Deadpool ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz



"ฮีโร่เกรียนแตกแห่งปี"

ในปัจจุบัน โลกของหนังสือการ์ตูนได้เข้ามาส่งผลต่อโลกของภาพยนตร์อย่างมากไม่ว่าจะเป็นค่าย DC หรือ Marvel ซึ่งต่างก็มีตัวละครที่โดดเด่นและมีแฟนๆติดตามชื่นชอบมากมาย เช่น Batman, Superman, Ironman หรือ Captain America

แต่ถ้าหากจะมีซักหนึ่งตัวละครที่แฟนๆและแม้กระทั่งคนที่ไม่ใช่แฟนหนังสือตัวยง ต่างพร้อมใจกันชื่นชอบอย่างคลั่งไคล้ซักตัวแล้วละก็ เชื่อเลยว่าชื่อของตัวละครสุดแสบอย่าง เดดพูล ก็ต้องโผล่มาเป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าการโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ล่าสุดของเขา X-Men Origins: Wolverine ในปี 2009 ดูจะจบลงไม่สวยเท่าไรนัก แต่ก็ต้องขอยกย่องทีมงานและตัวนักแสดงไรอัน เรย์โนลด์ เสียจริงๆที่ยังคงมีความมั่นใจ และเชื่อว่าพวกเขาจะสร้างสรรค์ตัวละครนี้ให้ออกมาถูกใจแฟนๆได้ในที่สุด ซึ่งความพยายามนั้นก็ได้ผลตอบแทนอันล่ำค่าเป็นที่เรียบร้อย



ถึงแม้ Deadpool จะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมขนาดเข้าชิงรางวัลออสการ์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันได้ให้ความบันเทิงชนิดที่หาได้ยากกับผู้ชม โดยเฉพาะแฟนๆที่รอคอยกันมานานแสนนาน

งานนี้ต้องขอยกเครดิตให้กับผู้กำกับ ทิม มิลเลอร์และผู้รับบทเป็นเดดพูลอย่าง ไรอัน เรย์โนลด์ ที่เนรมิตตัวละครกวนบาทาตัวนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับเป็น"เดดพูล"อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย ท่าทาง คำพูดคำจา หรือการที่อยู่ดีๆอยากจะหันมาคุยกับผู้ชมก็ทำได้โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมยังล้อเลียนตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างหน้าตาเฉย ต่างก็เป็นสิ่งที่สร้างความโดดเด่น ตลกโปกฮาให้กับตัวละครและภาพยนตร์เรื่องนี้ในที่สุด



ที่น่าชื่นชมเข้าไปอีก ก็คือทิม มิลเลอร์ ใช้ความหลุดโลกของตัวละครมาสร้างเอกลักษณ์ สถานการณ์ และใช้เทคนิคในการเล่าเรื่องร่วมกัน เพื่อสร้างเกราะให้กับตัวบทภาพยนตร์ที่ได้อย่างดี เนื่องจากส่วนนี้ดูจะเป็นจุดอ่อนที่ชัดเจนที่สุดของภาพยนตร์ แต่ก็ถูกดึงขึ้นมาให้น่าสนใจ และสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างตัวละครกับผู้ชมได้เนื่องจากการเล่าเรื่องของเขานี้เอง

ในด้านของฉากแอ็คชั่นต่างๆ ยังถือว่าค่อนข้างธรรมดา แม้ว่าบางฉากจะกำกับดีทีเดียว แต่ดูเหมือนจะเป็นผลมาจากแนวทางการเล่าเรื่องของทิม มิลเลอร์ที่ให้ความสำคัญกับการปูตัวละครมากกว่าการบู้ล้างผลาญ จึงทำให้ฉากต่อสู้ต่างๆมีค่อนข้างน้อย และออกมาไม่ค่อยน่าจดจำ



อย่างไรก็ตามเพียงแค่ฉากแอ็คชั่นที่ค่อนข้างน้อย และบทภาพยนตร์ซึ่งค่อนข้างดาษดื่น ก็ไม่อาจที่จะลดความบันเทิงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับผู้ชมได้มากนัก Deadpool ยังคงเป็นสุดยอดภาพยนตร์เกรียนแตกแห่งปีนี้ที่ โหด มันส์ ฮาแฟนๆไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

