กระทู้ความรู้เรื่อง “กำเนิดจักรวาล”
<<
<
1
2
Reply
Vote
# Tue 16 Sep 2014 : 6:40PM
member
Since 1/2/2006
(138 post)
# Tue 16 Sep 2014 : 8:43PM
member
Since 4/5/2011
(392 post)
ขอบคุณมากครับ สำหรับเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจ 
# Tue 16 Sep 2014 : 9:36PM
member
เจ้าสำนักหลังเขารุ่นที่ 1
ส่องหาแต่นม #5
Since 17/11/2007
(16397 post)
# Tue 16 Sep 2014 : 9:52PM
member
Since 22/11/2010
(6659 post)
# Wed 17 Sep 2014 : 11:13AM
member
Since 27/1/2011
(533 post)
อ้าว!! บอร์ดของจีคอนนี่แสดงตัวเลขยกกำลังไม่ได้แฮะ ฉันต้องขอโทษที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีค่ะ
ที่พิมพ์ไว้ในคอมเม็นต์แรกสุด 10–43 คือสิบยกกำลังลบสี่สิบสาม / 10–36 คือสิบยกกำลังลบสามสิบหก / 10–12 คือสิบยกกำลังลบสิบสอง / 10–6 คือสิบยกกำลังลบหก
นั้นคือ ในช่วงเวลาสั้นๆเพียงเศษเสี้ยวของเวลาหลังเกิดบิกแบง จากยุคของพลังค์จนถึงยุคยุคฮาดรอน(วินาทีแรกหลังจากบิกแบง)มันก็เกิดอันตรปฏิกิริยาต่างๆมากมาย และเป็นพื้นฐานที่ทำให้จักรวาลกลายมาเป็นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
-------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องขอบจักรวาล จักรวาลโค้ง มีขนาดจำกัด(และกำลังขยายขึ้นเรื่อยๆ) แต่ไม่มีขอบเขตค่ะ
ตัวอย่าง โลกมีขนาดจำกัด แต่ไม่มีขอบโลก ถ้าเรานั่งเครื่องบินความเร็วสูงที่มีเชื้อเพลิงเหลือเฟือ แล้วบินเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆ เราจะวนมาที่เดิมในที่สุด โดยปกติแล้วเราไม่มีทางหลุดลอยไปจากโลกได้ ไม่มีทางตกขอบโลกได้
จักรวาลก็เช่นกัน สมมุติว่าเรามีอายุไร้จำกัด มียานอวกาศความเร็วสูงซึ่งเชื้อเพลิงไร้จำกัด และบินเป็นเส้นตรงเรื่อยๆ โดยที่ไม่ชนกับวัตถุหรือรังสีอะไรซะก่อน ที่สุดแล้วเราจะวนกลับมาที่จุดเดิมในห้วงอวกาศค่ะ ไม่มีทางที่เราจะตกขอบจักรวาล หรือไปถึงสุดขอบจักรวาลได้เลยค่ะ
การที่เราจะหลุดลอยจากโลก เราทำได้โดยใช้จรวดแรงดันสูง และให้พุ่งขึ้นในทิศทางตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วงของโลก จนสามารถพ้นจากแรงดึงดูดของโลกในที่สุด แต่ก็ยังอยู่ในจักรวาล(อวกาศ-เวลา)อยู่ดี
แต่การที่เราจะหลุดจากจักรวาล(อวกาศ-เวลา) เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าหลุดลอยจากโลกมากมาย ถ้าถามว่าต้องทำยังไง?? คำตอบก็คือ ต้องสามารถสร้างสภาวะ "ซิงกูลาริตี้" ขึ้นมาได้(และต้องควบคุมได้ด้วยนะ) แต่ต่อให้ทำได้แล้วจะหลุดจากจักรวาลได้จริงหรือเปล่า?? สภาวะซิงกูลาริตี้ สามารถทำให้เกิด "หลุมดำ" ขึ้นมาได้ และเชื่อว่าสามารถทำให้เกิด "รูของมิติ" ได้
