ไฟเอมเบลมนี่แหละครับ ตัวอย่าง dlc เอาเปรียบผู้เล่น ประกาศตั้งแต่เกมยังไม่ออก คนซื้อได้เปรียบคนไม่ซื้อ เพราะมีที่ฟาร์มของฟาร์มเงินเก็บเวล มียูนิตใหม่ หนักสุดคือ job เฉพาะ dlc

มันยิ่งแย่เพราะเราไปซื้อด้วย เลยยิ่งทำเพราะขายได้

ซีซีนพาสเงี้ยยังไม่เห็นเลยว่าตัวเต็มเป็นไงจ่ายให้มันไปซะละ user เราก็ใจง่ายเกินเหตุ

DLCมันทำให้คำว่าความลับหลังจบเกมผมหายไป

มันอยู่ที่ว่า dlc มันมีผลกับตัวเกมในสไตล์มัดมือชกว่าต้องซื้อหรือเปล่าเช่น จงใจทำเกมให้มันจบมาแบบไม่สมบุรณ์เสร็จแล้วก็ทำ dlc มาเพื่อความสมบุรณ์ อารมณ์แบบนี้แหล่ะที่มันคือมัดมือชก ว่าต้องซื้อมันควรเป็น ลักษณะของทางเลือกว่าผุ้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อก็จบแบบฟินๆได้

ยกตัวอย่าง เกม dlcแย่ๆ ก็ mass effect 3 เนี่ยแหล่ะ ถ้าอยากจบเกมให้มันสมบุรณ์แกต้องมาซื้อ Dlc

Castlevania lord of shadow นี่ก็อีกตัว อยากรุ้ไหมกุเป็นแวมไพร์ได้ไงซื้อ dlc ซะ อ่าวแล้วทำไมเอ็งไม่เล่าให้จบในเกมว่ะ แถมไม่ใช่การทิ้งท้ายไว้ในภาคต่อด้วยน่ะ

ยกตัวอย่าง dlc ที่ถุกต้องก็ witcher3 คือเกมเส้นเรื่องหลักจบแบบ สมบุรณ์เลย แต่ถ้าอยากเล่นอีกผมทำเนื้อเรื่องเสริมมาให้ ไม่ได้มีผลอะไรก็แค่เส้นเรื่องอีกเส้นที่เพิ่มเข้ามาอันนี้ ok หรือพวก dlc เสื้อผ้าตัวละครในเกม อาวุธแปลกๆจะซื้อไม่ซื้อก็ได้ไม่ซื้อก็ไม่มีอะไรต่อเนื่องกันมา อะไรเทือกๆนั้นแหล่ะครับ

dlc ที่ทำให้ผมยอมควักตังจ่ายนี่ในสมัยนี้มีไม่กี่เกมจริงๆ

สำหรับผมที่เคยเจอมาและก็คิดว่าแฟร์กับผู้บริโภคคือ
-bloodborne
-The last of us

มันแนวทางหาเงินในยุคที่เกมมันยอดตกต่ำนะ

ถ้าม่น่าเกลียดแบบขายฉากจบ ผมก็พอจะยอมรับได้

ถ้าเกมส์เหมือนก๋วยเตี๋ยว ชามนึงก็ต้องมีน้ำซุบถั่วงอก ลูกชิ้น เนื้อ เส้น พอกินอิ่ิม สว่นdlc ก็ควรเป็นเครื่องท็อปปิ้ง อย่างลูกขิ้นเพิ่ม แค็ปหมู น้ำอัดลมอะไรงี้ อันนี้พอรับได้

ไม่ใช่แบบว่า เอาเส้นออก เอาลูกชิ้นออกแล้วไปทำเป็น dlc อย่างเดสตินี่ อย่างอาชูร่าวาร์ทงี้ อันนั้นมันทุเรศโครตๆ

ถ้ามันไม่ตัดทิ้งไปขายแยกเยอะเกิน แล้วก็ไม่แพงไปแบบสตาวอร์นี่ก็รับได้นะครับ
เพราะเดียวนี้ไปซื้อมือ 2 กับโหลดเถื่อนใน pc กันเยอะมันก็ต้องหาเงินมาทดแทนบ้าง สร้างเกมเดี๋ยวนี้ใช้ต้นทุนสูง

ถ้า Content ในตัวเกมจริงๆมันครบถ้วนเล่นแล้วอิ่ม ไม่มีผลกระทบกับคุณภาพตัวเกม ผมว่ามี DLC (ที่ไม่ใช่ประกาศก่อนเกมออก) มันก็โอเคอยู่ครับ

แต่แบบที่ตัด Content ออกไปขายแบบหน้าด้านๆนี่สมควรด่าอยู่นะผมว่า
อย่างซีรีส์ Tales ภาคหลังๆคุณภาพภาพด้าน Content นี่หายไปพอสมควรเพราะทีมงานกะจะหากินกับ DLC อย่างเดียว
Zestiria มี DLC ชุด, ท่าไม้ตาย, เนื้อเรื่อง, บอสพิเศษ, Skit ทั้งๆที่พวกนี้เคยปล๊ดล๊อคหาเอาเองได้ในเกม

ขณะเดียวกัน Vesperia ก็มี DLC ครับ แต่ Content ในเกมมันเยอะมาก
ชุดในเกมมีให้ปลดล๊อค 10 แต่ DLC มีแค่ 2 นี้ผมโอเคครับ
แต่มาแบบ Xillia มีชุดในเกม 1 แต่ DLC มีเป็นสิบ อันนี้ผมว่าน่าเกลียดนะ