Final Score: [ 7 ]

มันเกรียน แต่ไม่ค่อยฮา ขนาดผมเข้าใจมุกประมาณ 90% ของเรื่องยังรู้สึกว่ามีมุกแป๊กเยอะเลย แต่ผมชอบฉากแอคชั่นนะ ดูพลิ้วไหว + สะใจดี

ไปดูมาเมื่อวานก็ถือว่าคุ้มกับเงินที่เสียไป แต่ช่วงปูเนื้อเรื่องความสัมพันธ์กันแฟนสาวผมรู้สึกเบื่อๆไปหน่อย แต่มันยังดีที่ใส่มุกเข้ามาทำให้ดูได้เลื่อยๆ มุกมีแป๊กมีฮาป่วนๆกัน แต่มุกแบบกวนตีนจิกกัดอันนี้ชอบเลย ยิ่งตอนไปถามหาตัวละครจากX-menผมก๊ากกันเลย แถมมีใส่ลายละเอียดนิดหน่อยๆแบบถ้าไม่สังเกตุนีพลาดเลย

มันเป็นหนังซุปเปอร์ฮีรั่วเรื่องแรกที่มีบทแสดงความสัมพันธ์อันแนบแน่นของพระเอกและนางเอกที่มีทั้งรุกและรับได้อย่างลงตัวที่สุด

ตอนเล่าย้อนอดีตแทบหลับเลย

ช่วงแรกเล่าย้อนไปมาบ่อยเกิน
บู๊ๆอยู่ เหมือนโดนคั่น โฆษณา

แต่โดยรวมสนุกอยู่ครับ

ปล.บางมุกดักแก่มาก

วิธีเล่าแบบสลับไปมาปัจจุบัน อดีตโคตรไม่เวิร์คอ่ะครับ รู้สึกเหมือนหนังไม่ปะติดปะต่อ

โดยรวมก็สนุกดี แต่ไม่ได้อะไรขนาดนั้น เทียบกับantmanของฝั่งมาเวลผมชอบantmanกว่านะ

ผมว่าเฉยค่อนไปทางไม่สนุกเลยหรือผมคาดหวังมากไปก็ไม่รู้ มันกลายเป็น Deadpool แบกหนังทั้งเรื่องไปเพราะตัวบทหนังไม่มีอะไรเลย มุกก็แป๊กซะเยอะและผมไม่ค่อยฮากับมุกจิกกัดด้วย ให้ 5/10 พอ

เล่าเรื่องแบบ Man of Steel

ส่วนตัวผมไม่ค่อยมีปัญหานะ ทั้งเรื่องนี้และ MoS เลยชอบมาก บู๊สะใจดี ทุนสร้างไม่เยอะ แต่ทำออกมาดีมากกกก

ดูมาเมื่อวาน ดูได้เพลินๆ แอ็คชั่นโอเค ส่วนมุกผมขำแค่มุกเดียวจริงๆคือมุข ริปลี่ย์

เหมือนDeadpoolจะขี้บ่นไปหน่อยผมเลยไม่ค่อยฮา

ท่าหมุนตัวเตะ เดดพูลท่าจะชอบมาก ใส่มันทุกซันเเอคชั่น

เรารู้สึกชอบหนังเวอร์ชั่นนี้มาก เคารพต้นฉบับสุดๆไปเลย แฟนคอมมิคน่าจะถูกใจ

ชอบ Negasonic Teenage Warhead(ชื่อยาวจังฟร่ะ) หนังสนุกดีแต่มุกบ้างอันไม่ค่อยฮา

ผมว่าหนังทำได้ขนาดนี้ถือว่าดีมากๆแล้ว ทุนสร้างต่ำสุดๆ จนไม่สามารถจ้างดาราดังๆมาได้ ขนาด x-men ยัง 1CG + 1ตัวไม่ดังอีก รายได้ภาคนี้น่าจะไปต่อยอดให้ภาค 2 เปิดกว้างกว่านี้แน่ๆ


ยังไงซะ ภาค 2 น่าจะได้เห็น cable ซักที