ในเรื่องไซไฟ ก็ใช้หลักการในเรื่องนี้ จินตนาการถึง "การวาร์ป" ข้ามระยะทางไกลๆในห้วงอวกาศได้ในพริบตา หรือ แม้แต่การเดินทางข้ามเวลา (แต่ก็ไม่ใช้การหลุดจากจักรวาลอยู่ดี แค่เปลี่ยนตำแหน่งของสถานที่-เวลา ในจักรวาลเดิมเท่านั้น)
ในความเป็นจริง แน่นอนว่าเรายังสร้างสภาวะซิงกูลาริตี้ที่สมบูรณ์ไม่ได้(ถ้าจะสร้างก็ต้องทำให้ควบคุมได้ด้วย ไม่ใช่กลายเป็นภัยพิบัติใหญ่โต) และเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อเราลงไปในหลุมดำแล้ว มันจะเป็นยังไง?? มันจะเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งอื่น,เวลาอื่น ในจักรวาลนี้?? หรือมันจะพาเราให้หลุดออกไปจากจักรวาลนี้เลย?? ไม่มีใครรู้ค่ะ (จริงๆแล้วหลุมดำมีแรงบีบอัดมหาศาล และดูดกลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งแสง ดังนั้นอะไรที่ลงไปในหลุมดำจะแหลกจนหาซากไม่เจอค่ะ)
แล้วถ้าเราหลุดจากจักรวาลนี้แล้วจะเป็นยังไง จะเจออะไร?? เป็นเรื่องที่สุดหยั่งคาดค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------
พหุจักรวาล หรือ พหุภพ ก็คือ ทฤษฎีที่ว่า จักรวาลไม่ได้มีแค่จักรวาลเดียว แต่มีได้หลายจักรวาล จนถึงเป็นอนันต์
แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีมากมายหลากหลาย ตั้งแต่ แต่ละจักรวาลอยู่เป็นเอกเทศไม่ข้องเกี่ยวกัน หรือแต่ละจักรวาลอาจเชื่อมต่อกันได้ ไปมาหาสู่กันได้ถ้าเราสามารถสร้าง"รูมิติ"ได้(รูมิติ ตามธรรมชาติคือหลุมดำ)/ แต่ละจักรวาลอาจมีสภาพที่เหมือนกัน หรือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้ เช่นถ้ามีจักรวาลอื่น สภาวะของสสารและปฏิสสาร อาจจะสลับตรงข้ามกับจักรวาลเราเลยก็เป็นได้ / จักรวาลแต่ละจักรวาลอาจมีกฎทางฟิสิกส์ที่เหมือนกัน หรืออาจแตกต่างกัน / ถ้ามีจักรวาลหลายจักรวาลแล้ว อาจเกิดจักรวาลย่อยที่อยู่ในจักรวาลใหญ่อีกทีก็ได้ และก็อาจมีจักรวาลซ้อนกันหลายๆชั้น ก็สุดแต่จะตั้งสมมุติฐานกันไปล่ะค่ะ
เรื่องจักรวาลคู่ขนาน ก็เป็นแนวคิดประการหนึ่งของพหุภพเช่นกันค่ะ โดยแนวคิดนี้จะเชื่อว่า จักรวาลที่เป็นคู่ขนานจะมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับจักรวาลเรา และจะมี "ตัวเราอีกคน" อยู่ในจักรวาลคู่ขนานนั้นด้วย ถ้าจักรวาลคู่ขนานมีเป็นอนันต์ ตัวเราก็จะมีเป็นอนันต์ค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนเกิดบิกแบง และสิ่งที่ทำให้เกิดบิกแบง แน่นอนว่าไม่มีใครทราบความจริง แต่ก็มีแนวคิดหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น บิกแบงเกิดจาก "บิกครันซ์" ของจักรวาลเก่า คือเมื่อจักรวาลเก่าถึงจุดสิ้นสุดแล้วเกิดการระเบิดใหญ่ขึ้น การระเบิดนั้นก็ทำให้จักรวาลใหม่ขึ้นมาด้วย (ตายแล้วเกิดใหม่)
ผู้ที่เชื่อเรื่องพหุภพบางส่วนเชื่อว่า จักรวาลแต่ละจักรวาลอาจสามารถซ้อนทับ หรือชนกันได้ ซึ่งการปะทะกันอย่างแรงของจักรวาลก็อาจทำให้เกิดบิกแบง และก่อเกิดจักรวาลใหม่ได้เช่นกัน
