเฉพาะ
- Dragoon เน้นใช้การกระโดดที่หลากหลายร่วมกับตีคอมโบ แต่มีข้อเสียคือมี Animation Lock ซึ่งแม้ตัวจะไม่อยู่ในหน้าจอแต่มันไม่ได้ทำให้ตัวผู้เล่นเป็นอมตะระหว่างใช้สกิล ยังสามารถโดนการโจมตีได้เหมือนการเดินผ่านตามปกติแต่ไม่สามารถเคลื่อนหลบได้เพราะติด animation อยู่ ดังนั้นแม้จะออกท่าได้เร็วแต่ก็ต้องใช้อย่างรอบคอบด้วย
- คอมโบการโจมตีของ Dragoon จะมีคอมโบพื้นฐาน 2 แบบ มีความซับซ้อนน้อย การจำกัดทิศทางต่ำคือมีแค่โจมตีแรงอย่างเดียวไม่จำกัดทิศทางกับตีหลังเพื่อเพิ่มบัพโจมตีให้ตนเอง แต่ในระดับสูงจะมีเพิ่มคอมโบลำดับที่ 4 และ 5 ที่สมามารถใช้สลับกันได้ซึ่งเข้มงวดเรื่องการตีทิศทางให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ใช้คอมโบอันสุดท้ายที่มีความแรงสูง และการตีคอมโบที่ถูกต้องจะช่วยสะสมพลังงานสำหรับใช้เท่าโจมตีด้วยพลังมังกรเสริมได้อีก
- มีการโจมตีที่ช้าเพราะไม่มีบัพเสริมความเร็วในการโจมตีของตัวเองแบบ Melee DPS อื่น แต่การโจมตีต่อครั้งก็จะมีความรุนแรงกว่า Monk และ Ninja
- มีการโจมตีเสริมที่สะสมพลังงานจากท่ากระโดดเพื่อใช้ท่าพลังมังกรสำหรับการโจมตีอลังกการเพิ่มเติมด้วย
- มีความสามารถสนับสนุนการโจมตีให้กับปาร์ตี้ด้วยบัพเพิ่มคริติคอลให้กับทั้งปาร์ตี้ และความสามารถในการลิงค์กับสมาชิกในปาร์ตี้หนึ่งคนเพื่อเพิ่มพลังโจมตีร่วมกัน

Reaper: RPR ผู้เก็บเกี่ยวแห่งเทศกาลโลหิตซึ่งผูกมัดตัวเองกับสิ่งมีชีวิตประหลาดจากโลกต่างมิติเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังอันเปี่ยมล้นจากการกลืนกินวิญญาณของผู้ถูกสังหาร

อาวุธ - เคียว (Scythe)
ความสามารถเฉพาะ
- Reaper เป็น Melee DPS ที่มีการโจมตีคอมโบที่ซับซ้อนหลายชั้น จากการเก็บแหล่งพลังงานที่แตกต่างกัน ในแต่ละขั้น
- ขั้นแรกจะต้องเก็บแหล่งพลังงาน Soul Gauge จากคอมโบพื้นฐานที่ไม่มีผลลัพธ์พิเศษและไม่มีข้อจำกัดทิศทางการโจมตี
- เมื่อสะสม Soul Gauge เกิน 50 จะสามารถเรียกอวาตาร์ซึ่งจะมีท่าโจมตีที่ให้บัพ Soul Reaver เพื่อเปิดคอมโบโจมตีที่มีข้อจำกัดทิศทางเพิ่มมาให้ใช้เพื่อสะสมพลังงานที่เรียกว่า Shroud Gauge สลับกับอัพเกรดท่าที่ให้ Soul Reaver
- เมื่อสะสม Shroud Gauge เกิน 50 จะสามารถเป็นร่างสถิตย์ของอวาตาร์ได้ และจะได้แหล่งพลังงานใหม่ที่ชื่อ Lemure Shroud ซึ่งจะนำไปใช้กับท่าโจมตีที่ได้พลังงาน Void Shroud ที่จะนำไปใช้กับท่าคอมโบปิดท้ายที่มีความแรงสูงต่อไป
- มีความสามารถเพิ่มโจมตีหมู่ให้ปาร์ตี้และสะสมพลังงานจากการโจมตีของสมาชิกในปาร์ตี้เพื่อเพิ่ม Shroud Gauge ให้อีกทาง
มีความสามารถอรรถประโยชน์เล็กน้อยที่ช่วยสามารถสร้างประตูสำหรับเคลื่อนที่ไปกลับอย่างรวดเร็วได้ และมีความสามารถสร้างบาเรียที่เมื่อใช้หมดแล้วจะสามารถฮีลสมาชิกในปาร์ตี้ได้

Monk: MNK นักวิทยายุทธ์ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้มือเปล่าและการใช้จักระ

อาวุธ - อาวุธประเภทที่ต้องสวมมือ (Fist Weapons) เช่น สนับ กงเล็บ ถุงมือ คาตาร์ ปลอกแขนติดดาบ ทอนฟา เป็นต้น
ความสามารถเฉพาะ
- Monk มีคอมโบการโจมตีที่แตกต่างจากสายประชิดอื่นๆ คอมโบของ Monk จะไม่สามารถกดข้ามลำดับได้ ต้องกดตามลำดับฟอร์มที่เกิดขึ้นจากการใช้คอมโบก่อนหน้า แต่จะมีความยืดหยุ่นในการกดคอมโบมากกว่าอาชีพอื่นๆ ผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนสลับท่าต่างๆ ของคอมโบในแต่ละรอบได้ตามความต้องการ
- มีเรื่องทิศทางการโจมตีในหลายสกิลหลักพอสมควรจะให้ได้พลังโจมตีเต็มประสิทธิภาพจะต้องโจมตีศัตรูในทิศทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเมื่อมีระดับสูงขึ้นจะมีเครื่องมือช่วยลดข้อจำกัดในการโจมตีให้มากขึ้น
มีแพสซีพชื่อ Greased Lightning ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีตามระดับเลเวล ที่เลเวลสูงสุดจะเพิ่มให้ถึง 20% ทำให้เป็นจ็อบที่โจมตีได้เร็วที่สุด
- มีแหล่งพลังงานเฉพาะตัวคือ Chakra Gauge ซึ่งสามารถสะสมได้ด้วยการกดสกิล Meditation เวลาโจมตีศัตรูไม่ได้ ในระดับสูงจะมีโอกาสสะสมอัตโนมัติจากการโจมตีแบบคริติคอลได้อีกทางหนึ่ง เมื่อสะสมครบ 5 จักระจะสามารถใช้การโจมตีที่มีความรุนแรงสูงทั้งแบบเดี่ยวและหมู่ได้
มีความสามารถสนับสนุนการโจมตีให้กับปาร์ตี้ด้วยบัพ Brotherhood ที่สามารถเพิ่มพลังโจมตีให้สมาชิกรอบตัว และบัพนี้ยังช่วยเพิ่มโอกาสที่ Monk - จะได้จักระจากการโจมตีของสมาชิกที่อยู่รอบๆ อีกด้วย ทำให้ใช้ท่าจักระได้บ่อยขึ้นเป็นการเพิ่มพลังโจมตีทางอ้อมให้กับ Monk นอกจากนี้ยังมีบัพเพิ่มอัตราการฟื้นฟู HP จากเวทฮีลให้ปาร์ตี้อีกด้วย
- ในระดับสูงจะมีการเพิ่มอีกคอมโบหนึ่งที่เรียกว่า Masterful Blitz ที่จะสะสม Beast Chakra จากสกิลโจมตีคอมโบพื้นฐานในขณะที่ใช้ Perfect Balance จะทำให้สามารถใช้งานสกิลโจมตีเฉพาะที่มีความรุนแรงสูงได้

