Support HDR ในที่นี้หมายถึง สามารถเข้าไปเปิด การแสดงผล HDR ใน Setting ที่หน้า Video Output Setting ของเครื่อง PS4 ได้

ไม่เอาโหมด HDR ที่ปรับใน TV หรือ Monitor เองนะ

ผมอยากทราบถึงความต่างโดยรวม เฉดสีสดขึ้น มันทำให้ภาพมืดลงด้วยไหม

หรือเกมบางเกมที่มี setting HDR เฉพาะ อย่าง RE3 ทำให้ภาพดูเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน

กำลังชังใจอยากลองใช้ จอที่ Support HDR แท้ๆ

อยู่ที่เกมด้วยนะครับ มีหลายเกมทำ hdr ออกมาไม่ดี เปิดเกมออกมาสว่างแสบตามากๆ บางเกมก็มืดเกินไป
เท่าที่ผ่านมามีไม่กี่เกมที่ทำ hdr ออกมาได้ดี เช่น horizon zero, god of war , uncharted 4 , days gone ก็ทำออกมาดี

ความรู้สึก RE2 RE3 เปิดเหมือนไม่เปิดน่ะ ส่วนที่มืดก็มืดเหมือนเดิม อ่อ แสงไฟแสบตาหน่อย

อยากจะเทียบให้อยู่นะครับ แต่ปัจจัยของจอแต่ละจอมันต่างกันเกินไป ผมมีจอLg Ultragear 27 รองรับHDR10 IPSตอนเปิดเกมมาทั้งRE และFF7 Demoมันก็ขึ้นมาให้ว่างรองรับHDRนะ ส่วนอีกจอนึงเป็นจอACER ไม่รองรับHDR TA คือถามว่ามันต่างกันมากไหม
LG รู้สึกว่าแสงสีสวยกว่านิดหน่อยในRE3 แต่FF7นี่โคตรว้าวแสงสีภาพเปิดHDRกับไม่HDRนี่รู้สึกต่างเลย
ACER สีดูปกติถ้าเทียบกันสองจอตัวนี้ก็ดูจืดไปหน่อยในRE3แต่FF7นี่ดรอปลงเห็นได้ชัดพอย้ายจอละดูไม่ว้าวเหมือนตอนเปิดกับอีกตัวที่เปิดHDR

เอาจริงคือมันคงเทียบกันตรงๆไม่ได้หรอกเพราะPanalต่างกันแสงสีก็ต่างกันละ ไหนจะHDR ค่าก็ไม่เท่ากันอีก จอบางอันบอกHDR1000บางอันบอกHDR400 งงไปหมด ถ้าจะเทียบลองหาร้านขายจอ ยกPS4 ไปเทียบที่ร้านเลยครับไม่ต้องอาย