บ้างก็ว่าก่อนเกิดจักรวาลเป็นสภาวะ "Chaos"สมบูรณ์ คือเป็นสภาวะที่ทุกสิ่งทุกอย่างปนกันมั่ว ไม่อาจแยกแยะสสารและพลังงานได้ ไม่อาจระบุตำแหน่งและเวลาได้เลย จนกระทั่ง"บางสิ่ง"ได้รบกวนสภาวะเคออสนั่น จึงทำให้เกิดบิกแบงขึ้น
-------------------------------------------------------------------------------------
สสารมืด และพลังงานมืด คืออะไร?? เรารู้ว่ามันมีอยู่ เพราะมันมีมวล แต่กลับไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามันคืออะไร และอยู่ที่ไหนกันแน่ เพราะเราไม่สามารถมองเห็นมันได้ ผู้ที่เชื่อในเรื่องพหุจักรวาลบางส่วนก็ตั้งข้อสุมมุติฐานว่า มันคือมวลสารจากจักรวาลอื่นๆ ที่แรงโน้มถ่วงของมันส่งมาถึงจักรวาลนี้ / บางคนก็ว่านี่อาจเป็น "นรก-สวรรค์" มีอยู่ ใหญ่โตมหึมา แต่ไม่อาจรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสของมนุษย์ ก็คิดกันไปค่ะ
************************************************************************************
เรื่องจักรวาลนี้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจน่าศึกษาเป็นอย่างมากค่ะ ฉันสนุกมากเลยทีเดียว เวลาที่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจนะคะ สวัสดีค่ะ
ที่พิมพ์ไว้ในคอมเม็นต์แรกสุด 10–43 คือสิบยกกำลังลบสี่สิบสาม / 10–36 คือสิบยกกำลังลบสามสิบหก / 10–12 คือสิบยกกำลังลบสิบสอง / 10–6 คือสิบยกกำลังลบหก
นั้นคือ ในช่วงเวลาสั้นๆเพียงเศษเสี้ยวของเวลาหลังเกิดบิกแบง จากยุคของพลังค์จนถึงยุคยุคฮาดรอน(วินาทีแรกหลังจากบิกแบง)มันก็เกิดอันตรปฏิกิริยาต่างๆมากมาย และเป็นพื้นฐานที่ทำให้จักรวาลกลายมาเป็นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
-------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องขอบจักรวาล จักรวาลโค้ง มีขนาดจำกัด(และกำลังขยายขึ้นเรื่อยๆ) แต่ไม่มีขอบเขตค่ะ
ตัวอย่าง โลกมีขนาดจำกัด แต่ไม่มีขอบโลก ถ้าเรานั่งเครื่องบินความเร็วสูงที่มีเชื้อเพลิงเหลือเฟือ แล้วบินเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆ เราจะวนมาที่เดิมในที่สุด โดยปกติแล้วเราไม่มีทางหลุดลอยไปจากโลกได้ ไม่มีทางตกขอบโลกได้
จักรวาลก็เช่นกัน สมมุติว่าเรามีอายุไร้จำกัด มียานอวกาศความเร็วสูงซึ่งเชื้อเพลิงไร้จำกัด และบินเป็นเส้นตรงเรื่อยๆ โดยที่ไม่ชนกับวัตถุหรือรังสีอะไรซะก่อน ที่สุดแล้วเราจะวนกลับมาที่จุดเดิมในห้วงอวกาศค่ะ ไม่มีทางที่เราจะตกขอบจักรวาล หรือไปถึงสุดขอบจักรวาลได้เลยค่ะ
การที่เราจะหลุดลอยจากโลก เราทำได้โดยใช้จรวดแรงดันสูง และให้พุ่งขึ้นในทิศทางตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วงของโลก จนสามารถพ้นจากแรงดึงดูดของโลกในที่สุด แต่ก็ยังอยู่ในจักรวาล(อวกาศ-เวลา)อยู่ดี