Samurai: SAM ซามูไรนักดาบคุณธรรมผู้ยึดถือในวิถีแห่งดาบจากยุคสมัยอันวุ่นวายในดินแดนตะวันออกไกล

อาวุธ - คาตานะ (Katana)
ความสามารถเฉพาะ
- Samurai เป็นจ็อบที่เน้นทำความเสียหายด้วยตนเองสูงแลกกับไม่มีความสามารถสนับสนุนการโจมตีให้ปาร์ตี้เลย ความสามารถในการโจมตีที่สูงมากของ Samurai จึงไม่ทำให้เกิดความแตกต่างด้านพลังโจมตีโดยรวมเมื่ออยู่แบบ Full Party อย่างเห็นได้ชัดกับปาร์ตี้ที่ไม่มี Samurai แต่มีจ็อบที่สามารถสนับสนุนปาร์ตี้ได้ ความแตกต่างของพลังโจมตีนี้จะเห็นเฉพาะเวลาลุยเดี่ยวหรือ Light Party 4 คนที่มี DPS น้อย
- ความสามารถเฉพาะของ Samurai คือการใช้คอมโบที่แตกต่างกันเพื่อสะสมตราสัญลักษณ์ Sen 3 แบบ เพื่อนำไปใช้กับท่า Iaijutsu ที่มีความแตกต่างกันตามจำนวน Sen ที่เก็บได้ ดังนั้นรูปแบบคอมโบของ Samurai ค่อนข้างตายตัว ต้องใช้ทุกอันเวียนกันตลอดเวลาเพื่อเก็บตราสัญลักษณ์ Sen ให้ครบโดยไม่ต้องรอเวลาบัพหมด มีข้อจำกัดเรื่องทิศทางในการโจมตีที่ไม่ส่งผลต่อพลังโจมตีโดยตรงแบบจ็อบอื่นแต่จะส่งผลกับการเก็บ Kenki Guage สำหรับใช้ท่าไม้ตายซึ่งจะส่งผลต่อความเสียหายที่ทำได้ในระยะยาว นอกจากนี้มีคอมโบท่าหมู่ที่สามารถเก็บ Sen ได้เช่นเดียวกัน
- มีคอมโบพื้นฐาน 3 แบบที่จะมีบัพให้ตัวเอง 2 อันคือ คือ เสริมพลังโจมตีให้ตัวเอง 13% และเสริมความเร็วในการโจมตี 13%
- มีแหล่งพลังงานเฉพาะตัวคือ Kenki Gauge ที่ได้จากการโจมตีแบบคอมโบสำเร็จถูกเป้าหมายและจะได้เพิ่มพิเศษหากตีในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำไปใช้กับท่าประเภท Hissatsu ที่มีความหลากหลายตามสถานการณ์ เช่น บัพเพิ่มพลังโจมตีของสกิล โจมตีเพิ่มเติมแบบไม่ติด CD แบบรุนแรง กระโดดถอยออกอย่างรวดเร็ว การพุ่งไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เป็นต้น
- ในระดับสูงจะมีการใช้ท่าต่างๆ สะสมพลังงานที่ชื่อ Meditation เพื่อใช้ท่าโจมตีที่รุนแรงเพิ่มมา และมีการโจมตีต่อเนื่องหลังจากใช้ท่าไม้ตายต่างๆ เพิ่มเติม

Ninja: NIN นินจาศาสตร์แห่งการลอบเร้นอันลึกลับจากดินแดนตะวันออกไกล

อาวุธ - มีดและดาบสั้นคู่ (Knife, Dagger, Ninja Sword)
ความสามารถเฉพาะ
- ความสามารถเฉพาะตัวของ Ninja คือการใช้ Mundra ซึ่งเมื่อผสมรูปแบบสัญลักษณ์ 3 ชนิดที่แตกต่างกันได้แก่ Ten, Chi, Jin จะสามารถแสดงผลออกมาเป็นสกิล Ninjutsu ที่มีความหลากหลายได้ถึง 7 แบบให้ใช้ได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม เช่น โจมตีระยะไกล โจมตีเดี่ยว โจมตีหมู่ เพิ่มความเร็ว ยึดขาศัตรู ทำให้ใช้สกิลโจมตีพิเศษโดยไม่ต้องหายตัวได้ เป็นต้น ในระดับสูงจะมีสกิลอัพเกรด Ninjutsu ให้มึคุณสมบัติเปลี่ยนแปลงด้วย
- Ninja มีบัพเสริมความเร็วในการโจมตีของตนเอง 15% นาน 60 วินาที แต่สามารถต่อเวลาได้หากโจมตีแบบคอมโบตามที่กำหนด ทำให้คงสภาพบัพนี้ได้ไม่ยากหลังจากใช้ครั้งแรก
- คอมโบของ Ninja มี 2 แบบ คือ ตีข้างเพื่อต่อเวลาบัพเพิ่มความเร็ว และตีหลังเพื่อโจมตีอย่างรุนแรง มีข้อจำกัดด้านทิศทางเฉพาะในคอมโบลำดับสุดท้าย
- มีแหล่งพลังงานเฉพาะตัวคือ Ninki Gauge ที่จะสะสมเมื่อใช้สกิลโจมตีต่างๆ สามารถนำไปใช้ Ninjutsu พิเศษเสริมการโจมตีได้ทั้งโจมตีหมู่ โจมตีเดี่ยว
- มีความสามารถสนุนการโจมตีให้กับปาร์ตี้ด้วยสกิล Trick Attack ที่จะทำให้เป้าหมายโดนการโจมตีทุกชนิดแรงขึ้นถึง 5% 15 วินาที ทุกๆ 1 นาที ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เป็นสายโจมตีระยะประชิดที่โจมตีเบาที่สุดเพื่อชดเชยความสามารถสนับสนุนปาร์ตี้
- ในระดับสูงจะมีการเพิ่มการโจมตีต่อเนื่องหลังจากใช้สกิลโจมตีเดิมเพิ่มขึ้นมาให้อีก
[Edited 1 times Kuroyami - Last Edit 2021-10-21 14:04:12]

# Wed 20 Oct 2021 : 10:15PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
Physical Ranged DPS
Bard: BRD ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การใช้ธนูร่วมกับการใช้บทเพลงเพื่อเสริมพลังให้กับพวกพ้องในสนามรบ