เคยมี แต่ขายทิ้งไปแล้วเพราะผมว่ามันแสบตาเวลาเข้าออก สว่าง มืด สว่าง

ชอบแบบสว่างพอๆกันทุกบริเวณมากกว่า แบบเกมยุคเก่า

ยกเครื่องไปลองที่ร้าน ชัวร์สุด ดูไล่เลยชอบภาพเครื่องไหน เอาเครื่องนั้นหละ

ผมใช้ samsung 2k 32 c32hg70 curved 144hz hdr เล่นทั้ง com ทั้ง play4pro แม้จะเป็นแค่ hdr 600 แต่ตั้งค่าดีๆ ต่างกันอย่างชัดเจนครับ ผมจะบอกว่าไม่ว่าจะเล่นกับจออะไร ควรที่จะตั้ง profile จอสำหรับเล่น content hdr ไว้โดยเฉพาะสัก 1-2 อันครับ ตั้งชดเชยสีที่ดูจางไปโดยการตั้งสีให้สดกว่าปกติ-ปรับจนพอใจตอนอยู่ในโหมด hdr ไปเลย เพราะหลายๆอย่างที่ดูสีจืดไป มืดไป เกมส์ๆนั้น หรือ content นั้นๆมัน ถูกตั้งค่าเวลาเปิด hdr ไม่เหมือนกันครับ จากทางผู้สร้างเลย มันไม่ใช่เปิดปุ๊บสวยปั๊บแบบสีสดได้ทุกเกมส์ (ยกเว้น TV 4-8k ระดับสูงที่มันจะมีการปรับให้เกมส์หรือ content นั้นๆมีสีที่ดูดีเวลาเปิดโหมด hdr )
แล้วผมว่าจอ ips 1080p ไม่เหมาะที่จะมาใช้เล่น hdr เลยครับ จากที่ไปลองมา ต่างแค่รู้สึกว่าส่วนสว่างกับมืดดีกว่าปกตินิดเดียวเอง สีนี่บอกตรงๆไม่รู้สึกไล่เฉดสีดีๆเลย แล้ว hdr นี่ผมว่าเรียกมาตรฐานระดับดีกว่าครับ ไม่น่าเรียกแท้ไม่แท้หรอก ณ ตอนนี้ถ้าจอเป็น hdr ต่ำกว่า 400 เช่น hdr 250 hdr 350 นี่ไม่น่าเล่นแล้วครับ (ค่าตัวเลขคือ peak brightness นะครับ ยิ่งสูงยิ่งดี)
ลองเช็กคร่าวๆแล้วกัน https://www.displayninja.com/hdr-monitor-list/

งบ 1 หมื่น ผมแนะนำ monitor LG 27GL850-B คับ เป็นจอ 2K IPS 144HZ ถ้าต่อ PS4 จอนี้มันจะ down scale จาก 4k มา 2K ได้คับ ภาพจะคมกว่า 1080P แถมมี HDR 400 จอรุ่นนี้กำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากคุ้มค่า คุ้มราคา ใน OCZ คนยังแนะนำกันเยอะ https://www.rtings.com/monitor/reviews/lg/27gl850-b

ถ้าอยากได้ monitor HDR 1000 ตอนนี้ ราคาแพงมาก

ภาพที่ได้แล้วแต่รุ่นของ TV ด้วยครับ เท่าที่ลองมา 2 เครื่อง

เครื่องแรกเป็น LG LED 4K รุ่นล่างๆหน่อย (จำชื่อรหัสรหัสรุ่นไม่ได้) เปิดโหมดเกม+HDR ภาพจะมืดมากจนมองแทบไม่เห็น ขนาดปิดไฟเล่นยังรู้สึกมองจอลำบาก ถ้าไม่ใช้โหมดเกมภาพจะดีขึ้นหน่อยแต่ input lag กระจาย สุดท้ายเล่นไม่ได้จนต้องปิด HDR แล้วเล่นในโหมดเกม

อีกเครื่องเป็น Sony A8F 4K OLED ลองเปิด HDR แล้วภาพดูดีขึ้นเยอะ ถ้าใช้โหมดเกมภาพจะมืดกว่าโหมดอื่นนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่ามืดจนมองไม่เห็นแบบ LG (บางเกมยังรู้สึกว่าสว่างแสบตาไปด้วยซ้ำ จนต้องไปปรับความสว่างในเกมให้ลดลง)
รวมๆถ้าเปิด HDR แล้วดูดีขึ้นเกือบทุกเกม ยกเว้น RDR2 ที่ตัวเกมมันไม่ใช่ HDR แท้ ต่อให้ Calibrate แล้วภาพมันก็ยังดูแปลกๆ (ภาพไม่ค่อยสว่าง+สีดูจืดลง) กับอีกเกมคือ FarCry5 ที่มันทำ Contrast มาจัดๆ จนสีสันความสว่างมันเยอะจนปวดตา
ส่วนเกมที่ผมว่าทำ HDR ออกมาได้ดีคือ Uncharted 4, God of War, Horizon, GT Sport, Modern Warfare 2019)