แต่การที่เราจะหลุดจากจักรวาล(อวกาศ-เวลา) เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าหลุดลอยจากโลกมากมาย ถ้าถามว่าต้องทำยังไง?? คำตอบก็คือ ต้องสามารถสร้างสภาวะ "ซิงกูลาริตี้" ขึ้นมาได้(และต้องควบคุมได้ด้วยนะ) แต่ต่อให้ทำได้แล้วจะหลุดจากจักรวาลได้จริงหรือเปล่า?? สภาวะซิงกูลาริตี้ สามารถทำให้เกิด "หลุมดำ" ขึ้นมาได้ และเชื่อว่าสามารถทำให้เกิด "รูของมิติ" ได้
ในเรื่องไซไฟ ก็ใช้หลักการในเรื่องนี้ จินตนาการถึง "การวาร์ป" ข้ามระยะทางไกลๆในห้วงอวกาศได้ในพริบตา หรือ แม้แต่การเดินทางข้ามเวลา (แต่ก็ไม่ใช้การหลุดจากจักรวาลอยู่ดี แค่เปลี่ยนตำแหน่งของสถานที่-เวลา ในจักรวาลเดิมเท่านั้น)
ในความเป็นจริง แน่นอนว่าเรายังสร้างสภาวะซิงกูลาริตี้ที่สมบูรณ์ไม่ได้(ถ้าจะสร้างก็ต้องทำให้ควบคุมได้ด้วย ไม่ใช่กลายเป็นภัยพิบัติใหญ่โต) และเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อเราลงไปในหลุมดำแล้ว มันจะเป็นยังไง?? มันจะเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งอื่น,เวลาอื่น ในจักรวาลนี้?? หรือมันจะพาเราให้หลุดออกไปจากจักรวาลนี้เลย?? ไม่มีใครรู้ค่ะ (จริงๆแล้วหลุมดำมีแรงบีบอัดมหาศาล และดูดกลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งแสง ดังนั้นอะไรที่ลงไปในหลุมดำจะแหลกจนหาซากไม่เจอค่ะ)
แล้วถ้าเราหลุดจากจักรวาลนี้แล้วจะเป็นยังไง จะเจออะไร?? เป็นเรื่องที่สุดหยั่งคาดค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------
พหุจักรวาล หรือ พหุภพ ก็คือ ทฤษฎีที่ว่า จักรวาลไม่ได้มีแค่จักรวาลเดียว แต่มีได้หลายจักรวาล จนถึงเป็นอนันต์
แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีมากมายหลากหลาย ตั้งแต่ แต่ละจักรวาลอยู่เป็นเอกเทศไม่ข้องเกี่ยวกัน หรือแต่ละจักรวาลอาจเชื่อมต่อกันได้ ไปมาหาสู่กันได้ถ้าเราสามารถสร้าง"รูมิติ"ได้(รูมิติ ตามธรรมชาติคือหลุมดำ)/ แต่ละจักรวาลอาจมีสภาพที่เหมือนกัน หรือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้ เช่นถ้ามีจักรวาลอื่น สภาวะของสสารและปฏิสสาร อาจจะสลับตรงข้ามกับจักรวาลเราเลยก็เป็นได้ / จักรวาลแต่ละจักรวาลอาจมีกฎทางฟิสิกส์ที่เหมือนกัน หรืออาจแตกต่างกัน / ถ้ามีจักรวาลหลายจักรวาลแล้ว อาจเกิดจักรวาลย่อยที่อยู่ในจักรวาลใหญ่อีกทีก็ได้ และก็อาจมีจักรวาลซ้อนกันหลายๆชั้น ก็สุดแต่จะตั้งสมมุติฐานกันไปล่ะค่ะ
เรื่องจักรวาลคู่ขนาน ก็เป็นแนวคิดประการหนึ่งของพหุภพเช่นกันค่ะ โดยแนวคิดนี้จะเชื่อว่า จักรวาลที่เป็นคู่ขนานจะมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับจักรวาลเรา และจะมี "ตัวเราอีกคน" อยู่ในจักรวาลคู่ขนานนั้นด้วย ถ้าจักรวาลคู่ขนานมีเป็นอนันต์ ตัวเราก็จะมีเป็นอนันต์ค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนเกิดบิกแบง และสิ่งที่ทำให้เกิดบิกแบง แน่นอนว่าไม่มีใครทราบความจริง แต่ก็มีแนวคิดหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น บิกแบงเกิดจาก "บิกครันซ์" ของจักรวาลเก่า คือเมื่อจักรวาลเก่าถึงจุดสิ้นสุดแล้วเกิดการระเบิดใหญ่ขึ้น การระเบิดนั้นก็ทำให้จักรวาลใหม่ขึ้นมาด้วย (ตายแล้วเกิดใหม่)