อาวุธ - ธนู (Bow)
ความสามารถเฉพาะ
- Bard ในเกมนี้มีคอนเซปต์เป็นนักธนูที่ใช้การขับร้องและการดีดสายธนูเพื่อสร้างบทเพลงที่ช่วยเสริมพลังกับพวกพ้องมากกว่าที่จะเป็นนักกวีแต่เพียงอย่างเดียว การโจมตีจึงไม่ได้เน้นการร้องรำทำเพลงมาก แต่จะเน้นการยิงธนูอย่างมีสไตล์ร่วมกับการเล่นดนตรีเป็นหลัก ใครที่ชอบสไตล์นักล่าหรือนายพราน (Hunter/Ranger) ก็ยังมีเครื่องแต่งกายแนวนี้ให้เลือกใช้แต่งตัว ไม่ได้จำกัดว่า Bard ต้องแต่งตัวแบบวนิพกพเนจรแต่อย่างเดียว
- Bard เน้นการโจมตีแบบที่ทำความเสียหายตามระยะเวลา (Damage over time: DoT) เพื่อให้เกิด proc (เงื่อนไขสุ่มเกิดที่เป็นเงื่อนไขสำหรับการใช้สกิลอื่น) ขณะเล่นเพลง ร่วมกับการใช้สกิลโจมตีอื่นๆ เสริมในระหว่างที่ DoT ทำความเสียหายและรอจังหวะ proc เด้ง
- Bard สามารถใช้เพลงที่หลากหลายในการสนับสนุนการโจมตีและป้องกัน โดยเพลงหลักที่ใช้ในการโจมตีจะมีด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งแต่ละเพลงจะมีผลพิเศษแตกต่างกันเมื่อเกิด proc สถานะที่ชื่อ Repertoire ขึ้นมา ผลลัพธ์ของแต่ละเพลงมีรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกันทำให้เหมาะสมที่จะรองรับในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
- นอกจากนี้เพลง Bard ยังมีความสามารถสนับสนุนการโจมตีให้ปาร์ตี้ด้วยบัพสเตตัสเล็กน้อยจากเพลงโจมตีทั้งสามและยังมีบัพเพิ่มสเตตัสหมู่ที่ใช้ขณะเล่นเพลงได้ รวมไปถึงบัพเพิ่มโจมตีเมื่อเวียนเพลงทั้งสามครบ ไม่เพียงเฉพาะด้านโจมตีด้านป้องกันก็สามารถลดทอนความเสียหายให้ทั้งปาร์ตี้และล้างสถานะผิดปกติให้กับสมาชิกได้
- ในระดับสูง Bard จะมีการเก็บ Soul Voice Gauge จากการติด Repertoire เพื่อใช้การโจมตีที่มีความแรงเพิ่มได้อีกทางหนึ่ง

Machinist: MCH ผู้ใช้สิ่งประดิษฐ์จักรกลและเทคนิคการยิงปืนอันแพรวพราวเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ในสมรภูมิยุคใหม่

อาวุธ - อาวุธปืน (Firearm)
ความสามารถเฉพาะ
- คอนเซปต์ของ Machinist เกมนี้เป็นส่วนผสมระหว่าง Stylish Gunslinger กับ Gadget User ของหลายๆ จ็อบในซีรีส์ นอกจากยิงปืนแล้ว สกิลที่เน้นใช้การโจมตีด้วยสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ก็มีมากด้วยเช่นกัน
- Machinist เป็นเพียง Physical Ranged DPS เดียวที่เน้นการโจมตีโดยตรงเป็นหลัก ไม่เน้นการสุ่ม proc แบบอีกสองจ็อบในโรลเดียวกัน การโจมตีจะเน้นการยิงปืนแบบคอมโบร่วมกับอบิลิตี้ที่ไม่ติด GCD สอดแทรกเข้าไปในการโจมตี ทำให้เป็นจ็อบที่เสมือนโจมตีได้อย่างรวดเร็วเพราะมีการใช้สกิลโจมตีแทรกระหว่างคอมโบบ่อยมาก และการโจมตีต่างๆ ของ Machinist จะใช้เพื่อสร้างแหล่งพลังงานด้วยกันสองแบบคือ Heat Gauge และ Battery Gauge
- Heat Gauge จะทำให้สามารถใช้สกิลพิเศษซึ่งมีทั้งเดี่ยวและหมู่ ที่สามารถสร้างความเสียหายได้รวดเร็วกว่า GCD ปกติชั่วระยะเวลาหนึ่ง รวมทั้งลด CD ของสกิลโจมตีแทรกเพื่อสร้างความเสียหายชั่วขณะให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- Battery Gauge จะใช้สำหรับเรียกผู้ช่วยสนับสนุนการโจมตีชั่วคราว เริ่มต้นจะเป็นป้อมปืนอัตโนมัติ และในระดับสูงจะสามารถเรียกหุ่นยนต์มาช่วยได้
- สำหรับด้านการสนับสนุนปาร์ตี้ Machinist มีเพียงแค่การลดทอนความเสียหายหมู่และการขัดขวางการโจมตีเช่นเดียวกับจ็อบอื่นๆ ในโรลเดียวกันที่มีสกิลสองอันนี้เหมือนกัน แต่นั่นก็ทำให้ Machinist มีความสามารถด้านการโจมตีด้วยตัวเองสูงสุดของการโจมตีกายภาพระยะไกล

Dancer: DNC ดอกไม้แห่งสนามรบผู้ใช้การเต้นอันยั่วยวนควบคู่ไปกับศิลปะการขว้างอาวุธระยะไกล

อาวุธ - อาวุธขว้าง (Throwing Weapon)
ความสามารถเฉพาะ
- Dancer เป็นสาย DPS แบบ Priority based ที่มีการโจมตีหลักเป็นคอมโบสั้นๆ เน้นการ proc เป็นหลัก เมื่อโจมตีด้วยคอมโบแล้วจะมีโอกาส 50% ที่จะ proc ท่าแบบอัพเกรด ซึ่งท่าแบบอัพเกรดนี้ก็จะมีโอกาสอีก 50% ที่จะสะสมสแต็กระบำพัดซึ่งเป็นการโจมตีที่ไม่ติด GCD แบบเดี่ยวระยะไกลหรือแบบหมู่ระยะใกล้ และท่าระบำพัดนี้ก็มีโอกาส 50% ที่จะ proc ระบำพัดแบบหมู่ระยะไกลความแรงสูงต่อได้อีก หัวใจสำคัญของจ็อบนี้คือจะจัดสรรลำดับของสกิลและ proc ต่างๆ ที่ออกมาอย่างไร และควรจะเก็บไว้ใช้ในจังหวะไหนบ้างเพื่อทำความเสียหายให้สูงสุด ในระดับสูงก็จะยิ่งมีการ proc เมื่อต่อเนื่องหลังใช้บัพต่างๆ อีก เป็นจ็อบที่เล่นกับการติด proc จำนวนมาก
- ความสามารถเฉพาะตัวคือสามารถลิงค์กับสมาชิกปาร์ตี้หนึ่งคนให้รับบัพร่วมกันจากสกิลบัพของ Dancer ได้ โดยเฉพาะบัพโจมตีแรงขึ้น 5% ที่สามารถคงไว้ต่อเนื่องไม่ยาก และการโจมตีของคู่ลิงค์ที่เลือกจะสามารถเพิ่ม Esprit Gauge ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำหรับใช้ท่าระบำดาบที่รุนแรงของ Dancer ในระดับสูงได้
- Dancer มีท่าเต้นระดับสูงที่สามารถบัพโจมตี 5% ให้กับทั้งปาร์ตี้เป็นเวลา 20 วินาที ข้อเสียของท่าเต้นเหล่านี้คือในระหว่างที่เต้น Dancer จะไม่สามารถโจมตีอัตโนมัติและใช้สกิลใดๆ ได้นอกจากการเคลื่อนที่ แต่ก็จะมีการโจมตีความแรงสูงระเบิดออกมารอบตัวเมื่อจบท่าเต้นเป็นการชดเชย ทำให้ Dancer จะอยู่ในระยะไกลตลอดเวลาไม่ได้ ต้องมีการเคลื่อนที่เข้าไปในระยะกลางบ้าง
- Dancer มีความสามารถในการโจมตีด้วยตัวเองต่ำที่สุดใน DPS โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโจมตีเป้าหมายเดี่ยว เพื่อแลกกับความสามารถในการสนับสนุนการโจมตีให้ปาร์ตี้ที่ค่อนข้างสูง
- นอกจากด้านการสนับสนุนการโจมตีแล้ว ด้านป้องกันนอกจากการลดทอนความเสียหายหมู่และการขัดขวางการโจมตีเช่นเดียวกับจ็อบอื่นๆ ในโรลเดียวกันแล้ว ยังมีความสามารถฮีลในพื้นที่แคบๆ รอบตัวเองกับคู่เต้น การเต้นอยู่กับที่ที่สามารถฮีลและสะสมสแต็กเพื่อสร้างบาเรียหมู่ให้ปาร์ตี้ได้อีก