ถ้า monitor นี่ตัว hdr certification นี่น่าจะมาจาก VESA ป่ะถ้าจำไม่ผิด ไอ้ hdr400,600,800,1000 ไรนั่น แต่แพ๊งแพงไม่เคยลองเหมือนกัน hdr400 quantum dot ของ asus นี่เป็นแสนได้มั้งถ้าจำไม่ผิด
ส่วนทีวี จะปรับ hdr ที่ทีวีหรือเครื่องเล่นไม่สำคัญตอนเลือกซื้อ จริงๆมันก็คงมีโหมดปรับ sdr ให้เป็น hdr แหละจำลองเอา แต่เวลาเลือกซื้อทีวีมันจะมี UHD Premium certified
TV HDRแท้ vs HDRเทียม


หลายคนคงคิดแค่ว่า HDR สีมันต้องสดมันต้องแจ่ม เด่นเด้งออกมาอย่างเห็นชัด จริงๆมันไม่ใช่ อันนั้นมัน over-saturate แล้วเด้อ, HDR ตามชื่อมันเลย High Dynamic Range สว่างจะดูสว่างจริงๆ มืดจะมืดสนิทกว่าเดิม แค่นั้นเอง (ไอ้สว่างเหมือนสว่างจริงนี่ ตาคนเราดูออกง่ายนะ เคยเบื่อภาพในหนังที่แบบตอนกลางวันแต่ภาพหม่นๆตุ่นๆมั้ย มันจะหายไป) แต่ผลพลอยได้พอมันสว่างมากขึ้นมืดได้มากขึ้นคือสีมันก็จะละเอียดขึ้นไปด้วยตามระดับความสว่าง (Color Volume)

โม้เยอะละสรุป ผมไม่เคยลอง PS4 กับทีวี HDR แท้นะ แต่เคยลองกับ HDRเทียม ของ LG ปรากฏว่า ภาพที่ออกมาแตกต่างกันชัดเจนเลยนะ ลองกับ Horizon ZD สีเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ความสว่างความมืดนี่ดูดีขึ้นชัดเจน นี่แค่ HDRเทียมเองนะ
ใครจะเลือกซื้อตอนนี้ถ้าเป็นทีวีคงต้องลองเยอะๆหน่อยโดยเฉพาะถ้าซื้อมาเล่นเกม คงต้องหิ้วไปเทสด้วยถ้าไม่ได้คิดจะซื้อ OLED, เนื่องจาก OLED ตัว picture quality มันดีขึ้นมาจากตัวเทคฯ OLED เองมาแล้วต่อนึง พอโดน HDR ก็ดีขึ้นอีกหน่อยนึง แต่ LCD คุณต้องหวังพึ่งพลังประมวลผล HDR ของทีวีเองเท่านั้น(ถึงมี quantum dot ช่วยแล้วนิดหน่อยก็เถอะ) เพราะว่าถ้าคุณซื้อมาเล่นเกม คุณต้องเปิด Game Mode(ใครไม่เปิด input lag กระจายนะ 4k HDR เนี่ย) แล้วพอเปิดโหมดนี้มันจะ bypass พวกการประมวลผลภาพทั้งหลายแหล่ ทำให้คุณภาพที่ออกมาไม่เต็มที่เหมือนโหมดอื่น อาจจะผิดหวังกับ HDR ได้(แต่คงต้องดูเป็นแบรนด์ๆเป็นรุ่นๆไป ถึงบอกให้หิ้วไปเทส) ส่วน OLED ไม่มีปัญหาเพราะด้วยเทคฯมันค่อนข้างดีอยู่แล้ว