ผู้ที่เชื่อเรื่องพหุภพบางส่วนเชื่อว่า จักรวาลแต่ละจักรวาลอาจสามารถซ้อนทับ หรือชนกันได้ ซึ่งการปะทะกันอย่างแรงของจักรวาลก็อาจทำให้เกิดบิกแบง และก่อเกิดจักรวาลใหม่ได้เช่นกัน
บ้างก็ว่าก่อนเกิดจักรวาลเป็นสภาวะ "Chaos"สมบูรณ์ คือเป็นสภาวะที่ทุกสิ่งทุกอย่างปนกันมั่ว ไม่อาจแยกแยะสสารและพลังงานได้ ไม่อาจระบุตำแหน่งและเวลาได้เลย จนกระทั่ง"บางสิ่ง"ได้รบกวนสภาวะเคออสนั่น จึงทำให้เกิดบิกแบงขึ้น
-------------------------------------------------------------------------------------
สสารมืด และพลังงานมืด คืออะไร?? เรารู้ว่ามันมีอยู่ เพราะมันมีมวล แต่กลับไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามันคืออะไร และอยู่ที่ไหนกันแน่ เพราะเราไม่สามารถมองเห็นมันได้ ผู้ที่เชื่อในเรื่องพหุจักรวาลบางส่วนก็ตั้งข้อสุมมุติฐานว่า มันคือมวลสารจากจักรวาลอื่นๆ ที่แรงโน้มถ่วงของมันส่งมาถึงจักรวาลนี้ / บางคนก็ว่านี่อาจเป็น "นรก-สวรรค์" มีอยู่ ใหญ่โตมหึมา แต่ไม่อาจรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสของมนุษย์ ก็คิดกันไปค่ะ
************************************************************************************
เรื่องจักรวาลนี้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจน่าศึกษาเป็นอย่างมากค่ะ ฉันสนุกมากเลยทีเดียว เวลาที่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจนะคะ สวัสดีค่ะ
# Wed 17 Sep 2014 : 2:38PM
member
Since 21/9/2006
(5347 post)
# Wed 17 Sep 2014 : 3:15PM
member
Since 8/11/2008
(982 post)
THE EMPEROR;1233004 wrote:
ผมสงสัยว่าจักรวาลมีที่สิ้นสุดไหมครับ ถ้ามีสุดขอบจักรวาลอยู่ที่ไหน
เคยอ่านเกี่ยวกับ ภพภูมิหลัง ตายไปแล้ว
มหานรก 8 ขุม แต่มีขุมพิเศษ มืดมิด และน้ำกรดที่หนาวเย็น มีสัตว์นรก เล็บคมไต่ตามซอกภูผา กัดกินกันเอง อายุนรก 1 กัปป์
และยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ขุมนี้อยู่ระหว่างดินแดนใหญ่ 3 ดินแดน (เราอยู่ชมภูทวีป) ตรงกลางซึ่งเขาว่าเป็นสุดขอบจักรวาล
เลยสงสัยว่าสุดขอบจักรวาลหรือจุดสิ้นสุดของจักรวาลมีจริงไหม
เคยอ่านเกี่ยวกับ ภพภูมิหลัง ตายไปแล้ว
มหานรก 8 ขุม แต่มีขุมพิเศษ มืดมิด และน้ำกรดที่หนาวเย็น มีสัตว์นรก เล็บคมไต่ตามซอกภูผา กัดกินกันเอง อายุนรก 1 กัปป์
และยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ขุมนี้อยู่ระหว่างดินแดนใหญ่ 3 ดินแดน (เราอยู่ชมภูทวีป) ตรงกลางซึ่งเขาว่าเป็นสุดขอบจักรวาล