# Wed 20 Oct 2021 : 10:15PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
Disciples of Magic
เป็นสายต่อสู้ที่เน้นการใช้เวทมนต์เป็นหลัก การใช้งานสกิลต่างๆ จะอิงค่า Magic Damage ในการคำนวณและใช้ MP เป็นแหล่งพลังงานหลักในการใช้งานเวทมนต์ต่างๆ

Magic Ranged DPS
Black Mage: BLM ผู้ใช้มนตร์ดำ นักเวทผู้ใช้พลังทำลายล้างอันทรงพลังที่หาใครเทียบไม่ได้

อาวุธ - คทาสาย INT ที่ส่วนประกอบหินเวทมนตร์ (Staff, Sceptor)
ความสามารถเฉพาะ
- Black Mage เป็นนักเวทตามมาตรฐานของ MMORPG คือร่ายเวทช้า แต่มีความรุนแรงสูงต่อครั้งสูงมาก
- อย่างไรก็ตาม Black Mage ของ FFXIV มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองคือมี MP ไม่จำกัดด้วยใช้การหมุนเวียนการโจมตีระหว่างเวทน้ำแข็งที่สามารถให้บัพที่ช่วยฟื้นฟู MP ได้อย่างรวดเร็วสลับกับเวทไฟที่ให้บัพเพิ่มพลังโจมตีเวทไฟมากยิ่งขึ้นและใช้ MP มากขึ้น และใช้เวทสายสายฟ้าเสริมการโจมตีการโจมตีแบบที่ทำความเสียหายตามระยะเวลา (DoT) ในระหว่างหมุนเวียนเวทไฟและน้ำแข็ง
- แม้จะเน้นการโจมตีแบบป้อมปืน แต่ Black Mage ใน FFXIV มีสกิลต่างๆ มากมายที่ช่วยเสริมความสามารถทั้งโจมตีและป้องกันของตนเองให้ถึงขีดสุดที่หลากหลาย เช่น การสร้างบาเรียป้องกันความเสียหายให้ตนเอง proc ที่ทำให้เวทสามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องร่าย สกิลที่ทำให้สามารถใช้เวทได้ทันทีโดยไม่ต้องร่าย สกิลช่วยทำให้เคลื่อนย้ายตำแหน่งในชั่วพริบตา สกิลเพิ่มความเร็วในการร่าย บัพที่ทำให้เวทบางตัวลดการใช้ MP หรือไม่เสีย MP เป็นต้น
- มีความสามารถในการโจมตีหมู่ให้เลือกใช้หลากหลายแบบที่สุดและล้วนแต่มีความทรงพลังในการโจมตีสูง เน้นเอฟเฟคต์อลังการ
- เป็นสาย DPS ที่เน้นสร้างความเสียหายด้วยตัวเองอย่างเดียว ไม่มีความสามารถในการสนับสนุนปาร์ตี้ใดๆ ทั้งด้านโจมตีและป้องกันนอกจากดีบัพลดการการโจมตีศัตรูประจำโรลที่ทุกจ็อบในสายนี้มีเหมือนกัน

Summoner: SMN ผู้อัญเชิญ นักเวทผู้สามารถบงการเศษเสี้ยวของไพรมอลให้มาเป็นพลังของตนเอง

อาวุธ - ตำราเวทมนตร์สาย INT (INT Grimoire)
ความสามารถเฉพาะ
- เป็นจ็อบสายโจมตีที่ใช้ Pet เพียงหนึ่งเดียวของเกมนี้ โดยเพ็ทมีใช้งานหลักคือ Carbuncle ที่มี 3 สีให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเสี้ยวพลังไพรมัลอีก 3 แบบคือ Ifrit-Egi/Titan-Egi/Garuda-Egi
- การโจมตีของ Summoner จะเน้นการใช้การเปลี่ยนโหมด Trance ต่างๆ เพื่อเพิ่มพลังโจมตีและเปลี่ยนรูปลักษณ์ของสกิลโจมตีเดี่ยวและหมู่พื้นฐานที่จะเปลี่ยนแปลงตามระดับเลเวล เริ่มจากการโจมตีด้วยเวทของตัวเอง พัฒนาเป็นการยืมพลังบาฮามุท เป็นการเรียกบาฮามุท และฟินิกซ์ในระดับสูงต่อไป และเมื่อใช้การโจมตีต่างๆ จากโหมดเหล่านี้จนหมดระยะเวลาแล้วจะช่วยปลดการโจมตีอีกรูปแบบหนึ่ง
- หลังจากการใช้โหมด Trance แล้วจะปลดล็อคให้ Summoner สามารถใช้พลังของอัญมณี 3 ธาตุได้เมื่อใช้งานแล้วเพ็ทจะระเบิดท่าไม้ตายประจำตัวและปลดความสามารถโจมตีเฉพาะของแต่ละเพ็ทให้ใช้ได้ตามจำนวนที่กำหนด ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ธาตุที่ต้องการได้โดยไม่ต้องสนลำดับ เมื่อใช้หมดแล้วสามารถฟื้นคืนกลับมาใช้ได้อีกด้วยการกลับไปใช้สกิลในโหมด Trance อีกครั้ง
- นอกจากนี้ Summoner ยังมีความสามารถสนุนการโจมตีให้กับปาร์ตี้ด้วยบัพเพิ่มพลังโจมตีให้ปาร์ตี้ การฮีลของฟินิกส์ และเป็นหนึ่งในจ็อบสายโจมตีที่สามารถฟื้นฟูสถานะต่อสู้ไม่ได้ (KO) ขณะต่อสู้ได้

Red Mage: RDM ผู้ใช้มนตร์แดง นักเวทผู้ผสมผสานระหว่างมนตร์ดำและมนตร์ขาวก่อกำเนิดเป็นศาสตร์เวทใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อาวุธ - ดาบเรเปียร์ (Rapier)
ความสามารถเฉพาะ
- ความสามารถเฉพาะของ Red Mage คือ Dual Cast ที่ทำให้เมื่อร่ายเวทใดๆ สำเร็จ (ทำความเสียหายแก่เป้าหมาย) จะทำให้เวทที่ใช้ลำดับถัดไปไม่มีเวลาร่าย ทำให้การใช้เวทของ Red Mage จะต้องเริ่มจากการใช้เวทที่โจมตีเบาแต่ร่ายได้เร็วก่อนเพื่อให้สามารถใช้เวทที่โจมตีแรงแต่ร่ายช้ามากได้ (แม้ว่าเวลาร่ายสูงกว่าเวทใหญ่ของ Black Mage มากแต่ความแรงนั้นไม่คุ้มค่าเวลาร่ายต่างจาก Black Mage)
- Red Mage มีแหล่งพลังงานเฉพาะตัวคือ Balance Gauge ที่จำเป็นต้องใช้งานคู่กับการใช้เวทโจมตี เมื่อใช้มนตร์ดำ (สายฟ้า,ไฟ) หรือมนตร์ขาว (ลม,ดิน) จะสามารถเพิ่ม Black Mana หรือ White Mana บนเกจตามชนิดเวทที่ใช้ได้ หากเป็นมนตร์แดงจะเพิ่มให้ทั้งสองเกจแต่น้อยกว่าสายตรง เมื่อสะสมได้ระดับหนึ่งจน Balance Gauge สมดุลเป็นสีแดงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการโจมตีระยะประชิดมีความรุนแรงสูงมากกว่าเวทโจมตี Red Mage จึงจำเป็นต้องใช้สกิลสนับสนุนการเคลื่อนที่เพื่อเข้าไปโจมตีระยะประชิดด้วยไม่ใช่แค่เพียงร่ายเวทจากระยะไกลแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยจะมีสกิลที่ช่วยเคลื่อนที่ออกมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน ในระดับสูงจะมีสกิลทดแทนที่ไม่ต้องเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้รองรับสถานการณ์ที่หลากหลายที่กระโดดถอยหลังได้ลำบาก นอกจากนี้ในระดับสูงจะมีการสะสมเกจ Mana Stock เพิ่มใช้คอมโบเวทต่อเนื่องเพิ่มเติมอีก
- รูปแบบการโจมตีของ Red Mage จะค่อนข้างตายตัวคือร่ายเวทเร็วๆ เพื่อใช้งานเวทช้า โดยต้องสลับเวทที่ใช้เพื่อเพิ่ม Balance Gauge อย่างสมดุล จากนั้นจึงพุ่งเข้าไประยะประชิดเพื่อใช้การโจมตีระยะประชิดที่มีความรุนแรงสูง และถอยกลับออกมากร่ายเวทใหม่เมื่อใช้งานเกจหมดแล้ว
- มีความสามารถสนุนการโจมตีให้กับปาร์ตี้ด้วยบัพเพิ่มโจมตีที่ค่อยๆ ลดประสิทธิภาพลงตามระยะเวลา และยังมีความสามารถสนุนด้านการป้องกันด้วยการเวทฮีลที่แรงเท่าสายฮีลเลอร์แต่กิน MP มากไว้ใช้ยามฉุกเฉิน บาเรียลดทอนความเสียหายให้ปาร์ตี้ รวมถึงเป็นจ็อบสายโจมตีที่สามารถฟื้นฟูสถานะต่อสู้ไม่ได้ (KO) ขณะต่อสู้ได้เช่นเดียวกันกับ Summoner