อันนี้เสริมเรื่อง LG OLED เผื่อใครอยากรู้

ขอเสริมอีกนิด ขอตั้งคอมเมนต์ใหม่เลย
เรื่องเวลาเปิด HDR ในเกมแล้ว ภาพมันมืดเกินไป
อันนี้สาเหตุมันมาจากเรื่อง Tone Mapping เนื่องจากว่า HDR content มีหลาย format แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นกันคือ HDR10, HDR10+, Dolby Vision แล้วการที่จะแสดงผล HDR ได้เนี่ยตัวคอนเทนต์มันต้องมี metadata(คิดซะว่าเป็นข้อมูลใส่ไว้ใน header ไว้บอกเครื่องเล่นว่าจะต้องแสดงผลยังไง) ซึ่งมี 2 แบบ
- static metadata ทั้งไฟล์ใช้ข้อมูล header แบบเดียวกันทุก frame หมายความว่า ถ้าหนังเรื่องนี้ถูกมาสเตอร์ออกมาที่ 1000nit มันก็จะใช้ 1000nit เป็นเกณฑ์สูงสุดในการทำ tone mapping ทั้งเรื่องทุก frame เช่น HDR10
- dynamic metadata ในแต่ละเฟรมของไฟล์ใช้ข้อมูล header ไม่เหมือนกัน หมายความว่า แต่ละ frame สามารถถูกมาสเตอร์ออกมาให้มี max brightness แตกต่างกันได้ FrameA อาจจะ 1000nit, FrameB อาจจะ 4000nit ก็ได้ เช่น HDR10+, Dolby Vision

ปัญหาเกิดจาก
- Tone Mapping
- Static Metadata
- Content

- Content เกมเท่าที่เคยได้ยินมาถูกมาสเตอร์ออกมาที่ max brightness 4k nit, 10k nit ขณะที่ทีวีสูงสุดตอนนี้แสดงผลได้แค่ 1000-1500nit
- Static Metadata ซึ่งถ้าเป็นเกม ผมว่าน่าจะต้องเป็น static เนื่องจากมันไม่เหมือนหนังเนอะ ที่จะมารู้ว่าซีนไหน ผกก จะใช้ brightness เท่าไหร่ตามใจ ผกก ได้
- Tone Mapping คือการที่จะแปลง content 4000nit ให้มาแสดงผลที่ 1000nit ได้ ก็ต้องแมพจาก 4000 -> 1000 แล้วก็ลดหลั่นลงมาเรื่อยๆตามลำดับ (จริงๆมันมีฟังก์ชั่นที่ใช้ทำงานอยู่แหละ แต่ไม่ต้องไปสนใจมัน)

- พอ 3 สิ่งนี้มาประจบเหมาะด้วยกันแล้วก็เลยเป็นสาเหตุของมัน
- นึกภาพตัวเกมดวงอาทิตย์ 4k nit แต่ว่าส่วนอื่นของเกมที่เล่นปกติอยู่ที่แค่ 1k nit หรือต่ำกว่า, จากนั้นโดน tone mapping ออกมาแสดงผลจาก 4k nit(ในเกม) เป็น 1k nit(บนจอ) แล้ว 1k nit(ในเกม) จะเป็นเท่าไหร่(บนจอ) ภาพเลยออกมามืด
- เนื่องจากพอเกมเป็น static metadata เท่ากับว่ามันเอา 4k nit มาเป็นเกณฑ์ในการทำ tone mapping ทั้งเกม ถ้าส่วนไหนของค่าความสว่างโดนแมพแล้วมืดก็โดนหมดทั้งเกม

- ทีนี้พอมีปัญหาแบบนี้ ทีวีเดี๋ยวนี้เลยมี Dynamic Tone Mapping Algorithm เป็นของตัวเอง (แต่ละแบรนด์ใช้ชื่อไม่เหมือนกัน)
- ตัวทีวีจะ bypass พวก metadata ไปเลย อาจจะไม่เชื่อข้อมูลในนั้นทั้งหมด หรือ เชื่อแค่บางส่วนก็ไม่รู้แล้วแต่แบรนด์จะทำ
- แล้วใช้วิธีคิดค่าการ tone mapping ออกมาเอง โดยวิเคราะห์จากภาพจากอะไรต่างๆนาๆแล้วแต่จะคิดออกมาได้ เพื่อแก้ปัญหานี้
- ข้อเสียคือ แต่ละแบรนด์มีวิธีคิดไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์มันก็เลยออกมาต่างกันตามแบรนด์ ไม่มีมาตรฐานกลาง ปวดหัวคนซื้อผู้บริโภคอีกตามเคย