เลยสงสัยว่าสุดขอบจักรวาลหรือจุดสิ้นสุดของจักรวาลมีจริงไหม
อ้างอิงความเห็นของคุณ THE EMPEROR ละกัน
เรื่อง ภพภูมิหลังความตาย นี่น่าจะมาจาก ไตรภูมิพระร่วง ผลงานพระราชนิพนธ์ของพระมหาธรรมราชา ตั้งแต่สมัยสุโขทัย
เป็นเรื่องราวของจักรวาลวิทยา ตามหลักพุทธศาสนา
เคยเรียนสมัยอยู่มหาวิทยาลัยแบบเจาะลึก แล้วก็เคยไปสอนเด็ก ม.5 อยู่เทอมนึง
(แอบดีใจที่เด็กสมัยนี้ได้เรียนวรรณกรรมดีๆ แบบนี้ด้วย)
ข้างบนคือภาพของจักรวาลตามที่คุณ THE EMPEROR บอก
คือจักรวาลเป็นวงกลม มีขอบชนกัน ซึ่งนรกขุมพิเศษที่กล่าวถึง คือ โลกันตรนรก อยู่ระหว่างจักวาลที่ชนกันนั้น (พื้นที่สีแดงในรูป)
คนที่จะได้ไปอยู่ในโลกันตรนรก นั้น ต้องทำบาปที่หนักหนาจริงๆ
จำไม่ได้ว่าอะไรบ้าง แต่หลักๆ ก็ ทำร้ายบิดามารดา ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก (ไม่นับพวกคอสเพลย์คุริลิน อันนั้นไม่นับเป็นสงฆ์) ทำร้ายพระพุทธเจ้าเพียงห้อเลือด อะไรประมาณนี้
ซึ่งพวกที่ตกนรกขุมนี้ จะต้องเอาเท้าเกาะขอบจักรวาล ไม่มีแสงใดส่องไปถึง มองไม่เห็นกันเอง
ดังนั้นเวลาเอามือคลำๆ ไปเจออะไรก็จับมากินหมด เลยกินกันเองอยู่บ่อยครั้ง
บ้างก็ตกลงไปในสมหาสมุทรสีทันดรที่อยู่เบื้องล่าง แล้วกลับมาเกาะขอบจักรวาลใหม่ วนเวียนแบบนี้ไปจนกว่าจะสิ้นกัลป์
ใน 1 พุทธกัลป์จะเห็นแสงเพียง 4 ครั้ง นั่นคือ พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน กับอะไรอีกอย่างไม่แน่ใจ
แค่แสงนั้นก็สว่างเพียงชั่วฟ้าแลบเท่านั้น
จักรวาลในไตรภูมิไม่ได้มีแค่ 3 วงเหมือนในรูปนะคะ แต่มีหลายจักรวาลชนๆ กัน แบบนั้นแหละ เพราะฉะนั้นโลกันตรนรกก็จะมีหลายแห่ง อยู่ตามช่องว่างระหว่างขอบจักรวาลเหล่านั้น
ป.ล. เราว่าวิทยาศาสตร์ ในหัวข้อ ดาราศาสตร์ เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเรา
เพราะรู้สึกว่าเป็นสิ่งลึกลับ น่าค้นหา
ขอบคุณคุณเทพเกมสำหรับกระทู้ข้อมูลจัดหนักจัดเต็มมา ณ ที่นี้ค่ะ
รอติดตามกระทู้หน้านะ
# Wed 17 Sep 2014 : 3:21PM
member
Since 21/9/2006
(5347 post)
# Wed 17 Sep 2014 : 3:45PM
member
Since 19/4/2005
(9984 post)
# Wed 17 Sep 2014 : 4:03PM
member
Since 2012-04-02 16:04:07
(3444 post)
# Thu 18 Sep 2014 : 8:36AM
member
Since 22/11/2010
(6659 post)
# Thu 18 Sep 2014 : 10:53AM
member
Since 25/1/2006
(10866 post)
หลังจากที่ได้อ่านทั้งหมด และ ได้ดูสารคดีเรื่องนี้มาทั้งชีวิต ทำให้มั่นใจอย่างนึงว่า นักวิทยาศาสตร์นี่แหละ "โรแมนติก" ที่สุด
# Sat 20 Sep 2014 : 3:16PM
member
Since 26/3/2010
(862 post)
View all 2 comments >
# Sat 20 Sep 2014 : 6:33PM
member
Since 2006-04-20 19:32:08
(1261 post)
<<
<
1
2
Reply
Vote
Related Thread
Popular Thread
1 online users
Logged In :
Logged In :
member
Since 13/5/2005
(2527 post)