Blue Mage: BLU ผู้ใช้มนตร์น้ำเงิน นักเวทผู้ใช้ศาสตร์เวทอันแปลกประหลาดจากโลกใหม่ที่สามารถเลียนแบบอีเทอร์จากเวทของเหล่ามอนสเตอร์ได้

ความสามารถเฉพาะ
- Blue Mage เป็น Limited Job ที่ไม่สามารถนำไปใช้ดำเนินเนื้อเรื่องได้ ไม่สามารถใช้ระบบสุ่มปาร์ตี้ได้ ต้องตั้งปาร์ตี้ขึ้นมาเองเท่านั้นหากจะลงคอนเทนท์ต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น และจะมีเลเวลแคปที่แตกต่างจากจ็อบอื่น และไม่สามารถ PVP ได้เช่นกัน
- จ็อบนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใส่คุณลักษณะของจ็อบที่ปรับสมดุลยากในการเล่นแบบปาร์ตี้ และจะมีคอนเทนท์พิเศษเป็นของตัวเองที่ไม่เกี่ยวกับคอนเทนท์หลัก
- การเก็บเลเวลของ Blue Mage เน้นต่อสู้กับมอนสเตอร์ในฉากแผนที่เนื่องจากมีแพสซีพเพิ่ม EXP ให้อย่างมากเฉพาะเวลาสู้กับศัตรูในฉากแผนที่
เวทของ Blue Mage จะไม่มีการขึ้นตามเลเวล ผู้เล่นจะต้องไปเรียนรู้เองจากมอนสเตอร์ในสถานที่ต่างๆ ทั้งในฉากแผนที่ ในดันเจี้ยน และใน Trial โดยการโจมตีและให้มอนสเตอร์ตัวนั้นใช้ท่าออกมาให้เห็นก่อน
- เนื่องจากเป็นจ็อบพิเศษเวทของ Blue Mage จะไม่ค่อยมีพลังโจมตีแตกต่างกันมาก แต่จะมีรูปแบบลูกเล่นและการติดสถานะผิดปกติหลากหลายที่ใช้ประโยชน์ได้ยากในคอนเทนท์ PVE ปกติหรือไม่ก็มีความสามารถสูงจนเกินกว่าที่จะนำไปใช้เล่นในคอนเทนท์ปกติไปเลยไม่เช่นนั้นสมดุลเกมจะเสีย เช่น การแช่แข็ง ทำให้ติดชา การฮีลทั้งปาร์ตี้ตามจำนวน HP ปัจจุบัน การกางบาเรียป้องกันได้ทุกอย่าง สามารถแทงค์ฮีลได้ด้วยตัวเองในตัว เป็นต้น ทำให้ความสามารถเหล่านี้จะนำไปใช้ในคอนเทนท์พิเศษของ Blue Mage ซึ่งเป็น Solo PVE แนวไขปริศนาชื่อ The Masked Carnival ซึ่งจะมีปริศนาต่างๆ ที่ต้องใช้สกิลที่หลากหลายที่ได้ไปเรียนรู้มาผสมผสานเพื่อไขพัซเซิลของแต่ละด่าน
[Edited 2 times Kuroyami - Last Edit 2021-10-20 22:24:43]

# Wed 20 Oct 2021 : 10:15PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
Healer
White Mage: WHM ผู้ใช้มนตร์ขาว นักเวทผู้เข้าถึงจิตวิญญาณแห่งธาตุ ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งการฟื้นฟูและรังสรรค์

อาวุธ - ไม้เท้าสาย MND ที่มีส่วนประกอบจากวัสดุธรรมชาติที่มีชีวิต (Cane, Wand)
ความสามารถเฉพาะ
- White Mage เป็นฮีลเลอร์มาตรฐานตามแบบฉบับ MMORPG มีฮีลทุกรูปแบบทั้งฮีลเบากิน MP น้อย ฮีลแรงกิน MP สูงมาก ฮีลเต็มทันที ฮีลฉุกเฉิน ฮีลแบบค่อยๆ ฟื้นทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่ม สร้างพื้นที่การฮีล และสร้างบาเรียป้องกันเป้าหมายเดี่ยว เป็นฮีลที่จัดว่าเล่นง่าย เข้าใจง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ สำหรับเกมนี้จัดเป็นประเภท Pure Healer ที่เน้นการฮีลความเสียหายโดยตรง มีความสามารถลดทอนความเสียหายต่ำ
- White Mage ไม่มีความสามารถในการสนับสนุนปาร์ตี้ใดๆ นอกเหนือจากการฮีล แต่ในสิ่งที่ทำได้นั้นก็มีความโดดเด่นทั้งด้านความทรงพลังและความรวดเร็วในการฮีลและการโจมตี
- เน้นใช้เวทลม ดิน และแสงในการโจมตี ในระดับสูงจะเน้นอัพเกรดใช้แต่เวทแสงเป็นหลัก และมีเวทน้ำสำหรับสนับสนุน
- มีแหล่งพลังงานพิเศษคือ Healing Gauge ที่จะสะสมดอกลิลลี่ตามระยะเวลาในการต่อสู้ซึ่งสามารถนำไปใช้สำหรับเวทฮีลทันทีที่มีความแรงสูงได้ และในระดับสูงเมื่อใช้ลิลลี่จำนวนหนึ่ง จะทำให้ Blood Lily บานและใช้เวทโจมตีที่มีความแรงสูงมากได้

Astrologian: AST ผู้ใช้เวทดวงดาวพยากรณ์การเคลื่อนที่ของเทห์ฟากฟ้าผันแปรชะตาของตนเองและพวกพ้อง