ไม่ได้เอาเปรียบครับ มันเป็นโมเดลธุรกิจแบบนึง
ไม่ต่างกะซื้อรถ จ่ายเงินไป ได้รถมา วิ่งได้ตามจุดผระสงค์ แต่ถ้าจะเอา spoiler เอาเบาะหนัง ก็จ่ายเงินเพิ่ม

กรณีดังๆ อย่าง capcom ที่ยัดตัวละครลง disk มาแล้วแต่ไม่เปิดให้เล่น ก็ไม่ต่างกะซื้อรถที่ทำรูติดไฟตัดหมอกมาแล้ว แต่ไม่ใส่ไฟตัดหมอกให้ถ้าไม่จ่ายตังเพิ่ม

หรือ software ตัวใหญ่ๆ ที่ซื้อมา มีครบทุก function ในแผ่น แต่เราใช้ได้เฉพาะ function ที่เราจ่ายเงินค่า license

ประเด็นมันอยู่ที่การตกลงกันระหว่างคนขายกับคนซื้อ
ถ้าเค้าเสนอขาย street fighter ให้เราในราคา 60 USD โดยแจ้งล่วงหน้าว่าเราสามารถเล่นได้จบเกม เล่น online ได้ มีตัวละครให้เราเลือก 12 ตัว แล้วเราตกลงซื้อไปในราคานี้ด้วย content เท่านี้ ถึงในแผ่นจะมีตัวละครตัวที่ 13 14 15 ซ่อนอยู่ แล้วเค้าไม่ unlock ให้เราเล่นถ้าไม่จ่ายตังเพิ่ม เราก็ไม่สามารถบ่นอะไรได้ เพราะในราคาที่ตกลงกันแต่แรก มันไม่รวมถึงตัวละครพวกนี้

สรุปแล้วมันอยูู่ที่ตัวคนซื้อเองว่าพอใจกับ content เท่าที่มีแต่แรกมั้ย ส่วนจะมี DLC อะไรตามมา ก็แยกดูทีละชิ้นเทียบกับราคาไป

ก่อนจะซื้อเกมก็หาข้อมูลดีๆ รอดูรีวิวก่อนว่าทั้งเกมมันมี content แค่ไหนแล้วค่อยพอจารณา อย่าสอย day1 กับเกมจากค่ายที่มีประวัติ แค่นี้ก็จะไม่มีปัญหากะเกมที่ทำมาขาย DLC แล้ว

ก็ไม่รู้อะนะ แต่ค่าย Squirm หรือ Activisere หรือ Crapcom ออกเกมมาที dlc รวมๆแพงกว่าตัวเกม

แถมมีเวอร์ชั่นอะไรไม่รู้เต็มไปหมด เด๋ว GOTY เด๋วแปลงร่างเป็นเวอร์ชั่น Great Grand Father Game of the Year Definitive Edition

เด๋ว Remake + Remaster ซักพักพอทลง iOS แปปๆแม่มไปลง Steam

คนที่ไม่บ่นก็เป็นแฟนๆเกมค่ายนั้นๆ แล้วสรุปว่ามันดีจริงๆหรือเปล่า

ผมเองก็กลั้นใจซื้อไปหลายเกมละ เจ็บจนชิน!

ไม่นะครับ บางครั้งก็คิดว่ามันก็ต้องมีเปลี่ยนแปลงกันบ้างเพื่อให้อยู่รอด ไม่มีวงการไหนเป็นเหมือนเดิมตลอดกาล

DLC เนื้อหาต่างๆส่วนใหญ่ถ้าเคลียร์เกมหลักจบแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก พวกเนื้อเรื่องส่วนเสริมจริงๆ ถ้าเอียนกับเกมเพลย์แล้วอยากรู้แค่เนื้อหาก็ดูเอาในยูทูปก็ได้ครับ ยิ่งอย่างแบบ Asura wrath หรือ ME3 นี่ไม่ควรซื้อเลย รอดูว่าจะแถมรึเปล่าเพราะมันนหน้าเงินไปหน่อย

DLC ตัวละครใหม่ๆ ในเกมต่อสู้ ถ้าไม่โดนจริงก็ไม่ซื้อก็ได้

ส่วนพวก DLC cosmetic ต่างๆนี้ขึ้นอยู่กับกิเลส ล้วนๆเลยครับ หากใจเย็นงดได้ควรงด

ผมคิดเทียบแบบนี้

สมมุติเป็นเกมต่อสู้สองเกม ที่คุณภาพพอๆ กัน ราคาพอๆกัน แต่

เกมแรก ซื้อมามีตัวละคร20 แล้วต่อมาขายตัวละครเพิ่ม ตัวละ 500เยน ซัก5-6ตัว
เกมที่สอง ซื้อมา มีตัวละคร12 แล้วก็มีแค่นั้นจบ


แบบนี้ ผมไม่ถือว่าเกมแรกเอาเปรียบนะ ชอบมากกว่าแบบเกมที่สองด้วย

DLC ที่ดีผมว่ามันควรเป็นลักษณะของ Expansion pack คือส่วนเพิ่มส่วนขยาย สิ่งไม่มีในเกมส์ original เหมือนเอาอะไรมาต่อยอดให้ของที่มีอยู่ดีขึ้น แต่คำว่า DLC = Downloable Content มันดันไม่ครอบคลุมแค่ Expansion pack แต่ดันกลายเป็น เนื้อหาที่ดาวน์โหลดเพิ่มได้ ก็ตามชื่อนะครับ จะเอาอะไรมาให้โหลดเพิ่ม คิดเงินเท่าไหร่ก็ว่าไป

DLC ดีๆก็มี Bloodborne The witcher 3 นี่ยอมรับว่าคุ้มค่าจริงๆ จากคนที่ปกติไม่เคยเจียดเงินซื้อของพวกนี้เลย