Review : Yu-Gi-Oh : The Dark Side of Dimensions (ลูกผู้ชายต้องดูเอล)

กำกับ : Satoshi Kuwabara (Black Jack : Two Doctors in Black)

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่หนังเข้าน้อยมากๆ ทางโรงคงต้องการจะกินเนียนกับ Fast 8 กันยาวๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีหนังใหม่เข้าเลย เท่าที่เห็นก็มี Kamen Rider อันนึงละ กับอีกเรื่องหนึ่งที่พอเห็นว่าเข้าโรงนั้นก็ทำให้จิตวิญญาณของอดีต Duelist ลุกโชนครับ เกือบไม่ได้ดูละต้องกราบขอบคุณศรีภรรยาที่อนุญาตให้ดูแถมยังมาดูเป็นเพื่อนแบบงงๆด้วย หนังเรื่องนั้นก็คืออนิเมชั่นเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของเกมกลคนอัจฉริยะนั่นก็คือ Yu-Gi-Oh : The Dark Side of Dimensions นั่นเองครับ



Yu-Gi-Oh ภาคนี้นั้นดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบของมังงะภาคแรก ที่มุโต้ ยูกิ ได้ดูเอลครั้งสุดท้ายกับยูกิอีกคนหนึ่งหรือฟาโรห์อาเทม และหลังการดูเอลครั้งนั้นอาเทมก็ได้กลับไปเป็นฟาโรห์ในยุคอียิปต์โบราณและไม่ได้กลับมายังยุคปัจจุบันอีกเลย ตัดกลับมาที่เนื้อเรื่องในหนัง พวกยูกิและเพื่อนๆทั้งอันซุ, โจวโนะอุจิ, บาคุระ, ฮอนดะ ต่างก็กำลังจะเรียนจบชั้นม.ปลาย และทุกคนก็เริ่มคิดถึงอนาคตของตนเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี แต่ ไคบะ คู่ปรับของยูกิเจ้าของไคบะคอร์เปอเรชั่นกลับยึดติดอยู่กับการล้างตาในการดูเอล เขาได้เริ่มขุดค้นซากปรักหักพังในอียิปต์ สถานที่ที่เชื่อว่ายูกิได้ทิ้งตัวต่อปริศนาพันปีเอาไว้ เป้าหมายคือเพื่อต่อมันอีกครั้งและเรียกอาเทมมาดูเอลนัดล้างตากับเขาให้ได้ ส่วนอีกด้านหนึ่ง ดีว่า บุคคลลึกลับผู้มีพลังแปลกประหลาด ก็ได้เริ่มแผนการบางอย่างขึ้นภายในเมืองของพวกยูกิ...



สำหรับ Yu-Gi-Oh ภาคนี้นั้นสำหรับผมก็นับว่าสนุกเกินคาดเลยครับ หากคุณชอบยูกิอยู่แล้วนั้น บรรยากาศก็จะคล้ายๆกับการดูอนิเมะแบบตอนที่เพิ่มความเข้มข้นขึ้นมา แต่สิ่งที่เพิ่มรสชาติให้กับหนังมากขึ้นนั้นก็คือความเว่อร์แบบ Over the Top ของอิตาไคบะ ประมาณว่าการดูเอลสำคัญกว่าทุกสิ่ง ลูกผู้ชายต้องทุ่มทุกอย่างเพื่อการดูเอล (ซึ่งหากเอาความสามารถและเงินของเขามาใช้ประโยชน์จริงๆละก็ World Peace คงไม่ไกลเกินเอื้อม) ซึ่งตัวหนังก็รู้ตัวเลยผลักดันให้ความเว่อร์นี้ทะลุเพดานไปสุดกู่กลายเป็นความฮาไปได้เลยทีเดียว แต่พอชอทสุดท้ายปุ๊บ เออ ยอมใจแกแล้วไคบะ 555 ส่วนการดูเอลในเรื่องนั้น แรกๆใจแป้วเพราะมีการดูเอลค่อนข้างน้อยและไม่ค่อยสนุก แถมยังขี้โกงกันแบบโคตรน่าเกลียดอีกตังหาก 555 (ก็สมเป็นอนิเมยูกิละนะ) แต่พอช่วงหลังๆก็เข้มข้นขึ้นกลายเป็นมันส์มากขึ้นมาได้ครับ แถมมีการชนะแบบกลยุทธิ์เทพๆให้ได้เห็นกันอีกด้วย สอบผ่านครับกับการดูเอล