อาวุธ - วงแหวนดารา (Star globe)
ความสามารถเฉพาะ
- Astrologian เป็น Pure Healer ที่เน้นการฮีลความเสียหายโดยตรง มีความสามารถลดทอนความเสียหายต่ำเช่นเดียวกับ White Mage แต่ฮีลระดับสูงของ Astrologian นั้นจะใช้งานยุ่งยากและมีความซับซ้อนกว่าการใช้แบบตรงไปตรงมาของ White Mage เช่น บัพป้องกันหมู่ที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ สกิลฮีลหมู่แบบวางพื้นที่ต้องรอยะเวลาแสงดผลที่แรงขึ้น สกิลป้องกันหมู่ที่ให้ฮีลปกติมีบาเรียหมู่ชั่วขณะ หรือสกิลรับความเสียหายเพื่อฮีล เป็นต้น ทำให้ต้องเน้นการวางแผนใช้งานล่วงหน้ากว่าของ White Mage
- Astrologian มีความสามารถในการสนับสนุนโจมตีสูงสุดในสายฮีลเลอร์ สามารถบัพเพิ่มพลังโจมตีให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งเป้าหมายเดี่ยวและเป้าหมายกลุ่ม แต่ก็สร้างความวุ่นวายในการเลือกเป้าหมายเล็กน้อยเมื่อต้องทำไปพร้อมๆ กับการฮีล เพราะบัพไพ่นั้นมีเวลาแสดงผลสั้น แต่ใช้งานได้ถี่ ถ้าไม่ใช้ให้ต่อเนื่องตลอดเวลาจะทำให้การโจมตีโดยรวมของปาร์ตี้ตกลงได้
- Astrologian มีลูกเล่นการสะสมตราสุริยัน จันทรา ดารา จากการบัพไพ่ต่างๆ เพื่อนำไปใช้สำหรับสนับสนุนความสามารถตัวเองเพิ่มเติมด้วย
- ใช้เวทดวงดาวและแรงโน้มถ่วงในการโจมตี แต่มีประสิทธิภาพด้านการโจมตีต่ำสุดในกลุ่มฮีลด้วยกันเพื่อชดเชยการมีบัพเสริมการโจมตีให้กับปาร์ตี้

Scholar: SCH นักยุทธศาสตร์ผู้ใช้เวทมนต์ควบคุมสนามรบและบงการแฟรี่เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับพวกพ้อง

อาวุธ - ตำราเวทมนตร์สาย MND (MND Grimoire/Codex)
ความสามารถเฉพาะ
- Scholar ของเกมนี้จัดประเภทเป็น Barrier Healer เป็นฮีลเลอร์ที่มีเวทฮีลปกติที่สามารถสร้างบาเรียลดทอนความเสียหายให้สมาชิกในปาร์ตี้ทั้งแบบเดี่ยวและหมู่ได้ สกิลต่างๆ จะเน้นลดทอนความเสียหายมากกว่าการเน้นฮีลโดยตรง
- Scholar มีแฟรี่ที่เป็นเพ็ทคอยช่วยฮีลอัตโนมัติ 2 แบบ คือ Eos และ Selene ที่แตกต่างกันแค่เพียงรูปลักษณ์ อย่างไรก็ตามฮีลของแฟรี่ไม่ได้แรงมากจนถึงขั้นทดแทนฮีลหลักของ Scholar ได้ แต่มีข้อดีคือไม่เสีย MP ทำงานออโต้ตลอดเวลา และสามารถใช้ควบคู่ไปกับฮีลปกติของ Scholar ได้
ฮีลแบบร่ายของ Scholar จะมีให้ใช้น้อยและมีความแรงไม่มาก แต่จะมีฮีลที่สามารถสร้างบาเรียเสริมการฮีลได้
- ฮีลแบบแรงของ Scholar จะเป็นแบบให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ ผ่านการบริหารแหล่งพลังงานที่สอง Aetherflow ซึ่งสามารถสะสมได้ 3 สแต็กทุกๆ 60 วินาที การตัดสินใจว่าจะใช้สกิลใดให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดในช่วง 60 วินาทีนี้เป็นหัวใจสำคัญของ Scholar
- สกิลต่างๆ ของ Scholar เป็นแบบใช้ตามสถานการณ์เฉพาะเพื่อป้องกันและลดทอนความเสียหาย เน้นการใช้งานแบบผสมผสานกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทับซ้อนกันจนมีความแรงพอสำหรับแก้ไขสถานการณ์ เนื่องมาจากความแรงของฮีลโดยตรงนั้นเบาและฮีลฉุกเฉินแม้จะใช้งานง่ายที่สุดในฮีลเลอร์แต่มันก็ยังมีจำนวนจำกัดซึ่งอาจไม่เพียงพอในสถานการณ์ฉุกเฉินได้
- มีความสามารถสนับสนุนการโจมตีของปาร์ตี้ด้วยการทำให้ศัตรูเพิ่มโอกาสโดนการโจมตีแบบคริติคอลได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีความสามารถเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ร่วมกับการดลความเสียหายให้กับปาร์ตี้ด้วย
- เวทที่ใช้โจมตีหลักคือเวทที่เกี่ยวกับสร้างสถานะผิดปกติ Bio ประจำซีรีส์ FF และเวทระเบิดความร้อนใส่เป้าหมายชื่อว่า Broil
ชื่อเวทต่างๆ ของ Scholar จะอ้างอิงเป็นชื่อคำสั่งและแผนกลยุทธ์ต่างๆ เป็นหลัก

Sage: SGE นักปราชญ์ผู้อุทิศตัวศึกษาศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจให้เพื่อความรุ่งเรืองแห่งมนุษยชาติ

อาวุธ - อุปกรณ์เวทที่ควบคุมด้วยพลังจิต (Noulith)
ความสามารถเฉพาะ
- Sage จัดประเภทเป็น Barrier Healer เช่นเดียวกับ Scholar มีความสามารถพื้นฐานส่วนใหญ่ใกล้เคียงกันไม่มีความแตกต่างกันมาก
ความสามารถเฉพาะของ Sage ที่ทดแทนการไม่มีแฟรี่แบบ Scholar คือสามารถเชื่อมโยงกับสมาชิกในปาร์ตี้ 1 คน เพื่อให้สมาชิกคนนั้นสามารถรับการฟื้นฟู เมื่อ Sage ใช้เวทโจมตีได้
- Sage เป็นเหมือนกับ White Mage ของสาย Barrier ไม่มีความสามารถในการสนับสนุนการโจมตีใดๆ ให้กับปาร์ตี้ จึงเน้นทำความเสียหายด้วยตัวเองเป็นหลักจากเวทโจมตีที่มีความหลากหลาย
- Sage มีความสามารถใช้เวท Eukrasia เพื่อเปลี่ยนคุณสมบัติเวทอื่นได้ เช่น การเปลี่ยนฮีลปกติเป็นฮีลที่มีผลสร้างบาเรีย เปลี่ยนเวทโจมตีปกติเป็นเวททำความเสียหายตามระยะเวลา เป็นต้น
- ฮีลแบบแรงของ Sage จะเป็นแบบให้เลือกใช้ตามสถานการณ์เช่นเดียวกับ Scholar ผ่านการบริหารแหล่งพลังงานที่สอง Addergall ซึ่งสามารถสะสมสูงสุดได้ 3 สแต็ก ทุกๆ 20 วินาทีต่อสแต็ก แม้รูปแบบจะคล้ายกันแต่เนื่องจากรูปแบบการได้ต่างกันทำให้วิธีการบริหารจะแตกต่างกันเล็กน้อย
- ชื่อเวทต่างๆ ของ Sage จะอ้างอิงจากศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ในยุคกรีกโบราณ
[Edited 2 times Kuroyami - Last Edit 2021-10-25 13:11:16]

# Wed 20 Oct 2021 : 10:16PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
Discipline of the Hand
สายสร้างสิ่งของในเกมนี้แตกต่างจากเกมทั่วไป การสร้างสิ่งของต้องใช้สกิลที่หลากหลายร่วมกันเพื่อสร้างของให้สำเร็จและมีประสิทธิภาพสูงสุดที่เรียกว่า High Quality ต้องมีการเก็บเลเวลเพื่อให้มีสกิลเพิ่มขึ้น มีสเตตัสที่ส่งผลกับค่าที่ได้ของสกิลต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับ % ความสำเร็จโดยตรง % ความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับการใช้สกิลสะสมแต้มขึ้นมาเอง สายสร้างสิ่งของในเกมนี้ก็เปรียบเสมือนอาชีพหนึ่งที่ต้องมาต่อสู้กับวัตถุดิบ แทนที่ต้องออกไปสู้ในแผนที่

นอกจากนี้สิ่งของและเครื่องสวมใส่ต่างๆ ในเกมนี้ไม่ได้อยู่ตายตัวเหมือนเกมอื่นๆ แต่อาชีพจะมีการผสมผสานสิ่งของที่สร้างโดยหลายๆ คลาส เช่น สายแทงค์ที่ใส่เกราะหนัก ในบางช่วงเลเวลอาจมีการใส่กางเกงที่เป็นผ้าที่สร้างโดย Weaver ถุงมือหรือเข็มขัดที่เป็นหนังที่สร้างด้วย Leatherworker ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดโลหะทั้งตัวทุกชิ้นและต้องสร้างด้วย Armorer เสมอไป เช่นเดียวกันที่สายเวทไม่จำเป็นต้องใส่ชุดผ้าทั้งตัวเสมอไป อาจมีการใส่รัดเกล้าหรือแว่นตาที่สร้างโดย Goldsmith หรือรองเท้าที่ทำด้วยหนัง เป็นต้น เครื่องประดับของเกมนี้เองก็มีชิ้นที่สร้างด้วยหนัง ผ้า หรือไม้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสร้างด้วย Goldsmith ตลอดเสมอไป ดังนั้นการเลือกสายคราฟต์เพียงคลาสเดียวเพื่อให้ตรงกับคลาสต่อสู้หลักที่ใช้เป็นไปได้ยาก

Carpenter ช่างไม้


เครื่องมือ - เลื่อย (Saw) และค้อนถอนตะปู (Claw Hammer)
ที่ตั้งกิลด์ - Gridania
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Carpenter คือไม้ต่างๆ จาก Botanist Carpenter สามารถแปรรูปไม้เหล่านั้นจากท่อนซุง เป็นแผ่นไม้เพื่อสร้างอาวุธหรือเครื่องมือที่ทำจากไม้ของ Lancer, Archer, Conjurer, เครื่องประดับไม้ รวมถึงรองเท้าไม้ นอกจากนี้ยังสามารถผลิตวัตถุดิบหลักๆ ที่ใช้สำหรับการสร้างบ้านส่วนตัวด้วย

Blacksmith ช่างตีอาวุธ


เครื่องมือ - ค้อนหัวตัดตามขวาง (Cross-pein Hammer) และตะไบ (File)
ที่ตั้งกิลด์ - Limsa Lominsa
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Blacksmith คือโลหะต่างๆ จาก Miner Blacksmith จะแปรรูปโลหะเหล่านี้เพื่อใช้ในการสร้างอาวุธและเครื่องมือที่ทำจากโลหะสำหรับหลายอาชีพ เช่น สนับและกงเล็บของ Pugilist ดาบของ Gladiator ขวานของ Marauder ดาบใหญ่ของ Dark Knight ปืนของ Machinist เคียวของ Botanist อีเต้อและค้อนของ Miner มีดของ Culinarian และ Leatherworkers ค้อนของ Goldsmith, Carpenter, Blacksmith และ Armorer เลื่อยของ Carpenter คีมของ Armorer ครกบดยาของ Alchemists เหล็กเจาะรู ของ Leatherworkers และตะไบ Blacksmith เป็นต้น

Armorer ช่างตีชุดเกราะ


เครื่องมือ - ค้อนแต่งรูป (Raising Hammer) และคีม (Pliers)
ที่ตั้งกิลด์ - Limsa Lominsa
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Armorer คือโลหะต่างๆ จาก Miner Armorer เน้นการแปรรูปโลหะต่างๆ เหล่านี้ออกเป็นแผ่น เป็นแท่ง หรือเป็นวงแหวนเพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่อในการสร้างชุดเกราะหนัก โล่ และหมวกเหล็ก หรือสร้างเครื่องมือที่ต้องอาศัยการตีเหล็กเป็นแผ่นและขึ้นรูปอย่างกระทะของ Culinarian หรือภาชนะกลั่นของ Alchemist

Goldsmith ช่างเครื่องประดับ


เครื่องมือ - ไม้ตะลุมพุก (Mallet) และหินเจีย (Grinding Wheel)
ที่ตั้งกิลด์ - Ul'dah
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Goldsmith คือสินแร่และโลหะมีราคาต่างๆ ที่ได้จาก Miner Goldsmith สามารถเจียระไนสินแร่เหล่านั้นเป็นอัญมณี และสร้างเครื่องประดับที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความสามารถและความสวยงามและให้กับนักผจญภัย Goldsmith ยังสามารถสร้างเครื่องสวมใส่ประเภทรัดเกล้าหรือแว่นต่างๆ รวมถึงคทาที่ต้องอาศัยอัญมณีเป็นสื่อกลางในการใช้เวทของ Thaumaturge และวงแหวนดาราของ Astrologian ได้อีกด้วย นอกจากนี้ Goldsmith ยังมีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์กลไก ทำให้สามารถสร้างเครื่องประดับตกแต่งบ้านอย่าง หุ่นกล นาฬิกา หรือกล่องเพลงได้ด้วยเช่นเดียวกัน

Leatherworker ช่างเครื่องหนัง


เครื่องมือ - มีดตัดหนัง (Round Knife) และเหล็กเจาะรู (Awl)
ที่ตั้งกิลด์ - Gridania
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Leatherworker ต้องอาศัยการล่าหนังจากสิ่งชีวิตต่างๆ แล้วนำมาฟอกด้วยเกลือที่ได้จาก Miner หรือไม้ที่ได้จาก Botanist Leatherworker สามารถฟอกและแปรรูปหนังสัตว์เหล่านั้นมาเป็นชุดหนังเครื่องหนังที่มีความทนทานไม่แพ้ชุดโลหะ แต่มีความคล่องตัวกว่า นอกจากนี้ยังสามารถผลิตเครื่องประดับบางอย่างที่ทำจากหนังสัตว์และเครื่องสวมใส่สำหรับสายสร้างและสายเก็บเกี่ยวได้อีกด้วย อาวุธของ Pugilist บางชิ้นที่มีหนังเป็นส่วนประกอบหลักก็จำเป็นต้องให้ Leatherworker เป็นผู้สร้างให้เช่นเดียวกัน

Weaver ช่างผ้า


เครื่องมือ - เข็ม+สะดึง (Needle) และเครื่องปั่นด้าย (Spinning Wheel)
ที่ตั้งกิลด์ - Ul'dah
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Weaver บางส่วนได้มาพืชให้เส้นใยที่เก็บเกี่ยวโดย Botanist และบางส่วนเป็นขนสัตว์ต้องอาศัยจากการล่า Weaver จะนำพืชและขนสัตว์เหล่านั้นมาปั่นเป็นด้าย และทอเป็นผ้า เพื่อนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าต่อไป ชุดที่ทำจากเส้นใยเหล่านี้มีความสามารถสนับสนุนการดึง Aether ให้กับเหล่าผู้ใช้เวทเป็นอย่างดี แม้จะมีความทนทานต่อการโจมตีทางกายภาพต่ำ แต่ชุดผ้าเหล่านี้มีความต้านทานต่อเวทสูง นอกจากนี้ยังสามารถผลิตเครื่องป้องกันที่ทำด้วยผ้าบางชิ้นให้กับสายต่อสู้ทางกายภาพ รวมถึงเครื่องสวมใส่สำหรับสายสร้างและสายเก็บเกี่ยวได้ด้วยเช่นกัน