หนังยังมีการขมวดปมปิดฉากตัวละครบางตัว ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ลงลึกและทำได้ไม่สุดแต่มีก็ดีแล้วสำหรับอนิเมแนวนี้ แต่สิ่งที่ไม่ชอบก็คือเรื่องแรงบันดาลใจและความสามารถของตัวร้าย ที่รู้สึกว่าไม่ค่อยน่าซื้อและซับซ้อนเกินความจำเป็น อย่างว่าว่ามันคงอิ่มตัวมากๆแล้วกับซีรี่ส์ยาว 20 ปีเรื่องนี้ และสำหรับผู้ที่ไม่รู้จักยูกิหรือไม่ชอบยูกิ มาดูก็คงงงเป็นไก่ตาแตกกับการดูเอลและตรรกะบ้าๆหลายอย่างในเรื่องครับ แบบแฟนผมที่ทำหน้าประมาณ “หนังบ้าอะไรวะ” ทั้งเรื่อง 5555 ส่วนเรื่องงานภาพนั้น พวกมอนสเตอร์ตอนดูเอลทำออกมาได้เท่ห์ดี แต่งานภาพโดยรวมยังรู้สึกว่าเป็นระดับของอนิเมฉายทีวีเท่านั้น ยังสู้อนิเมหนังโรงอื่นๆไม่ได้ครับ

สรุป : ถ้าคุณชอบยูกิ แนะนำให้ดูครับ สนุกบันเทิงแน่นอน แต่ถ้าคุณไม่ชอบหรือไม่รู้จักยูกิ คงยากครับที่จะดูรู้เรื่องและสัมผัสถึงความสนุกของมันได้

คะแนน : 7.4/10 (B) ,ชอบครับ

ถามหน่อยคับว่า

ไคบะจะโดดตึกอีกไหมครับ?

สำหรับผมนีทุกอย่างโอเคหมดนะ ขัดใจตรงที่ว่ามันไม่ค่อยอธิบายตัวเอฟเฟคการ์ดเลย
แบบอยู่ดีๆก็เอฟเฟคก็แสดงผลออกมา ดูเอลไปเร็วมาก บางทีดูไปก็งงไป
สมัยก่อนอ่านที่มังกะผมว่า อ.แกเขียนอธิบายละเอียดดี เห็นการวางกลยุทธ์ต่างๆ
แต่ก็เข้าใจนะ ทำเป็นมูวี่คงเวลาน้อย คนที่เขาเล่นยังเล่นตัวการ์ดอยู่น่าจะอินได้มากกว่า

อยากดูมาก ญี่ปุ่นไม่ออกแผ่นซักที

ออกแล้วนะครับ ในบิทก็มีคนมาปล่อยได้ซักพักนึงแล้ว

ดูมาแล้ว บ้าดีครับภาคนี้ ทำมาเพื่อสนองนี้ดทั่นไคบะคนเดียวจริงๆ ไคบะที่ขอท้าทายอำนาจเวทมนต์ของไอเท็มพันปีทั้งหลายด้วยวิทยาศาสตร์??

ภาคนี้ส่วนมากสู้ด้วยกฏพิเศษที่ไม่มีอยู่จริง ก็เลยไม่มีการอธิบายอะไรมาก ที่จริงแล้วก็ใกล้เคียงกับมังงะยูกิภาคฟาโรห์อะแหละ พอฝ่ายเราจนแต้มก็โกงเลยด้วยความเป็นฟาโรห์

ส่วนตัวดูแล้ว ก็ไม่โดนยูกิร่างต้นเหมือนเดิม ไคบะบ้ามากขึ้นก็กลายเป็นมีสเนห์ขึ้น อาเทม ยืนเฉยๆก็ขายได้เหมือนเดิม ถ้าจะเล่นภาคนี้ต่อโดยใช้ยูกิร่างต้นดำเนินเรื่องเพียงคนเดียวมันก็ไปต่อไม่ได้หรอก ยังไงๆคนดูก็ต้องถามหาอาเทมอยู่ดี

เวอร์ไปอะภาคนี้ผมว่าเคยอ่านการ์ตูนมาจนจบแล้วมาเจอแบบนี้
(อารมแบบว่าเองใกล้จะยิงเวทร์ได้ละ)

คงไม่สปอยหรอกนะ

อันสุนมอย่างกับลูกมะพร้าว