Alchemist นักปรุงยา


เครื่องมือ - ภาชนะกลั่น (Alembic) และครกบดยา (Mortar)
ที่ตั้งกิลด์ - Ul'dah
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Alchemist ส่วนหนึ่งมาจาก Miner (แร่, น้ำธรรมชาติ) และบางส่วนต้องอาศัยจากการล่าชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตต่างๆ Alchemist สามารถนำวัตถุดิบเหล่านี้มาบดกลั่นและผลิตเป็นน้ำยาที่ช่วยเพิ่มความสามารถในช่วงเวลาสั้นๆ ชั่วขณะ ฟื้นฟูพลังชีวิตหรือพลังเวท รวมถึงสามารถผลิตยาสร้างสถานะผิดปกติและยาแก้ได้อีกด้วย Alchemist ยังมีความเชี่ยวชาญในการควบคุม Aether ของวัตถุดิบเพื่อสร้างอาวุธเวทให้กับ Conjurer และ Arcanist ได้ นอกจากนี้ Alchemist ยังมีความจำเป็นต่อการสร้างวัตถุดิบสำหรับใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างสิ่งของของอาชีพอื่นๆ เช่น น้ำยา ตัวเร่งปฎิกิริยา หรือกาว เป็นต้น

Culinarion ช่างปรุงอาหาร


เครื่องมือ - กระทะ (Frypan) และมีดทำอาหาร (Culinary Knife)
ที่ตั้งกิลด์ - Limsa Lominsa
รายละเอียด
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างสิ่งของของ Culinarian ได้มาจากหลายแหล่ง เช่น ผักผลไม้ต่างๆ จาก Botanist สัตว์น้ำต่างๆ จาก Fisher เนื้อสัตว์จากการล่า และเครื่องปรุงเช่นเกลือหรือน้ำธรรมชาติจาก Miner Culinarian สามารถใช้วัตถุดิบเหล่านี้สร้างสรรค์อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อเพิ่มสเตตัสให้กับผู้ใช้ได้ชั่วคราวในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ยิ่งอาหารที่ทำมีระดับสูงก็จะยิ่งช่วยเพิ่มขอบเขตสเตตัสให้ได้มากขึ้น มีประโยชน์มากสำหรับการเพิ่มสเตตัสในเวลาที่สเตตัสจากชุดที่สวมใส่ไม่เพียงพอต่อทั้งการเหรด การสร้างของ หรือการเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ยังสามารถสร้างอาหารสำหรับเป็นของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย

# Wed 20 Oct 2021 : 10:16PM

Kuroyami
member

Since 21/5/2007
(3696 post)
Discipline of the Land
เช่นเดียวกันกับสายสร้าง สายเก็บเกี่ยวเกมนี้ก็จำเป็นที่ต้องใช้สกิลต่างๆ คิดคำนวณจากสเตตัสที่มีอยู่ ต้องใช้สกิลใดเพื่อจะให้การเก็บเกี่ยวประสบผลสำเร็จและคุ้มที่สุด ยิ่งเป็นการเก็บเกี่ยวในระดับสูง ตำแหน่งการเก็บเกี่ยวจะปรากฏในช่วงเวลาที่จำกัดเท่านั้น การเก็บเกี่ยวแต่ละครั้งจึงต้องมีการวางแผนที่ดีทั้งการคำนวณระยะเวลา การใช้สกิล และโรเทชั่นการเกิดของโหนดวัตถุดิบต่างๆ ให้มีความคุ้มค่าเพื่อไม่ให้เสียเวลาและได้ประโยชน์สูงสุด

Miner นักขุดแร่


เครื่องมือ - อีเต้อ (Pickaxe) และค้อนทุบ (Sledgehammer)
ที่ตั้งกิลด์ - Ul'dah
รายละเอียด
Miner เป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทางสินแร่ของ Eorzea Miner จึงจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ของพื้นที่ต่างๆ เพื่อค้นหาวัตถุดิบที่มีในเฉพาะพื้นที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสินแร่สำหรับ Blacksmith Armorer Goldsmith หินมีค่าเพื่อเจียระไนเป็นอัญมณีสำหรับ Goldsmith เกลือสำหรับฟอกหนังของ Leatherworker เกลือสำหรับทำอาหารของ Culinarian รวมไปถึงทรัพยากรอื่นๆ ที่ได้จากการขุดเจาะพื้นที่เหล่านั้น เช่น ฟอสซิลหรือน้ำพิเศษต่างๆ สำหรับการปรุงยาของ Alchemist เป็นต้น เหล่า Miner เชื่อว่าพวกเขาอยู่ในการคุ้มครองของ Oschon เทพแห่งการเดินทาง ทำให้การเดินทางของพวกเขาปราศจากภัยอันตรายต่างๆ

Botanist นักพฤกษศาสตร์


เครื่องมือ - ขวานตัดไม้ (Hatchet) และเคียวตัดหญ้า (Scythe)
ที่ตั้งกิลด์ - Gridania
รายละเอียด
Botanist เป็นผู้เชี่ยวชาญการเก็บเกี่ยวทรัพยากรทุกรูปแบบจากพืช ไม่ว่าจะเป็นกิ่ง ก้าน ลำต้น สำหรับใช้ในงานสร้างของ Carpenter ดอกและผลของพืชให้เส้นใยสำหรับ Weaver หรือผักผลไม้สำหรับ Culinarian นอกจากนี้ Botanist ยังมีการศึกษาความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตที่มีการพึ่งพาอาศัยพืชต่างๆ ทำให้พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยววัตถุดิบจากสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้ด้วย เหล่า Botanist ให้ความเคารพเทพี Nophica เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์เพื่อช่วยให้การเก็บเกี่ยวของพวกเขาประสบผลสำเร็จ

Fisher นักตกปลา


เครื่องมือ - เบ็ดตกปลา (Fishing Rod) และฉมวก (Gig)
ที่ตั้งกิลด์ - Limsa Lominsa
รายละเอียด
Fisher เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำทุกรูปแบบ สามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรสัตว์น้ำได้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มของโลกนี้ โดยอาศัยเพียงเบ็ดและเหยื่อล่อที่มีชีวิตหรือเหยื่อปลอม อย่างไรก็ตาม Fisher ของ Eorzea ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการตกปลาในน้ำเท่านั้น พวกเขาสามารถตกสิ่งชีวิตได้ทั้งในทะเลทราย บนท้องฟ้า ในแม็กมา หรือแม้กระทั่งในทะเลอีเทอร์ ใน 4.0 นี้ยังได้เพิ่มระบบดำน้ำให้นักตกปลาสามารถใช้ฉมวกแทงปลาตามจุดต่างๆ ในน้ำได้เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวของ Miner และ Botanist

# Thu 21 Oct 2021 : 6:44AM

W_H_Y
member

Since 2012-01-28 08:02:13
(2468 post)
ถ้าจะเริ่มเล่นตอนนี้ต้องเล่นเซิฟไหนครับ
View all 1 comments >

# Thu 21 Oct 2021 : 1:20PM

NekoDream
member
จำชื่อข้าไว้
Since 10/4/2006
(5441 post)
ไม่ได้เล่นมาตั้งแต่ Heavensward แล้ว แต่ตอนนี้อยากกลับไปเล่นมาก กำลังหาช่องทางให้มีเวลาว่างเยอะๆอยู่เลย

<<
<
1
Reply
Vote




1 online users
Logged In :